Share

ตอบแทนชาวบ้าน

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-09-26 07:32:20

หัวหน้าหมู่บ้านมองชุยหยุนอย่างชื่นชม รวมทั้งหันไปขอบใจอีกสามคนที่ตามขึ้นไปช่วยตามหาหลิงเฟิ่งด้วย ที่นำข่าวดีลงมาบอก

แต่บุรุษอีกสามคนได้แต่ยิ้มออกมาแห้งๆ พวกเขาต่างก็แอบเก็บกันมาคนละหลายชั่งแล้ว เพียงแค่ไม่ได้พูดออกมาก็เท่านั้น หากคนอื่นขึ้นไปพร้อมพวกเขาก็จะได้กลับลงมาเช่นกัน จะกล่าวโทษกันก็ไม่ได้

ชาวบ้านที่รู้ว่าหญ้าหนอนคือสิ่งใด ต่างก็รีบแยกตัวออกไปช่วยหัวหน้าหมู่บ้านส่งข่าว พวกเขาต่างรู้ดีว่าหากคนอื่นรู้เยอะ หญ้าหนอนที่ควรจะได้มากในตอนแรกก็ต้องถูกแบ่งให้คนที่ไม่ได้ทำอะไรไปด้วย จึงเข้าไปกระซิบบอกข่าวกัน แล้วต่างรีบพากันเดินมาที่เรือนตระกูลซ่ง

“เจ้าพูดจริงรึ อาหยุนที่เจ้าจะบอกที่พบหญ้าหนอนให้พวกข้า” ชาวบ้านเอ่ยถามออกมาอย่างไม่เชื่อ เรื่องดีเช่นนี้จะนำมาบอกผู้อื่นเพื่ออันใด เก็บไว้ร่ำรวยเพียงผู้เดียวไม่ดีกว่ารึ

“ขอรับ ข้าอยากตอบแทนที่พวกท่านทุกคนช่วยตามหาเฟิ่งเออร์ในครั้งนี้ ข้าจะพาพวกท่านไปเก็บและจะสอนว่าต้องเก็บเช่นใด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่ข้าคิดว่า...ควรจะเก็บมารวมกันแล้วนำไปขายครั้งเดียว เงินที่ได้ก็แบ่งจำนวนเท่ากัน เช่นนี้จะได้ไม่เกิดปัญหาว่าใครได้มากได้น้อยขอรับ” ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“หากมีคนใดไปบอกคนที่ไม่ได้มาช่วยออกตามหา ข้าจะแบ่งเงินในส่วนที่พวกเจ้าได้ออกให้คนที่เจ้าพามาแทน” หัวหน้าหมู่บ้านมองเตือนไปที่ทุกคน

“ผู้ใดจะบอกก็บอก แต่ข้าไม่บอก เรื่องอันใดจะให้คนที่ไม่ได้เหนื่อยเดินหาเฟิ่งเออร์ได้เงินไปด้วยเล่า” ชาวบ้านเอ่ยออกมา จากนั้นก็มีเสียงพูดเห็นด้วยขึ้นมาอีกหลายเสียง

“เรื่องนี้จบแล้ว ก่อนฟ้าสว่างพวกเจ้าก็มาพบกันที่ทางขึ้นภูเขาก็แล้วกัน ส่วนเรื่องที่ผู้ใดพาเฟิ่งเออร์ขึ้นเขาไป ข้าจะจัดการหลังจากที่จัดการเรื่องหญ้าหนอนเสร็จแล้ว”

ชุยหยุนเองก็เห็นด้วยกับหัวหน้าหมู่บ้าน ด้วยต้องการให้หวงหลานกับกวงเจินตายใจเสียก่อน ว่าไม่มีผู้ใดรู้เรื่องที่พวกนางพาหลิงเฟิ่งไปทิ้งบนเขา

เมื่อพูดคุยกันจนเข้าใจแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันกลับเรือนไป คงเหลือก็เพียงลุงกู้ ลุงจินและป้าเหลียน ที่ยังคงรั้งอยู่ที่เรือนตระกูลซ่ง

