ホーム / รักโบราณ / หวนคืนดวงใจ / ๑ ฟื้นจากความตาย

共有

หวนคืนดวงใจ
หวนคืนดวงใจ
作者: วอลจู

๑ ฟื้นจากความตาย

last update 最終更新日: 2025-10-07 01:45:57

หลินซิ่วหรงสะดุ้งขึ้นจากฝัน

นางหอบหายใจถี่จนหน้าอกกะนเพื่อมสั่นไหว ดวงตาคู่งามเพ่งมองเพดานขาวโพลนตรงหน้าด้วยสายตาที่พร่ามัว หัวคิ้วเรียวค่อยๆ ขมวดมุ่นเข้าหากันช้าๆ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งท่ามกลางบรรยากาศที่ครุกขุ่นภายในห้อง

เหตุใดที่ไม่ได้ใช่ไม่ใช่กลางป่าหกร้างแตากลับเป็น…เป็นเรือนของนางแทน?

หลินซิ่วหรงและมองสายตาขวาเห็นเหล่าสาวใช้ที่คุ้นหน้าคุ้นตาทั้งยืนและนั่งยืนอยู่เต็มเรือนต่างก็มองนางกลับด้วยสีหน้างุนงงไมาแพ่กัน

ไม่ใช่ว่านางตายไปแล้งหรอกหรือ!?

ความรู้สึกเจ็บจากลมดาบที่ลำคอก็จะแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง นางยังคงจำได้ไม่ลืม…มือขาวเรียวพลางยกขึ้นรีบกอบกุมลำลอทันที นัยน์ตาเมล็ดซิ่งกวาดมองเหล่าสาวใช้ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่คสผู้หนึ่ง น้ำเสียงหวานแหบแห้งเอ่ยถาม “ข้า…ยังไม่หรอกหรือ”

หลินซิ่วหรงมั่นใจว่า เหตุกานณ์ในตอนนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความฝันตื่นหนึ่งเท่านั้น…ราวกับว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ

ดังนั้น…นางได้หวนกลับมางั้นหรือ!?

เรื่องเหลือเชื่อแบบนี้มีอยู่จริงๆ หรือ!?

ทันใดนั้น ความสงสัยและคำถามมากมายแล่นขึ้นกลางอก เช่นนั้นแล้ว วันนี้เป็นวันที่เท่าไหร่แล้ว นางได้กลับมาตอนไหนกัน ระหว่างก่อนเกิดเรื่องวุ่นวาย หรือตั้งแต่ก่อนที่นางและบุรุษผู้นั้นจะได้มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน!?

อิงหลันสาวใช้ข้างกายคุณหนูใหญ่ นางลุกขึ้นพรวดพราดก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียงยื่นมือไปประคองก่อนจะพูดด้วยน้ำเจือแผ่วเบา น้ำเสียงเจือด้วยความเป็นห่วง “คุณหนูนอนพักผ่อนก่อนเถอะเจ้าค่ะ”

นางหาได้ขัดขืนไม่ ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างว่าง่าย ทว่าสีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความงุนงงเต็มสิบส่วน นัยน์ตาเมล็ดซิ่งกระพริบปริบๆ หลินซิ่วหรงกำบังจะอ้าปากถามออกไปอีกครั้งแต่จู่ๆ กลับได้ยินน้ำเสียงใสแผ่วเบาของอีกคนดังขึ้นเสียก่อน

หลินซิ่วอันเดินเข้ามาก่อนจะนั่งลงขอบเตียงที่ว่าง นางยื่นมือออกไปกอบกุมพี่สาว สายตาทอดมองอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งด้วยความห่วงใจก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งด้วยความหนักอึ้ง “ไม่แน่เจ้าค่ะ ยามนี้ท่านพ่อรู้แล้วว่าพี่หญิงกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าคงพ้นถูกลงโทษแน่”

