“กรี๊ด พวกแก ดูทางนั้น”
“นั่นมันหนุ่มฮอตวิศวะปีสามนี่”
“มาหาใครกันนะ”
“วาสนาผู้ใดน้อ”
“นั่นสิ อยากรู้จังว่ามาหาใคร”
เสียงซุบซิบของบรรดานักศึกษาสาวดังขึ้นขณะหันมองสองหนุ่มหล่อที่สวมชุดช็อปสีแดงเลือดหมูเดินตรงเข้ามาในโรงอาหารของคณะบริหารธุรกิจ พลันทำให้กลุ่มของน้ำค้างที่เพิ่งกินข้าวไปได้เพียงไม่กี่คำ ต่างก็เงยใบหน้าขึ้นแล้วหันมองตามเสียงเล็กเสียงน้อยซึ่งดังอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ดวงตาคู่สวยของน้ำค้างจะเบิกโพลงเมื่อสองหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ทำเอาใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำราวกับทำตัวไม่ถูก
แต่แล้วหนุ่มรุ่นพี่ทั้งสองคนก็เดินมือล้วงกระเป๋าเสื้อผ่านโต๊ะของพวกเธอไปราวกับไม่ได้อยู่ในสายตา
“นั่นมันพี่นายน์กับพี่ฉลามนี่ เขามาหาใครอะ” เฟญ่าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนรู้จัก
สาขาการจัดการโรงแรม เป็นหนึ่งในสาขาของคณะบริหารธุรกิจ พวกเธอมักจะมากินข้าวที่นี่ทุกวัน แต่ไม่เคยเห็นสองคนนี้มาก่อน เพราะคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็มีโรงอาหารของตัวเองเหมือนกัน
“ก็คงมาหาผู้หญิงของเขาแหละมั้ง” น้ำค้างเอ่ยไม่เต็มเสียง ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อ
ส่วนไอรินที่เป็นสาวคู่นอนของนายน์ได้มองตามแผ่นหลังของเขาพลางยิ้มเยาะให้กับตัวเอง เรื่องนี้เพื่อนของเธอยังไม่มีใครรู้ และไม่คิดว่าวันนี้จะพบกันที่นี่ แล้วเขาก็ไม่แม้แต่จะปรายตามองเธอด้วยซ้ำ
“พี่ขอนั่งด้วยนะครับ”
เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้น้ำค้างเหลียวหลังไปมอง เคนกำลังยืนยกยิ้มจ้องมองลงมา ในมือถือจานข้าวรอคนที่นั่งอยู่เอ่ยอนุญาต
“ค่ะ”
เคนเข้าไปนั่งข้างน้ำค้าง แล้วทั้งสี่คนก็เอ่ยทักทายกันตามประสาคนเรียนสาขาเดียวกัน
ทางด้านฉลามกับนายน์
ทั้งสองเดินเข้าไปหาทะเลและเจมส์เพื่อนสนิทต่างคณะ ซึ่งกำลังยืนอยู่ที่ร้านอาหารตามสั่ง เนื่องจากก่อนมาได้ฝากเพื่อนสั่งข้าวให้ด้วย
หลังจากได้รับอาหารพวกเขาก็มองหาโต๊ะว่างเพื่อนั่งกินข้าวมื้อเที่ยง แต่ดวงตาคู่คมก็จ้องไปยังน้ำค้างที่กำลังนั่งอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง ฉลามจึงรีบเข้าไปหาทันที
“เฮ้ย จะไปไหนวะ” เจมส์รีบเอ่ยตามหลัง ก่อนจะหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่ไหวไหล่ใส่
ฉลามถือวิสาสะนั่งลงข้างน้ำค้าง เพื่อนของเขาอีกสามคนก็ตามเข้ามานั่งด้วยกัน โดยที่นายน์เลือกนั่งข้างไอริน
“รู้จักกันด้วยเหรอ”
ทะเลนั่งลงข้างฉลามก็เอ่ยถามอย่างสงสัย ปกติเขาไม่เคยเห็นเพื่อนสนใจผู้หญิงในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ไม่เคยเข้าหา หรือนั่งกินข้าวกับสาวคนไหนมาก่อน แต่วันนี้มาแปลก ได้รับจานข้าวที่สั่งให้แล้วก็ไม่พูดไม่จา เดินตรงดิ่งมานั่งข้างสาวสวยคนนี้ทันที
“อืม รู้จัก”
