Share

ตามติด

last update Last Updated: 2025-05-22 22:40:10

วันนี้ระย้าแก้วใช้เรือลำใหญ่ของพระพรายที่มีหลังคาบังแดด บังฝนได้ เป็นอย่างดีพร้อมกับฝีพายและอีแตงบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์

"วันนี้แดดดีเสียจริงหนาพี่พระพราย"ระย้าแก้วนั่งพูดคุยสนุกสนาน เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ที่ระย้าแก้วกลับมาพูดและดูสดใส

"หากแดดแรงเช่นนี้ เจ้าก็ระวังผิวของเจ้าเสียหน่อยเถิด ตอนเดินในตลาดให้อีแตงกางร่มให้เจ้าหนา" พระพรายเป็นห่วงระย้าแก้ว

แต่เหมือนความบังเอิญและโชคชะตาอยากจะเล่นตลกทำให้คนที่มิอยากเจอ ก็เจอ แม้จะอยู่กลางคูน้ำก็ยังได้เจอ เรือของไอ้สิงห์พายตีคู่ประกบเรือของพ่อ พระพรายแม้จะไม่เห็นหน้าของระย้าแก้วเพราะมีผ้าไหมบาง ๆ กั้นแต่มันก็มองเห็นลาง ๆ และจำได้มิเสื่อมคลาย

"ไอ้ดำ.! มึงพายไปใกล้ ๆเรือของมัน" ไอ้สิงห์สั่งเสียงเหี้ยม

"เราจักพายไปใกล้เรือของมันทำไมกันเล่า"พี่ไอ้ดำเอ่ยปากถามอย่างสงสัย

"เออ..กูสั่งให้มึงพายก็พายไปเถอะ กูก็อยากจะตีคู่เรือของหน้าอ่อนอย่างมันเช่นไรเล่า"

ไอ้สิงห์ที่พาลจะหาเรื่องพ่อพระพราย มันก็สู้มิถอยยิ่งเห็นว่าพระพรายมากับแม่ระย้าแก้วมันยิ่งรู้สึกหงุดหงิดอยากจะเอาชนะให้ได้

"ว้าย..! เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดเรือจึงโคลงเคลงเช่นนี้เล่า"เสียงอีแตงร้องลั่น

พระพรายจึงเปิดผ้าออกไปดูแลเห็นว่าเป็นไอ้สิงห์ที่นั่งอยู่กลางลำเรือจึงรู้ได้ทันทีว่าจงใจจะกลั่นแกล้งเป็นแน่แท้

"พ่อสิงห์มานั่น แม่ระย้าแก้วจักให้พี่ทำเช่นไร" พระพรายหันกลับไปถามระย้าแก้ว

"มิต้องทำอันใดดอกพี่ เราพายหนีเถิด อย่าไปยุ่งกับคนพาลเลย"

พระพรายจึงสั่งให้ฝีพายเร่งพายและรีบไปขึ้นที่ท่าทันทีเพราะไม่อยากจะมีเรื่องกับไอ้สิงห์

"พวกมึงพายเยี่ยงไรเล่า..! มึงดูไอ้หน้าอ่อนมันพายหนีไปนู่นเสียแล้วหนา"ไอ้สิงห์ตวาดลั่น

"พวกข้าก็เร่งสุดฝีมือแล้วนะพี่ เดี๋ยวก็ถึงท่าเดียวกันแล้วนะพี่นะใจร่มๆหน่อยเถิด"

พอถึงท่าเรือพระพรายก้าวขึ้นท่า แล้วหันกลับมายื่นมือให้กับระย้าแก้วได้ตามหลังตนขึ้นไปที่ท่าเรือกลางตลาด

"ขอบน้ำใจเจ้าค่ะคุณพี่พระพราย"ระย้าแก้วยิ้มหวาน

"หากแต่เจ้า อยากได้สิ่งใดวันนี้ เจ้าบอกพี่ พี่จักซื้อให้เจ้าทุกอย่าง ที่เจ้าต้องการหนา"

ทั้งสองเดินออกจากท่าเรือตรงกลางตลาดและเดินไปเลือกของต่างๆ ด้วยกันพร้อมกับบ่าวคู่กายอย่างอีแตงที่เดินตามผู้เป็นนายมิห่างกาย

