Share

บทที่ 11 ข้อตกลง

last update Huling Na-update: 2025-05-02 15:20:45

หลี่รั่วหานลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้าของอีกวัน วันนี้เขามิต้องเข้าไปที่ค่ายทหารเนื่องจากเป็นวันหยุดพัก จึงคิดจะนอนต่ออีกสักหน่อย 

ตระกูลหลี่ของเขานั้น แม้ท่านพ่อจะเป็นถึงราชบุตรเขยของราชวงศ์ แต่เพราะมีใจซื่อสัตย์และรักชาติบ้านเมือง ต่อสู้เพื่อบ้านเมืองมาโดยตลอด จึงยังดำรงตำแหน่งท่านแม่ทัพใหญ่ได้อย่างสมเกียรติ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากเสด็จลุงเป็นอย่างมากอีกด้วย 

ในขณะที่เขากำลังจะล้มตัวลงนอนต่อ พลันก็ได้กลิ่นอาหารลอยโชยมาเตะจมูก กลิ่นหอมของเครื่องเทศทำให้ความอยากอาหารของเขามีมากขึ้นกว่าเดิม เดิมทีที่คิดว่าจะนอนต่ออีกสักหน่อย เขาจึงเปลี่ยนใจมุ่งหน้าไปที่โรงครัวทันที 

ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ใจของเขาสั่นระรัวอย่างแปลกประหลาด 

จ้าวไป๋ลู่ในยามนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอาหาร ใบหน้าสวยมีเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาเต็มใบหน้า ทรงผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นอย่างลวก ๆ ทุกท่วงท่าของนางงดงามและอ่อนช้อย จนเขาสัมผัสได้ว่ายามที่นางทำอาหารช่างน่ามองยิ่งนัก 

น่ามองกับผีน่ะสิ!!! 

แม้ในใจจะก่นด่านาง แต่ยามนี้เขาต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้ให้ลุล่วงเสียก่อน 

แสร้งทำดีให้นางตายใจ ท้ายที่สุดก็ค่อยไล่นางออกจากจวน หรือไม่ก็ส่งนางไปบวชชีเสีย ฮ่า ๆ!!! 

จ้าวไป๋ลู่รับรู้ว่ามีคนมอง นางจึงหันหน้ากลับมาก่อนจะพบกับหลี่รั่วหานที่ยืนพิงประตูโรงครัวอยู่ ยามนี้เขาปล่อยผมยาวสยาย สวมชุดสีดำที่เผยให้เห็นแผงอกล่ำสัน ใบหน้าหล่อเหลาที่ฉายแววง่วงงุนและเกียจคร้าน ทำให้นางรู้สึกวาบหวิวอย่างประหลาด 

หล่อระเบิดไปเลย!!! 

แต่เสียดายมีสุนัขอยู่ในปากเต็มไปหมด!!! 

"ซื่อจื่อไปรอที่โต๊ะอาหารเถิดเจ้าค่ะ อีกเดี๋ยวข้าก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ข้าจะรีบยกสำรับยามเช้าไปให้ท่าน" 

แม้ในใจจะนึกก่นด่าเขา แต่อย่างไรนางก็มิอาจลืมคำพูดที่มารดาเคยสั่งสอนเอาไว้ นางต้องทำหน้าที่ภรรยาให้ดีอย่าได้หลงลืมหน้าที่ของตน 

"ให้ข้าช่วยเจ้าดีหรือไม่?" 

