Share

บทที่ 222

Author: เบลล่า
จากนั้น... ฉันเริ่มตกอยู่ในภวังค์ จู่ๆ ก็รู้สึกสิ้นหวัง บางทีฉันควรจะกลับบ้าน ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัว ละทิ้งความแค้นต่อดีแลน ก่อนที่มันจะกัดกินฉันจนไม่เหลือซาก แต่ฉันมาไกลเกินไปแล้ว เข้าไปพัวพันกับโลกของเอสโปซิโต้มากเกินกว่าจะหายตัวไปเฉยๆ ในที่สุดดดีแลนก็ต้องรู้ว่าฉันหายไป และเขาจะตามล่าฉันอย่างไม่ลดละ ฉันไม่อยากให้เขารู้เรื่องไอเดน ฉันจะไม่ยอมให้ลูกชายตกอยู่ในอันตรายจากคนบ้าคนนั้น ไม่! ฉันมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับ ไม่ว่าความคิดที่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมจะเย้ายวนใจแค่ไหนก็ตาม

แต่ถึงแม้ฉันจะตัดสินใจกลับบ้านแล้วเขาออกตามหา อย่างน้อยฉันก็มั่นใจว่ามาร์คจะไม่มีวันปล่อยให้เขาหรือลูกน้องของเขาเข้าใกล้ฉันกับลูก มาร์คจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพวกเรา…

"งั้นเธอก็จะยอมแพ้ งั้นเหรอ?"

เสียงของใครบางคนที่ฉันไม่รู้จัก ทำให้ฉันสะดุ้ง ก่อนอื่นคือกลิ่นควันบุหรี่ที่ลอยมาตามระเบียง และทำให้ฉันคันยุบยิบในจมูก แต่คำพูดเยาะเย้ยนั้นทำให้หัวใจฉันเต้นแรง ฉันมองเบลล่าด้วยความตื่นตระหนก ก่อนที่เราทั้งคู่จะหันไปมองต้นตอของเสียง

เด็กสาวร่างบางแต่มีสัดส่วน โผล่ออกมาจากพุ่มไม้สูงที่ปลายระเบียง ริมฝีปากของเธอค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 223

    มุมมองของซิดนี่ย์เบลล่ากับฉันเงียบไปครู่หนึ่ง เพื่อทำความเข้าใจกับข้อมูลที่ได้รับ"น่าเศร้านะ..." ฉันได้ยินเบลล่าพึมพำ ในขณะเดียวกันฉันก็ถามว่า "แล้วเราจะทำยังไงดี? เราจะแก้แค้นดีแลน ในสิ่งที่มันทำกับเราและเธอได้ยังไง?""ก่อนอื่นเลย" เธอเดินเข้ามาใกล้ขณะที่สูบบุหรี่ และหลับตาลงพร้อมกับพ่นควันออกมาด้วยรอยยิ้ม จนฉันไอเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร ถ้าเธอจะร่วมมือกับเรา ก็เหมือนกับเบลล่า ต้องยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นหลังจากพ่นควันออก เธอก็พูดซ้ำ "ก่อนอื่นเลย ถ้าพวกคุณอยากแก้แค้น ฉันหมายถึง ถ้าอยากมีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้น" เธอมองเบลล่ากับฉัน ก่อนจะโน้มตัวเข้ามา ฉันเผลอโน้มตัวเข้าไปใกล้โดยอัตโนมัติ จากนั้นเธอก็กระซิบ "ก็เบาๆ หน่อย"ฉันกะพริบตานิ่งอึ้งยัยนี่กำลังล้อเล่นกับเราอยู่เหรอ?เธอหัวเราะเบาๆ "พวกคุณคงคาดหวังให้ฉันพูดอย่างอื่นใช่ไหม?" เธอหยุดหัวเราะ แล้วยักไหล่ "ก็ มันสำคัญนี่นา" เธอชี้ไปข้างหลัง "จุดที่ฉันสูบบุหรี่ ห่างจากตรงนี้ประมาณยี่สิบฟุตก็ยังได้ยินพวกคุณ" เธอส่งสายตาเตือนเบลล่า "คุณน่าจะรู้นะ ทาวอนจะเป็นยังไง ถ้าเขาได้ยินเรื่องนี้"ความกลัวฉายผ่านสีหน้าของเบลล่า แต่เธอไม่ได้พ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 224

