แชร์

หญ้าหนอน

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-26 07:32:02

บุรุษอีกสามคนรีบเดินมามุงดู ตรงที่นางกำลังเขี่ยดูอย่างสนใจ

“นี่ ใช่จริงด้วย” นางดึงหญ้าหนอน (ถังเช่า) ขึ้นมาได้ก็ชูให้บุรุษทั้งสี่คนดู

“แล้วมันคือสิ่งใดกัน” ลุงกู้ ลุงจิน อาไฉ ไม่เข้าใจว่าของที่อยู่ในมือหลิงเฟิ่งคืออะไร คงมีแต่ชุยหยุนที่รู้ดี ด้วยเขาเองก็ศึกษาสมุนไพร เพื่อไว้ใช้รักษาตนเอง

แต่หญ้าหนอนที่หลิงเฟิ่งนางพบ ราคาสูงเกินกว่าที่เขาจะมีปัญญาหาซื้อมาใช้

“สมุนไพรขอรับ ราคาสูงไม่น้อย หากตรงนี้มี พวกท่านลองหาดูใกล้ๆ ข้าว่าต้องมีอีกแน่” เมื่อสิ้นคำของชุยหยุนบุรุษทั้งสามก็แยกย้ายไปหาทันที

“มะ มี มีจริงด้วย” อาไฉร้องออกมาเสียงดัง ก่อนจะเริ่มลงมือขุด

“ประเดี๋ยว ท่านต้องค่อยๆ ขุด มิเช่นนั้น หากเสียหาย เงินที่ท่านจะได้ คงได้น้อยเจ้าค่ะ” หลิงเฟิ่งรีบร้องบอก

“เข้าใจแล้ว”

ไม่ได้มีเพียงอาไฉเท่านั้นที่พบ แม้แต่ลุงกู้และลุงจินก็พบกองใหญ่เช่นกัน ทั้งหมดต่างตั้งหน้าตั้งตาขุดกันอย่างจริงจัง

“เร็วเข้า เก็บให้หมดเลย” หลิงเฟิ่งมือนางก็ขุดไปด้วย แล้วก็เรียกให้ชุยหยุนรีบช่วยนาง

แต่พอนางพูดว่า เก็บให้หมดเลย กองหญ้าหนอนที่อยู่ในดินตรงหน้านางก็หายไปกับตา ชุยหยุนที่กำลังจะเริ่มขุด ก็ตกใจจนล้มหงายหลังไปกองอยู่ที่พื้น หลิงเฟิ่งนางก็ตกใจเช่นกันที่ลืมตัวพูดออกมา

“จะ เจ้า”

“อย่าเสียงดัง ถึงเรือนแล้วข้าจะบอก ตอนนี้ช่วยหาก่อน ว่ายังมีเหลือหรือไม่”

การสนทนาของทั้งสองไม่ได้อยู่ในความสนใจของบุรุษทั้งสาม ด้วยต้องการจะขุดกลับเรือนให้ได้มากที่สุด หากกลับไปทั้งหมู่บ้าน เรื่องนี้หลุดออกไป พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะมีเหลือให้กลับมาขุดอีกหรือไม่

ชุยหยุนเข้าใจในสิ่งที่หลิงเฟิ่งนางว่า เมื่อมีสองคนช่วยมองหา ทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาขุด ทั้งสองจึงเก็บหญ้าหนอนไปได้ไม่น้อยเลย

พอฟ้าเริ่มใกล้จะมืด ลุงกู้ก็จำต้องให้ทุกคนหยุดมือ ก่อนจะกลับเข้าหมู่บ้าน แต่พวกเขาก็มองหญ้าหนอนที่ยังหลงเหลืออยู่ อย่างอาลัยอาวรณ์

“พรุ่งนี้ค่อยขึ้นมาใหม่ ท่านลุงกู้ หากข้าจะบอกความโชคดีนี้ แบ่งให้ชาวบ้านที่ช่วยออกตามเฟิ่งเออร์ด้วย พวกท่านจะว่าอันใดหรือไม่ขอรับ”

“ไม่ว่า จะว่าได้อย่างไร หากพวกข้าไม่ขึ้นมาตามเฟิ่งเออร์ จะพบเรื่องดีๆ เช่นนี้ได้อย่างไร อีกอย่าง คงเป็นท่านเทพ ที่สงสารนาง และยังแบ่งความโชคดีให้พวกข้าอีก”

