“ฉันลืมปิดแอร์เหรอ”
เสียงหวานใสพึมพำเมื่อหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วพบว่าแอร์กำลังเปิดอยู่ ก่อนที่มือเล็กจะกดสวิตช์ไฟให้มีแสงสว่าง เพราะก่อนออกจากห้องเธอจะปิดม่านมิดชิดทุกครั้ง
“ว้ายยยย คุณเข้ามาได้ยังไง” ศลิษาร้องวี้ดอย่างตกใจ เมื่อเห็นรางสูงใหญ่ที่คุ้นตานั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง
“ใครมาส่ง” เสียงห้าวทุ้มถามกลับอย่างไม่สนใจตอบคำถาม
“เพื่อน คุณเข้ามาได้ยังไง นี่มันบุกรุกนะ” หญิงสาวตอบเขาอย่างจำใจก่อนที่จะเริ่มโวยวาย
“อย่าให้มันมายุ่งกับเธออีก”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย คุณเข้ามาทำอะไร ออกไปจากห้องฉัน”
ศลิษายังมีอาการตกใจ เธอยืนอยู่หน้าประตูไม่ยอมขยับออกห่างจากตรงนั้น ‘ผู้ชายคนนั้น’ หญิงสาวจำได้ว่าเขาคือคนที่เรียกเธอเข้าไปในห้องทำงาน ‘เขา’ที่เป็นเจ้าของผับ และเป็นคนที่สั่งให้ลูกน้องมาส่งเธอเมื่อคืน มันไม่น่าแปลกใจเลยหากเขาจะรู้ว่าเธออยู่ห้องไหน หากเขามีอำนาจเงินมากพอ
เฟรเดอริคไม่สนใจหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินช้าๆ แต่หนักแน่นทุกย่างก้าว ตรงไปยังร่างบอบบางที่ยืนทำหน้าตื่นอยู่ที่ประตู คว้าเอาท่อนแขนกลมกลึงดึงเข้ามาประชิดตัวเต็มแรงจนเจ้าของร่างแทบปลิว
“ฉันสั่งให้เธอตอบ ไม่ใช่ให้มาย้อนถามฉัน”
“อึก เจ็บ ปล่อยฉัน!!” ศลิษาเจ็บแขนจนนิ่วหน้า แรงที่เขาจับแขนเธอมันไม่ใช่น้อยๆ
“ตอบ”
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่ใช่เวลางานนะ คุณเป็นเจ้านายแค่ในเวลางาน ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องส่วนตัว” หญิงสาวโวยวายใส่เขาอย่างไม่ยอม หากเป็นในเวลางาน การที่เขาจะสั่งอะไรเธอที่เกี่ยวกับเรื่องงานเธอจะไม่เถียงเลย แต่นี่เวลาส่วนตัว เรื่องส่วนตัว มันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะมีสิทธิ์มายุ่ง
“อีกไม่นานก็มีสิทธิ์”
“หมายความว่ายังไง?”