ส่วนไอ้สิงห์ที่พายเรือตามมาติดๆ ก็เร่งให้ไอ้ดำผูกเชือกหัวเรือที่เสาให้ไว มันแทบจะไม่รอสิ่งใดมันอดใจมิได้ที่เห็นระย้าแก้วใกล้ชิดกับพระพราย

"สองคนนั้นมันหายไปที่ใดกันว่ะ เหตุใดมันจึงเดินกันไว้เยี่ยงนั้น" ไอ้สิ่งสบถ

"แล้วเหตุใดพี่จักตามคุณหนูระย้าแก้วเช่นนี้เล่า..?หากแต่เมื่อก่อน พี่แค่เห็นนางก็หงุดหงิดรำคาญใจแล้ว "ไอ้ดำแกล้งพูดประชดผู้เป็นนาย

"เรื่องของกูเถอะ ไอ้ดำมึงช่วยกูมองหาทีว่าระย้าแก้วอยู่กงไหนของตลาด"

ไอ้ฟักก็ช่วยมองซ้ายมองขวาหันกลับไปเห็น ระย้าแก้วอยู่ที่ร้านผ้าแพรไหมกับผ้าสไบของแขกโยเดีย

"พี่..! นั่นใช่คุณหนูระย้าแก้วที่พี่ตามหาหรือไม่.อยู่กงร้านผ้าแขกโยเดียนั่น"ไอ้ฟักเอ่ยขึ้นทันทีที่หันไปเห็น

"ไอ้ฟักมึงทำดีมาก กูจะให้มึงเป็นหัวหน้าฝึกซ้อมแทนไอ้ดำดีไหม ส่วนไอ้ดำไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่ที่คอกโน้น..."

ไอ้ดำที่ทำคิ้วขมวดเมื่อลูกพี่ มันอยู่ๆก็จะลดตำแหน่งมันเสียอย่างนั้น มันยังมิได้ทำอันใดผิดเลยมันจึงรีบวิ่งตามไปหาไอ้สิงห์

"พี่สิงห์พี่ จะมาลดตำแหน่ง ข้าเช่นนี้มิได้หนา"ไอ้ดำก็พูดไปด้วยเดินไปด้วย

ส่วนไอ้สิงห์ก็ได้แต่ถือดาบเดินตรงไปหาแม่ระย้าแก้วที่ร้านผ้า

"พ่อค้าโยเดีย ข้าอยากได้ผ้าสไบสีชมพู สีมะค่าแลสีขมิ้น พ่อช่วยจัดให้ข้าอย่างละสองผืนได้หรือไม่" ระย้าแก้วแจกแจงว่าเธอต้องการอะไรบ้าง

"ยินดีขอรับ รอสักประเดี๋ยว ข้าจักรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย" พ่อค้าโยเดียจึงหายไปซักครู่

"เจ้าอยากได้แค่นี้รือ เดี๋ยวพี่เป็นคนจ่ายเอง น้องมิต้องจ่าย น้องอยากได้อันใดน้องเลือกเลย แค่นี้พี่จ่ายไหวสบายมาก"

พระพรายที่พูดทีเล่นทีจริงกับระย้าแก้ว แต่วันนี้เขาสัญญาแล้วว่า เขาจะจ่ายทุกบาททุกสตางค์ไม่ว่ากี่เบี้ยกี่ไพรเขาก็จ่ายได้

ไอ้สิิงห์ที่ได้ยินสิ่งที่พระพรายพูดก็รู้สึกหมั่นไส้จนอยากจะอาเจียน ทำเป็นหน้าใหญ่ใจโตต่อหน้าสตรี

"แหม..!! รวยเสียจริงหนาพ่อคุณ ทำไมไม่เหมาทั้งร้านให้นางเลยเล่า" ไอ้สิงห์ทำเป็นพูดลอยๆ

พระพายได้ยินดังนั้นจึงหันกลับไปตะโกนบอกพ่อค้าโยเดียทันที

"พ่อค้า ..!! ทั้งร้านมีกี่สีเอามาให้หมด คิดยอดกี่อัดเท่าไหร่มาคิดที่ข้า" พระพายรู้สึกหมั่นไส้ไอ้สิงห์จึงสั่งเหมายกร้านให้กับระย้าแก้ว

