ชายชราซ่งทำท่าออกกำลังกายยืดอก “ไม่ใช่แค่ว่าหายดีเท่านั้นนะ แต่ยังรู้สึกมีพลังมากขึ้นด้วย”อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม “เจ้าหลิน ยาอมตะเลือดราชันย์นี้เป็นยาวิเศษจริง ๆ ด้วย” “ฮ่า ๆ ๆ......”ซ่งเฉียนคุนหัวเราะดังลั่นและเอ่ยว่า “ผมบอกแล้ว สมแล้วที่เจ้าหลินเป็นหมอเทวดาอันดับหนึ่งของเจียงโจว”เขาหันกลับไปมองน้องชายของตน “นึกไม่ถึงว่าแกจะกล้าลงไม้ลงมือกับเจ้าหลิน รนหาที่จริง ๆ” “ว่าไงนะ?”ชายชราซ่งขมวดคิ้ว มองลูกชายคนเล็กของตนเอง “แกลงไม้ลงมือกับเจ้าหลินเหรอ?”ซ่งเฉียนเฉิงเกาหัวอย่างทำตัวไม่ถูก “ก็เปล่าเสียหน่อย ก็เพราะพ่อทานยาลูกกลอนเข้าไปแล้วอาเจียนออกมาเป็นเลือด ผมก็คิดว่าพ่อจะเป็นอะไรไป?” “พูดเหลวไหล”ชายชราซ่งด่าตวาดและไล่ให้ออกไปทันทีโชคดีที่หลินเฟิงยังไม่ได้ไปไหนชายชรารีบโบกมือแล้วเอ่ยว่า “เจ้าหลิน วันนี้ต้องขอโทษจริง ๆ ไอ้ลูกชายคนเล็กของผมมันช่างไม่รู้ประสาจริงๆ คุณอย่าไปใส่ใจมันเลยนะ”คนมีพรสวรรค์เช่นนี้อย่างหลินเฟิง ถ้าไม่สามารถผูกมิตรไว้ได้ก็อย่าได้ทำให้ต้องขุ่นเคืองแต่หลินเฟิงกลับไม่ได้ใส่ใจ“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ผมไม่ใส่ใจหรอกครับ ขอแค่คุณท่านหายดีก็ดีแล้วครับ”ชายช
ยาอมตะเลือดราชันย์ หากยาวิเศษเช่นนี้ได้ออกสู่ตลาดจะต้องได้รับความสนใจมากแน่ ๆตระกูลซ่งของพวกเขายินดีที่จะร่วมลงทุน ขอหุ้นเพียงแค่ 10% ก็ได้หลินเฟิงยิ้มและเอ่ยว่า “ที่แท้ท่านผู้นำซ่งมาก็มาเพราะเรื่องนี้นี่เอง”“พูดตามตรงไม่ปิดบัง ยาอมตะเลือดราชันย์นี้ไม่สามารถผลิตออกมาได้มาก เพราะในแต่ละครั้งที่กลั่นยาอมตะเลือดราชันย์ออกมาหนึ่งเตา จะต้องใช้สารสำคัญและเลือดจากปรมาจารย์ลมปราณภายในหนึ่งหยด” “หือ?”ซ่งเฉียนคุนเข้าใจในทันที “มิน่าล่ะ ๆ เจ้าหลินถึงไม่ยอมขายยาอมตะเลือดราชันย์นี้เลย”“ที่แท้มูลค่าการกลั่นยาอมตะเลือดราชันย์ก็สูงเช่นนี้นี่เอง”แต่สารสำคัญและเลือดหนึ่งหยดนี้ สำหรับหลินเฟิงแล้วไม่ได้มีค่าอะไรมากแต่สำหรับนักรบอย่างพวกเขาที่ยังไม่บรรลุลมปราณภายในนับว่าเป็นสมบัติถึงจะมีตำรับยา จะไปหาสารสำคัญและเลือดของปรมาจารย์ที่มีลมปราณภายในได้ที่ไหนกัน?ทั้งสองเสวนาเรื่องศิลปะการต่อสู้กันเล็กน้อย และซ่งเฉียนคุนก็รีบขอตัวลาพอออกจากห้องของหลินเฟิง ก็เดินผ่านห้องโถงด้านหลังซ่งเฉียนเฉิงรอมาเป็นเวลานาน เมื่อเห็นพี่ชายตนเอง ก็รีบสาวเท้าไปด้านหน้าแล้วถามว่า “พี่ใหญ่ เป็นไงบ้าง?” “สูตร
