พูดได้ว่าคนที่ควรสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลแต่เดิมก็คือหลี่กงเฉิงแต่เขากลับสละโอกาสนี้ให้กับหลี่ฮุ่ยหรานไม่ใช่แค่เพราะความสามารถของหลี่ฮุ่ยหรานเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะข้างกายหลี่ฮุ่ยหรานมีคนที่สามารถนำพาตระกูลหลี่ทั้งตระกูลให้รุ่งเรืองได้และความจริงก็ชนะคำพูดหลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งเข้าบริหารตระกูลหลี่ หลี่ซื่อกรุ๊ปได้ไม่กี่เดือนทั้งตระกูลและบริษัทก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ระเบิดพลังที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้แต่คุณปู่หลี่ไห่หงยังชมเชยความสามารถของหลี่ฮุ่ยหรานเป็นการส่วนตัวบ่อยครั้งแต่ไม่คิดว่าตระกูลที่กำลังรุ่งเรือง กลับถูกหยวนเหยี่ยนเซี่ยตั้งคำถามอย่างกะทันหัน สิ่งที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ นายท่านกลับมาล้มป่วยในช่วงเวลานี้นายท่านป่วยหนักมากถึงแม้ว่าชีพจรยังถือว่าคงที่ แต่ก็ยังคงหมดสติอยู่สิ่งนี้ทำให้หลี่กงเฉิงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าการป่วยของนายท่านในครั้งนี้ มีใครบางคนวางแผนอยู่เบื้องหลังเป้าหมายเพื่อแย่งชิงอำนาจถ้าจะบอกว่าใครไม่พอใจหลี่ฮุ่ยหรานที่เป็นผู้นำตระกูลมากที่สุด ก็คงจะเป็นหลิ่วเยว่ฟาง ย่ารองของตระกูลหลี่แต่ตอนนี้หลิ่วเยว่ฟางก็ไม่รู้หายตัวไปสิ่งนี้ทำให้หลี่กงเฉิงกระวนก
"โจทย์ยาก? พูดมาหน่อย?"หลินเฟิงหรี่ตาลง"ซือไจนี้ก็เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของฉันเหมือนกันนะ เรื่องทรยศหุ้นส่วนแบบนี้ จิ๊จิ๊จิ๊...""ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ไม่รบกวนแล้ว"หลินเฟิงหยุดชะงัก ต้องการที่จะวางสายทันที"เอ๊ะๆๆ สามี ทำไมคุณความอดทนยิ่งอยู่ยิ่งน้อยลง อย่างน้อยก็ฟังฉันพูดให้จบก่อนสิ จริงๆ เลย"ฉู่ฮวาจิ่นที่อยู่ในสายโทรศัพท์ส่งเสียงออดอ้อน"ตอนนี้ฉันยุ่งมาก ไว้โอกาสหน้าค่อยฟังเธอระบายความทุกข์ ถ้าเธอไม่เต็มใจที่จะบอกฉัน ฉันก็จะไปหาคนอื่น""อย่าสิ"ฉู่ฮวาจิ่นถอนหายใจอย่างแผ่วเบาและพูดว่า:"จริงๆ เลย คุณใส่ใจหลี่ฮุ่ยหรานผู้หญิงคนนั้นมากเกินไปแล้ว คุณไม่คิดเลยเหรอว่า คุณหยาบคายต่อฉันขนาดนี้ ถ้าวันไหนถูกบีบคั้นมากเกินไป ฉันทรยศคุณจะทำยังไง?""......"เมื่อเผชิญหน้ากับความเงียบของหลินเฟิง ฉู่ฮวาจิ่นก็หัวเราะคิกคักและพูดว่า:"เอาล่ะๆ ล้อเล่นน่า ฉันจะทรยศสามีที่ฉันหมายตาไว้ได้อย่างไรล่ะ? ฉันยังหวังให้คุณช่วยฉันแก้...แค่กแค่ก แก้แค้นอยู่เลย""เอาล่ะๆ คนที่คุณกำลังตามหาอยู่ในคลินิกเล็กๆ แห่งหนึ่งในเขตทะเลสาบเมืองหนิงโจว ชื่อว่าคลินิกคังจวง"เมื่อได้ข้อมูลนี้ หลินเฟิงก็ไม่ได้
