Home / วัยรุ่น / หลงกลรักวิศวะตัวร้าย / บทที่ 06 น่าหมั่นไส้

Share

บทที่ 06 น่าหมั่นไส้

last update Last Updated: 2025-10-04 14:16:38

"เดี๋ยวนะ ทำไมเราต้องถ่อมากินข้าวถึงนี่เลยวะ" ฉันเงยหน้าจากข้าวราดแกงที่กำลังเขี่ยไปเขี่ยมาหลายนาที แล้วกวาดสายตามองรอบโรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์หลังจากที่ถูกยัยซินดี้ลากมาทานถึงที่นี่ ทั้งที่สองปีที่เรียนมาก็วนเวียนอยู่แต่ในโรงอาหารนิเทศทุกวัน

"เปลี่ยนบรรยากาศไงมึง ทานแบบเดิม ๆ มึงไม่เบื่อบ้างเหรอ?" ฉันจะไม่อะไรเลยหากในตอนที่มันพูดแล้วไม่ยกยิ้มกริ่มและแววตาเปี่ยมไปด้วยความสุขล้นจนออกนอกหน้า แน่นอนว่าคำพูดของมันก่อนหน้าดูไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิดเดียว

"เอาความจริง" ฉันจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง สุดท้ายซินดี้ก็ยอมถอนหายหายใจแล้วเล่าความจริงออกมา

"กูอยากมาหาพี่เปเปอร์"

"นั้นไง กูว่าละ" โอโซนตบโต๊ะฉาดเสียงดังลั่น แม้แต่ฉันก็ยังตกใจที่อยู่ ๆ มันก็ทำหน้าเหมือนรู้อะไรบางอย่างชี้นิ้วใส่ซินดี้ พร้อมหรี่ตาลงอย่างกับตำรวจที่กำลังสอบสวนผู้ร้ายเหมือนในละคร

"เมื่อคืนมึงถึงได้ดี๊ด๊าที่ได้อยู่อู่ซ่อมรถพี่เปอร์ กูเข้าใจถูกใช่ปะ!?"

"กะ ก็…" ซินดี้หลบหลีกสายตาคู่สวย บิดเขินตัวม้วนถ้าเป็นผ้าเปียกก็คงไม่ต้องเสียเวลาตากแห้ง อาการนี้เดาไม่ยากเลยว่าคงมีซัมติงอะไรบางอย่างกับพี่เปเปอร์แน่นอน

"เล่ามาค่ะ ไม่ต้องทำตัวเขินเหมือนเพิ่งมีผัวคนแรก"

"พี่เขาเป็นเพื่อนพี่เซนต์สมัยเรียนมัธยมแล้ว ไม่ได้เจอกันนานมาก จนเมื่อคืนได้เจออีกครั้ง หัวใจก็ยังเต้นแรงเหมือนเดิม"

"มึงอย่าบอกนะว่าป๊อปปี้เลิฟอะ"

"ก็ประมาณนั้น" ยัยซินดี้แทบจะบิดตัวเป็นเกลียวในตอนตอบคำถาม เชื่อแล้วว่ามันคงจะชอบจริง ๆ เพราะตอนตอบใบหน้าสวยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ปริ่มไปด้วยความสุขหรือจะเรียกว่าคลั่งรักเขาเลยก็ว่าได้

"กูว่าพระแม่เริ่มทำงานให้มึงอีกคนละว่ะ" โอโซนว่าจบก็ส่ายหน้า ในขณะที่ยัยซินดี้ก็ยังพร้ำเพ้อถึงชายในฝันไปไกล อาการหนักชนิดที่กู่กลับมาไม่ทัน แต่ฉันกลับเอะใจกับประโยคที่เพิ่งจบไป

"พระแม่ทำงานให้อีกคน แปลว่าพระแม่ก็ทำงานให้มึงละเหรอ?" ฉัยถามในสิ่งที่สงสัย

"ให้มึงต่างหาก"

"กูเนี่ยนะ?" ตอนไหน ไม่ยักจะรู้เรื่องเลยสักนิด

"ก็พี่เซฟไง"