ทั้งสามเก็บไปได้คนละหลายชั่ง (1ชั่ง=500กรัม) แต่พอเหลือบมามองที่หลิงเฟิ่งและชุยหยุนเก็บได้ ในมือของทั้งคู่รวมกันน่าจะไม่ถึงหนึ่งชั่ง ต่างก็ทำหน้าเห็นใจออกมา

“พวกเจ้าเก็บได้ช้านักเล่า” อาไฉบ่นออกมาเบาๆ พรุ่งนี้ก็คงไม่อาจจะเก็บได้มาก หากจะต้องแบ่งให้ชาวบ้านคนอื่นอีก

“เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว” ชุยหยุนยิ้มแห้งออกมา หากทั้งสามได้เห็นว่าพวกเขาเก็บได้หลายสิบชั่งไม่รู้จะทำหน้าเช่นใด

“เอาเถิด พรุ่งนี้ค่อยขึ้นมาเก็บใหม่ ข้าจะให้เมียข้าช่วยเจ้าอีกแรง” ลุงจินเอ่ยออกมาด้วยความเห็นใจ

หากไม่ใช่ทั้งสามเห็นใจชุยหยุน จนออกมาช่วยเขาตามหาหลิงเฟิ่ง พวกตนก็คงไม่พบเรื่องโชคดีเช่นนี้

ทั้งห้าคนเดินลงจากภูเขาอย่างรวดเร็ว ชุยหยุนยังคงจูงมือหลิงเฟิ่งเอาไว้แน่น ด้านหลังมีอาไฉกับลุงจินที่คอยระวังหลังไปด้วย

พอใกล้จะถึงตีนภูเขา หลิงเฟิ่งก็เอ่ยขอร้องบุรุษทั้งสามเอาไว้เสียก่อน

“เอ่อ ลุงกู้ ลุงจิน พี่ไฉ พวกท่านอย่าเพิ่งบอกเรื่องที่ข้าหายดีให้กับชาวบ้านรู้จะได้หรือไม่เจ้าคะ” นางมองพวกเขาอย่างขอความช่วยเหลือ

“เหตุใดเล่า เรื่องดีเช่นนี้ เจ้าควรจะบอกให้ผู้อื่นรู้ด้วย” อาไฉเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

“พวกท่านก็เห็นว่าข้าถูกปฏิบัติจากคนตระกูลหลี่เช่นใด หากท่านพ่อรู้เรื่องที่ข้าหายดี ทั้งยังพาพวกท่านมาหญ้าหนอน ท่านว่าท่านพ่อจะมาเรียกร้องจากข้าหรือไม่เล่า” นางไม่ต้องการแบ่งหญ้าหนอนให้คนตระกูลหลี่

“ข้าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าก็อย่าได้พูดไป หากอาหยุนกับเฟิ่งเออร์ นางต้องการพูดเมื่อใดก็ให้พวกเขาพูดเอง แต่เรื่องหญ้าหนอนที่พบคงมิอาจปิดตระกูลหลี่ได้ แล้วเจ้าจะทำเช่นใด”

“ข้า จะบอกหัวหน้าหมู่บ้าน ให้บอกกล่าวแค่ชาวบ้านที่ช่วยออกตามหาเฟิ่งเออร์ขอรับ หากประกาศให้ทุกคนรู้ ชาวบ้านที่ช่วยเหลือพวกข้า จะได้สิ่งใดเล่า” ชุยหยุนเอ่ยออกมา

แม้จะดูเห็นแก่ตัว แต่ตอนที่หลิงเฟิ่งหายไป คนจำนวนไม่น้อยก็ล้วนเก็บตัวอยู่ที่เรือนของตนเอง มีเพียงไม่กี่สิบคนที่วิ่งตามหาหลิงเฟิ่งไปทั่วหมู่บ้าน

“ก็เอาตามเช่นนี้ พวกเจ้าก็เก็บหญ้าหนอนให้ดี ทุกคนไม่เหมือนกัน หากเกิดความโลภขึ้นมาจะต่อว่า ที่พวกเราเก็บหญ้าหนอนไม่รอพวกเขา” ลุงกู้พูดขึ้น อีกสองคนจึงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ต่างก็เก็บหญ้าหนอนซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าของตน