    เบลล่าเฉลยออกมาก่อนพร้อมกับยักไหล่ "ตอนนี้ นอกจากอำนาจเด็ดขาดของทาวอนในฐานะเจ้าพ่อ ก็มีดีแลนกับแอ็กเซล"ฉันขมวดคิ้วมองเธอด้วยความสงสัยว่าแอ็กเซลคือใคร เธอจึงหันมาอธิบาย "แอ็กเซลเป็นลูกชายแท้ๆ และเป็นลูกชายคนเดียวของทาวอน เธอคงเดาได้ว่าแอ็กเซลไม่ลงรอยกับดีแลนซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของทาวอน พวกเขาทั้งคู่ ต่างก็อยากเป็นเจ้าพ่อคนต่อไป"สการ์เล็ตพยักหน้า ประทับใจกับคำตอบของเบลล่า "พวกคุณควรรู้ไว้ว่า ความขัดแย้งได้ทวีความรุนแรงขึ้นมาก ถึงขั้นที่พวกเขาอยากจะฆ่ากันเอง"ฉันส่ายหัวช้าๆ อ้าปากค้าง ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมดีแลนถึงคิดว่าการให้ฉันอยู่ข้างๆ ทาวอนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เขาต้องการให้ฉันสังเกตและสืบดูว่าทาวอนกำลังสนับสนุนใครให้เป็นเจ้าพ่อคนต่อไป ดิลันเคยบอกว่าเขาอยากเป็นเจ้าพ่อ ดังนั้นก็นับว่าสมเหตุสมผลแล้ว มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินอีกต่อไป แต่มันคืออำนาจที่จะควบคุมทุกสิ่งและทุกคนเอาไว้และตอนนี้ หญิงสาวต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากการแย่งชิงอำนาจนั้น เพื่อโค่นล้มดีแลน ความเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมในโลกมาเฟียทำให้ฉันรู้สึกทึ่งและหวั่นใจในเวลาเดียวกัน เส้นแบ่งระหว่างการแก้แค้นที่ชอบธรรม กับความโหดร้ายท

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 225

    มุมมองของซิดนีย์"แล้ว" เขาเลิกคิ้ว "เป็นไงบ้าง?"ฉันยักไหล่ก่อนจะเว้นตอบ "ไม่มีอะไรมาก"ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็หายไป แทนที่ด้วยรอยขมวดคิ้ว "ไม่มีอะไรมาก หมายความว่าไง? เล่ามาสิว่าเขาทำอะไรบ้าง ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน เขาไปเจอใคร? เขากินอะไร?..."เขารัวคำพูดไม่หยุด พลางนับนิ้วแจกแจงสิ่งที่ตัวเองอยากรู้"อะไรประมาณนั้นคุณก็รู้นี่" จากนั้นเขาก็หรี่ตา "เดี๋ยวก่อน ทำไมคุณถึงอ้ำอึ้ง?"ฉันยักไหล่ "เปล่านะ แค่ไม่มีอะไรจะรายงานจริงๆ" ฉันรู้สึกผิดนิดหน่อยที่แกล้งโง่ แต่ก็พยายามไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เกินไป ฉันจะเสี่ยงเปิดเผยตัวไม่ได้"แม้ว่าเขาจะขี้ คุณก็ต้องบอกผม ซิดนี่ย์!" เขาพูด ขบกรามแน่นอย่างสุดจะทน"ก็ได้ งั้นเขาก็ขี้ อาทิตย์นี้" ฉันพูดเบา ๆอดไม่ได้ที่จะพูดเล่น เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างเราฉันกลั้นหัวเราะกับคำตอบของตัวเอง แต่ก็หยุดทันที เมื่อเห็นสายตาและสีหน้าบึ้งตึงของเขา อ่า วันนี้เขาคงไม่อยู่ในอารมณ์ขัน ฉันเตือนตัวเองในใจว่าอย่าเล่นมุกอีกฉันเม้มปากแน่น ขอโทษด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด "ขอโทษ" ฉันเบะปาก เมื่อเขายังคงจ้องมองฉัน ก่อนจะลูบแขนของเขา "อย่าโกรธเลยนะ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 226

