Share

เจ้าหายบ้าแล้วรึ

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-09-25 05:56:28

หากหลิงเฟิ่งนางเดินไปทางลำธารที่ท้ายหมู่บ้านจริง มิใช่ว่านางจะตกน้ำตายไปแล้วหรือ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ต่างก็รีบเร่งฝีเท้าไปทางลำธารทันที

หลิงเฟิ่ง นางกำลังสำราญอยู่ภายในมิติ โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ภายในหมู่บ้านวุ่นวายกันมากเพียงใด นางทั้งอาบน้ำขัดตัว กินอาหารจนอิ่มท้อง ก่อนจะหลับพักผ่อนอย่างสบายใจ

ผ่านไปนับสองชั่วยาม ที่ไม่พบร่องรอยการหายตัวไปของหลิงเฟิ่ง ผู้นำหมู่บ้านจึงให้ทุกคนหยุดหาก่อน แล้วรอให้สองแม่ลูกตระกูลซ่งเดินทางกลับมาจากในเมือง ค่อยคิดหาทางกันอีกที

เมื่อจูซื่อและชุยหยุนลงมาจากเกวียนวัว ก็พบชาวบ้านที่รอสองแม่ลูกอย่างกระวนกระวายอยู่ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน

“อาจู อาหยุนเจ้ากลับมาเสียที” ป้าจินเอ่ยเรียกอย่างละอายใจ

“มีเรื่องอันใดรึขอรับ ท่านป้า” ชุยหยุนเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดี เมื่อเห็นสีหน้าของป้าจินและป้าเหลียน

“เฟิ่งเออร์ นางหายตัวไป ชาวบ้านออกตามหานางทั่วแล้ว แต่ก็ยังไม่พบนาง” ป้าเหลียนเป็นผู้ที่เอ่ยออกมา

“สวรรค์” จูซื่อแทบจะล้มไปกองกับพื้น ความกังวลที่นางมีก่อนหน้ามิใช่ว่านางคิดไปเอง

“นางจะหายไปได้อย่างไรกัน ท่านป้า ท่านหาดูดีแล้วใช่หรือไม่” ชุยหยุนใบหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาทันที

หลิงเฟิ่ง นางไม่ได้บ้า หากนางจะหายไปมีทางเดียวคือนางคิดหนีออกจากหมู่บ้าน แต่ถ้านางออกทางประตูเรือน ป้าจินย่อมต้องเห็นนาง

ชุยหยุนรีบเร่งฝีเท้ากลับไปที่เรือนของตนทันที เพื่อไปดูว่าข้าวของ ของหลิงเฟิ่งหายไปด้วยหรือไม่ แต่เมื่อเข้าไปพบก็ว่าทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิม แม้แต่ใบรับรองตัวตนนางก็ไม่ได้เอาติดตัวไปด้วย

“ท่านป้า ท่านหานางที่ใดแล้วบ้าง ท่านเห็นคนเข้ามาในเรือนของข้าหรือไม่”

“ไม่มี ตอนที่ข้ามาเรียกนางให้กินข้าว ประตูเรือนของเจ้ายังลงกลอนไว้ อย่างแน่นหนา ข้าร้องเรียกนางอยู่นาน อาไฉ ก็เลยอาสาเข้าไปดูนาง จึงได้รู้ว่านางหายไป ในหมู่บ้าน ลำธารล้วนแต่หาจนทั่วแล้ว” ป้าจินถอนหายใจออกมา

“บนภูเขา มีผู้ใดขึ้นไปหาแล้วหรือไม่ขอรับ” ชุยหยุนเอ่ยถามอย่างใจเย็น

“เอ่อ...ไม่มี แต่ภูเขาลูกท้ายหมู่บ้าน ชาวบ้านที่หาของป่าไม่มีผู้ใดพบนาง” ป้าเหลียนเอ่ยตอบออกมา

“เช่นนั้นก็เหลือภูเขาหลังเรือนของข้า” เขามองออกไปทางด้านหลังเรือน ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับรั้วที่พังจนพาให้สตรีตัวเล็กๆ ลอดออกไปได้

