공유

บทที่ 2 บุรุษโรคจิต

last update 최신 업데이트: 2025-06-14 12:02:04

เพราะยามนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิอากาศจึงค่อนข้างดีเป็นอย่างมาก เช้าวันต่อมาหลังจากรับมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จางลู่หลินก็มุ่งหน้าออกจากจวนไปทันที อีกไม่นานก็จะต้องแต่งงานแล้ว นางไม่รู้ว่าสามีของนางจะเป็นพวกโรคจิตชอบขังภรรยาเอาไว้แต่ในห้อง หรือเป็นพวกหัวโบราณชอบให้สตรีหมอบกราบหรือไม่ อย่างไรตอนนี้นางจะต้องหาอิสระให้ตนเองเสียหน่อย

โรงน้ำชาเหวินไหล

จางลู่หลินมองป้ายชื่อโรงน้ำชาตรงหน้าคราหนึ่ง โรงน้ำชาเหวินไหลเป็นโรงน้ำชาอันดับหนึ่งในเมืองหลวงหนานฉี ทุกๆวันจะมีการแสดงจากคณะละครเลื่องชื่อให้ดูชม ทั้งยังมีการร่ายรำจากเหล่าสาวงาม แล้วยังมีขนมและอาหารเลิศรสอีกมากมายเอาไว้บริการลูกค้า จางลู่หลินในชาติก่อนชอบความบันเทิงเริงรมย์ นางเที่ยวสถานที่อโคจรทุกคืนเพราะที่บ้านมีฐานะร่ำรวย ในยุคโบราณเช่นนี้มีที่เที่ยวไม่มากนัก โรงน้ำชา เหลาสุราก็นับว่าเป็นสถานที่ผ่อนคลายที่ไม่เลวนัก

ไม่รู้ว่านางจากมาเช่นนี้พ่อแม่ในยุคปัจจุบันจะเศร้าเสียใจมากสักเพียงใด

นางเคยลองคิดหาวิธีกลับไปยังโลกปัจจุบันแต่กลับไม่เป็นผล ในเมื่อกลับไปไม่ได้ย่อมต้องยอมรับความจริงเสีย

"แม่นางน้อย ท่านช่างเลือกเวลามาได้เหมาะเจาะเลย วันนี้โรงน้ำชาเหวินไหลของเรามีละครเรื่องใหม่ ชื่อเรื่องว่า พระชายาที่รัก รับรองว่าสนุกแน่นอน"

เถ้าแก่โรงน้ำชาถึงกับออกมาต้อนรับลูกค้าด้วยตนเองอย่างหาได้ยาก เขาเอ่ยกับจางลู่หลินอย่างนอบน้อม จางลู่หลินเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก นางมองสำรวจโดยรอบพบว่าบรรยากาศภายในโรงน้ำชาแห่งนี้ไม่เลวเลย

"ข้าอยากได้ที่นั่งบนชั้นสองที่สามารถมองเห็นคณะละครได้ชัดเจน"

"เชิญขอรับ อ้อ โต๊ะชั้นสองค่อนข้างมีราคาแพงมาก"

"พูดมากจริง ข้ามีปัญญาจ่ายเงินให้เจ้าก็แล้วกัน"

"ข้าน้อยเพียงเอ่ยหยอกเย้าเพียงเท่านั้น เชิญคุณหนูขอรับ"

จางลู่หลินพาหลิงหลิงและตงฟางเดินเข้ามาในโรงน้ำชาด้วยกัน นางให้ตงฟางมาเป็นสาวใช้ข้างกาย เพราะตงฟางทำงานเก่งและยังมีเรื่องสนุกมาเล่าให้นางฟังมากมาย

