Home / รักโบราณ / หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว / ตอนที่ 5 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 1.1

Share

ตอนที่ 5 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 1.1

last update Last Updated: 2025-08-29 09:06:05

ถนนหนานโหลวกู่เซียง 

 หนานโหลวกู่เชียง เป็นถนนคนเดินซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ในเขตตงเฉินทางทิศเหนือของพระราชวังต้องห้าม ทั้งสองข้างทางกว่า 800 เมตรเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย มีทั้งร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง ร้านกาแฟ ผับ บาร์ และร้านอาหาร 

 อาคารบ้านเรือนของที่นี่มีอายุหลายร้อยปี นับเป็นตรอกซอกซอยที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง ซึ่งได้รับการอนุรักษ์จากรัฐบาลไว้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการดัดแปลงเป็นร้านค้าแต่ก็ยังคงความเก่าแก่ของแบบบ้านโบราณเอาไว้ทุกอย่างดั่งเช่นบ้านเรือนของผู้คนในยุคอดีต 

 แก๊งนางร้ายที่สามสาวใช้เรียกเวลารวมตัวกัน แต่ละคนมีลักษณะโดดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่นอนก็คือความสวยที่โดดเด่นและสรีระของร่างกายที่กินกันไม่ลง 

 ร่างสูงงามระหงเกือบจะเท่ากันทุกคนตามยุคสมัยของผู้คนในยุคสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 21 มีเพียงเฉินเสวี่ยม่านเท่านั้นที่สูง 168 เซนติเมตร ส่วนลี่มี่มี่และหวังจิวเซียนสูง 170 เซนติเมตรเท่ากัน หวังจิวเซียนถูกเพื่อนร่วมแก๊งตั้งฉายาให้แก่เธอว่านางร้ายแห่งเฉาหยางเพราะคุณพ่อของเธอเป็นบุคคลมีอิทธิพลในเขตพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมด

 ในขณะที่เฉินเสวี่ยม่านมีฉายาว่านางร้ายคลุกฝุ่น เพราะวันๆ คุณเธอคลุกตัวอยู่กับการออกพื้นที่ฝึกภาคสนามไปกับกองงานโบราณคดีที่ร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยซึ่งกำลังศึกษาอยู่ 

 และลี่มี่มี่ที่เพื่อนๆ ต่างตั้งฉายาให้เธอว่านางร้ายหน้าเงินเพราะทุกเวลามีค่าเป็นตัวเงินเสมอสำหรับความคิดของหญิงสาว นางจะกดเครื่องคิดเลขอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ล่วงรู้ว่าตัวเองจะได้เงินหรือเสียเงินเป็นจำนวนเท่าไรในแต่ละวัน

 แต่ถึงลี่มี่มี่จะหน้าเงินเพียงใดบทแม่คุณจะใจใหญ่ก็ไม่ยั้งเช่นกันเพราะเธอบริจาคเงินให้แก่องค์กรการกุศลทุกครั้งที่ได้เงินมาจากน้ำพักน้ำแรงไม่ได้ขาดอยู่เสมอ แม้ว่าในเวลานี้จะไม่เดือดร้อนในเรื่องเงินทองก็ตามแต่ก็ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะหารายได้ให้เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าทุกอย่างย่อมมีวันหมดไปเสมอ

 แก๊งนางร้ายพากันมาเดินเที่ยวถนนหลานโหลวกู่เซียง นับตั้งแต่พากันออกมาจากห้างสรรพสินค้าซึ่งแต่ละคนเต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรังมากมายเต็มสองมือไปหมดทั้งสามสาว 

 หวังจิวเซียนและเฉินเสวี่ยม่านส่วนใหญ่จะหมดไปกับเครื่องแต่งกายแบรนด์แนม ในขณะที่ลี่มี่มี่จะหมดไปกับเครื่องสำอางจากแบรนด์ดัง ที่เธอต้องใช้ในการประกอบทำคลิปสอนการแต่งหน้าและการแสดงงิ้ว

