Share

หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง
หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง
Penulis: ลมใต้รู้ใจ

บทที่ 1

Penulis: ลมใต้รู้ใจ
“เซ็นชื่อเถอะ”

เหนือศีรษะมีเสียงทุ้มต่ำเย็นชาดังขึ้น พร้อมกับเอกสารหย่าถูกยื่นมาตรงหน้า ซูย่างชะงักเล็กน้อย ก่อนเงยหน้ามองฝู่เฉินซีด้วยความเงียบงัน พลางเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เช้าวันนี้เขาถึงกับโทรมาบอกอย่างไม่เคยมีมาก่อนว่าจะกลับมาค่ำนี้ เพราะมีเรื่องอยากจะคุยเธอ

เธอดีใจมาตลอดทั้งวัน ที่แท้เรื่องที่เขาจะพูดกลับกลายเป็นเรื่องนี้เอง…

สามปีของการแต่งงาน สุดท้ายก็มาถึงจุดสิ้นสุดจนได้

ซูย่างรับเอกสารหย่าไว้อย่างเงียบงัน มือกำแน่นเล็กน้อย นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“จำเป็นต้องหย่าจริง ๆ เหรอ?”

ฝู่เฉินซีขมวดคิ้ว มองหญิงสาวตรงหน้าที่เป็นคุณนายฝู่มานานสามปี

ดูเหมือนว่าเพิ่งจะจัดห้องเสร็จใหม่ ๆ ตรงขมับขาวเนียนยังมีเหงื่อเกาะอยู่ ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความเลื่อนลอยที่เห็นได้ชัด ใบหน้าซีดเซียวไร้สีสันยังประดับด้วยแว่นหนาเตอะ

ดูเผิน ๆ อ่อนโยน เรียบง่าย แต่ไร้เสน่ห์น่าสนใจ

ก็ผู้หญิงธรรมดาเชื่องช้าเช่นนี้แหละ ที่เป็นคุณนายฝู่มานานถึงสามปี

ฝู่เฉินซีค่อย ๆ ถอนสายตากลับมา บดบุหรี่ในมือทิ้ง เสียงที่เอื้อนเอ่ยแม้จะราบเรียบ แต่กลับแฝงด้วยอำนาจกดดันที่ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธได้ “เซ็นเถอะ... เธอกลับมาแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด”

ซูย่างชะงักเล็กน้อย ปลายลิ้นขมขึ้นมา เธอรู้ดีว่า ผู้หญิงที่ฝู่เฉินซีกล่าวถึงนั้นคือใคร

กู้อี่หนิง รักแรกที่เปรียบเสมือนดวงใจของฝู่เฉินซี

เพราะเธอทำให้ชีวิตสมรสของทั้งคู่มีแต่เพียงในนามไร้ความจริงตลอดสามปี ฝู่เฉินซีถึงกับรักษาตัวไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ใด เพื่อเธอเพียงคนเดียว

เหมือนกลัวว่าเธอจะไม่ยอมตกลง ฝู่เฉินซีจึงมองเธอแล้วเอ่ยเสริมด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เราหย่าตามข้อตกลงกันอยู่แล้ว วุฒิการศึกษาของเธอก็ไม่ได้สูงนัก หลังหย่า บ้านไม่กี่หลังนั้นกับรถจะตกเป็นของเธอทั้งหมด นอกจากนี้ฉันจะชดเชยให้เธออีกสี่ร้อยล้านบาท”

แต่แรกนั้น ทั้งสองแต่งงานกันก็เพื่อเอาใจคุณปู่เท่านั้น จึงได้ทำสัญญาแบ่งแยกทรัพย์สินก่อนสมรสไว้ด้วย สิ่งที่ฝู่เฉินซีจะมอบให้เธอนั้นมากเกินกว่าที่เธอควรได้รับเสียอีก

แม้ฝู่เฉินซีจะไม่ได้ชอบเธอ แต่ตลอดสามปีนี้ซูย่างก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่ สิ่งที่ให้เกินมานั้นก็เพื่อชดเชยความเหนื่อยยากตลอดหลายปีของเธอ อีกทั้งผู้หญิงอย่างซูย่างที่จบแค่มัธยมปลาย เมื่อหย่าแล้วก็ย่อมต้องการเงินไว้เลี้ยงตัวจริง ๆ