สีหน้าของหลินซิ่วอันเต็มไปด้วยหนักอึ้ง ราวกับแบกก้อนหินร้อยชั่งเอาไว้ในอก

วันนี้นาง ท่านแม่และท่านพ่อกำลังนั่งรอพี่หญิงออกมาจากเรือนเพื่อรับมื้อเช้าด้วยกัน ทว่าพออีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงกลับมีสีหน้าซีดเซียวและอิดโรยออกมาอย่างชัดเจนคล้ายจะเป็นลมล้มพับไปจนอดเป็นห่วงไม่ได้แต่พี่หญิงกลับมองว่าเพื่อแค่เมื่อคืนนอนดึกพักผ่อนน้อยเท่านั้นหาได้เป็นอันใดหรือไม่ได้รู้สึกสบายอันใดทั้งสิ้น

แม้นางและท่านแม่จะเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้รบเร้าและพูดให้มากความ เพราะเกรงว่าพี่หญิงคงกำลังกัลวงเรื่องงานแต่งเชื่อมสัมพันธ์ต่างแคว้นในวันข้างหน้า ที่แม้จะไม่อยากออกเรือนไป ทว่ากลับไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของท่านพ่อได้

และไม่สามารถปฏิเสธได้แม้แต่สักครึ่งคำ

บรรยากาศภายในห้องโถงยามเช้าของจวนสกุลหลินเงียบสงบ มีเหล่าสาวใช้คอยปรนบัติตักและยกอาหารให้ไปพลางๆ ทว่า พี่หญิงของนางยังไม่ทันได้กินสักคำแต่กลับกล่าว่ารู้สึกเหม็นพะอืดพะอมจะจวน ในจังหวะที่รู้ขึ้นนั้น เกรงว่าอีกฝ่ายคงจะหน้ามือจึงโงนเอนเป็นล้มไปต่อหน้าต่อตาของนาง ท่านแม่และท่านพ่อที่มองอยู่ทว่ายังโชคดีที่สาวใช้ที่อยูาเข้าไปประคองไว้ได้ทันก่อนจะล่วงลงพื้น

ตั้งแต่หลินซิ่วอันเกิดมาและจำความได้ พี่หญิงของนางสุขภาพแข็งแรงมากหาได้เจ็บป่วยปวดๆ อ้อดๆ แอ้ดๆ ไม่ แต่จูๆ อรกฝ่ายกลับเป็นลมล้มไปต่หน้าทุกคนเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ตกใจทั้งสิ้น

จวนสกุลหลินที่เคยเงียบสงบกลับวุ่นวายขึ้นทันที เหล่าสาวใช้ต่างวิ่งวุ่นตามหาท่านหมอมาตรวจดูอาการของพี่หญิง

จนกระทั่ง แค่พี่หญิงเป็นลมล้มไปต่อหน้าทุกคนไป ท่านหมอชราผู้นั้นตรวจสุขภาพพี่หญิงนานสองนานด้วยสีหน้าเครียดไม่น้อยคล้ายกับกลืนไม่เช้าคล้ายไม่ออกจนกระทั่งถึงได้กล่าวแสดงความยินดีกลับนาง ท่านแม่และท่านพ่อ

หลินซิ่วอันเล่าเหตุการณ์หลังจากที่อีกฝ่ายเป็นล้มไปให้พี่สาวฟังด้วยน้ำเสียงแผ่วเบากระซิบกระซาบคล้ายหวาดกลัวว่าจะมีคนได้ยิน “ท่านพ่อ…ทั้งโกรธและโมโหมากเจ้าค่ะ”

ตอนที่บิดาได้ยินถ้อยคำจากท่านหมอชราตรงหน้าตรงหน้าถึงกละบถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าคล้ายไม่เชื่อถึงขั้นสั่งให้สาวใช้อีกคนไปตามหมอมาตรวจดูอาการอีกทีทว่าตำตอบกลับเช่นเดิม

ทั้งที่พี่หญิงยังไม่เคยแต่งงานและกำลังจะแต่งงานออกไปเชื่อมสัมพันธ์ในเร็ววันทว่าจู่ๆ กลับตั้งครรภ์เช่นนี้