ชุยหยุนเดินเข้าไปสำรวจดู ก็พบว่าไม่ได้มีเพียงรอยเท้าเดียวของหลิงเฟิ่ง แต่มีรอยเท้าอีกสองรอย รอยเล็กเพียงนี้ คงจะเป็นสตรีอย่างแน่นอน ชุยหยุนส่งสายตาไปทางชาวบ้านที่อยู่ภายในเรือนของเขา แต่ก็ต้องหยุดมองสำรวจที่กวงเจินและหวงหลานที่หลบสายตาและทั้งสองยังกอดแขนกันเอาไว้แน่น

“แม่นางกวง และนางหวง พวกเจ้าเห็นเฟิ่งเออร์หรือไม่”

“หะ เหตุใดถึงถามข้ากันเล่า ข้าสองคนช่วยออกตามหานางแต่ก็ไม่พบ จะรู้ได้ไงว่านางอยู่ที่ใด” กวงเจินก้มหน้าหลบสายตา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง มีเพียงเสียงที่สั่นเทาของนาง ทำให้ชุยหยุนรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นพวกนางอย่างแน่นอน

“ไม่เห็นก็ดี เฟิ่งเออร์ถูกพาคนออกไปจากเรือน” เขาชี้มือให้ผู้นำหมู่บ้านดู

ลุงกู้ นายพรานในหมู่บ้าน ยังเข้ามาช่วยดูและยืนยันอีกเสียงว่า หลิงเฟิ่งนางออกไปทางนี้จริง ทั้งยังมีคนพานางออกไปด้วย

ทุกสายตาตอนนี้หันไปมองที่หวงหลานและกวงเจินอย่างสงสัย แต่ในเมื่อไม่มีหลักฐานว่าเป็นพวกนางสองคนจึงไม่อาจจะเอาผิดได้ รอยเท้าที่พบก็ย้ำกันจนเสีย ไม่อาจนำมาเทียบกับรอยเท้าของพวกนางได้

“ลุงกู้ ข้าขอแรงท่านได้หรือไม่ขอรับ ข้าต้องการให้ท่านนำทางขึ้นภูเขาด้านหลังเรือน หากพบเฟิ่งเออร์ ข้าต้องตอบแทนพระคุณท่านอย่างดี”

“จะคิดเป็นบุญคุณได้อย่างไรกัน คนหายไปทั้งคนย่อมต้องช่วยกันออกตามหา แต่ว่า...ภูเขาลูกนี้เจ้าก็รู้ว่าอันตรายไม่น้อย หากไม่พบนางก่อนฟ้าจะมืด เจ้าต้องยอมกลับลงมาเข้าใจหรือไม่” ลุงกู้ เอ่ยออกมาอย่างกังวล

“ได้ขอรับ” รอให้ถึงตอนนั้น หากยังหาหลิงเฟิ่งไม่เจอ เขาจะให้ทุกคนลงมาก่อน แล้วค่อยออกตามหานางด้วยตนเอง

หัวหน้าหมู่บ้านสอบถามชาวบ้านว่ามีผู้ใดต้องการขึ้นภูเขาไปพร้อมกับลุงกู้หรือไม่ แต่ก็มีเพียงลุงจินและอาไฉ บุตรชายของป้าเหลียนเท่านั้น ที่ยอมขึ้นไปด้วย

ชุยหยุนก็มิได้บังคับผู้ใด เขาฝากมารดาให้ป้าจินและป้าเหลียนดูแล ก่อนจะรีบเตรียมตัวแล้วพากันออกเดินขึ้นไปบนภูเขา มีเวลาเพียงอีกสองชั่วยามเท่านั้น ก่อนที่ฟ้าจะมืด จะเสียเวลาต่อไม่ได้แล้ว

“นางขึ้นมาบนภูเขาจริงด้วย” ลุงกู้ร้องบอก เมื่อเห็นร่องรอยที่หลิงเฟิ่งนางทิ้งไว้ ทั้งยังมีรอยเท้าสตรีเดินกันอยู่อีกมากมาย

พอเดินตามไปเรื่อย ๆ จึงได้เห็นว่ามีสองรอยที่ยืนอยู่กับที่ แต่อีกรอยเดินหายเข้าไปด้านในป่า

“จะตามต่อหรือไม่” อาไฉกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยรู้ดีว่าป่าด้านในมีสัตว์ร้ายอยู่