นานพอสมควรหลี่ฮุ่ยหรานถึงได้รู้สึกตัว “ซินซิน ทำไมเธอถึงกลับประเทศแล้วล่ะ?”ลูกพี่ลูกน้องของตนไปเรียนต่างประเทศ ปีหน้าถึงจะกลับมาไม่ใช่เหรอจางซิผุดยิ้มหวาน ๆ และเอ่ยว่า “พูดตรง ๆ เลยนะ ไม่นานมานี้ฉันเปิดบริษัทร่วมกับหุ้นส่วน ต่อไปก็วางแพลนจะทำธุรกิจในเจียงโจวด้วย” “พี่ต้องช่วยฉันนะ!” "สุดท้ายหลี่ซื่อกรุ๊ปก็ต้องใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อย่าลืมพวกเราเชียวนะ!”ในเวลานี้จางกุ้ยหลานกล่าวก็เอ่ยขึ้นว่า “ตายแล้ว ซินซิน ทำไมหนูพูดอย่างนั้น?” “ถ้าหนูอยากจะทำธุรกิจ ให้พี่หนูแบ่งบริษัทสาขาให้ดูแลไม่ดีกว่าเหรอ ทำไมต้องไปร่วมมือกับคนอื่นด้วยล่ะ?”“แม่......”หลี่ฮุ่ยหรานรีบพูดขัดจังหวะ “ในเมื่อซินซินจะร่วมมือกับเพื่อน นั่นก็เพราะว่าเธอต้องมีแพลนของเธออยู่แล้ว”ในทุกวันนี้หลี่ซื่อกรุ๊ปงบการเงินก็ขาดดุลเช่นกัน ถ้าตัดบริษัทสาขาออกไป งั้นก็เป็นการเฉือนเนื้อตัวเองไม่ใช่เหรอไง?แม่ตนเองอยากจะรักษาหน้าต่อหน้าญาติ ๆ แต่ก็ต้องคิดถึงความรู้สึกของตนด้วยสิจางซินส่ายหน้าและเอ่ยปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณป้า คราวนี้ฉันจะลงทุนด้วยตนเอง”เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานได้ยินเช่นนี้ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกจางกุ้ยหลานยกนิ้ว
ซ่งเฉียนคุนเองก็ไม่คิดว่าไท้ส่วยป่านี้จะได้รับความนิยมขนาดนี้แต่ตนได้ให้สัญญากับหลินเฟิงไว้ว่าจะช่วยหาไท้ส่วยป่าแต่นี่กลับถูกคนอื่นซื้อตัดหน้าไป ช่างน่าอับอายเหลือเกินหลินเฟิงรีบก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ผู้ดูแลร้าน ช่วยพาเราไปพบเถ้าแก่ของพวกคุณหน่อยได้ไหม? ผมยินดีซื้อต้นไท้ส่วยนี้ในราคาสูง" “ใช่ ๆ ๆ......”ซ่งเฉียนคุนได้ยินเช่นนั้น ก็รีบควักธนบัตรก้อนหนึ่งออกมาแล้วโยนให้กับผู้ดูแล“เงินก้อนนี้ให้คุณ รีบพาเราไปพบเถ้าแก่ของคุณเร็วเข้า”ผู้ดูแลมองธนบัตรหนา ๆ กองหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นใบหน้าที่ดูลำบากใจอยู่เล็กน้อยก็ผุดรอยยิ้มขึ้น“เชิญคุณทั้งสองตามผมมาครับ ผมจะพาคุณไปพบเถ้าแก่”......โกดังด้านหลังของร้านขายของโบราณจางซินเอ่ยด้วยใบหน้าที่ดูตื่นเต้น “เถ้าแก่อู๋ รีบเอาไท้ส่วยป่าต้นนั้นของคุณออกมาเร็ว ๆ สิ!"