แชร์

เจ้าหายบ้าแล้วรึ

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-25 05:56:28

หากหลิงเฟิ่งนางเดินไปทางลำธารที่ท้ายหมู่บ้านจริง มิใช่ว่านางจะตกน้ำตายไปแล้วหรือ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ต่างก็รีบเร่งฝีเท้าไปทางลำธารทันที

หลิงเฟิ่ง นางกำลังสำราญอยู่ภายในมิติ โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ภายในหมู่บ้านวุ่นวายกันมากเพียงใด นางทั้งอาบน้ำขัดตัว กินอาหารจนอิ่มท้อง ก่อนจะหลับพักผ่อนอย่างสบายใจ

ผ่านไปนับสองชั่วยาม ที่ไม่พบร่องรอยการหายตัวไปของหลิงเฟิ่ง ผู้นำหมู่บ้านจึงให้ทุกคนหยุดหาก่อน แล้วรอให้สองแม่ลูกตระกูลซ่งเดินทางกลับมาจากในเมือง ค่อยคิดหาทางกันอีกที

เมื่อจูซื่อและชุยหยุนลงมาจากเกวียนวัว ก็พบชาวบ้านที่รอสองแม่ลูกอย่างกระวนกระวายอยู่ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน

“อาจู อาหยุนเจ้ากลับมาเสียที” ป้าจินเอ่ยเรียกอย่างละอายใจ

“มีเรื่องอันใดรึขอรับ ท่านป้า” ชุยหยุนเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดี เมื่อเห็นสีหน้าของป้าจินและป้าเหลียน

“เฟิ่งเออร์ นางหายตัวไป ชาวบ้านออกตามหานางทั่วแล้ว แต่ก็ยังไม่พบนาง” ป้าเหลียนเป็นผู้ที่เอ่ยออกมา

“สวรรค์” จูซื่อแทบจะล้มไปกองกับพื้น ความกังวลที่นางมีก่อนหน้ามิใช่ว่านางคิดไปเอง

“นางจะหายไปได้อย่างไรกัน ท่านป้า ท่านหาดูดีแล้วใช่หรือไม่” ชุยหยุนใบหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาทันที

หลิงเฟิ่ง นางไม่ได้บ้า หากนางจะหายไปมีทางเดียวคือนางคิดหนีออกจากหมู่บ้าน แต่ถ้านางออกทางประตูเรือน ป้าจินย่อมต้องเห็นนาง

ชุยหยุนรีบเร่งฝีเท้ากลับไปที่เรือนของตนทันที เพื่อไปดูว่าข้าวของ ของหลิงเฟิ่งหายไปด้วยหรือไม่ แต่เมื่อเข้าไปพบก็ว่าทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิม แม้แต่ใบรับรองตัวตนนางก็ไม่ได้เอาติดตัวไปด้วย

“ท่านป้า ท่านหานางที่ใดแล้วบ้าง ท่านเห็นคนเข้ามาในเรือนของข้าหรือไม่”

“ไม่มี ตอนที่ข้ามาเรียกนางให้กินข้าว ประตูเรือนของเจ้ายังลงกลอนไว้ อย่างแน่นหนา ข้าร้องเรียกนางอยู่นาน อาไฉ ก็เลยอาสาเข้าไปดูนาง จึงได้รู้ว่านางหายไป ในหมู่บ้าน ลำธารล้วนแต่หาจนทั่วแล้ว” ป้าจินถอนหายใจออกมา

“บนภูเขา มีผู้ใดขึ้นไปหาแล้วหรือไม่ขอรับ” ชุยหยุนเอ่ยถามอย่างใจเย็น

“เอ่อ...ไม่มี แต่ภูเขาลูกท้ายหมู่บ้าน ชาวบ้านที่หาของป่าไม่มีผู้ใดพบนาง” ป้าเหลียนเอ่ยตอบออกมา

“เช่นนั้นก็เหลือภูเขาหลังเรือนของข้า” เขามองออกไปทางด้านหลังเรือน ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับรั้วที่พังจนพาให้สตรีตัวเล็กๆ ลอดออกไปได้

ชุยหยุนเดินเข้าไปสำรวจดู ก็พบว่าไม่ได้มีเพียงรอยเท้าเดียวของหลิงเฟิ่ง แต่มีรอยเท้าอีกสองรอย รอยเล็กเพียงนี้ คงจะเป็นสตรีอย่างแน่นอน ชุยหยุนส่งสายตาไปทางชาวบ้านที่อยู่ภายในเรือนของเขา แต่ก็ต้องหยุดมองสำรวจที่กวงเจินและหวงหลานที่หลบสายตาและทั้งสองยังกอดแขนกันเอาไว้แน่น

