공유

บทที่ 32

작가: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 32

สวีกั๋วหมิงพูดออกมาด้วยความโกรธ “หนิงหนิง! ทิ้งเศษแก้วลงเดี๋ยวนี้!”

สวีหว่านหนิงร้องไห้ออกมาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง “หนูไม่ทิ้ง! ถ้าพี่ฉินเซียวไม่ยอมหย่ามาแต่งงานกับหนู งั้นหนูตายไปซะยังจะดีกว่า!”

เมื่อเห็นดังนั้น ฉินเซียวก็เผยรอยยิ้มเยาะเย้ย “ดี งั้นตายให้ดูหน่อย”

สวีหว่านหนิงไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากเขา

แม่สวีพูดขึ้นด้วยความโกรธจัด “ฉินเซียว พูดอะไรออกมาน่ะ! ไม่เห็นเหรอว่าหนิงหนิงกำลังจะแย่อยู่แล้ว”

ในเวลาเกือบพร้อมกัน ประธานฉินก็ตบหน้าเขาไปหนึ่งทีก่อนจะพูดต่อว่า “ดูผลงานที่แกทำไว้สิ ยังจะกล้ามาพูดจาเหลวไหลอีก! ถ้าเกิดเรื่องมันถึงขั้นสูญเสียชีวิตขึ้นมาจริง ๆ ถึงจะชดใช้ด้วยชีวิตแกอีกสิบชาติก็ยังไม่พอ!”

คุณนายฉินได้แต่กุมมือปิดปากเก็บเสียงสะอึกสะอื้นจากการร้องไห้และหันหน้าหนี

สวีหว่านหนิงยังคงอยู่ตรงนั้นขอร้องแทนเขา “ลุงฉินคะ ขอร้องล่ะค่ะ อย่าทำร้ายพี่ฉินเซียวเลย อย่าทำเลยนะคะ”

ฉินเซียวที่ถูกตบไปเมื่อครู่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง สายตาคู่นั้นของเขาที่กำลังเหลือบไปมองสวีเหยียนซีมีเพียงแต่ความรู้สึกละอายใจและเสียใจต่อเธอ

สวีเหยียนซีรังเกียจที่ตอนนี้เขาทำเหมือนตัวเองคือผู้บริสุทธิ์แล้วมองมาที่เธอ เธอหันสายตาไปที่อื่นอย่างเย็นชา จากนั้นพูดเตือนสติสวีหว่านหนิงขึ้นมาว่า “สวีหว่านหนิง ป้าฉินเป็นโรคหัวใจ ไม่สามารถรับสิ่งกระตุ้นความรู้สึกตื่นตระหนกได้ ถ้าอยากแก้ไขปัญหาจริง ๆ ก็วางเศษแก้วลงซะ อย่าทำให้เรื่องมันจบแบบค้างคา เหมือนกับคืนนี้ที่ต้องมารวมตัวหารือกันเพื่อแก้ปัญหาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว”

เมื่อคุณนายฉินได้ยินคำพูดเมื่อครู่ที่นึกถึงสุขภาพของเธอ ก็รู้สึกทั้งเอ็นดูและเสียดาย สวีเหยียนซีก็เป็นคนหนึ่งที่พวกเขาเฝ้าดูการเจริญเติบโตของเธอ ตระกูลฉินไม่ได้สนใจฐานะทางสังคมของทางบ้านเลย ขอเพียงแค่เป็นคนดีเท่านั้น ดังนั้น พวกเขาจึงดีใจมาก ๆ ที่สวีเหยียนซีได้แต่งเข้ามาในตระกูลฉิน แต่ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องน่าอับอายแบบนี้

เมื่อเธอฉุกคิดได้ว่าลูกชายของตัวเองทำร้ายสวีเหยียนซี ความรู้สึกโกรธก็พรั่งพรูออกมาจนไม่สามารถกั้นไว้ได้ เธอเดินเข้าไปตบหน้าลูกชายที่ไม่เอาไหนของตนเองหนึ่งครั้งก่อนจะพูดว่า “แกมันสารเลวจริง ๆ ไอ้ลูกสารเลว!”

สวีหว่านหนิงเกียจสวีเหยียนซีจนเข้ากระดูกดำ แต่ในตอนนี้สองสามีภรรยาตระกูลฉินกลับเลือกที่จะปกป้องเธอ

ในขณะที่สวีหว่านหนิงเผลออยู่ สวีกั๋วหมิงก็ฉวยโอกาสนี้เข้าไปแย่งเศษแก้วในมือเธอมา “แกนี่มันบ้าไปแล้วเหรอหา!”