นับว่าไม่ใช่เรื่องดีนัก

“เขา ยังอยู่หรือ” น้ำเสียงหวานแหบพร่าเอ่ยถามสั่นเครือ นางยกมือขึ้นลูบหน้าท้องผ่านผ้าอาภรณ์สัมผัส นัยน์ตาเมล็ดซิ่งวูบไหวอดนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น…

นางหาได้ตาย…บุรุษผู้นั้นปกป้องนางด้วยชีวิตจนกระทั่งล้มหายใจสุดท้ายเพื่อให้นางและลูกได้มีชีวิตรอดทั้งที่เข่โกรธและเกลียดนางปานนั้น

ทว่าทั้งที่เขสละชีวิตให้นางและลูกได้มีลมหายใจต่อแตากละบเป็นนางที่ลงมือปลิดชีวิตลูกและตัวเองเอง

หากไร้เขาแล้ว…นางและลูกจะมีชีวิตไปเพื่ออันใดกัน

หลินซิ่วอันสังเหตเห็นดวงตาคู่งามของพี่หญิงสั่นไหงและสั่นระริกก็พลันเข้าใจได้ทันที นางถอนหายใจอออกมา มือที่กอบกุมไว้กระชับแน่นไม่ยอมปล่อย “พี่หญิงก็คงรู้นิสัยท่านพ่อดีกระมัง”

นางกลัวเหลือเกืนว่าบิดาจะสั่งให้พี่สาวของนางกินยาขับเลือด ฆ่าหลานของตนเองทิ้ง

หลิ่วซิ่วหรงเหลือบสายตามองน้องสาว นางพลันรู้สึกจุกในอกพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

ในชาติที่แล้ว หากเหตุการณ์ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้ว่าบิดาของนางจะโกรธเกรี้ยวโมโหมากเพียงใด ถึงขั้นให้นางไปยืนสำนึกผิดและสารภาพที่หน้าป้ายบรรพชลของบรรพบุรุษสกุลหลินต่อความผิดที่ได้ทำลงไปทว่านางกลับไม่อาจเผยปาอกบอกได้จริงๆ หลินซิ่วหรงยืนอยู่แบบนั้นหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ โดยไม่นั่งพักเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งท่านพ่อยกเลิสั่งลงโทษเพราะเห็นแก่หน้าท่านแม่ที่ถึงขั้นคุกเข่าขอร้องออกวอนว่าให้เก็บเด็กในครรภ์ที่ไม่ได้ทำผิดเอาไว้ อย่างไรครรภ์นี้ยังมองไม่ออก ซ้ำหากไม่มีผู้ใดเอ่ยก็ไม่มีผู้ใดรู้

นางถอนหายใจออกมา ไม่รู้ควรควรจะเริ่มต้นหรือแก้ไขเหตุการณ์ในครั้งนี่ยังไง นางเหลือสายตามองน้องสาว

“วางใจเถอะ ซิ่วอัน…เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อ แม้ว่าจะดูเป็นคนเจ้าระเบียบอยู่กฏเกรณ์อย่างไร ทว่าย่อมนึกถึงลูกและภรรยาเหนือกว่าสิ่งใดเสมอ”

หัวคิ้วของหลินซิ่วอันขมวดมุ่นรู้สึกย้อนแย้งในใจ

“ที่หญิงถูกบังคับให้แต่งงานออกไปเชื่อมสัมผัสก็เป็นเพราะท่านพ่อมิใช่หรอกหรือไร ที่เห็นแก่อำนาจในมือก่อนค่อยคำนึงนึกถึงภรรยาและบุตรที่สาว” น้ำเสียงของนางเจือด้วยความประชดประชันปนไม่พอใจ

จู่ๆ วันนั้น ท่านพ่อก็กลับมาตวนพร้อมทั้งบอกว่าจะส่งพี่หญิงขึ้นเกี้ยวไปแต่งงานกับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ทั้งที่ไม่เคยถามความสมัครใจของพี่หญิงสักคำ!