หญิงสาวเยื้องย่างเดินขึ้นไปบนชั้นสองอย่างไม่รีบไม่ร้อน ระหว่างทางมีบุรุษมากหน้าหลายตามองมาที่นางด้วยความสนใจ อาจเพราะก่อนหน้านี้มีข่าวเล่าลือว่านางกำลังจะได้อภิเษกสมรสกับองค์ชายใหญ่ จึงทำให้ยิ่งเป็นจุดสนใจของผู้คนในโรงน้ำชาไม่น้อย

เหล่าบุรุษมองนางอย่างนึกเสียดาย ส่วนเหล่าสตรีก็มองนางด้วยแววตาริษยา แต่จางลู่หลินคร้านจะใส่ใจ นางเดินมาหย่อนกายนั่งลงที่เก้าอี้ พร้อมกับสั่งขนมและน้ำชามาหลายอย่าง รออยู่ไม่นานน้ำชาและขนมชั้นดีก็มาวางอยู่ตรงหน้า พร้อมกับยามนี้คณะละครก็เริ่มทำการแสดงแล้ว

“นี่หลิงหลิง ตงฟาง นั่งลงสิ จะยืนอยู่ทำไมกัน”

หลิงหลิงและตงฟางมองหน้ากันคราหนึ่ง เป็นหลิงหลิงที่เอ่ยขึ้นมา

“บ่าวสองคนเป็นเพียงสาวใช้ นั่งร่วมโต๊ะกับเจ้านายเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่งเจ้าค่ะ”

จางลู่หลินเมื่อได้ยินก็เข้าใจได้ว่ายุคนี้มักจะแบ่งแยกฐานันดรศักดิ์กันอย่างชัดเจน นางพยักหน้าเล็กน้อย และแบ่งขนมให้สาวใช้ทั้งสองอย่างไม่ตะหนี่ถี่เหนียว

จางลู่หลินชมละครตรงหน้าอย่างสนใจ เรื่องที่แสดงวันนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องของสตรีนางหนึ่งที่แต่งเข้ามาเป็นพระชายาองค์ชายแทนน้องสาว สุดท้ายเพราะความดีของนางจึงทำให้องค์ชายเสเพลหลงรักจนหมดหัวใจ

จางลู่หลินลอบส่ายหน้าไปมา น้ำเน่าสิ้นดี ความดีบางครามันก็เปลี่ยนใจคนไม่ได้ด้วยซ้ำ

ไม่ห่างกันนักมีบุรุษผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะน้ำชาบนชั้นสองไม่ไกลจากโต๊ะของจางลู่หลินเท่าใดนัก เขาสวมผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังแต่งกายคล้ายบัณฑิต ชายหนุ่มยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มพร้อมกับปรายตามองจางลู่หลินอย่างไม่ใส่ใจ

"องค์.."

"หุบปาก ข้าบอกแล้วว่ายามที่ออกมานอกจวนอย่าเรียกข้าเช่นนี้"

หลี่เหว่ยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ จี้เฟินองค์รักษ์ของเขาช่างไม่รู้ความเอาเสียเลย เขาอยากเที่ยวชมความบันเทิงสำราญใจไม่อยากตกเป็นที่จับจ้องของใครจึงปลอมตัวเข้ามา 

"นั่นคือคุณหนูจวนใด"

เขาเอ่ยพร้อมกับยกมือชี้ไปที่จางลู่หลิน เขาจำได้ว่าสตรีนางนั้นคือสตรีคนเดียวกันที่ทุบตีบุรุษหน้าหอนางโลมเมื่อหลายวันก่อน 

จี้เฟินหันมองไปตามมือของหลี่เหว่ย และรีบเอ่ยตอบ

"เรียนนายท่าน นางคือคุณหนูจางลู่หลิน ว่าที่พระชายาเอกของท่านอย่างไรเล่า"

ว่าอย่างไรนะ!

