Share

๓ ประชดประชัน

last update Last Updated: 2025-06-23 21:53:49

“มารดามันเถอะ! เซี่ยเว่ยหลง”

พอได้ยินประโยคนั้นแล้ว จางเหวินตวาดดังลั่นพลางสูดลมหายใจลึกคล้ายกับกำลังตั้งสติและระงับโทสะที่เดือดพล่านอยู่ในอก  สายตาคมกริบหรี่มองเซี่ยเว่ยหลงด้วยความไม่พอใจ “นางคือภรรยาของเจ้า…หาใช่สิ่งของที่จะชั่งน้ำหนักหากำไรหรือขาดทุน!”

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ จางเหวินคิดว่าอยากจะจับมือคนผู้นี้ขึ้นมาเขียนหนังสือหย่าและลงนามให้รู้แล้วรู้รอดจริงๆ

หากหลานชายของเขาต้องเติบโตโดยไร้บิดา…ก็ช่างมันเถิด!

บุรุษเช่นนี้…หากไม่ให้เกียรติต่อภรรยาได้ก็อยู่ผู้เดียวไปตลอดชีวิตจนผมขาวโพลนเถอะ!

“…” เซี่ยเว่ยหลงเงียบไม่เอื้อนเอ่ยคำใด สายตาคมกริบดูลุ่มลึกคล้ายกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่

หลายปีมานี้ เซี่ยเว่ยหลงยอมรับว่า เขามิได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อไป๋เสี่ยวหรัน นางเป็นเพียงภาระที่เขาต้องแบกรับไว้ด้วยความจำยอมเพราะความปรารถนาของมารดา

แม้ว่านางสงบเสงี่ยม อ่อนน้อมและไม่เคยแม้แต่จะโต้แย้ง คำพูดจากปากเขาสิบประโยคแต่นางตอบกลับเพียงหนึ่งเท่านั้น

แต่ไฉน วันนั้นกลับกล้าถึงขั้นเอ่ยปากขอหย่ากัน…!?

พอเห็นบุรุษตรงหน้านิ่งไป คล้ายกับว่ากระตุ้นโทสะในอกของจางเหวินให้ปะทุขึ้นมา แม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องของเขาแต่เป็นเรื่องของผู้อื่นแล้วอย่างไรทว่าเขากลับรู้สึกไม่เห็นด้วย!

“เซี่ยเว่ยหลง…เจ้ากับนางนั้นตั้งแต่แรกก็ไร้วาสนา หากยังฝืนฝ่าดันทุรังต่อไปเช่นนี้ เกรงว่าไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องบาดเจ็บเจียนตายแน่!”

ความหมายของเขาคือยอมหย่าไปเสียเถอะ!

ทว่าคำเตือนจากจางเหวินกลับถูกกลบเกลี่ยหายไปด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก “หึ! ไร้วาสนาอย่างนั้นรึ” เซี่ยเว่ยหลงค่อยๆ คลี่ยิ้มอย่างเย้ยหยัน มองดูแล้วน่าหวาดกลัวจนขนลุกซู่ไม่น้อย “ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา…ข้าก็ไม่สน ขอเพียงรั้งนางไว้ข้างกายได้ก็พอแล้ว!”

!!!

“มารดามันเถอะ! หากมิได้รู้สึกอันใดก็ปล่อยให้นางไปเจอบุรุษที่ดีกว่านี้เสีย” จางเหวินสบถออกมาอย่างเหลืออด

“ใต้หล้านี้ยังจะมีบุรุษใดดีกว่าข้ากัน” มีหรือเซี่ยเว่ยหลงจะยินยอมปล่อยไปง่ายๆ เขาสวนตอบกลับไปทันที

 

 

 

หลายวันผ่านไป…

คล้ายกับว่าจวนสกุลเซี่ยจะประสบเข้ากับพายุฝนห่าใหญ่ แม้ว่าท้องฟ้าข้างนอกจะแจ่มใสไร้เมฆฝนตั้งเค้าแต่ภายในจวนนั้น…กลับเต็มไปด้วยความอึมครึมคล้ายกับมีกลุ่มม่านหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา เดิมทีบรรยากาศภายในจวนก็เงียบงันจนอึดอัดอยู่ไม่น้อยแต่ตอนนี้สถานการณ์กลับย่ำแย่ลงไปอีก