 นอกเหนือจากจะมีฝีมือทางการแต่งหน้าได้หลากหลายแล้ว ลี่มี่มี่ยังมีพรสวรรค์ในการวาดรูปได้อย่างน่าอัศจรรย์เธอสามารถวาดภาพทุกอย่างออกมาได้เหมือนจริงราวกับมีชีวิต โดยเฉพาะภาพเหมือนของคน เธอสามารถวาดออกมาราวกับว่าคนที่ตายไปแล้วมีชีวิตและตัวตนขึ้นมาอีกครั้งผ่านภาพวาดดังกล่าวจึงทำให้ลี่มี่มี่มีรายได้จากการวาดภาพที่เสมือนจริงเพิ่มขึ้นอีกด้วย เป็นสาววัยรุ่นที่หาเงินเก่งอย่างหาตัวจบยากและมีพรสวรรค์หลายอย่างในตัวเอง

 “เดินกันมาตั้งนานแล้วพักกินน้ำก่อนเถอะ ร้อนอบอ้าวเป็นบ้าเลยเสี่ยวเซียน เสี่ยวม่าน”ลี่มี่มี่บอกเพื่อนสนิทพลางหยุดเดินพร้อมกวาดสายตามองหาร้านขายน้ำตามสองข้างทาง

 “ก็ดีเหมือนกันไปหาที่นั่งดื่มน้ำหรือกาแฟ และนั่งรับลมเย็นๆ กินบรรยากาศแบบฟินๆ หรือดื่มชาแก้กระหายตามแบบฉบับของคนโบราณก็เข้าท่าดีเหมือนกันนะ ว่าแต่จะไปนั่งร้านไหนดีละที่มีบรรยากาศแบบนั้น”หวังจิวเซียนพูดพลางกวาดสายตามองไปโดยรอบพร้อมใช้ศอกสะกิดเพื่อนสาวทั้งสองของเธอ

 “เสี่ยวม่านเป็นกูรูยอดนักรู้ไม่ใช่เหรอ แถวนี้ถิ่นเธอน่าจะรู้ดีกว่าเพื่อนรู้จักทุกพื้นที่ไปหมด ไม่มีหรอกที่แม่นางคลุกฝุ่นผู้นี้จะไม่ล่วงรู้สิ่งใด”หวังจิวเซียนหยอกเย้าเพื่อนสาว

 “ว่าเข้าไปนั่นฉันก็ไม่ได้รู้จักหรือล่วงรู้ไปทุกเรื่องหรอกนะ”เฉินเสวี่ยม่านบ่นพึมพำพลางกลอกตาไปมามองหาอะไรบางอย่าง

 “มองหาอะไรอยู่เหรอเสี่ยวม่าน”ลี่มี่มี่ถามเพื่อนกลับไปด้วยความสงสัยพลางมองตามไปยังสองข้างทาง

 “กำลังมองหาที่นั่งกินกาแฟไงเล่า จำได้ว่าอาจารย์เคยบอกแถวนี้มีบ้านเก่าแก่ในยุคต้นของราชวงศ์หมิงมาขออนุญาตทำเป็นห้องสมุดสำหรับให้ประชาชนเข้ามานั่งพักผ่อนและอ่านหนังสือได้ด้วยนะ แล้วก็มีเครื่องดื่มหลากหลายให้บริการ แต่ฉันไม่เคยมาสักที เห็นอาจารย์บอกว่าแถบนี้เคยเป็นชุมชนที่รุ่งเรืองมากเลยนะในยุคโบราณ มีเส้นทางเชื่อมต่อกับจวนโบราณของพวกขุนนางคนสำคัญ ที่อยู่นอกเขตพระราชวังต้องห้ามยังมีหลงเหลือให้เห็นบางส่วนแต่จะให้คงสภาพเอาไว้เหมือนในอดีตค่อนข้างมีน้อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเสียเลยทีเดียว”

 ลี่มี่มี่และหวังจิวเซียนต่างพากันพยักหน้าขึ้นลงพร้อมกันพลางช่วยกันมองหา ก่อนจะได้ยินเสียงของเฉินเสวี่ยม่านกรอกเสียงไปตามสายเมื่อเธอยกโทรศัพท์มือถือรับสายปลายทาง