“แม่นางกวง และนางหวง พวกเจ้าเห็นเฟิ่งเออร์หรือไม่”

“หะ เหตุใดถึงถามข้ากันเล่า ข้าสองคนช่วยออกตามหานางแต่ก็ไม่พบ จะรู้ได้ไงว่านางอยู่ที่ใด” กวงเจินก้มหน้าหลบสายตา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง มีเพียงเสียงที่สั่นเทาของนาง ทำให้ชุยหยุนรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นพวกนางอย่างแน่นอน

“ไม่เห็นก็ดี เฟิ่งเออร์ถูกพาคนออกไปจากเรือน” เขาชี้มือให้ผู้นำหมู่บ้านดู

ลุงกู้ นายพรานในหมู่บ้าน ยังเข้ามาช่วยดูและยืนยันอีกเสียงว่า หลิงเฟิ่งนางออกไปทางนี้จริง ทั้งยังมีคนพานางออกไปด้วย

ทุกสายตาตอนนี้หันไปมองที่หวงหลานและกวงเจินอย่างสงสัย แต่ในเมื่อไม่มีหลักฐานว่าเป็นพวกนางสองคนจึงไม่อาจจะเอาผิดได้ รอยเท้าที่พบก็ย้ำกันจนเสีย ไม่อาจนำมาเทียบกับรอยเท้าของพวกนางได้

“ลุงกู้ ข้าขอแรงท่านได้หรือไม่ขอรับ ข้าต้องการให้ท่านนำทางขึ้นภูเขาด้านหลังเรือน หากพบเฟิ่งเออร์ ข้าต้องตอบแทนพระคุณท่านอย่างดี”

“จะคิดเป็นบุญคุณได้อย่างไรกัน คนหายไปทั้งคนย่อมต้องช่วยกันออกตามหา แต่ว่า...ภูเขาลูกนี้เจ้าก็รู้ว่าอันตรายไม่น้อย หากไม่พบนางก่อนฟ้าจะมืด เจ้าต้องยอมกลับลงมาเข้าใจหรือไม่” ลุงกู้ เอ่ยออกมาอย่างกังวล

“ได้ขอรับ” รอให้ถึงตอนนั้น หากยังหาหลิงเฟิ่งไม่เจอ เขาจะให้ทุกคนลงมาก่อน แล้วค่อยออกตามหานางด้วยตนเอง

หัวหน้าหมู่บ้านสอบถามชาวบ้านว่ามีผู้ใดต้องการขึ้นภูเขาไปพร้อมกับลุงกู้หรือไม่ แต่ก็มีเพียงลุงจินและอาไฉ บุตรชายของป้าเหลียนเท่านั้น ที่ยอมขึ้นไปด้วย

ชุยหยุนก็มิได้บังคับผู้ใด เขาฝากมารดาให้ป้าจินและป้าเหลียนดูแล ก่อนจะรีบเตรียมตัวแล้วพากันออกเดินขึ้นไปบนภูเขา มีเวลาเพียงอีกสองชั่วยามเท่านั้น ก่อนที่ฟ้าจะมืด จะเสียเวลาต่อไม่ได้แล้ว

“นางขึ้นมาบนภูเขาจริงด้วย” ลุงกู้ร้องบอก เมื่อเห็นร่องรอยที่หลิงเฟิ่งนางทิ้งไว้ ทั้งยังมีรอยเท้าสตรีเดินกันอยู่อีกมากมาย

พอเดินตามไปเรื่อย ๆ จึงได้เห็นว่ามีสองรอยที่ยืนอยู่กับที่ แต่อีกรอยเดินหายเข้าไปด้านในป่า

“จะตามต่อหรือไม่” อาไฉกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยรู้ดีว่าป่าด้านในมีสัตว์ร้ายอยู่

“อาไฉ หากเจ้ากลัวรออยู่ด้านนอกก็แล้วกัน ข้าจะเดินเข้าไปหานางต่อ” ชุยหยุนไม่ตำหนิอาไฉเลยสักนิด เพียงแค่เขายอมขึ้นมาด้วยก็นับว่าดีมากแล้ว

“ไม่ ไม่ ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร มาแล้วก็เดินต่อเถิด”