"คุณพี่เจ้าคะ!! จักสั่งมาทำไมเยอะแยะ เช่นนี้แล้วน้องใส่ทั้งปี จักใส่หมดรือไม่เจ้าคะ" ระย้าแก้วใช้มือเรียวเขย่าแขนของพ่อพระพราย

"มิเป็นอันใดดอก อัดของพี่เบี้ยของพี่ น้องใช้ได้อย่างสบายมือ ใช้ทั้งชาติน้องก็ใช้มิหมด น้องอยากจะได้อันใดพี่จะหาให้น้องเองทุกอย่าง"

พระพายจงใจพูดเสียงดังแลใช้หางตาเย้ยหยันไปที่ไอ้สิงห์

คุณพี่เจ้าขา.... ระย้าแก้วรู้สึกเกรงใจพระพายเป็นที่สุด

"ทั้งหมด 1 ชั่งทั้งร้านของข้า"

"อ้าวนี่อัดเสร็จแล้วเอาผ้าทั้งหมดใส่หีบเอาไปส่งที่เรือนของแม่ระยะแก้วให้ข้าด้วยหนา"

"โอ้โห..!! ท่านเป็นลูกค้าที่ดีจริงๆมิต่อข้าเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว

พระพรายกับระย้าแก้วทำเป็นมิสนใจกับสิ่งที่ไอ้สิงห์พูดทุกคนทำเป็นหูทวนลมและไม่พูดไม่จากับมันแม้แต่คำเดียว

พี่พระพราย ถ้าเช่นนั้นเราไปจากกงนี้กันเถิดหนา เราไปซื้ออย่างอื่น กันเถอะอย่าเสียเวลากันเลย"

"ไปสิพี่ก็อยากจัก ไปจากกงนี้เสียที"

ระย้าแก้วหันกลับไปปรายตามองไอ้สิงห์ด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า และมองมันเหมือนธาตุอากาศที่ไม่มีตัวตน

ไอ้สิ่งที่เห็นดวงตาคู่นั้นมองมันช่างว่างเปล่ามันกลับรู้สึกเจ็บที่อกข้างซ้ายแปล๊บๆอย่างบอกไม่ถูก

"เป็นเยี่ยงไรเล่าบ้างพี่ พอโดนเข้ากับตนเองถึงกลับไปไม่เป็นเชียวหรือ"ไอ้ดำเอ่ยแซวผู้เป็นนาย

"มึงไม่ต้องมาพูดเลยเรื่องของกู"

ระย้าแก้วเดินซื้อข้าวของจนพอใจ จึงได้ชวน พระพรายไปที่บึงบัวหลังตลาดเพื่อชมความงามของดอกบัวหลวง

แต่ในยามเช้าแต่ด้วยแดดที่แรงจ้า พระพรายจึงขอร่มจากอีแตงเพื่อกางให้แม่ระย้าแก้ว

"อีแตงส่งรูปให้ข้าที ข้าจักกางให้น้องระย้าแก้ว หากด้วยแดดที่แรงเช่นนี้ ผิวนางจะเสีย"เพราะพรายเอาใจใส่ดูแลระย้าแก้วดีทุกระเบียดนิ้ว

"มิเป็นไรดอกพี่พระพาย น้องตากแดดตากลมวิ่งเล่นจนชินเสียแล้วเจ้าค่ะ"ระย้าแก้หัวเราะจนตาปิด

บรรดาชาวบ้านก็พากันชี้นิ้วให้ดูบุษบากับชายรูปงามจะเป็นอิเหนาในอนาคตหรือไม่ เพราะตอนนี้บุษบาสวยสะพรั่ง ยิ่งยืนภายใต้แสงแดดและบึงบัวที่พากันอวดเบ่งความสวย ทำให้บุษบางามอีกเป็นเท่าตัว

"พี่พระพายดูนั่นสิ ดอกบัวหลวงงามเสียจริง ข้าเห็นแล้วนึกอยากจะกินฝักบัวเหลือเกิน"ระย้าแก้วหัวเราะคึกคัก

"เดี๋ยวเอาไว้พี่จะซื้อให้เจ้ากินเองหนา"พระพรายลูบหัวขอระย้าแก้วด้วยความเอ็นดู

ไอ้สิงห์ที่เห็นการกระทำของพระพรายมันกำดาบแน่น ถึงกับเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากจะตัดมือของ พระพรายทิ้งเสียเหลือเกิน

ที่บังอาจมาลูบหัวของระย้าแก้วแถมยังทำเป็นยืนกลางร่มให้กับนางเสียอีก

"พี่ตรวจตลาดเสร็จแล้วหรือไม่ เราไปเดินตรวจตราที่อื่นกันดีกว่า"ไอ้ดำพูดขึ้นเพราะเห็นท่าทีไม่ค่อยดี

"ไม่กูยังไม่ไป กูยังอยากนั่งกงนี้อยู่"ไอ้สิงห์นั่งกระดกชาร้อน ร้านตรงข้ามกับบึงบัว เพื่อเฝ้าดูระย้าแก้วมิห่างสายตา

"ไอ้ดำมึงดูนั่นสิ ดูไอ้หน้าละอ่อนนั่นสิ ยืนกางร่มให้กับคุณหนูย้าแก้วของมึง กูล่ะไม่เคยเห็นผู้ชายอกสามศอกคนใดทำเยี่ยงมันเลย" ไอ้สิงห์หาพวกที่เห็นด้วยกับมัน

"หากแต่เขารัก เขาดูแล เขาจึงใส่ใจเยี่ยงไรเล่าพี่ ใครจักไปเหมือนพี่เล่า ยามใดที่คุณหนูระย้าแก้วมาก็เอาแต่ทำนางร้องไห้เสียใจ" ไอ้ดำที่อยู่ฝ่ายระย้าแก้วมาตั้งแต่แรกเริ่มจึงตัดพ้อต่อว่าผู้เป็นนาย

"หากเป็นเช่นนั้นมึงก็ย้ายไปเป็นทาสที่เรือนของ แม่ระย้าแก้วเลยดีหรือไม่ กูจักไปขอพ่อให้"ไอ้สิงห์หันกลับไปด่าไอ้ดำ

"โถ่พี่..!! จะไล่ข้าไปใย ข้าก็มีแต่พี่กับไอ้ฟักเท่านั้นแหละหนา หากข้าไปอยู่ที่อื่นใครจะดูแลพี่เล่า" ไอ้ดำรีบประจบสอพลอทันที

"มึงมิต้องมาสอพลอ กูเลย กูเห็นเข้าข้าง แม่ระย้าแก้ว คุณหนูสุดที่รักของมึงทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้"

สองชายหนึ่งหญิง คนหนึ่งรักทะนุถนอมเยี่ยงดวงใจแต่อีกคนหนึ่งพูดจาทำร้ายจิตใจกลับมานั่งอยู่ในใจของนางบุษบา หากเป็นเช่นนี้นางจะตัดใจจากคนที่ทำร้ายใจนางได้หรือไม่......

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   จันทร์แรมทำของ

    ระย้าแก้วพอเที่ยวจนหนำใจจึงชวนอีแตงและพ่อพระพรายกลับเรือน เพราะแดดเริ่มแรงมาก ทั้งสามจึงเดินกลับไปที่ท่าเรือ เพื่อจะขึ้นเรือกลับไปที่เรือนของระย้าแก้ว"วันนี้น้องสนุกมากเลยเจ้าค่ะ พี่พระพราย"ระแก้วยิ้มอารมณ์ดี"เจ้าสนุกพี่ก็ดีใจ พี่ไม่อยากเห็นเจ้าทุกข์ใจ ไม่ว่าเรื่องอันใดก็ตาม เจ้ามิเหมาะที่จะร้องไห้หนาระย้าแก้วของพี่"ระย้าแก้วที่เห็นความจริงใจและความใส่ใจของพระพรายที่มีต่อเธอ เธอรู้สึกขอบคุณที่พระพรายเอ็นดูและเมตตาเธอเช่นนี้ไอ้สิงห์ที่เห็นพระพรายและระย้าแก้ว พากันขึ้นเรือจากท่าน้ำที่ตลาด มันจึงเร่งให้ไอ้ดำเดินตามและเตรียมออกจากตลาดเช่นกัน วันนี้มันจะต้องคุยกับระย้าแก้วให้ได้ มิว่าเกิดอันใดจักเกิดขึ้นก็ตาม"พี่จักรีบไปที่ใดกันเล่า" ไอ้ดำรีบเอ่ยถามเห็นท่าทีรีบร้อนของไอ้สิงห์"กูจะรีบไปที่ท่าเรือ มึงก็รีบตามกูมาเถิดกูมีบางอย่างจักต้องทำ"แต่พูดยังไม่ทันจบก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งให้ไอ้สิงห์มีเหตุเมื่อเจอนางจันทร์แรมที่กลางตลาด"พี่สิงห์..! พี่หายหน้าหายตาไปที่ใดมา เหตุใดพี่จึงมิไปหาข้าบ้างเลยเล่า"นางจันทร์แรมที่ทำท่าทีระริกระ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ตามติด