 “ค่ะอาจารย์...ไม่มีปัญหาได้แน่นอนค่ะเดี๋ยวหนูจะพาเพื่อนไปพบอาจารย์จะให้ไปวันไหนดีคะ”พูดพลางหันกลับมามองหน้าเพื่อนรักทั้งสอง หูก็ฟังปากก็พูดไปพร้อมกันก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปเมื่อเห็นสายตาของหวังจิวเซียนบ่งบอกว่าไม่ค่อยจะพอใจ

 “หนูขอถามราคาก่อนนะคะอาจารย์ว่าคิดเท่าไร!”เสียงของเฉินเสวี่ยม่านตอบอีกฝ่ายกลับไปเช่นนั้น ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสาวทั้งสอง

 “ท่าทางจะมีเคสด่วนแน่เลย อะไรกันนานทีจะว่างได้มาเที่ยวด้วยกันแบบนี้ยังจะมีงานเข้ามาอีก”หวังจิวเซียนบ่นออกมาทันทีเมื่อได้ยินการสนทนาของเพื่อนรัก

 “คงแค่สั่งงานไม่มีอะไรหรอกกระมังเสี่ยวเซียน หน้าหงิกไปได้”ลี่มี่มี่เอ่ยปลอบเพื่อน

 “มี่มี่!”เสียงของเฉินเสวี่ยม่านร้องเรียกเพื่อนรักเมื่อวางสายจากอาจารย์

 ฮือ! หญิงสาวส่งเสียงอยู่ในลำคอแทนการขานรับพลางหันกลับมามอง

 “อาจารย์ของฉันมีงานพิเศษอยากให้มี่มี่ไปแต่งหน้าเจ้าสาวให้หน่อย พอดีลูกสาวของอาจารย์เป็นแฟนคลับของเธอชื่นชอบการแต่งหน้าแปลงโฉมจากคนไม่สวยกลายเป็นคนสวยได้ คนที่สวยอยู่แล้วยิ่งแต่งยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก งานแต่งจะมีขึ้นในอีกสิบวันข้างหน้าเธอคิดราคาเท่าไรมี่มี่”เฉินเสวี่ยม่านถามเพื่อนรักกลับไป

 “ชั่วโมงละ 1000 หยวน”ลี่มี่มี่ตอบสวนกลับไปทันทีโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย

 หา! เฉินเสวี่ยม่านอุทานออกมาทันทีก่อนจะใช้มือยกขึ้นลูบใบหน้าสวยเฉี่ยวของเพื่อนสาวไปมา

 “หน้าเลือดเป็นบ้าเลยมี่มี่คิดเป็นชั่วโมงเลยเหรอ ลดอีกหน่อยได้ไหม”เฉินเสวี่ยม่านพยายามเจรจาต่อรอง

 “ปกติฉันคิดชั่วโมง 1500 หยวนนะเสี่ยวม่าน คิดแค่หนึ่งพันหยวนนี่ก็ถูกมากแล้วเพราะเห็นว่าเป็นอาจารย์ของเธอ แต่จะให้ลดลงกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ทำอะไรก็ตามจะต้องได้ค่าเหนื่อย กำไรและค่าเสียเวลาทุกนาทีมีค่าเป็นเงินเป็นทอง อีกอย่างเครื่องสำอางที่นำมาใช้สำหรับแต่งหน้าล้วนอย่างดีนะยะ ฉันไม่ให้เสียชื่อบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังของฉันหรอก ละ...”ลี่มี่มี่กล่าวยังไม่ทันจบสองมือของเพื่อนรักรีบยกขึ้นห้ามพร้อมรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที

 “โอเคมี่มี่ยาวเลยแม่คุณ เดี๋ยวฉันจะช่วยอาจารย์สำรองจ่ายให้เองเกิดอาจารย์สู้ไม่ไหวกับราคาของเธอ เพราะถึงอย่างไรคาดว่าทางฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็อยากให้เจ้าสาวของเขาสวยที่สุดในวันแต่งงานคงไม่เกี่ยงเรื่องราคาหรอกกระมัง”เฉินเสวี่ยม่านบอกเพื่อนของเธอ

