Share

Chapter 2

last update Last Updated: 2025-10-22 13:15:13

Chapter 2

"คุณลองทานขนมดูสิครับ ขนมอร่อยมากๆเลย" ชายหน้าตาดีพูดกับผู้หญิงเบาะข้างๆส่วนฉันนั่งอยู่กับไอ้อ้วน มันยิ้มและชวนฉันพูดนะ แต่ฉันไม่อยากคุย แค่นั้นจบ...

แม้ว่าจะนั่งกันคนละเบาะ แต่เนื้อพุงปลิ้นและย้อยมันก็มาเบียดฉันอยู่ดี ฉันก็ตัวเล็กๆโดนเนื้อไอ้บ้านั่นดันมาจนติดกับหน้าต่าง ฉันก็แทบจะกระอักเลือดออกมาตาย

ทำไมไอ้บ้านี่ไม่ได้ไปนั่งกับผู้หญิงคนนั้นส่วนผู้ชายคนนั้นมานั่งกับฉันแทน เฮ้อ🙄นี่แหละนะเขาเรียกว่าคนมีกรรม ทำอะไรก็เป็นอุปสรรคไปหมด

"อร่อยจังค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นปิดปากแล้วหัวเราะเบาๆ ฉันเบ้ปากเล็กน้อย มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าตอแหล เป่าปากมอง ชิ ฉันเคยเรียนการแสดงมา แยกออกว่าจริงใจกับตอแลเป็นยังไง

"ทานขนมกับผมไหมครับ" ไอ้ตือเอ่ยกับฉัน

"ฉันมีขนมแล้วค่ะ"

"ผมชื่อเหมนะครับ" ไอ้อ้วนแนะนำตัวปากก็กินไม่หยุด พูดแต่ล่ะทีขนมปังในปากแทบจะกระเด็นใส่หน้าฉัน

ไอ้บ้า! ได้แต่สบถในใจ

"หะ...เหมเหรอ?" ฉันมองอย่างพิจารณา ไอ้เหมคนนี้ มันจะใช่เหมราชแห่งโคกควายแดงหรือเปล่านะ

"เอ่อไม่ทราบว่าคุณเป็นคนโคก็กระบือแดงหรือเปล่าคะ?"

"ผม..." ยังไม่ทันได้ตอบฉันรถก็เบรคกะทันหันจนฉันหน้าแทบคะมำ

"ขับรถเชี่ยอะไรวะเนี่ย" ฉันพูดอย่างหงุดหงิดแล้วเอาหูฟังมาใส่ เปิดเพลงแล้วหลับตาลงแล้วผล็อยหลับไป

หลับๆตื่นแล้วก็หลับต่อ หลังจากใช้เวลานั่งรถอยู่หลายชั่วโมงรถก็มาถึงที่หมาย ฉันเดินตามหลังคนชื่อเหมไปอย่างงงๆ พอลงจากรถเด็กรถก็เอาข้าวของออกมาจากใต้ท้องรถให้

ฉันลากกระเป๋ามาที่เก้าอี้ ส่วนผู้ชายสองคนบนรถเขาเดินไปที่รถอีกคัน ฉันนั่งงงมองซ้ายมองขวา จะไปยังไงต่อล่ะทีนี้

"จะไปไหนครับ"

"ไปโคกกระบือแดงค่ะ"

"คุณต้องไปนั่งรถคันนั้นต่ออีก4ต่อครับ"

"ห้ะ อีก4ต่อ"

"ใช่ครับ รีบไปขึ้น เลยเวลารถออกมา10นาทีแล้วนะครับ"

"ค่ะๆ" ฉันรีบคว้ากระเป๋าวิ่งไปที่รถ ขึ้นรถทันหวุดหวิดเลย และที่สำคัญไอ้ผู้ชายสองคนที่เห็นบนรถทัวร์ก็อยู่ด้วย

ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฉันก็ลงรถ เริ่มฉลาดขึ้นมาบ้าง ฉันก็ถามผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็มีคนที่จะไปหมู่บ้านที่ฉันต้องการไปด้วยอยู่ประมาณ 4-5 คน

ฉันรู้สึกใจชื้นขึ้นมา เมื่อรู้ว่ายังมีคนที่จะไปโคกระบือแดงเหมือนฉันอยู่ อย่างน้อยถ้าฉันตามติดพวกเขาไป ฉันก็จะไม่ตกรถหรือว่าหลงทางแน่นอน

