หลี่ฮุ่ยหรานรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว แล้วโผเข้าหาหลินเฟิง ก่อนจะฝังใบหน้าไปที่หน้าอกของหลินเฟิง“ฮือ...หลินเฟิง จะทำยังไงดี ฉันก่อเรื่องวุ่นวายเข้าซะแล้ว เกรงว่าตอนนี้คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นผู้นำจะถูกเพิกถอนด้วย”“บริษัทห้าหมื่นล้านนะ! นั่นนก็คือบริษัทที่มีมูลค่าตลาดหลายหมื่นล้าน ถ้าฉันได้มาก็ไม่ต้องมองใบหน้าของถังหว่านแล้ว ฮือฮือฮือ.....”เมื่อเห็นท่าทางเศร้าเสียใจราวกับลูกสาวตัวน้อยของหลี่ฮุ่ยหราน หลินเฟิงก็เผลอหัวเราะออกมา ก่อนจะตบปลอบใจที่ด้านหลังของเธอ“เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าคุณมั่นใจมากงั้นหรอกเหรอ?”หลินเฟิงยิ้มแล้วมองไปที่เธอ“ฉัน...ฉันเสแสร้งทำออกมานี่นา!”หลี่ฮุ่ยหรานบุ้ยปากและพูดออกมาอย่างขมขื่น “ฉันคิดแค่ว่าถังหว่านจะทำยังไง เพราะงั้นก็เลยใจร้อนทำแบบนี้ไป”“คุณยังหัวเราะฉันอีก!”หลี่ฮุ่ยหราน ยกกำปั้นสีชมพูขึ้นมา ก่อนจะทุบไปที่หน้าอกของหลินเฟิง“ตอนนี้มันจบสิ้นแล้ว...”หลี่ฮุ่ยหรานยังคงคร่ำครวญไม่หยุด และหลินเฟิงก็มองความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของหลี่ฮุ่ยหราน ผู้หญิงที่แข็งแกร่งมากอย่างนี้ ในตอนนี้แค่รู้สึกมันว่าน่าขัน แต่ก็ไม่สามารถหัวเราะออกมาเสียงดังได้ก่อนจะเม้มปากด้ว
จางกุ้ยหลานนี่ไม่มีสมองจริง ๆใช่ไหม?ให้หลินเฟิงเข้าไปขอโทษ?หลิวเยว่ฟางก็คู่ควรงั้นเหรอ?หากหลินเฟิงเข้าไปจริง ๆ เกรงว่ามันจะไม่ใช่การขอโทษง่าย ๆแล้ว น่ากลัวว่าการขอโทษจะเปลี่ยนเป็นการข่มขู่ด้วยซ้ำหลินเฟิงจะไม่พอใจ ถ้าหากทายาทผู้นำไม่ได้กำหนดให้เป็นหลี่ฮุ่ยหรานและการใช้อำนาจบีบบังคับแบบนี้ ก็จะทำให้อิทธิพลทั้งหมดของตระกูลหลี่ไม่พอใจสุดท้ายตระกูลหลี่ก็จะแยกทางกัน และเรื่องที่ควรจะสนิทกลมเกลียวกันก็จะกลายเป็นคว้าน้ำเหลว ไม่ได้อะไรสักอย่าง“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่ต้อง เรื่องนี้ฉันก็คิดหาวิธีอยู่”หลี่กงเฉิงรีบปฏิเสธ แต่หลังจากที่เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ราวกับคิดอะไรบางอย่างได้“ใช่แล้ว เมื่อเร็ว ๆนี้คุณปู่เพิ่งจะลงทุนให้กับฟาร์มแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองที่เจียงหนาน”หลี่กงเฉิงพูดว่า “คุณปู่ชอบฟาร์มแห่งนี้มาก และมักจะพาคนไปปลูกพืชสีเขียว”“น่าเสียดายที่มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ระยะนี้ก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และขาดทุนไปอีกหลายร้อยล้านด้วย”“ถึงแม้คุณปู่จะชื่นชอบ แต่ก็ไม่สามารถจะขาดทุนไปได้ตลอด ดังนั้นช่วงนี้เขาก็พร้อมที่จะขายทิ้ง”“ถ้าฮุ่ยหรานสามารถรับช่