หลีเหว่ยถึงกับพ่นน้ำชาออกมาจากปากแทบจะทันควัน มารดามันเถอะ พระชายาเอกของเขาอย่างนั้นหรือ

ไหนเสด็จพ่อบอกว่านางเป็นสตรีที่อ่อนหวานนุ่มนวลอย่างไรเล่า

นุ่มนวลกับผีน่ะสิ เสด็จพ่อต้องตามืดบอดไปแล้วเป็นแน่ 

สตรีใจคอหยาบกระด้างเช่นนี้น่ะหรือที่จะแต่งเข้ามาเป็นพระชายาเอกของเขา!

จางลู่หลินที่กำลังดื่มชาชมคณะละครพลันรู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมองนางอย่างเอาเป็นเอาตาย จึงหันขวับไปมอง แต่กลับพบว่าไม่มีใครเลยสักคน ม่ีแต่บุรุษที่ใช้ผ้าปิดหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากนางเท่าใดนัก อีกทั้งยังนั่งท้าวคางหลับตาราวกับไม่ใส่ใจโลกเสียอย่างนั้น

นางคงคิดมากไปกระมัง

การแสดงละครจบลงแล้ว จางลู่หลินเบื่อหน่ายเกินจะทน ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจเลยสักนิดเดียว นางเดินออกมาจากโรงน้ำชา ประจวบเหมาะกับที่บุรุษปิดหน้าคนนั้นก็เดินออกมาจากโรงน้ำชาเช่นเดียวกัน จางลู่หลินไม่ได้สนใจ นางหันมาเอ่ยกับหลิงหลิงและตงฟางทันที

"ได้ยินว่าในเมืองหลวงมีโรงพนันอยู่แห่งหนึ่ง ข้าอยากไปชมเสียหน่อย"

หลิงหลิงตกใจเป็นอย่างมากรีบเอ่ยทัดทานเจ้านายอย่างร้อนรน

"คุณหนูเจ้าคะ สถานที่เช่นนั้นไม่เหมาะกับสตรีนะเจ้าคะ"

"ผู้ใดมันตั้งกฎขึ้นมากัน ว่าสตรีเข้าโรงพนันแล้วไม่เหมาะ ทีบุรุษยังเข้าได้เลย คร่ำครึเกินจะทน สตรีเล่นการพนันไม่ได้อย่างนั้นหรือ ข้าจะไปโรงพนัน รีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้"

เอ่ยจบนางก็สั่งให้คนขับรถม้าพาไปที่โรงพนันทันที หลี่เหว่ยย่นหัวคิ้ว เขารีบตามจางลู่หลินไปอย่างลับๆ

เขาจะไปดูเสียหน่อยว่านางจะทำสิ่งใดต่อไป หากว่านางเป็นพวกไม่เอาไหน เขาจะกราบทูลเสด็จพ่อขอให้ยกเลิกการแต่งงานนี้เสีย เดิมทีเขาก็ไม่ได้อยากแต่งงานอยู่แล้ว

เมื่อมาถึงโรงพนันก็พบว่ามีชายหนุ่มร่างสูงหน้าบากคนหนึ่งเฝ้าอยู่หน้าประตู เขาใช้สายตาคมจ้องมองนางอย่างพิจารณาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่เมื่อจางลู่หลินยื่นตั๋วเงินให้เขาสองร้อยตำลึง บอกว่าจะเข้าไปเล่นการพนันด้านใน เขาก็ต้อนรับนางเป็นอย่างดี จางลู่หลินให้หลิงหลิงและตงฟางรออยู่ที่รถม้าไม่ต้องตามนางเข้าไป

จางลู่หลินเล่นการพนันทุกอย่างสลับหมุนเวียนกันไป ทักษะการเล่นของนางนับว่าดีไม่น้อย ผ่านไปชั่วครู่ก็ได้เงินมาจำนวนไม่น้อย เล่นอยู่นานแล้วรู้สึกเบื่อจึงคิดจะกลับ ทว่ากลับมีบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามารั้งแขนของนางพร้อมเอ่ยวาจาแทะโลม