ยังไม่ทันที่ศลิษาจะได้รู้สึกตัว เธอก็ลอยเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวดิ้นอย่างไม่ยอม เธอไม่เข้าใจว่าเขามายุ่งกับเธอทำไมทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเสียด้วยซ้ำ
“ไปผับ”
เฟรเดอริคสั่งลูกน้องเมื่อลงมาถึงข้างล่าง โดยมีอเล็กซ์รอเปิดประตูอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นว่าเจ้านายมาก็รีบเปิดประตูให้แล้วปิดประตูลงเมื่อเจ้านายโยนหญิงสาวและตามด้วยตัวเขาเองก้าวขึ้นรถไป อเล็กซ์รีบขึ้นรถประจำตำแหน่งคนขับแล้วเคลื่อนรถออกทันที
“คุณจะบ้าหรือไงเนี่ย ฉันไม่ได้รู้จักคุณเป็นการส่วนตัวนะ เป็นบ้าอะไรมาบุกรุกห้องฉัน ลากฉันไปไหนมาไหนแบบนี้” ศลิษาโวยวายด้วยความโมโห
เขาไม่พูดอะไร ปล่อยให้หญิงสาวโวยวายอยู่แบบนั้น จนลูกน้องคนสนิทแปลกใจ เพราะปกติแล้วเฟรเดอริคชอบความเงียบ เขาเกลียดเสียงแหลมเป็นชีวิตจิตใจ แต่นี่ผู้เป็นเจ้านายกลับนิ่งเฉยจนเขาทั้งกลัวทั้งแปลกใจ
“นั่งอยู่เฉยๆ ห้ามก้าวออกไปจากห้องนี้” ชายหนุ่มสั่งก่อนที่จะไปหย่อนตัวนั่งลงที่โต๊ะทำงาน
เมื่อมาถึงที่ผับ ศลิษาถูกเขาลากขึ้นไปยังห้องทำงาน และสั่งให้เธอนั่งอยู่แบบนั้นจนหญิงสาวเกือบจะร้องกรี๊ดขึ้นมา ถ้าหากไม่ได้สบตากับอเล็กซ์แล้วเขาส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงห้าม
“เป็นบ้าเหรอ” ศลิษากัดฟัน พยายามข่มอารมณ์ตัวเอง
“อเล็กซ์ ลงไปบอกธาวินว่าวันนี้ศลิษาอยู่ข้างบน สั่งให้คนเอาอาหารกับเครื่องดื่มขึ้นมาให้ด้วย”
“ครับนาย”
อเล็กซ์เดินออกจากไปพลางส่งสายตาปรามไม่ให้ศลิษาพูดอะไร เขาเองก็อยู่กับเฟรเดอริคมานาน แต่ก็ยังไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้
ชายหนุ่มรอจนลูกน้องออกไปจากห้องทำงานก็หันมาสนใจงานตรงหน้า จัดการเพียงไม่นานทุกอย่างก็เสร็จ ร่างสูงใหญ่ลุกออกจากเก้าอี้มาหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาสีดำตัวใหญ่ที่นี่หญิงสาวนั่งหน้างออยู่
“ศลิษา”
“.....”
“สนใจมาเป็นเด็กของฉันไหม”
“.....จะบ้าเหรอ ฉันมาทำงาน ไม่ได้มาขายตัว” หญิงสาวโวยวายหลังจากหายอึ้ง
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเธอขายตัว ฉันถูกใจเธอ ฉันไม่เคยเสนอให้ใครมาเป็นเด็กของฉัน” เฟรเดอริคบอกหญิงสาวอย่างตรงไปตรงมา เธอคือคนแรกที่เขาเสนอให้มาเป็นคนของเขา ปกติแล้วเขาจะกินเป็นครั้งคราว จ่ายเงินแล้วก็จบ
“ไม่”
“ไม่ปฏิเสธจะดีกว่านะ เพราะถึงเธอปฏิเสธ ฉันก็ทำให้เธอมาเป็นคนของฉันอยู่ดี” ชายหนุ่มพูดจบก็ลุกขึ้นไปยืนริมกระจก กวาดตามองไปยังชั้นล่างตามปกติ
“คุณสมองปกติไหม” ศลิษาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ฉันมองเห็นเธอจากบนนี้.....”