“อาไฉ หากเจ้ากลัวรออยู่ด้านนอกก็แล้วกัน ข้าจะเดินเข้าไปหานางต่อ” ชุยหยุนไม่ตำหนิอาไฉเลยสักนิด เพียงแค่เขายอมขึ้นมาด้วยก็นับว่าดีมากแล้ว

“ไม่ ไม่ ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร มาแล้วก็เดินต่อเถิด”

บุรุษทั้งสี่ออกเดินต่อ ทั้งยังช่วยกันระวังสัตว์ร้ายที่อาจจะโผล่ออกมาได้ตลอดอีกด้วย

“เฟิ่งเออร์ เจ้าอยู่ที่ใด” ชุยหยุนตะโกนเรียกนางไปด้วย

หลิงเฟิ่งที่หลับอยู่ภายในมิติ นางตกใจตื่น เพราะเสียงเรียกของชุยหยุน ที่ร้องเรียกนางหลายหนแล้ว

“ข้านอนไปนานเลยรึเนี่ย” นางลุกขึ้นขยี้ตาอย่างงัวเงีย ก่อนจะออกจากมิติไปโผล่ด้านนอก

หลิงเฟิ่งเห็นชุยหยุนอยู่ไกลๆ นางคิดว่าเขามาเพียงผู้เดียว จึงได้ร้องเรียกแล้วโบกมือให้เขา

“ข้าอยู่นี่ เจ้าตามหาข้าเจอได้อย่างไร” บุรุษอีกสามคน โผล่หน้าออกมาให้เห็นทีละคน หลิงเฟิ่งได้แต่ยิ้มแข็งค้างทันที

ชุยหยุนได้แต่ส่ายหน้า ความลับของนางคงถูกผู้อื่นรู้เข้าเสียแล้ว แต่ก็รีบเร่งฝีเท้าเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว

“นางหายบ้าแล้วรึ” อาไฉหันไปหาลุงกู้และลุงจินอย่างสงสัย

“ข้าก็มาพร้อมเจ้า จะรู้ได้อย่างไรเล่า” ลุงกู้รีบเร่งฝีเท้าตามชุยหยุนไปตรงที่หลิงเฟิ่งนางยืนอยู่

“เช่นนี้แล้ว ทุกคนคงรู้แล้วว่าข้าหายบ้า” นางกระซิบบอกความกับชุยหยุน เมื่อเขาจับตัวนางสำรวจว่าได้รับอันตรายที่ใดหรือไม่

“ช่างเถิด แล้วเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

“หึ ไม่ใช่เสน่ห์ของท่านรึ ที่ทำให้ข้าต้องมาอยู่ในป่าเช่นนี้”

“หวงหลานกับกวงเจินรึ”

“ฉลาดไม่น้อยเลยพ่อหนุ่ม” หลิงเฟิ่งมองเขาอย่างหยอกล้อ

บุรุษทั้งสามเดินเข้ามาถึงตัวของหลิงเฟิ่ง เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอันใด จึงคิดที่จะรีบออกจากป่า ก่อนที่ฟ้าจะมืด

“เจ้าหายบ้าแล้วรึ” อาไฉเอ่ยถามอย่างสงสัย

“เจ้าค่ะ ข้าพบท่านเทพ ท่านคงเวทนาข้าจึงได้ช่วยเหลือให้ข้าหายดี” นางอมยิ้มมองพวกเขา

“ดีแล้ว เช่นนั้นก็รีบลงภูเขาเถิด ไปพูดคุยกันที่เรือน” ลุงกู้ที่เคยเห็นสัตว์ร้ายด้วยตาตนเองจึงเอ่ยเร่งให้ทั้งหมดรีบลงจากภูเขา

“เอ๊ะ...” หลิงเฟิ่ง กำลังก้มไปสวมรองเท้าให้ดี เมื่อครู่ที่นางออกจากมิติยังมิได้สวมใส่ให้เรียบร้อย สายตาของนางก็ไปสะดุดเข้ากับของที่อยู่บนพื้น