"ไอพี่เซฟเนี่ยนะ ไม่ใช่ละ" ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่เห็นจะมีตรงไหนเข้าข่ายเลยสักนิดยกเว้น รูปหล่อ หน้าตาดี ฟีลอปป้าเกาหลี และรวยด้วยมั้งเพราะขับถึงเฟอร์รารี่รุ่นลิมิเต็ดไม่กี่คันบนโลก...ก็แค่นั้น

"แต่กูว่าใช่"

"ไม่ใช่!!" ฉันจ้องยัยโอโซนตาขวาง

"เออ แล้วแต่มึงเถอะ เสียงแข็งให้ตลอดรอดฝั่งแล้วกัน" จนสุดท้ายมันก็ยอมปล่อยฉันไปแล้วหันมาโฟกัสกับคนเหม่อลอยต่อ

"ว่าแต่มึงเหอะ เอาไง...จะจีบพี่เขา?" สิ้นคำถามนั้นยัยซินดี้ก็หลุดจากภวังค์ความฝันชั่วครั้งชั่วคราว แล้วมันก็ทำหน้าครุ่นคิดไปตามคำถามที่ถูกยิงถาม

"เออว่ะ เอาไงดีวะ มึงว่ากูจีบพี่เขาเลยดีปะ?"

"แล้วที่มึงลากพวกกูมาไม่ใช่เพราะอยากจะจีบเขาหรือไง?" ฉันถามมันกลับ วิศวะกับนิเทศไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือติดกันเลยสักนิด ออกจะห่างกันคนละฟากเลยด้วยซ้ำ ทำขนาดนี้ฉันก็เข้าใจว่ามันอยากจะจีบเขาแต่แรก

"เปล่า…ตอนแรกแค่คิดว่าได้เห็นหน้าก็พอแล้วไง แต่พอยัยโซนถามแบบนี้กูก็เริ่มคิดขึ้นมาแล้ววะ"

"แปลว่ามึงจะจีบเขาจริง ๆ?"

"ใช่ เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย" อยู่ ๆ สายตาของยัยซินดี้ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน มันดูมุ่งมั่นและฮึกเหิมชั่วพริบตาเดียว ให้ตายเถอะ…มันมาถึงจุดที่จะต้องตามจีบผู้ชายเองแล้วเหรอ ทั้งที่ผ่านมามันล้วนแต่เป็นฝ่ายที่ถูกเขาตามจีบไม่หยุด ถูกแจกขนมจีบเป็นว่าเล่น เดี๋ยวคนนู้นทีคนนี้ทีไม่ซ้ำหน้าแต่ก็ทิ้งเขาเป็นว่าเล่นเช่นกัน

"พวกมึงต้องช่วยกูด้วยนะ กูจะไม่ยอมปล่อยรักแรกกูไปอีก"

"แล้วพวกกูไปเกี่ยวอะไรด้วย?" ฉันเลิกคิ้วถามมัน ถ้าผู้ชายจะชอบหรือไม่ชอบ พวกฉันจะไปทำอะไรได้

"ชงเข้ม ๆ ไม่ก็สร้างสถานการณ์ไงเพื่อนรัก"

"มึงจริงจังเลยใช่ไหมซิน"

"คนนี้พ่อของลูก"

"เชี่ย…" ฉันไม่เคยเห็นซินดี้จริงจังกับความรักขนาดนี้มาก่อนเลย ที่ผ่านมาก็รัก ๆ เลิก ๆ ทิ้งผู้ชายว่าเล่น

"มานู้นแล้วมึง…" ฉันมองตามสายตาของยัยโอโซนที่กำลังบุ้ยปากตรงไปข้างหน้า ยัยซินที่นั่งตรงข้ามก็หันหลังมองตามคอแทบหัก เราสามคนจึงเห็นกลุ่มกลุ่มหนึ่งที่เดินเรียงแถวมาพร้อมหน้า อย่างกับกลุ่มนักร้องวงบอยแบนด์เกาหลีที่คัดหน้าตาจัดตั้งวงขึ้นมา เพราะพวกเขาทุกคนล้วนหน้าตาดีหมดมีทั้งหมดถึงสี่คนละลานตาจนไม่รู้จะจับจ้องใครก่อนดี