“.....ช่วยคุยเรื่องเดียวกันหน่อยเถอะ”
“.....” ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขายังคงมองลงไปข้างล่างเพื่อดูสถานการณ์ในผับ
“ขออนุญาตครับนาย วีไอพีมาถึงแล้วครับ”
“อืม ให้ไปรอที่ห้องเดิม”
“ครับ”
ระหว่างที่ภายในห้องกำลังเงียบสงบ อเล็กซ์ก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับแจ้งข่าว วันนี้เฟรเดอริคมีนัดลูกค้าของเขาเอาไว้ ลูกค้าที่ค้าขายร่วมกันในตลาดมืด
ผับแห่งนี้ชั้นล่างเปิดไว้สำหรับนักท่องเที่ยวตามปกติ ชั้นสองเป็นห้องทำงานของเขา มีห้องนอนส่วนตัวที่เป็นห้องสีขาว สามารถเปิดเข้าไปจากทางห้องทำงานได้ทางเดียวเท่านั้น กับห้องสีแดง ที่ชายหนุ่มเอาไว้ปลดปล่อยอารมณ์ยามที่มีหญิงสาวมากมายยอมทอดกายอ้าขาให้เขากระแทก รวมทั้งมีห้องวีไอพีที่เป็นห้องที่เขาเอาไว้ใช้นัดคุยงานกับลูกค้าเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่า ผับแห่งนี้เขาเปิดเอาไว้บังหน้า เพราะที่จริงแล้วเป้าหมายของเขาคือเอาไว้ใช้คุยงานบนชั้นสองของผับนั่นเอง
หลังจากอเล็กซ์ออกไปจากห้อง เฟรเดอริคก็หมุนตัวกลับมา สายตาคมกริบมองไปยังหญิงสาวที่ยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ ชายหนุ่มเดินไปหยิบเสื้อสูทของตัวเองมาส่งให้เธอ
“ใส่ซะ แล้วลงไปอยู่กับธาวินที่หน้าบาร์”
“ไม่ใส่”
“เธอแน่ใจเหรอ ว่าจะอยู่คนเดียวในผับ.....ด้วยชุดนั้น”
คำพูดของเขาทำให้ศลิษานึกขึ้นมาได้ว่าเธอยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงคว้าเอาเสื้อสูทราคาแพงตัวใหญ่ที่เขาส่งให้มาสวมคลุมชุดนักศึกษา มันใหญ่จนยาวคลุมกระโปรงสั้นของเธอจนมิด
“เสร็จแล้ว”
“เดินลงไปแล้วไปที่หน้าบาร์ อย่าคิดจะกลับโดยที่ฉันไม่ได้สั่ง ฉันสามารถเข้าไปห้องเธอได้ แม้แต่อาคารที่เธอพักอยู่ ฉันสามารถซื้อมันมาทุบทิ้งได้ หากฉันต้องการ”
เฟรเดอริคดึงให้หญิงสาวเดินออกมาจากห้องพร้อมเขา แล้วสั่งให้คนของเขาพาเธอลงไปส่งที่หน้าบาร์ ก่อนที่ชายร่างใหญ่ผู้นั้นจะกลับขึ้นไปชั้นบนอีกครั้งตามเดิม
“ลิษา!!!” ธาวินรอจนลูกน้องของผู้เป็นเจ้านายเดินหายไปก็เรียกหญิงสาวด้วยความตกใจ จนศลิษาเองก็ยังสะดุ้ง
“อะไรพี่วิน ลิษาตกใจหมด”
“พี่ตกใจกว่า เกิดอะไรขึ้น เมื่อตอนค่ำคุณอเล็กซ์ลงมาบอกว่าลิษาอยู่กับนาย พวกเราตกใจกันหมดเลยนะ”
“ไม่รู้ ลิษาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่.....เขาเสนอให้ลิษาเป็นคนของเขา” หญิงสาวบอกธาวินตามตรง
เกิดความเงียบขึ้นมาฉับพลันในความรู้สึกของพวกเขา พนักงานหลายคนที่อยู่ใกล้ๆ และสนิทกับธาวินและศลิษาเองก็หยุดมือกับสิ่งที่ทำอยู่แล้วกรูกันมาที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์อย่างตกใจ
“พูดจริงเหรอ” ธาวินเค้นเสียงถามอย่างคนที่อยู่มานานแล้วรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“อือ เขาถามก่อนลงมานี่เอง”
“ถ้างั้นเสื้อสูทนี่ก็.....”