“เข้าไปในเรือนก่อนเถิดขอรับ” ชุยหยุนรู้ว่าพวกเขาจากจะพูดเรื่องใด จึงได้ชวนเข้าไปพูดกันในเรือน

เข้ามาถึงก็เห็นป้าเหลียนกับจูซื่อกำลังพาหลิงเฟิ่งกินข้าวอยู่ ชุยหยุนจึงเรียกให้คนอื่นร่วมวงกินด้วยกันเลย จะได้เอ่ยคุยไปพร้อมกันด้วย

“เจ้าว่าอย่างไรนะ!!!” ป้าเหลียนกับป้าจินร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นหญ้าหนอนที่สามีและลูกชายของตนหามาได้ กองอยู่ตรงหน้า

“เบาๆ เจ้าจะให้ผู้อื่นมาได้ยินหรือไร” ลุงกู้ร้องตำหนิออกมา

“หากผู้อื่นรู้จะไม่ตำหนิพวกเรารึ” ป้าเหลียนเอ่ยถามออกมาอย่างกังวล

“ไม่มีผู้ใดว่าท่านหรอกป้าเหลียน หากพวกเขาคิดจะส่งคนขึ้นไปตามเฟิ่งเออร์ ก็คงได้ติดมือมาเช่นพวกข้าเหมือนกัน” ชุยหยุนพูดออกมา

“แต่ว่า...เหตุใดเจ้าเก็บได้น้อยนักเล่า” ป้าจินเอ่ยถาม เมื่อเห็นหญ้าหนอนของชุยหยุนมีเพียงหยิบมือเดียว

“เอ่อ...พี่หยุนคงตกใจเรื่องที่ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ จึงมิได้สนใจจะเก็บหญ้าหนอน” สตรีทั้งสองคนหันมามองหลิงเฟิ่งอย่างตกตะลึง เมื่อนางพูดออกมาราวกับว่ามิใช่คนเสียสติ

“สวรรค์!!!” เจ้าหายแล้วจริงรึ เฟิ่งเออร์” จูซื่อไม่สนใจหญ้าหนอนอีกต่อไป นางลุกขึ้นมาสวมกอดหลิงเฟิ่งเอาไว้แน่นด้วยความยินดี

ป้าเหลียน ป้าจิน ต่างก็ยินดีไปกับนางด้วย ยิ่งพอได้ฟังลุงกู้เล่าว่าทั้งหมดเป็นเพราะท่านเทพที่เวทนาหลิงเฟิ่ง จึงให้พรเพื่อให้นางหายดี

“ดีแล้ว ดียิ่ง มีแต่เรื่องดีๆ” จูซื่อร้องไห้ออกมาอย่างยินดี

“แต่เรื่องที่ข้าหายป่วย พวกท่านอย่าเพิ่งบอกผู้อื่นนะเจ้าคะ มิเช่นนั้น ท่านพ่อคงได้มารับข้ากลับไป”

“เหอะ จะมารับได้อย่างไร เจ้าทำเรื่องตัดขาดแล้ว อีกทั้งในสัญญา อาหยุนยังให้หัวหน้าหมู่บ้านระบุไว้ชัดเจน ต่อให้เจ้าร่ำรวยหรือรุ่งเรือง พวกเขาก็มิอาจมาขอให้เจ้ากตัญญูได้แล้ว” ป้าเหลียนตบเข่าเสียงดัง

“เรื่องนี้เอาไว้ก่อน แล้วเจ้าจำได้หรือไม่ว่าผู้ใด มาพาเจ้าไปทิ้งไว้บนภูเขา” เป็นเรื่องที่ยังติดอยู่ในใจของป้าจิน หากนางไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดคงได้อกแตกตาย

“ตอนที่ข้าหายดีแล้ว ก็พบว่ามีปิ่นของผู้ใดไม่รู้อยู่บนผมของข้าสองด้าม ข้าให้พี่หยุนไปแล้วเจ้าค่ะ”

“ข้าได้ยินที่ชาวบ้านพูด ว่าเป็นของอาหลานกับอาจิน แต่พวกนางต้องการพาเจ้าไปทิ้งเพื่ออันใด หรือว่าเจ้าเคยไปทำอันใดกับนางไว้” อาไฉมองหน้าหลิงเฟิ่งอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าหญิงงามในหมู่บ้านจะมารังแกหญิงบ้าเช่นหลิงเฟิ่งเพื่ออันใด

