Share

บทที่ 50

Author: จิ้งซิง
หลังจากสวดไปได้เจ็ดแปดรอบเต็ม ๆ นางสวดจนใกล้จะคอแห้งผากแล้ว

เวินซื่อจึงจำต้องหยุดอีกครั้ง

ผลปรากฏว่าใครบางคนก็เหมือนกับแกล้งทำเป็นนอนหลับ ทันทีที่นางหยุดใครบางคนก็ตื่นขึ้นมา อีกทั้งยังถามด้วยความไม่พอใจว่า “เหตุใดถึงหยุดอีกแล้ว?”

เวินซื่ออดกลอกตาใส่เขาไม่ได้จริง ๆ ก่อนจะเอ่ยปากว่า “หากพูดต่อไป คอของข้าก็คงจะพิการแล้ว”

เป่ยเฉินหยวนถึงค่อยสังเกตเห็นว่าเสียงของนางแหบพร่าอยู่บ้างจริง ๆ จึงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “ผ่านไปนานเพียงใดแล้ว?”

เวินซื่อกล่าวว่า “ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว”

เป่ยเฉินหบวนอดประหลาดใจไม่ได้ “นานขนาดนี้เชียว?”

เขายังนึกว่าผ่านไปแค่หนึ่งหรือสองเค่อเท่านั้น

มิน่าเล่าเวินซื่อถึงได้บอกว่าคอจะพิการแล้ว

เป่ยเฉินหยวนลุกขึ้นมา รู้สึกแค่ว่าเบาสบายไปทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะตรงจุดที่ก่อนหน้านี้เขาปวดศีรษะมากที่สุด วันนี้กลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง

เป็นไปตามที่คาดไว้เลย สุวรรณประภาสสูตรอะไรนี่ได้ผลกับอาการป่วยของเขาจริง ๆ ด้วย

ไม่อย่างนั้นกลับไปแล้วค่อยหาคนอื่นมาลองสวดดู ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมาที่อารามสุ่ยเยว่รบกวนนังหนูผู้อีก

เป่ยเฉินหยวนคิดเช่นนี้

“วันนี
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1215

    ปาถูเอ่อร์ไม่พูดอะไร เขาหันมองไปยังไป๋เยวี่ยโหรวรอจนไป๋เยวี่ยโหรวผงกศีรษะส่งสัญญาณ เขาถึงได้พยักหน้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย “ในเมื่อนังหนูนี่ขอขมาแล้ว เช่นนั้นเรื่องในวันนี้ข้าจะไม่เอาความนางอีก”คนที่จิตใจใสซื่อได้ยินคำพูดนี้ คงคิดว่าเรื่องราวจบลงเพียงเท่านี้จริง ๆแต่ผู้คนในที่นี่ที่รู้ทันคนนั้นมีอยู่ไม่น้อยพอได้ฟังก็สังเกตเห็นความผิดปกติในคำพูดของปาถูเอ่อร์ได้ทันที เจตนาเจาะจงแค่คำว่า “นาง” ไม่เอาความ “นาง” แล้ว แล้ว “เขา” เล่า?เวินเฉวียนเซิ่งหน้าขรึมลงเห็นทีอ๋องปาถูเอ่อร์ผู้นี้คงไม่คิดจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ เสียแล้วก็จริง อย่างไรเสียไป๋เยวี่ยโหรวก็เคยมีความหลังกับเขาช่วงหนึ่งเป็นผู้ชายด้วยกัน ใครบ้างจะไม่รู้จักกัน?ต่อให้ชอบพอไป๋เยวี่ยโหรวเพียงใด แต่พอรู้ว่านางเคยผ่านชายอื่นมาแล้ว ซ้ำยังมีลูกด้วยกันหนึ่งคน ในใจคงรู้สึกตะขิดตะขวงเป็นอย่างมากเพียงแต่ไฟโทสะนี้ไม่อาจระบายลงที่สตรี จึงคิดจะมาลงดาบที่เขาแทนก็เท่านั้นน่าขันเสียจริงเวินเฉวียนเซิ่งเห็นปาถูเอ่อร์เป็นตัวตลก ใบหน้าย่อมปรากฏแววดูแคลนขึ้นมาเป็นธรรมดาแม้จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังตกอยู่ในสายตาของไป๋เยวี่ยโหรว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1214