“เสื้อเขา ลิษาใส่ชุดนักศึกษาอยู่ เพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัย เปิดเข้าไปเจอเขาอยู่ในห้อง แล้วโดนลากมาที่นี่” หญิงสาวเล่าอย่างไม่มีอะไรปิดบัง
“ยัยลิษา พี่จะบอกให้นะ เขาคนนั้นอะ ไม่เคยมีเด็กเป็นตัวเป็นตนเลยนะ กินแล้วแยกทาง เขาเกลียดการผูกมัด เกลียดการที่จะมีคนมาอยู่ใกล้เขา ความลับเขาเยอะ” ธาวินยืนอึ้ง เขาไล่ให้คนอื่นๆ ไปทำงาน ส่วนเขาก็ขยับมายืนติดเคาน์เตอร์ แล้วพูดให้ได้กันแค่ 2 คน
“ช่างเขาดิ ไม่เกี่ยวกับลิษา”
“พี่ว่าเกี่ยวแน่ รอดูได้เลย”
“อย่าพูดเป็นลางดิ”
“พูดจริงเหอะ” ธาวินหยุดการพูดคุยลงเมื่อมีลูกค้าเข้ามาสั่งเครื่องดื่ม
ศลิษานั่งมองนั่นมองนี่ด้วยความเบื่อ เธอเป็นคนไม่ค่อยเที่ยว การที่ได้มาอยุ่ในที่แห่งนี้ก็เพื่อทำงานเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะให้เธอมาสนุกกับบรรยากาศมันก็ไม่ใช่ทางของเธอ
เช้าวันต่อมา“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”มัลลิกาตื่นลงมาข้างล่างแต่เช้า แต่ดูเหมือนจะช้ากว่าศลิษา เพราะเมื่อมัลลิกาเดินลงมา ก็พบหญิงสาวนั่งที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว“ตื่นเช้าจังเลย”“เคยชินน่ะค่ะ”“เอาล่ะ งั้นเรามาคุยกันหน่อยดีกว่า”“ค่ะ”หญิงวัยกลางคนเดินมาหย่อนตัวนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับศลิษา ดวงตาที่ทอแววใจดี แต่ก็ทันคนอย่างคนผ่านเรื่องราวมาก่อนมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณษา“เล่าให้แม่ฟังได้ไหม ว่าเป็นยังไงมายังไง ถึงได้มาอยู่ที่นี่”“ได้ค่ะ”ศลิษาเล่าเรื่องราวที่เป็นเหตุให้เธอได้มาอยู่ที่นี่ให้มัลลิกาฟังโดยไม่ปิดบัง อันที่จริงมันไม่มีอะไรให้ปิดบัง ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด อยู่ๆก็โดยเขาอุ้มออกมาจากห้อง แล้วก็เจอกับเหตุการณ์อะไรก็ไม่รู้ สุดท้ายก็ถูกพามาส่งที่นี่“เอาล่ะ แม่เข้าใจละ เอาเป็นว่า หนูลิษาก็คงต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน เดี๋ยวพ่อตัวแสบลงมา เขาก็คงมาคุยกับหนูเอง” มัลลิกาพยักหน้าเข้าใจ
“พาลิษากลับบ้านไปก่อน บอกคนของเราด้วย”“ครับนาย”อเล็กซ์เดินเข้ามากระซิบอันเฟรเดอริคหลังจากได้รับสายจากใครบางคน เขาพยักหน้ารับคำสั่งแล้ว พาศลิษาเดินออกไป“ไปไหน”“กลับบ้านนายครับ ข้าวของคุณมีคนเอาไปไว้ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว วันนี้นายมีรับแขก คงให้คุณอยู่ที่ผับไม่ได้” อเล็กซ์อธิบายด้วยน้ำเสียงที่เคารพมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ด้วยรู้ดีว่าสำหรับเจ้านายแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาศลิษาขึ้นไปนั่งเบาะหลังของรถยนต์คันหรู พลันจะเปิดประตูเพื่อหนีลงจากรถก็ถูกสายตาดุของอเล็กซ์ข่มขู่อยู่ จึงยอมนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น“ให้ผมแนะนำอะไรคุณหน่อยได้ไหม”“.....