    วันนี้ระย้าแก้วใช้เรือลำใหญ่ของพระพรายที่มีหลังคาบังแดด บังฝนได้ เป็นอย่างดีพร้อมกับฝีพายและอีแตงบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์"วันนี้แดดดีเสียจริงหนาพี่พระพราย"ระย้าแก้วนั่งพูดคุยสนุกสนาน เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ที่ระย้าแก้วกลับมาพูดและดูสดใส"หากแดดแรงเช่นนี้ เจ้าก็ระวังผิวของเจ้าเสียหน่อยเถิด ตอนเดินในตลาดให้อีแตงกางร่มให้เจ้าหนา" พระพรายเป็นห่วงระย้าแก้วแต่เหมือนความบังเอิญและโชคชะตาอยากจะเล่นตลกทำให้คนที่มิอยากเจอ ก็เจอ แม้จะอยู่กลางคูน้ำก็ยังได้เจอ เรือของไอ้สิงห์พายตีคู่ประกบเรือของพ่อ พระพรายแม้จะไม่เห็นหน้าของระย้าแก้วเพราะมีผ้าไหมบาง ๆ กั้นแต่มันก็มองเห็นลาง ๆ และจำได้มิเสื่อมคลาย"ไอ้ดำ.! มึงพายไปใกล้ ๆเรือของมัน" ไอ้สิงห์สั่งเสียงเหี้ยม"เราจักพายไปใกล้เรือของมันทำไมกันเล่า"พี่ไอ้ดำเอ่ยปากถามอย่างสงสัย"เออ..กูสั่งให้มึงพายก็พายไปเถอะ กูก็อยากจะตีคู่เรือของหน้าอ่อนอย่างมันเช่นไรเล่า"ไอ้สิงห์ที่พาลจะหาเรื่องพ่อพระพราย มันก็สู้มิถอยยิ่งเห็นว่าพระพรายมากับแม่ระย้าแก้วมันยิ่งรู้สึกหงุดหงิดอยากจะเอาชนะให้ได้"ว้าย..! เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดเรือจึงโคลงเคลงเช่นนี้เล่า"เสียงอีแตงร

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ทบทวนความรู้สึก

    "หากหลังจากนี้น้องจะต้องเดินทางอีก 3 วันข้างหน้า น้องต้องรักษาตัวให้ดี เตรียมข้าวของให้พร้อมการเดินทางข้างหน้าอีกยาวไกล ใช้เวลาหลายวันโขกว่าเราจะถึงตัวเมืองสุโขทัย พระพรายพูดเสริม"น้องจักเตรียมตัวให้ดีเจ้าค่ะ คุณพี่มิต้องเป็นห่วงน้องดีขึ้นมากแล้ว ทั้งงกายแลใจ" ระย้าแก้วตั้งใจแน่วแน่ที่จะตัดใจจากไอ้สิงห์ แม้ทั้งหัวใจยังคงรักและอาลัยแต่ตอนนี้นางกลับมิแสดงอาการใดๆออกมา"ถ้าทั้งหมดเห็นพ้องต้องกัน เช่นนั้นลูกก็ไปเตรียมตัวเถิด แม่กับพ่อจะเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ทั้งยาแลสมุนไพร ให้กับลูกแลพ่อพระพรายเพื่อออกเดินทางกว่าจะถึงสุโขทัยก็ใช้เวลา 3-4 วัน""ลูกขอบน้ำใจคุณพ่อกับคุณแม่ ที่รักและเป็นห่วงความรู้สึกของลูกเหนือสิ่งอื่นใด""ไปเถอะลูก ไปใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าอยากจะใช้ พ่อมิอาจห้ามลูกได้หนา" พร้อมกับลูบไปที่หัวลูกสาวด้วยสายตาเอ็นดู"ขอบน้ำใจเจ้าค่ะคุณพ่อ"หลังจากพูดคุยกันจบ พระพรายได้ฝากท้องที่เรือนของระย้าแก้ว ก่อนหน้านี้แทบจะทุกวัน พระพรายคลุกคลีกับระย้าแก้วไม่ห่างระย้าแก้วเตรียมตัวเตรียมใจที่จะจากบ้านเรือนที่ตนรักและพ่อแม่ที่รักตนมาก นางนั่งถอดถอนหายใจรู้สึกใจหาย ถึงแม้นางจะอายุเ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   สิงห์ตีเสือ