อู๋จงเจิ้งที่หน้าอวบอ้วนหัวเราะร่า อุ้มกล่องผ้าใบหนึ่งออกมาแล้วเอ่ยว่า “คุณจางอย่าใจร้อนสิ นี่ก็คือต้นไท้ส่วยป่านั่น” “ราคาขายอยู่ที่ยี่สิบห้าล้านบาท ห้ามต่อ”จางซินหันกลับไปมองจางกุ้ยหลาน “คุณป้า คุณป้ารีบรูดบัตรเลยค่ะ" “นี่......ซินซิน ต้นไท้ส่วยนี่ราคาแพงขน
“จางซิน ไท้ส่วยนี่เธอเอาไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยนะ เธออยากจะรักษาอะไรฉันจะช่วยรักษาให้ ฉันให้เงินเธอได้ เธอขายไท้ส่วยนี่ให้ฉันเถอะนะ”ใบหน้าเล็ก ๆ จางซินเหลือบมอง ทำปากมุ่ยแล้วเอ่ยว่า “ฉันน่ะมีสุขภาพแข็งแรงดี จะไปให้นายรักษาทำไม? นายคิดว่านายเป็นใคร?”เธอดูถูกหลินเฟิงที่เป็นคนไม่มีอะไรเลยตั้งแต่แรกลูกพี่ลูกน้องของตนก็ตาบอดไปแต่งงานกับเขาแล้วก็มาฉลาดที่เลิกกับเขาในตอนนี้“เธอไม่ได้เอาไปใช้รักษาแล้วจะซื้อเจ้านี่ไปทำไม?” หลินเฟิงหมดคำพูดอยู่เล็กน้อยจางซินเชิดคอแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “แน่นอนว่าจะเอาไปให้คนอื่นอยู่แล้ว คุณหนูตระกูลเซี้ยงต้องการไท้ส่วยป่านี่อยู่พอดี”“ถ้าเอาไท้ส่วยนี้ให้คุณเซี้ยง ไม่แน่ว่าอาจได้เป็นตัวแทนอันดับหนึ่งที่เอายาบำรุงสตรีมาให้ตระกูลเซี้ยงได้”หลินเฟิงยิ้ม “เดิมทียาบำรุงสตรีไม่ได้ขายดีขนาดนั้น ขอแค่เธอขายไท้ส่วยนี้ให้กับฉัน ฉันสามารถให้ยาที่ทำกำไรได้มากกว่ายาบำรุงสตรีแทนได้”นี่ไม่ใช่สัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ที่หลินเฟิงให้เธออีกครั้งยาปรับประสานพลังออกวางตลาดแซงหน้ายาบำรุงสตรีแน่ ๆ พอถึงเวลานั้นยาบำรุงสตรีก็จะไม่มีมูลค่าแต่จางซินกลับทำเสียงขึ้นจมูก “พอได้แล้
จางกุ้ยหลานก็ไม่อยากที่จะดูขี้เหนียวต่อหน้าหลานสาวด้วยเช่นกันแต่ตนต้องเสียเงินสองร้อยล้านก็รู้สึกเจ็บปวดอู๋จงเจิ้งก็ถึงกับตะลึงงุงงง ไม่คิดว่าไท้ส่วยต้นหนึ่งจะสามารถขายได้ถึงสองร้อยล้านบาทนี่มีเพียงหนึ่งเดียวเขารีบเอ่ยออกมาว่า “ทั้งสองท่าน พวกคุณยังอยากจะเพิ่มราคาไหม?”