เชิญค่ะ”“นายน่ะ เป็นนักสู้มาตั้งแต่เด็ก การที่เขามายืนอยู่ที่จุดนี้ได้ไม่ใช่ง่ายๆ นายดูแลพวกเราเหมือนครอบครัวไม่ใช่แค่ลูกน้อง การที่นายสนใจคุณทั้งที่ไม่เคยสนใจใครเลย ผมว่าคุณควรยอมเลยตามเลยนะครับ”“หมายความว่ายังไงคะ”“นายมีผู้หญิงมากมายครับ พวกหล่อนเสนอตัวมาเอง แต่เ
ศลิษานั่งเล่นอยู่นานจนเฟรเดอริคลงมาตามด้วยตัวเอง พนักงานหลายคนที่ไม่ค่อยได้เห็นผู้เป็นเจ้านายลงมาข้างล่าง ส่วนใหญ่เขาจะสั่งงานผ่านผู้ช่วยคนสนิทของเขามาเท่านั้นหญิงสาวที่ตั้งใจจะหาข้ออ้างไม่กลับขึ้นไปก็เป็นอันต้องล้มเลิกความตั้งใจ เมื่อเขาตรงมาจับข้อมือเล็กแล้วดึงเธอจนแทบจะลากให้ขึ้นไปชั้นสองด้วยกันธาวินมองตามร่างลูกมือของตัวเองก็ได้แต่ถอนใจ เขายอมรับว่าศลิษาสวยมาก แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าจะถึงขนาดที่เฟรเดอริคจะมาถูกใจ“อะไรเหรอพี่วิน” พนักงานเสิร์ฟสาวที่เห็นบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อประจำร้านมองตามหลังผู้เป็นเจ้านายไป ถามเขาด้วยความสงสัย“พี่ว่านะ ยัยลิษารอดมือนายยากแล้วล่ะ”“หือ พี่ลิษาทำไมนะ”“ช่างเถอะ ไปทำงานไป คนเยอะแยะ”ค่าๆ ขี้บ่นจัง”“ถ้าไม่ให้ฉันทำงานก็ให้ฉันกลับบ้านได้แล้วค่ะ ฉันจะกลับไปนอน” ศลิษาพูดอย่างหงุดหงิด เธอทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างแรง“กลับไม่ได้แล้วล่ะ ตึกที่เธออยู่ฉันซื้อแล้ว”“.....!!!!!”&l
“ฉันลืมปิดแอร์เหรอ”เสียงหวานใสพึมพำเมื่อหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วพบว่าแอร์กำลังเปิดอยู่ ก่อนที่มือเล็กจะกดสวิตช์ไฟให้มีแสงสว่าง เพราะก่อนออกจากห้องเธอจะปิดม่านมิดชิดทุกครั้ง“ว้ายยยย คุณเข้ามาได้ยังไง” ศลิษาร้องวี้ดอย่างตกใจ เมื่อเห็นรางสูงใหญ่ที่คุ้นตานั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง“ใครมาส่ง” เสียงห้าวทุ้มถามกลับอย่างไม่สนใจตอบคำถาม“เพื่อน คุณเข้ามาได้ยังไง นี่มันบุกรุกนะ” หญิงสาวตอบเขาอย่างจำใจก่อนที่จะเริ่มโวยวาย“อย่าให้มันมายุ่งกับเธออีก”“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย คุณเข้ามาทำอะไร ออกไปจากห้องฉัน”ศลิษายังมีอาการตกใจ เธอยืนอยู่หน้าประตูไม่ยอมขยับออกห่างจากตรงนั้น ‘ผู้ชายคนนั้น’ หญิงสาวจำได้ว่าเขาคือคนที่เรียกเธอเข้าไปในห้องทำงาน ‘เขา’ที่เป็นเจ้าของผับ และเป็นคนที่สั่งให้ลูกน้องมาส่งเธอเมื่อคืน มันไม่น่าแปลกใจเลยหากเขาจะรู้ว่าเธออยู่ห้องไหน หากเขามีอำนาจเงินมากพอเฟรเดอริคไม่สนใจหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินช้าๆ แต่หนักแน่นทุกย่างก้าว ตรงไปยังร่างบอบบางที่ยืนทำหน้าตื่นอยู่ที่ประตู คว้าเอาท่อนแขนกลมกลึงดึงเข้ามาประชิดตัวเต็มแรงจนเจ้าของร่างแทบปลิว“ฉันสั่งให้เธ