แต่คนยืนกลางของวงดันเรียกสายตาฉันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว ถึงจะหล่อในแบบที่ฉันชอบมากแต่จุดประสงค์ที่ฉันมองไม่ใช่เพราะความหล่อเลยสักนิด แต่ดันไม่ชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจออยู่แล้ว พอเห็นเจ้าตัวสายตาก็พร้อมจะกรอกตาใส่และบึนปากออกมาอัตโนมัติ

ใช่…ฉันหมายถึงไอพี่โจเซฟนั้นแหละ มีคนเดียวที่ทำให้ฉันไม่ชอบหน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอได้ ไม่ต้องถึงห้านาทีเหมือนผู้ชายทั่วไปที่ฉันตัดสินหรอก แต่แค่เสี้ยววิด้วยซ้ำฉันก็ฟันธงว่าฉันไม่ชอบและเป็นคนไม่ดีแน่นอน!

"เชี่ย…หล่อฉิบหาย" ยัยโอโซนอ้าปากหวอ ยังจดจ้องกลุ่มคนหล่อเหล่านั้นตั้งแต่เขาย่างกรายเข้ามาในโรงอาหาร จนใกล้จะเดินมาถึงโต๊ะของเรามันก็ยังมองเขาไม่เลิก

"อย่างกับเทพบุตรเดินได้" ซินดี้ก็เอากับเขาด้วยอีกคน เว่อร์กันไปเองทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่แค่พวกมันสองคนที่มอง เพราะตอนนี้เกือบทั้งโรงอาหารก็พากันจับจ้องพวกเขาอาการไม่ได้ต่างจากเพื่อนฉันสักเท่าไหร่ แม้แต่ผู้ชายเองก็ยังมองตามสายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม

"กูเรียกพี่เขามานั่งด้วยมึงว่าดูแรดเกินไปปะ?" ยันซินรีบหันขวับกลับมาถามก่อนพวกเขาจะมาถึง แน่นอนว่าฉันกับโอโซนตอบพร้อมกันโดยไม่ต้องผ่านสมอง

"แรด!"

"พี่เปอร์!" เสียงของฉันและโอโซนฟังดูไม่มีค่าพอให้มันเชื่อ พอมันได้ยินเราตอบจบก็รีบหันไปโบกไม้โบกมือเรียกพี่เปเปอร์ให้หันมามองทันที

"แล้วมันจะถามเราทำไมวะ" คนนั่งข้างฉันกระซิบถามเสียงเบา ซึ่งฉันเองก็พยักหน้ารับไม่เข้าใจมันเหมือนกัน

"เอ้าซิน…ทำไมมาอยู่นี่ได้" พี่เปอร์ที่โดนเรียกมาแต่ไกลก็ตรงบึ่งมาโต๊ะที่เรานั่ง แต่ไม่ได้มาคนเดียวเขากลับพกกลุ่มของเขามากันครบทีม หนึ่งในนั้นก็เป็นไอพี่โจเซฟที่จ้องมาที่ฉันสายตาราบเรียบ แต่ฉันกลับเบือนหน้าหนีไม่อยากจะมองให้รกลูกตา

"เห็นเขาบอกว่าที่นี่อาหารอร่อย ซินอยากมาลอง" เขาไหน…ใครบอก ไม่มีใครเลยสักคน เพื่อนรักของฉันแสดงเก่งที่สุดเลย อยากจะปรบมือให้

"แล้วอร่อยจริงไหม?" พี่เปอร์ถามกลับ ทำเอายัยซินเริ่มหน้าแดงก่อนจะตอบกลับเขาเสียงหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าเลยทีเดียว

"ก็ดีนะคะ ซินชอบ"

"มึงว่าเขาคุยกันเรื่องข้าวอยู่ใช่ไหมวะ?" โอโซนกระซิบถามฉันเป็นครั้งที่สอง คำถามนี้ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ยัยนี่กำลังบอกชอบกับข้าวหรือชอบพี่เขากันแน่ เริ่มไม่แน่ใจ…

"พวกพี่มีโต๊ะยัง นั่งด้วยกันไหมคะ โซนอยากอัปเดตเรื่องรถด้วย" อยู่ ๆ ยันโซนก็เปลี่ยนไปอีกคน มันหันไปคุยกับกลุ่มพี่เปเปอร์แล้วชวนเขานั่งโดยไม่ปรึกษาเพื่อนเลยสักนิด