    "ฉันคิดถึงคุณ ถ้าคุณมาเยี่ยมทาวอนบ่อยๆ ก็จะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่เพียงแต่จะได้เจอฉัน..." ฉันมองเขาอย่างมีเลศนัย"แต่คุณยังจะได้เสริมสร้างตำแหน่งของตัวเองในใจทาวอน ในฐานะทายาท ด้วยการแสดงความมุ่งมั่นต่อครอบครัว"เขาส่ายหัวช้าๆ หันมาเผชิญหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"ไม่ล่ะ ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว ซิดนีย์ คุณได้ยินรายละเอียดอะไรบ้างไหม เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาคุยกันในการประชุมพวกนั้น?" เขาถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง ฉันแทบจะได้ยินเสียงเฟืองในหัวเขาหมุน ขณะที่เขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง"ไม่ค่อยนะ" ฉันตอบพร้อมกับส่ายหัว "พวกเขาพูดกันเบาๆ จนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ฉันคิดว่าทาวอนกำลังเริ่มถ่ายโอนอำนาจให้แอ็กเซล"ฉันยักไหล่ ขณะที่เขามองฉันอย่างระแวดระวัง "ฉันหมายถึง ทำไมเขาถึงเอาแต่อยู่แต่ในคฤหาสน์ ไม่ออกไปไหน? เดาได้ว่าแอ็กเซลกำลังดูแลงานต่างๆ แล้วกลับมารายงานทาวอน และรับคำสั่งจากเขาในทุกเย็น"ดวงตาของดีแลนเย็นชาลงฉันรู้ว่าต้องพยายามเอาใจเขา จึงรีบพูดเสริม "แต่อีกอย่าง มันอาจจะเป็นการทดสอบก็ได้นะ บางทีแอ็กเซลอาจจะแค่รับหน้าที่มากขึ้นชั่วคราว เพื่อให้ทาวอนประเมินว่าเขารับผิดชอบได้ดีแค่ไหน แล

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 227

    หลายวันต่อมามุมมองของซิดนีย์ฉันตื่นขึ้นมาในบ้านที่เงียบสงัด แม้คฤหาสน์แห่งนี้จะไม่ได้เสียงดังอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มักจะมีเสียงจอแจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเสียงทุ้มๆ แบบนักธุรกิจของทาวอน (ต่างจากเสียงที่เขาใช้ในห้องนั้น) กำลังคุยโทรศัพท์เรื่องงาน เสียงแส้หวด เสียงจานกระทบกันในครัว หรือเสียงพูดคุยและหัวเราะคิกคักของพนักงาน ขณะที่พวกเขาเม้าท์มอยและเล่นมุกตลกกันฉันคุ้นเคยกับคฤหาสน์ที่เงียบสงบ แต่ก็ไม่เงียบจนเกินไป ทว่าเช้านี้? คฤหาสน์เงียบสนิท หากมีเข็มตกลงพื้น สาบานได้เลยว่าเสียงสะท้อนจะดังไปทั่วคฤหาสน์ มันเงียบจนน่าขนลุก ราวกับว่าแม้แต่กำแพงก็กำลังกลั้นหายใจหลังจากลอบมองออกไปสองสามครั้ง เพื่อฟังบทสนทนา หรือหาคำใบ้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ยอมแพ้ แล้วไปอาบน้ำ น้ำร้อนช่วยบรรเทาความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ในใจฉันได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นฉันแต่งตัวลงไปทานอาหารเช้าคนเดียวตามปกติ เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน และเป็นเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบอันผิดปกตินี้ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นคนสุดท้ายบนโลกสการ์เล็ตเป็นคนเสิร์ฟอาหารเช้าให้ฉันการปรากฏตัวของเธอ เกือบจะทำให้ฉันตกใจในความเงียบที่น่าขน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 228

    มีความดูแคลนแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ ราวกับว่าความไม่เชื่อของฉัน เป็นเรื่องโง่เขลาที่ไร้เดียงสา"ไม่ใช่อย่างนั้น..." ฉันลากเสียงจบประโยคแน่นอน ฉันรู้ว่าดีแลนสามารถฆ่าแอ็กเซลได้ แต่ฉันแค่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ การฆาตรกรรมอย่างเลือดเย็นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การสังหารลูกชายของเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลอย่างอุกอาจเช่นนี้ มันทำให้ฉันงุนงงแอ็กเซลเป็นลูกชายแท้ ๆ ของเจ้าพ่อมาเฟีย น่าจะทั้งแข็งแกร่งและฉลาดกว่าไม่ใช่เหรอ?แต่แล้วเสียงเล็ก ๆ ในหัวของฉันก็ตอบกลับมา เขาไม่เคยต้องปลอมตัวเป็นคนอื่นอยู่ตั้งหลายปีหรือฆ่าคนมากมายเพื่อปกปิดความลับของเขานี่นาบางทีการหลอกลวงและชีวิตที่เปื้อนเลือดของดีแลน อาจทำให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับความโหดร้ายที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มากกว่าใช่ แต่แอ็กเซลเติบโตมาในโลกของมาเฟีย โลกที่เต็มไปด้วยอันตราย เขาควรจะรู้ดีว่าต้องมีคนตามล่าตัว เพราะเขาเป็นทายาทเจ้าพ่อเพียงคนเดียว นี่ดูสมเหตุสมผลที่สุดภายนอกที่ดูอ่อนโยนบางทีก็อาจหลอกตาได้ ดูอย่างดีแลนสิ ภายนอกดูอ่อนโยน แต่ภายนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต"ฉันว่าแอ็กเซลประมาทเกินไป" สการ์เล็ตพูดขัดความคิดในหัวของฉัน ควันบุหรี่ลอยออกจากปา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 229

    ฉันรู้ว่าใต้ความแข็งกร้าว ความประชดประชัน และท่าทางที่ดูไม่แยแสของสการ์เล็ตนั้น ยังมีความฉลาด ร่าเริง และใส่ใจซ่อนอยู่ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่เธอตกหลุมรักลุยจิผู้เจ้าชู้เข้าอย่างจังในตอนแรก ช่างน่าเศร้าที่ชายที่เธอรักอย่างบ้าคลั่งต้องถูกฆ่าตายช่วงเวลาที่สงบสุขของเราถูกทำลายลงด้วยเสียงเครื่องยนต์ของรถทาวอนที่แล่นเข้ามาในเขตบ้าน ล้อรถบดกับกรวดดังลั่นฉันกับสการ์เล็ตต่างสะดุ้งเฮือกทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นเธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและดับบุหรี่ในมือทันควัน“ฉันต้องกลับไปประจำตำแหน่งแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ความผ่อนคลายที่เคยมีหายไปจากเสียงของเธอทันที แทบไม่เหลือแม้แต่การเหลียวหลังกลับมา เธอเดินจากไป ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวบนระเบียงฉันถอนหายใจหนักๆ และลุกขึ้น เดินเข้าไปในบ้านเพื่อต้อนรับทาวอนกลับมา และบางทีอาจแสดงความเสียใจอีกครั้งสำหรับการสูญเสียที่น่าเศร้าของเขา แม้ว่ามันจะรู้สึกกระอักกระอ่วนในสถานการณ์นี้ก็ตามเมื่อประตูเปิด เบลล่ากับทาวอนเดินเข้ามา ฉันมองดูเบลล่า นิ้วมือของเธอประสานแน่นกับทาวอน ในขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้ทุกประโยคที่ฉันซ้อมมาหลุดหายไปหมดจากหัว และฉันก็ยืนอยู

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 230

    มุมมองของซิดนีย์สการ์เล็ตไม่บอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนของเรา แม้ว่าเจ้าพ่อทาวอนจะตัดสินใจไว้ชีวิตดีแลนก็ตาม ฉันไม่รู้ว่าเบลล่ารู้เรื่องนี้หรือยัง แม้อยากจะถามเธอ แต่เธอไม่ได้อยู่แถวนี้เพราะมัวแต่ปลอบใจคนรักของเธอไม่รอช้า ฉันเตรียมตัวและรีบออกจากคฤหาสน์ทันที อันที่จริง ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะไปบ้านของดีแลนได้อย่างไร ฉันไม่มีทั้งวิธีการสื่อสารหรือพาหนะที่จะไป ฉันยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า พลางคิดว่าจะทำอย่างไรดี…โชคดีที่ชายคนหนึ่งในกลุ่มลูกน้องของทาวอนเดินเข้ามาหา เขาชี้ไปที่รถคันหรูด้วยรอยยิ้มที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี"เจ้าพ่อให้ผมพาคุณไปที่คฤหาสน์ของคุณลูคัสครับ"โอ้ เยี่ยมไปเลย!"ได้ค่ะ ขอบคุณมาก" ฉันยิ้มตอบกลับอย่างสดใส ก่อนจะเดินตามเขาไปขึ้นรถเขาขับพาฉันมาที่บ้านของดีแลน ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ประตูก็เปิดออกและรถถูกอนุญาตให้ขับเข้าไปได้ในบริเวณบ้าน มีลูกน้องของดีแลนหลายคนยืนอยู่ เป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก ปกติพวกเขามักจะอยู่ลับสายตา แต่วันนี้ ฉันสามารถมองเห็นพวกเขาผ่านกระจกรถที่ติดฟิล์มทึบได้ บางคนยืนเฝ้าระวังอย่างตั้งใจ ขณะที่บางคนก็ยืนคุยกันอย่างเกร็งๆ และหัวเราะออกมาแบบฝืนๆ

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status