/ รักโบราณ / หย่ารักสามีไร้ใจ / ๔ รั้งไว้ไม่ยอมปล่อยไป

공유

๔ รั้งไว้ไม่ยอมปล่อยไป

last update 최신 업데이트: 2025-06-26 00:40:37

เหล่าสาวใช้ที่ยืนอยู่บริเวณนั้นต่างตัวแข็งทื่อราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินถ้อยคำเยือกเย็นเจือด้วยความรุนแรงของเซี่ยเว่ยหลง ไฉนพวกนางจะคาดคิดเล่าว่านายท่านจะกล้ากล่าววาจาเชือดเฉือนฮูหยินได้ถึงเพียงนี้โดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น

ช่างเห็นใจฮูหยินไม่น้อย!

เมื่อก่อนนั้นแม้ว่านายท่านจะไม่ชอบฮูหยินแล้วอย่างไรกัน แต่ยังเห็นแก่มารดาอยู่ไม่น้อยทว่ายามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าได้จากไปแล้ว ภายในจวนหลังสกุลเซี่ยย่อมไม่มีผู้ใดกล้าออกหน้าปกป้องฮูหยินได้ และที่แย่ยิ่งกว่าคือ...ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของผู้เป็นนายทั้งสองก็มิได้ลึกซึ้งเพียงนั้น

ว่ากันตามตรงแล้วห่างเหินยิ่งกว่าคนแปลกหน้าเสียอีก!

เช่นนั้นแล้ว หากไร้รัก…เหตุใดผู้เป็นนายจึงไม่รีบหย่าให้จบสิ้นเสียเล่า ไม่ใช่ว่าฮูหยินรวบรวมความกล้าเอ่ยปากขอหย่าแล้วมิใช่หรือไรกัน

ยามนี้ในสายตาของเหล่าสาวใช้ทั้งหลายล้วนเต็มไปด้วยความเห็นใจและสงสารผู้เป็นนายหญิงไม่น้อย

ไฉนนายท่านถึงใจร้ายได้ถึงเพียงนี้กัน!

ไป๋เสี่ยวหรันยังคงระบายยิ้มกว้างราวกับไม่ได้รู้สึกอันใดแต่กลับเจือไปด้วยความขมขื่นอย่างชัดเจน นัยน์ตาเมล็ดซิ่งของสั่นไหวครู่หนึ่งก่อนจะกลับมานิ่งเฉยดังเดิม

นางหัวเราะเยาะออกมาเล็กน้อยอย่างเย้ยหยันก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเซี่ยเว่ยหลงแทน ใบหน้าคนงามเชิดขึ้นเล็กน้อยพลันจ้องสบตาเข้ากับอีกฝ่ายพอดี

ไป๋เสี่ยวหรันกล่าวเสียงหวานแฝงไปด้วยถ้อยคำเหน็บแนม “พอเห็นนายท่านเซี่ยเป็นเช่นนี้…ข้านึกอยากจะย้อนกลับไปวันนั้นแล้วปฏิเสธการแต่งงานไปเสียจริง”

หากรู้เช่นนี้แต่แรก…มิสู้นางกระโดดทะเลสาบลึกไม่ดีกว่าหรือ…? อย่างไรชีวิตก็ไร้หนทางแล้ว

“ไป๋เสี่ยวหรัน!” น้ำเสียงทุ้มตวาดดังลั่นพร้อมฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้ทันที สายตาคมกริบเพ่งมองสตรีตรงหน้าด้วยความเกรี้ยวกราด

นางคิดว่าตนเองสูงส่งเป็นคุณหนูสูงศักดิ์งั้นหรือ…!?

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เซี่ยเว่ยหลงได้ยินประโยคนี้แล้วถึงได้รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนบังคับให้นางยินยอมต้องโดยต้องแต่งงานด้วยไม่เต็มใจ…ทั้งที่ความจริงแล้ว

เขาต่างหากที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ให้ได้เป็นสตรีบำเรอของบุรุษไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้วกระมัง!

นี่นับว่าเป็นบุญคุณที่นางต้องตอบแทนเขามิใช่หรือไร…!?