บุรุษทั้งสี่ออกเดินต่อ ทั้งยังช่วยกันระวังสัตว์ร้ายที่อาจจะโผล่ออกมาได้ตลอดอีกด้วย

“เฟิ่งเออร์ เจ้าอยู่ที่ใด” ชุยหยุนตะโกนเรียกนางไปด้วย

หลิงเฟิ่งที่หลับอยู่ภายในมิติ นางตกใจตื่น เพราะเสียงเรียกของชุยหยุน ที่ร้องเรียกนางหลายหนแล้ว

“ข้านอนไปนานเลยรึเนี่ย” นางลุกขึ้นขยี้ตาอย่างงัวเงีย ก่อนจะออกจากมิติไปโผล่ด้านนอก

หลิงเฟิ่งเห็นชุยหยุนอยู่ไกลๆ นางคิดว่าเขามาเพียงผู้เดียว จึงได้ร้องเรียกแล้วโบกมือให้เขา

“ข้าอยู่นี่ เจ้าตามหาข้าเจอได้อย่างไร” บุรุษอีกสามคน โผล่หน้าออกมาให้เห็นทีละคน หลิงเฟิ่งได้แต่ยิ้มแข็งค้างทันที

ชุยหยุนได้แต่ส่ายหน้า ความลับของนางคงถูกผู้อื่นรู้เข้าเสียแล้ว แต่ก็รีบเร่งฝีเท้าเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว

“นางหายบ้าแล้วรึ” อาไฉหันไปหาลุงกู้และลุงจินอย่างสงสัย

“ข้าก็มาพร้อมเจ้า จะรู้ได้อย่างไรเล่า” ลุงกู้รีบเร่งฝีเท้าตามชุยหยุนไปตรงที่หลิงเฟิ่งนางยืนอยู่

“เช่นนี้แล้ว ทุกคนคงรู้แล้วว่าข้าหายบ้า” นางกระซิบบอกความกับชุยหยุน เมื่อเขาจับตัวนางสำรวจว่าได้รับอันตรายที่ใดหรือไม่

“ช่างเถิด แล้วเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

“หึ ไม่ใช่เสน่ห์ของท่านรึ ที่ทำให้ข้าต้องมาอยู่ในป่าเช่นนี้”

“หวงหลานกับกวงเจินรึ”

“ฉลาดไม่น้อยเลยพ่อหนุ่ม” หลิงเฟิ่งมองเขาอย่างหยอกล้อ

บุรุษทั้งสามเดินเข้ามาถึงตัวของหลิงเฟิ่ง เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอันใด จึงคิดที่จะรีบออกจากป่า ก่อนที่ฟ้าจะมืด

“เจ้าหายบ้าแล้วรึ” อาไฉเอ่ยถามอย่างสงสัย

“เจ้าค่ะ ข้าพบท่านเทพ ท่านคงเวทนาข้าจึงได้ช่วยเหลือให้ข้าหายดี” นางอมยิ้มมองพวกเขา

“ดีแล้ว เช่นนั้นก็รีบลงภูเขาเถิด ไปพูดคุยกันที่เรือน” ลุงกู้ที่เคยเห็นสัตว์ร้ายด้วยตาตนเองจึงเอ่ยเร่งให้ทั้งหมดรีบลงจากภูเขา

“เอ๊ะ...” หลิงเฟิ่ง กำลังก้มไปสวมรองเท้าให้ดี เมื่อครู่ที่นางออกจากมิติยังมิได้สวมใส่ให้เรียบร้อย สายตาของนางก็ไปสะดุดเข้ากับของที่อยู่บนพื้น

“มีสิ่งใดรึ” ชุยหยุนเอ่ยถาม เมื่อเห็นหลิงเฟิ่ง นางใช้นิ้วเขี่ยสิ่งที่อยู่ในดิน

“หญ้าหนอน” นางเงยหน้าขึ้นมาพูด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
สร้อยสน เครื่องทิพย์
อยากอ่านต่อ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ใบรับรองการเป็นสามีภรรยา