"ได้ดิ เดี๋ยวไปซื้อข้าวก่อน เดี๋ยวมา" แล้วพวกขายาวทั้งหลายก็พากันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฉันคนเดียวที่ยังไม่ได้ออกความเห็นรีบจ้องยัยโอโซนเพื่อคาดโทษทันที

"ก็ไอซินมันเขี่ยเท้ากูไม่หยุดเลย ก็ต้องช่วยแล้วไหม" โอโซนรีบอธิบาย ฉันจึงเปลี่ยนจากสายตาคาดโทษมองยัยซินดี้แทน

"มึงไม่อยากช่วยให้กูสมหวังเหรอ นั้นว่าที่พ่อของลูกกูเลยนะ" คนตรงข้ามกระพริบตามองปริบ ๆ พยายามจะออดอ้อนอ้อนวอนทางสายตาเพื่อให้ฉันยอมง่าย ๆ

"กูช่วยมึงได้ แต่เอาแค่ตอนที่พี่เปอร์อยู่คนเดียวไม่ได้หรือไงวะ" กูไม่ชอบหน้าพี่เซฟ นั้นคือสิ่งที่ฉันต้องการอยากจะบอกมันที่สุด

"พวกเขาตัวติดกันจะตาย นะ…มิวนะ ช่วยกูหน่อยนะ พลีส…" มือบางเอื้อมมาจับมือฉันไว้แล้วทำในสิ่งที่ฉันต้องขนลุก คือกุมมือมาแนบข้างแก้มมันจนฉันต้องชักมือออก

"เออ…ทำอะไรก็ทำ แต่อย่าทำแบบนี้ กูขนลุก"

"รักมิวสิคที่สุดเลย" แล้วมันก็ยังไม่หยุดทำในสิ่งที่ฉันห้าม ทำเอายัยโอโซนระเบิดหัวเราะชอบใจ แล้วเพียงไม่นานต่อจากนั้น กลุ่มคนขายาวหน้าตาดีก็กลับมานั่งร่วมโต๊ะพร้อมถือจานข้าวคนละจาน

พี่เปอร์ทำการแนะนำเพื่อนของเขาและเพื่อนของเราให้รู้จักกัน โดยตำแหน่งการนั่งคือยัยซินดี้ พี่เปอร์ และพี่เซฟอยู่ฝั่งเดียวกันคือฝั่งตรงข้ามฉัน ส่วนข้าง ๆ ฉันก็เป็นพี่สายลมและพี่กัปตันเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับพี่เปเปอร์ที่ตามมานั่งด้วย

"ส่วนเรื่องรถเราน่ะ สุดท้ายคือยางรั่วนะ เหมือนจะเป็นเศษแก้วแตกที่ทำให้มันรั่ว นอกจากล้อนั้นแล้วล้อหน้าซ้ายก็เหมือนจะโดนไปด้วยพี่เลยเปลี่ยนให้ทั้งสองเส้น"

"ถ้างั้นพี่ก็คิดราคาเพิ่มมาได้เลย เมื่อคืนเราตกลงกันแค่ล้อหลังที่รั่วเอง"

"ไม่เป็นไร ถือว่าพี่เปลี่ยนให้ฟรี สิทธิพิเศษ" ยัยโอโซนยิ้มกว้างปากแทบฉีกเมื่อได้ยินคำว่าฟรี ยัยงกเป็นทุนเดิมออกนอกหน้าจนน่าหมั่นไส้ ยิ่งได้ยินคำว่าฟรีก็หูผึ่งขึ้นมา ขณะที่ฉันนั่งทานข้าวอยู่เงียบ ๆ ก็รู้สึกถึงสายตาใครบางคนที่กำลังมองมา ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นก็เห็นเป็นพี่เซฟที่จดจ้องฉันตลอดเวลา

มองอะไรนักหนา!