"แม่นางน้อย เจ้ากำลังมือขึ้นจะรีบกลับไปทำไมกัน มิสู้มาเล่นกับพี่ชายอีกสักตาหนึ่งดีหรือไม่ เล่นเสร็จแล้วพวกเราก็ไปต่อกันที่อื่น จวนข้ากำลังต้องการสาวงามไปเป็นอนุอยู่พอดี"

จางลู่หลินยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะยกเท้าเตะเสยปลายคางบุรุษปากมากผู้นั้นจนสลบเหมือด หลี่เหว่ยที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับสะดุ้งตกใจเป็นอย่างมาก

นางทุบตีคนอีกแล้ว หยาบกระด้างจิตใจเลวร้ายเป็นที่สุด!

จางลู่หลินไม่สนใจบุรุษบัดซบผู้นั้นอีก นางคิดจะกลับเพราะได้เงินมามากพอแล้ว ในขณะที่กำลังจะเดินออกมาจากโรงพนันนางกลับมองเห็นบุรุษที่สวมผ้าปิดหน้ากำลังมองนางอยู่ จางลู่หลินจำได้ว่านางพบเขาที่โรงน้ำชาก่อนหน้านี้ เหตุใดยังมาเจอเขาที่โรงพนันอีก นางรู้สึกว่ามันดูแปลกๆ

หรือว่าเขาจะตามนางมา

เมื่อคิดได้อย่างนั้นจางลู่หลินก็ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น นางแกล้งเดินนวยนาดไปที่รถม้า ก่อนจะหันขวับกลับมาและพบกับชายหนุ่มปิดหน้าคนนั้นอีกครั้ง เขาเดินตามนางมาจริงๆ

หลี่เหว่ยถึงกับตกใจไม่น้อย เขาไม่คิดว่าจางลู่หลินจะรู้ตัวเร็วเช่นนี้ นางปรายตามองเขาอย่างเย็นชาพร้อมกับเดินเข้ามาหาเขาอย่างเกรงกลัว

"นี่พี่ชาย ท่านตามข้ามาหรือ มีเรื่องใดกับข้าหรือไม่"

จางลู่หลินเอ่ยถามหลี่เหว่ยด้วยน้ำเสียงคาดคั้น ชายหนุ่มถอยหลังหนึ่งก้าวพร้อมกับมองจางลู่หลินอย่างนึกรังเกียจ

"ข้าไม่ได้ตามเจ้า ข้าไม่มีทางตามสตรีจิตใจหยาบกระด้างเช่นเจ้า"

จางลู่หลินเบ้ปากคราหนึ่ง นางตวัดสายตามองหลี่เหว่ยอย่างไม่สบอารมณ์

"เช่นนั้นก็ไสหัวไปสิ มาตามข้าทำไมกัน น่ารำคาญ"

หลี่เหว่ยไม่คิดเลยว่าจะถูกสตรีเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขา โทสะจึงพุ่งประทุทันที จางลู่หลินด่าเขาเสร็จก็หันหลังเดินจากไป เขาทนไม่ไหวคิดจะตามนางไปและบอกว่านางไม่คู่ควรกับเขา แต่ผู้ใดจะรู้ว่าอยู่ๆจางลู่หลินก็หันหลับมา และยกเท้าเตะเข้ามาที่หว่างขาของเขาอย่างเต็มแรง หลี่เหว่ยพลันทรุดลงกับพื้น จี้เฟินที่เห็นเหตุการณ์ก็คิดจะปรากฏตัวเพื่อช่วยเจ้านาย แต่กลับถูกหลี่เหว่ยตวัดสายตาห้ามเอาไว้เสียก่อน

มารดามันเถอะ นางเตะท่อนสวรรค์ของเขา

"จำไว้ อย่ามารุ่มล่ามกับสตรีอีก และข้าไม่ใช่สตรีน้อยอ่อนหวานอ่อนโยนที่ท่านจะมาเกี้ยวพาอย่างหน้าไม่อายได้ ขืนยังไม่ฟังคราวหน้าข้าเตะเสยปลายคางท่านแน่"