เมื่อได้ยินหลี่รั่วหานเอ่ยเช่นนั้น จ้าวไป๋ลู่ก็ขมวดคิ้วมุ่น ความสงสัยในใจของนางมีเต็มไปหมด ร้อยวันพันปีเขาด่านางสารพัด เหตุใดเช้านี้จึงพูดจากับนางแปลกประหลาดไปจากเดิมเช่นนี้เล่า 

หลี่รั่วหานคล้ายจะเดาความในใจของนางออก เขาจึงเอ่ยขึ้นมาทันที 

"ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ต้องล้มป่วยลงเพราะเรื่องของข้ากับเจ้า เจ้าเองก็คงรู้ดี ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว ข้าย่อมเป็นสามีเจ้า เจ้าเองก็เป็นภรรยาของข้า มิสู้เรามาทำให้ท่านพ่อท่านแม่สบายใจไม่ดีกว่าหรือ ข้าเองก็จะยอมถอยให้เจ้าก้าวหนึ่ง" 

เมื่อได้ยินเขาเอ่ยเช่นนั้น จ้าวไป๋ลู่จึงไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา นางทำได้เพียงพยักหน้าเล็กน้อย 

สำรับยามเช้าในวันนี้ ทำให้หลี่รั่วหานเจริญอาหารไม่น้อย เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่านางจะมีฝีมือในการทำอาหารได้ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ 

จ้าวไป๋ลู่ที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขา 

"อาหารถูกปากหรือไม่เจ้าคะ" 

"ก็ดี อย่างน้อยก็กินกันตายได้" 

จ้าวไป๋ลู่ "..."

เมื่อรับสำรับยามเช้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองจึงไปคารวะองค์หญิงหงลี่ที่เรือนใหญ่ เมื่อเห็นว่าบุตรชายและลูกสะใภ้ดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี นางก็วางใจลงได้เป็นอย่างมาก 

"ไป๋ไป๋ คราก่อนที่เจ้าปักผ้าเช็ดหน้าลายดอกโบตั๋นให้แม่ แม่ชอบยิ่งนัก ยามที่สหายมาเยี่ยมเยือน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฝีมือการเย็บปักของเจ้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก" 

"ท่านแม่ชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าเพียงมีความรู้เล็กน้อยเท่านั้น" 

"เจ้าน่ะถ่อมตนเกินไปแล้ว" 

"หากท่านแม่ชอบ ไว้คราวหน้าลูกจะปักหมอนลายนกยวนยางให้ท่านแม่และท่านพ่อดีหรือไม่เจ้าคะ นกยวนยางเป็นสัญลักษณ์ของความรักมั่นคง ท่านแม่และท่านพ่อจะได้ครองคู่กันไปเนิ่นนาน อยู่เป็นที่พึ่งให้ข้าไปตลอดเจ้าค่ะ" 

"เจ้านี่ปากหวานยิ่งนัก เอาเถิดอย่าเร่งรีบนักเลย สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการรีบมีทายาท ข้าน่ะอยากจะอุ้มหลานโดยเร็วแล้วคิกคิก" 

จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เพียงยิ้มเล็กน้อย ด้านหลี่รั่วหานลอบส่งเสียงเหอะในลำคอคราหนึ่ง 

ที่แท้เพราะนางเสแสร้งออดอ้อนเอาใจท่านแม่เก่งนี่เอง ท่านแม่จึงเอ็นดูนางถึงเพียงนี้!!! 

ช่างเป็นสตรีที่เล่ห์เหลี่ยมร้ายกาจไม่เบา!!! 

มีลูกหรือ!!! หึ!!! ใครจะอยากมีลูกกับสตรีเช่นนี้กัน!!!

เมื่อออกมาจากเรือนใหญ่แล้ว หลี่รั่วหานก็พาจ้าวไป๋ลู่นั่งรถม้าออกจากจวน มุ่งหน้าไปที่ตลาดในเมืองหลวงทันที เขาบอกว่าจะพานางออกมาเที่ยวชมตลาด เพราะคิดว่านางคงจะเหงายามที่ต้องอยู่แต่ในจวน 

จ้าวไป๋ลู่ปรายตามองเขาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา 

"ที่ท่านทำดีกับข้า ก็เพื่อหวังที่จะโน้มน้าวท่านแม่ให้ยอมแต่งคนรักของท่านเข้าจวนใช่หรือไม่เจ้าคะ" 