หลินเฟิงและซ่งเฉียนคุนขมวดคิ้วแน่น เงินของพวกเขาทั้งสองเพิ่มเข้าเป็นหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน จะเพิ่มไปทำไมเล่าพูดตามตรง ไม่คิดว่าสองป้าหลานอย่างจางกุ้ยหลานจะโง่ถึงขนาดนี้นึกไม่ถึงว่าจะจ่ายเงินซื้อไท้ส่วยต้นหนึ่งถึงสองร้อยล้านเมื่อเห็นว่าหลินเฟิงไม่เพิ่มราคาแล้ว อู๋จงเจิ้งยิ้มแล้วก็มองไปที่จางกุ้ยหลาน“คุณจาง ไท้ส่วยต้นนี้เป็นของคุณแล้วครับ”จางกุ้ยหลานรูดบัตรทันที ตาคู่นี้มองหลินเฟิงภูมิใจในชัยชนะพอคิดว่าแม่ไก่แก่ที่เย่อหยิ่งตัวหนึ่งคิดว่าในใจคงกระอักเลือด แต่ก็ยังคงรักษารอยยิ้มแห่งชัยชนะไว้เหมือนเดิมมือหนึ่งจ่ายเงิน อีกมือหนึ่งรับของจางซินสมปรารถนาที่ได้ซื้อไท้ส่วยป่าอายุร้อยปีมาได้เอ่ยด้วยดวงตาคู่ที่ร้อนแรงว่า “มีเจ้านี่ ก็จะได้สร้างสัมพันธ์กับตระกูลเซี้ยงแล้ว”เธอเปิดกล่องผ้าออกมาด้วยความตื่นเต้
ลูกค้าในร้านขายของโบราณก็ถูกเสียงตะโกนของจางกุ้ยหลานดึงความสนใจเข้ามาอู๋จงเจิ้งคลุกคลีกับร้านขายของโบราณมานานหลายปีไม่ได้กินหญ้านะเมื่อเห็นว่าเธอกล้าที่ก่อเรื่องแบบนี้ ก็ตะโกนในทันทีว่า “กล้ามาก่อเรื่องในที่ของฉันงั้นเหรอ? ใครก็ได้เข้ามาที”ออกคำสั่งไป รปภ.ร้านขายของโบราณก็รีบพุ่งเข้ามาทันทีหลี่ฮุ่ยหรานเห็นสถานการณ์ว่าถ้าวุ่นวายขึ้นมาจะจัดการลำบาก จึงรีบเอ่ยว่า “เถ้าแก่อู๋ใจเย็น ๆ ก่อน เราไม่คืนของแล้วโอเคไหม?”พวกเธอผู้หญิงบอบบางสามคนเผชิญหน้ากับชายชาตรีกลุ่มนี้ เทียบกันได้ที่ไหนเล่าจางกุ้ยหลานเองก็กลัวรปภ.สิบกว่าคนเลยไม่กล้าส่งเสียงอู๋จงเจิ้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ดูแลแม่ของเธอให้ดี ถ้ากล้ามาใส่ร้ายฉันอีก ระวังฉันจะไม่ปล่อยพวกเธอออกจากร้านขายของโบราณนี้ไป”หลินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยกมุมปากขึ้นเกือบจะหัวเราะออกมาแล้วแม้ว่าเถ้าแก่ร้านขายของโบราณแห่งนี้จะเป็นพ่อค้าหน้าเลือด แต่พอเห็นจางกุ้ยหลานถูกบีบให้แพ้ เขาก็ยังอดที่จะหัวเราะไม่ได้ซื้อไท่ซุยที่ตายแล้วสองร้อยล้านบาท นี่ก็มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกด้วยสินะจางกุ้ยหลานตัวสั่นงกงก สายตาจับจ้องไปที่หลินเฟิงวิ่งเหยาะ ๆ
เห็นเพียงแต่ด้านในของไท้ส่วยป่าที่ตายแล้วนี้ ปรากฏร่องรอยของเลือดสีแดงสดขึ้นแท้จริงแล้วภายในกลับมีไท้ส่วยป่าสีเลือดก้อนใหม่ซ่อนอยู่ “นะ...นี่คือ?”