“ไม่ให้พี่ไปส่งจริงเหรอ” เสียงธาวินถามศลิษาที่เดินตามหลังเขาออกมา“ไม่ต้องหรอกพี่ พี่กลับเลย เดี๋ยวแฟนพี่รอ” ใบหน้าหวานส่ายไปมาเป็นการยืนยันคำพูดตัวเอง“โอเค งั้นกลับดีๆ มองซ้ายมองขวาด้วยล่ะ เดินระวังด้วย”“ครับผม” ศลิษายิ้มขี้เล่น เธอโบกมือให้ธาวินก่อนจะเดินออกไปเรื่อยๆหญิงสาวใช้ชีวิตอยู่คนเดียวหลังจากที่บิดามารดาเสียด้วยอุบัติเหตุ พวกท่านไม่ได้ทิ้งอะไรเอาไว้ให้ มีเพียงเงินประกันชีวิตก้อนหนึ่งจากทั้งคู่เท่านั้น ศลิษาจึงเงินเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นค่าเทอมค่าเล่าเรียน กับแบ่งอีกส่วนหนึ่งมาเช่าห้องพักขนาดไม่ใหญ่แต่ไม่ลำบากในการใช้ชีวิต อีกส่วนเก็บไว้เป็นเงินกินใช้และเงินสำรองยามฉุกเฉินแต่ก็ใช่ว่าเธอจะเอาเงินออกมาใช้อย่างเดียว หญิงสาวหางานทำในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ที่ผับแห่งนี้เงินดี แขกค่อนข้างมีระดับ ทิปจึงหนักตามไปด้วย ทิปจากแขกในแต่ละคืนมากพอที่ศลิษาจะอยู่ได้โดยไม่ต้องควักเงินเก็บออกมาและอยู่ได้โดยไม่ลำบากหากเธอรู้จักกินรู้จักใช้ศลิษายอมย้ายมาอยู่หอพักที่อยู่ไม่กลจากผับแห่งนี้มาก เดินเพียงป้ายรถเมล์เดียวก็ถึง ค่าเช่ารายเดือนเธอเอามาจากเงินที่ได้ทิปจากแขกเพียง 2-3 คืน รวมทั้งเงินใ
“เฟรด กลับบ้านเรานะลูก”เสียงหวานใสกล่าวกับบุตรชายตัวน้อยที่เพิ่งอายุเพียง 3 ปี ขณะที่กำลังอยู่ที่สนามบิน เธอไม่พกอะไรเลยนอกจากตั๋วเครื่องบินกับเอกสารต่างๆของตนเองและของลูกมัลลิกา หรือมะลิ เธอกำลังพาบุตรชายตัวน้อยหนีอดีตสามีกลับประเทศไทย ในวันที่เธอตัดสินใจจะกลับมา คือวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาที่บ้านพร้อมกับเขาและบอกเธอว่ากำลังท้องลูกของเขาอยู่ เขาผู้ที่เป็นพ่อของลูกเธอและเป็นนักการเมืองใหญ่ผู้มีอิทธิพลหญิงสาวตัดสินใจแอบจัดการเรื่องเอกสารและซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อกลับมายังประเทศไทย ประเทศบ้านเกิดของเธอโชคดีของหญิงสาวที่ครอบครัวของเธอมีที่ทางมากมาย ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก บิดาของเธอขายที่ส่วนหนึ่งแล้วไปซื้อที่ปลูกบ้านใหม่ในเมือง จัดการเปลี่ยนนามสกุลใหม่และเบอร์ติดต่อใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้อดีตสามีตามหาเจอครอบครัวเธอเริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะปลูกไร่องุ่นพันธุ์ดีและบ่มไวน์คุณภาพสูงจนได้ขยายเป็นธุรกิจส่งออกทั้งองุ่นและไวน์ อีกทั้งยังมีธุรกิจโรงแรมมากมายหลายสาขาในหลายจังหวัด จนฐานะของครอบครัวมั่งคั่งมากพอที่จะปกปิดตัวตนจนอดีตสามีตามหาตัวเธอและครอบครัวไม่เจอหลายปีผ่านไปท่