เมื่อลงมาจากภูเขา ชาวบ้านบางส่วนที่เป็นห่วงห้าคนที่อยู่บนเขา ก็รอฟังเรื่องราวอยู่ที่เรือนตระกูลซ่ง แต่บางส่วนก็เดินทางกลับเรือน เพื่อไปเตรียมมื้อเย็นแล้ว กวงเจินและหวงหลานไม่กล้าสู้หน้าชาวบ้าน ต่างก็รีบกลับไปที่เรือนของตนแล้วเก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในห้อง

“สวรรค์ เฟิ่งเออร์ เจ้ากลับมาแล้ว บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” จูซื่อวิ่งเข้ามาดูหลิงเฟิ่งที่ถูกชุยหยุนจูงเข้ามาในเรือน

“ท่านแม่ เฟิ่งเออร์มิได้เป็นอันใดมาก ให้นางได้เข้าเรือนไปพักก่อนเถิดขอรับ ข้าฝากท่านด้วย” ชุยหยุนยังต้องจัดการบอกผู้นำหมู่บ้านเรื่องหญ้าหนอนอีก

“ไป ไปกับแม่”

จูซื่อลูบหน้าลูบตัวหลิงเฟิ่งอย่างสงสาร ก่อนจะช่วยกันประคองนางกับป้าเหลียนเข้าไปภายในเรือน

“ครั้งนี้ข้าน้อยต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยออกตามหาเฟิ่งเออร์ด้วย”

“ไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว ต่อให้ไปใช่เฟิ่งเออร์ที่หายไป ข้าก็ล้วนต้องช่วยออกตามหา กลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว แล้วนางบอกได้หรือไม่ ว่าผู้ใดพานางเข้าไป”

ชุยหยุนได้ปิ่นของหวงหลานกับกวงเจินมาจากหลิงเฟิ่ง เพียงเท่านี้เขาก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดได้แล้ว เขาจึงยื่นปิ่นทั้งสองด้ามให้หัวหน้าหมู่บ้านดู

“ข้าพบสิ่งนี้ที่ตัวเฟิ่งเออร์ ไม่ใช่ปิ่นของนาง แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นของผู้ใดขอรับ”

มีชาวบ้านบางคนที่จำได้ว่าเป็นของหวงหลานกับกวงเจิน จึงได้ร้องบอกออกมา

“ของหลานเออร์กับเจินเออร์ ข้าจำได้ พวกนางใช้อยู่เป็นประจำ”

“เป็นพวกนางจริงรึ ข้ายังเห็นพวกนางช่วยออกตามหาเฟิ่งเออร์อยู่เลย”

“ไปเรียกมาถามความก็รู้ ว่าปิ่นไปอยู่ที่เฟิ่งเออร์ได้อย่างไร” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยออกมาอย่างแข็งกร้าว เป็นเพียงแม่นางน้อยที่ยังไม่ออกเรือนก็คิดวางแผนชั่วพาคนสติไม่ดีไปทิ้งในป่าเสียแล้ว

“ข้ายังมีอีกเรื่องที่ต้องบอกท่านขอรับ” ชุยหยุนนำหญ้าหนอนที่เขาเก็บได้ออกมายื่นให้หัวหน้าหมู่บ้านได้ดู

“หญ้าหนอน เจ้าไปพบที่ใด” เขาเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย

ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อน ภูเขาลูกท้ายหมู่บ้านจะไม่มี แต่นั่นมันก็เมื่อนานมาแล้ว อีกอย่างราคาก็แพงถึงหลายตำลึงทองต่อชั่ง

“ข้าพบบนภูเขา เฟิ่งเออร์นางขุดเล่นอยู่ ตอนที่ข้าขึ้นไปพบนางขอรับ”

“สวรรค์ มีเรื่องดีเช่นนี้ด้วยรึ” หัวหน้าหมู่บ้านร้องออกมาอย่างไม่เชื่อ

“ข้าเห็นกับตา เป็นเช่นที่อาหยุนบอก แต่ว่าฟ้าใกล้มืดแล้ว อาหยุนเองก็อยากแบ่งความโชคดีให้ชาวบ้านที่ช่วยออกตามหาเฟิ่งเออร์นางด้วย” ลุงกู้รีบพูดยืนยันอีกเสียง