หลี่รั่วหานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับนาง 

"อย่าเอ่ยวาจาเหลวไหล หนิงเสวี่ยนางมิยอมตกเป็นภรรยารองของข้าหรอก เจ้าหยุดเอ่ยเช่นนี้เสีย" 

"ใจท่านมีสตรีที่รักอยู่แล้ว เรื่องนี้ข้ารู้ดีเจ้าค่ะ เอาเถิด ละครฉากนี้ข้าจะร่วมเล่นกับท่านสักครา ไว้ท่านกับคนรักของท่านสมหวังกันเมื่อใด ข้าจะหย่ากับท่านเสีย ท่านจะได้มิต้องทนอยู่กับข้า เพราะข้าเองก็มิอาจทนอยู่กับบุรุษที่ไม่ได้มีใจรักใคร่ต่อข้าเช่นกัน" 

คำพูดของจ้าวไป๋ลู่ทำให้หลี่รั่วหานรู้สึกแปลกประหลาด เดิมทีนี่มิได้อยู่ในแผนการของเขา เขาคิดเอาไว้ว่านางจะต้องโง่งม หลงเชื่อเขาสิ!!! 

เหตุใดจึงกลายเป็นนางรู้ทันความคิดของเขาเช่นนี้กันเล่า!!!

จ้าวไป๋ลู่ที่เห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาทันที 

"ฮ่า ๆ ๆ ท่านคิดว่าข้าโง่หรือ ข้าน่ะฉลาดจะตายไป เอาเถิด ข้าจะช่วยให้ท่านสมหวังเอง ดีหรือไม่ พี่ชาย" 

"พี่ชายหรือ?" 

"อืม ระหว่างเราในเมื่อไร้ใจต่อกัน ก็อย่าเป็นศัตรูกันเลยจะดีกว่า ข้าน่ะชอบผูกมิตรกับผู้คน ขอเพียงท่านไม่หาเรื่องลำบากใจให้ข้า ข้าก็จะไม่กวนใจท่านเช่นกัน" 

หลี่รั่วหานจ้องมองไปในแววตาที่ไร้เดียงสาของนาง ฉับพลันในใจของเขาก็รู้สึกผิดวูบหนึ่ง แต่ความรู้สึกนี้ก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว 

"ตกลง ในเมื่อเจ้ายินดีช่วยเหลือ ข้าย่อมรับปากตามคำขอ เสร็จสิ้นเรื่องนี้เมื่อใด ข้าจะหย่าขาดจากเจ้า และปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระแน่นอน" 

"อืม" 

จ้าวไป๋ลู่ยิ้มตาหยี นางรู้สึกสบายใจอย่างแปลกประหลาดที่ได้เปิดใจคุยกับเขาเช่นนี้ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำดีต่อกันให้เหนื่อยใจ 

โดยที่นางไม่รู้เลยว่า คำพูดเหล่านี้จะย้อนกลับมาทำร้ายนางอย่างสาหัสในภายหลังเพียงใด