ผู้คนโดยรอบเมื่อเห็นดังนั้นต่างก็พากันตกใจยิ่งขึ้นไปใหญ่ มันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อเล็กน้อย “นี่คือไท้ส่วยป่าสีเลือดใช่ไหม?” “และมันยังมีชีวิตอยู่ด้วย” “มิน่าล่ะไท้ส่วยป่านี้ถึงตาย ก็เพราะว่าสารอาหารทั้งหมดนั้นถูกไท้ส่วยป่าสีเลือดที่อยู่ข้างในดูดไปเก็บไว้ที่ตัวเองหมดแล้วนั่นเอง”จางกุ้ยหลานสีหน้างุนงง เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแหล่งที่มาของยาสมุนไพรเลยสักนิด จึงถามจางซินว่า “ไท้ส่วยสีเลือดคืออะไรเหรอ?"จางซินมุมปากกระตุกเล็กน้อย ความอิจฉาริษยาผุดขึ้นในแววตาของเขา “ก็คือไท้ส่วยป่าปรสิตที่เติบโตขึ้นในไท้ส่วยป่าอีกก้อนหนึ่ง สารอาหารของไท้ส่วยป่าสีเลือดก้อนนี้ทั้งหมดได้รับมาจากไท้ส่วยป่าที่อยู่ข้างนอก ถือว่าเป็นของที่ดีที่สุดในบรรดาไท้ส่วยป่า”ซ่งเฉียนคุนเมื่อได้เห็นไท้ส่วยป่าสีเลือด ดวงตาของเขาก็ยิ่งเป็นประกายเข้าไปใหญ่ “โอ้พระเจ้า สหายน้อยหลินสายตาแหลมคมยิ่งนัก สามารถค้นพบไท้ส่วยป่าสีเลือดที่หลบซ่อนอยู่ในนั้นได้”เขามั่นใจว่าหล
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
ถานหงกำลังหัวเราะเยาะตัวเองเธอวางแผนมาเป็นเวลานาน โดยต้องการใช้ตระกูลหลง เพื่อแก้แค้นหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียและคนอื่นๆติดไม่ถึงว่านี่จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายแม้แต่หลงซิ่วซึ่งได้รับการยกย่องว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้ในขณะนี้เขาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกับตะพาบน้ำแต่ทว่าถานหงกลับไม่รู้ว่าหลงซิ่วยังไงก็เป็นถึงรองหัวหน้าฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเพียงแค่ด้อยกว่าหลินเฟิงมากไปหน่อยก็เท่านั้นเองยิ่งกว่านั้นเขายังมีความเย่อหยิ่งมากเกินไป เขาไม่ได้พาลูกน้องของเขามาด้วย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดังนั้นจึงถูกหลินเฟิงเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลินเฟิงเตรียมยาพิษไว้สำหรับหลงซิ่วโดยเฉพาะเมื่อหลงซิ่วต้องการใช้พลังชี่แท้ พิษก็จะออกฤทธิ์พิษนี้จะไม่ฆ่าหลงซิ่วทันที แต่จะทำให้เขาเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าในตอนแรกเขาสามารถต้านทานด้วยความมุ่งมั่นและพลังชี่แท้ของเขาได้ แต่เมื่อพิษค่อยๆ รุกรานร่างกาย เขาก็สูญเสียสติทั้งหมดไปหลังจากระบายความโมโห ก็เสียชีวิตทันทีเขากล้าใช้กลอุบายสกปรกกับหลินเฟิง ดังนั้นหลินเฟิงก็ไม่มีทา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน