/ รักโบราณ / หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน / ตอนที่ 3 - 1 นางจากไปแล้วจริงๆ

공유

ตอนที่ 3 - 1 นางจากไปแล้วจริงๆ

last update 최신 업데이트: 2025-05-03 11:54:38

กู้อี้เห็นท่านหัวหน้าเศร้าโศกเสียใจ ก็พลอยรู้สึกเสียใจไปด้วย ครั้นมองไปยังสตรีที่ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ซึ่งนั่งอยู่หน้าประตูของห้องโถง ก็รู้สึกเห็นใจ เขาเดินเข้าไปหานาง

“กินข้าวบ้างหรือยัง” จิ่งอี๋เงยหน้าขึ้นมองตามเสียง

“พี่อี้…" นางขานชื่อเขาพลางส่ายหน้าไปมา

“ข้ากินไม่ลงเจ้าค่ะ” กู้อี้ยื่นขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาให้แก่นาง จิ่งอี๋ลังเล แม้ท้องจะหิว แต่นางก็ไม่อยากกิน นางเบือนหน้าเข้าไปภายในโถงพิธี น้ำตาที่เหือดแห้งไปก่อนหน้า ก็ไหลลงมาอีกครา เสียงสะอื้นดังขึ้น ทำให้กู้อี้ตกใจจนต้องโน้มกายเข้าไปโอบกอดนางเอาไว้

“อย่าเสียใจไปเลย เจ้ายังต้องอยู่คอยดูแลคุณชายน้อยให้ดี อย่าทำให้ฮูหยินน้อยของเจ้าผิดหวัง” จิ่งอี๋หลงลืมข้อห้ามระหว่างชายหญิง ยกแขนสองข้างกอดเขาตอบ แล้วปลดปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจออกมา

แม่นมซิ่วมองเห็นการกระทำน่าอับอายของบุตรสาวอยู่ไกลๆ ทว่าวันนี้นางกลับไม่อยากลงโทษจิ่งอี๋ อาจจะเป็นเพราะยามที่คุณหนูยังมีชีวิตอยู่นั้น นางคอยปกป้องจิ่งอี๋มาโดยตลอด หากวันนี้นางลงโทษจิ่งอี๋ คุณหนูที่กำลังมองมาจากที่ไหนสักแห่ง จะต้องไม่พอใจนางเป็นแน่ แม่นมซิ่วเบือนสายตา แล้วหันไปจัดการเรื่องราวต่างๆ แทนฮูหยินใหญ่ทันที

วันต่อมาขบวนแห่ศพของฮูหยินน้อยสกุลหลัว ก็ถูกเคลื่อนไปยังสุสานของตระกูลที่อยู่บนเนินเขา ด้านหน้ามีแม่น้ำไหลผ่าน นับว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดี สถานที่แห่งนี้ หลัวอี้เฉินได้รับพระราชทานมาจากฮ่องเต้ เพราะทำความดีความชอบปราบปรามพวกกบฏชายแดนเมื่อปีก่อน หลังจากทำการย้ายบรรพบุรุษตระกูลหลัว มาอยู่ยังสถานที่แห่งนี้แล้ว เขาก็ไม่คิดว่า จะมีวันหนึ่ง ที่ได้นำร่างของภรรยามาฝังเป็นคนต่อไป

“ท่านนักพรต ขอท่านโปรดชี้แนะด้วยเถิด ว่าจุดใดที่เหมาะแก่การฝังร่างลูกสะใภ้ของข้า” นายท่านหลัวเชิญท่านนักพรตมาจากอารามหลัวเซิง ตามคำแนะนำของท่านเจ้าสำนักคุ้มภัยต้าฟง

หลังจากท่านนักพรตชี้แนะฮวงจุ้ย สำหรับฝังศพของหลูชิงเหลียนแล้ว นายท่านหลัวจึงสั่งให้คนลงมือขุดหลุม ท่านนักพรตท่องบทสวดจินกวง และบทสวดต่างๆ เพื่อส่งวิญญาณของผู้ล่วงลับ ให้ไปเกิดใหม่