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทเสริม หนิงเสวี่ย

    หวังเจียหมิ่นเดินถือกล่องใส่อาหารไว้ในมือ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนวัดไป๋หม่า เขาทำเช่นนี้มาร่วมปี เขาเองก็เต็มใจทำโดยไม่เคยปริปากบ่นแม้เพียงน้อยเสียงกวาดพื้นดังมาเป็นระยะ หวังเจียหมิ่นจ้องมองสตรีตรงหน้าที่ยามนี้นางเกล้าผมอย่างเรียบร้อย สวมเพียงเสื้อผ้าธรรมดา กำลังถือไม้กวาดกวาดใบไม้อย่างตั้งใจนางคือหลี่หลานฮวา หรือก็คือ หนิงเสวี่ย นั่นเอง นางเสียสติอยู่ร่วมปี กว่าจะทำใจยอมรับเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้ มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ ที่นางจะยอมรับว่านางกับหลี่รั่วหานเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน และไม่ง่ายเลยกว่านางจะยอมรับว่าสตรีที่นางเกลียดชังนักหนา แท้จริงแล้วคือมารดาผู้ให้กำเนิดนาง แม้จะเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก แต่ในท้ายที่สุดนางก็ทำใจยอมรับมันได้ แม้จะต้องใช้เวลาบ้างก็ตาม นางอุทิศตัวให้พระโพธิสัตว์ ชาตินี้จะขอสร้างบุญเพื่อไถ่บาปกรรมที่นางเคยทำเอาไว้ทั้งหมด แม่ทัพใหญ่หลี่ องค์หญิงหงลี่และหลี่รั่วหานยังคงมาเยี่ยมนางอยู่เสมอ พวกเขายังคงพูดกับนางเหมือนเช่นทุกครา ว่ายังรอวันที่นางจะยินดีกลับจวนโหวอีกครั้ง ซึ่งนางเองก็ยังไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อใดนางรู้สึกผิดต่อทุกคน ด้วยความรู้สึกผิดในใจนางจึงเล

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 53 วิวาห์อีกครา (จบบริบูรณ์)

    จ้าวไป๋ลู่ยื่นน้ำตาลก้อนหนึ่งให้หลี่รั่วหานเพื่อให้เขาใช้แก้อาการแสบร้อนในปาก เขารีบยัดน้ำตาลก้อนนั้นเข้าปากทันที ยามนี้ปากของเขาบวมราวกับโดนฝูงผึ้งรุมต่อย สร้างความขบขันให้แก่นางไม่น้อย "หลี่รั่วหาน" "หืม" "ท่านพ่อท่านแม่ข้าบอกข้าว่า พวกเขาชอบท่านมาก" "จริงหรือ?" "จริงสิ แต่จะให้ข้ากลับเข้าจวนไปง่าย ๆ ก็คงจะไม่ดีเท่าใดนัก" "จ้าวไป๋ลู่ เรามาแต่งงานกันอีกรอบเถิด!!!" "ท่านว่าอย่างไรนะ" "ข้าจะแต่งงานกับเจ้าอีกรอบ เรามาแต่งงานกันเถอะ" "หลี่รั่วหาน ท่านแน่ใจแล้วหรือ ว่าจะแต่งกับข้าอีกครั้ง" "แน่ใจสิ""หากข้าไม่ได้อ่อนโยนเหมือนแต่ก่อนเล่า ไม่ใช่คนที่ท่านสามารถเอาเปรียบได้เช่นแต่ก่อนอีกเล่า" "ข้าก็ยังยืนยันที่จะแต่งกับเจ้าเช่นเดิม" "ท่านจะไม่โกหกข้า ไม่ทำร้ายข้าอีกครั้งใช่หรือไม่" "ข้าจะไม่มีวันทำให้เจ้ากับลูกเสียใจอีกเป็นอันขาด" "หากท่านผิดสัญญา ข้าจะไม่กลับไปหาท่านอีก" "ห้าปีที่ข้ารอเจ้า มันเป็นบทเรียนชั้นดีที่สอนข้าอย่างสาหัสแล้วจ้าวไป๋ลู่" "ตกลง เช่นนั้นข้าจะแต่งงานกับท่านอีกครา" "จริงหรือ เจ้าพูดจริงหรือ!!!" "หน้าข้าเหมือนคนโกหกหรือ?" "ก็ข้าคิดว่าเจ้า..." "หุบปาก!!!"