ยามนี้ภายในใจของเซี่ยเว่ยหลงเต็มไปด้วยโทสะ เขาพลางขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสัน ดวงตาคมกริบดุจเปลวเพลิงที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งตรงหน้า “หึ! หากย้อนกลับไปปฏิเสธข้า…เกรงว่าปานนี้ฮูหยินคงกลายเป็นหญิงคณิกาอยู่หอนางโลมสักแห่งแล้วกระมัง”

เพราะเช่นนี้อย่างไร…ในสายตาของเขานั้น นางไร้ค่ายิ่งกว่าเสียสิ่งใด

พอได้ยินถ้อยคำดูแคลนเช่นนี้มีผู้ใดไม่โมโหบ้าง…!?

ไป๋เสี่ยวหรันเงียบไปครู่หนึ่ง ใบหน้ายังคงระบายยิ้มจางๆ  แต่น้ำเสียงที่ออกมากลับเย็นยะเยือกราวกับก้อนน้ำแข็ง  

“เช่นนั้นก็ดี...อย่างน้อยหากข้าเป็นหญิงคณิกายังสามารถเลือกได้ว่าอยากต้อนรับผู้ใด มิใช่ถูกจับโยนเข้าเรือนหอพอหลังจากค่ำคืนวสันต์แล้วก็ถูกทอดทิ้งราวของไร้ค่า”

!!!

ใบหน้าของเซี่ยเว่ยหลงยิ่งเขียวคล้ำย่ำแย่เต็มไปด้วยความโกรธอย่างชัดเจน เขาพลางถอนหายใจฮึดฮัด

มีหรือเขาจะยอมง่ายๆ!

เซี่ยเว่ยหลงกัดฟันกรอด ฝ่ามือกำแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นเด่นชัด “เผยนิสัยที่แท้จริงของมาแล้วหรือไป๋เสี่ยวหรัน…นับว่ามีความอดทนไม่น้อย” น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาอย่างดูแคลน เขาละสายตาจากนางก่อนจะไล่มองตั้งแต่บนลงล่างราวกับว่ากำลังสังเกตหรือครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

รอยยิ้มบนใบหน้าคนงามพลันเจื่อนลงทันที พร้อมกับความรู้สึกมากมายที่อัดอั้นอยู่ต่างปะทุขึ้นอก ไป๋เสี่ยวหรันทั้งรู้สึกโมโห โกรธและน้อยเนื้อต่ำใจไปพร้อมๆ กันจนยากจะบรรยายออก มาเป็นถ้อยคำได้

ในเมื่อสุดท้ายแล้ว…นางและเขาก็เปรียบเสมือนเส้นด้ายแดงที่ขาดสะบั่น ดังนั้น ไม่มีอันใดต้องถนอมกันอีกแล้ว

นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เหอะ! เกรงว่าสามีที่ไม่เคยสนใจเหลียวแลภรรยาแม้แต่น้อยคงไม่ทันได้สังเกตกระมัง...ว่าข้ามีนิสัยเช่นไร เอาเถิด…หากท่านรังเกียจสตรีเข่นนี้ก็จงรีบเขียนหนังสือหย่าและลงนามเสียที!”

อวดดี!

นางกล้าดีอย่างไรกัน!

เขาย่อมรู้สึกหงุดหงิดและโมโหอยู่มากคล้ายกับว่ากำลังจะสูญเสียของในมือไปอีกครั้ง ดังนั้น…ภายในใจเดือดปุดๆ ยิ่งกว่าน้ำต้มในกา มุมปากหนาค่อยๆ เหยียดยิ้มขึ้นมา “ไป๋เสี่ยวหรัน! ข้าย้ำเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย…หากยังอยากมีที่อยู่ซุกหัวนอนก็ทำตัวสงบเสงี่ยมอย่าได้ริอาจแสดงท่าทางเช่นนี้กลับอีก!”

“หยุดเหยียบย่ำข้าสักทีได้หรือไม่เซี่ยเว่ยหลง...” น้ำเสียงหวานสั่นเครือแฝงไปด้วยความเหนื่อยล้า ไป๋เสี่ยวหรันยังคงจ้องสบตากับอีกฝ่ายไม่ลดละโดยไร้ความเกรงกลัว มือทั้งสองข้างของนางกำแน่นด้วยความโกรธ

หากมิใช่เพราะอาหยวน…นางคงไม่ฝืนทนมานานจนป่านนี้

เซี่ยเว่ยหลงได้ยินแล้วพลันแค่นเสียงออกมาอย่างเย้ยหยัน “อวดดีเช่นนี้…ข้าอยากจะรู้นักว่า เมื่อก้าวเท้าออกไปจากสกุลเซี่ยแล้วจะมีสภาพเป็นอย่างไร”