พอลงจากคันนี้เราก็เปลี่ยนไปอีกคันเปลี่ยนไป 2 รอบ 3 รอบ จนกระทั่งถึงคันสุดท้าย ขับจากถนนลาดยางเปลี่ยนเป็นถนนคอนกรีต พอสุดถนนคอนกรีตก็เป็นถนนลูกรังสีแดง

โอ้มายก๊อด นี่มันยังมีถนนแบบนี้ในประเทศไทยด้วยเหรอ เกิดมาไม่เคยเห็น ก็อย่างว่าแหละ ฉันเกิดอยู่ในกรุงเทพฯ ก็คงจะไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้ ส่วนบ้านของคุณตาสุนทรถนนทุกอย่างเจริญหมดแล้ว ส่วนที่นี่ทำไมมันถึงได้เป็นสภาพแบบนี้

ฉันคิดอะไรได้ไม่เท่าไหร่ เสียงรถตกหลุมดังโครมคราม ชาวบ้านทุกคนต่างหาที่ยึดเหนี่ยว ส่วนฉันสิมือใหม่คว้าไม่ได้ก็ล้มกลิ้งลงกับพื้นเลย

ฉันอยากจะบ้าตาย ไอ้หลุมนรก รถกระแทกไม่หยุด ฉันเจ็บร้าวไปทั้งตัว ผู้ชายที่เจอกันบนรถทัวร์ รีบคว้าตัวฉันขึ้นให้นั่งอยู่กับที่นั่ง จับมือของฉันให้จับราว

เอาจริงๆถนนแบบนี้ถ้าปวดท้องคลอดลูกคงไม่ถึงโรงพยาบาลแล้ว คลอดมันกลางทางนี่แหละ

"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" น้ำเสียงนุ่มเอ่ยถามฉัน"

"ปะเปล่าค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วย" ฉันยิ้มให้เขาด้วยใบหน้าและแววตาที่เป็นมิตรในขณะที่เขายิ้มตอบเช่นกัน

ฉันยึดเกาะเอาไว้แน่น รถก็เด้งไม่ยอมหยุดเล่นเอาฉันแทบหลังหัก ให้ตายสิ กว่าจะถึงโคกกระบือแดง ฉันคงขี้หักใน หรือไม่ก็เอวหักพิการก่อนได้คุยธุระเป็นแน่

พอรถไปจอดทุกคนก็ลงแล้วยืนรอรถเข้าหมู่บ้านอีก อะไรมันจะทุรกันดารขนาดนั้น เห็นแล้วอยากกรอกตามองบนอีกสักพันรอบ

เฮ้อ! ผมเผ้ารุงรังหนำซ้ำยังโดนฝุ่นดินสีแดงเกาะเต็มหัว สภาพฉันตอนนี้ย่ำแย่สุดๆ เมื่อก่อนฉันมากับพ่อก็มัวแต่หลับไม่เคยได้สนใจทางมา หรือว่าความบ้านนอกความทุรกันดารเลย

"ป้าคะ มันไม่มีรถเข้าหมู่บ้านแล้วหรอคะ?"

"ไม่มีจ้า เราต้องให้คนในหมู่บ้านมารับ"

"เฮ้อ จะบ้านนอกไปไหนเนี่ย" ฉันได้แต่บ่นอุบ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผ่านไปไม่นานนัก รถจักรยานยนต์หน้าตาประหลาดก็ขับมาจอด ทุกคนรีบขึ้นรถอย่างรู้งาน แต่ไม่มีใครถามฉันสักคนว่าจะไปด้วยไหมให้ตายสิ

"แล้วหนูจะมีรถไปไหมคะ"

"พอดีมันเต็มแล้ว รอขึ้นรถไปกับสามคนนั้นอีกรอบแล้วกัน เดี๋ยวเขาจะวนมารับอีกรอบ แล้วค่อยจ่ายค่าโดยสารให้คนขับคนละ 40 บาท"

ใจชื้นขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนร่วมทางอีก 3 คนไม่รู้ว่าอะไรจะบังเอิญขนาดนั้นนะคะผู้ชายกับผู้หญิงที่นั่งอยู่บนรถทัวร์ ก็ไปที่เดียวกันกับฉัน

แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะเรื่องบังเอิญมันก็อาจจะมีอยู่จริง ถึงแม้ว่าพี่คิมหันต์จะพูดบ่อยๆเรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริงเพราะการที่เขาได้เจอกับพี่ฝนมันเป็นเรื่องที่เขากระทำให้มันเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น แต่ที่จริงพี่เขาอยู่ในแผนการทุกอย่าง

ฉันลากกระเป๋าของตัวเองไปไว้ข้างต้นไม้เมื่ออากาศยามบ่ายมันร้อนมาก ร้อนจนรู้สึกจะเปื่อยให้ได้เลย สักพักก็มีจักรยานยนต์พ่วงข้างมาอีก 2 คัน เขาจอดไว้ข้างทางแล้วผู้ชายที่ขับรถคนนึงก็ไปนั่งกับรถที่มาด้วยกันแล้วเรียกผู้ชายอ้วนๆกับผู้หญิงสวยๆขึ้นไปนั่ง

ผู้ชายหน้าตาดีเขาเป็นคนไปขับจักรยานยนต์อีกคัน แล้วหันมาหาฉัน

"จะไปด้วยกันไหม ถ้าไม่ไปไม่มีรถมาอีกแล้วนะ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ฉันเลยลากกระเป๋าแล้วเดินไปขึ้นรถ นั่งแบบเกร็งๆนั่นแหละค่ะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยนั่งรถประหลาดแบบนี้เลย

รถอีกคันวิ่งไปก่อน ส่วนฉันก็นั่งหัวสั่นด๊อกแด๊กหลุมห่าเต็มไปหมด หัวใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ รถคันหน้าก็ขับไม่รอเลย ขับเร็วจนลับตาพร้อมกับฝุ่นตลบ

"แค่กๆ" ฝุ่นพีเอ็ม2.5ยังไม่ร้ายเเรงเท่าฝุ่นสีแดงของถนนลูกรัง ให้ตายสิ! หัวฉันแดงเถือกหมดลุคคุณหนูผู้ดีแห่งตระกูลดำรงค์พงษ์เมธา

"อีกไกลไหมคะ?" เป็นครั้งแรกที่ฉันเอ่ยถามเขา ถึงจะหล่อแต่ก็ใช่ว่าจะไว้ใจเขาได้

"ไม่หรอกครับ ทางมันคดเคี้ยวน่ะ ประมานสองโลก็ถึง" เขาพูดแค่นั้นก็จดจ้องมองถนน ขับไปอีกประมาณ1กิโลรถก็กระตุกแล้วดับ ฉันนี่อยากจะกรี๊ดเลย อุปสรรคโคตรอุปสรรค มันเชี่ยอะไรเนี่ย

"ระ...รถเป็นอะไร?"

"น่าจะน้ำมันหมดให้ตายสิ ไอ้สองน่าจะไม่ดูน้ำมันรถก่อนมารับ"

เชี่ย!เชี่ย!เชี่ย! ในใจได้แต่สบถคำนี้ออกมา แล้วจะทำยังไงดีล่ะทีนี้ โอ้ย!

"แล้วจะทำยังไงดีล่ะคะ"

"ทำไงได้ เดินสิครับคุณ!" อร๊าย! เดินอีกเป็นกิโล ให้ตาย! ขาฉันคงแข็งเป็นคนปั่นสามล้อเป็นแน่ กรรมของอีหวาน ย้อนเวลาได้ไหม อยากให้แม่มาส่ง แงงง

ผู้ชายคนนั้นเดินไปตามถนนเล็กๆเข้าป่า ส่วนฉันยังยืนเอ๋อ

"มาสิ ยืนให้ผีหลอกเหรอ ศาลตรงนั้นผีดุนะ" ตรงรถดับมันมีศาลด้วย แค่ได้ยินว่าผีฉันก็หูตั้งแล้ว รีบลากกระเป๋าวิ่งตาม อยากร้องไห้ เขาเดินไม่รอฉันเลย

"ทำไมต้องมาทางนี้" ฉันตะโกนถามแอบเสียวสันหลังวาบ

"ทางลัดน่ะ" กระเป๋าหนักใบก็ใหญ่ยิ่งลากไปตามถนนที่ขรุขระมันก็ยิ่งลำบาก โอ้ย อยากจะทิ้งกระเป๋าจริงๆ ส่วนผู้ชายคนนั้นมีเพียงกระเป๋าเป้ใบเดียวที่เขาสะพาย เขาเดินตัวปลิว ฉันเนี่ยตามแทบไม่ทัน ทั้งกลัวทั้งเหนื่อยทั้งเจ็บมือ

การมาที่โคกควายแดงครั้งนี้ มันคงทำให้ฉันหลาบจำไปตลอดชีวิต

ฉันรีบลากกระเป๋าตามแต่ก็ตามไม่ทัน สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าฉันจะเดินกลับหรือจะเดินต่อรู้สึกลัวไปหมด เสียงแมลงเริ่มร้องดังเซ็งแซ่รู้สึกกลัว มือไม้สั่นจนไม่อาจห้ามปรามได้

ฉันเพิ่งจะเคยมาสถานที่แบบนี้ ถ้าไปต่อก็ไม่รู้ว่าจะหลงในป่าหรือเปล่า แต่ถ้ากลับไปฉันก็กลัวผีอีก ฉันไม่น่าตามไอ้บ้านี่เข้ามาเลย

ฉันยืนละล้าละลังอยู่นานมาก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กะว่าจะโทรหาแม่เผื่อท่านจะมีทางช่วย แต่ปรากฏว่าสัญญาณโทรศัพท์ไม่มี เชี่ย อะไรจะทุรกันดารขนาดนี้

ไอ้บ้านโคกควายแดงหรือไอ้บ้านโคกกระบือแดงเนี่ย ถ้าฉันทำธุระที่ฉันตั้งใจจะทำเสร็จ ฉันจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกเลยคอยดูสิ 😭

ฉันยืนอยู่นานมาก ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปต่อหรือจะพอแค่นี้ กลัวก็กลัว กลัวไปหมด ไปข้างหน้าก็กลัวกลับก็กลัว เวรกรรมของคนสวยที่ต้องมาซวยเพราะสัญญางี่เง่าของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

แล้วมันเป็นความโง่ของฉันเองที่สะเร่อและสาระแนที่ไม่ยอมให้แม่มาส่ง ทั้งที่รู้ตัวเองว่าเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องขนาดไหน ขนาดขับรถไปทำงานทุกวันก็ยังหลงเลยนับประสาอะไรกับการมาบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่แทบจะไม่รู้จักด้วยซ้ำ

"ยืนซื่อบื้ออะไรอยู่เล่า รีบมาสิเดี๋ยวค่ำมืดเสือออกมากินตายหรอก" เสียงเข้มเอ่ยอย่างดุๆ ฉันถึงกับสะดุ้งโหยง รีบหันไปมองเจ้าของเสียงเขายืนเท้าเอวจ้องมองฉัน ทั้งเสือทั้งผีให้ตายสิ

ฉันรีบลากกระเป๋าเดินตรงไปหาเขาถึงแม้ว่าจะทุลักทุเล แต่ก็ยังดีกว่าต้องกลับคนเดียว หรือไปคนเดียว

"เอามา เดี๋ยวฉันจะลากไปให้"

เขาหน้ามุ่ยเดินมาลากกระเป๋าให้ฉัน เพิ่งคิดได้เหรอว่าควรจะลากกระเป๋าให้ฉัน แต่ก็ขอบคุณในใจที่เขาก็ยังมีน้ำใจช่วยทำ

แต่เรื่องการเดินเร็วเนี่ยสุดยอดเลยค่ะขนาดฉันตัวเปล่าไม่ได้มีภาระอะไรแล้วฉันก็ยังเดินแทบไม่ทันเขาพาลัดเลาะไปตามป่า ทางที่มีให้เดินก็ไม่เดินพาบุกป่าฝ่าดงทะลุออกถนนเส้นนั้นเช่นนี้จนฉันอ่อนล้าอ่อนเพลียไปหมด

อยากจะร้องไห้ เหนื่อยหิวเจ็บปวดไปหมด แข้งขาโดนไม้เกี่ยวแสบมาก แต่ฉันก็พยายามหอบหิ้วสังขารตามเขาให้ทัน

จนกระทั่ง....จนกระทั่ง...

จนกระทั่งถึงหมู่บ้านฉันอยากจะร้องไห้ออกมาเลย ในที่สุดฉันก็เจอแล้วบ้านนอกบ้านแห่งความทุรกันดาร นั่นก็คือบ้านโคกกระบือแดง

"เธอจะมาหาใคร ให้ฉันไปส่งหรือเปล่า"

"ฉันมาหาผู้ใหญ่ถึก นายช่วยไปส่งฉันหน่อยสิ" ฉันเอ่ย เรี่ยวแรงก็แทบจะไม่มีแล้วแข้งขาแดงเถือกแสบไปหมด ผู้ชายคนนั้นยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วพาฉันเดินไปจนกระทั่งถึงบ้านไม้ทรงไทยเหมือนในละครสวยมาก

"ผู้ใหญ่ถึกน่าจะอยู่ข้างใน นี่กระเป๋าของเธอ" เขายื่นกระเป๋าให้ฉันแล้วรีบเดินตัวปลิวหายไปเลย ฉันยืนเอ๋ออยู่หน้าบ้านก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป

ตอนนี้มีเจ้าถิ่นตัวเล็กตัวน้อยออกมาต้อนรับฉันอย่างดีเลยเห่ากันเสียงดังระงมพร้อมกับขู่กรรโชกฉัน

ให้ตายสิเหนื่อยสุดๆ แต่ก็มาถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัย...

"นั่นหนูน้ำหวานหรือเปล่า?" ป้าวัยกลางคนตะโกนถามฉันจากชานบ้านฉันได้ยิ้มเจื่อนเหนื่อยไปหมด เรี่ยวแรงที่จะยืนแทบไม่มีแล้ว

"ใช่ค่ะ"

"โอ้ย! ทำไมอยู่ในสภาพนี้ล่ะลูก" ท่านรีบลงบันไดแล้วตรงมาหาฉัน

"พอดีหนูมาเอง เหนื่อยมากๆเลยค่ะรถดับด้วยทำให้ต้องเดินมาบุกป่าฝ่าดงเหนื่อยแทบตาย"

"ทำไมต้องบุกป่าฝ่าดงด้วยล่ะ ถนนมาออกจะสะดวกสบาย รู้ไหมว่าถนนลาดยางมันถึงหมู่บ้านแล้วนะ"

คำตอบของหญิงคนนั้นทำให้ฉันถึงกับเบิกตาโพลง อะไรกันที่บอกว่าถนนหนทางสะดวกสบายแล้ว ทั้งที่ความเป็นจริงฉันต้องนั่งรถถึง 3-4 ต่อไหนจะรถมาดับที่ข้างศาลอีก ให้ตายสิอะไรกันนี่

"คุณป้าบอกว่าถนนลาดยางมันมาถึงที่หมู่บ้านแล้วหรอคะ?"

"ใช่จ้ะถนนลาดยางมาถึงหมู่บ้านแล้ว สะดวกสบายไม่ต้องนั่งรถหลายต่ออะไรทั้งสิ้น หรือว่าหนูน้ำหวานไปโดนใครแกล้งมา ให้ตายสิ ใครมันกล้ามาแกล้งว่าที่ลูกสะใภ้ฉันเนี่ย"

ท่านสบถออกมาด้วยความโมโห ส่วนฉันคิดไปถึงไอ้หน้าหล่อเหลาคนนั้น ให้ตายหน้าหล่อแต่นิสัยเลว แกล้งฉันเดินจนเหนื่อย คิดแล้วแค้นชะมัด

"น้ำหวานเหนื่อยจังค่ะ น้ำหวานอยากอาบน้ำ น้ำหวานอยากพัก"

"งั้นรีบตามแม่ขึ้นไปข้างบนเถอะจ๊ะ จะได้อาบน้ำพักผ่อน เดี๋ยวแม่จะจัดกระเป๋าทำอะไรให้ หนูน่าจะให้แม่น้ำค้างพามาส่งนะจ๊ะ หนูไม่น่ามาเองเลย แต่ก็ยังดีที่มีคนดูแลหนูจนถึงที่นี่"

ใครที่ไหนมันจะมาดูแลฉัน นอกจากแกล้งฉันจนขาลากเนี่ยให้ตายสิ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวานใจนายกำนัน   ตอนพิเศษ 3 (จบบริบูรณ์....)

    ตอนพิเศษ 3น้ำหวานดูเหมือนการตั้งครรภ์ของฉันทุกคนจะรู้กันอย่างรวดเร็ว พ่อแม่พี่สาวพี่เขยและเครือญาติรีบโทรมาหาทุกคนต่างดีใจกันใหญ่ที่ฉันตั้งท้อง"ครับ อดดื่มไปอีกนานเลยครับ คลอดเสร็จผมจะให้หวานเอาลูกเข้าเต้า เธอก็ดื่มไม่ได้อีกครับ" พี่เหมคุยโทรศัพท์ยิ้มแก้มแทบแตก ส่วนฉันได้แต่กรอกตามองบน วนๆไปมา เฮ้อ! ฉันมองท้องตัวเองแล้วลูบท้องตัวเองเบาๆ ความรู้สึกบางอย่างฟูฟ่องในหัวใจ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจให้เขาเกิด แต่ฉันสัญญาว่านับจากนี้ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีแอบรู้สึกผิดที่ผ่านมาฉันดื่มหัวราน้ำตลอด ได้แต่หวังว่าเขาจะสมบูรณ์แข็งแรง ถึงแม้ว่าหมอจะบอกว่าทารกในครรภ์สมบูรณ์แข็งแรงดี แต่ฉันก็อดห่วงไม่ได้หลังจากที่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ฉันก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าฉันจะบำรุงตัวเองจะงดเหล้างดแอลกอฮอล์ แล้วทานแต่ของที่มีประโยชน์"ครับ รับรองว่าผมจะมีหลานให้พ่อพายุกับแม่น้ำค้างหัวปีท้ายปีเลยครับรับรองว่าหวานไม่ได้ดื่มสาโทไปอีกหลายปีเลยครับ ฮ่าๆ" เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างมีความสุข ฉันมองผู้เป็นสามีที่กำลังจะเป็นพ่อคนในอีกไม่กี่เดือนแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ฉันเชื่อว่านับจากนี้ลูกจะเป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในหัวใจระหว

  • หวานใจนายกำนัน   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ2น้ำหวานพี่เหมพาฉันมาบ้าน เขาก็ยิ้มแย้มปกติเหมือนทุกวันนั่นแหละค่ะ อารมณ์ดีจิตใจดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหล่อขึ้นทุกวัน"เอาปลาไปขังนะ เดี๋ยวพี่จะไปทำงานต่อ" พี่เหมยื่นถุงให้ฉัน"แล้วพี่เหมไม่ปวดมือแล้วเหรอ?""ไม่ปวดแล้ว แค่ปลาดุกปักมือเอง""พี่เหม! หวานว่าพี่ควรไปหาหมอนะคะ หวานกลัวพี่จะปวดเหมือนคราวนั้น...""ไม่เป็นไรหรอก พี่ไปทำงานก่อน เป็นคนของประชาชนจะชักช้าไม่ได้" พี่เหมว่าแล้วเดินออกไป แหม่! ผัวใครก็ไม่รู้ดีเลิศประเสริฐศรีเหลือเกินฉันได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของสามีที่เดินออกไปแล้วยิ้มออกมา ชีวิตของฉันตั้งแต่ที่มาที่นี่ฉันได้ฝากเอาไว้ให้กับผู้เป็นสามี ผู้ชายที่แสนดีรักฉันมากมาย ยอมทำทุกอย่างเพื่อฉันและทุกคนส่วนฉันก็เป็นลำยองขี้เมาดื่มสาโททุกวัน วันนี้มีจินมานั่งกินด้วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นกว่าเดิม"คุณหวานรู้หรือเปล่าว่าพ่อผู้ใหญ่ทำสาโทสูตรพิเศษด้วย" ฉันถึงกับหูผึ่งหันไปมองจิน"ว่าไงนะ?""ผู้ใหญ่ทำสาโทชุดใหม่""ทำที่ไหน?""ตรงยุ้งข้าวข้างๆคอกวัว""ไปดูกัน""จินดูมาแล้ว อาทิตย์หน้าก็น่าจะกินได้""หวานอยากดู" ฉันรบเร้าจินให้พาไปดู "พาไปดูหน่อยนะ""ก็ได้" ฉันยิ้มร่ารีบหยิ

  • หวานใจนายกำนัน   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ1น้ำหวานใครจะไปคิดล่ะคะว่ามาอยู่บ้านนอกคอกนาจะโคตรดี ชีวิตคุณหนูที่ฉันเคยชินแล้วใช้มาตลอด จะมาสิ้นสุดที่บ้านนอกคอกนาแสนกันดาร บ้านนอกที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง หรือบางที่มีสัญญาณแต่ก็วิ่งช้ายิ่งกว่าเต่าถนนน่ะหรือ!หึ! ทุรกันดารหลุมบ่อยังคงมีอยู่ กำนันเหมหรือพี่เหมของน้ำหวานสุดสวย ก็จัดการบริหารของบประมาณมาสร้างถนนบ้างแล้ว แต่ก็ยังเหลือถนนที่ยังเป็นหลุมเป็นบ่อให้คนได้นั่งรถตกหลุมกระแทกเอวแทบหักอยู่ ก็บ้านนอกอ่ะเนาะ เอาไรมากมายแต่ก็ช่างมัน ต่อให้ลำบากยากเย็นขนาดไหน น้ำหวานคนนี้ก็พร้อมที่จะอยู่5555 ผัวที่รักอยู่ที่นี่จะให้ไปไหนล่ะคะ อีกอย่างน้ำหวานในไหรับประทานง่ายก็อยู่ หากินที่กรุงเทพไม่มีนะที่รัก ฮ่าๆฉันเดินตรงไปที่ครัวของบ้านริมน้ำ พ่อสามีหรือพ่อผัวนั่นแหละอีดอก ทำสาโทเอาไว้ให้ โคตรดีเลย เขารู้ว่าฉันชอบเขาก็เลยทำให้กินโดยมีข้อแม้ว่า ฉันต้องดื่มที่บ้านเท่านั้น...เออ...ดื่มที่บ้านก็ที่บ้านสิ ขอเพียงแค่ได้ดื่มจะดื่มที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ ใช่ไหม....โอ๊ย สาโทที่ฉันชอบผ่าน้ำเรียบร้อย ฉันรีบหยิบแก้วแล้วเปิดไห มือฉันนี่สั่นเชียว(มึงจะสั่นไปไหนอีดอก นับวันกูยิ่งเหมือนลำย

  • หวานใจนายกำนัน   Chapter 31 (จบ)

    Chapter 31เหมราชผมมองริมฝีปากบางเล็กของผู้เป็นภรรยาอย่างลุ้นๆ นัยน์ตากลมโตเอ่อคลอด้วยน้ำตาเม็ดใสเธอเม้มปากแน่น จ้องมองแก่นกายที่กำลังแข็งขืนสู้มือเพียงแค่จินตนาการว่าปากนุ่มนิ่มของเธอสัมผัสกับส่วนนั้น ผมก็รู้สึกวูบวาบ ในท้องของผมมันปั่นป่วนราวกับมีผีเสื้อนับพันบินวนอยู่ข้างใน"หวานจ๋า" ผมลูบที่ผมของเธอเบาๆ น้ำหวานช้อนตาขึ้นมองผมเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงจ้องมองไปที่ปลายหยักฉ่ำเยิ้ม"พะ...พี่เหม" เธอเรียกผมเบาๆ"พี่ปวดมากเลยรู้ไหม ถ้าหวานไม่ช่วยพี่พี่ตายแน่ๆ" ตอแหลไปอีก5555"หวานจะช่วยพี่ค่ะ" เอาแล้วๆภรรยาผู้ไม่ค่อยทันคนของผมเอ่ยเสียงเบา เธอจ้องมองแก่นกายแล้วก้มลงครอบครอง ลิ้นร้อนๆโดนปลายหัวเห็ด ตายๆฟินแสงออกตา เสียวจนขนหัวลุก"เอาลิ้นสะกิดแล้วดูดมันที่รัก อ๊า" ผมครางออกมาอย่างซ่านเสียว มันเสียวมากมือผมเลื่อนไปกำผมของเธอเอาไว้แน่นแล้วโยกขึ้นโยกลง น้ำหวานไม่ปฏิเสธแต่ยอมให้ผมกระทำแต่โดยดี"อื้อ" เธอใช้มือดันหน้าขาของผม เสื้อคอกว้างมองจนเห็นอกขาวๆ โอ้ย ผมโคตรมีอารมณ์จนแทบหลั่งลาวาขาวขุ่นออกมา'เย็นไว้เหมราช วันนี้ยังไงก็ได้กินเมียรัก'"อื้อ" เสียวพุ่งทะยาน ผมเกร็งเท้าบิดกายไปมา"พี่เหมปวดมาก

  • หวานใจนายกำนัน   Chapter 30

    Chapter 30 เหมราชและแล้ววันสำคัญก็มาถึง ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดคือช่วงเวลาที่ผมกับน้ำหวานมาอยู่ที่กระท่อมที่นา มันมีความรู้สึกดีๆแย่ๆความรู้สึกที่แสนวิเศษอยู่ที่นี่ตอนที่เจ็บสุดๆผมก็แทบจะร้องไห้ แต่ตอนที่มีความสุขมันก็สุขจนแทบสำลักความสุขวันนั้นหลังจากที่เคลียร์เรื่องบ้านของยายแดงเสร็จ ผมกลับมาบ้านป้าบๆกันแล้วพูดเรื่องต่างๆ เราสองคนก็เลยตกลงกันว่าเราจะแต่งงานกันที่นี่งานแต่งของเราดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่งกันแบบประเพณีอีสาน ผู้หลักผู้ใหญ่ต่างก็ให้พร ชีวิตคู่ของผมนับจากนี้จะมีแต่นางสาวปวีร์สุดา ดำรงค์พงษ์เมธา ไม่สิ นางสาวปวีร์สุดา บุตรประเสริฐ เป็นภรรยาของผมนายเหมราช บุตรประเสริฐแต่เพียงผู้เดียว"อร้ายยย อีหวาน ไหนมึงบอกกูว่ามึงจะไม่เอาผัว! อีดอกทอง!" น้ำเสียงแปร๋นๆเอ่ยขึ้น น้ำหวานถึงกับหน้าเจื่อน "อีควัย บอกจะไม่เอาผัวชื่อเหมหรือไอ้ตืออะไรนี่แหละ แต่ป้ายชื่อเจ้าบ่าวชื่อเหมราชชื่อเพราะเชียวแถมหล่ออีกต่างหาก" ผู้หญิงอีกคนยิ้มหวาน"เบาๆหน่อย กูอายเขา" น้ำหวานพูดเบาๆ เมียผมเนี่ยถึงกับทำท่าทางเลิ่กลั่กดูกระอักกระอ่วนใจแปลกๆ เธอคงจะพูดเอาไว้เยอะสิว่าไม่อยากมีผัว พอมีก็โดนเพื่อนแซวบ

  • หวานใจนายกำนัน   Chapter 29

    Chapter 29น้ำหวานวันนี้ครบทีมค่ะ แม่ผัวก็เอาด้วย พี่เหมราชกุมขมับตัวเอง คงจะปวดหัวกับพวกฉันแต่ใครจะสนล่ะคะฉันสูน เอ้ย! ฉันโมโห เบื่อจริงๆ คนเชี่ยๆแบบนี้ ฉันบอกว่าจะจ่ายเงินให้วันนี้ แต่มันเพิ่งจะเช้าเอง มันก็มาก่อกวนแล้ววันนี้สิ้นสุดตอนเที่ยงคืน แต่พวกมันดันเสือกเสร่อสาระแนรีบมาก่อกวน คงกลัวฉันไม่มีเงินจ่ายสินะ นี่มันไม่รู้เหรอว่าฉันลูกใคร หึ (กอดอกมองบนค่ะ)ยายแดงเห็นหน้าพวกฉันก็ดีใจมาก ท่านลุกจากแคร่ใต้ถุนบ้าน ท่านเดินหลังคร่อมถือไม้เท้า ดูแล้วน้ำตาจะไหล ท่านเหมือนทวดผ่องศรีเลยแต่ทวดของฉันท่านสบายมีพี่คชากับพี่พิกุลคอยดูแล กิจการต่างๆรุ่งเรือง เพราะพวกพี่ๆเขาบริหารในบั้นปลายชีวิตของพวกท่าน กลับดีกว่ายายแดงมาก คิดแล้วสงสารจับใจเลยค่ะ ท่านน่าจะมีลูกหลานคอยดูแล แต่ยายแดงกลับไม่มีแบบนั้นนอกจากจะไม่มีใครดูแลแล้วยังมีลูกหลานตัวดีใครสร้างปัญหาให้อีก ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งรู้สึกโมโหจนอยากจะเจอหน้าแล้วตะบันหน้าให้ยับเยินไปเลย"หนูน้ำหวานช่วยยายด้วยนะ""หวานช่วยแน่นอนค่ะ""ไม่ต้องห่วงค่ะ ใครมันกล้าก็ลองดู" แม่ฉันพูดขึ้น ท่านเอาจริงมาก สมัยเป็นสาววีรกรรมท่านเยอะ พ่อฉันท่านไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status