“หึ เรื่องนี้ข้ารู้ นางมาพบอาหยุนก่อนหน้าจะเกิดเรื่องสามสี่วันที่แล้ว พอรู้ว่าอาหยุนหายดี จึงคิดจะให้อาหยุนไปสู่ขอนาง ส่วนเฟิ่งเออร์นางบอกให้อาหยุนพาไปทิ้งบนเขาเสีย ไม่คิดว่านางจะใจกล้าลงมือจัดการเอง” จูซื่อนึกถึงหวงหลานก็มีโทสะไม่น้อย

“เป็นเพียงแม่นางน้อย ยังไม่ออกเรือน ยังโหดเหี้ยมเช่นนี้ หากออกเรือนไปแม่สามีพูดไม่เข้าหู นางไม่หยิบมีดมาแทงเลยรึ” ป้าเหลียนมองอาไฉ เหมือนอยากจะเตือนเขาว่า หากเจ้ากล้าหาเมียเช่นนี้เข้าเรือน ข้าจะตัดลูกตัดแม่กับเจ้า

“รอให้จัดการเรื่องหญ้าหนอนเรียบร้อย ค่อยคิดบัญชีกับพวกนางก็ยังไม่สาย พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางเข้าเมือง เพื่อไปสอบถามราคาหญ้าหนอนเสียก่อน หากร้านยารับซื้อทั้งหมดจะได้ไม่ต้องไปเร่ขายที่เมืองอื่น”

“ดีๆ แล้วเจ้าจะไปกับผู้ใด ข้าฝากไปขายเลยได้หรือไม่” ลุงจินไม่อยากเก็บไว้ที่ตัวแล้ว

“ข้าจะไปกับเฟิ่งเออร์ขอรับ พวกท่านก็นำส่วนของพวกท่านมาให้ข้า แล้วแยกกันให้ชัดเจน ข้าจะได้ไม่จำผิดว่าเป็นของผู้ใด” ด้วยน้ำหนักหญ้าหนอนที่ทั้งสามหามาได้ต่างกันอยู่เล็กน้อย”

“ไม่ต้องแยก ขายรวมไปเลย แล้วค่อยเอาเงินมาแบ่งกัน” ลุงกู้ที่หาได้มากสุดก็ออกความเห็น ตัวเขาใช้ชีวิตเพียงคนเดียว จึงไม่ได้มองว่าจะได้เงินมากหรือน้อย ทุกคนจึงได้พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

เมื่อจบเรื่องแล้ว ทั้งยังกินข้าวอิ่มเรียบร้อย ต่างก็พากันแยกย้ายกลับเรือนไป จูซื่อจะแยกตัวไปพัก ด้วยวันนี้นางเดินทางเข้าเมือง ทั้งยังเสียขวัญเมื่อรู้เรื่องที่หลิงเฟิ่งหายไปอีกจึงจะเข้าไปพักผ่อน แต่ถูกหลิงเฟิ่งนางดึงรั้งเอาไว้

“เอ่อ...ท่านแม่ ข้ามีเรื่องจะบอกท่านเจ้าค่ะ”

“เรื่องใดรึ เจ้าไม่สบายตรงไหนหรือไม่ พอเห็นสีหน้าของหลิงเฟิ่งไม่สู้ดีจึงได้เอ่ยถามออกมา

“ไม่เจ้าค่ะ ท่านอย่าตกใจนะเจ้าคะ” หลิงเฟิ่งหันไปทางชุยหยุนอย่างขอความช่วยเหลือ

“พูดเถิด ท่านแม่นางไม่เป็นอันใดหรอก แล้วก็ไม่นำเรื่องของเจ้าออกไปพูดด้วย” ชุยหยุนเคารพการตัดสินใจของนาง ในเมื่อนางต้องการจะบอกมารดาของเขา เขาก็ต้องแล้วแต่นาง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   บทสรุป