จางกุ้ยหลานก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไรผ่านไปครู่หนึ่งจางกุ้ยหลานที่ดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็เงยหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า: “ฉันจะไปหาจางซิน ถ้าหาจางซินเจอ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินที่จะต้องใช้ซื้อฟาร์มแล้ว!”“ไม่จำเป็น”หลินเฟิงโบกมือ สำหรับเขาเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือ จะทำอย่างไรให้ฟาร์มแห่งนั้นได้กำไร? “ไม่ได้ ฉันรู้สึกยินยอมไม่ได้จริง ๆ ฉันจะต้องหาจางซินให้ได้! นังเด็กสารเลวนั่น ฉันเชื่อเธอขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับฉันได้!”จางกุ้ยหลานยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก่อนจะก้าวขึ้นไปชั้นบน หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่หลินเฟิง ก่อนจะขมวดคิ้วพูดว่า “หลินเฟิง เรื่องเงิน...ไม่สู้ฉันไปเอ่ยปากกับถังหว่าน พวกเราสองคนรวบรวมเงินกัน บางทีอาจจะเอาออกมาได้ก็ได้นะ”“หืม? คุณกับถังหว่านมีความสัมพันธ์ดีกันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”หลินเฟิงแปลกใจเล็กน้อย“ไม่....ไม่ใช่ ใครจะมีความสัมพันธ์ดีกับเธอล่ะ? แค่....พวกเราก็แค่เป็นเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเฉย ๆ!”หลี่ฮุ่ยหรานแก้ตัวจนหน้าแดงแต่ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไง หลินเฟิงก็มองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอ
โจวอวี้เฟิ่ง หลี่เยว่หรูแม้แต่หลิ่วเยว่ฟาง เมียรองของคุณปู่หลี่ไห่หงที่ก่อเรื่องวุ่นวายในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมื่อวาน ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกันหลิ่วเยว่ฟางเบะปาก แล้วพูดด้วยความหยิ่งยโส:“ฉันมั่นใจว่า หมอนั่นต้องมาที่นี่เพื่อคิดจะใช้เส้นสายของหลี่ไห่ซานแน่นอน จะมาชุบมือเปิบสินะ”“พวกเขาเนี่ยนะ จะสามารถระดมเงินทุนหนึ่งพันล้านได้ภายในวันเดียวงั้นเหรอ? หึ ฝันกลางวันแสก ๆ!”หลี่ฟางลูกชายคนโตของหลี่กงเฉิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเมื่อได้ยินย่ารองของตัวเองเหยียดหยามหลินเฟิง ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีจากนั้นก็กระซิบเสียงเบา: “ย่ารอง เบื้องหลังของคุณชายหลินเฟิงนั้นไม่ธรรมดา เกรงว่าเงินหนึ่งพันล้านคงไม่มากเกินไปสำหรับเขาหรอก”“หึ หลี่ฟาง นายอย่ากลัวเขาเกินไป จริงอยู่ ฉันยอมรับว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งไม่น้อย”หลี่เยว่หรูที่อยู่ข้าง ๆก็พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “แต่ต่อให้แข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ยังยากที่จะรวบรวมเงินหนึ่งพันล้านได้ภายในวันเดียวใช่ไหม?”“ฉันว่าหลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานมาที่นี่ก็เพื่อมาใช้ความสัมพันธ์”“วางใจเถอะลูกสาว”โจวอวี้เฟิ่งที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเธอขยิบตาก่อนจะพูดว่า “เดิมทีฟาร์มแห