ฉันกรอกตาใส่เขาแล้วเบือนหน้าออก ไม่วายจะเห็นไอพี่เซฟระบายยิ้มออกมากับท่าทางของฉัน ทำให้เพราะเบื่อขี้หน้าแต่เขากลับชอบใจเสียอย่างนั้น

ประสาท!

"ต่อไปอย่าไปเส้นนั้นอีกล่ะ ถ้าไอเซฟไม่ไปเจอ ป่านนี้จะเป็นยังไง" พี่เปอร์หันไปทำหน้าดุใส่ยัยซิน แต่ทำไมมันกลับดูละมุนละม่อมไม่เหมือนคนที่อยากจะดุจริง ๆ เลยสักนิดเดียว

"รู้แล้วค่า ขอบคุณนะคะพี่เซฟที่จอดช่วยไว้"

"ไม่เป็นไรครับ"

ไม่เป็นไรครับ…หึ เก็กเป็นบ้าเลย คิดว่าตัวเองหล่อมากเลยหรือไงกัน

"พี่เซฟคะ…" บทสนทนาของคนบนโต๊ะเงียบลงเมื่อมีใครอีกคนที่เดินมาจากข้างหลังพี่เซฟ ก่อนจะฉีกยิ้มหวานแล้วบิดตัวไปมาไม่ยอมพูดอะไรออกมาเสียที

"ครับ?"

"คะ คือ…หวานให้ค่ะ" กว่าจะพูดแล้วยื่นของขวัญออกมาได้ยัยผู้สาวคนนี้ทำฉันแทบกลั้นหายใจตามไปด้วย

"ขอบคุณครับ" พอไอพี่เซฟยื่นมือไปรับ ยัยหวานอะไรนั้นก็รีบก้มหน้าเดินหนีออกไปทันที จะว่าเธอดูขี้อายมากก็พูดเต็มปากไม่ได้ คนขี้อายประสาอะไรที่เอาของมาให้ในตอนที่มีคนอยู่เยอะแบบนี้ แถมยังกลางโรงอาหารคณะอีก ดูก็รู้แล้วว่าแอ๊บเขินแน่นอน

"น่าหมั่นไส้" ฉันเบะปากกล่าวเสียงเบา ๆ แล้วหันหน้าหนีออกมา แน่นอนว่าคนอื่นนั้นไม่ทันได้ยินเสียงแขวะของฉัน ทว่าคนที่นั่งข้าง ๆ อย่างยัยโอโซนกลับเลิกคิ้วมองหน้าฉันเพราะมันได้ยิน

"ฮอตฉิบหายเลยครับคุณโจเซฟ" พี่กัปตันยิ้มล้อเลียนเพื่อนที่ได้รับของขวัญ ทว่าเขากลับไม่ได้ทำเหมือนตื่นเต้นแถมยังยื่นของขวัญให้พี่สายลมอีกต่างหาก

"กูให้"

"อะไรของมึง เขาให้มึงไม่ได้ให้กู" พี่สายลมดันคืนกลับสู่เจ้าของ แต่พี่เซฟก็ดันกลับไปใหม่ยื้อกันไปมาแบบนั้น

"ไอลมมึงก็รับ ๆ ไปเถอะ ไอเซฟมันไม่ชอบผู้หญิงผมสั้น แต่มันชอบผู้หญิงผมยาวหน้าหวานมากกว่า" ถ้าฉันไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองพี่เปอร์พูดจบก็มองหน้าฉัน แล้วยกยิ้มกริ่มทำเหมือนว่าคนที่เขาพูดถึงนั้นคือฉัน

"เออว่ะ สเปกมันคนจะอยู่แถว ๆ นี้นี่แหละ…" พี่กัปตันร่วมพูดด้วยอีกคน สายตามาหยุดอยู่ที่ฉันอีกคน พวกเขากำลังสื่อถึงอะไรกันแน่…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   ตอนพิเศษ 03 เจ้าแฝดตัวป่วน