    แต่เรื่องที่น่าประหลาดอีกเรื่องของตระกูลโจว ที่ทำให้จวนโจวถูกแม่สื่อเข้ามาพูดคุยกับพานซื่อทุกวันเห็นจะเป็นเรื่องคลอดของอวี้หลินหลังจากที่ผ่านมาได้ห้าเดือนหลังจากที่หลิงเฟิ่งนางคลอดบุตรชายทั้งสามออกมา ตำหนักอ๋องก็มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น เมื่ออวี้หลินนางปวดท้องคลอดในกลางดึกหลิงเฟิ่งเมื่อรู้เรื่องก็รีบไปที่ตำหนักอ๋องพร้อมกับชุยหยุนทันที พานซื่อและบุรุษตระกูลโจวทั้งสามตามมาทันนางที่หน้าตำหนักพอดีจึงได้เข้าไปด้านในพร้อมกันหลิงเฟิ่งกับพานซื่อเข้าไปอยู่ภายในห้องคลอดด้วย นางเทน้ำวิเศษให้อวี้หลินได้ดื่ม เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของนางหมอตำแยก็เป็นคนเดียวกันกับที่ทำคลอดให้หลิงเฟิ่งพอเด็กทารกสองคนแรกออกมา นางก็ต้องกรีดร้องเสียงดังอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อมีหัวน้อยๆ โผล่ออกมาจากช่องคลอดอีกหัวหนึ่ง“สวรรค์!!! ดะ เด็ก เด็กอีกคนเจ้าค่ะ”อวี้หลินคลอดบุตรชายฝาแฝดออกมาสามคนเช่นกัน เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อนในแคว้นต้าเยี่ยทำให้บุรุษตระกูลโจวอีกสองคนที่เหลือที่ยังไม่ยอมแต่งฮูหยินเข้าจวน ถึงกับหนักใจ ด้วยแม่สื่อที่เดินเข้าออกไปขาดสาย“อาเหว่ย ข้าจะขอไปอยู่ที่ค่ายนอกเมืองกับเจ้าสั

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เจ้าแบ่งให้ข้าคนหนึ่งมิได้รึ

    เพียงไม่นาน ขบวนกองทัพก็ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยที่นำอยู่ด้านหน้า ฉีกยิ้มกว้างให้พานซื่อและอวี้หลิน ก่อนที่ทั้งสองจะรีบควบม้าเข้าไปหาคนที่รออยู่“เฟิ่งเออร์เล่า” พานซื่อเอ่ยถามหาหลิงเฟิ่งทันที เมื่อลู่เหวินลงจากหลังม้ามาหานาง“ท่านแม่ ลูกกลับมาแล้วขอรับ” โจวเฉิงเหว่ยคุกเข่าลงตรงหน้าของพานซื่อ แล้วก้มคำนับสามครั้งให้นาง“อาเหว่ย เจ้าจากบ้านไปเสียหลายปี ครั้งนี้ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าแล้วนะลูก” นางลูบใบหน้าของบุตรชายคนรองอย่างคิดถึง“ฟะ เฟิ่งเออร์ เจ้า...”พานซื่อถูกเสียงร้องอย่างตกใจของอวี้หลิน ทำให้หันไปมองที่ด้านหลังของโจวเฉิงเหว่ยอย่างรวดเร็วดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา ตอนที่เดินทางออกจากเมืองหลวงไป ท้องของหลิงเฟิ่งมิได้ดูเหมือนจะตั้งครรภ์มาก่อน แต่ยามนี้ท้องของนางราวกับว่าใกล้คลอดเต็มทีแล้วนี่คงเป็นเหตุผลที่นางไม่อาจเดินทางกลับเมืองหลวงได้ตามที่เคยรับปากเอาไว้“เฟิ่งเออร์ เจ้าท้องกี่เดือนกัน ตั้งแต่เมื่อใด หรือว่าเจ้าท้องก่อนที่จะเดินทางแล้ว เหตุใดถึงไม่บอกแม่เล่า” พานซื่อเอ่ยถามออกมาระรัว“ท่านแม่ ครรภ์ของข้าเพิ่งจะหกเดือนเท่านั้นเจ้าค่ะ ข้าก็เ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน

    โจวเฉิงเหว่ยนั่งอยู่บนหลังม้า ยืนอยู่หน้าเหล่าทหารหลายหมื่น สายตาของเขาจ้องมองไปยังร่างกำยำของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานอย่างเย็นชา“บิดาเจ้าเหล่า เหตุใดต้องส่งลูกเต่าเช่นเจ้ามาเอาชีวิตข้า”“ท่านพ่อไม่คิดว่าท่านจะตัดสินใจเช่นนี้”“หึหึ บุรุษตระกูลโจวเก่งกาจนัก หากข้ารู้สักนิดว่าโจวลู่เหวินมิได้สูญเสียวรยุทธ์ก็คงจะทูลขอให้ฝ่าบาททรงเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ข้าเกาซือหม่า ขอแลกชีวิตกับเหล่าทหารแคว้นต้าหานทั้งหมด หวังว่าแม่ทัพน้อยโจว จะปล่อยให้ทหารของข้ากลับคืนสู่แคว้นต้าหาน”แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ดึงดาบออกมาพาดที่คอ เขาตัดคอตนเองออกโดยไม่เผยความหวั่นเกรงใดออกมา โจวเฉิงเหว่ยจ้องมองหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานหลุดลงพื้นด้วยสายตาที่เรียบเฉย“เก็บกลับค่าย ถอยทัพ!!! ไม่ต้องตามทหารแคว้นต้าหาน ปล่อยพวกมันกลับไป แต่หากยังรั้งอยู่ภายในสองวันนี้ ฆ่าให้หมดไม่ต้องเหลือเอาไว้”เสียงของโจวเฉิงเหว่ยประกาศกร้าว จนแม้แต่ทหารแคว้นต้าหานที่ออกมาดูท่านแม่ทัพใหญ่ของตนปลิดชีพได้ยินอย่างชัดเจนหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานถูกเก็บกลับไปที่ค่ายของแคว้นต้าเยี่ย เหลือเพียงร่างไร้ศีรษะให้ทหารแคว้นต้าหานเ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   การตัดสินใจของเกาซือหม่า

    ลู่เหวินยกธนูขึ้นเล็งไปทางแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ก่อนจะปล่อยลูกธนูออกจากสายไป แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานได้แต่มองเยาะเย้ยอย่างได้ใจ ระยะไกลเพียงนี้ ต่อให้เก่งการเพียงใดก็ยิงไม่ถึงเขาเป็นแน่“เฮือกกกก” เสียงสูดลมหายใจของทหารแคว้นต้าหานเมื่อลูกธนูที่ลู่เหวินปล่อยออกมา มันทะลุคอม้าที่แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานขี่ราวกับจับวาง นี่คือสิ่งที่ลู่เหวินต้องการ เขาไม่ได้ต้องการสังหารแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานภายในลูกธนูเดียว แต่เป็นการย้ำเตือนว่าตนมิได้สูญเสียวรยุทธ์เช่นที่คิดกัน“บุก!!!” แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน เปลี่ยนม้าตัวใหม่ได้ ก็ร้องตะโกนบอกทหารของตนทันทีความยับยั้งชั่งใจหายไปจนสิ้น เมื่อถูกหยามเช่นนี้ เขาควบม้าเข้าไปหาลู่เหวินอย่างไม่เกรงกลัว“บุก!!! ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือรอด” ลู่เหวินควบม้าพุ่งทะยานเข้าไปในสนามรบเช่นกันหลิงเฟิ่ง ที่นอนพักอยู่ภายในเรือนสะดุ้งตกใจตื่น นางกับชุยหยุนมิได้เข้าไปนอนภายในมิติ จึงได้ยินเสียงต่อสู้อย่างชัดเจน“ท่านพี่”“สงครามเริ่มแล้ว หากเจ้ากลัวเข้าไปหลบในมิติก่อนดีหรือไม่” ชุยหยุนกอดหลิงเฟิ่งเอาไว้แน่น“ไม่เจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าหลิงเฟิ่งมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ นางเป็นห่วงบิดาแ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองแล้ว