ฉลามหันไปตอบเพื่อน ก่อนจะหันใบหน้าหล่อมองไปยังหญิงสาวที่นั่งตัวเกร็งเพราะมีผู้ชายนั่งขนาบข้าง ฝั่งซ้ายเป็นผู้ชายที่เธอใช้แอบอ้างว่าเป็นแฟน ส่วนฝั่งขวาก็คือเขา คนที่คุยแชทบอกฝันดีกันทุกคืน แต่ยังไม่มีสถานะ
“รู้จักเป็นอย่างดีเลยล่ะ”
เขาเอ่ยพลางกระตุกยิ้มมุมปากทำให้หญิงสาวเสียอาการไม่น้อย ก่อนฉลามจะหันไปกินข้าวที่ซื้อมา
“เอ… สองคนนี้นี่ยังไงกันนะ”
เฟญ่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งสายตาจ้องจับผิด ทำไมหล่อนถึงรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับสองคนนี้
“ไม่มีอะไร”
น้ำค้างโพล่งขึ้นอย่างเร็วพลัน ทำเอาพวกเพื่อนทำหน้าตกใจกันหมด ก่อนจะลดน้ำเสียงลงแล้วเอ่ยต่อ
“พวกเราก็แค่รู้จักกันตอนที่พี่นายน์ชวนไอรินไปเที่ยวไง”
เอ่ยจบเธอก็ก้มลงมองจานข้าวอย่างหลบสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา ก่อนจะหันไปทำตาโตใส่หาหนุ่มวิศวะที่นั่งข้างกัน ส่งสัญญาณว่าหยุดพูดสักทีเถอะ อีกฝ่ายก็กระตุกยิ้มขำเธอในลำคอ ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวอย่างไม่ใส่ใจ
เพื่อนสาวสองเป็นคนช่างพูดและเข้าคนง่าย จึงเอ่ยชวนพวกรุ่นพี่พูดคุยทำความรู้จัก เคนซึ่งอยู่ปีสามเหมือนกันเขาก็พอรู้จักทะเลและเจมส์อยู่บ้าง เนื่องจากสองคนนี้เป็นหนุ่มฮอตของสาขาการจัดการ นักศึกษาสาวหลายคณะต่างให้ความสนใจ แต่ทั้งสองหนุ่มก็ไม่เคยมีข่าวว่าคบกับใครทั้งนั้น
ส่วนอีกสองคนที่อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ เคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ฉลามเขาเคยเห็นแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าเข้ามาตามจีบน้ำค้างหรืออย่างไร เธอถึงได้รีบวิ่งมาหาแล้วอ้างว่าเขาเป็นแฟน
“ปลาหมึกครับ”
เสียงละมุนของเคนเอ่ยพลางตักปลาหมึกที่อยู่ในจานของตนมาวางลงบนจานของหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม ถ้าเป็นอาหารตามสั่งเขามักจะสังเกตว่าน้ำค้างชอบเมนูที่ทำจากปลาหมึก แต่วันนี้เธอเปลี่ยนไปกินอย่างอื่น เขาจึงถือโอกาสนี้ตักผัดกะเพราปลาหมึกให้เธอ เพื่อตอกย้ำคนที่มาคอยตามตื๊อรู้ว่าแฟนของเธอนั่งอยู่ตรงนี้
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
น้ำค้างเอ่ยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความแปลกใจ เธอกำลังงงว่าทำไมเคนถึงตักปลาหมึกให้ แม้ว่าทั้งสองจะสนิทกันระดับหนึ่ง แต่เขาก็จะมีช่องว่างของความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เฟญ่ากับไอรินก็คงแปลกใจไม่ต่างกัน จึงพากันจ้องมายังเธอกับเคนด้วยความสงสัย
ข้าวในจานของน้ำค้างพร่องลงไปครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ กระโปรงนักศึกษาของเธอก็ถูกกระตุกอยู่ใต้โต๊ะ หญิงสาวละสายตาออกจากอาหารก้มลงมองด้านล่างแต่ก็ไม่พบอะไร จึงเอียงใบหน้ามองไปยังหนุ่มรุ่นพี่ที่นั่งขวามือ แล้วเขาก็ยักคิ้วข้างซ้ายพลางส่งสายตาลงไปที่กระโปรงของเธออีกครั้ง
น้ำค้างลอบถอนหายใจ เขาหาเรื่องแกล้งเธอแม้กระทั่งเวลากินข้าว ด้วยความรำคาญจึงเลื่อนมือลงไปปัดกระโปรงเพื่อให้เขาสมใจทั้งที่มันก็ไม่ได้เปื้อนอะไร แต่แล้วมือหนาของฉลามก็รีบคว้ามือของเธอเข้าไปกอบกุมเอาไว้แน่นอย่างเอาแต่ใจ