 “ตามนั้นเสี่ยวม่าน...ว่าแต่หิวน้ำจริงๆ นะไปหาน้ำกินกันก่อนเถอะ คอแห้งไปหมดแล้วเนี่ย”ลี่มี่มี่บ่น

 “เออไปๆ พอดีเลยเมื่อครู่อาจารย์โทรมาฉันก็เลยถามมาแล้วว่า บ้านที่นำมาทำเป็นห้องสมุดตั้งอยู่ตรงไหน อาจารย์บอกชื่อมาด้วยก็เลยง่ายขึ้นมาเยอะเลย”หญิงสาวพูดพลางยกมือถือขึ้นกดหาจีพีเอสทันที

 “นี่ไงเจอแล้วห้องสมุดอวี้หลันที่นี่แหละ”เฉินเสวี่ยม่านพูดพลางยกมือถือให้เพื่อนสนิททั้งสองของเธอได้เห็น

 “อวี้หลัน!”ลี่มี่มี่พูดออกมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 “ห้องสมุดอวี้หลันเหรอทำไมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย”หวังจิวเซียนถามกลับไปหลังจากยืนฟังอยู่นานก่อนจะหันกลับไปมองลี่มี่มี่ที่อุทานออกมาเมื่อได้ยินชื่อของหอสมุดดังกล่าว

 “มี่มี่เป็นอะไรหรือเปล่าเมื่อกี้ได้ยินเสียงเธอคล้ายตกใจเลยพอได้ยินชื่อของหอสมุดนี้”หวังจิวเซียนหันกลับไปถามเพื่อนรัก

 “จริงสิมีอะไรหรือเปล่ามี่มี่”เฉินเสวี่ยม่านถามขึ้นมาอีกเสียง

ใบหน้างามสุดเฉี่ยวส่ายไปมาติดต่อกันพร้อมเอ่ยขึ้น

 “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่รู้สึกแปลกใจที่ห้องสมุดนั้นตั้งเป็นชื่อดอกไม้ก็เท่านั้นเอง จะไปที่นั่นไม่ใช่เหรอจะรั้งรอกันอยู่ทำไมไปสิ ฉันหิวน้ำจะตายอยู่แล้ว”ลี่มี่มี่บอกเพื่อนๆ ของเธอ 

 หากแต่ลี่มี่มี่กลับไม่บอกจนหมด ด้วยเพราะเมื่อช่วงย่ำรุ่งหญิงสาวฝันเห็นป้ายชื่อขนาดใหญ่ติดไว้เหนือประตูพร้อมเขียนคำว่า ห้องสมุดอวี้หลัน ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือฝันนั้นแท้จริงแล้วคือลางบอกเหตุอะไรบางอย่างกันแน่ก็ไม่อาจรู้ได้

 “โอเค...ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว พวกเราไปนั่งพักหลบลมร้อนกันก่อน สักประมาณหกโมงเย็นค่อยออกไปเดินซื้อของกินที่จะออกมาตั้งขายแล้วค่อยกลับบ้านกันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตระเวนหาซื้อที่อื่นอีก”เฉินเสวี่ยม่านกล่าวพลางก้าวเดินนำหน้า

 “ว่าอย่างไงก็ว่าตามกัน”หวังจิวเซียนพูดพร้อมเดินตามหลังเพื่อนของเธอไปติดๆ ในขณะที่ลี่มี่มี่ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวได้แต่เดินตามเพื่อนสาวของเธอทั้งสองคนไปอย่างเงียบๆ หากแต่ภายในใจกลับเฝ้าครุ่นคิดไปตลอดทางที่ก้าวเ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว   ตอนที่ 46 ความลับของตั๋วแลกเงินจินหมิง 1.6