ซูย่างเข้าใจความหมายของเขา พลิกดูเอกสารหย่าจนครบ ก่อนจะก้มตาลงแล้วพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ตกลง ฉันยอมก็ได้”

เธอหยิบปากกาขึ้นมา เซ็นชื่อของตัวเองลงไปอย่างฉับไวไม่ลังเล จากนั้นเงยหน้ามองฝู่เฉินซี แววตาที่ซ่อนอยู่หลังเลนส์หนา ยากจะบอกได้ว่าเป็นความขมขื่นหรือความไม่ยอมจำนน

“ไม่ต้องห่วง ภายในสองวันนี้ฉันจะย้ายออกไปเอง จะไม่รบกวนพวกคุณหรอก”

ฝู่เฉินซีพยักหน้าเล็กน้อย “ตลอดสามปีที่ผ่านมา ลำบากเธอแล้ว”

ต่อให้ผู้หญิงตรงหน้าจะจืดชืดแค่ไหน จะทื่อหรือธรรมดาสักเพียงใด เขาก็ยังต้องยอมรับว่าซูย่างเป็นภรรยาที่ดีสมบูรณ์แบบ

ต่อให้ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้จะไร้เสน่ห์ น่าเบื่อ และธรรมดาสักเพียงใด เขาก็ยังต้องยอมรับว่าซูย่างเป็นภรรยาที่ดีสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอทุ่มเทดูแลทุกคนในตระกูลฝู่ ขณะที่เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับธุรกิจ แต่เพราะมีเธออยู่ เขาจึงสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร้กังวล

เพียงแต่…สุดท้ายแล้วก็ฝืนกันไปไม่ได้

แต่ซูย่างกลับรู้สึกขำนัก ที่ทุ่มเทเพื่อฝู่เฉินซีมามากมาย สูญเสียวัยสาวไปถึงสามปี สุดท้ายสิ่งที่ได้รับกลับมาก็มีเพียงคำพูดว่า “ลำบากเธอแล้ว”

ฝู่เฉินซีไม่ได้สังเกตเห็นรอยยิ้มในดวงตาของเธอ เขารับเอาใบหย่าที่เซ็นเสร็จแล้วมาเก็บไว้ ระหว่างนั้นผู้ช่วยก็โทรเข้ามา เขาเหลือบมองซูย่างเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงเรียบว่า “ที่บริษัทฉันยังมีงานต้องจัดการ ถ้ามีอะไรต้องการให้ช่วยก็ให้ป้าหวังช่วยเธอ”

ซูย่างพยักหน้า

ฝู่เฉินซีเดินออกมาจากห้องทำงาน แม่ฝู่ที่อยู่ในห้องรับแขกก็รีบตรงเข้ามาหาด้วยความกังวล

“เป็นยังไงบ้าง เธอยอมเซ็นไหม?”

ฝู่เฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตามมา

แม่ฝู่ถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะพยักหน้าอย่างยินดี “เซ็นแล้วก็ดีแล้ว เซ็นแล้วก็ดีตลอด ที่ผ่านมาหลายปีที่ลูกแต่งกับเธอ แม่ก็ไม่เคยรู้สึกสบายใจเลย อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่แต่งมาแล้วตั้งสามปียังไม่มีลูกสักคน อีกทั้งวัน ๆ ก็เอาแต่เงียบ ไม่พูดไม่จา ใครจะรู้ว่าเธอคิดร้ายอะไรอยู่หรือเปล่า”

ฝู่เฉินซีไม่ได้พูดอะไร

แม่ฝู่ถอนหายใจ ก่อนพูดต่อว่า “ตั้งแต่ก่อนที่คุณพ่อจะบังคับให้ลูกแต่งกับเธอ แม่ก็ไม่เห็นด้วยแล้ว เด็กกำพร้าที่พ่อแม่ตายหมด ต้องไปอาศัยอยู่กับตระกูลหลิน จะมีอะไรดีได้ ตอนนี้ก็ดีแล้ว ลูกหย่ากับเธอเรียบร้อย พอได้แต่งงานกับอี่หนิง แม่ก็จะวางใจได้เสียที มีเพียงสะใภ้อย่างอี่หนิงเท่านั้นแหละ ที่คู่ควรกับลูก”

ฝู่หยาฮุ่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้าด้วยความดีใจ “นั่นสิ พี่ มีพี่สะใภ้อย่างนั้น ฉันยังอายแทนเลย แต่ตอนนี้ดีแล้ว ถ้าพี่อี่หนิงได้มาเป็นพี่สะใภ้ของฉัน ไม่รู้จะมีคนอิจฉาสักเท่าไหร่”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง   บทที่ 100

    “ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาล กินยาแก้ปวดนิดหน่อยก็หายแล้ว” ซูย่างพึมพำเบา ๆมือที่จับพวงมาลัยของหรงอวี้กำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว “เป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ เจ็บมากขนาดนั้นตลอดเลยไหม?”“ปกติไม่เป็นค่ะ แค่วันนี้ดื่มเบียร์เย็นไปขวดหนึ่ง”“จำไม่ได้เหรอ?” น้ำเสียงของหรงอวี้ฟังดูทุ้มต่ำและขรึมซูย่างชะงักไปเล็กน้อย “จำได้ แค่ตอนนั้นเผลอสนุกเกินไปเลยลืมตัว”รถจอดอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ตอนกลางดึกแบบนี้ไม่มีคิวลงทะเบียน มีเพียงหมอเวรและแพทย์ฉุกเฉินเท่านั้นที่อยู่ประจำโชคดีที่คืนนี้มีหมอเวรจากแผนกนรีเวชอยู่ หมอจึงสั่งยาสมุนไพรจีนพร้อมทั้งยาแก้ปวดให้“จำไว้นะ ยาจีนให้ดื่มวันละหนึ่งครั้ง ต้องดื่มให้ครบทุกครั้งด้วย”ซูย่างพยักหน้า “รู้แล้วค่ะ”ที่จริงเธออยากจะบอกว่าไม่เห็นต้องทำให้เรื่องใหญ่เลย ปกติเธอไม่เคยปวดมากขนาดนี้ แค่วันนี้เผลอลืมตัวดื่มเหล้าไปขวดเดียวเท่านั้นเองเมื่อกลับขึ้นรถอีกครั้ง สีหน้าของหรงอวี้ดูเคร่งขรึมขึ้น เขาขับรถมาจอดที่หน้าตึกคอนโด ก่อนจะถือถุงยาเดินขึ้นลิฟต์ไปด้วยกันซูย่างชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบตามเขาขึ้นไปทันทีพอมาถึงหน้าห้อง ซูย่างก็เปิดประตูแล้วพูดว่า “คุณหรง ดึกมากแล้

  • หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง   บทที่ 99

    ก่อนวันแข่งขันหนึ่งวัน ซูย่างยังคงยุ่งอยู่กับงานต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยเธอทำงานร่วมกับคนจากฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายวางแผนในการจัดเตรียมตกแต่งหอประชุม แม้แต่ศาสตราจารย์เวินเองก็ยังไม่วางใจ อยู่ช่วยดูจนดึก“ข้อสอบสำหรับการแข่งขันจัดเตรียมไว้เรียบร้อยหรือยัง?” ศาสตราจารย์เวินถามซูย่างพยักหน้า “เก็บไว้ในตู้เซฟที่ห้องให้คำปรึกษาเรียบร้อยแล้วค่ะ กุญแจตู้เซฟมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น”ศาสตราจารย์เวินพยักหน้า “งั้นก็ดีแล้ว”หลังจากศาสตราจารย์เวินกลับไปแล้ว ซูย่างก็ยังไม่วางใจ จึงตรวจเช็กอุปกรณ์ต่าง ๆ ในหอประชุมอีกครั้งหลังจากทุกอย่างเตรียมเรียบร้อยก็เป็นเวลาห้าทุ่มครึ่ง ซูย่างถอนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ขอแค่การแข่งขันในวันพรุ่งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ความเหนื่อยทั้งหมดก็ถือว่าคุ้มค่าเธอกลับไปที่ห้องให้คำปรึกษาเก็บของ ยังไม่ทันออกจากห้องก็ได้รับโทรศัพท์จากหรงอิน “อินอิน?”เสียงของหรงอินดังมาทางสายด้วยความเป็นห่วง “พี่ซูย่าง ทำไมยังไม่กลับบ้านอีกเหรอคะ?”“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันเก็บของเรียบร้อยแล้ว กำลังจะกลับบ้าน เดี๋ยวนี้ก็ดึกมากแล้ว เธอรีบเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปแข่งอีก” เ

  • หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง   บทที่ 98

    “ใครบอกว่าฉันจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันความรู้ด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยคุณล่ะ?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาซูย่างเบิกตากว้าง หันขวับไปด้วยความตกตะลึงประตูห้องทำงานของอธิการบดีถูกผลักเปิดออก หลินจิ่นเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยของเธอฝู่หยาฮุ่ยมองคนที่เข้ามาด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา “หลิน... หลินจิ่น!”หลินจิ่นเมินพวกเธอไปโดยสิ้นเชิง แล้วจับมือทักทายกับอธิการบดีหลิน “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลินจิ่น”“อาจารย์ มาที่นี่ได้ยังไงคะ?” ซูย่างมองเธออย่างตะลึง“เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ” หลินจิ่นหันไปมองแม่ฝู่แล้วพูดว่า “คุณนายท่านนี้ ตอนนี้ฉันยืนยันได้แล้วว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ในฐานะกรรมการ แบบนี้คงไม่นับว่าเป็นความผิดพลาดอีกแล้วใช่ไหมคะ?”สีหน้าของแม่ฝู่หม่นลงทันที เธอหันมาสบตากับฝู่หยาฮุ่ย หลินจิ่นยอมตกลงได้ยังไงกัน?หรือว่าเป็นคุณชายสามหรงที่อยู่เบื้องหลังช่วยเธออีกแล้ว?“คุณหลิน ตกลงว่าคุณยอมมาร่วมเป็นกรรมการการแข่งขันจริง ๆ เหรอ?” อธิการบดีหลินถามขึ้นหลินจิ่นพยักหน้า “อืม ตอนนี้ยืนยันได้แน่นอนแล้วค่ะ”“เป็นไปได้ยังไง? คุณบอกว่าไม่มีเวลาไม่ใช่เหรอ? วันนั้นพี่ชายฉันก็ถามคุณไปแ

  • หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง   บทที่ 97

    น่าจะเป็นนักบำบัดทางจิตที่คุณหรงหามาให้หรงอิน ผู้หญิงคนเดียวกันกับที่รอเธออยู่ตรงเคาน์เตอร์โรงแรมเมื่อครู่นี้ท้ายเอกสารมีตารางกำหนดการของการแข่งขันความรู้ด้านจิตวิทยาแนบมาด้วย พร้อมทั้งหัวข้อของบทอภิปรายเธอคิดในใจ บางทีเธอควรลองเปิดใจทำความรู้จักกับนักศึกษาในยุคใหม่นี้ดูบ้าง เผื่อจะได้เห็นความน่าประทับใจบางอย่างจากคนรุ่นใหม่นี้หลังจากซูย่างกลับถึงบ้าน ก็นั่งเหม่อมองออกไปทางหน้าต่างเธอคิดว่าหลินจิ่นพูดถูกแล้ว หลินจิ่นเคยศึกษาต่อในต่างประเทศมาหลายปี เข้าร่วมโครงการวิจัยด้านจิตวิทยามากมาย และมีแนวทางการศึกษาวิจัยที่โดดเด่นไม่เหมือนใครการที่เธอกลับมาประเทศครั้งนี้ การจัดเสวนาไม่เพียงเพื่อช่วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านจิตวิทยาในเมืองหนานเฉิงแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ยังเป็นการวิเคราะห์กรณีศึกษาทางจิตวิทยาพิเศษอีกด้วย เวลาของเธอจึงมีค่ามากถ้าเธอสามารถยอมแลกด้วยสิ่งที่มีค่ามากกว่านั้น บางทีก็อาจจะสามารถโน้มน้าวให้หลินจิ่นมาร่วมการแข่งขันได้แต่เธอไม่มีสิ่งนั้น ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงยอมตัดใจวันต่อมา เธอไปที่ห้องทำงานของอธิการบดีทันที “อธิการบดี ขอโทษค่ะ อาจารย์หลินจิ่นไม่สาม

  • หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง   บทที่ 96

    หลินจิ่นยิ้มอย่างจนใจแล้วพูดว่า “คุณซู ฉันคิดว่าฉันพูดชัดเจนแล้วนะคะ ฉันไม่มีเวลา และจะไม่ไปร่วมงานการแข่งขันค่ะ”ผู้ช่วยยืนขวางซูย่างไว้ พลางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “คุณผู้หญิงคะ เวลาที่อาจารย์หลินกลับมาประเทศครั้งนี้มีจำกัด ทุกกิจกรรมของเธอถูกจัดตารางไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนเวลาเพื่อไปร่วมการแข่งขันที่คุณพูดถึงได้ค่ะ”“อาจารย์ได้ดูเอกสารที่ฉันให้ไปหรือยังคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความคาดหวังหลินจิ่นไม่คิดว่าเธอจะยืนกรานถึงเพียงนี้ จึงพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันดูเอกสารพวกนั้นหมดแล้ว ต้องบอกเลยว่านักศึกษามหาวิทยาลัยเอเก่งจริง ๆ มีหลายมุมมองที่น่าสนใจมาก”เธอกะพริบตาเล็กน้อย “คืออย่างนี้ค่ะคุณซู ฉันไม่คิดว่าเอกสารพวกนั้นจะมีน้ำหนักมากพอให้ฉันเปลี่ยนตารางเวลาของตัวเองได้”“การที่ฉันกลับมาครั้งนี้ ก็เพื่อร่วมประชุมเสวนากับผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในเมืองหนานเฉิง เพื่อแลกเปลี่ยนและหาทางแก้ไขปัญหาทางจิตใจแต่ละประเด็น ซึ่งทุกคำถามที่ได้รับการแก้ไขได้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตใจเหมือนกันกับพวกเขา ฉันเร่งทำทุกอย่างไม่ใช่เพราะเงินหรือผลประโยชน์อะไร แต่เพราะอ

  • หย่าครั้งนั้น ฉันเกิดใหม่ในเส้นทางของตัวเอง   บทที่ 95

    “อาจารย์ซูย่าง เรื่องนี้สำคัญมากนะ ถ้าอย่างนั้นคุณลองไปสืบข่าวดูก่อนดีไหม ยังเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนการแข่งขัน” อธิการบดีหลินพูดด้วยท่าทางลังเล ถึงเขาจะเป็นอธิการบดี แต่คณะกรรมการบริหารก็มีอำนาจเหนือกว่า“ทราบแล้วค่ะ อธิการบดี”ซูย่างสีหน้าเคร่งเครียด ตระกูลฝู่เล่นงานเธอได้แยบยลจริง ๆ ครั้งนี้ถึงกับผลักเธอให้ตกไปอยู่ในกระแสพายุเต็มตัวหลังจากออกจากห้องทำงานของอธิการบดี เธอก็ตรงไปที่ห้องให้คำปรึกษาทางจิต ที่นั่นมีหรงอินรออยู่แล้ว“พี่ซูย่าง ฉันรู้เรื่องหมดแล้วนะ ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?”ซูย่างยิ้มขมขื่นแล้วพูดว่า “คงทำได้แค่พยายามติดต่ออาจารย์หลินจิ่นอีกครั้งเท่านั้น”ในเอกสารที่เธอมอบให้หลินจิ่นนั้น ยังแทรกบทความวิจัยของตัวเธอเองไว้ด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับทิศทางงานวิจัยล่าสุดของหลินจิ่นแต่ถ้าหลินจิ่นไม่ได้เห็นล่ะ?บ่ายสามโมงฝู่หยาฮุ่ยมองการถกเถียงอย่างคึกคักในเว็บบอร์ดด้วยความพึงพอใจ เธอสลับใช้บัญชีเล็กหลายบัญชี ปั่นกระแสอย่างบ้าคลั่ง เพื่อทำให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าอาจารย์หลินจิ่นจะต้องมาจริง ๆที่ห้องข้าง ๆ กู้อวี่หนิงค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่งออกมาจากใต้หมอนอย่างระมั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status