อกข้างซ้ายของหญิงสาวส่งเสียงดังสนั่น ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวพวงแก้มแดงปลั่ง ก่อนจะควบคุมสติพยายามดึงมือออก และดีที่เขาแกล้งเธอไม่นาน น้ำค้างรีบเลื่อนมือขึ้นมาหยิบขวดน้ำขึ้นดื่ม เพื่อดับไอร้อนบนใบหน้าที่ปะทุขึ้นเรื่อย ๆ
“ฉันอิ่มแล้ว ขอเอาจานไปเก็บก่อนนะ”
เอ่ยจบน้ำค้างก็รีบลุกออกจากโต๊ะไปทันที ไอรินกับเฟญ่าต่างก็หันมามองกันอย่างงุนงง ปกติสามสาวจะรอให้กินเสร็จพร้อมกันเสียก่อนถึงจะเอาจานไปเก็บ ไม่ต่างจากเคนที่เหลียวมองตามแผ่นหลังของน้ำค้างที่มีหนุ่มวิศวะลุกตามกันออกไป
“อุแว้ อุแว้…”ทารกน้อยเปล่งเสียงร้องเมื่อตื่นขึ้นลืมตาดูโลกในวินาทีแรกที่คลอดออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ฉลามได้เข้าไปให้กำลังใจอยู่ข้างเตียงของเมียอยู่ไม่ห่าง ทั้งสองต่างหันจ้องมองกัน ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำสีใส ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความสุขที่เฝ้าทะนุถนอมเด็กน้อยในท้องมาตลอดเก้าเดือน แต่ตอนนี้ได้เห็นหน้ากันแล้วหลังจากทำความสะอาดร่างกายและตรวจเบื้องต้นเสร็จหมอก็อุ้มมาวางไว้แนบอกของผู้เป็นแม่ เพื่อให้เธอได้มอบน้ำนมหยดแรกให้เจ้าตัวน้อยได้ดื่มกินหยาดน้ำตาของน้ำค้างร่วงหล่นอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกโล่งและดีใจที่ได้เห็นลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แถมยังหน้าตาจิ้มลิ้มมีส่วนคล้ายทั้งพ่อและแม่อย่างไม่ต้องสงสัยว่าเป็นลูกของใครฉลามเลื่อนมือไปลูบลูกสาวผ่านผ้าอ้อมสีขาวที่ทางโรงพยาบาลใช้ห่อหุ้มตัวเด็กน้อยอย่างเบามือ ทั้งสองไม่เคยคาดหวังจึงไม่เคยผิดหวังว่าลูกคนแรกจะต้องเป็นลูกชายหรือลูกสาว ขอเพียงเป็นลูกที่เกิดจากทั้งสองคน พวกเขาก็พร้อมที่จะรักและเอ็นดูไม่ต่างกัน รวมถึงพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เคยคาดหวังในเรื่องนี้เช่นกันว่าจะต้องได้หลานชายเป็นคนแรก“หลานของพวกเรามาแล้ว”นภา แม่ของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียง
ครบกำหนดสองอาทิตย์ที่น้ำค้างขอเวลาจากผู้เป็นพ่อ เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างคนที่เธอคิดถึงมาตลอด คอยเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หลังจากนั้นเธอก็กลับไปรับตำแหน่งผู้จัดการโรงแรม สานต่อธุรกิจที่พ่อและแม่สร้างร่วมกันมา และเก็บรักษาไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวสามเดือนหลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่มผู้เป็นเจ้าของหัวใจและเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธออยากฝากชีวิต อยู่ดูแลกันและกันไปจนแก่เฒ่าหาดทรายสีขาวด้านหน้าร้านอาหารริมทะเลซึ่งเป็นบ้านเกิดของฉลามได้ถูกเนรมิตให้เป็นงานแต่งสุดเรียบหรู