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 52 เอาใจครอบครัวภรรยา

    จวนตระกูลจ้าวหลี่รั่วหานมาตามที่ตกลงกับจ้าวไป๋ลู่เอาไว้ ยามนี้เขากำลังนั่งตัวเกร็งอยู่ที่ห้องโถงด้านในจวนตระกูลจ้าว อดทนกับสายตากดดันของจ้าวเยียน ฮูหยินหลิวอิ๋ง และจ้าวเฉียน ที่มองเขาด้วยแววตาที่เย็นเยียบแต่เพื่อนางกับลูกเขายอม จ้าวเยียนปรายตามองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา "ซื่อจื่อ ท่านแน่ใจแล้วหรือ ที่จะลดตัวลงมาหาพวกเรา" "แน่ใจขอรับ ข้าเต็มใจทำทุกสิ่งเพื่อจ้าวไป๋ลู่กับลูก" "ก็ดี ท่านทำอาหารเป็นหรือไม่ แม่ครัวเก่าเพิ่งจะลาออกไป ฮูหยินข้ากำลังอยากได้ลูกมือทำครัวอยู่พอดี" "ได้เลยขอรับ" ฮูหยินหลิวอิ๋งปรายตามองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดถึงจดหมายที่องค์หญิงหงลี่ส่งมาให้นาง ในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า จัดการให้หนัก! ยามนี้นางกับองค์หญิงหงลี่ปรับความเข้าใจกันด้วยดีแล้วหลี่รั่วหานเดินตามฮูหยินหลิวอิ๋งเข้ามาในโรงครัว ก่อนจะจ้องมองนางที่กำลังหยิบมีดคมขึ้นมาถือเอาไว้ ในใจของเขาก็รู้สึกเย็นวาบแปลก ๆ "มีดนี่คมมาก ข้าใช้มันหั่นเนื้อเป็นประจำ เป็นมีดประจำตัวของข้า เดิมทีข้าอยากส่งต่อมันให้กับจ้าวไป๋ลู่ ซื่อจื่อท่านรู้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าจึงอยากส่งต่อมีดนี้ให้บุตรสาวของข้า"

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 51 ตามง้ออีกครา

    ยามนี้เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในความสงบแล้ว ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเช่นเคย และมีเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ เซียวถงกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับสวีลั่วลั่ว ทั้งสองพบรักกันเมื่อหนึ่งปีก่อนจ้าวไป๋ลู่ยินดีกับทั้งสองเป็นอย่างมาก และนางดีใจที่เซียวถงจะมีสตรีที่ดีพร้อมมาคอยดูแลเสียที ส่วนนางเองก็ยังไม่ได้ใจอ่อนกับหลี่รั่วหาน แม้ว่าเขาจะพยายามตามง้อนางก็ตาม ยามนี้จ้าวหยางอายุได้สี่ขวบปีแล้ว เป็นวัยที่กำลังช่างพูดช่างคุย บางคราเขาตื่นมาชวนนางคุยกลางดึกก็เคยทำมาแล้ว วันนี้เป็นวันมงคลของเซียวถงและสวีลั่วลั่ว จ้าวไป๋ลู่พาจ้าวหยางไปร่วมงานในครานี้ด้วย งานเลี้ยงจัดอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างมาร่วมยินดีกับบ่าวสาวกันมากมายจ้าวไป๋ลู่มองดูเซียวถงกับสวีลั่วลั่วที่หยอกล้อกันตามประสาคู่แต่งงานก็เผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย งานแต่งของนางไม่เคยมีความทรงจำเหล่านี้อยู่เลยแม้แต่น้อย "ไป๋ไป๋" จ้าวไป๋ลู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพบหลี่รั่วหานที่เดินมาพร้อมกับหลัวเทียนเฉิน นางเพียงมองเขาแต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา "แม่นางไป๋ไป๋ ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครา" "ใต้เท้าหลัว" "อย่าเรียกบ่อย ข้ากลัวจะตกหลุมรักเจ้