“คนนี้ก็คือคุณย่าหลิ่วเยว่ฟางของตระกูลหลี่เจียงหนานใช่ไหมคะ? เป็นอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ เจอหน้ากันดีกว่ารู้จักแค่ชื่อเสียง อ่อ ใช่แล้ว ใช่แล้ว คุณต้องการดื่มชาไหม? เดียวฉันจะเสิร์ฟชาให้คุณเองค่ะ”ถังหว่านตั้งใจยั่วโมโห จึงจงใจยิ้มและพูดถึงเรื่องการดื่มน้ำชาขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้สีหน้าของหลิ่วเยว่ฟางบึ้งตึงทันที“คุณถัง ถึงแม้ว่าตระกูลถังของคุณจะเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในเมืองจิง แต่คุณก็อย่าอวดดีเกินไปเลย ตระกูลหลี่ของฉันก็ไม่กลัวคุณอยู่แล้ว”โจวอวี้เฟิ่งที่มองอยู่ข้าง ๆก็ทนไม่ไหว ก่อนจะตะโกนใส่ถังหว่านแต่ทว่าถังหว่านก็ไม่ได้เป็นที่รองรับเหมือนหลี่ฮุ่ยหรานเธอยิ้มสดใสและแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ก่อนจะพูดว่า “อุ๊ย คนนี้ก็คือป้าโจวอวี้เฟิ่งของตระกูลหลี่ใช่ไหม? สวัสดี สวัสดี ได้ยินมาว่าอาการป่วยของลูกสาวของคุณก็เป็นเพราะหลินเฟิงสามีของฉันรักษาให้ใช่ไหม?”“.....”เมื่อเห็นถังหว่านพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของโจวอวี้เฟิ่งกับหลี่เยว่หรูต่างก็กระตุกโดยไม่ตั้งใจ“อุ๊ย เขาต่างก็พูดกันว่าการช่วยชีวิตนั้นยิ่งใหญ่ ทำไมฉันดูแล้วพวกคุณเหมือนไม่มีจิตสำนึกเรื่องนี้เลยล่ะ?”ถังหว่านแสร้งทำเป็นเสียดา
หลี่ไห่หงยิ้มอีกครั้ง: “ไก่ เป็ด ปลาและห่าน ยังมีหมูกับแพะ แม้แต่บ่อน้ำขนาดใหญ่ก็ยังมี....”“พวกนี้ล้วนเป็นสมบัติที่ฉันหาบริหารมาหลายปี”หลี่ไห่หงมองดูฟาร์มที่ไม่มีที่สิ้นสุดแห่งนี้ด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก“แต่ก็ขาดทุนทั้งหมดไม่ใช่เหรอ”หลิ่วเยว่ฟางที่อยู่ข้าง ๆพูดประโยคอย่างนี้ขึ้นมาทำร้ายบรรยากาศทันใดนั้น สีหน้าของคุณปู่ก็ดูไม่ดีเมื่อหลี่กงเฉิงเห็นแบบนี้ ก็รีบเข้ามาจัดการให้เรื่องมันคลี่คลาย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ฮุ่ยหราน พ่อของฉันใช้ความคิดและกำลังมากเกินไปกับฟาร์มแห่งนี้ ฉันอยากให้เขาอยู่อย่างสงบสุข เพราะงั้นก็เลยคิดจะให้คนอื่นมาดูแลฟาร์มนี้แทน”“ถูกต้อง”สีหน้าของนายท่านผ่อนคลายลง ก่อนจะถอนหายใจและพูดว่า: “หลังจากพี่ไห่ซานจากไป ฉันก็รู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองย่ำแย่ลง ฟาร์มแห่งนี้ ฉันไม่มีแรงทำอีกต่อไปแล้ว”“คุณปู่หง คุณพูดอะไรน่ะ สุขภาพของคุณยังแข็งแรงนะคะ!”“คุณว่าไหมหลินเฟิง?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบมองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆหลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหราน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากและพยักหน้า“ถูกต้อง”อย่างไรก็ตาม หลี่กงเฉิงก็สังเกตเห็นความลั