พิธีสำคัญได้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความยินดีของญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย และเพื่อนสนิทที่มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าร้านอาหารของครอบครัวฝ่ายชายได้ถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมงคล มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มจัดเตรียมเอาไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งสองครอบครัวต่างปลื้มปิติไม่ต่างจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ได้เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกันงานเลี้ยงจบลงคู่บ่าวสาวก็อยู่กันตามลำพังที่เรือนหอชั่วคราว นั่นก็คือห้องของฉลาม คืนนี้พ่อและแม่ของเขาเต็ม
“คุณนิรุตช่วยผมดูนี่หน่อยสิ”“อะไรเหรอครับ”นิรุตปรายตามองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ชยันต์เปิดไฟล์วิดีโอ แล้วหันหน้าจอมาทางเขา ก่อนจะกดปุ่มเอ็นเทอร์เพื่อเล่นภาพเคลื่อนไหว(อะ อ๊า… แรงอีกค่ะ ช่อชอบที่คุณตอกแรง ๆ)(คุณช่วยบดลงมาด้วย ซี้ด… อย่างนั้นแหละ)“ว้าย นี่มันอะไรกัน”หญิงวัยกลางคนได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากคลิปวิดีโอ จึงตกใจรีบวิ่งอ้อมโต๊ะทำงานเข้าไปโอบกอดหน้าจอ หวังใช้ตัวบังภาพอันน่าอายซึ่งไม่ต้องบอกว่าเป็นภาพของใครชู้รักทั้งสองคนใบหน้าร้อนชาส่งสายตามองกันอย่างผวา ชยันต์เริ่มระแคะระคายเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน“นี่คุณแอบติดกล้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”“หึ ถ้าคุณรู้ว่าก็คงไม่มีหลักฐานคาตาว่าคนที่ผมไว้ใจทั้งสองคนกำลังแอบเล่นชู้กันอยู่”“คุณชยันต์ครับ ฟังผมอธิบายก่อน”“รอไปคุยกันในชั้นศาลเถอะ คุณถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงเงินของโรงแรม และร่วมมือกันวางยาผม คุณก็เหมือนกันคุณช่อ ผมจะฟ้องคุณในฐานสมรู้ร่วมคิดและฟ้องชู้ พวกคุณทั้งคู่เตรียมตัวกันได้เลย”“กรี๊ด… คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นเมียคุณ ฉันดูแลคุณมาตั้งนาน”“หึ แล้วเมียทำกับผัวแบบนี้เหรอ ผมไว้ใจคุณ คอยดูแลคุณ
สองเดือนต่อมา“วันนี้ผู้จัดการโรงแรมจะมาหาคุณชยันต์ที่บ้าน ฝากกำชับทุกคนด้วยว่าอย่าขึ้นไปยุ่มย่ามที่ชั้นสองเด็ดขาด เข้าใจไหม”นายหญิงของบ้านเอ่ยสั่งแม่บ้านเก่าแก่ให้ฝากไปบอกกับคนอื่น ๆ เนื่องจากช่วงนี้ชยันต์ไม่สบาย จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยที่โรงแรมได้“ค่ะคุณช่อ”“เข้าใจแล้วก็รีบไปทำงานสิ มัวมายืนบื้ออยู่ทำไม”“ค่ะ”ช่อผกาออกคำสั่งเสร็จก็ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเข้าไปหาสามีที่มีใบหน้าเหนื่อยล้าในห้องทำงาน เธอยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ เลื่อนแขนทั้งสองข้างสวมกอดรอบคออย่างที่เคยทำเป็นประจำ“คุณกำลังไม่สบายอยู่ อย่าเอาแต่ทำงานสิคะ”“ผมยังมีเอกสารที่ต้องเคลียร์อีกเยอะ แล้วก็นัดนิรุตไว้ตอนบ่ายสามด้วย”นิรุตเป็นบุคลากรที่เขาเชื่อมั่นในฝีมือการทำงาน เป็นคนที่คัดเลือกมากับมือให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในบรรดาตำแหน่งอื่น ๆ รองจากเขา ชยันต์ไว้ใจนิรุตเป็นอย่างมาก หวังจะให้สอนน้ำค้างหลังจากเธอกลับมาดำรงตำแหน่งเดียวกัน เพราะว่าอีกไม่กี่ปีลูกน้องที่เขาเชื่อมั่นก็จะเกษียณแล้ว“งั้นเดี๋ยวฉันลงไปเอาข้าวกับยามาให้นะคะ”ชยันต์มองแผ่นหลังของภรรยาเดินออกจากห้อง สักพัก
ประเทศออสเตรเลีย“ห่างแค่คืนเดียวก็คิดถึงใจจะขาด พี่คิดถึงฉันไหม”น้ำค้างลงจากเครื่องแล้วเดินทางไปถึงบ้านของผู้เป็นแม่ ก็รีบตรงดิ่งขึ้นไปบนห้องนอน หยิบโทรศัพท์มากดวิดีโอคอลไปหาฉลามทันที และดีที่มันตรงกับช่วงพักเที่ยง เขาจึงมีเวลารับสาย(คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงมากด้วย)“พี่ฉลาม ฉันมีอะไรจะให้ดู”ฉลามจ้องมองแฟนสาวในหน้าจอมือถือ เหมือนว่าเธอกำลังเอื้อมหยิบอะไรบางอย่าง ก่อนจะพบว่ามันเป็นสมุดโน้ต แล้วเธอก็เปิดไปยังหน้าที่ต้องการให้เขาดู(ดอกสแตติส)“ใช่ค่ะ ฉันสตัฟฟ์ไว้ในสมุด จะเอาพกติดตัวไปเรียนทุกวันเลย”(หึ น่ารักจัง พี่ก็มีเหมือนกัน)“อะไรเหรอคะ”จากนั้นเขาก็หยิบกิ๊บติดผมที่เป็นโบว์สีชมพูขนาดเล็กที่เธอชอบใช้ขึ้นมาโชว์ให้ดู พร้อมกับส่งรอยยิ้มหล่อไปให้แฟนสาวที่เผยรอยยิ้มหวานจนหน้าแดง“แอบขโมยไปตอนไหนเนี่ย ถึงว่าหาไม่เจอเลย”(เอามาตั้งแต่เริ่มทำงาน)“พี่น่ารักแบบนี้ไง ฉันถึงโคตรรักพี่มากเลย”(พี่ก็โคตรรักเธอเหมือนกัน)“คิกคิก”(หึหึ)ทั้งสองต่างหยอกล้อด้วยคำบอกรัก ส่งเสียงหัวเราะคิกคักกันอย่างมีความสุขช่วงเวลาที่อยู่ไกลกันก็ไม่ได้กระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในทุกวันยังสามารถโทรคุยแบบเห็
ทางด้านช่อผกา“ฉันได้ยินคุณชยันต์บอกว่านังเด็กน้ำค้างจะไปเรียนต่ออยู่กับแม่ของมันที่เมืองนอก เห็นทีอนาคตที่ฉันคิดไว้ว่าจะให้แกรับช่วงต่อโรงแรมก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม”ช่อผกาเข้าไปหาลูกสาวในห้อง ตอนนี้มหาวิทยาลัยได้ปิดภาคเรียนแล้ว และยิปโซก็เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมาวันแรก เนื่องจากช่วงก่อนเธอได้ขอผู้เป็นแม่ออกไปอยู่ข้างนอก นั่นก็คือไปอยู่ที่คอนโดของเคน เพื่อหลีกเลี่ยงถ้อยคำชักจูงของผู้เป็นแม่ให้ทำในสิ่งที่เธอไม่เต็มใจ แล้วที่กลับมาบ้านก็เพื่อมาเก็บเสื้อผ้า เพราะว่าต้องไปฝึกงานที่ต่างประเทศสามเดือน“แม่ แต่ฉันไม่ได้อยาก…”ช่อผการีบยกนิ้วชี้ไปที่หน้าของยิปโซ ถลึงตาใส่ลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นน้ำเสียงกร้าว“แกหุบปากไปเลย ฉันเลี้ยงแกมาลำบากแค่ไหนก็น่าจะรู้ ทำไมไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณฉันบ้างฮะ แกจะโง่เรียนจบมาแล้วมาเป็นขี้ข้าคนอื่นหรือไง ได้นั่งอยู่ในห้องผู้บริหารแค่ชี้นิ้วสั่งลูกน้องแล้วมันไม่ดียังไง”“มันไม่ดีตรงที่มันไม่ใช่ของเราไงแม่”“นังโง่ แกเป็นลูกแม่ แม่เป็นเมียคุณชยันต์ ของผัวก็เหมือนของเมีย แล้วมันจะไม่ใช่ของเราได้ยังไง แกไม่ต้องคิดจะอ้าปากเถียง รีบเรียนให้จบแล้วกลับมาช่