เอ่ยจบนางก็จากไป ทิ้งให้หลี่เหว่ยนั่งกุมเป้าอยู่หน้าโรงพนันอย่างน่าเวทนา

วังหลวง

"เสด็จพ่อเสด็จแม่ นางเตะหว่างขาลูกจริงๆนะพ่ะย่ะค่ะ จี้เฟินองค์รักษ์ของลูกก็เห็นกับตา นางไม่ได้อ่อนโยนอย่างที่พวกท่านคิดเลยนะพ่ะย่ะค่ะ งานแต่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว!"

ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกับหันมามองสวีฮองเฮาคราหนึ่ง สวีฮองเฮายกถ้วยชาขึ้นดื่ม พร้อมกับเอ่ยถามหลี่เหว่ยอีกหน

"นางเตะเจ้าจริงๆหรือ ให้ตายเถอะ"

เมื่อเห็นว่าเสด็จแม่ดูเหมือนจะเข้าข้างและเห็นดีเห็นงามกับการยกเลิกงานแต่ง หลี่เหว่ยก็รีบใส่ไฟจางลู่หลินหนักเข้าไปอีก

"พ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งนางยังทุบตีบุรุษอื่น เข้าโรงพนันเป็นว่าเล่น สตรีเช่นนี้ไม่เหมาะจะเป็นพระชายาของลูก ขืนให้นางแต่งเข้ามา นางอาจจะทุบตีลูกจนพิการก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ"

สวีฮองเฮาพยักหน้า ก่อนจะยิ้มและเอ่ยกับหลี่เหว่ย

"เป็นสตรีที่น่าค้นหาทีเดียว เรื่องเข้าโรงพนันไว้ข้าจะสั่งสอนนางเอง"

หลี่เหว่ยหนังตากระตุก เขารีบเอ่ยถามมารดาด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัย

"เสด็จแม่ เอ่ยเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน"

"จะอันใดอีกเล่าเจ้าลูกโง่นี่ แม่ชอบนางมากทีเดียว นางถึงกับกล้าทุบตีเจ้าเช่นนั้นแม่ก็วางใจได้แล้ว หลังจากแต่งงานกัน หากเจ้ายังไม่เอาไหนอีก นางจะได้ทุบตีสั่งสอนเจ้า ให้ตายเถอะ แม่อยากเห็นนางเตะเสียปลายคางเจ้าสักครั้งจริงๆ"

หลี่เหว่ย "......."

ช่วยบอกเขาที เขาใช่บุตรที่เสด็จแม่คลอดออกมาจริงๆใช่หรือไม่!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   ตอนจบ

    หลังจากดื่มกินกันอย่างสำราญใจ เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงกลางดึก หลี่เหวยกลับมายังที่พักของตน ก่อนจะพบว่ายามนี้จางลู่หลินยังคงไม่เข้านอน หญิงสาวเอาแต่มองดวงจันทร์ที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่วูบไหว เขาที่เริ่มมึนเมาเล็กน้อย ตรงเข้าไปกอดนางจากทางด้านหลัง ก่อนจะซบใบหน้าลงไปที่ซอกคอขาวเนียนของนาง พลางเอ่ยถาม"พระจันทร์น่ามองตรงที่ใดกัน ข้ายังน่ามองกว่าตั้งเยอะ"จางลู่หลินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง "หลงตนเองเกินไปแล้ว"หลี่เหว่ยหันตัวนางให้กลับมามองเขา จางลู่หลินมองสบตากับบุรุษตรงหน้าเล็กน้อย"จางลู่หลิน เจ้ามันน่ารังเกียจ น่ารังเกียจยิ่งกว่าผู้ใด"เพียงเขาเอ่ยปากพูดก็เอาแต่พ่นวาจาเหน็บแนมนางจนนางคร้านที่จะถกเถียงกับเขาแล้ว หญิงสาวยื่นสองมือไปประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ และพินิจมองอย่างชื่นชม"หลี่เหว่ย ข้าว่า ข้าคงชอบท่านเข้าแล้วล่ะ ไม่สิ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ชอบเท่านั้นแต่ข้าหลงรักท่านแล้วต่างหาก"หลี่เหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นแววตาก็ทอประกายวูบไหว เขาไม่ได้เมามายถึงขนาดขาดสติ ย่อมฟังวาจาที่นางกล่าวออกมาได้อยางชัดเจนแจ่มแจ้ง ใจของเขาเต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าค