    "เจเดนเจไดพ่อบอกให้หยุด!" เสียงที่ดังจากนอกบ้านทำให้ฉันรีบสับเท้าเดินออกไปดูอย่างไว แน่นอนว่าเสียงนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากสามีของฉันที่บอกก่อนหน้าว่าจะออกไปหากิจกรรมทำกับลูกชายฝาแฝดวัยสิบห้าขวบนอกบ้าน แต่เสียงเข้มดุปานนั้นฉันคิดว่าคงจะเกิดเรื่องสักอย่างขึ้นระหว่างสามคนแน่นอน"เกิดอะไรขึ้นคะ?" ฉันมองทั้งสามที่หน้าเหมือนกันราวกับแฝดสาม เจเดนแฝดพี่และเจไดแฝดน้องผู้ถอดแบบคนเป็นพ่อราวกับแกะ ทั้งใบหน้าท่าทางและนิสัยอุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือนไม่มีอะไรที่เหมือนฉันเลย"จะอะไรก็ทะเลาะกันอีก" คนเป็นพ่อฟ้องฉันแล้วกราดสายตามองลูกชายหน้านิ่ง เป็นเรื่องปกติของบ้านเราที่สองแฝดจะทะเลาะตีกันหยุมหัวกันแทบทุกเวลา ยิ่งช่วงนี้ยิ่งโตขึ้นแตะอายุสองหลักก็ยิ่งมีความคิดเป็นของตัวเอง ตีกันตามประสาเด็กผู้ชายไม่หยุดไม่หย่อนขนาดมีคนกลางอยู่ด้วยก็ยังไม่เว้น"เจเดนแพ้แล้วพาล" แฝดน้องรีบฟ้องขึ้นมาเป็นคนแรก กิจกรรมที่พากันเล่นวันนี้คือเตะบอลแบบแมน ๆ ซึ่งแพ้ที่เจไดหมายถึงก็คงจะแพ้บอลนั้นแหละ"เจไดโกงก่อน ผมไม่ได้พาลนะครับ" แฝดพี่ใช่ว่าจะยอม เถียงกลับทันควันทำเอาคนเป็นพ่อถอนหายใจหนัก ๆ"พอได้แล้ว เป็นพี่น้องกันจะทะ

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   ตอนพิเศษ 02 ตามใจ

    "ทำไมไม่ท้องว่ะ" คนนั่งหน้ากลุ้มทิ้งตัวลงบนโซฟากลางห้องวีไอพีของผับดัง เขากุมขมับพร้อมหลับตาลงด้วยความปลง ทั้งที่พยายามปั๊มลูกก่อนแต่งงานเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ก็ผ่านประตูวิวาห์ไปตั้งสามเดือน เขาก็ไม่เห็นว่ามิวสิคจะมีทีท่าท้องกับเขาบ้างเลย"มึงไปตรวจหน่อยไหมไอเซฟ น้ำยามึงคงไม่ดีจริง" เปเปอร์ว่าแล้วก็อมยิ้ม ถึงจะพยายามฮึบไว้แต่ก็ยังผุดยิ้มชอบใจที่คนเพอร์เฟ็กต์อย่างเขาก็แอบมีบางอย่างที่ทำไม่สำเร็จ"หรือกูจะไม่มีน้ำยาจริงว่ะ" โจเซฟค่อย ๆ ลืมตาขึ้น คราวแรกเขาก็ไม่อยากจะยอมรับเรื่องนี้เท่าไหร่นักแต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วมันก็คงไม่มีเหตุผลอื่นแล้ว"ใจเย็น ๆ ก่อนเซฟ น้องมิวสิคไม่ได้ฝั่งยาคุมหรือทานยาคุมหรอกใช่ไหม" ซีลีนพยายามปลอบเพื่อน"กูกับมิวเราตกลงกันแล้วว่าจะมีลูกด้วยกัน ไม่มีทางที่มิวสิคจะกินยาคุม" มันไม่ใช่แค่เขาที่พยายาม แต่มิวสิคเองก็อยากมีพยานของความรักตัวน้อย ๆ เป็นของตัวเองเหมือนกัน เขาจึงมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน"งั้นมึงก็ไม่มีน้ำยาจริง ๆ นั้นแหละ""เอ้าไอซี ไอสัส" คนเครียดจ้องคนเพิ่งว่าตาเขม็ง มันอาจจะจริงอย่างที่เธอบอก แต่ก็ไม่ใช่เ