ไป๋เสี่ยวหรันแค่นเสียงออกมา นางก้าวเดินไปข้างหน้าและอยู่ห่างจากเซี่ยเว่ยหลงเพียงแค่คืบเท่านั้น นัยน์ตาเมล็ดซิ่งสบเข้ากับดวงตาคมกริบ ก่อนจะกล่าวออกมาเสียงเรียบ “นายท่านเซี่ยวางใจเถิดเจ้าค่ะ อย่าได้กังวล…หากไร้เงาของท่านและสกุลเซี่ยแล้ว ข้าก็มิได้จนตรอกไร้ที่ซุกหัวนอนเฉกเช่นขอทานหรอกกระมัง”

“ไป๋เสี่ยวหรัน!” เซี่ยเว่ยหลงกัดฟันกรอด เหตุใดสตรีผู้นี้ถึงกล้ายั่วยวนโทสะเขาเช่นนี้!

“รังเกียจข้าเพียงนี้ก็รีบลงนามในหนังสือหย่าให้ข้าเสีย” นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาจากนั้นจึงละสายตาหันหนีปรายไปมองทางอื่นแทนทันที

จู่ๆ ยิ่งพอเห็นแววตาและท่าทางแน่วแน่เด็ดขาดของนาง หัวใจแกร่งของเซี่ยเว่ยหลงพลันกระตุกวูบอย่างไร้สาเหตุ

เพราะเหตุใดนางถึงได้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน…!?

“เจ้ามีใจรักข้ามิใช่หรือไป๋เสี่ยวหรัน” เซี่ยเว่ยหลงเลิกคิ้วเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบไร้อารมณ์โกรธหรือความขุ่นเคืองใจใดๆ

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” ไป๋เสี่ยวหรันได้ยินแล้วพลันหัวเราะร่อออกมาทันทีอย่างประชดประชัน

บุรุษผู้นี้เป็นอันใดไปเสียแล้ว…เหตุใดถึงได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมากัน

 นางเลิกคิ้วถามกลับ “เหตุใดยามนี้กลับกลายเป็นนายท่านเซี่ยเอ่ยถามหาความรักลึกซึ้งจากข้ากันเล่า”

“…” เซี่ยเว่ยหลงเงียบไม่ตอบอันใดออกมา สายตาคมกริบมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาเมล็ดซิ่งก่อนจะพบกับความว่างเปล่า

เหตุใดถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้ เซี่ยเว่ยหลงรู้สึกคันยุบยิบในอกอย่างบอกไม่ถูก

ไป๋เสี่ยวหรันมองบุรุษตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นเขายังคงแน่นิ่งไม่ปริปากพูดอันใดออกมา นางจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เช่นนั้น…เพราะเหตุใดนายท่านเซี่ยอยากรู้หรือไม่”

นางเคยรักเขาอยู่มาก…จนกระทั่งหลงลืมตัวเองไปชั่วขณะ

แม้ว่ารักแล้วอย่างไร…หากไร้วาสนาฝืนโชคชะตาดันทุรังไปก็เท่านั้น

นางกล่าวเสียงเรียบไร้อารมณ์หรือความเสียใจใดๆ ออกมา “ตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งถึงยามนี้…ตอนที่อยู่ด้วยกัน ข้ากลับรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวยิ่งนัก สายตาที่ท่านมองข้าหรือถ้อยคำที่เอ่ยออกมาราวกับว่าเป็นข้ากำลังเรียกร้องอย่างน่าสมเพช”

โลกนี้หาได้ยุติธรรมไม่…หากมีวาสนา แม้ห่างไกลนับพันลี้ก็ย่อมไขว่คว้ามาครอบครองได้ หากแต่มีบุพเพแล้วไร้วาสนานั้น…แม้ว่าจะฝืนโชคชะตาก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี

ยามนี้ไป๋เสี่ยวหรันเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว

นางทนมาสามปีเพราะความโง่งมหลงคิดว่า แม้ไม่รักใคร่ย่อมต้องรู้สึกผูกพันกันบ้าง สุดท้ายกลับไร้ประโยชน์สิ้นดี…

ช่างน่าสมเพชนัก!