สวีหว่านหนิงตกใจเล็กน้อยก่อนจะโผเข้าไปกอดแม่พร้อมกับปล่อยน้ำตาร้องไห้ฟูมฟาย “ฮือ ๆ ๆ แม่คะ หนูไม่ได้อยากตายจริง ๆ หนูก็แค่ตัดใจจากพี่ฉินเซียวไม่ได้ หนูไม่อยากเสียพี่ฉินเซียวไป”

เมื่อสวีเหยียนซีมองดูฉากที่แสนวุ่นวายตรงหน้า ในใจเธอก็รู้สึกเจ็บปวดจนด้านชาไปหมด

เธอเองก็เสียใจนะ แต่ ณ เวลานี้ เธอกลับยังต้องแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ไม่สะทกสะท้านอะไร

เล็บที่จิกฝ่ามือมาเป็นเวลานานพอสมควร เธอพยายามสะกดอารมณ์และพูดขึ้นว่า “ฉินเซียว คุณคงยังไม่ลืมวันที่เธอเฉือนข้อมือตัวเองหรอกนะ คุณตั้งใจรอให้ฉันหลับก่อนแล้วค่อยออกมานอนข้าง ๆ เป็นเพื่อนเธอตลอดทั้งคืน ตอนที่หน้าผากของเธอได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นคุณที่อุ้มเธอกลับเข้าไปที่ห้อง”

“บางทีที่สวีหว่านหนิงพูดก็ถูกนะ คุณมีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอจริง ๆ ในเมื่อคุณแคร์เธอมากขนาดนี้ มันคงจะไม่ดีถ้าจะแยกทั้งสองคนออกจากกัน ไหน ๆ ตอนนี้ผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว พวกเราก็โต ๆ กันแล้ว อย่าทำตัวเหมือนเด็กเลย ตอนเราเจอกัน ก็เจอกันด้วยดี ตอนจากกัน ก็จากกันดี ๆ เถอะนะ”

คำพูดเหล่านั้นราวกับมีดที่ค่อย ๆ กรีดลงที่หัวใจของฉินเซียวทีละนิด ทีละนิด สิ่งต่าง ๆ ที่สวีเหยียนซีพูดมาทั้งหมด ดูเหมือนกับว่าเขาจะรับรู้ได้แค่ไม่กี่คำเท่านั้น เขายืนแข็งทื่อพลางค่อย ๆ ยกแขนขวาขึ้นมาชี้ที่ตัวเองและพูดว่า “คุณบอกผมว่า... ผมเหมือนเด็ก?”

สวีเหยียนซีเลิกคิ้วพลางพูดขึ้นว่า “ตลอดสองวันที่ผ่านมา คุณให้สัญญาว่าจะเปลี่ยนตัวเองกับฉันนับครั้งไม่ถ้วน ฉินเซียว คุณขอโอกาสจากฉัน แต่ทันทีที่คุณหันหลังไป คุณกลับไปกระซิบกระซาบถ้อยคำรักกับเธออย่างดูดดื่ม การกระทำโลเลแบบนี้ นอกจากจะเรียกว่าเป็นการกระทำเด็ก ๆ แล้ว แถมยังน่ารังเกียจอีกด้วย”

ตอนนี้ฉินเซียวพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวราวกับกำลังถูกบีบรัดที่ลำคอ

เมื่อก่อนเขาเคยเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบที่สุดในสายตาของสวีเหยียนซี แต่ในตอนนี้ เขากลับกลายเป็นคนที่เธอรังเกียจมากที่สุด

จากนั้นเขาค่อย ๆ กำหมัดแน่น เมื่อความรู้สึกเจ็บปวดผ่านไปแปรผันเป็นความโกรธ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะการวางแผนใส่ร้ายของสวีกั๋วหมิง เขาคงไม่ต้องตกอยู่ในสถานะที่ไร้ซึ่งกำลังโต้กลับและไร้ซึ่งคำพูดในการปฏิเสธขนาดนี้ เดิมทีเขาสามารถเอาชนะใจสวีเหยียนซีกลับคืนมาได้อยู่แล้วแท้ ๆ และทำเหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น

แต่เขาดันโดนเล่นงานอีกครั้ง

ทั้งหมดก็คงเป็นเพราะเขาอ่อนแอเกินไป ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ถึงขั้นนี้

ในขณะที่แม่สวีกำลังปลอบลูกสาวตัวเองก็พูดขู่ขึ้นมาว่า “ฉินเซียว ฉันขอพูดไว้ตรงนี้เลย ถ้านายไม่รับผิดชอบลูกสาวฉันล่ะก็ ต่อให้ฉันจะต้องทิ้งชีวิตที่เหลือนี้ไป ก็จะไม่ปล่อยนายไปอย่างแน่นอน!”

“ไม่ต้องห่วงครับ พวกเราตระกูลฉินจะรับผิดชอบหนิงหนิงอย่างแน่นอน แต่!” ประธานฉินยืนอยู่ตรงนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงและใจเย็น “เสี่ยวซีเป็นผู้ได้รับความเสียหายมากที่สุด เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นพวกเราตระกูลฉินหรือว่าเป็นพวกคุณตระกูลสวี ควรชดใช้ให้เธออย่างดีที่สุด”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status