    เมื่อก่อนตอนเสียสติ นางก็ไม่เคยนึกรังเกียจที่มีหลิงเฟิ่งเป็นลูกสะใภ้ แต่พอนางหายดี ความสามารถของนาง ทั้งสิ่งของที่นางสามารถนำออกมาจากความว่างเปล่าได้ ยิ่งทำให้นางอยากจะขอบคุณสวรรค์วันละสามเวลาหลังอาหาร“หื้ม...แบบร่างของข้าน่าสนใจเพียงนั้นเลยรึเจ้าคะ”นางมิได้ร่างแบบที่แปลกประหลาดแต่อย่างใด นางเพียงแค่เพิ่มระเบียงหลังห้องที่สามารถนั่งอ่านตำรา หรือนั่งพูดคุยกันได้เพิ่มขึ้นมา ทั้งเรื่องห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่เปียกกับพื้นที่แห้งชัดเจน จวนใหญ่ก็คงมีเช่นนี้ นางคิดว่าไม่ใช่เรื่องประหลาด“ใช่แล้ว นายช่างกวนไม่เคยเห็นเรือนที่เจ้าร่างมาก่อน ทั้งประตูที่ทำเป็นแบบเลื่อนได้ ข้าก็พูดไม่รู้เรื่อง เจ้าออกไปพูดเองดีกว่า หากอาหยุนจะตำหนิเจ้า ข้าจะจัดการเอง” จูซื่อดึงมือหลิงเฟิ่งออกไปพบนายช่างทันที“ประเดี๋ยวท่านแม่...ท่านลืมไปแล้วรึ ว่าชาวบ้านยังไม่มีผู้ใดรู้เรื่องที่ข้าหายดีแล้ว”“ตายจริง ข้าเกือบลืมไป ข้าจะออกไปพูดใหม่ ว่าอาหยุนเป็นคนร่าง เจ้ากลับเข้าไปอยู่ในห้องเถิด” จูซื่อนึกอยากจะตบปากตัวเองเสียหลายๆ ที นางจำต้องเดินไปพบนายช่างกวนเพื่อบอกให้เขามาพบชุยหยุนอีกครั้งในตอนเย็นชุยหยุนที่เข้าเมืองไปพร้อม

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สร้างสามห้องพอ

    “ท่านแม่ เฟิ่งเออร์ ข้าใคร่ครวญเรื่องนี้ดีแล้ว อีกอย่างข้าไม่ใจบุรุษใจโลเล ที่พบเห็นสตรีอื่นก็จะเปลี่ยนใจได้ง่าย ในเมื่อข้าหายดีก็เป็นเพราะนาง มีเงินมากมายก็เป็นเพราะนาง แล้วจะมีเหตุผลใดที่ข้าจะไม่ต้องการใช้ชีวิตกับนาง”หลิงเฟิ่งยังเม้นปากแน่น นางพอจะเชื่อว่าตระกูลซ่งรักนางจากใจจริง แต่นางยังไม่มั่นใจที่จะใช้ชีวิตเช่นสามีภรรยากับชุยหยุน“ไว้ท่านกลับเข้าไปเรียนอีกครั้ง แล้วสอบผ่านซิ่วไฉได้ หากยังต้องการสร้างครอบครัวกับข้าจริง ข้าจะไม่ปฏิเสธท่านแล้ว แต่หากพบเจอคนที่ท่านต้องการใช้ชีวิตมากกว่าข้า อย่างไรข้าก็ยังเป็นน้องสาวของท่านได้”“เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี้ นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เจ้ายังต้องเดินทางเข้าเมืองแต่เช้า เครื่องนอนก็ยังมิได้เปลี่ยน”จูซื่อเอ่ยยุติการสนทนาที่ดูท่าหากพูดกันต่ออย่างไรก็คงไม่จบในคืนนี้ หลิงเฟิ่งจึงได้ลุกขึ้นไปช่วยจูซื่อเปลี่ยนเครื่องนอนในห้องของนาง ก่อนจะกลับไปเปลี่ยนเครื่องนอนที่ห้องของตนเอง“ท่านว่า...ข้าไปนอนห้องท่านแม่ดีหรือไม่”หลิงเฟิ่งมองเตียงที่มีผ้าห่ม หมอน เพิ่มเข้ามาแล้ว หากขึ้นไปนอนสองคนก็ดูจะอึดอัดไม่น้อยเลย“ไม่ต้อง ใช้ผ้าห่มผืนเดียวก็พอ” ชุยหยุนเก็บผ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   หลี่ซวงสร้างเรื่อง