“เช่นนั้น ข้าจะเรียกชาวบ้านที่ช่วยออกตามหาเฟิ่งเออร์มาที่เรือนของเจ้า แล้วเจ้าก็บอกกล่าวด้วยตนเองเถิด” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   บทสรุป

    แต่เรื่องที่น่าประหลาดอีกเรื่องของตระกูลโจว ที่ทำให้จวนโจวถูกแม่สื่อเข้ามาพูดคุยกับพานซื่อทุกวันเห็นจะเป็นเรื่องคลอดของอวี้หลินหลังจากที่ผ่านมาได้ห้าเดือนหลังจากที่หลิงเฟิ่งนางคลอดบุตรชายทั้งสามออกมา ตำหนักอ๋องก็มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น เมื่ออวี้หลินนางปวดท้องคลอดในกลางดึกหลิงเฟิ่งเมื่อรู้เรื่องก็รีบไปที่ตำหนักอ๋องพร้อมกับชุยหยุนทันที พานซื่อและบุรุษตระกูลโจวทั้งสามตามมาทันนางที่หน้าตำหนักพอดีจึงได้เข้าไปด้านในพร้อมกันหลิงเฟิ่งกับพานซื่อเข้าไปอยู่ภายในห้องคลอดด้วย นางเทน้ำวิเศษให้อวี้หลินได้ดื่ม เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของนางหมอตำแยก็เป็นคนเดียวกันกับที่ทำคลอดให้หลิงเฟิ่งพอเด็กทารกสองคนแรกออกมา นางก็ต้องกรีดร้องเสียงดังอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อมีหัวน้อยๆ โผล่ออกมาจากช่องคลอดอีกหัวหนึ่ง“สวรรค์!!! ดะ เด็ก เด็กอีกคนเจ้าค่ะ”อวี้หลินคลอดบุตรชายฝาแฝดออกมาสามคนเช่นกัน เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อนในแคว้นต้าเยี่ยทำให้บุรุษตระกูลโจวอีกสองคนที่เหลือที่ยังไม่ยอมแต่งฮูหยินเข้าจวน ถึงกับหนักใจ ด้วยแม่สื่อที่เดินเข้าออกไปขาดสาย“อาเหว่ย ข้าจะขอไปอยู่ที่ค่ายนอกเมืองกับเจ้าสั

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เจ้าแบ่งให้ข้าคนหนึ่งมิได้รึ

    เพียงไม่นาน ขบวนกองทัพก็ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยที่นำอยู่ด้านหน้า ฉีกยิ้มกว้างให้พานซื่อและอวี้หลิน ก่อนที่ทั้งสองจะรีบควบม้าเข้าไปหาคนที่รออยู่“เฟิ่งเออร์เล่า” พานซื่อเอ่ยถามหาหลิงเฟิ่งทันที เมื่อลู่เหวินลงจากหลังม้ามาหานาง“ท่านแม่ ลูกกลับมาแล้วขอรับ” โจวเฉิงเหว่ยคุกเข่าลงตรงหน้าของพานซื่อ แล้วก้มคำนับสามครั้งให้นาง“อาเหว่ย เจ้าจากบ้านไปเสียหลายปี ครั้งนี้ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าแล้วนะลูก” นางลูบใบหน้าของบุตรชายคนรองอย่างคิดถึง“ฟะ เฟิ่งเออร์ เจ้า...”พานซื่อถูกเสียงร้องอย่างตกใจของอวี้หลิน ทำให้หันไปมองที่ด้านหลังของโจวเฉิงเหว่ยอย่างรวดเร็วดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา ตอนที่เดินทางออกจากเมืองหลวงไป ท้องของหลิงเฟิ่งมิได้ดูเหมือนจะตั้งครรภ์มาก่อน แต่ยามนี้ท้องของนางราวกับว่าใกล้คลอดเต็มทีแล้วนี่คงเป็นเหตุผลที่นางไม่อาจเดินทางกลับเมืองหลวงได้ตามที่เคยรับปากเอาไว้“เฟิ่งเออร์ เจ้าท้องกี่เดือนกัน ตั้งแต่เมื่อใด หรือว่าเจ้าท้องก่อนที่จะเดินทางแล้ว เหตุใดถึงไม่บอกแม่เล่า” พานซื่อเอ่ยถามออกมาระรัว“ท่านแม่ ครรภ์ของข้าเพิ่งจะหกเดือนเท่านั้นเจ้าค่ะ ข้าก็เ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน

    โจวเฉิงเหว่ยนั่งอยู่บนหลังม้า ยืนอยู่หน้าเหล่าทหารหลายหมื่น สายตาของเขาจ้องมองไปยังร่างกำยำของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานอย่างเย็นชา“บิดาเจ้าเหล่า เหตุใดต้องส่งลูกเต่าเช่นเจ้ามาเอาชีวิตข้า”“ท่านพ่อไม่คิดว่าท่านจะตัดสินใจเช่นนี้”“หึหึ บุรุษตระกูลโจวเก่งกาจนัก หากข้ารู้สักนิดว่าโจวลู่เหวินมิได้สูญเสียวรยุทธ์ก็คงจะทูลขอให้ฝ่าบาททรงเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ข้าเกาซือหม่า ขอแลกชีวิตกับเหล่าทหารแคว้นต้าหานทั้งหมด หวังว่าแม่ทัพน้อยโจว จะปล่อยให้ทหารของข้ากลับคืนสู่แคว้นต้าหาน”แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ดึงดาบออกมาพาดที่คอ เขาตัดคอตนเองออกโดยไม่เผยความหวั่นเกรงใดออกมา โจวเฉิงเหว่ยจ้องมองหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานหลุดลงพื้นด้วยสายตาที่เรียบเฉย“เก็บกลับค่าย ถอยทัพ!!! ไม่ต้องตามทหารแคว้นต้าหาน ปล่อยพวกมันกลับไป แต่หากยังรั้งอยู่ภายในสองวันนี้ ฆ่าให้หมดไม่ต้องเหลือเอาไว้”เสียงของโจวเฉิงเหว่ยประกาศกร้าว จนแม้แต่ทหารแคว้นต้าหานที่ออกมาดูท่านแม่ทัพใหญ่ของตนปลิดชีพได้ยินอย่างชัดเจนหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานถูกเก็บกลับไปที่ค่ายของแคว้นต้าเยี่ย เหลือเพียงร่างไร้ศีรษะให้ทหารแคว้นต้าหานเ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   การตัดสินใจของเกาซือหม่า

    ลู่เหวินยกธนูขึ้นเล็งไปทางแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ก่อนจะปล่อยลูกธนูออกจากสายไป แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานได้แต่มองเยาะเย้ยอย่างได้ใจ ระยะไกลเพียงนี้ ต่อให้เก่งการเพียงใดก็ยิงไม่ถึงเขาเป็นแน่“เฮือกกกก” เสียงสูดลมหายใจของทหารแคว้นต้าหานเมื่อลูกธนูที่ลู่เหวินปล่อยออกมา มันทะลุคอม้าที่แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานขี่ราวกับจับวาง นี่คือสิ่งที่ลู่เหวินต้องการ เขาไม่ได้ต้องการสังหารแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานภายในลูกธนูเดียว แต่เป็นการย้ำเตือนว่าตนมิได้สูญเสียวรยุทธ์เช่นที่คิดกัน“บุก!!!” แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน เปลี่ยนม้าตัวใหม่ได้ ก็ร้องตะโกนบอกทหารของตนทันทีความยับยั้งชั่งใจหายไปจนสิ้น เมื่อถูกหยามเช่นนี้ เขาควบม้าเข้าไปหาลู่เหวินอย่างไม่เกรงกลัว“บุก!!! ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือรอด” ลู่เหวินควบม้าพุ่งทะยานเข้าไปในสนามรบเช่นกันหลิงเฟิ่ง ที่นอนพักอยู่ภายในเรือนสะดุ้งตกใจตื่น นางกับชุยหยุนมิได้เข้าไปนอนภายในมิติ จึงได้ยินเสียงต่อสู้อย่างชัดเจน“ท่านพี่”“สงครามเริ่มแล้ว หากเจ้ากลัวเข้าไปหลบในมิติก่อนดีหรือไม่” ชุยหยุนกอดหลิงเฟิ่งเอาไว้แน่น“ไม่เจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าหลิงเฟิ่งมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ นางเป็นห่วงบิดาแ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองแล้ว