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   ตอนพิเศษ 01 เลื่อนสถานะ

    และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ฉันยืนกอดรูปของพ่อในวันสำคัญอีกหนึ่งวันในชีวิต เราถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันสามคนพ่อแม่ลูกโดยบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ฉันอยู่ในชุดรับปริญญาอย่างที่พ่อหวัง ส่วนแม่ก็มองมาที่ฉันอย่างภาคภูมิใจและหวังว่าพ่อฉันที่อยู่บนฟ้าก็คงจะมองลงมาที่ฉันด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกันท่านจากฉันไปอีกหนึ่งเดือนก็ครบรอบหนึ่งปีพอดี แน่นอนว่าวันนั้นฉันทั้งร้องไห้เสียใจฟูมฟายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เพียงแแค่คืนเดียวเท่านั้นฉันก็กลับมาเป็นคนละคนราวกับเสกได้ ฉันเข้มแข็งขึ้นไม่ฟูมฟายและใช้ชีวิตตามปกติอย่างที่พ่อเคยสั่งเสีย โดยมีพี่เซฟอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ค้นพบเชื้อมะเร็งท่านต้องต่อสู้กับอะไรมากมาย ฝ่าฝันความเจ็บปวดเพื่อจะอยู่กับเราให้ได้นานที่สุด และนี่คงเป็นการตอบแทนที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถทำให้ได้ ทำตามคำขอของท่านเป็นอย่างสุดท้ายดูแลแม่ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อให้ท่านจากไปอย่างสบายใจ ฉันทำได้หมดแล้ว"พ่อเขาต้องภูมิใจในตัวหนูมาก ๆ เลยลูก" ฉันพยักหน้ารับทันที ใช่ฉันรู้ พ่อพูดกับฉันตลอดและฉันก็รับรู้ได้ผ่านรอยยิ้มของพ่อในกรอบรูป ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ท่า

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 45 หลงกลรัก (จบ)

    งานหมั้น J & Mบรรยากาศของงานหมั้นเริ่มขึ้นที่บ้านของมิวสิค โดยออแกไนซ์อย่างเมย์ได้เนรมิตรให้บ้านหลังใหญ่กลายเป็นสถานที่จัดพิธีงานหมั้นสไตล์ไทยทว่าผสมความเป็นตะวันออกทั้งของฝ่ายชายและหญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยแขกคนสนิทที่ถูกเชิญร่วมงานก็เริ่มทยอยมาถึงกันบางส่วน หน้าที่รับแขกดูแลเบื้องต้นถูกยกให้ซินดี้และเปเปอร์เป็นคนจัดการ ด้วยนิสัยที่เข้ากับคนง่ายในตัวพวกเขาทั้งสองคน ในขณะที่โอโซนก็รับหน้าที่ดูแลมิวสิคทั้งตรวจสอบและเป็นผู้ช่วยเท่าที่เธอต้องการ"สวยมากเลยมึง" โอโซนจับเพื่อนหมุนตัวดูความเรียบร้อยเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ผ่านมือช่างคิวทองแล้วเธอก็ยังไม่ไว้วางใจจับเพื่อนตรวจดูเพื่อความแน่ใจอีกรอบว่าทุกอย่างจะออกมาดีสมกับการหมั้นที่จะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิตของเพื่อน"ประมาณ 15 นาทีฝ่ายชายจะมาถึงนะคะ" ทีมงานเดินมาเคาะประตูห้องแต่งตัวพร้อมบอกทางฝ่ายหญิงให้เตรียมตัว และดูเหมือนว่าคนที่ลนลานแซงทางโค้งคงจะเป็นโอโซน ทันทีที่ได้ยินเธอก็รีบหันซ้ายแลขวาหาอะไรสักอย่างเลิ่กลั่กขึ้นมา"อะไรของมึงเนี่ยโซน หาอะไร" มิวสิคจับมือเพื่อนเพื่อให้เธอพยายามตั้งสติ ทันใดนั้นเพื่อนสนิทก็ยิ้มแห้งให้เหมือนกับว่