จู่ๆ บรรยากาศภายในห้องโถงพลันตกอยู่ในความเงียบงัน คำพูดของนายหญิงทำเอาเหล่าสาวใช้ที่แอบยืนฟังอยู่ด้านหลังพลันรู้สึกน้ำตารื้นด้วยความเห็นใจ เกรงว่าที่ผ่านมานายหญิงคงอดทนไม่น้อยจนกระทั่ง…ยามนี้ได้ขาดสะบั่นจนไม่หลงเหลือความรู้สึกใดๆ อีกแล้ว

“ไป๋เสี่ยวหรง...” เซี่ยเว่ยหลงขึ้นเสียงเรียบ ภายในอกของเขาพลันบีบรัดแน่นคล้ายรู้สึกหายใจติดขัดไปชั่วขณะหนึ่ง

“…”

“ข้าถามว่าเจ้ารักข้าหรือไม่”

ในเมื่อที่ผ่านสตรีผู้นี้อดทนมาได้ตลอดแล้วไฉนยามนี้ถึงได้เฉยชาไร้เยื่อใย

หากมิใช่เพราะในใจของนางมีบุรุษอื่นไปแล้ว

“ย่อมเคยรัก” ไป๋เสี่ยวหรันตอบกลับเสียงเรียบ

นางสบตากับเขาครู่หนึ่งก่อนปรายไปมองทางอื่นจากนั้นจึงเดินจากไปทันทีราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอันใด

นางเหนื่อยเหลือเกิน...เหนื่อยจนไม่มีแม้แต่แรงจะรักเขา

 

 

แม้ว่าจะไม่ได้มีการตะโกนด่าทอเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งจวนแต่ทว่ายามนี้แล้ว ภายในจวนมีผู้ใดไม่รู้บ้างว่านายหญิงเด็ดขาดถึงขั้นจะหย่ากลับนายท่านให้จงได้…ไม่ว่าอย่างไรแล้วก็ผู้ที่น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นคุณชายน้อยกระมัง

ไป๋เสี่ยวหรันสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ นางพยายามอดกลั้นไม่หลั่งน้ำตาหรือร้องไห้ออกมาตลอดทาง…จนกระทั่งสายตาของนางมองเห็นอ่หยวนกำลังหยอกล้อเล่นกลับเหล่าสาวใช้

หัวใจของนางกระตุกวูบจากนั้นพลันบีบรัดแน่นจนรู้สึกปวดหนึบแทบจะหายใจไม่ออก

ไป๋เสี่ยวหรันเม้มริมฝีปากแน่น นัยน์ตาเมล็ดซิ่งสั่นระริกและเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส

“ฮูหยินเจ้าคะ…” ซือหรูเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ห้องบรรพชนนั้น นางรู้สึกสงสารเห็นใจฮูหยินไม่น้อย

นายท่านช่างใจร้ายไม่น้อย!

แม้นางจะไม่ได้ติดตามอีกฝ่ายมาจากบ้านเดิมแล้วอย่างไรและเป็นคนของสกุลเซี่ยมาตั้งแต่แรกแล้ว ทว่านับตั้งแต่วันที่นางเอ่ยปากว่าจะเป็นสาวใช้ข้างกาย…ความรู้สึกที่มีย่อมเต็มไปด้วยความจริงใจทั้งสิ้น

ไป๋เสี่ยวหรันยังคงยืนแน่นิ่ง สายตาเพ่งมองบุตรชายเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ

อาหยวน…แม่ขอโทษ

เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ มิใช่ว่านางพูดออกไปแล้วเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น…

ตอนที่นางตัดสินใจว่าพอแล้ว…หัวใจของนางพลันเบาหวิวคล้ายกลับหยุดเต้นไปชั่วขณะแต่ทว่าต่อให้จะต้องแตกสลายจนวิญญาดับหายไปหรือสูญเสียทุกอย่าง ขอเพียงปกป้องอาหยวนไว้ได้ก็เพียงพอแล้ว

ไป๋เสี่ยวหรันกล่าว “เตรียมตัวเถอะซือหรู…หากเซี่ยเว่ยหลงไม่ยอมลงนามหนังสืออย่า ข้าก็ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว”

 

 