หลัวอี้เฉินมองโลงที่บรรจุร่างของภรรยา กำลังถูกคนช่วยกันยกลงไปในหลุม เขาออกปากห้าม แล้วถลาเข้าไป นายท่านหลัวร้องห้ามเขา กู้อี้เข้าไปดึงรั้งร่างหนาของท่านใต้เท้าเอาไว้ หลัวอี้เฉินร้องไห้ออกมา มองโลงถูกฝังลงดิน หัวใจปวดร้าวเกินจะห้ามได้

หลังจากที่พิธีฝังร่างของฮูหยินน้อยสกุลหลัวเสร็จสิ้น ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ที่สุสานจึงเหลือเพียงหลัวอี้เฉินเท่านั้น ที่ยังคงนั่งอยู่หน้าหลุมศพของภรรยา เขานำเหล้ามารินให้นางหนึ่งจอก และตนเองหนึ่งจอก

“ชาตินี้วาสนาของพวกเราช่างตื้นเขินนัก หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เจ้ากลับมาครองคู่กับพี่ อีกครั้งได้หรือไม่” กล่าวจบเขาก็ยกจอกเหล้าขึ้นมากระดก มือหนาที่สั่นเทา ยื่นไปลูบลงบนรอยแกะสลักชื่อของภรรยา

ณ เมืองถง

เสียงท่องตำราดังขึ้นมาจากเรือนหลังใหญ่ ภายในสำนักศึกษาสกุลหลี่ หลี่ต้าถง อดีตบัณฑิตทั่นฮวา ที่ลาออก จากราชสำนัก แล้วกลับมาเปิดสำนักศึกษาอยู่ในเมืองถง ซึ่งเป็นบ้านเดิมของสกุลหลี่

สกุลหลี่เป็นตระกูลบัณฑิต มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ทำหน้าที่รับใช้ฮ่องเต้มาหลายสมัย ทว่าพอมาถึงรุ่นของหลี่ต้าถง เขากลับเลือกที่จะถอนตัวออกมา จากวังวนทางการเมือง โดยให้เหตุผลว่า

อยากจะสร้างรากฐานให้แก่ราชสำนัก โดยการปั้นลูกศิษย์ให้มีความสามารถ เพื่อสอบเป็นขุนนางรับใช้ราชสำนักต่อไป แม้ฮ่องเต้จะเอ่ยปากรั้งเขาไม่รู้จักกี่ครั้งกี่หน เขาก็ไม่ยอมใจอ่อน สุดท้ายฮ่องเต้จึงต้องยอมปล่อยให้เขาลาออก

“ท่านอาจารย์หลี่ขอรับ นั่นใช่คุณหนูในจวนท่านหรือไม่” ศิษย์วัยสิบสี่ปีร้องถามท่านอาจารย์หลี่ออกมา

หลังจากที่สายตาของเขาเหลือบมองไป เห็นว่ามีเด็กหญิง น่าจะวัยประมาณสิบสามสิบสี่ปี กำลังวิ่งไล่จับผีเสื้ออยู่ หลี่ต้าถงมองตามสายตาของลูกศิษย์ไป ก็เห็นว่าอีกฝ่ายคือบุตรีคนหนึ่งของตน ที่เกิดจากภรรยารอง ทว่าเด็กคนนั้นเป็นเด็กที่ไม่น่านำมาพูดคุยโอ้อวดอันใด

นอกจากเกิดมามีใบหน้าที่งดงามแล้ว นอกนั้นก็ไม่มีอันใดให้น่ากล่าวถึงอีก เป็นเพราะเด็กคนนั้นคลอดก่อนกำหนด ทำให้เป็นเด็กที่โง่เขลา เรียนรู้สิ่งใดไม่ได้เรื่องสักอย่าง วันๆ เอาแต่วิ่งเล่นสนุกสนาน ไปเหมือนกับเด็กเล็กๆ เท่านั้น

“เฉินจง เจ้าไปบอกให้อี้เหลียนพาคุณหนูสามกลับเรือนที” เขาหันไปสั่งบ่าวรับใช้คนสนิท