    หลิงเฟิ่งอยู่ภายในมิตินางก็ไม่ได้ทำสิ่งใดมาก นอกจากตื่นมากินแล้วนอนต่อ ตั้งแต่ตั้งครรภ์มา นางรู้สึกว่าขี้เกียจจะขยับร่างกายไปเสียหมด ต่อให้หลิงเฟิ่งอยู่แต่ภายในมิติ เสียงขององครักษ์ที่อยู่ด้านนอกนางก็ยังได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันจึงได้รู้ว่า กองทัพของแคว้นต้าหานเดินทัพมาประชิดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ คงอีกไม่เกินห้าวันพวกเขาก็คงจะมาตั้งค่ายอยู่ไม่ห่างแล้วผ่านมาได้เพียงสามวัน กองทัพของแคว้นต้าหานก็เดินทางมาตั้งค่ายเสียแล้ว เจ้าเมืองเป่ยตู่เร่งพาชาวบ้านที่อยู่ใกล้เขตชายแดนลี้ภัยออกไปอยู่ค่ายหลบภัยที่นอกเมืองเป่ยตู่อย่างเร่งด่วนสนามสอบแทบจะเร่งบัณฑิตให้ส่งกระดาษสอบแล้วให้เดินทางออกไปจากสนามสอบให้เร็วที่สุด“เฟิ่งเออร์ เฟิ่งเออร์ ข้ากลับมาแล้ว” ชุยหยุนเมื่อกลับมาถึงเรือนก็ร้องเรียกหลิงเฟิ่งเสียงดัง“เหตุใด กลับมาเร็วนักเล่า” ฟ้าด้านนอกเพิ่งจะสว่างได้ไม่นาน ชุยหยุนก็เดินทางมาถึงเรือนแล้ว“กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองเป่ยตู่แล้ว ตอนนี้ชาวบ้านบางส่วนก็อพยพย้ายไปอยู่ที่ค่ายลี้ภัยนอกเมืองแล้ว”“เร็วเพียงนั้นเลยรึ” หลิงเฟิ่งอดที่จะตกใจไม่ได้“สงครามยังคงไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แคว้นต้าหานเร่งเดิน

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ายินดี

    ความจริงหลิงเฟิ่ง นางอยากจะรั้งอยู่ เพื่อเดินทางกลับพร้อมบิดาและพี่ชาย เพื่อว่ามีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเหลือได้บ้าง แต่หากว่านางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงก็ควรจะเร่งเดินทางออกจากเมือง เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลทั้งสี่พูดคุยเรื่องเสบียงอาหารต่ออีกเพียงไม่นาน ท่านหมอก็เดินเข้ามาภายในห้องพัก บุรุษทั้งสามจึงได้เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตรงกลางห้อง แต่สายตาของพวกเขาก็ยังจ้องมองมาที่หมออย่างกดดัน“บุตรีข้าเป็นเช่นใด”“น้องสาวข้า อาการร้ายแรงหรือไม่”หมอยังมิทันจะได้จับชีพจร บุรุษตระกูลโจวก็เอ่ยถามออกมาอย่างกดดันเสียแล้ว น้ำเสียงของพวกเขาราวกับเอ่ยถามทหาร ว่าวันนี้พวกเจ้าตั้งใจฝึกซ้อมกันหรือไม่ หมอจะมีสมาธิตรวจได้อย่างไร“ท่านแม่ทัพใหญ่โจว ท่านแม่ทัพโจว ขอเวลาข้าน้อยสักครู่เถิด พวกท่านกดดันเช่นนี้ ข้าน้อยจะตรวจได้อย่างไร”ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยจึงนั่งดื่มชาอย่างเงียบๆ แต่สายตาของเขาก็ยังคงไม่ละไปจากนิ้วมือของท่านหมอที่กำลังจับชีพจรของหลิงเฟิ่งอยู่“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินนางตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”“ห๊ะ/ห๊ะ ตั้งครรภ์” สองพ่อลูกตระกูลโจวลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว“เจ้าตรวจให้ดี หลานข้าเป็นเช่นใดบ้าง ครรภ์ของนา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status