“มีสิ่งใดรึ” ชุยหยุนเอ่ยถาม เมื่อเห็นหลิงเฟิ่ง นางใช้นิ้วเขี่ยสิ่งที่อยู่ในดิน

“หญ้าหนอน” นางเงยหน้าขึ้นมาพูด

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
สร้อยสน เครื่องทิพย์
อยากอ่านต่อ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   บทสรุป

    แต่เรื่องที่น่าประหลาดอีกเรื่องของตระกูลโจว ที่ทำให้จวนโจวถูกแม่สื่อเข้ามาพูดคุยกับพานซื่อทุกวันเห็นจะเป็นเรื่องคลอดของอวี้หลินหลังจากที่ผ่านมาได้ห้าเดือนหลังจากที่หลิงเฟิ่งนางคลอดบุตรชายทั้งสามออกมา ตำหนักอ๋องก็มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น เมื่ออวี้หลินนางปวดท้องคลอดในกลางดึกหลิงเฟิ่งเมื่อรู้เรื่องก็รีบไปที่ตำหนักอ๋องพร้อมกับชุยหยุนทันที พานซื่อและบุรุษตระกูลโจวทั้งสามตามมาทันนางที่หน้าตำหนักพอดีจึงได้เข้าไปด้านในพร้อมกันหลิงเฟิ่งกับพานซื่อเข้าไปอยู่ภายในห้องคลอดด้วย นางเทน้ำวิเศษให้อวี้หลินได้ดื่ม เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของนางหมอตำแยก็เป็นคนเดียวกันกับที่ทำคลอดให้หลิงเฟิ่งพอเด็กทารกสองคนแรกออกมา นางก็ต้องกรีดร้องเสียงดังอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อมีหัวน้อยๆ โผล่ออกมาจากช่องคลอดอีกหัวหนึ่ง“สวรรค์!!! ดะ เด็ก เด็กอีกคนเจ้าค่ะ”อวี้หลินคลอดบุตรชายฝาแฝดออกมาสามคนเช่นกัน เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อนในแคว้นต้าเยี่ยทำให้บุรุษตระกูลโจวอีกสองคนที่เหลือที่ยังไม่ยอมแต่งฮูหยินเข้าจวน ถึงกับหนักใจ ด้วยแม่สื่อที่เดินเข้าออกไปขาดสาย“อาเหว่ย ข้าจะขอไปอยู่ที่ค่ายนอกเมืองกับเจ้าสั

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เจ้าแบ่งให้ข้าคนหนึ่งมิได้รึ

    เพียงไม่นาน ขบวนกองทัพก็ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยที่นำอยู่ด้านหน้า ฉีกยิ้มกว้างให้พานซื่อและอวี้หลิน ก่อนที่ทั้งสองจะรีบควบม้าเข้าไปหาคนที่รออยู่“เฟิ่งเออร์เล่า” พานซื่อเอ่ยถามหาหลิงเฟิ่งทันที เมื่อลู่เหวินลงจากหลังม้ามาหานาง“ท่านแม่ ลูกกลับมาแล้วขอรับ” โจวเฉิงเหว่ยคุกเข่าลงตรงหน้าของพานซื่อ แล้วก้มคำนับสามครั้งให้นาง“อาเหว่ย เจ้าจากบ้านไปเสียหลายปี ครั้งนี้ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าแล้วนะลูก” นางลูบใบหน้าของบุตรชายคนรองอย่างคิดถึง“ฟะ เฟิ่งเออร์ เจ้า...”พานซื่อถูกเสียงร้องอย่างตกใจของอวี้หลิน ทำให้หันไปมองที่ด้านหลังของโจวเฉิงเหว่ยอย่างรวดเร็วดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา ตอนที่เดินทางออกจากเมืองหลวงไป ท้องของหลิงเฟิ่งมิได้ดูเหมือนจะตั้งครรภ์มาก่อน แต่ยามนี้ท้องของนางราวกับว่าใกล้คลอดเต็มทีแล้วนี่คงเป็นเหตุผลที่นางไม่อาจเดินทางกลับเมืองหลวงได้ตามที่เคยรับปากเอาไว้“เฟิ่งเออร์ เจ้าท้องกี่เดือนกัน ตั้งแต่เมื่อใด หรือว่าเจ้าท้องก่อนที่จะเดินทางแล้ว เหตุใดถึงไม่บอกแม่เล่า” พานซื่อเอ่ยถามออกมาระรัว“ท่านแม่ ครรภ์ของข้าเพิ่งจะหกเดือนเท่านั้นเจ้าค่ะ ข้าก็เ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน

    โจวเฉิงเหว่ยนั่งอยู่บนหลังม้า ยืนอยู่หน้าเหล่าทหารหลายหมื่น สายตาของเขาจ้องมองไปยังร่างกำยำของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานอย่างเย็นชา“บิดาเจ้าเหล่า เหตุใดต้องส่งลูกเต่าเช่นเจ้ามาเอาชีวิตข้า”“ท่านพ่อไม่คิดว่าท่านจะตัดสินใจเช่นนี้”“หึหึ บุรุษตระกูลโจวเก่งกาจนัก หากข้ารู้สักนิดว่าโจวลู่เหวินมิได้สูญเสียวรยุทธ์ก็คงจะทูลขอให้ฝ่าบาททรงเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ข้าเกาซือหม่า ขอแลกชีวิตกับเหล่าทหารแคว้นต้าหานทั้งหมด หวังว่าแม่ทัพน้อยโจว จะปล่อยให้ทหารของข้ากลับคืนสู่แคว้นต้าหาน”แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ดึงดาบออกมาพาดที่คอ เขาตัดคอตนเองออกโดยไม่เผยความหวั่นเกรงใดออกมา โจวเฉิงเหว่ยจ้องมองหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานหลุดลงพื้นด้วยสายตาที่เรียบเฉย“เก็บกลับค่าย ถอยทัพ!!! ไม่ต้องตามทหารแคว้นต้าหาน ปล่อยพวกมันกลับไป แต่หากยังรั้งอยู่ภายในสองวันนี้ ฆ่าให้หมดไม่ต้องเหลือเอาไว้”เสียงของโจวเฉิงเหว่ยประกาศกร้าว จนแม้แต่ทหารแคว้นต้าหานที่ออกมาดูท่านแม่ทัพใหญ่ของตนปลิดชีพได้ยินอย่างชัดเจนหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานถูกเก็บกลับไปที่ค่ายของแคว้นต้าเยี่ย เหลือเพียงร่างไร้ศีรษะให้ทหารแคว้นต้าหานเ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   การตัดสินใจของเกาซือหม่า

    ลู่เหวินยกธนูขึ้นเล็งไปทางแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ก่อนจะปล่อยลูกธนูออกจากสายไป แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานได้แต่มองเยาะเย้ยอย่างได้ใจ ระยะไกลเพียงนี้ ต่อให้เก่งการเพียงใดก็ยิงไม่ถึงเขาเป็นแน่“เฮือกกกก” เสียงสูดลมหายใจของทหารแคว้นต้าหานเมื่อลูกธนูที่ลู่เหวินปล่อยออกมา มันทะลุคอม้าที่แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานขี่ราวกับจับวาง นี่คือสิ่งที่ลู่เหวินต้องการ เขาไม่ได้ต้องการสังหารแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานภายในลูกธนูเดียว แต่เป็นการย้ำเตือนว่าตนมิได้สูญเสียวรยุทธ์เช่นที่คิดกัน“บุก!!!” แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน เปลี่ยนม้าตัวใหม่ได้ ก็ร้องตะโกนบอกทหารของตนทันทีความยับยั้งชั่งใจหายไปจนสิ้น เมื่อถูกหยามเช่นนี้ เขาควบม้าเข้าไปหาลู่เหวินอย่างไม่เกรงกลัว“บุก!!! ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือรอด” ลู่เหวินควบม้าพุ่งทะยานเข้าไปในสนามรบเช่นกันหลิงเฟิ่ง ที่นอนพักอยู่ภายในเรือนสะดุ้งตกใจตื่น นางกับชุยหยุนมิได้เข้าไปนอนภายในมิติ จึงได้ยินเสียงต่อสู้อย่างชัดเจน“ท่านพี่”“สงครามเริ่มแล้ว หากเจ้ากลัวเข้าไปหลบในมิติก่อนดีหรือไม่” ชุยหยุนกอดหลิงเฟิ่งเอาไว้แน่น“ไม่เจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าหลิงเฟิ่งมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ นางเป็นห่วงบิดาแ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองแล้ว