    เสินอ๋องผู้เฒ่าอ้าปาก ท่าทางขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนไม่พอใจอยู่บ้าง เตรียมจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขายังไม่ทันเอ่ยปาก ปาถูเอ่อร์ก็คุกเข่าลงดัง ‘ตุบ’ เสียแล้ว“เสด็จพ่อ ทรงรู้จักลูกดี ลูกไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นใด เยวี่ยโหรวคือหนึ่งเดียวที่สำคัญในใจลูก เรื่องอื่นลูกไม่ถือสาทั้งนั้น มีเพียงเรื่องเดียวที่ลูกจะไม่มีวันยอมถอยแม้แต่ครึ่งก้าว มิเช่นนั้น...ก็ประหารลูกเสียเถิด”ภายในโถงใหญ่ บรรยากาศชะงักงันขึ้นมาในฉับพลันพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เสินอ๋องผู้เฒ่าก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งดูแย่จนไม่รู้จะแย่อย่างไรแล้ว“เจิ้นกั๋วกง ท่านก็เห็นแล้ว ลูกของข้าคนนี้โง่เขลานัก นิสัยดื้อรั้น เจิ้นกั๋วกง ท่านต้องช่วยผ่อนปรนให้มากหน่อย”เสินอ๋องผู้เฒ่าส่ายหน้ากล่าวกับเวินเฉวียนเซิ่งด้วยท่าทางจนปัญญาเวินเฉวียนเซิ่งเม้มปาก สีหน้าแข็งทื่ออีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนถึงเพียงนี้แล้ว หากเขายังไม่เข้าใจอีก เกรงว่าเรื่องที่เขาจะทำภายหลังอีกฝ่ายคงไม่ยินดีให้ความร่วมมือแน่พูดอีกอย่างก็คือ ใบหน้านี้ต่อให้เขาไม่อยากไว้หน้าก็จำเป็นต้องไว้“เยวี่ยเอ๋อร์ ขอขมาท่านอ๋องกับพระชายาเสีย”เวินเฉวียนเซิ่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1213

    ถึงขั้นทนดูบรรยากาศในตำหนักที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ อย่างตะลึงงัน มองดูสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งด้านล่างที่ก่อนหน้านี้ยังพูดคุยกับเขาอย่างถูกคอแย่ลงเรื่อย ๆสุดท้ายก็เป็นคนโง่เขลาที่มองสถานการณ์ไม่ออกอีกคนหนึ่งเป็นผู้ทำลายสถานการณ์อันชะงักงันนี้ใช่แล้ว เวินเยวี่ยนั่นเอง“พ่อข้าก็บอกแล้วว่าขาไม่ค่อยดี ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่เสินอ๋องก็ยังเห็นใจละเว้นพิธีการให้พ่อข้า วันหน้าพบเจอก็ไม่ต้องให้เขาทำความเคารพ แล้วพวกท่านจะมาบีบคั้นอะไรกันเช่นนี้? จะใจกว้างเหมือนเสินอ๋องหน่อยไม่ได้หรือ?”นาน ๆ ทีที่เวินเฉวียนเซิ่งจะรู้สึกว่าบุตรสาวผู้นี้ของเขาพอจะมีประโยชน์อยู่บ้างถึงจะซื่อบื้อไปสักหน่อยก็ตามแต่เมื่อมาจากปากของเวินเยวี่ย พูดเรื่องที่เสินอ๋องละเว้นพิธีการให้เขาก่อนหน้านี้ออกมา เวลานี้ต่อให้คนตรงหน้าคือชินอ๋องกับพระชายาแล้วจะทำไมเล่า?เว้นเสียแต่พวกเขาไม่อยากไว้หน้าเสินอ๋องผู้เฒ่า มิเช่นนั้นก็ไม่อาจบีบบังคับให้เขาคุกเข่าทำความเคารพได้อีกจริง ๆใช่แล้ว หากเขายอมนอบน้อมจริง ๆ ก็ต้องคุกเข่าให้ไป๋เยวี่ยโหรวเวินเฉวียนเซิ่งไม่มีทางก้มหัวอับอายต่อหน้าหญิงที่เคยเป็นของตนเองโดยเฉพาะหญิงผู้นี้ย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1212

    ฝ่ามือนี้พาให้เวินเฉวียนเซิ่งมึนงง ทำให้ทุกคนเห็นแล้วต่างอึ้งกันไปครู่หนึ่งปาถูเอ่อร์ที่ได้สติก่อนใครรีบพุ่งตัวเข้าไป เอาตัวบังนางไว้ด้านหลังจนมิด กลัวว่าเวินเฉวียนเซิ่งผู้นั้นจะทำร้ายเยวี่ยโหรวของเขาเพราะฝ่ามือนี้ถูกเขามองด้วยสีหน้าระแวดระวังจนเวินเฉวียนเซิ่งทั้งโมโหและขบขันเขายกมือลูบใบหน้าที่แสบร้อน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นจนใจว่า “เยวี่ยโหรว นี่คือท่าทีของเจ้าที่มีต่อสหายเก่าที่ได้มาพบกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมาหลายปีอย่างนั้นหรือ? อย่างน้อยตอนนั้นข้าก็เคยช่วยชีวิตเจ้าไว้กระมัง?”คำพูดนี้เมื่อเอ่ยออกมา ชางชิงหลานและคนอื่น ๆ ที่เดิมทีเพียงแค่รอดูอะไรสนุก ๆ ก็พลันเบิกตากว้าง มองไปมาระหว่างเวินเฉวียนเซิ่งกับไป๋เยวี่ยโหรวด้วยความแปลกใจยิ่งนักเจิ้นกั๋วกงจากต้าหมิงผู้นี้ ที่แท้เป็นสหายเก่ากับพระชายาชินอ๋องแห่งราชสำนักฝ่ายในหรือนี่?จริงหรือเท็จกันแน่?สถานการณ์นี้ดูไม่ค่อยปกตินักเข้ามาถึงก็ตบผู้อื่นไปฉาดหนึ่ง หากเป็นสหายเก่าที่มีบุญคุณช่วยชีวิตกันจริง จะเป็นเช่นนี้หรือ?“พวกสกปรกเลวทราม คู่ควรเอ่ยนามข้าด้วยหรือ”เมื่อไป๋เยวี่ยโหรวได้ยินน้ำเสียงนั้นของเขา ก็ข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1211