หลินซิ่วหรงได้ยินแบ้วกลับอดที่จะหลุดหัวเราะออกมาอย่างขบขัน นางเลิกคิ้วถามกลับ “ยามนี้ไม่มีผู้ใดไม่รู้ว่าข้ากำลังท้ง หรือว่าเจ้าจะแต่งออกไปแทนข้าดี”

“พี่หญิง!” หลินซิ่วอันถึงกลับร้องตกใจทันที “มิใช่ว่าข้าไม่อยากจะเสียสละเพื่อท่าน ทว่าท่านก็รู้ว่า ข้ามีบุรุษในดวงใจ” พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ใบหน้าคนงามพลันขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเคอะเขินทันที

นางเข้าใจพี่สาวที่ไม่อยากแต่งออกไป หากนางไม่มีบุรุษมนดวงใจแล้วสถาการณ์กบืนไม่เช้าคล้ายไม่ออกเช่นนี้

หลินซิ่วอีนย่อมสละไปแทนได้

ใบหน้าของหลินซิ่วหรงปรากฏรอยยิ้มจางๆ หาได้ฉายแววน้องใจแต่อย่างใด “ช่างเถอะ เรื่องเช่นนี้ข้าจัดการได้ เจ้าก็ใช้ชีวิตของเจ้าไปเถอะ”

จู่ๆ ในขณะนั้น เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังใกล้ขึ้น เดินดุ่มๆ เข้ามาข้างในเรือน ใบหน้าของแม่บ้านวัยชราเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเม็ดใสและความเหนื่อยหอบฉายออกมาอย่างชัดเจน นางยอบกายลงเล็กน้อยก่อนจะเหลือบสายตาไปมองคุณหนูใหญ่บนเตียงด้วยความโล่งเมื่อเห็นว่าฟื้นแล้ว ทว่าเพียงชั่วอึดใจกลับถํกแทนที่ด้วยความหนักอึ้งแทน “นายท่านมีคำสั่งว่า หากคุณหนูใหญ่ฟื้นแล้วก็ให้ไปหาที่เรือนเจ้าค่ะ”

ยามนี้นายท่านโกรธกระฟัดกระเฟียดไม่น้อยมนางเองก็รู้สึกเป็นกังวลไม่ได้ ไม่รู้ว่าคุณหนูจะถูกลงโทษอย่างไรกัน

หลินซิ่วอันได้ยินแล้วบ่นพึมพำออกมาทันที “ท่านพี่หญิงพึ่งจะฟื้นยังไม่ทันหายดี ท่านพ่อใจดำเกินไปแล้วกระมัง”

ใบหน้าของหลินซิ่วหรงปรากฏรอยยิ้มจางๆ นางเหลือบไปมองยังแม่บ้านชราก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยราวกับบอกว่าเข้าใจแล้ว จากนั้นจึงจะสายตาหันปลับไปมองน้องสาวทันที

“คำพูดของท่านพ่อต่อต้านได้ที่ไหนกัน เอาเถิด…ข้าเองก็หาได้เป็นอะไรมาก สมคสรจะจัดการเรื่องนี้เสียที”

หลินซิ่วหรงรู้แล้วว่านางได้หวนกลับมา แม้ว่าทุกอย่างจะเริ่มต้นไปแล้วทว่าก็ยังไม่สายเกินแก้

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • หวนคืนดวงใจ   ๓๐ ชั่วชีวิตนี้ไม่แยกจาก

    หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างสงบ ซ่งเจิ้งอี้ก็จัดการยกแม่สื่อมาทาบทามขอนางอีกครั้งตามธรรมเนียม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยถูกนายท่านหลินขับไล่ออกจากจวนไปแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่เข็ดซ้ำยามนี้ นางก็ตั้งครรภ์อยู่ แม้ท้องจะขยายใหญ่ขึ้นจนทำให้การเคลื่อนไหวไม่คล่องนักและก็หาได้อยากเร่งรัดการแต่งงานนัก หากจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไปก่อนแล้วค่อยจัดพิธีให้สมเกียรติภายหลังจากที่นางคลอดก็ยังทันทว่าซ่งเจิ้งอี้กลับกล่าวอย่างหนักแน่นว่า เพียงเท่านี้ก็ทำให้สกุลหลินและนางเสียเกียรติไปไม่น้อยแล้ว เรื่องนี้สมควรต้องทำให้ถูกต้องตามธรรมเนียม ทั้งสามหนังสือและหกพิธีการต้องครบถ้วน จะได้ไม่มีผู้ใดครหาหรือสบประมาทได้!และเขายังประกาศเจตนาอย่างชัดเจนว่า ต้องการเป็นสามีของนางโดยแท้ และยังต้องการอยากป่าวประกาศให้คนทั่วทั้งเมืองหลวงรู้ว่า คุณหนูใหญ่สกุลหลินได้ออกเรือนแล้ว มีวานแต่งที่ยิ่งใหญ่เอิกเกริกสมเกียรติ ทั้งขบวนสินเดิมหรือสินสอดของเจ้าสาวนั้นยาวเหยียดเรียงยาวหลายหีบจนนั้นไม่ถ้วนมิหนำซ้ำแล้ว ต้องเป็นเจ้าสาวที่งดงามที่สุดไม่แพ้สตรีใด!แม้ว่าจะขัดใจนายท่านหลินไปบ้าง แต่หลินฮูหยินกลับออกหน้าตัดสินทุกอย่างโดยไม่รอความเห็นจาก

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๙ กลับมาเคียงข้าง

    หลายวันผ่านไปหลินซิ่วหรงไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะคลี่คลายและสงบลงได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ นางไม่ต้องกลายเป็นสตรีบรรณาการขึ้นเกี้ยวไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์และไม่ถูกบิดาบังคับให้ฝืนใจแต่งกับบุรุษใดอีกภายหลังเหตุการณ์วันนั้น ซ่งเจิ้งอี้กล่าวว่าสถานการณ์ในวังหลวงยังไม่สงบนัก แม้องค์ชายอวิ๋นจะปฏิเสธการแต่งงานกับนางไปแล้ว แต่ใช่ว่าฝั่งแคว้นอวิ๋นจะยอมรับโดยง่าย ซ้ำเกรงว่าฮ่องเต้จากแคว้นอวิ๋นก็คงไม่พอใจหากรู้เรื่องนี้ไปถึงหู เพื่อแก้ไขปัญหาในตอนนี้และที่จะตามมาในภายหลัง ซ่งเจิ้งอี้จึงตัดสินใจควบม้าออกเดินทางพร้อมพี่ชายไปยังแคว้นอวิ๋นด้วยตัวเองทว่าก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ก่อนจะออกเดินทางนั้น เขาบอกว่าจะกลับมาวันนี้แต่ยามนี้ไร้วี่แววตลอดทั้งเช้า หลินซิ่วหรงเอาแต่เฝ้ารออย่างกระวนกระวาย พอยามบ่ายก็ส่งคนไปที่สกุลซ่งแต่กลับได้รับคำตอบเพียงว่า พวกเขายังไม่กลับมา นางได้แต่นั่งเหม่ออยู่กลางลานจวน สายตาจับจ้องไปยังบานประตูราวกับหวังจะเห็นเงาร่างที่รอคอย ภายในใจพลางเต็มไปด้วยความกังวลที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเรื่อยนางภาวนาให้เขากลับมาปลอดภัย แต่ลึกๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าการกระทำครั้งนี้ราวกับเป็นการฉีกหน้าแคว้นอวิ๋น