    เสียงดังเอ็ดตะโรลั่นสวนลั่นทมของระย้าแก้วกำลังเป็นที่ดึงดูดความสนใจ ของเราบรรดาข้าทาสบริวารในเรือน เพราะเสียงระย้าแก้วทะเลาะกับไอ้สิงห์เสียงดังลั่น จังหวะนั้นพระพรายที่มาเยี่ยมไข้ระย้าแก้วมาตลอด ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง เดินลงเรือนมา ตั้งใจจะเอาขนมมาฝากระย้าแก้ว ที่สวนดอกลั่นทมพอดี"นั่นมึงทำกระไรแม่ระย้าแก้ว ..!! ไอ้สิงห์ปล่อยนางบัดเดี๋ยวนี้" พระพายที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาระย้าแก้วที่ติดพันธนาการภายใต้ร่างใหญ่ของไอ้สิงห์"ที่แท้ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ไม่อยากได้ข้าเป็นผัว ก็เพราะมีผู้ชาย หน้าละอ่อนเยี่ยงไอ้เวร..! นี่ เทียวไล้เทียวขื่อ จนหัวกระไดไม่แห้งเยี่ยงนี้นี่เอง"ไอ้สิงห์พ่นคำร้ายๆใส่ระย้าแก้ว"ปล่อยข้าบัดเดี๋ยวนี้ ข้ามิต้องการเห็นหน้าคนอย่างพี่อีก ออกไปจากเรือนข้าซะ"ระย้าแก้วก็ไม่ยอมแพ้ให้กับคนนี้ใส่เสียและหยิ่งทรนงเช่นไอ้สิงห์ดั่งเก่าก่อน"กูบอกให้มึงปล่อยมือ แม่ระย้าแก้วอย่างไรเล่า หากมึงมิปล่อยแม่ระย้าแก้ว มึงได้มีเรื่องกับกูเป็นแน่.!"พระพายก็โมโหเลือดขึ้นหน้าที่ไอ้สิงห์ไม่ให้เกียรติระย้าแก้ว"กูปล่อยก็ได้..!แต่มึงจำไว้ความรักทั

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   สิงห์บ้า(หึงเปล่านะ)

     ไอ้สิงห์ก้าวเดินไปตามทาง พร้อมกับหันไปเห็นร่างอรชรที่กำลังนั่งร้อยมาลัย รับลมอยู่กลางศาลาน้ำ เหล่าฝูงปลาแหวกไหว้ ดอกลั่นทมตามสะพรั่งทั้งสวน  หัวใจของมันรู้สึกสั่นไหว มันมิรู้จักสู้หน้าระย้าแก้วเช่นไรเพราะบัดนี้นางได้เปลี่ยนไปสิ้นตั้งแต่วันที่มันได้เห็นแววตาคู่นั้นที่ว่างเปล่า "ระย้าแก้วเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"เสียงแผ่วเบาราวกับสายลมจากปากของไอ้สิงห์ ระย้าแก้วที่ได้ยินเสียงคุ้นหู จึงหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ในขณะที่สองมือยังคงร้อยมาลัยดอกลั่นทม นางปรายตามองไอสิงห์ด้วยสายตาที่เรียบเฉยไม่มีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ในดวงตาผู้สวย "ลมอันใดหอบพี่มาที่นี่เล่า เหตุใดวันนี้พี่จึงมาเรือนของข้าได้..พี่มาผิดเรือนหรือไม่..? ข้าจะต้องขออภัย ที่ไม่สามารถต้อนรับพี่ได้ในเพลานี้ พี่กลับไปเสียเถิด" ในรอบหลายวันนี่เป็นประโยคยาวๆ ประโยคแรกที่ระยะแก้วได้พูด ระย้าแก้วปรายตามองไอ้สิงห์เพียงแวบเดียวแล้วหันกลับไปร้อยมาลัยดอกลั่นทมต่อ ปากก็พูดแต่มิหันไปมองหน้าไอ้สิงห์เลย "เอ็งไม่ต้องไล่ข้าดอก ข้าแค่อยากจะมาดูว่าเอ็งตายหรือยัง เพราะเห็นข่าวว่าจับไข้เสียหลาย"ว