    หากเขาได้รู้ตั้งแต่แรก คงยอมให้มารดาแต่งกับลุงกู้ไปนานแล้ว ตอนที่คิดว่าจะจบชีวิตลง ยังเป็นห่วงมารดาว่านางจะอยู่เพียงผู้เดียว“แม่...แม่” นางจูซื่อทั้งเขินอาย ทั้งไม่รู้จะหาคำใดมาพูดกับลูกชายดี นางจึงได้แต่อ้าปากและหุบปากลง“หากพวกท่านต้องการที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ข้าเองก็ไม่มีสิ่งใดที่จะขัด ข้าขอท่านลุงเพียงเรื่องเดียว...อย่าทำให้ท่านแม่ข้าเสียใจก็พอ” ชุยหยุนเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“ได้ๆ ข้าไม่มีทางทำให้จูจูนางเสียใจเป็นอันขาด” ลุงกู้พยักหน้าอย่างรวดเร็วหลิงเฟิ่งได้แต่เบิกตากว้าง ถึงขั้นเรียกนามกันอย่างสนิทสนมเช่นนี้ คงดูใจกันมานานมากแล้วแน่ๆ“ข้าบอกพวกเจ้าแล้ว อาหยุนมิใช่คนไม่รู้ความหากพวกเจ้าบอกตั้งนาน ป่านนี้ก็มีลูกน้อยมาวิ่งเล่นแล้ว” ป้าจินเอ่ยเย้าออกมาหลิงเฟิ่งก็พยักหน้าน้อยๆ อย่างเห็นด้วย แม่สามีของนางยังไม่ถึงสี่สิบหนาว หากนางแข็งแรงมากพอเรื่องมีบุตรไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้“พวกข้ากลับก่อนดีกว่า พวกเจ้าก็ค่อยๆ คุยกันไป จะจัดงานมงคลเมื่อใดก็บอกข้าด้วยเล่า” ป้าเหลียนโบกมือลา ก่อนจะลากอาไฉที่มองคนนั้นทีคนนี้ทีกลับไปด้วยกันนางยังได้ยินเสียงอาไฉ ร้องตะโกนให้ป้าเหลียนไปหาสตรีมาแต่งเป็น

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เรื่องที่ชุยหยุนไม่เคยรู้

    ชาวบ้านที่ออกมารอรับ เมื่อเห็นเกวียนวัวมิได้มีชุยหยุนและหลิงเฟิ่งลงมา ต่างก็รีบวิ่งตามเกวียนวัวที่เคลื่อนตัวไปทางเรือนตระกูลซ่งทันทีแม้ชาวบ้านคนอื่นจะสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะตามไป ชาวบ้านที่วิ่งตามคงฝากเจ้าของเกวียนวัวกับชุยหยุนซื้อของ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านที่ห่างไกลเมือง จนเป็นเรื่องชินตาอยู่แล้วหลิงเฟิ่งนางเอาเงินส่วนของพวกลุงกู้ออกมาใส่ไว้ในตะกร้าแล้ว พอมาถึงเรือนชุยหยุนก็ส่งสายตาบอกบุรุษทั้งสาม ว่าตั๋วเงินอยู่ในตะกร้า ก่อนจะจูงหลิงเฟิ่งที่กลับมาแกล้งบ้า เข้าไปพักเรือนก่อนป้าเหลียนกับป้าจิน ถูกสามีและบุตรชายดันตัวให้เข้าไปช่วยชุยหยุนประคองหลิงเฟิ่งไปส่งในเรือน พวกนางจึงได้รับเข้าไปทำหน้าที่แทนชุยหยุนทันที“เจ้าไปคุยกับชาวบ้านเถิด ข้าจะพาเฟิ่งเออร์ไปพักเอง” ชุยหยุนเข้าใจในคำพูดของป้าเหลียน เขาจึงปล่อยมือหลิงเฟิ่งแล้วเดินไปหาหัวหน้าหมู่บ้านแทน“ห้องเจ้าแคบ ไปห้องข้าดีกว่า” จูซื่อเห็นว่าป้าเหลียนกับป้าจินจะตามหลิงเฟิ่งเข้าไปสอบถามความในห้อง จึงได้ขวางหน้าเอาไว้สตรีทั้งสี่คนอยู่ภายในห้องนอนของจูซื่อ ทั้งยังลงกลอนไว้อย่างแน่นหนาแล้วด้วย“พวกท่านรับปากข้าก่อน ห้ามร้องออกมา