    และถ้อยคำดังกล่าวทำให้ลี่มี่มี่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น “นอกจากตู้เหมิ่งห้าวแล้วพรรคพวกของมันยังมีเหล่าขุนนางผู้ใดบ้างเจ้าคะที่ร่วมมือด้วย”หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “ซือหม่าฉีและเว่ยชุน รวมไปถึงซือกงกง ขันทีที่ทำตนเป็นนกสองหัว หมาสองรางผู้ใดให้ประโยชน์สูงสุดก็จะอยู่กับคนผู้นั้นไม่เข้าใจเลยว่าเพราะเหตุใดฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจึงไว้วางพระทัยให้คอยรับใช้อย่างใกล้ชิด”ลี่มี่มี่นั่งเอามือเท้าคางพร้อมใช้มือจับปลายคางตัวเองพลางครุ่นคิดตาม “แล้วซือหม่าเยี่ยคังไม่ได้ร่วมมือด้วยอย่างนั้นเหรอเจ้าคะท่านน้า ในเมื่อซือหม่าฉีเป็นพวกเดียวกับตู้เหมิ่งห้าว”หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้อะไรบางอย่าง “ตงฉ่างโหวไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของขุนนางคนใด เพราะเป็นคนมีอุดมการณ์และหนักแน่น ถวายความจงรักภักดีและรับคำสั่งจากฮ่องเต้เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นนอกนั้นอย่าหวังว่าจะชี้นิ้วสั่งได้ และเพราะท่านโหวเป็นแบบนี้ไงตู้เหมิ่งห้าวจึงพยายามที่จะยัดเยียดตู้หรูอี้ให้มาเป็นฮูหยิน พยายามที่จะเข้าครอบงำอำนาจหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพรซึ่งมีสิทธิขาดในการไล่ล่า ไต

  • หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว   ตอนที่ 45 ความลับของตั๋วแลกเงินจินหมิง 1.5

    “นะ..นี่เจ้าคือ...ก็คือคุณหนูสิบหกหลินลี่ชาจริงๆ อย่างนั้นหรอกเหรอ แต่ว่าตระกูลหลินไม่มีผู้ใดรอดชีวิตเลยนะ ผู้คนภายในจวนทั้ง 228 ชีวิตถูกประหารจนหมดสิ้น และคุณหนูสิบหกก็ถูกไฟคลอกตายพร้อมคุณหนูสิบเจ็ดภายในบ่อน้ำ”ฉู่ฉิงเยี่ยนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เด็กสาวตรงหน้าบอกกับนาง “ก็เหมือนที่ท่านเป็นภรรยาลับที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เช่นกัน จึงทำให้รอดชีวิตมาได้ ส่วนข้านั้นที่ผู้คนบอกว่าถูกไฟคลอกตาย สภาพศพจะต้องไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกจนไม่เหลือร่องรอยของข้าอยู่เลยใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นแน่ใจได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วข้านั้นตายจริง” ลี่มี่มี่ตั้งใจให้ตัวของเธอที่กลับชาติมาเกิดใหม่ในยุคอนาคตเข้ามาแทนที่ตัวเองในภพชาติอดีต จึงต้องสร้างสถานการณ์เท็จขึ้น “เป็นจริงหรือนี่! ที่คุณหนูสิบหกยังไม่ตายเหลือเชื่อเสียจริงเหลือเชื่อจริงๆ ”ฉู่ฉิงเยี่ยนกล่าวออกมาอยู่เช่นนั้นก่อนจะเอ่ยถามกลับไป “แล้วนี่เจ้ารอดตายมาได้อย่างไรกัน”เจ้าหอเลี่ยงเฟิ่งถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “ปาฏิหาริย์จากสวรรค์เบื้องบน ซึ่งมันยากที่จะอธิบายให้ผู้ใดเข้าใจได้ แต่ท่านน้าจงเชื่อเถอะว่าข้าคือหล

  • หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว   ตอนที่ 43 ความลับของตั๋วแลกเงินจินหมิง 1.2