พยาบาลทั้งสองคนก็จนปัญญา"คุณยายอย่าร้องเลยค่ะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลของเราเป็นน้องสาวของศาสตราจารย์หลินที่รักษาคุณเมื่อสักครู่นี้ คุณยายพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ดีกว่านะคะ"พูดจบ พยาบาลทั้งสองคนก็เดินออกไปด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ"ผู้อำนวยการหลินบอกว่าคุณยายคนนี้จะเกิดอาการหลงผิดที่ควบคุมไม่ได้หลังจากได้รับการรักษา เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?"ยังไม่ทันที่พยาบาลอีกคนจะได้ตอบภายในห้องไอซียู เสียงร้องที่แหบแห้งของหลิ่วเยว่ฟางก็ดังขึ้น"ปล่อยฉันนะ ฉันเป็นย่ารองของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน ถ้าพวกแกไม่ปล่อยฉันวันนี้ ฉันจะให้พวกแกได้เห็นดี!""เฮ้อ อย่าพูดเลย ศาสตราจารย์หลินคาดการณ์ได้อย่างกับเทพ คุณยายคนนี้เกิดอาการหลงผิดจริงๆ ด้วย""ชู่ว อย่าไปยุ่งกับเธอ"เมื่อได้ยินพยาบาลสองคนที่อยู่หน้าประตูเดินจากไป หลิ่วเยว่ฟางก็นอนอยู่บนเตียงและคำรามด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า:"หลินเฟิง ฉันไม่มีวันจบกับแกแน่"......"ฮัดชิ่ว"ในขณะนั้น หลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งเดินออกมาจากตลาดหลักทรัพย์ การดำเนินการโอนหุ้นเป็นไปอย่างราบรื่นหลังจากขึ้นรถมาได้ไม่นาน หลินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะจามออกมา"หลินเฟิง คุณไม่เป
“หลินเฟิง”เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานเห็นว่าเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็รีบมองไปทางหลินเฟิงสายตาที่อดทนรอต่อไปไม่ไหวและน่าสงสารของหลิ่วเยว่ฟางนั้น ก็ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยพวกเขาทำแบบนี้ ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากความลำบากของผู้อื่นจริง ๆแต่ก็ไม่มีทางเลือก เพื่อที่จะรักษาหลี่ซื่อกรุ๊ปเอาไว้ หลี่ฮุ่ยหรานจึงต้องทำแบบนี้เท่านั้นดังนั้นในเวลาที่เอกสารถูกเซ็นชื่อ เธอก็มองไปทางหลินเฟิง เพื่อให้หลินเฟิงลงมือช่วยเหลือหลิ่วเยว่ฟาง“ได้”หลินเฟิงก็ไม่รอช้าเช่นกันแน่นอนว่า เพื่อที่จะรักษาชีวิตของหลิ่วเยว่ฟางเอาไว้ หลินเฟิงไม่สามารถที่จะให้เธอกินยาชะมด ที่เป็นยาพิษได้ถึงแม้การกินมันเข้าไปจะช่วยชีวิตได้ชั่วคราวก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้เกินหนึ่งเดือนดังนั้นหลินเฟิงจึงหยิบยาอมตะเลือดราชันย์ออกมาให้หลิ่วเยว่ฟาง ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเป็นสื่อกลางและใส่พลังชี่แท้เข้าไปในร่างกายที่บอบช้ำของหลิ่วเยว่ฟางอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเธอในการย่อยสรรพคุณของยาอมตะเลือดราชันย์ไม่นานหลังจากนั้น สีหน้าของหลิ่วเยว่ฟางก็เริ่มมีสีเลือดเล็กน้อย ใบหน้าไม่ได้เจ็บปวดเหมือนเมื่อครู่แล้ว แต่กลับแสดงออกถึงคว