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ดวงใจที่แตกสลาย

    มือหนาเย็นเฉียบ โอบกอดไปที่ร่างอรชรที่ไร้สติ แม้คนข้างหลังจะห้ามปรามไอ้สิงห์ ให้วางร่างของ ระย้าแก้วลง แต่มันกลับดื้อดึงไม่ยอมปล่อยและเดินตรงกับเรือนอย่างรวดเร็ว ไอ้สิงห์ก้าวขึ้นเรือนของพ่อหมอไทยด้วยความช่ำชองแล้วตรงเข้าห้องของระย้าแก้วทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจว่าเหตุใดมันจึงรู้ว่าห้องไหนเป็นของนาง"ขอบน้ำใจพ่อสิงห์ ที่อุตส่าห์อุ้มลูกสาวข้า มาส่งถึงที่เรือน หากแต่มิมีอันใดน่าเป็นห่วงแล้ว พ่อกลับเรือนของพ่อเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากไล่ไอ้สิงห์ทันที"แต่ว่า...!!!" ไอ้สิงห์จะเอ่ยปาก ขออยู่รอดูอาการของระย้าแก้ว แต่กลับมิมีโอกาส"ถือว่าข้าขอพ่อสิงห์สักครั้งเถิด พ่อกลับเรือนของพ่อไปก่อนหนา ให้ข้าได้รักษาลูกสาวข้าด้วยเถิด" พ่อหมอไทยส่ายหัวไปมาอย่างผิดหวังไอ้สิงห์จำใจต้องลุกขึ้น เดินออกจากเรือน พร้อมกับความรู้สึกผิดพรั่งพรู ในหัวใจของมันตีกันวุ่นไปหมด ไอ้สิงห์เดินลงมายืนอยู่ตรงหน้าเรือนอย่างสงบนิ่งพาลคิดทบทวนเรื่องราวมากมายของตนเอง พร้อมกับปลายตาหันกลับไปมองชายคาห้องของระย้าแก้ว"กลับเรือนเถิดพี่สิงห์ ประเดี๋ยวเอาไว้แม่ระย้า

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   มอบชีวิตแด่รัก

    "พี่สิงห์..พี่สิงห์..!! อยู่ที่ใด พี่เกิดเรื่องใหญ่แล้ว..!!"เสียงไอ้ดำวิ่งหน้าตั้ง มาตั้งแต่ไก่โห่ฟ้ายังมิสางดี"มึงแหกปากทำกระไรแต่เช้าฮึ..ไอ้ดำ คนในเรือนของข้ามิกันตกใจหมดรึ..ถ้าหากมันมิสำคัญเยี่ยงที่มึงกล่าวกูจะสั่งเฆี่ยนมึงให้หลังลายไอ้ห่านี่..!!!"พี่สิงห์ไปกับข้าเถอะ อย่ามัวชักช้า"ไอ้ดำที่วิ่งขึ้นเรือนไปอย่างรีบร้อนลนลาน พอไปถึงตรงชานเรือนที่ ไอ้สิงห์อยู่มันรีบจูงมือไอ้สิงห์ลงเรือนทันที"เอ็งจะพาข้าไปที่ใด ให้ข้าได้ใส่ผ้าผ่อนให้มันเรียบร้อยเสียก่อนเถอะ""จ้ะพี่งั้นพี่รีบไปเลย ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินแก้ พี่เชื่อข้าสักครั้งเถอะ"ไอ้สิงห์ที่ใส่เสื้อเรียบร้อย มันก็รีบเดินลงเรือนไปพร้อมกับไอ้ดำ ทั้งที่มันยังไม่รู้เลย ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นเหตุใดจึงใหญ่โต ขนาดที่ไอ้ดำมาที่เรือนแต่เช้ามืด"พี่พูดอันใดกับคุณหนูระย้าแก้ว เอาไว้เมื่อวานนี้หรือไม่..ขอรับ? ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้วหนา"ไอ้ดำที่เดินไปด้วยพูดไปด้วย"เมื่อวานข้าพูดอันใดกับนาง..?เกิดอันใดขึ้นมึงเล่ามาให้ละเอียดทีเถิด"ไอ้สิิงห์เริ่มมีท่าทีร้อนรน