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   ตอนที่ 31 ชัยชนะ

    เมื่อสงครามจบลง หลี่เหว่ยได้สั่งให้ฝังศพเหล่าทหารกล้าเอาไว้ที่ริมแม่น้ำซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามที่สุดในชายแดน อีกทั้งยังเทสุราลงบนพื้นเป็นการไว้อาลัยให้กับพวกเขาที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมาจนได้รับชัยชนะหลายบ้านที่บุตรชายกลับมาอย่างปลอดภัยล้วนดีใจเป็นอย่างมาก แต่บ้านที่ต้องสูญเสียบุตรชายในสนามรบต่างเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง หลี่เหว่ยเองก็ปลอบประโลมพวกเขาเป็นอย่างดีเมื่อได้เห็นว่าเขาอ่อนโยนกับเหล่าชาวบ้านเช่นนี้ จางลู่หลินก็นับว่าได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย เขาเอาใจใส่ราษฎรเป็นอย่างดี เรื่องเล็กๆน้อยๆล้วนคิดอ่านอย่างละเอียดรอบคอบก่อนหน้านี้ที่หลี่หรงลอบนำกองกำลังทหารออกไปได้ และจัดการเผาทำลายหมู่บ้านหลานฮวา โชคดีที่หลีเหว่ยส่งคนเฝ้าจับตาดูมานานจึงช่วยเหล่าชาวบ้านออกมาได้ ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่เมืองหนานหลิงและปลอดภัยดี เฟิ่งเฉวียนก็ให้การดูแลพวกเขาอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเมื่อได้รับชัยชนะ แน่นอนว่าย่อมต้องมีการเฉลิมฉลอง เหล่าชาวบ้านในชายแดนชำนาญการล่าสัตว์และใช้เหยี่ยว อาหารที่นำมาเลี้ยงฉลองจึงมีแต่อาหารที่ชาวบ้านกินกันเป็นประจำ แต่หลี่เหว่ยกลับไม่ได้รังเกียจ เขาร่วมดื่มกินกับเหล่าทหารอย่