หลี่ไห่หงจริงจังมากขนาดนี้ จนทำให้หลี่ฮุ่ยหรานทำได้แค่เพียงกลืนคำพูดที่จะพูดออกมาของตัวเองลงไปเพราะผลสุดท้ายของการเจรจาของหลี่ฮุ่ยหรานและถังหว่าน ก็ไม่มีอะไรมากไปว่าการสร้างโรงงานในเมื่อที่ดินที่เป็นที่ราบ และมีแม่น้ำแบบนี้ เป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมทางธรรมชาติชัด ๆถ้าหากทำเป็นโรงงานอย่างที่ว่า ยังไงก็ไม่มีวันขาดทุนแต่ถ้าหากเป็นฟาร์ม ก็พูดยากแล้วเมื่อเห็นความลังเลของหลี่ฮุ่ยหราน หลี่ไห่หงก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจว่า: “ฮุ่ยหราน ไม่ใช่ว่าเธอก็วางแผนที่จะเปลี่ยนฟาร์มของฉันให้เป็นโรงงานด้วยหรอกนะ?“ไม่ใช่ค่ะ”หลี่ฮุ่ยหรานรีบกล่าวปฏิเสธทันที ในขณะเดียวกันก็คิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆดูเหมือนว่าคุณปู่หลี่ไห่หงจะให้ความสำคัญกับฟาร์มนี้อย่างมาก และไม่ยอมที่จะให้มลพิษจากโรงงานมาทำลายทิวทัศน์ที่งดงามนี้แต่ปัญหาคือหากเพียงวางแผนและจัดการแค่ฟาร์ม ก็จะไม่สามารถทำกำไรได้จริง ๆไม่เพียงไม่ได้กำไร แต่จะขาดทุนจนไม่เหลืออะไรเลยเมื่อถึงเวลาอย่าบอกว่าคุณปู่หลี่ไห่หงชื่นชมความสามารถของตัวเองเลย เกรงว่าสุดท้ายแล้วก็จะจบลงด้วยความผิดหวังและขาดทุนไม่เพียงแต่จะสูญเสียคุณสมบัติในการแข่งขันเ
วันนี้นายท่านและหลี่ฮุ่ยหรานมีความเข้าใจกันที่ไม่เอ่ยถึงเรื่องของหลี่ไห่ซานทั้งสองคนต่างก็ไม่อยากเพิ่มความรู้สึกทุกข์ระทมขึ้นอีก“เหอะ สองเดือน?”ขณะที่ผู้หญิงทั้งสองกำลังซาบซึ้งใจเมื่อมองดูแผ่นหลังของหลี่ไห่หง หลิ่วเยว่ฟางที่อยู่ข้าง ๆก็แย่งสัญญาโอนจากมือของหลี่กงเฉิงมาสายตาของเธอก็เห็นราคาที่คุณปู่เขียนในลงสัญญาห้าร้อยล้านบาทเธอสูดลมหายใจ ก่อนจะแอบหยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเอง แล้วเพิ่มเลขศูนย์ตัวสุดท้ายเพิ่มอีกหนึ่งตัวตอนนี้ก็กลายเป็นห้าพันล้านบาทแล้วจากนั้นเธอก็รีบยื่นสัญญาที่เปลี่ยนแปลงให้กับหลี่กงเฉิง และหลี่กงเฉิงก็มองเห็นราคาที่หลิ่วเยว่ฟางแก้ไขในสัญญาแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที“นี่คือเงินค้ำประกัน ถ้าหากว่าหลี่ฮุ่ยหรานทำไม่สำเร็จล่ะ? พวกเราจะไม่ขาดทุนครั้งใหญ่หรอกเหรอ?”“ให้คนนอกอย่างหลี่ฮุ่ยหรานเป็นผู้นำตระกูลหลี่เจียงหนานของเรา แล้วหน้าพวกเราจะเอาไปไว้ที่ไหน?!”“อย่าไปบอกคนอื่นล่ะ!”หลิ่วเยว่ฟางใช้เสียงต่ำคุกคามหลี่กงเฉิงขณะที่หลี่กงเฉิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็สังเกตเห็นแววตาของหลินเฟิงที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนจะรีบแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาไ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