เกรงว่าคงเป็นเพราะข่าวลือเรื่องที่ฮูหยินเอ่ยปากขอหย่ากับนายท่านเซี่ยกระมัง

ยามนี้ข่าวลือได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งจวนดั่งคลื่นน้ำที่สาดซัดเข้าฝั่งไม่หยุดและมีผู้ใดไม่รู้บ้าง เหล่าสาวใช้ต่างกระซิบกระซาบกันหลังฉากกั้นอย่างแผ่วเบาราวกับว่าผู้เป็นนายที่อยู่ข้างในจะไม่ได้ยิน

“จริงหรือไม่ที่ฮูหยินขอหย่าจากท่านเซี่ยจริงๆ”

“ข้าก็ไม่แน่ใจนัก...แต่เมื่อหลายวันก่อนนั้นข้าบังเอิญได้ยินนายท่ายเซี่ยพูดเรื่องหย่าภรรยากับคุณชายจาง!”

“มิใช่ว่าคงเป็นเรื่องของผู้อื่นกระมัง…?”

สาวใช้พูดนั้นพลันส่ายหน้าทันที “เรื่องใหญ่โตเช่นนี้หาใช่เรื่องที่สมควรนำมาล้อเล่น ดูแล้วฮูหยินคงหมดสิ้นความอดทนแล้ว” ตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่ายังอยู่ แม้ว่าฮูหยินจะไม่ได้รับความโปรดปรานจากนายท่านทว่ายังมีแม่สามีให้ท้ายและคอยปกป้อง ไฉนเลยจะถูกหมางเมินได้จนกระทั่ง…

สองปีมานี้จวนสกุลเซี่ยไร้ต้นไม้ใหญ่อย่างฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ฮูหยินต้องเผชิญหน้ากลับนายท่านเซี่ยโดยไม่มีผู้ใดปกป้องอีก

ย่ำแย่ยิ่งกว่าอยู่ในปรโลกเสียอีก!

“ช่างน่าเห็นใจฮูหยินจริงๆ”

“หากถูกเวลาและถูกที่เสียหน่อยคงไม่เป็นเช่นนี้กระมัง”

ไม่รู้ว่าเหล่าสาวใช้พูดคุยซุบซิบกันอย่างไรถึงดังจนได้ยินเข้าหูของเซี่ยเว่ยหลงได้

เซี่ยเว่ยหลงนั่งอยู่ศาลาริมสระบัว มือที่กำลังตวัดพู่กันพลันหยุดชะงักไปทันที ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมแม้แต่แสงแดดที่ส่องลงมาก็ไม่สามารถทำให้ดูอบอุ่นขึ้นได้แม้แต่น้อย

น่าเห็นใจงั้นหรือ…?

หางตาของเซี่ยเว่ยหลงกระตุกริกๆ ไม่ว่าจะฟังอย่างไรแล้วก็เสมือนเขาเป็นคนผิด!

ทันใดนั้น หัวคิ้วของเซี่ยเว่ยหลงขมวดมุ่นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาวางพู่กันลงกับจานหมึกก่อนจะเงยหน้าขึ้นทอดสายตามองผืนน้ำในสระเบื้องหน้า เห็นดอกบัวเบ่งบานงดงามสะพรั่งเหนือผิวน้ำนิ่งๆ

จู่ๆ ภายในใจของเขาก็รู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก

สตรีผู้นั้นกล้าดีอย่างไรถึงขั้นป่าวประกาศบอกคนทั้งจวน!?

 

 

ผู้ใดกล่าวว่า หากบุตรไร้บิดาแล้วจะเติบโตไม่ได้ เช่นนั้นแล้ว…ใช่ว่าบุรุษทุกคนจะสามารถเป็นบิดาที่ดีได้งั้นหรือ?

ไป๋เสี่ยวหรันเป็นเพียงบุตรสาวของตระกูลเล็กๆ เท่านั้น มิหนำซ้ำยังมีเหล่าพี่น้องมากมายเสียจนเรียงลำดับแทบไม่ถูก

ตอนที่ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวออกมา นางไม่ได้มีสินเดิมนำติดตัวมาสักชิ้นเพียงเพราะสกุลไป๋กำลังขัดสน บิดาเพียงต้องการเงินจากการขายลูกสาวกิน ไหนเลยจะมีสิ่งของมีค่าใดๆ ให้นำมาด้วย

หากมิใช่เพราะเมื่อสองปีก่อนยังมีฮูหยินผู้เฒ่าเอ็นดูเมตตา อยู่บ้าง ทั้งมอบของมีค่าให้เป็นครั้งคราว หาไม่แล้ว…บางทีนางอาจจะมีสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่าขอทานไม่มีแม้แต่เงินเก็บติดตัว

เพราะเหตุนี้ ไป๋เสี่ยวหรันจึงซาบซึ้งและเคารพฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ไม่น้อย คิดว่าอย่างไรวันหนึ่งก็ต้องตอบแทนบุญคุณด้วยการให้กำเนิดหลานชายหน้าตาจิ้มลิ้มสักคนให้ได้เชยชม ทว่าจู่ๆ ฮูหยินผู้เฒ่าอาการทรุดลงไปอีกครั้งก่อนจะจากไปเสียก่อน

‘ลูกสะใภ้อกตัญญูไม่อาจอยู่คอยปรนนิบัติดูแลบุตรชายของท่านแม่ได้อีกแล้วเจ้าค่ะ’

‘ท่านแม่ได้โปรดให้อภัยด้วย…ข้าทนจนถึงที่สุดแล้ว’

‘ยามนี้อาหยวนน่าเอ็นดูไม่น้อย…ช่างน่าเสียดายนัก’

นัยน์ตาเมล็ดซิ่งจ้องมองป้ายบรรพชนของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่นานครู่หนึ่ง แม้ไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใดออกมาแต่ในใจกลับพร่ำคำขอโทษไม่ขาดสาย

หากเซี่ยเว่ยหลงลงนามในหนังสือหย่าให้แล้ว…นางก็พร้อมจะจากไปในทันทีโดยไร้ข้อแม้และไร้ความเสียใจใดๆ ส่วนของมีค่าที่ฮูหยินผู้เฒ่าเคยมอบไว้ แม้ไม่มากนักแต่ก็มากพอจะช่วยให้นางเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างง่ายดายและไม่อดตายในชั่วหนึ่งได้

นางวางแผนไว้ทุกอย่างแล้ว…เหลือแค่รอเพียงเขาเท่านั้น

ทว่าตั้งแต่เหตุการณ์ในคืนนั้น แม้ว่านางจะเห็นเขาผ่านตาอยู่บ้างแต่เพียงชั่วอึดใจเท่านั้นซ้ำยังมิเอ่ยอันใดออกไปสักครึ่งคำ  จนป่านนี้แล้ว…นางหวังว่าเขาจะยอมหย่าและปล่อยนางไปเสียที

เอี๊ยด…!

จู่ๆ ภายในห้องบรรพชนอันเงียบสงบ บานประตูไม้ที่ปิดสนิทพลันถูกผลักเปิดออกอย่างแรงก็จะตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหนักแน่นของสาวใช้ที่เร่งรีบพุ่งตรงเข้ามา

ซือหรูรีบยอบกายทำความเคารพหน้าป้ายบรรพชนก่อนจะเงยหน้าขึ้นรายงานสตรีตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน

“ฮูหยินเจ้าคะ...นายท่านกำลังมาทางนี้เจ้าค่ะ”

ไป๋เสี่ยวหรันได้ยินแล้วนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คล้ายไม่แน่ใจว่านางหูฝาดได้ยินผิดเพี้ยนหรือไม่ จากนั้นเพียงชั่วอึดใจหนึ่งจึงหันไปมองทางซือหรูอย่างช้าๆ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งเรียบเฉยไร้อารมณ์

“…อืม” นางขานรับเบาๆ น้ำเสียงราบเรียบ

เกรงว่าเขาคงจะนำหนังสือหย่ามาให้นางกระมัง

!!!

“หึ! ทิ้งบุตรชายไว้กับสาวใช้ดูแลแต่ผู้เป็นมารดากลับมานั่งทอดอารมณ์ต่อหน้าป้ายบรรพชนอย่างสบายใจ…” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยดังก้องลั่นไปทั่วทั้งห้อง ถ้อยคำที่เปล่งออกมาเย็นชาและเต็มไปด้วยความเหน็บแนม

เซี่ยเว่ยหลงเดินยังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปข้างใน สายตาคมกริบของเขาพลันมองเห็นแผ่นหลังของสตรีคุ้นเคยนั่งอยู่เบื้องหน้าป้ายวิญญาณของมารดา ใบหน้าคนงามหมองคล้ำฉายแววความเหนื่อยล้าออกมาชัดเจน แต่ในสายตาของเขากลับเป็นเพียงการเสแสร้งบทละครฉากหนึ่งเท่านั้น

ไป๋เสี่ยวหรันแค่นเสียงออกมาเล็กน้อย นางระบายยิ้มจางๆ ก่อนจะค่อยๆ ปรายไปจ้องสบตากับอีกฝ่าย

“นายท่านเซี่ยมาหาข้าถึงที่เช่นนี้…คิดว่าข้าจะเปลี่ยนใจทอดทิ้งบุตรชายไว้ให้ท่านดูแลเพียงลำพังอย่างงั้นหรือ” นางเลิกคิ้วเอ่ยถาม น้ำเสียงหวานแข็งกร้าวและประชดประชัน

“ไป๋เสี่ยวหรัน!” น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาเต็มไปด้วยโทสะ เซี่ยเว่ยหลงกัดฟันกรอด หัวคิ้วขมวดมุ่นไม่พอใจ เขาแค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเลิกคิ้วมองนางด้วยแววตาเยาะหยัน

“หึ! เปลี่ยนใจแล้วหรือ…เป็นแม่ม่ายที่สามีสละทิ้งยังมีหน้ามาหวังจะเริ่มต้นใหม่ เจ้าคิดว่าจะมีบุรุษโง่งมคนใดยอมชายตามองหญิงที่มีลูกติดกัน” เซี่ยเว่ยหลงก้าวเข้ามาใกล้ สายตาคมกริบสบตามองสตรีเบื้องหน้าอย่างเย็นชาไร้ความรู้สึก

“ข้างกายยังมีบุตรชายต้องเลี้ยงดู…ไหนเลยจะมีผู้ใดกล้าแม้แต่เดินผ่านหน้าโลงศพของเจ้าโดยไม่รู้สึกสมเพช” ไป๋เสี่ยวหรันกล่าวออกมาอย่างดูแคลน

ทว่าถ้อยคำนั้นบาดลึกยิ่งกว่าคมดาบเสียอีก…

นางยังคงนั่งแน่นิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาหรือขยับเขยื้อนกายที่บ่งบอกว่าไม่พอใจ ใบหน้าคนงามปรากฏรอยยิ้มจางๆ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งดูสงบนิ่งราวกับทะเลสาบที่ไร้คลื่นลม

เซี่ยเว่ยหลงได้ยินแล้วแค่นเสียงออกมา “เหอะ! มิใช่ว่าจะหย่าแล้วไปแต่ตัวทิ้งบุตรชายไว้ให้เป็นภาระของข้าหรอกรึ”

“เช่นนั้นก็ช่างเถิด…” นางกล่าวอย่างราบเรียบ “หากข้าไร้ค่าถึงเพียงนั้น แล้วเหตุใดนายท่านเซี่ยถึงไม่รีบลงนามในหนังสือหย่าและปล่อยข้าไปเสียทีเล่า”

เซี่ยเว่ยหลงได้ยินแล้วพลันแค่นเสียงอีกครั้ง สายตาคมกริบเต็มไปด้วยความโกรธ เขากำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด

เหตุใดถึงต้องการหย่าเพียงนี้กัน!

หรือเป็นเพราะนางมีบุรุษอื่นจึงเลือกที่จะหย่าขาดกับเขาและทอดทิ้งบุตรชายที่พร่ำพูดว่ารักยิ่งกว่าชีวิตอย่างงั้นหรือ…!?

“หากต้องการหนังสือหย่า…เช่นนั้นก็รอข้าตายก่อนเถอะ”

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๓๐ จวนสงบสุข

    ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่า…เมิ่งหานเฟิ่งผู้เป็นพี่ชายของนางจะตกหลุมรักไป๋เสี่ยวหรันเข้าอย่างจังเมิ่งซือซือทอดสายตาจ้องแผ่นหลังกว้างของเมิ่งหานเฟิ่งอยู่นานครู่หนึ่ง นางไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเพียงแค่มองเงียบๆ พลันปล่อยให้ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัวไปมาอย่างไม่อาจควบคุมแต่ทว่าเมิ่งหานเฟิ่งกลับนิ่งราวกับรูปปั้น มิได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยและดูจากท่าทางแล้ว…เขาคงไม่รู้เสียด้วยซ้ำกระมังว่านางกำลังยืนมองอยู่หลายวันแล้วที่บรรยากาศในจวนสกุลเมิ่งเงียบสงบเกินควรและยิ่งไปกว่านั้น เมิ่งหานเฟิ่งกลับมีทีท่าซึมลงในแต่ละวัน เงียบงันจนคนในจวนเริ่มสังเกตเป็นกังวลอยู่มาก“เข้าไปดูอาการพี่ชายเจ้าหน่อยเถอะซือซือ” น้ำเสียงแผ่วเบาของเมิ่งฮูหยินกล่าวขึ้นอย่างหนักใจ นางละสายตาจากบุตรชายก่อนจะปรายหันมามองบุตรสาวข้างกายอย่างวิงวอนนับตั้งแต่ไป๋เสี่ยวหรันและอาหยวนตัดสินใจกลับไป…ไม่ว่าผู้ใดในจวนต่างรู้สึกใจหายทั้งสิ้นทว่าบุตรชายของนางดูเหมือนจะมากไปเสียหน่อย…เมิ่งฮูหยินมองแวบเดียวก็สามารถหยั่งรู้ถึงจิตใจของอีกฝ่ายได้แล้วว่า…มีใจรักใคร่ลึกซึ้งต่อแม่นางไป๋เสี่ยวหรันแน่เมิ่งซือซือพยักหน้าหงึกๆ พลางถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจ

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๙ ภรรยาเป็นใหญ่

    บรรยากาศภายในจวนสกุลเซี่ยเงียบงันอึมครึมไร้ชีวิตชีวานานหลายวันนับตั้งแต่ฮูหยินและคุณชายน้อยได้จากไปพร้อมกับหนังสือหย่า...ภายหลังจากนั้นมาอารมณ์ของนายท่านก็แปรปรวนยิ่งกว่าฟ้าฝนปลายฤดูใบไม้ผลิเสียอีกเหล่าสาวใช้ในจวนต่างอยู่กันหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อนเอ่ยวาจาใดออกไปแม้แต่สักครึ่งคำราวกับว่าสวรรค์ยังเมตตา...ยามนี้ฮูหยินและคุณชายน้อยปรากฏอยู่ตรงหน้าในจวนอีกครั้ง พวกนางมองเห็นแล้วล้วนแต่ตื่นตระหนกตกใจกันทั้งสิ้นทว่ากลับไม่มีผู้ใดเอ่ยถ้อยคำใดออกมา นอกเสียต่างพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกคล้ายก้อนหินที่ทับอยู่ในอกมานานถูกยกออกแท้จริงแล้ว…นายท่านเซี่ยก็หาได้เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งหรือไร้หัวใจไม่รู้สึกอันใด เพียงแต่ไม่รู้จักวิธีถนอมสตรีเท่านั้น…จนกระทั่งสูญเสียไปจึงค่อยรู้ความสำคัญของฮูหยินว่ากันตามตรงแล้ว พวกนางต่างพากันคาดไม่ถึงจริงๆ ว่านายท่านจะตามฮูหยินและคุณชายน้อยกลับมาจนได้ฮูหยินถึงขั้นตัดสินใจหนีออกไปอย่างแน่วแน่เช่นนี้…มองดูแล้วคงไม่ง่ายแน่ทว่าวันนี้…นานท่านเซี่ยพาคนทั้งคู่กลับมาได้แล้วไป๋เสี่ยวหรันหวนกลับมายังจวนสกุลเซี่ยอีกครั้ง ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มจางๆ สา

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๘ ตามนาง

    “ไม่ได้ขอรับ! นายท่านได้โปรดกลับไปเถอะ” น้ำเสียงทุ้มของคนงานชายเอ่ยขึ้นด้วยความหนักใจอยู่มาก แท้จริงแล้วเขาไม่รู้ว่านายท่านเซี่ยผู้นี้มีเรื่องเร่งด่วนอันใดถึงได้เร่งเร้าให้เปิดประตูจวนอยากจะเข้าไปนัก เขาเองก็ลำบากใจอยู่มาก…หากผู้เป็นนายไม่ออกคำสั่ง เขาจะทำอันใดได้ เซี่ยเว่ยหลงยืนนิ่ง สายตาคมกริบเพ่งมองบานประตูจวนที่ยังคงปิดสนิท เขาพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แต่หาใช่เพราะความโกรธทว่ากลับเป็นความเหนื่อยล้าในใจ นึกไม่ถึงว่าหลังจากวันนั้นที่เขาถูกขับไล่ออกมา…ผู้ใดเล่าจะคาดคิดว่าพอหวนกลับมาอีกครั้ง จวนสกุลเมิ่งจะปิดประตูสนิทต่อให้มีเรื่องเร่งด่วนเพียงใดก็ให้คุณชายเมิ่งเป็นผู้ตัดสินใจ เหอะ! หากรอให้บุรุษผู้นั้นตัดสินใจ เขาไม่ผมหงอกหัวขาวโพลนไปทั้งหัวหรอกหรือ…!? “ข้ามาตามภรรยา…” เซี่ยเว่ยหลงเอ่ยออกมาเสียงเรียบ สายตาคมกริบยังคงจ้องมองบานประตูจวนที่ปิดสนิท เขาคิดว่าอย่างไรแล้ว…นางคงอยู่ข้างหลังไม่ยอมออกมาเป็นแน่ “อย่างไรก็ไม่ได้ขอรับ!” ทว่าคนงานผู้นั้นยังคงตอบเสียงหนักแน่นและแน่วแน่ เดิมทีเซี่ยเว่ยหลงไม่ได้มีความอดทนมากนัก หากไม่มีเรื่องสำคัญอันใด เขาก็คงไม่ต้องแบกหน้าอดทนรอคอยอย่างใจเย็

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๗ สะสางความในใจ

    ยามพลบค่ำ จู่ๆ ฝนกลับตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักโดยไม่ได้บอกกล่าวราวกับว่าพายุห่าใหญ่ได้แผ่ไปทั่วผืนฟ้า ทั้งที่ตลอดวันยังมีแสงแดดยังส่องสาดส่องไปทั่วบริเวณจนอากาศอบอ้าวแทบหายใจไม่ทั่วท้องแต่เพียงชั่วพริบตา…ท้องฟ้ากลับถูกเมฆครึ้มบดบังจนไร้แสงอาทิตย์ สายลมเย็นเฉียบพัดโชยมาพร้อมกลิ่นฝนที่เคล้าโชยมากับหยาดน้ำสีใสนับพันสายไป๋เสี่ยวหรันยืนอยู่ใต้ชายคา เงยหน้ามองหยาดเม็ดฝนที่รินไหลลงเทจากขอบหลังคาอย่างเหม่อลอย นัยน์ตาคู่งามดูราบเรียบแต่กลับแฝงความเศร้าและหม่นหมองเอาไว้อย่างปิดไม่มิดนี่ก็ผ่านมาแล้วสองสามวัน…นับตั้งแต่เซี่ยเว่ยหลงบุกมานางถึงจวนสกุลเมิ่งโดยไม่ทันตั้งตัวแม้ว่านางจะเป็นฝ่ายขับไล่เขาไปแล้วอย่างไร แต่ภายในใจของไป๋เสี่ยวหรันกลับปั่นป่วนเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ยากจะสลัดทิ้งไปได้…น้ำเสียงทุ้มแผ่วเบาแฝงด้วยความอ่อนโยนและเจือไปด้วยความรู้สึกผิดยังคงวนเวียนดังก้องอยู่ในหูของนางซ้ำๆเพื่อนางแล้ว…เซี่ยเว่ยหลงยินยอมทำเพียงนี้เลยหรือ!?“เสี่ยวหรัน…”“…”“ไป๋เสี่ยวหรัน!” น้ำเสียงของเมิ่งซือซือดังขึ้นกว่าเดิมแข่งกับเสียงฝน นางยื่นมือออกไปแตะไหล่ของไป๋เสี่ยวหรันอย่างแผ่วเบาพลันทำให้อีกฝ่าย

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๖ ข้ออ้าง

    อวิ๋นเออร์เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ของเซี่ยเว่ยหลงแล้ว…นางพลันหยุดชะงักไปชั่วขณะคล้ายกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน รอยยิ้มบนใบหน้าคนงามเจื่อนลงทันที“ท่าน...หมายความว่าอย่างไรกันเว่ยหลง” น้ำเสียงหวานของนางสั่นเครือเจือไปด้วยความสับสนยามนี้นางไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าเหตุใดเซี่ยเว่ยหลงถึงเอ่ยถ้อยคำเช่นนั้นออกมาเขาสมควรจะยินดีใจมิใช่หรอกหรือ…!?นางละทิ้งทุกสิ่งและกำลังจะหย่าสามีเพื่อย้อนคืนมาหาเขา มายืนเคียงข้างเขาดังเช่นในอดีต แต่ว่าสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึกเท่านั้นจางเหวินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเหลือบสายตาปรายมองเซี่ยเว่ยหลงที่ยืนนิ่งสงบ สายตาคมกริบเรียบเฉยไร้ความโกรธเกรี้ยวหรือยินดีแม้แต่น้อยเซี่ยเว่ยหลงทอดสายตามองผ่านสตรีตรงหน้าออกไปราวกับมองไม่เห็น เขาค่อยๆ ละสายตากลับมาก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและหนักแน่น“ความหมายของข้านั้น…ฮูหยินได้โปรดกลับไปไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อนเถิด เรื่องบางอย่างหากตัดสินใจลงไปแล้วย่อมไม่อาจย้อนคืนมาแก้ไขได้อีก” เซี่ยเว่ยหลงเข้าใจลึกซึ้งแล้ว…ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น อวิ๋นเออร์ก็ยิ่งขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “เซี่ยเว่ยหลง…ข้าและท่

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๕ ความหลังที่ลืมเลือน

    เมิ่งหานเฟิ่งเดินเข้าไปใกล้ ฝ่ามือหนายื่นออกไปเกลี่ยเรือนผมที่พลิ้วปิดใบหน้าของนางอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมกริบหลุบต่ำมองสตรีตรงหน้าด้วยความอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำเขาย่อมมองออกว่าสตรีตรงหน้ารู้สึกอย่างไรกันแน่“มีผู้ใดบ้างหากต้องการสิ่งใดแล้วจะไม่เห็นแก่ตัว” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบา “ข้าเองก็อยากจะเห็นแก่ตัวให้มากกว่านี้…อยากจะเหนี่ยวรั้งเจ้าเอาไว้ไม่ยอมให้กลับไปอีกไป๋เสี่ยวหรัน”หากเขาทำเช่นนั้น รั้งนางเอาไว้จะเห็นแก่ตัวมากไปหรือไม่เมิ่งหานเฟิ่งไม่ได้ตาบอดจนมองไม่ออกว่า…ข้างในหัวใจของไป๋เสี่ยวหรันนั้นยังคงมีเซี่ยเว่ยหลงอยู่เต็มเปี่ยม มิหนำซ้ำคนทั้งคู่ยังมีสายใยร่วมกันคือบุตรชายหนึ่งคนต่อให้ตัดใจก็ใช่ว่าจะตัดขาดได้จริงพอได้ยินถ้อยคำนั้น ไป๋เสี่ยวหรันก็เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาคู่งามช้อนสบกับเมิ่งหานเฟิ่งพอดี “คุณชายเมิ่ง” นางย่อมมองออกว่าเมิ่งหานเฟิ่งรู้สึกอย่างไรแต่ทว่า…“ขอโทษเจ้าค่ะ” น้ำเสียงหวานเอื้อนเอ่ยเบาแฝงด้วยรู้สึกผิดไม่น้อยในใจของนางไม่อาจเปิดที่ว่างให้ผู้ใดได้อีกยกเว้นเพียงคนผู้นั้น…เซี่ยเว่ยหลง ทั้งที่เขาเคยใจร้ายถึงเพียงนั้นแต่ทว่าเหตุใดนางถึงยังตัดใจจากเขาไม่ได

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status