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   คำพูดพล่อย ๆ

    คำพูดที่พล่อย ๆ พูดโดยมิไตร่ตรอง พูดโดยไมิคิด ไอ้สิงห์มิรู้เลยว่า คำพูดของมันนั้นมีความหมายกับหัวใจของระย้าแก้วมากเพียงใด ระย้าแก้วจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจักนั่งรอไอ้สิงห์จนถึงเช้าดังเช่นที่ไอ้สิงห์ได้ลั่นคำ"ได้หากพี่รับปากข้าเช่นนั้น ข้าจะทำให้พี่ได้เห็น ว่าข้าจักมิผิดคำพูดกับพี่ แม้สักนิดเดียว"ระย้าแก้วตะโกนไล่หลัง"หากเอ็งทำได้เยี่ยงปากพูด ข้าจักทำตามคำพูดเช่นกัน"ไอ้สิงห์คิดอยู่ภายในใจว่าแม่หญิงอย่างระย้าแก้วนั้นมิอาจทำได้ดั่งเช่นคำที่พูดดอกผ่านมาหลายชั่วยาม ระย้าแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เถาวัลย์ชิงช้า โดยมิลุกไปที่ใด จนเป็นที่ผิดสังเกตของแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"อีแตง..! คุณหนูของมึงอยู่ที่ใดกันเล่า เหตุใดจึงยังมิกับเรือน.?" แม่ศรีนวลหันไปถามบ่าวคู่ใจของระย้าแก้ว"คุณหนูขอนั่งเล่นกง น้ำตกหนาเจ้าคะแม่นาย หากแต่บอกว่าจะกลับไม่นานนักเจ้าค่ะ""แต่นี่มันก็หลายชั่วยามแล้วหนา พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงยังมิกลับ" มารดาอย่างแม่ศรีนวลเริ่มกับวันกระวายเป็นห่วงลูกสาว"กระนั้นบ่าวขออนุญาตแม่นาย ไปตามคุณหนูหนาเจ้าคะ."อีแตงรีบเสนอตัว"มึงชักช้าอยู่ใยเล่า รีบไปเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากแท

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ความปั่นป่วน

    "ถึงพี่จะว่ากระนั้น ข้าก็ต้องขอบน้ำใจพี่ ที่พี่ได้ช่วยข้าหลายครั้งหลายครา" ระย้าแก้วเอ่ยคำขอบคุณ ไอ้สิงห์"ทูนหัวของบ่าว เรากับเรือนกันเถิดหนาอย่าอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลาเลย นี่ก็ดูท่าอีกมินานฝนก็คงจะตก" อีแตงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของระย้าแก้วรีบพูดแทนผู้เป็นนายสองเท้าก้าวเดินออกอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่หันกลับไปมองไอ้สิงห์ เพราะหากระย้าแก้วหันกลับไป น้ำตาคงได้อาบสองแก้มเป็นแน่"คุณหนูอย่าร้องไห้เลยหนา อย่าให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของคุณหนูอีกต่อไปคุณหนูของบ่าวเข้มแข็ง""ข้าขอบน้ำใจพี่แตง ยิ่งนักที่อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ"อีแตงรีบประคองร่างอรชรของระย้าแก้ว นายทูนหัวที่มันรักหนักหนา มาให้พ้นจากตลาด ลัดเลาะมาจนถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้าน ทางผ่านกลับบ้านของระย้าแก้วซึ่งน้ำตกกับบ้านของระย้าแก้วห่างกันไม่ถึงห้าสิบก้าว เรียกว่าใกล้มาก"พี่แตงไปที่เรือนก่อนเถิดหนา ข้าขอนั่งเล่นที่ชิงช้าเถาวัลย์สักครู่" หากข้าสบายใจขึ้นข้าจักได้กลับเข้าเรือน"คุณหนูจะเอาเยี่ยงนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่านานนักหนานะเจ้าคะ หากแม่นายศรีไพรตามหา บ่าวจักถูกเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่""มินานดอกพี่แตง หากข้าสบายใจขึ้น ข้าจะรีบกลับเรือนทันที"อีแ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status