    หลิงเฟิ่งอยู่ภายในมิตินางก็ไม่ได้ทำสิ่งใดมาก นอกจากตื่นมากินแล้วนอนต่อ ตั้งแต่ตั้งครรภ์มา นางรู้สึกว่าขี้เกียจจะขยับร่างกายไปเสียหมด ต่อให้หลิงเฟิ่งอยู่แต่ภายในมิติ เสียงขององครักษ์ที่อยู่ด้านนอกนางก็ยังได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันจึงได้รู้ว่า กองทัพของแคว้นต้าหานเดินทัพมาประชิดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ คงอีกไม่เกินห้าวันพวกเขาก็คงจะมาตั้งค่ายอยู่ไม่ห่างแล้วผ่านมาได้เพียงสามวัน กองทัพของแคว้นต้าหานก็เดินทางมาตั้งค่ายเสียแล้ว เจ้าเมืองเป่ยตู่เร่งพาชาวบ้านที่อยู่ใกล้เขตชายแดนลี้ภัยออกไปอยู่ค่ายหลบภัยที่นอกเมืองเป่ยตู่อย่างเร่งด่วนสนามสอบแทบจะเร่งบัณฑิตให้ส่งกระดาษสอบแล้วให้เดินทางออกไปจากสนามสอบให้เร็วที่สุด“เฟิ่งเออร์ เฟิ่งเออร์ ข้ากลับมาแล้ว” ชุยหยุนเมื่อกลับมาถึงเรือนก็ร้องเรียกหลิงเฟิ่งเสียงดัง“เหตุใด กลับมาเร็วนักเล่า” ฟ้าด้านนอกเพิ่งจะสว่างได้ไม่นาน ชุยหยุนก็เดินทางมาถึงเรือนแล้ว“กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองเป่ยตู่แล้ว ตอนนี้ชาวบ้านบางส่วนก็อพยพย้ายไปอยู่ที่ค่ายลี้ภัยนอกเมืองแล้ว”“เร็วเพียงนั้นเลยรึ” หลิงเฟิ่งอดที่จะตกใจไม่ได้“สงครามยังคงไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แคว้นต้าหานเร่งเดิน

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ายินดี

    ความจริงหลิงเฟิ่ง นางอยากจะรั้งอยู่ เพื่อเดินทางกลับพร้อมบิดาและพี่ชาย เพื่อว่ามีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเหลือได้บ้าง แต่หากว่านางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงก็ควรจะเร่งเดินทางออกจากเมือง เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลทั้งสี่พูดคุยเรื่องเสบียงอาหารต่ออีกเพียงไม่นาน ท่านหมอก็เดินเข้ามาภายในห้องพัก บุรุษทั้งสามจึงได้เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตรงกลางห้อง แต่สายตาของพวกเขาก็ยังจ้องมองมาที่หมออย่างกดดัน“บุตรีข้าเป็นเช่นใด”“น้องสาวข้า อาการร้ายแรงหรือไม่”หมอยังมิทันจะได้จับชีพจร บุรุษตระกูลโจวก็เอ่ยถามออกมาอย่างกดดันเสียแล้ว น้ำเสียงของพวกเขาราวกับเอ่ยถามทหาร ว่าวันนี้พวกเจ้าตั้งใจฝึกซ้อมกันหรือไม่ หมอจะมีสมาธิตรวจได้อย่างไร“ท่านแม่ทัพใหญ่โจว ท่านแม่ทัพโจว ขอเวลาข้าน้อยสักครู่เถิด พวกท่านกดดันเช่นนี้ ข้าน้อยจะตรวจได้อย่างไร”ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยจึงนั่งดื่มชาอย่างเงียบๆ แต่สายตาของเขาก็ยังคงไม่ละไปจากนิ้วมือของท่านหมอที่กำลังจับชีพจรของหลิงเฟิ่งอยู่“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินนางตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”“ห๊ะ/ห๊ะ ตั้งครรภ์” สองพ่อลูกตระกูลโจวลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว“เจ้าตรวจให้ดี หลานข้าเป็นเช่นใดบ้าง ครรภ์ของนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status