ปล. อิพี่ปากแจ๋วขนาดนี้แล้วยัยน้องจะทนอยู่ทำไม

 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๖ เส้นด้ายแดงขาดสะบั่น

    “เซี่ยเว่ยหลง…จริงๆ ข้าเสียดายไม่น้อย” น้ำเสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาแฝงความเหนื่อยล้าเอาไว้อย่างชันเจน ไป๋เสี่ยวหรันลอบหายใจเฮือกหนึ่งคล้ายกลับกำลังอดกลั้นอารมณ์ที่ปะทุขึ้นคับแน่นอยู่ในอก“ไป๋เสี่ยวหรัน…” เซี่ยเว่ยหลงส่ายหน้าไปมาปฏิเสธ เขาไม่ต้องการได้ยินถ้อยคำใดจากนางอีกแล้ว ฝ่ามือหนาคว้ามือของนางมากอบกุมไว้แน่นราวกับหวาดกลัวว่าสตรีตรงหน้าจะเลือนรางและหายจากไปตลอดกาลท่าทางของเขาในยามนี้ไม่ต่างจากกำลังวิงวอนรั้งนางเอาไว้ สายตาคมกริบที่เคยแข็งกร้าวกลับอ่อนลงอย่างชัดเจนหากเป็นในยามปกติไป๋เสี่ยวหรันคงเผลอใจและหลงเชื่อในคำพูดของเขาแน่ แต่ยามนี้...บุรุษตรงหน้าเมามายอยู่มาก ใบหน้าหล่อเหล่าแดงก่ำจากฤทธิ์สุราทั้งยังมีกลิ่นฉุนโชยอยู่รอบกายไป๋เสี่ยวหรันไม่ดึงมือกลับ นางเพียงยืนนิ่งคล้ายกำลังตั้งสติ ภายในใจกลับสั่นไหวอยากเกินจะควบคุมคำพูดของเซี่ยเว่ยในยามนี้ก็เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น…มีหรือหทกเขามีสตรีดีจะกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ออกมา!ใบหน้าคนงามปรากฏรอยยิ้มบางๆ สะท้อนแสงจันทราที่สะท้อนสาดส่องลงมาอย่างเย็นชา นัยน์ตาเมล็ดซิ่งของนางว่างเปล่าไร้ความรู้สึกใดๆ“ทว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่…ฝืนดันทุรังไปก็เท่านั้น

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๕ แม้ว่าจะไร้วาสนาก็จะฝืนโชคชะตา

    ยามไฮ่ (21.00 – 23.00 น.)จางเหวินเจอเซี่ยเว่ยหลงอีกครั้ง เขาก็สังเกตได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคงต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ไม่เช่นนั้นเจ้าคนผู้นั้นจะเอาแต่นั่งดื่มสุราจอกแล้วจอกอย่างเงียบงันโดยไม่ปริปากเอ่ยอันใดออกมาได้อย่างไรตลอดหลายชั่วยามที่ผ่านมา!“เหอะ!” เขาแค่นเสียงออกมา สายตาจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “ดอกเหมยร่วงหล่นปลิวไปกับสายลม...ต่อให้ยื่นมือออกคว้าก็เกินกว่าจะรั้งไว้ได้อีกแล้ว”!!!ปัง!เสียงจอกสุรากระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจนดังสะท้อนไปทั่วทั้งห้องบ่งบอกอารมณ์ขุ่นมัวของเซี่ยเว่ยหลงได้ชัดเจน มุมปากหนาเหยียดยิ้มเยาะเล็กน้อยเซี่ยเว่ยหลงพลางเอ่ยออกมาเสียงเรียบราวกับมิได้ต้องการคำตอบอันใด “ย่อมเคยรักงั้นหรือ…ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ใจของนางเริ่มเปลี่ยนไปเป็นอื่น”หมายความว่าอย่างไรกัน…!?จางเหวินได้ยินแล้วพลันขมวดคิ้วมุ่นอย่างงุนงงทันทีเขาไม่รู้ว่าเซี่นเว่ยหลงกำลังกล่าวถึงสิ่งใดอยู่หรือแท้จริงแล้วเพียงแค่เมามายจนสติเลอะเลือนไปแล้วอย่างงั้นหรือ…?จางเหวินหรี่สายตาสังเกตอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดออกมา “หึ! อวดดี...คำพูดร้ายกาจแต่การกระทำลับหลังกลับน่าสมเพช”เขาหรือน่า