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 44 แฟนทางการ

    และแล้ววันนี้ก็เป็นวันที่การสอบสิ้นสุดลงและปิดเทอมอย่างเป็นทางการ ทั้งมิวสิคและโจเซฟที่ได้พักผ่อนจากเรื่องเรียนในช่วงเวลาปิดเทอมก็ต้องมาลุยกับงานหมั้นต่อโดยกำหนดการงานนั้นจะถูกจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ระหว่างที่ปิดเทอมเล็กแค่เดือนเดียว เพราะไม่อยากให้รบกวนเวลาเรียนของทั้งสอง ฤกษ์งามยามดีจึงถูกตกลงให้อยู่วันนั้นโดยไม่มีใครโต้แย้งเพราะแบบนั้นแพลนของเขาทั้งสองในวันนี้จึงเป็นการนัดออแกไนซ์รับงานจัดงานหมั้นเพื่อตกลงความต้องการกัน โดยสเกลของงานถูกจัดขึ้นเล็ก ๆ เชิญแค่คนสนิทของทั้งสองครอบครัวมางานเท่านั้น"พี่เซฟชอบแบบไหนหรอคะ" มิวสิคเลื่อนดูรูปธีมของงานที่ต้องการผ่านแท็บเล็ตของออแกไนซ์ที่จัดหาและรวบรวมอยู่ตรงหน้าหลาย ๆ แบบด้วยกัน"มิวชอบแบบไหน พี่ก็เอาแบบนั้นแหละ" ชายหนุ่มยกยิ้มมองตามมือเรียวที่กำลังเลื่อนไปทีละรูปแล้วหันมาถามความคิดเห็น"งั้นเราเอาแบบนี้ดีไหมคะ พี่กับมิวชอบสีน้ำตาลเหมือนกันด้วย" มิวสิคมองภาพแล้วอมยิ้มไม่ได้ แค่นึกถึงวันนั้นเธอก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก มันคงออกมาอบอุ่นและน่ารักแน่ ๆ"เอาแบบนี้เลยครับ" โจเซฟเองก็เห็นด้วย ดีหน่อยที่เขาและเธอมีความชอบคล้ายกัน เขาจ

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 43 เคลียร์ใจ

    "ทำไมถึงไม่ดูแลตัวเองเลยล่ะคะ" มือเรียวที่ปาดครีมสำหรับโกนหนวดเสร็จก็เลื่อนไปหยิบใบมีดโกน ก่อนที่จะทำการปาดลงใบหน้าคมที่มีทั้งหนวดและเคราขึ้นมาเพราะความปล่อยตัว เธอจึงอาสาช่วยเขาโกนให้เพื่อให้กลับมาหล่อดูดีเหมือนเดิมอีกครั้ง"ไม่มีมิวพี่ก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งนั้น" โจเซฟยืนคร่อมร่างเล็กที่นั่งบนอ่างล้างหน้า เขาสบสายตาคู่สวยที่กำลังตั้งใจโกนหนวดให้ก็อดยิ้มไม่ได้ ภาพนี้สินะที่รอมานาน..."ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า ตัวก็ผอมนอกจากเหล้าแล้วกินอะไรบ้างไหมคะ""กินไม่ลง คิดถึงเมีย" คำตอบของเขาเรียกรอยยิ้มจากเธอที่เริ่มรู้สึกหมั่นไส้ บิดจมูกโด่งเป็นสันไปหนึ่งที พูดคำว่าเมียได้เต็มปากเต็มคำเชียว"ถ้ามิวไม่กลับมา พี่ก็ตั้งใจจะถอยจากมิวจริง ๆ เหรอคะ?""ก็ตั้งใจแบบนั้น""ทำไมล่ะคะ พี่จะปล่อยมิวไปง่าย ๆ เหรอ?""เราบอกว่าเรารักมัน จะให้พี่ทำยังไง" ในตอนที่ได้ยินใจเขามันแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ถ้าโกรธเกลียดยังพอตามง้อตามขอโทษกันได้ แต่ถ้าบอกว่ารักคนอื่นไปแล้ว คนอย่างเขาจะทำอะไรได้นอกจากหลีกทางให้เธอได้มีความสุขอยู่กับคนที่รัก แม้ใจจะเจ็บมากก็ตาม"ตอนนั้นมิวไม่ได้ทำไปเพราะอยู่ในแผน" มิวสิคว่าจบก็มองหน้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status