บุรุษที่มีนามว่าเฉินจงคำนับรับคำสั่ง แล้วถอยออกไป เขาเดินไปบอกกับอี้เหลียน ให้พาคุณหนูสามกลับเรือนตามคำสั่งของนายท่าน อี้เหลียนจึงรีบชักชวนคุณหนูผู้น่าสงสาร กลับไปเล่นที่สวนดอกไม้ข้างเรือนที่อยู่เกือบด้านในสุดของจวนทันที

ทว่าระหว่างทางที่อี้เหลียนพาคุณหนูสามกลับเรือน กลับได้พบคุณหนูรอง บุตรสาวของอนุฉินที่กำลังตกปลาอยู่ อีกฝ่ายชักชวนคุณหนูสามให้อยู่เล่นด้วยกัน ก่อนที่จะใช้ให้อี้เหลียนออกไปนำขนม และน้ำชากับสาวรับใช้คนสนิทของตน

คราแรกอี้เหลียนก็ไม่อยากทิ้งคุณหนูสาม ให้อยู่กับคุณหนูรองตามลำพัง ทว่านางก็ไม่อาจขัดคำสั่งของอีกฝ่ายที่เป็นเจ้านายอีกคนได้ นางจึงจำใจต้องจากไป

แต่ก่อนจะตามสาวรับใช้ของคุณหนูรองไป นางก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยกำชับคุณหนูสาม ว่าห้ามเข้าไปใกล้สระน้ำเป็นอันขาด เด็กหญิงที่สติปัญญาไม่ดีย่อมรับคำ ทว่าจะทำตามหรือไม่ก็อีกเรื่อง

หลังจากที่อี้เหลียนจากไป หลี่ชิงหรงก็มองหลี่ชิงเหมียวด้วยแววตาขบขัน มีน้องสาวเช่นนี้ช่างน่าอับอาย หากคนนอกรู้เข้า นางที่ยังไม่ได้ออกเรือน คงจะยากแล้ว เพราะอารมณ์ชั่ววูบทำให้ด้านมืดครอบครองจิตใจ

หลี่ชิงหรงชักชวนหลี่ชิงเหมียว ให้เดินมาหยุดอยู่ริมสระ มอบคันเบ็ดให้อีกฝ่าย หลี่ชิงเหมียวนึกว่าพี่หญิงรองชวนนางเล่นสนุกจึงรับมา หลี่ชิงหรงแสร้งสอนท่าทางการตกเบ็ดให้แก่หลี่ชิงเหมียว ทว่าอีกฝ่ายกลับได้เล่นสนุกอยู่ไม่นาน ก็ถูกฝ่ามือของคนที่นางเชื่อใจ ผลักลงไปในสระน้ำ

หลี่ชิงหรงยืนมองน้องสาวต่างมารดา ตะเกียกตะกายอยู่ภายในสระ ด้วยแววตาเยือกเย็น นางเหลียวมองไปรอบๆ ครั้นเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณนี้ นางจึงฉีกยิ้มพลางพึมพำออกมา

“จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออันใด ในเมื่ออยู่ไป เจ้าก็เป็นแค่เพียง สิ่งแปลกปลอมของตระกูลหลี่” นางยืนยิ้มอยู่ได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงสาวรับใช้พูดคุยกันใกล้เข้ามา นางจึงแสร้งร้องไห้แล้วตะโกนขึ้น

“ช่วยด้วย ผู้ใดอยู่แถวนี้ ช่วยน้องสามของข้าที นางจมน้ำไปแล้ว” นางมองไปยังร่างที่จมลงไปในสระด้วยแววตาเยือกเย็น มุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อย อี้เหลียนครั้นได้ยินเสียงของคุณหนูรองร้องดังขึ้นมา นางก็รับยัดจานขนมให้สาวรับใช้ของคุณหนูรอง แล้ววิ่งไปยังสระน้ำทันที

“เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะ คุณหนูรอง แล้วคุณหนูของบ่าวเล่า คุณหนูของบ่าวอยู่ที่ใด” อี้เหลียนถามหลี่ชิงหรงออกมาด้วยความร้อนใจ มองตามสายตาและนิ้วที่ชี้ไปในสระน้ำ ร่างของนางก็สั่นระริก ก่อนที่จะกระโดดลงสระไปอย่างไม่คิดชีวิต