    ยามโหย่วณ.หอเลี่ยงเฟิ่ง ร่างสูงระหงเดินไปตามทางที่ทอดยาวมุ่งหน้าไปยังห้องพักของตัวเอง หอเลี่ยงเฟิ่งในเวลานี้มีแต่ความเงียบงันด้วยเป็นช่วงเวลาหยุดพักผ่อนเป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้บรรดาคณะงิ้วได้กลับบ้านไปพักผ่อนกับครอบครัว บางคนที่บ้านเกิดอยู่ไกลและต้องเสียเวลาเดินทางทั้งไปและกลับซึ่งใช้เวลานานก็จะไม่ไปไหน ต่างพากันใช้เวลาว่างไปทำประโยชน์อย่างอื่นที่นอกเหนือจากการนอนหลับเอาแรงจนเต็มที่แล้ว ด้วยเหตุนี้ตามห้องพักของแต่ละคน บางห้องก็มืดมิดเพราะกลับบ้านและบางห้องก็มีแสงสว่างจากโคมไฟซึ่งปรากฏให้เห็นเพียงไม่กี่ห้องอยู่ในขณะนี้รวมไปถึงห้องพักของลี่มี่มี่ด้วยเช่นกันที่ภายในห้องปรากฏแสงสว่างจากโคมไฟกำลังลุกโชนอยู่ในขณะนั้น ลี่มี่มี่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องพักของตัวเองที่เห็นแสงสว่างปรากฏขึ้นอยู่ภายในห้องด้วยความแปลกใจ ดวงตากลมโตคู่งามมองลอดผ่านหน้าต่างที่เปิดแง้มเอาไว้เพียงน้อยนิดและพบว่า ภายในห้องนั้นมีร่างของฉู่ฉิงเยี่ยนกำลังนั่งหันหลังมาทางประตูอยู่ในขณะนั้นอยู่เพียงลำพัง “ท่านน้ารออยู่ในห้องเสียด้วย

  • หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว   ตอนที่ 44 ความลับของตั๋วแลกเงินจินหมิง 1.4

    “อดีตฮ่องเต้ทรงมีเงินในท้องพระคลังหลวงมากมายถึงเพียงนี้เลยเหรอ ถ้าเช่นนั้นจะต้องมีคนบางกลุ่มต้องการเงินมหาศาลก้อนนี้ใช่หรือไม่เจ้าคะ หากข้าเดาไม่ผิด”ลี่มี่มี่เอ่ยขึ้นตามความคาดเดา แต่แล้วกลับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีเพราะโรงแลกเงินจินหมิงตามที่เธอล่วงรู้มาผู้ที่เป็นเจ้าของไม่ใช่ราชสำนักของอดีตฮ่องเต้เจี้ยนเหวิน “ท่านน้ามีบางอย่างที่ข้าสงสัยเกี่ยวกับโรงแลกเงินจินหมิง ไม่รู้ว่าสิ่งที่ข้าล่วงรู้มาเป็นเรื่องจริงหรือว่ามีการบันทึกบิดเบือนไปจากความเป็นจริงที่ถูกต้อง”ลี่มี่มี่เอ่ยถามกลับไป “เจ้าสงสัยสิ่งใดถามมาได้เลย หากข้าล่วงรู้ก็จะตอบเจ้าตามความเป็นจริง”เจ้าพอเลี่ยงเฟิ่งตอบกลับไป ลี่มี่มี่พยักหน้าขึ้นลงครั้นได้ยินเช่นนั้นพร้อมเอ่ยขึ้น “ที่ข้าล่วงรู้มาก็คือเจ้าของโรงแลกเงินจินหมิงคือตระกูลเว่ย แต่ในความเป็นจริงแล้วก็คือตู้เหมิ่งห้าว หัวหน้าสภาขุนนางในราชสำนักของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันไม่ใช่เหรอท่านน้า คำถามของลี่มี่มี่ทำให้ฉู่ฉิงเยี่ยนมองหน้านางเขม็งเพราะความจริงของเรื่องนี้เกี่ยวกับโรงแลกเงินจินหมิงมีเพียงเกาจิ้งหยวนและหลินเ

  • หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว   ตอนที่ 42 ความลับของตั๋วแลกเงินจินหมิง 1.2

    มือของตัวเองเข้าหากันจนแน่น เพื่อไม่ให้บ่าวไพร่ต่างพากันมองนางว่าเป็นสตรีที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ รวมไปถึงบ่าวจากจวนตงฉ่างที่กำลังยืนตัวลีบตัวงอด้วยความตกใจและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่ในขณะนั้น “พูดต่อไป! ข้าบอกให้เจ้าหยุดตั้งแต่เมื่อไรกันเชียว”ตู้หรูอี้พยายามปรับเสียงของนางให้กลับมาเป็นปกติดั่งเดิม “จะ..จะ..เจ้าค่ะ!”บ่าวคนดังกล่าวรับคำเสียงเบาก่อนจะรีบรายงานเหตุการณ์ตามที่นางได้เห็นเต็มสองตา “ท่านโหวไม่มีท่าทีขับไล่นางให้ห่างออกจากกายเลยเจ้าค่ะ มิหนำซ้ำยังให้นางสัมผัสชนิดที่ว่าถึงเนื้อถึงตัวได้เช่นกัน สองมือของนางเฝ้าคอยประคองใบหน้าของท่านโหวอยู่บ่อยครั้งด้วยเจ้าคะ” ตู้หรูอี้ถึงกับสูดลมหายใจเขาปอดด้วยความโกรธและริษยาสตรีที่กำลังกล่าวถึงอย่างยิ่งยวด ในขณะที่ตัวนางเองนั้นจะเข้าใกล้ท่านโหวหนุ่มในรัศมีสิบฉื่อยังไม่สามารถทำได้แม้แต่น้อย ด้วยเพราะตงฉ่างโหวจะทำตัวไม่เคยว่างทุกครั้ง เวลาที่นางไปเยี่ยมฮูหยินฮัวที่จวนผิงอันกั๋วกง ก่อนจะเอ่ยถามกลับไปในสิ่งที่นางต้องการล่วงรู้ “เจ้าล่วงรู้หรือไม่ว่าหญิงผู้นั้นเป็นใครมาจากไหน บุตรีขอ

  • หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว   ตอนที่ 41 ความลับของตั๋วแลกเงินจินหมิง 1.1

    จวนสกุลตู้ เรือนส่วนตัวของคุณหนูคนงามตู้หรูอี้ ถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหราเต็มไปด้วยความประณีตและงดงามวิจิตรยิ่งนัก เทียบเท่ากับตำหนักในพระราชวังหลวงก็ว่าได้ ทุกอย่างต้องดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือน อาภรณ์ที่สวมใส่และเครื่องประดับอันมีค่า ตู้เหมิ่งห้าวเลือกเฟ้นมาประเคนให้แก่บุตรสาวคนโปรดชนิดที่ว่านางอยากได้อะไรไม่มีคำว่าไม่ได้แต่อย่างใดในชีวิตของนาง “เจ้าว่าอะไรนะ!”เสียงแหลมสูงของคุณหนูคนสวยดังแทรกขึ้นมาทันที ภายในเรือนนอนส่วนตัว เมื่อบ่าวที่นางใช้เงินซื้อข่าวเพื่อให้รายงานความเคลื่อนไหวทุกอย่างของตงฉ่างโหว หลังจากที่ได้รับพระราชทานจวนพำนักมาจากองค์จักรพรรดิแยกมาอยู่ต่างหาก จากจวนของสกุลซือหม่าหรือที่รู้จักกันดีนั่นก็คือคือจวนผิงอันกั๋วกง ซึ่งเป็นลุงแท้ๆ ของตงฉ่างโหวหรือซือหม่าเยี่ยคังนั่นเอง ซึ่งเดิมทีมีคนของตู้หรูอี้คอยส่งข่าวภายในจวนดังกล่าวมาให้นางล่วงรู้อยู่ทุกวี่วันเป็นประจำ ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไรตลอดจนถึงเรื่องของฮูหยินฮัว ท่านแม่ของตงฉ่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status