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ข้ารู้สึกว่ามีคนมอง

    ทั้งสองที่รอให้เสี่ยวเอ้อไปชั่งหญ้าหนอน จึงสอบถามว่าหมอถานยังรับเพิ่มอีกหรือไม่ ตอนนี้ชาวบ้านกำลังเก็บอยู่ พรุ่งนี้คงจะนำมาขายให้อีกรอบได้“หมู่บ้านหู่เซิง มีหญ้าหนอนมากเพียงนี้เลยรึ” เขาเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยด้วยที่ผ่านมาไม่เคยมีชาวบ้านเก็บมาขายเลย หรือว่าจะไม่รู้จักก็เห็นจะไม่ใช่ ราคาที่สูงของโสม เห็ดหลินจือ หญ้าหนอน ทำให้ชาวบ้านที่ขึ้นเขาได้แต่หวังว่าจะโชคดีพบเจอสักเล็กน้อย“ขอรับ อาจจะเป็นความโชคดี ที่พวกข้าได้บังเอิญไปพบบนภูเขาที่ชาวบ้านไม่ได้เข้าไปหาของป่า”“เป็นเช่นนี้เอง” หมอถานพยักหน้าอย่างเข้าใจครั้งนี้เขาคงไม่ให้หลงจู๊เดินทางไปส่งของที่เมืองหลวงแล้ว คงจะเดินทางไปด้วยตนเองแทนเสี่ยวเอ้อเดินเข้ามาแจ้งเรื่องจำนวนหญ้าหนอนที่ชั่งได้ ของพวกลุงกู้เก้าชั่ง เป็นเงินสองพันเจ็ดร้อยตำลึงทอง ของหลิงเฟิ่งยี่สิบห้าชั่ง เป็นเงินมากถึงหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยตำลึงทองค่าเงิน1 อิแปะ, เหวิน = 1 เหรียญทองแดง1 ก้วน = 1,000 อิแปะ /เหวิน/เหรียญทองแดง1 ตำลึงเงิน = 1ก้วน (พวง)1 ตำลึงทอง = 10 ตำลึงเงินแม้แต่หลิงเฟิ่งเองก็ตกใจกับน้ำหนักหญ้าหนอนหนึ่งตะกร้า ดูจะมากกว่าที่นางขายผักเมื่อชีวิตที่แล้

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เข้าเมืองขายหญ้าหนอน

    เกวียนวัวเริ่มเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้าน หลิงเฟิ่งที่ทนแรงเขย่าไม่ให้ก็เอนตัวพิงเกวียนเพื่อหลับตาพักผ่อน นางกลัวจะอาเจียนออกมา หากไม่ข่มตาหลับ ชุยหยุนเห็นเช่นนั้นจึงประคองศีรษะของนางให้พิงมาที่ไหล่ของเขาแทน“หึ มิคิดว่าเจ้าจะดูแลนังบ้าดีเช่นนี้” หลี่ซวงอดที่จะถากถางออกมาไม่ได้ ยิ่งมองรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของหลิงเฟิ่งเขาก็ยิ่งไม่ชอบใจนางคงจะอยู่ดีกินดี ถึงได้เริ่มมีน้ำมีนวล อีกทั้งใบหน้าที่เคยซูบผอมไม่ชวนมองก็เริ่มเผยความงามออกมาแล้ว“เจ้าควรจะดีใจ ที่ตระกูลซ่งของข้าดูแลนางดีเช่นนี้ หรือว่า...เจ้ามิใช่พี่ชายของนาง” หากมองดูดีๆ หลิงเฟิ่งก็ไม่ได้มีส่วนใดที่คล้ายกับคนตระกูลหลี่เลย จะบอกว่านางเหมือนมารดาของนางก็คงไม่ใช่ มารดาของหลิงเฟิ่งปากหนา ตาเล็ก จมูกก็มิได้เป็นสันโด่งเช่นนั้นนาง“ผู้ใดอยากจะมีน้องสาวเสียสติเช่นนาง ตอนนี้นางก็ถูกตระกูลหลี่ตัดขาดไปแล้ว ต่อไปเจ้าอย่าได้อ้างถึงคนตระกูลหลี่อีก”นี่คือสิ่งที่ชุยหยุนอยากได้ยินจากปากของหลี่ซวง ในเกวียนมีชาวบ้านในหมู่บ้านอีกนับสิบ สิ่งที่เขาพูดในวันนี้ย่อมมีผลภายหน้าอย่างแน่ตลอดสองชั่วยามที่เดินทางเข้าเมือง ไม่ว่าหลี่ซวงจะพูดสิ่งใดต่อ ชุยหยุนก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status