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 50 เสียสติ

    เว่ยจิ่นซางหยิบยาพิษออกมาจากในอกเสื้ออีกขวดหนึ่ง ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาองค์หญิงหงลี่ช้า ๆ "ตายซะเถอะ ในที่สุดข้าก็ล้างแค้นได้สำเร็จสักที" ฉึก! ยังไม่ทันที่เว่ยจิ่นซางจะสังหารองค์หญิงหงลี่ได้สำเร็จ มีดเล่มหนึ่งก็แทงเข้ามาที่แผ่นหลังของนางทะลุมาที่หน้าท้อง เมื่อนางหันกลับไปช้า ๆ จึงได้พบว่าเป็นฝีมือของหนิงเสวี่ย "นะ!!! นังชั่ว นังเนรคุณ!!!" "ฮือออออ" หนิงเสวี่ยแทงมีดจนสุดด้าม ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งบนพื้นแล้วปิดหน้าร้องไห้โฮออกมาอย่างเจ็บปวดเว่ยจิ่นซางตกตายด้วยมีดเล่มนั้นของหนิงเสวี่ย"ท่านแม่!!!"ด้านนอกมีเสียงการต่อสู้ดังขึ้น ก่อนจะมีคนเปิดประตูพุ่งเข้ามา เป็นหลี่รั่วหานนั่นเอง เขามองสภาพศพของเว่ยจิ่นซางที่นอนตายอยู่บนพื้นดวงตาเบิกกว้าง ข้าง ๆ กันมีหนิงเสวี่ยที่นั่งร้องไห้อยู่ เขาไม่มีเวลาสนใจหนิงเสวี่ยมากนัก เขารีบวิ่งเข้าไปแก้มัดให้องค์หญิงหงลี่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาจ้าวไป๋ลู่และลูกที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ กัน"ไป๋ไป๋!!!" "นางสลบไม่ได้สติมาหลายชั่วยามแล้ว" เสียงของหลี่รั่วหานปลุกหนิงเสวี่ยให้ตื่นจากความสับสนและหวาดกลัวในจิตใจ นางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเขาช้า ๆ เมื่อเขาหันมาส

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 49 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    นางกรอกยาพิษทั้งที่มือก็สั่นไม่น้อย ยิ่งได้เห็นแววตาที่แข็งกระด้างขององค์หญิงหงลี่ที่มองมา มือนางก็สั่นมากยิ่งขึ้น จนทำยาพิษหกลงพื้นไปเสียดื้อ ๆ องค์หญิงหงลี่กินยาพิษนั้นไปไม่ถึงครึ่งขวดด้วยซ้ำ แต่นางก็กระอักโลหิตสีดำออกมาไม่น้อย เว่ยจิ่นซางที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะสะใจออกมาอย่างบ้าคลั่ง แปะ แปะ แปะ หนิงเสวี่ยกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะหันไปมองเว่ยจิ่นซาง "ท่านแม่" เว่ยจิ่นซางหันมามองหนิงเสวี่ยด้วยสายตาที่เย็นชา "ผู้ใดเป็นแม่เจ้ากัน?" "เอ๋? ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงเอ่ยวาจาเช่นนี้เจ้าคะ ข้าไม่เข้าใจ" เว่ยจิ่นซางปรายตามองหนิงเสวี่ยอย่างดูแคลน แววตาที่เคยมองนางประดุจลูกในไส้ แววตาที่อ่อนโยนเลือนหายไปจนหมดสิ้น ยามนี้มีเพียงความเกลียดชังเข้ามาแทนที่ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจ รอเวลานี้มานานเหลือเกิน นางรอจนกระทั่งถึงวันนี้!!! "ฮ่า ๆ ๆ ๆ การได้มองเห็นบุตรสาวกำลังฆ่ามารดาของตนเองกับมือ ช่างเป็นภาพที่งดงามเสียจริง ๆ" เว่ยจิ่นซางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข หนิงเสวี่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ด้านองค์หญิงหงลี่ที่ได้ยินเว่ยจิ่นซางเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา ใจของนางก็เต้นแรงอย่างบ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status