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๘ ไม่พรากจากกันอีกแล้ว

    ความเงียบแผ่ครอบคลุมท้องทั่วพระโรง หลังจากอวิ๋นเซียวปรากฏตัว ดวงตาคมกริบกวาดไปยังคณะทูตจากแคว้นอวิ๋นราวกับสังเกตทุกความเคลื่อนไหว เสียงลมหายใจของขันทีชราและขุนนางรอบพลันหนักขึ้นราวมีก้อนหินทับอกซ่งเจิ้งอี้ปรายมองคนแคว้นอวิ๋นผู้นั้น เขาแค่นเสียงฮึดฮัดในลำคอก่อนจะกล่าว “สกุลซ่งของข้าตั้งแต่บิดา พี่ชายและข้าต่างยืนหยัดปกป้องแคว้นเว่ยมาตลอด หากยังคิดบีบบังคับอย่างไร้เหตุผล สกุลซ่งก็ไม่ลังเลที่จะเผชิญหน้าไม่ว่าจะผู้ใดก็ตาม!”สายตาคมกริบแข็งกร้าวฉายความแน่วแน่และจริงจังอย่างชัดเจน ครั้งนี้เขาไม่มีทางยอมจากหลินซิ่วหรงอีกแล้ว…แม้แต่ความตายก็มีอาจพรากเขาจากนางไปได้กู้เหยียนมองเหตุการณ์ตรงหน้าเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยในใจ…คนสกุลซ่งนี่ ช่างขัดแย้งกันเองยามสงบ แต่พอศึกจริงกลับช่วยกันรบจนไม่มีใครเทียบได้เลยฮ่องเต้หนุ่มบนบัลลังก์นั่งนิ่ง ใบหน้าเรียบเฉยราวไร้อารมณ์ มาครู่ใหญ่ก่อนที่จู่ๆ จะแค่นหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวเสียงกึกก้องสะท้อนทั่วท้องพระโรงอย่างเย็นชา ปรายตามองคนสกุลซ่งทั้งคู่“สกุลซ่งหรอกหรือ…ที่เป็นผู้ทำให้คุณหนูหลินตั้งครรภ์?”พอสิ้นคำ ทุกสายตาพุ่งไปยังซ่งเจิ้งห่าวแ

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๗ ท้าทาย

    ซ่งเจิ้งอี้ไม่คาดคิดเลยว่าพี่ชายจะทำเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ ทั้งยังปิดบังไม่บอกเขาแม้แต่สักคำเดียว ภายหลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ ทั้งเขาและซ่งเจิ้งห่าวพร้อมกู้เหยียนจึงรีบขึ้นรถม้าเข้าวังหลวงทันทียามนี้ ภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วของเหล่าขุนนางสูงต่ำทั้งหลานที่ถูกเรียกตัวเข้ามาอย่างกะทันหัน ทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุดราชการ ดังกึกก้องไปทั่วผสมปนเปไปกับสีหน้าถมึงทึงและท่าทางหงุดหงิดที่อาจปกปิดได้มิด หลายคนพึมพำบ่นเสียงดังราวกับจะประกาศให้ผู้คนทั้งวังได้ยินหัวข้อที่ไม่พ้นถูกพูดถึงหนีไม่พ้นเรื่อง คุณหนูใหญ่สกุลหลินเกี่ยวกับข่าวลือที่แผ่สะพัดดังกระหึ่มในยามนี้และองค์ชายอวิ๋นเซียวจากแคว้นอวิ๋นที่เดินทางมาถึงแคว้นเว่ยโดยไม่ได้บอกกล่าวหรือแจ้งล่วงหน้า มิหนำซ้ำยังมีคณะทูตจากแคว้นอวิ๋นที่เดินตามมาเร่งรัดให้มีพิธีงานแต่งเชื่อมสัมพันธ์โดยเร็ววันกู้เหยียนเดินนำหน้าเข้าท้องพระโรง เขาสูดลมหายใจพลางกวาดสายตามองรอบๆ เหล่าขุนนางต่างมารวมตัวกันแทบครบถ้วน ก่อนที่จะไปสะดุดตาเข้ากับคนผู้หนึ่งแทน อดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงฮึดฮัดประชดประชันเบาๆ“ดูหน้าพ่อตาเจ้าเสีย ซ่งเจิ้งอี้…ราวกับถู