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๔ รั้งไว้ไม่ยอมปล่อยไป

    เหล่าสาวใช้ที่ยืนอยู่บริเวณนั้นต่างตัวแข็งทื่อราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินถ้อยคำเยือกเย็นเจือด้วยความรุนแรงของเซี่ยเว่ยหลง ไฉนพวกนางจะคาดคิดเล่าว่านายท่านจะกล้ากล่าววาจาเชือดเฉือนฮูหยินได้ถึงเพียงนี้โดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้นช่างเห็นใจฮูหยินไม่น้อย!เมื่อก่อนนั้นแม้ว่านายท่านจะไม่ชอบฮูหยินแล้วอย่างไรกัน แต่ยังเห็นแก่มารดาอยู่ไม่น้อยทว่ายามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าได้จากไปแล้ว ภายในจวนหลังสกุลเซี่ยย่อมไม่มีผู้ใดกล้าออกหน้าปกป้องฮูหยินได้ และที่แย่ยิ่งกว่าคือ...ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของผู้เป็นนายทั้งสองก็มิได้ลึกซึ้งเพียงนั้นว่ากันตามตรงแล้วห่างเหินยิ่งกว่าคนแปลกหน้าเสียอีก!เช่นนั้นแล้ว หากไร้รัก…เหตุใดผู้เป็นนายจึงไม่รีบหย่าให้จบสิ้นเสียเล่า ไม่ใช่ว่าฮูหยินรวบรวมความกล้าเอ่ยปากขอหย่าแล้วมิใช่หรือไรกันยามนี้ในสายตาของเหล่าสาวใช้ทั้งหลายล้วนเต็มไปด้วยความเห็นใจและสงสารผู้เป็นนายหญิงไม่น้อยไฉนนายท่านถึงใจร้ายได้ถึงเพียงนี้กัน!ไป๋เสี่ยวหรันยังคงระบายยิ้มกว้างราวกับไม่ได้รู้สึกอันใดแต่กลับเจือไปด้วยความขมขื่นอย่างชัดเจน นัยน์ตาเมล็ดซิ่งของสั่นไหวครู่หนึ่งก่อนจะกลับมานิ่งเฉยดังเดิม

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๓ ประชดประชัน

    “มารดามันเถอะ! เซี่ยเว่ยหลง”พอได้ยินประโยคนั้นแล้ว จางเหวินตวาดดังลั่นพลางสูดลมหายใจลึกคล้ายกับกำลังตั้งสติและระงับโทสะที่เดือดพล่านอยู่ในอก สายตาคมกริบหรี่มองเซี่ยเว่ยหลงด้วยความไม่พอใจ “นางคือภรรยาของเจ้า…หาใช่สิ่งของที่จะชั่งน้ำหนักหากำไรหรือขาดทุน!”ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ จางเหวินคิดว่าอยากจะจับมือคนผู้นี้ขึ้นมาเขียนหนังสือหย่าและลงนามให้รู้แล้วรู้รอดจริงๆหากหลานชายของเขาต้องเติบโตโดยไร้บิดา…ก็ช่างมันเถิด!บุรุษเช่นนี้…หากไม่ให้เกียรติต่อภรรยาได้ก็อยู่ผู้เดียวไปตลอดชีวิตจนผมขาวโพลนเถอะ!“…” เซี่ยเว่ยหลงเงียบไม่เอื้อนเอ่ยคำใด สายตาคมกริบดูลุ่มลึกคล้ายกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่หลายปีมานี้ เซี่ยเว่ยหลงยอมรับว่า เขามิได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อไป๋เสี่ยวหรัน นางเป็นเพียงภาระที่เขาต้องแบกรับไว้ด้วยความจำยอมเพราะความปรารถนาของมารดาแม้ว่านางสงบเสงี่ยม อ่อนน้อมและไม่เคยแม้แต่จะโต้แย้ง คำพูดจากปากเขาสิบประโยคแต่นางตอบกลับเพียงหนึ่งเท่านั้นแต่ไฉน วันนั้นกลับกล้าถึงขั้นเอ่ยปากขอหย่ากัน…!?พอเห็นบุรุษตรงหน้านิ่งไป คล้ายกับว่ากระตุ้นโทสะในอกของจางเหวินให้ปะทุขึ้นมา แม้ว่านี่จะไม่ใช่

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒ เหตุผลเดียว

    “พ่อ!”นิ้วมือเล็กอวบของเด็กน้อยชี้ไปยังบุรุษผู้หนึ่งที่นั่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ระหว่างทางเดิน ใบหน้าเล็กแย้มยิ้มกว้างเสียจนตาหยี ทั้งยังเปล่งเสียงใสเรียกอีกฝ่ายด้วยความดีใจเกินจะกักเก็บไว้ “พ่อ!”“พ่อ!”ชู่ว์~~“อาหยวน...เบาเสียงลงหน่อยได้หรือไม่” ไป๋เสี่ยวหรันเอ่ยพลางลูบหลังลูกชายเบาๆ หวังกล่อมให้เจ้าตัวน้อยสงบเสียงลง“ป๋อ! พ่อ!!”!!!ทว่าสุดท้ายกลับไร้ประโยชน์…ไป๋เสี่ยวหรันถึงกับสะดุ้งอีกครั้ง ราวกับว่ายิ่งนางห้ามปราม บุตรชายในอ้อมแขนก็ยิ่งส่งเสียงดังยิ่งกว่าเดิมจนดังก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณ เหล่าสาวใช้ต่างปรายสายตาหันมามองเป็นตาเดียวกันเซี่ยเจิ้นหยวนในอ้อมกอดมารดาพลันหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีด้วยความสนุกสนาน “พ่อๆ!”นางหันไปมองบุตรชายด้วยสายตาเอ็นดูแฝงความหนักใจเล็กน้อย ก่อนจะโน้มใบหน้าลงกระซิบใกล้หูอาหยวนด้วยน้ำเสียงหวานพลางข่มขู่ “หากเจ้าเอาแต่ร้องเสียงดังเช่นนี้...แม่เกรงว่าบิดาของเจ้าคงจะไม่พอใจเอาได้ พอถึงตอนนั้นแม่ก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้แน่อาหยวน”ใบหน้าเล็กของเด็กน้อยขมวดคิ้วมุ่นไม่พอใจคล้ายกำลังถูกขัดใจ ทั้งแววตาและนิ้วมือยังคงยืนยันหนักแน่นชี้ไปยังบุรุษในห้องโถงใหญ่อย่างไม่ลด

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๑ ดันทุรัง

    “ข้าเอ่ยปากขอหย่ากับเขาแล้ว”!!!น้ำเสียงหวานเอ่ยออกมาราบเรียบแต่ทว่าเมิ่งซือซือฟังแล้วกลับต้องชะงัก ดวงตาคู่งามเบิกโพลงกว้างด้วยความตกใจทันที คาดว่าคงเป็นนางที่แก่เลอะเลือนหูฝาดได้ยินผิดเพี้ยนไปเองกระมัง“เจ้าว่าอย่างไรกันเสี่ยวหรัน!”เมิ่งซือซือขมวดคิ้วมุ่นหรี่สายตาเพ่งมองสตรีตรงหน้าราวกับต้องการคาดเค้นความจริงออกจากปากอีกฝ่ายให้ได้ไป๋เสี่ยวหรันพลางระบายยิ้มจางๆ กล่าวออกมาอีกครั้งราวกับว่าหาใช่ใหญ่อันใด “ข้าเอ่ยปากจะหย่ากับเซี่ยเว่ยหลงแล้ว…รอเพียงแต่เขาเขียนหนังสือหย่าและลงนามให้เท่านั้น”เมิ่งซือซือได้ยินอีกครั้งถึงกลับชะงักถอยหลังออกห่างคล้ายกับว่ากำลังหวาดกลัว นางถอนหายใจด้วยความหนักอึ้ง พอตั้งสติได้จึงเร่งรีบเดินเข้ามากุมมือของสตรีตรงหน้าเอาไว้ “รู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรออกมา” สายตาของนางแลมองซ้ายขวาท่าทางราวกับหวาดระแวงสิ่งใด น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบา“หย่าสามี…นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาล้อเล่น!”ไป๋เสี่ยวหรันยังคงสงบนิ่งและเย็นยะเยือกในคราเดียวกัน ใบหน้าคนงามปรากฏรอยยิ้มจางๆ แต่งแต้มอยู่ทว่านัยน์ตาเมล็ดซิ่ง กลับดูหม่นแสงลงเล็กน้อย “เรื่องนี้ข้าย่อมหมายความว่าเช่นนั้น

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status