อี้เหลียนว่ายน้ำเก่ง ไม่นานนัก นางก็งมร่างของคุณหนูสามขึ้นมาจากใต้สระได้สำเร็จ ผู้ที่ได้ยินเสียงร้องตะโกนของหลี่ชิงหรง ต่างก็พากันวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ หลี่ต้าถงกับเฉินจงก็เช่นกัน ครั้นได้รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น ก็รีบให้คนออกไปตามท่านหมอมาทันที

หลี่ต้าหลุน ผู้เป็นพี่ชายมารดาเดียวกันกับหลี่ชิงเหมียว วิ่งเข้ามาหาร่างเล็กของน้องสาว ทำการช่วยเหลือนางเบื้องต้น แล้วจึงอุ้มนางวิ่งกลับไปยังเรือนรับรองทันที การกระทำของเขาว่องไว จนทำให้คนมองไม่ทัน หลี่ต้าถงผู้เป็นบิดารู้สึกละอายใจ และอับอายไม่น้อย สั่งให้บรรดาลูกศิษย์ที่มายืนชมเหตุการณ์ แยกย้ายกันกลับไปเรียน

ไม่นานนักเรือนรับรอง ก็เต็มไปด้วยผู้คนของตระกูลหลี่ ท่านหมออู๋เดินทางมาถึง ก็รีบเข้าไปจับชีพจรของคุณหนูผู้น่าสงสาร คราแรกเขาคิดว่านางสิ้นใจไปแล้ว เพราะชีพจรหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว แต่ในขณะที่เขากำลังจะรายงานให้นายท่านหลี่ทราบ เด็กหญิงที่ไร้ชีพจรกลับฟื้นขึ้นมา นางส่งเสียงไอพร้อมกับสำลักน้ำ เขาจึงต้องรีบกลับไปตรวจอาการนางอีกครา

“เรียนนายท่านหลี่ หลี่ฮูหยิน คุณหนูสามปลอดภัยแล้วขอรับ”

เขาหันกลับมารายงานนายท่านหลี่ด้วยใบหน้าที่โล่งใจ แม้จะรู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าก็ตามที ครั้นทุกคนได้ยินว่าหลี่ชิงเหมียวปลอดภัยแล้วก็พากันถอนหายใจออกมา

มีเพียงหลี่ชิงหรงเท่านั้น ที่รู้สึกใจคอไม่ดี และรู้สึกร้อนตัวอยู่ไม่น้อย นางมองไปยังร่างเล็กของน้องสาวด้วยความรู้สึกริษยา นางอยากให้หลี่ชิงเหมียวตาย ยังยากเย็นถึงเพียงนี้ ก็ได้แต่หวังว่า หากหลี่ชิงเหมียวฟื้นมาแล้ว จะยังคงเป็นเด็กที่โง่เขลาเช่นเดิม หากเป็นเช่นนั้นแล้ว นางก็ยังจะมีโอกาสในการจัดการน้องสาวที่เป็นสิ่งแปลกปลอมของตระกูลอีกหน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ ผลตอบแทนของการเป็นคนดี (จบ)

    หลัวอี้เฉินและหลี่ชิงเหมียว ยังคงอาศัยอยู่ในเรือนเดิม ถึงแม้ยามนี้หลัวอี้เฉิน จะกลายมาเป็นผู้นำตระกูลอย่างเต็มตัว และหลี่ชิงเหมียวก็เป็นฮูหยินใหญ่ ทำหน้าที่ดูแลทุกเรื่องในเรือนหลัง ทว่านางกลับชอบเรือนหนิงอันมากกว่าเรือนใหญ่ ที่พ่อแม่สามีอาศัยอยู่ เพราะนางอยู่ที่เรือนหนิงอันแล้วรู้สึกว่าจิตใจสงบสุขหลี่ชิงเหมียวเดินกลับไปยังเรือนหนิงอัน ทุกย่างก้าวของนางได้พบกับบ่าวรับใช้ ที่มีมากขึ้นไปจากเดิม เพราะตระกูลหลัวขยับขยาย ทำให้หลัวอี้เฉินซื้อบ่าวรับใช้มาเพิ่ม อย่างเช่นสาวรับใช้ข้างกายนางสองคน ก็ซื้อมาใหม่ยามที่หลัวลี่เซียนเพิ่งจะอายุได้สองปี“ท่านแม่...” หลัวลี่เซียนวัยแปดปี ส่งเสียงเรียกขานมารดา ขณะที่นางกำลังเดินจูงมือน้องชายวัยสองปีมาด้วยกัน หลัวอี้ซ่งก้าวเดินอย่างมั่นคง ก่อนจะปล่อยมือของพี่สาว แล้ววิ่งเข้าไปหามารดา หลี่ชิงเหมียวย่อกายลงโอบกอดเขาเอาไว้“ท่านแม่....อุ้ม...” เด็กน้อยบอกมารดานัยน์ตาทอประกายออดอ้อน หลัวลี่เซียนอยากจะเอ่ยปากห้ามน้องชาย ทว่ามารดากลับอุ้มเขาขึ้นจากพื้นแล้ว“ฮูหยิน...” แม่นมซิ่วและบรรดาสาวรับใช้ร้องอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ถึงแม้ทารกในครรภ์ของฮูหยินจะมั่นค

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ ผลตอบแทนของการเป็นคนดี

    เสียงหัวเราะของเด็กน้อย ทำให้หัวใจของผู้ใหญ่ รู้สึกผ่อนคลาย นัยน์ตาคมทอดมองไปยังบุตรสาวคนโต และบุตรชายคนเล็ก ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกัน ภายในลานกว้างของจวนผ่านมาสองปีหลัวลี่เซียน บุตรสาวของเขานั้นเติบโตขึ้นมาก จนสามารถดูแลน้องชายวัยสองปีได้แล้ว ส่วนบุตรชายคนโตวัยสิบหกปี ก็ได้สอบผ่านเป็นซิ่วไฉอย่างที่ตั้งใจ และกำลังเตรียมตัวลงสนามสอบต่อไป“เหมียวเอ๋อร์... พี่คิดว่าพวกเราควรจะมีน้องสาว ให้พวกเขาอีกสักคนเถิด” จู่ ๆ หลัวอี้เฉินก็กล่าวออกมา หลังจากที่ทอดสายตา มองไปยังลูกทั้งสองอยู่เนิ่นนานทว่าคำชวนของสามี ทำให้หลี่ชิงเหมียวที่เพิ่งดื่มชาลงไป เกิดอาการสำลักขึ้นมา นางไม่ได้หวาดกลัวในการตั้งครรภ์ หรือการให้กำเนิด แต่นางกลับรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับอาการแพ้ท้องต่างหาก และไม่รู้ว่าหากมีอีกคนแล้ว นางจะเป็นบุตรีอย่างที่พวกตนตั้งใจหรือไม่แม่นมซิ่วส่งสายตาให้แก่อี้เหลียน และสาวรับใช้รอบกาย จนทุกคนถอยออกไปจากบริเวณนี้อย่างรู้ความ ปล่อยให้นายท่านกับนายหญิง ได้พูดคุยกันถึงเรื่องใกล้ชิดส่วนตัวตามลำพัง“ท่านพี่... แล้วท่านจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าถ้าหากพวกเรามีลูกอีกคน แล้วจะเป็นบุตรี หากข้าให้กำเนิดบุตรชา

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ เจตนาของสวรรค์...คือการทำความดี 1