    “คารวะเสินอ๋อง”พิธีการถูกทำซ้ำอีกหนึ่งรอบ แต่เสินอ๋องผู้เฒ่าไม่ได้ไต่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ราวกับรู้อะไรอยู่แล้ว เพียงเอ่ยปากพร้อมเสียงหัวเราะ “ลุกขึ้นเถิด พวกเจ้าสองสามีภรรยารีบเข้ามานี่ มาพบปะแขกเหรื่อของพ่อในวันนี้”ปาถูเอ่อร์จูงมือไป๋เยวี่ยโหรวไว้ไม่ปล่อยพานางเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่ ยืนอยู่เบื้องหน้าหลายคนรวมเวินเฉวียนเซิ่งอยู่ในนั้นด้วยสายตาหลายคู่พลันจับจ้องมาที่ตัวพวกเขาแต่สายตาเหล่านั้นเพียงกวาดมองปาถูเอ่อร์แวบหนึ่ง แล้วก็ไปรวมอยู่ที่ใบหน้าของไป๋เยวี่ยโหรวที่อยู่ข้างกายเขาแทนเวินเยวี่ยที่เพิ่งฟื้นได้ไม่นาน ก็เพิ่งถูกเอ้อถานหลัวพาตัวมาเช่นกัน แม้จะพอรู้สถานการณ์อยู่บ้าง แต่ก็ยังสับสนอยู่เล็กน้อยว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้คือเรื่องอะไรกันแน่อย่างเช่น...หญิงผู้นั้นที่ถูกชายอื่นจูงมืออยู่ เหตุใดจึงมีหน้าตาเหมือนกับนางราวกับพิมพ์เดียวกัน?หรือว่า...มารดาของนางก็ฟื้นคืนชีพแล้ว?!“ท่านแม่?”เวินเยวี่ยเอ่ยปากออกมาโดยไม่รู้ตัว ลองหยั่งเชิงเรียกไปหนึ่งคำทว่าเมื่อสิ้นเสียงนี้ ไป๋เยวี่ยโหรวที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็มีสีหน้าบึ้งตึงลงทันใด สายตาราวกับจะกินคน จ้องเขม็งใส่เวินเยวี่ยราวกับจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1210

    บนท้องถนน กลิ่นหอมของสุราลอยอบอวลจาง ๆท่ามกลางกลิ่นหอมของสุรานี้ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่าด้านหลังหลานซื่อกับพวกหายไปหนึ่งคนหลังจากเห็นกับตาว่าเกาหยางกับพวกออกจากเมืองไปแล้ว หลานซื่อและเป่ยเฉินหยวนจึงเปลี่ยนเส้นทางตามสือเซี่ยวมุ่งหน้าไปยังจวนเสินอ๋องณ เวลานี้ทางฝั่งจวนเสินอ๋องไป๋เยวี่ยโหรวและปาถูเอ่อร์ทั้งสองคนได้ถูกเสินอ๋องผู้เฒ่าเชิญเข้าสู่จวนเสินอ๋องแล้วจริง ๆทันทีที่ก้าวเข้าสู่ตำหนักใหญ่ ปาถูเอ่อร์ก็พบว่าภายในตำหนักดูเหมือนจะมีผู้อื่นอยู่ด้วย เขาไม่ได้คิดมาก เพียงทำความเคารพอย่างนอบน้อมก่อน “ถวายบังคมเสด็จพ่อ”เมื่อเขาทำความเคารพเสร็จ กลับพบว่าคนข้างกายไร้ความเคลื่อนไหวเขาหันไปมอง ไป๋เยวี่ยโหรวยืนนิ่งไม่ขยับอยู่กับที่“เยวี่ยโหรว? เป็นอะไรไป?”ไป๋เยวี่ยโหรวไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องเขม็งไปข้างหน้าอยู่อย่างนั้นปาถูเอ่อร์เกรงว่าจะทำให้เสินอ๋องผู้เฒ่ากริ้ว จึงรีบยื่นมือไปดึงนาง พอดึงก็พบว่าเวลานี้ไป๋เยวี่ยโหรวตัวแข็งทื่อไปทั้งร่างปาถูเอ่อร์เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ เขาเองก็ไม่สนธรรมเนียมที่ต้องก้มหน้าเมื่อทำความเคารพแล้ว พลางเงยหน้ามองตามสายตาของไป๋เยวี่ยโหรวเข้าไปในต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status