หากบอกว่าคนที่เธอไม่อยากเห็นมากที่สุดในตอนนี้ ก็คงจะเป็นหลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานนั้นแหละ“หึหึ”หลินเฟิงก็ไม่ได้ถือสา คว้าเอาแอปเปิ้ลที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมากัดคำหนึ่ง แล้วขยับเข้าไปใกล้หลิ่วเยว่ฟาง หรี่ตายิ้มพูดขึ้นว่า :“หลิ่วเยว่ฟาง ผมรู้ว่าตอนนี้คุณกำลังรออะไรอยู่”และในตอนนี้หลิ่วเยว่ฟางที่พูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงแค่จ้องหลินเฟิงเขม็ง อยากจะใช้สายตาฆ่าหลินเฟิงไปซะแต่น่าเสียดายที่หลิ่วเยว่ฟางไม่มีความสามารถนี้หลินเฟิงยังคงยิ้มแย้มตาหยีพูดว่า :“คุณให้หลี่หยวนช่วยไปเอายามาสินะ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหลินเฟิง หลิ่วเยว่ฟางก็ถึงกับตัวสั่นไปทั้งตัว เห็นได้ชัดว่ากลัวที่จะถูกมองออก“งั้นผมก็พูดตรง ๆเลยละกัน”หลินเฟิงหันตัวกลับไปนั่งบนเตียงผู้ป่วยของหลิ่วเยว่ฟาง ก่อนจะยิ้มบาง ๆแล้วพูดว่า :“ยาที่หลี่หยวนไปเอามาให้น่ะ ไม่มีทางที่จะเอามาได้แล้วละ เพราะว่าคนที่ส่งยา ได้ตายด้วยน้ำมือของผมไปแล้ว”“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด.....”เครื่องมือโดยรอบต่างก็เริ่มส่งเสียงเตือน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่ตื่นตระหนกและอารมณ์ที่โกรธของหลิ่วเยว่ฟางในตอนนี้“แต่ว่านะ.....”หลินเฟิงเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน ก่อ
เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานและจางกุ้ยหลานมาถึงโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อ หลินเฟิงก็มารอพวกเธอที่หน้าประตูโรงพยาบาลแล้วเมื่อมองเห็นหลี่ฮุ่ยหราน หลินเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก่อนจะพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า :“มากับผม”เห็นท่าทางที่มั่นใจของหลินเฟิง จางกุ้ยหลานก็สงสัยเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามเขาไปแล้วเอ่ยถามว่า :“หลินเฟิง คุณแน่ใจเหรอว่าจะทำให้หลิ่วเยว่ฟางโอนหุ้นให้กับฮุ่ยหรานได้น่ะ? ระหว่างทางฉันได้คุยปรึกษากับฮุ่ยหรานไปเล็กน้อยแล้ว ว่าตอนนี้หลิ่วเยว่ฟางอยากจะให้ฮุ่ยหรานออกจากตระกูลอย่างมาก แล้วจะยอมโอนหุ้นของตัวเองได้ยังไงล่ะ?”“ใช่แล้วหลินเฟิง นี่มันก็ค่อนข้าง....”หลี่ฮุ่ยหรานก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี หลังจากที่อ้ำอึ้งอยู่นาน ทำได้แค่พึมพำว่า : “มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“เอาละ”เพื่อให้พวกเขาได้คลายความสงสัย หลินเฟิงก็ยิ้มแล้วหยิบขวดยาสองขวดออกมาจากในอกเสื้อ ก่อนจะโบกไปมาด้านหน้าพวกเธอ“ยานี้คือยาที่หลิ่วเยว่ฟางต้องการในตอนนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยชีวิตของเธอ มีแค่ผมเท่านั้นที่มียาสองขวดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าหลิ่วเยว่ฟางจะไม่ยอมก้มหัวให้”“คุณจะใช้ยามาข่มขู่หลิ่วเยว่ฟางงั้นเหรอ?”หลี่ฮุ