    “นายท่าน... คุณชายใหญ่ ฮูหยินให้บ่าวมาเชิญพวกท่าน กลับไปกินมื้อเช้ากันได้แล้วเจ้าค่ะ วันนี้ฮูหยิน ท่านจะออกไปคำนับท่านปรมาจารย์ ที่อารามหลัวเซิง” สาวรับใช้เข้ามาเชิญเจ้านายทั้งสองตามคำสั่งของนายหญิง“ไปอารามหรือ... ข้าก็อยากจะไปด้วย” หลัวอี้เฉินเอ่ย ก่อนที่จะสั่งลูกน้อง แล้วชวนบุตรชายกลับจวน“พวกเจ้าแยกย้ายกันเถิด เจ๋อเอ๋อร์...พวกเราก็รีบกลับจวนไปกินมื้อเช้ากับท่านแม่และน้องสาวของเจ้ากัน”“ขอรับท่านหัวหน้า” บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชารับคำ“ขอรับท่านพ่อ...” หลัวอี้เจ๋อรับคำบิดาเช่นกัน สองพ่อลูกรีบพากันกลับจวนอย่างไม่รีรอ การปล่อยให้สตรีรอนาน ไม่ใช่สิ่งที่บุรุษพึงกระทำกู้จงกับกู้อี้ก็เอ่ยลาบรรดาสหายร่วมงานเช่นกัน เพราะพวกเขาต่างก็มีคนของตน รอกินมื้อเช้าพร้อมพวกเขาอยู่ที่เรือนบุรุษที่เหลือจึงพากันแยกย้าย พลางคิดในใจว่า การมีครอบครัวมันดีเพียงนี้เชียวหรือ ท่านหัวหน้าแต่ละคน ถึงได้ดูกระตือรือร้นเพียงนี้รถม้าของจวนตระกูลหลัว มุ่งหน้าออกจากจวนในยามซื่อ ยามนี้ครรภ์ของหลี่ชิงเหมียวมั่นคงแล้ว จึงทำให้การเดินทางระยะใกล้ไม่ลำบากมากนัก ไม่นานนักรถม้าของตระกูลหลัวก็มาถึงอารามหลัวเซิง ทว่าหลี่ชิงเหมี

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ เจตนาของสวรรค์...คือการทำความดี

    หลี่ชิงเหมียวตั้งครรภ์ลูกคนที่สองของชาติภพนี้ หลังจากที่บุตรสาวคนโต มีอายุได้เพียงห้าปี ทว่านี่ก็นับว่านานมากพอ กว่าที่นางจะสามารถก้าวข้าม ความหวาดกลัว ที่เคยอยู่ภายในใจนางยอมหยุดยาสมุนไพร เพื่อที่จะปล่อยให้ตนเองตั้งครรภ์ ทว่าก็ใช้เวลานานนับหนึ่งปี กว่าที่เด็กคนนี้ จะมาเกิดกับตน“นี่ข้ากำลังจะมีลูกอีกคนแล้วจริง ๆ หรือ”ท่านหมอหลินกลับไปแล้ว ทว่าหลัวอี้เฉินยังคงตกอยู่ในภวังค์ เขาเฝ้าถามตนเองซ้ำๆ ว่าเขากำลังจะมีลูกอีกคนจริงๆ หรือ หลี่ชิงเหมียว แม่นมซิ่ว และอี้เหลียน มองไปยังชายหนุ่มด้วยแววตาขบขัน“นายท่านไม่ต้องประหลาดใจไปหรอกเจ้าค่ะ เป็นเพราะฮูหยินของพวกเรา หยุดดื่มยาสมุนไพรป้องกันการตั้งครรภ์ และดื่มยาสมุนไพรบำรุง เพื่อเตรียมการตั้งครรภ์มานานนับปีแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมซิ่วไขข้อข้องใจ ให้แก่นายท่านที่กำลังแสดงสีหน้าสับสนงุนงง กับเรื่องการตั้งครรภ์ของนายหญิง“จริงหรือ” หลัวอี้เฉินถามภรรยา นัยน์ตาคมมองไปยังนางเป็นประกายทว่าเขากลับยังคงไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะก่อนหน้านี้ นางบอกว่ารู้สึกเหม็นกลิ่นกายของเขา ถึงได้อาเจียนออกมา ยามนี้เขายังไม่ได้อาบน้ำ จึงยังไม่กล้าเข้าไปใกล้นาง“จริงเจ้าค่ะ” หล

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ อย่าหวาดกลัวที่ต้องเผชิญหน้า 1

