“ถ้าแอนนี่โกรธเรื่องเมื่อว่านก่อนมาร์คขอโทษนะ แอนนี่ขอโทษมาร์ค ขอโทษ มาร์ครักแอนนี้นะ เรารักกัน”
“ไม่มีประโยชน์แล้วค่ะมาร์ค แอนนี่ตัดสินใจแล้วเราเลิกกันเถอะค่ะ แอนนี่ทนอยู่บนเกาะที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าผืนน้ำ ท้องฟ้า สายลมและแสงแดดไม่ได้หรอกค่ะ มันเงียบเหงาเกินไปและถ้าแอนนี่มัวแต่รอคุณให้คุณทำงานพัฒนาเกาะบ้าๆ นี่ของคุณ แอนนี่คงเฉาตายพอดี แล้วตอนนี้แอนนี่ก็ไม่ได้รักคุณแล้วมาร์ค” หญิงสาวบอกอย่างไม่กักเก็บกักความรู้สึกอีกต่อไป
“ไม่จริง ทำไมแอนนี่พูดแบบนี้ ทำไม เพราะไอ้หมอนั่นรึเปล่าแอนนี่ คุณเห็นว่าริครวยกว่าผมหรือแอนนี่ หรือเพราะอะไรกัน ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าที่พูดมาทั้งหมดคือความจริง แอนนี่ไม่รักมาร์คแล้ว แอนนี่รักคนอื่น” ชายหนุ่มถามอย่างปวดร้าวเมื่อได้ฟังคำตัดรอนจากคนรัก แววตาสี้น้ำเข้มบัดนี้ขุ่นมัวด้วยอารมณ์อันอ่อนไหว
“ใช่แอนนี่พูดความจริงค่ะ แอนนี่ไม่รักคุณแล้ว และ ริคเขาก็รวยกว่าคุณค่ะมาร์ค แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือแอนนี่ทนไม่ได้ที่จะมาอยู่ในที่ห่างไกลความเจริญ และไอ้ความคิดอนุรักษ์นิยมบ้าบอของคุณ วันๆ ขลุกอยู่กับลิงค่างอยู่แต่ในป่าในสวนไม่สนใจแอนนี่เลยว่าเหงามั้ยอยากไปเที่ยวรึเปล่า หรือแอนนี่อยากไปเดินห้างหรูไหม กินอาหารดีหรูๆ ในภัตคารระดับห้าดาวหรือเปล่า ที่นี่ไม่มีอะไรเลยสักอย่างมองไปทางไหนก็มีแต่ป่าๆๆ ท้องฟ้า กับทะเล แอนนี่ทนไม่ได้หรอกนะมาร์คหวังว่าคุณคงเข้าใจ” หญิงสาวตอบเป็นชุด ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่อยู่ในใจเธออยู่แล้วแล้วเธอก็สามารถพูดมันได้โดยไม่ต้องปรุงแต่งและไม่ติดขัดเมื่อต้องให้เหตุผลแก่เหมันต์
“แต่เมื่อก่อนแอนนี่บอกว่าชอบที่นี่และอยากจะอยู่ที่นี่กับมาร์ค”
“ใช่นั่นมันเมื่อก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมาอยู่ที่นี่ชั่วนานตาปีนี่นา แค่มาอยู่ช่วงพักผ่อนหรือมาฮันนีมูนแต่จะให้อยู่ตลอดไปเหมือนคุณแอนนี่ทนไม่ได้และไม่ทนหรอกนะจะบอกให้ ถอยไปค่ะแอนนี่จะไปแล้ว เดี๋ยว คุณริคจะรอนาน” หญิงสาวบอกย้ำชื่อชายหนุ่มอีกคน แล้วผลักอกชายหนุ่มแรงๆ ให้พ้นทางและเขาก็ยอมปล่อยเธอให้ผ่านไปโดยดี เพราะตอนนี้ทุกๆถ้อยคำที่หญิงสาวบอกมามันช่างเสียดแทงใจที่แข็งแกร่งให้ร้าวระบม
เกาะบ้าๆ น่าเบื่อ ที่ห่างไกลความเจริญ อนุรักษ์บ้าบอ ไม่มีห้างให้ชอปปิ้ง ไม่มีภัตคารหรูๆ อย่างนั้นหรือแค่นั้นหรือที่เธอต้องการแค่นั้นจริงๆ หรือ แล้วที่สำคัญคือเธอไม่รักเขาและเบื่อที่นี่อย่างนั้นหรือ ไหล่แข็งแกร่งที่เคยสง่าผึ่งผายห่อลู่ลงอย่างอ่อนแรงร่างสูงเซซังพิงเสาหินและมองดูร่างบางของหญิงสาวที่กำลังเดินจากไปช้าๆ ด้วยความรู้สึกที่ปวดปร่าเกินกว่าจะมีแรงวิ่งไปฉุดรั้งเธอ
ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองอยู่อย่างนั้น ขณะมองดูคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีต ที่กำลังเดินตามสะพานไม้อันแข็งแรงที่ทอดตัวยาวสู่ท้องทะเลสีฟ้าใสงดงาม ในขณะดวงใจของเจ้าของเกาะแสนสวยนี้แหลกร้าว ที่ปลายสะพานมีเครื่องบินเจ็ทลำเล็กที่สามารถวิ่งบนผิวน้ำได้ติดเครื่องรออยู่จนผิวน้ำบริเวณนั้นเกิดระลอกคลื่นกระเพื่อมไหวขยายวงกว้าง พร้อมกับชายหนุ่มผมสีทองสะท้อนแดดเจิดจ้ารออยู่ที่นั่นด้วย แม้เขาไม่อาจเห็นสีหน้าและแววตาของชายคนนั้นได้เพราะระยะทางที่ห่างเกินไปแต่เขารู้แน่ๆ ว่าผู้ชายคนนั้นคือ ริค เวลส์ อย่างแน่นอน
ร่างสูงถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเครื่องบินเจ็ทลำหรูบินขึ้นเหนือน่านน้ำและกำลังเคลื่อนออกไปเรื่อยๆ ไกลออกไปทุกทีทุกที และเหมือนหัวใจของเขาจะบีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก และเหมือนมันมีน้ำอุ่นๆไหลออกมาจากดวงตาคมกล้า ชายหนุ่มนอนแผ่หมดท่าอยู่หน้าชานเรือนร่างกายแกร่งนอนนิ่งอยู่นานนับหลายชั่วโมงจนฟ้าที่สว่างไสว บัดนี้มีดวงดาวมาเยี่ยมเยือนแล้ว ดวงตาสีน้ำเงินเข้มว่างเปล่า มีเพียงน้ำใสๆ ที่ไหลออกจากดวงตาและร่างกายที่สั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นไห้ในอกเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขายังมีลมหายใจอยู่ มือหนาหยิบแหวนทองคำขาวที่ประดับเพชรเม็ดเล็กชูขึ้นแล้วมองดูประกายเพชรที่สะท้อนแสงจันทร์วับไหวอยู่ในความมืดด้วยดวงใจที่แตกร้าว
หากมีใครสักคนถามว่าหากเขารักแอนนิต้ามากมายขนาดนั้นทำไมไม่ฉุดรั้งและทำทุกวิถีทางให้เธออยู่กับเขาตลอดไป และทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนเรารักอยู่กับเรา เหมันต์คงตอบได้แต่เพียงว่าเขาทำไม่ได้ เพราะการที่เขารับรู้ว่าเธอหมดรักเขาแล้วมันก็เจ็บปวดมากมาย และหากเขาต้องทนอยู่กับคนที่หมดรักตนและต้องทนเห็นดวงตาที่มองมาด้วยความเย็นชาและไร้ซึ่งความรัก เขาเองก็คงทนไม่ได้ และเขารู้จักแอนนิต้าดีว่า หากว่าเธอพูดออกมาอยางนั้น นั่นก็หมายความว่ามันคือความต้องการของเธอ และใครก็ห้ามเธอไม่ได้ แม้แต่ตัวเขา
“น่าสงสารนายหัวว่ะแก”
“ใช่ๆๆ คุณแอนนี่ใจร้ายมาก ทิ้งนายหัวที่แสนดีเราได้ยังไง”
“ฉันว่าเพราะไอ้ฝรั่งบ้าลามกนั่นต่างหากที่หลอกลวงคุณแอนนี่จนหลงแล้วทิ้งนายหัวของเรา” เสียงหวานท้ายสุดทำให้สองหนุ่มหันมามองสาวน้อยเป็นตาเดียว
“แล้วน้องรู้ได้ยังไงน้ำผึ้ง” เสียงพูดคุยของสามพี่น้อง เด่นดี เด่นดัง พลีชีพ คู่แฝดจอมป่วนของเกาะนี้และ น้ำผึ้ง ดรุณนุช พลีชีพ น้องสาวจอมแสบของทั้งสองที่มีใบหน้าและรูปร่างผิดพี่ผิดน้อง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตเหมือนเมล็ดอัลมอน จมูกโด่งรั้นเล็กน่ารัก และริมฝีปากหยักสวยสีชมพูระเรื่อ เธอสวยคมจนผิดหูผิดตากับพี่ชายฝาแฝดทั้งสองที่มีใบหน้าตรงกันข้ามกับน้องสาวคนเดียวของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง นอกเหนือจากสิ่งที่มีเหมือนกันก็คือ เรือนผมที่หยิกขอดเหมือนๆ กัน แต่เรือนผมของเธอกลับหยิกเป็นลอนสลวยเงางามนุ่มลื่นน่าสัมผัสไม่เหมือนพี่ชายที่หยิกขอดและแข็งกระด้าง
“อ้าว ก็เมื่อวานนี้น้ำผึ้งแอบเห็นสองคนนั่นเขา อุ๊บ...” สาวน้อยเอามือปิดปากแทบไม่ทัน และก็ไม่ทันอยู่ดีเมื่อพี่ชายทั้งสองมองมาที่เธอ ด้วยแววตาที่คาดคั้นและคาดโทษ
“แหะๆๆ พี่เด่นดี พี่เด่นดังน้ำผึ้งไปนอนก่อนนะ ดึกแล้ว”
“มันเพิ่งจะสองทุ่ม อย่าเฉไฉน้ำผึ้งบอกพวกพี่มาซะดีๆ ว่าเห็นอะไรไม่งั้นเราสองคนจะบอกนายหญิงวารินแน่ๆ ว่าเราไปแอบดูแขกที่มาพักจนไม่เป็นส่วนตัว ถ้าท่านกลับมาจากสเปน”
“โธ่พี่ๆ จ๋าไม่มีจริงๆ น้ำผึ้งก็พูดไปงั้นแหละ ไม่มี๊ไม่มี”
“จะบอกดีๆ ไหม บอกไม่บอก” พี่ชายฝาแฝดเริ่มรุกเมื่อเห็นว่าน้องสาวคนสวยปิดปากเงียบและเสียงวิ่งไล่เอะอะโวยวายก็ดังขึ้นพร้อมด้วยเสียงหัวเราะคิกคักอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อถูกพี่ชายจับได้รุมจี้บั้นเอวบางอย่างทำโทษ
ตอนที่ 187. ตอนอวสาน ความนุ่มหยุ่นนวลเนียนของผิวสาวทำให้ริคไม่พลาดสักตารางนิ้วที่จะเชยชม จนผิวสีน้ำผึ้งผุดผ่องแดงเห่อไปทั้งร่างและเขาก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะฝากรอยรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของร่างงามนี้ “ฮื้อ พอก่อนค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน” ดรุณนุชเอ่ยห้ามเมื่อสามีผู้เร่าร้อนดื่มชิมร่างงามจนเธอแทบร้อนเป็นไฟ แต่ความที่มีเรื่อร้อนใจใจทำให้เธอไม่อาจปล่อยให้ตนหวามไหวไปกับเขาจนลืมความตั้งใจได้ “อืม เอาไว้ก่อนจ๊ะฮันนี่ ตอนนี้สามีไม่ว่างจะคุยนะจ๊ะ” ริคเอ่ยชิดทรวงอกอวบใหญ่หวานล้ำและยังไม่ยอมเงยหน้าจากทรวงสาวจนดรุณนุชต้องกลั้นใจรวบเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดึงศีรษะซึ่งกำลังซุกไซ้กับทรวงอกตนออกจนได้แม้จะยังหอบกระเส่าเร่าร้อนเพราะไฟพิษศวาสที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้นก็ตามที “อืม ฮันนี่จ๋า มีอะไร” ริคยังไม่วายจะดึงดันก้มลงเชยชิมอกอวบจนดรุณนุชต้องซัดเผี๊ยะเข้าที่แขนแข็งแรงจนชายหนุ่มถึงกับสูดปากด้วยความเจ็บนิดๆ อารมณ์ร้อนแรงเมื่อครู่ก็ลดองศาลงมาเล็กน้อย “คนบ้ากามหื่นที่สุด คุยกันก่อนค่ะน้ำผึ้งซีเรียสนะคะ” ดรุณนุชค้อนสามีฉุนๆ ขึงตามองคนหื่นจัดอย่างขัดเคือง
ตอนที่ 186. งานเลี้ยงที่ไม่หรูหราแต่เรียบง่ายเหมือนงานบายศรีสู่ขวัญ ดำเนินไปด้วยความชื่นมื่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ นายใหญ่และนายหญิงวารินซึ่งตอนนี้ชราลงมากแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า มองดูลูกหลานอย่างมีความสุขใบหน้าและแววตาที่ร่วงโรยตามวัยยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มใจที่วันนี้เป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่ง แล้วเสียงร้องอย่างตื่นเต้นของน้องหนึ่งก็ดังลั่นเรียกความสนใจของทั้งสองให้มองไปยังร่างที่ดูสูงเกินเด็กในวัยเดียวกันวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น จนแก้มขาวใสของเด็กชายแดงปลั่ง “คุณปู่คุณย่าคับ อาวัตสันโทรมาแล้วคับ มาฟังเสียงอาวัตสันเร็วๆ” “จ้าลูก ไปเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่” อรุณนารีเข้ามาประคองร่างของนายหญิงวารินในขณะที่สามีประคองร่างผู้เป็นบิดาเดินไปยังโทรศัพท์ที่ลูกชายจอมซนเปิดเสียงลำโพงอย่างรู้งาน “สุขสันต์วันเกิดนะหลานอา สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่และทุกๆ คนด้วยนะครับ” เสียงของวสันต์ดังอู้อี้ไม่ค่อยชัดนักเหมือนอยู่ในที่อับสัญญาณ “จ๊ะลูก ทุกๆ คนสบายดีแล้ววัตสันล่ะลูกอยู่ไหนกัน” นายหญิงวารินตอบอย่างตื้นตันและรักใคร่บุตรชาย
ตอนที่ 185.“น่านสิค้า อาคิมขาของน้องนาเดียน่าสงสารจังที่โดนเมียทิ้ง ยังหนุ่มยังแน่นและยังหล่อด้วยเอางี้มั้ยคะให้น้าหนูดีช่วยดามอกมั้ยค้าน้าหนูดีของน้องนาเดียสวยน้า นี่ถ้าน้องนาเดียโตกว่านี้ น้องนาเดียจะไม่ทำให้อาคิมขาเสียใจเลย น้องนาเดียจะหาสาวๆ สวยๆ ให้อาคิมขาเอง” หนูน้อยนาเดียเด็กหญิงน่ารักตัวอ้วนกลมผิวขาวแก้มยุ้ยแดงปลั่งพูดฉะฉานเกินวัยพูดและทำท่าราวเด็กสาวริรัก“แต่เรย์ว่า ใครก็สวยสู้น้าหนูดีไม่ได้หรอก เรย์ว่าน้าหนูดีของเรย์เหมาะสมกับอาคิมขาที่สุด แต่เอ...ทำไมเวลาอาคิมมาน้าหนูดีก็ไป แล้วตกลงน้าหนูดีกับอาคิมเป็นอะไรกันแน่คับ คุณอาคิมขากับน้าหนูดีคนสวยเกลียดกันหรือคับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แย่ แบบนี้เรย์ก็ได้คนอื่นมาเป็นแฟนน้าหนูดีแน่ๆ เสียดายจัง” เด็กชายเรย์ม่อน ที่มีหน้าตาคมคายน่ารักและมีผิวเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดาส่วนความแก่แดดแก่ลมไม่เกินกันเอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าอาคิมขาเขม็งเหมือนต้องการหาคำตอบจนคนที่ถูกเด็กๆ ตัวร้ายทั้งสามคนมองเป็นตาเดียวเริ่มอึดอัด นี่เขาคิดผิดแน่ๆ ที่มาร่วมงานวันเกิดของหลานชาย และอาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ให้บทที่พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว“เอ่อ คือ ฮึ
ตอนที่ 184. “นี่พี่ริคโทรไปข่มหาเรื่องกวนประสาทพี่มาร์คอีกแล้วหรือคะ” ดรุณนุชถามสามีอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นสามีสุดหล่อนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสะใจ ดูก็รู้ว่าโทรไปคุยข่มเหมันต์เรื่องที่ตัวเองได้ลูกแฝดชายหญิง ยิ่งดีใจยกใหญ่ และชายหนุ่มก็ขยันโทรไปคุยข่มกันจนบางครั้งอรุณนารีโทรมาบ่นกับเธอบ่อยๆ ว่าเบื่อชายหนุ่มทั้งสองที่ทำตัวเหมือนเด็กโข่งทั้งที่ตัวเองอายุเฉียดๆ สี่สิบเข้าไปแล้ว“โธ่ ฮันนี่จ๋าพี่ริคขาก็แค่ดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ นี้ จนใจมันร้อนรนทนไม่ไหวจึงได้โทรไปเล่าสู่เพื่อนฝูงฟังไงจ๊ะ” ริคพูดกับเธอด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว และมันเป็นเรื่องที่เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าริคสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ชัดพอสมควร และมันก็ทำให้เธองอนเขาไปหลายวันเช่นกันที่ถูกเขาหลอกและอับอายนักเมื่อนึกได้ว่าเธอแอบว่าเขาไปหลายอย่างเมื่อก่อนนี้ รวมทั้งที่เคยตั้งชื่อให้เขาว่า ริค เวร ด้วย“ไม่ต้องมาโธ่เลย พวกพี่นี่ทำอะไรเป็นเด็กๆ รู้ไหมคะว่ามันไม่น่ารักเลย พี่มาร์คเขาเสียใจนะคะ”“เมื่อก่อนบทที่แมงปอท้องใหม่ๆ พี่ก็เสียใจเหมือนกัน น้อยใจด้วยที่เราแต่งงานมีเมียก่อนดันมาท้องทีหลังเพราะเมียคิดว่าเราไม่รัก”“ค่ะ มัน
ตอนที่ 183.“ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาล แต่พี่มาร์คก็จะทำบุญให้เธอตามประเพณีทางศาสนา” เขาบอกภรรยาด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยความเสียใจ มือหนาจับจูงมือเล็กๆ นั้นเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาดขาวสะอาด ลมทะเลกรุ่นกลิ่นหอมยามบ่ายพัดโชยโลมไล้ผิวกายราวจะพัดพาเอาความทุกข์ร้อนของคนให้ลงทะเลไปเสีย“แมงปอก็เห็นด้วยค่ะ อย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไปสู่สุคติ”“พี่ก็คิดแบบนั้น พี่อยากบอกเธอว่าพี่อโหสิให้เธอทุกอย่างและอยากขอให้เธออโหสิให้กับเราทุกๆ คนด้วย” สองสามีภรรยาเดินมาทรุดนั่งบนโขดหินใหญ่โดยมีเจ้าคอบร้า เจ้าลิลลี่และลูกๆ ของมันวิ่งตามมาเป็นพรวนเหมือนเช่นเคย ดูเหมือนลูกๆ ของเจ้าลิลลี่จะรักและเคารพเจ้าคอบร้ามากกว่าแม่ของมันเสียอีก เพราะไม่ว่าเจ้าคอบร้าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น้อยๆ สี่ตัวนี้ก็พร้อมจะตามไปและทำตามอย่างแข็งขัน จนผู้ที่พบเห็นมันต่างก็พากันมองดูพวกมันด้วยความชื่นชมเอ็นดู“เจสซี่ มินนี่ ทอฟฟี รินนี่ มานี่เร็วๆ” อรุณนารีร้องเรียกเจ้าสุนัขน้อยสี่ตัวที่เป็นตัวเมียสองตัว ตัวผู้สองตัว และเธอก็ตั้งชื่อให้พวกมันอย่างคล้องจองกัน แต่ตอนนี้พวกมันพากันตัวโตมากขึ้นเพราะได้รับการเลี้ยง
ตอนที่ 182.“คุณคะ คุณว่าสองคนนั่นจะเป็นไรมากไหมคะ เห็นเด็กๆ บอกว่ายังไม่ลงมาจากห้องตั้งแต่เมื่อวาน คุณแม่บ้านบอกว่าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้ที่หน้าห้องแล้วสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายชั้นบนหากไม่เรียก โธ่คืนนั้นสองคนนั่นดูเหมือนจะแรงทั้งคู่นะคะคุณ ป่านนี้หนูฮันนี่ของฉันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” คุณราเชลบ่นกับสามีเบาๆ“โธ่คุณ ถ้าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้และไม่ให้ใครไปวุ่นวายก็คงจะหมายความว่าเขาอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาเขาสองคนนั่นแหละ เรารอฟังข่าวดีกันดีกว่า ไม่แน่ป่านนี้หนูฮันนี่อาจจะกำลังมีหลานให้เราแล้วก็ได้” นายใหญ่แห่งคฤหาสน์เวลส์มองหน้ากันด้วยความหวังที่เรืองรองทันทีเวลาผ่านไปจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวันและผ่านผันเป็นเดือน เมื่อความรักความเข้าใจแทรกซึมในหัวใจที่มีรักและครองสติได้มองทุกอย่างด้วยเหตุและผลที่เหมาะสม ทุกชีวิตก็ย่อมถูกใช้ให้หมดไปในแต่ละวันอย่างมีความสุข อันความทุกข์นั้นเราก็เอาไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้มองเห็นและรู้ทันมันนั่นคือสิ่งที่ผู้มีปัญญาควรไตร่ตรองและคิดได้ แต่หากผู้โง่เขลามองและคิดอย่างไร้เหตุผลหลงผิดตกลงไปในบ่วงร้ายที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ไฟแห่งความหลงผิดนั้นก็