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๖ เดิมพันชีวิต

    แผนการลอบสังหารครานั้น ซ่งเจิ้งอี้ยังคงข้องใจอยู่ไม่น้อย ว่าเหตุใดเวลาถึงได้ประจวบเหมาะราวกับมีผู้รู้ล่วงหน้าว่าจะมีขบวนแต่งงานจากแคว้นเว่ยเดินทางไปยังแคว้นอวิ๋น แต่เมื่อชะตาชีวิตในชาตินี้หาได้เป็นเช่นชาติที่แล้ว เขาจึงเลือกจะไม่เก็บมาคิดให้เปลืองสมองนักพักหลังมานี้ แม้ว่าซ่งเจิ้งอี้สามารถเข้าออกจวนสกุลหลินได้ตามใจ แต่ในเมื่อยังมิได้ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินร่วมกับนาง…เขาย่อมไม่หยามเกียรติให้ผู้คนจับจ้องสนใจนางไปมากกว่านี้ ดังนั้นแล้ว เขาจึงมักแวะไปที่จวนสกุลหลินเพียงสองเวลาเท่านั้นยามเช้าตรู่ตั้งแต่ที่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพื่อร่วมทานอาหารเช้า และยามพลบค่ำเมื่อผู้คนแยกย้ายเข้าจวนจนหมดแล้วซ่งเจิ้งอี้รับปากว่าหากจัดการสะสางเรื่องราวระหว่างแคว้นได้สิ้น เขาจะให้แม่สื่อไปสู่ขอหลินซิ่วหรงตามธรรมเนียม จัดพิธีมงคลอย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่ที่สุด เพื่อให้นางยืนอยู่เคียงข้างเขาอย่างไม่น้อยหน้าและไม่มีผู้ใดกล้ากล่าววาจาดูหมิ่นได้อีกทว่าเช้าวันนี้ ทันทีที่เขาผลักประตูจวนออกมา ยังไม่ทันได้ยกเท้าก็เห็นรถม้าคันหนึ่งจอดรออยู่หน้าจวน“เหอะ! ครานี้ข้าจะพลาดไม่ได้เจอรองแม่ทัพซ่งเสียแล้ว”น้ำเสียงทุ้มของกู้เ

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๕ ความบังเอิญหรือจงใจ

    ณ จวนสกุลจ้าววันนี้มารดาของนางเอ่ยว่าจะไปงานเลี้ยงน้ำชาที่จวนสกุลใดสกุลหนึ่ง แม้ว่านางจะได้ยินถ้อยคำทุกประโยคอย่างละเอียดแต่กลับหาได้สนใจนัก เพราะยังครุ่นคิดหาวิธีเอ่ยปฏิเสธอย่างแยบยล เพื่อให้ได้พักผ่อนอยู่ที่จวนอย่างสงบตามต้องการ และก็น่าแปลกนัก นางไม่ต้องอ้างเหตุผลหรือชักแม่น้ำมาหว่านล้อม มารดาก็หาได้รบเร้าอันใดทั้งสิ้น กล่าวเพียงว่า…หากจะอุดอู้อยู่จวนก็ตามใจเถอะจ้าวเหม่ยได้ยินแล้วดีใจอยู่ ไม่ต้องเปลืองน้ำลายพูดมากภายหลังจากที่นางส่งมารดาขึ้นรถม้าออกไปจากจวนแล้ว ก็กลับเรือนแล้วกระโดดลงบนเตียง พร้อมทั้งยังหลับตาลงอย่างผ่อนคลายพลางคิดว่าน่าจะได้พักผ่อนเสียทีแต่ยังไม่ทันชั่วอึดใจ กลับมีสาวใช้วิ่งแจ้นหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อม กล่าวว่ามีคุณชายผู้หนึ่งมาถึงจวน และเอ่ยว่าต้องการจะพบหน้านางให้ได้ หากไม่พบก็ไม่ยอมจากไปจ้าวเหม่ยฮวาได้ยินดังนั้นถึงกับดีดตัวขึ้นบนเตียง กรีดร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเต็มไปด้วยความโกรธ หงุดหงิดและรำคาญใจพร้อมกันไฉนเลยพอพ้นสายตาของมารดา นางจะได้พักผ่อนบ้างแต่กลับต้องพบเจอเรื่องนี้!อดคิดไม่ได้ว่านี่คงเป็นแผนการของมารดาวางไว้ แม้ว่าจะนางหงุดหงิดและอารมณ์เสียมาก

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status