    หลี่ชิงเหมียวนั่งอยู่ในศาลาพักผ่อนกับบุตรสาว ที่เอาแต่ร้องตะโกนให้กำลังใจพี่ชายก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา“เซียนเอ๋อร์... เจ้าเองก็อยากลองขี่ม้าใช่หรือไม่” หลัวลี่เซียนหันขวับเดินเข้าไปออดอ้อนมารดา“เจ้าค่ะท่านแม่...”“ยามนี้เจ้ายังเยาว์วัยนัก ร่างกายก็ยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ไม่อาจควบคุมอาชาตัวโตเช่นนั้นได้” สิ้นคำกล่าวของมารดา หลัวลี่เซียนก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาทว่าก่อนที่จะนางจะแสร้งหลั่งน้ำตาขอความเห็นใจจากมารดาออกมา หลี่ชิงเหมียวก็แอบโบกมือให้บ่าวในสนามบ่าวผู้นั้นจูงอาชาตัวเล็กสีนิลเข้ามา หลัวลี่เซียนมองไปยังอาชาตัวน้อย ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองมารดานัยน์ตาเป็นประกาย หลี่ชิงเหมียวแสร้งยกชาขึ้นมาจิบ“ท่านแม่... ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้ารักท่านแม่ที่สุด”หลัวลี่เซียนโผเข้าไปกอดมารดา พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน นางหอมแก้มของมารดาซ้ายทีขวาทีอย่างเอาใจ หลี่ชิงเหมียวรู้สึกใจอ่อนยวบ สุดท้ายแล้ว นางก็ต้องพ่ายแพ้ให้บุตรสาวขี้อ้อนผู้นี้อยู่ร่ำไปหลัวอี้เฉินกับหลัวอี้เจ๋อ สองพ่อลูกที่สังเกตเห็นนางฟ้าตัวน้อย กำลังจะขึ้นอาชา ต่างก็รีบควบอาชากลับมา หลัวอี้เจ๋อเสนอตัวดูแลน้องสาวเอง เพราะอาชาที่หลัวลี

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ อย่าหวาดกลัวที่ต้องเผชิญหน้า

    หลังจากที่หลี่ชิงเหมียวให้กำเนิดหลัวลี่เซียนได้ห้าปี เด็กหญิงก็เริ่มเดินตามรอยเท้าของบิดามารดา แม้เกิดเป็นหญิง แต่ผู้ใดกันที่บอกว่าสตรีอ่อนแอ แล้วนางจะต้องอ่อนแอ นางเองก็มีคนที่อยากจะปกป้องเช่นกัน“คุณหนูหลัว... ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะ ว่าอยากจะฝึกวรยุทธ์จริงๆ” สตรีที่ดูมีความรู้ตรงหน้าเอ่ยถามลูกศิษย์ตัวน้อยออกมาด้วยความตกใจอาจารย์อี้ นางเป็นอาจารย์ที่หลี่ชิงเหมียว เชิญให้มาสอนบุตรีที่จวน โดยอาจารย์อี้ ได้จัดตารางการเรียนให้เด็กหญิงได้เรียนรู้ตัวอักษร และการฝึกคัดอักษรหลายวันที่ผ่านมาคุณหนูหลัวก็ดูตื่นเต้นดี ทว่าพอเวลาผ่านไปได้สิบวัน คุณหนูน้อยกลับกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ ว่าสิ่งที่อาจารย์เช่นนางสอนมานั้น นางรู้ทั้งหมดแล้ว เป็นท่านแม่ของนาง ที่เคยจับมือสอนนาง ให้เขียนพู่กัน ในยามที่นางยังวัยเพียงแค่สี่ขวบอาจารย์อี้ไม่อยากจะเชื่อ ในคำพูดของเด็กวัยห้าขวบ นางจึงได้ทำการทดสอบเด็กน้อย ทว่าคุณหนูหลัว ราวกับเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก นางสามารถเรียนรู้สิ่งใดได้อย่างรวดเร็ว จะเรียกได้ว่า รู้ความไวกว่าเด็กวัยเดียวกันก็ไม่ผิดและการที่นางได้พบกับอัจฉริยะตัวน้อยเช่นนี้ ทำให้อาจารย์อี้ รู้สึ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status