    หลิงเฟิ่งอยู่ภายในมิตินางก็ไม่ได้ทำสิ่งใดมาก นอกจากตื่นมากินแล้วนอนต่อ ตั้งแต่ตั้งครรภ์มา นางรู้สึกว่าขี้เกียจจะขยับร่างกายไปเสียหมด ต่อให้หลิงเฟิ่งอยู่แต่ภายในมิติ เสียงขององครักษ์ที่อยู่ด้านนอกนางก็ยังได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันจึงได้รู้ว่า กองทัพของแคว้นต้าหานเดินทัพมาประชิดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ คงอีกไม่เกินห้าวันพวกเขาก็คงจะมาตั้งค่ายอยู่ไม่ห่างแล้วผ่านมาได้เพียงสามวัน กองทัพของแคว้นต้าหานก็เดินทางมาตั้งค่ายเสียแล้ว เจ้าเมืองเป่ยตู่เร่งพาชาวบ้านที่อยู่ใกล้เขตชายแดนลี้ภัยออกไปอยู่ค่ายหลบภัยที่นอกเมืองเป่ยตู่อย่างเร่งด่วนสนามสอบแทบจะเร่งบัณฑิตให้ส่งกระดาษสอบแล้วให้เดินทางออกไปจากสนามสอบให้เร็วที่สุด“เฟิ่งเออร์ เฟิ่งเออร์ ข้ากลับมาแล้ว” ชุยหยุนเมื่อกลับมาถึงเรือนก็ร้องเรียกหลิงเฟิ่งเสียงดัง“เหตุใด กลับมาเร็วนักเล่า” ฟ้าด้านนอกเพิ่งจะสว่างได้ไม่นาน ชุยหยุนก็เดินทางมาถึงเรือนแล้ว“กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองเป่ยตู่แล้ว ตอนนี้ชาวบ้านบางส่วนก็อพยพย้ายไปอยู่ที่ค่ายลี้ภัยนอกเมืองแล้ว”“เร็วเพียงนั้นเลยรึ” หลิงเฟิ่งอดที่จะตกใจไม่ได้“สงครามยังคงไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แคว้นต้าหานเร่งเดิน

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ายินดี

    ความจริงหลิงเฟิ่ง นางอยากจะรั้งอยู่ เพื่อเดินทางกลับพร้อมบิดาและพี่ชาย เพื่อว่ามีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเหลือได้บ้าง แต่หากว่านางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงก็ควรจะเร่งเดินทางออกจากเมือง เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลทั้งสี่พูดคุยเรื่องเสบียงอาหารต่ออีกเพียงไม่นาน ท่านหมอก็เดินเข้ามาภายในห้องพัก บุรุษทั้งสามจึงได้เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตรงกลางห้อง แต่สายตาของพวกเขาก็ยังจ้องมองมาที่หมออย่างกดดัน“บุตรีข้าเป็นเช่นใด”“น้องสาวข้า อาการร้ายแรงหรือไม่”หมอยังมิทันจะได้จับชีพจร บุรุษตระกูลโจวก็เอ่ยถามออกมาอย่างกดดันเสียแล้ว น้ำเสียงของพวกเขาราวกับเอ่ยถามทหาร ว่าวันนี้พวกเจ้าตั้งใจฝึกซ้อมกันหรือไม่ หมอจะมีสมาธิตรวจได้อย่างไร“ท่านแม่ทัพใหญ่โจว ท่านแม่ทัพโจว ขอเวลาข้าน้อยสักครู่เถิด พวกท่านกดดันเช่นนี้ ข้าน้อยจะตรวจได้อย่างไร”ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยจึงนั่งดื่มชาอย่างเงียบๆ แต่สายตาของเขาก็ยังคงไม่ละไปจากนิ้วมือของท่านหมอที่กำลังจับชีพจรของหลิงเฟิ่งอยู่“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินนางตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”“ห๊ะ/ห๊ะ ตั้งครรภ์” สองพ่อลูกตระกูลโจวลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว“เจ้าตรวจให้ดี หลานข้าเป็นเช่นใดบ้าง ครรภ์ของนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status