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 30 สงคราม

    เมื่อแผนการถูกเปิดเผย แน่นอนว่าหรงหวาที่เป็นท่านหญิงผู้มาจากแคว้นฉานซี รวมถึงคนของแคว้นฉานซีทั้งหมดต้องถูกจับตัวมาขังเอาไว้เพื่อรอการไต่สวนเว้นแต่อาซาน ที่หลี่เหวยพาเขาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อของตนและบอกความจริงทุกอย่างจนกระจ่างแจ้ง ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนยามนี้ล้มป่วยหนักจึงยกมอบเรื่องราวทุกอย่างให้หลี่เหว่ยเป็นคนจัดการ หลี่เหว่ยจึงเสนอความเห็นว่าจะให้อาซานร่วมรบกับแคว้นฉานซี เขาจะทำได้หรือไม่ที่ต้องสู้รบกับแคว้นบ้านเกิดของตน อาซานกลับรับปากโดยไม่ลังเล เขาบอกเพียงว่าขอเพียงหลี่เหว่ยไม่ทำร้ายราฎรผู้บริสุทธิ์ของแคว้นฉานซีเขาก็ยินดีร่วมรบ ส่วนท่านอ๋องและขุนนางชั่วทั้งหลายก็แล้วแต่เวรแต่กรรมเถิดหลี่เหว่ยนับถือในความเด็ดเดี่ยวของอาซาน นับว่าคนผู้นี้ยังมีสติปัญญารู้คิดว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาว หลี่เหว่ยก็ได้ทราบข่าวที่ส่งมาจากมู่กุ้ยเหมยที่อยู่ชายแดนว่า หลี่หรงนำกองทัพของตนเข้าร่วมกับแคว้นฉานซี บุกโจมตีชายแดนแคว้นหนานฉีอย่างบ้าคลั่ง ยามนี้ทหารล้มตายไปไม่น้อย ยามนี้นางพยายามต้านอย่างสุดกำลัง ขอให้เขาส่งกำลังเสริมมาช่วยนางโดยด่วนฮ่องเต้หลี่เจี้ยนมีราชโองการให้หลี่เหว่ยยนำกองทัพไปปราบ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 29 จุดจบคนชั่ว

    "ว่าอย่างไรนะ คนหายไปแล้วอย่างนั้นหรือ หายไปได้เช่นไรกัน!"หรงหวาที่ได้ยินองค์รักษ์ลับเข้ามารายงานว่าบิดามารดาของอาซานได้หายออกไปจากจวนของแม่ทัพใหญ่มู่แล้วนางก็กำมือแน่น อีกทั้งยังลอบก่นด่าคนตระกูลมู่ในใจเป็นร้อยเป็นพันครั้งก่อนหน้านี้ตอนที่เดินทางมาแคว้นหนานฉีชินอ๋องหลี่หรงลูกพี่ลูกน้องของนางที่เกิดจากน้องสาวของท่านพ่อ ได้ฝากฝังนางให้แม่ทัพใหญ่มู่คอยดูแล นางจึงส่งบิดามารดาของอาซานไปคุมขังเอาไว้ที่ห้องใต้ดินของจวนตระกูลมู่ อีกทั้งยังให้แม่ทัพใหญ่มู่ทรมานคนตามที่นางสั่ง แม่ทัพใหญ่มู่เป็นคนของชินอ๋องหลี่หรง และเขาเองก็ร่วมมือกับแคว้นฉานซีต้องการจะโค่นล่มแคว้นหนานฉีเช่นเดียวกัน ความแค้นหนหลังของแม่ทัพใหญ่มู่และฮ่องเต้หลี่เจี้ยนนั้นนางไม่ได้ทราบรายละเอียดมากเท่าใดนัก แต่ก็นับว่าดีไม่น้อยที่มีคนหนุนหลังคอยช่วยเหลือแคว้นฉานซีของนาง ซ้ำยังเป็นถึงแม่ทัพใหญ่มากฝีมือแห่งแคว้นเสียด้วยแต่ยามนี้คนกลับหายไป ไม่เพียงเท่านั้น เหล่านักโทษที่ถูกขังเอาไว้ในคุกใต้ดินของจวนตระกูลมู่ก็หายไปด้วยเช่นกัน หากเรื่องราวนี้รู้ถึงหูของฮ่องเต้หลี่เจี้ยนเกรงว่าแม้แต่นางก็อาจจะไม่รอดที่สำคัญ ยามนี้ไม่มีบิดามารดาขอ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 28 เอาใจภรรยาอีกหน

    ด้านหลี่เหว่ยนั้นก็ได้บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เสด็จพ่อของตนฟัง รวมถึงบอกว่าคนที่ถูกจับมาจะสามารถเป็นพยานอย่างดีให้พวกเราได้ และแม่ทัพใหญ่มู่ก็ไม่อาจหนีรอดจากการจับกุมในครั้งนี้ไปได้ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนกัดฟันกรอด เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าแม่ทัพใหญ่มู่จะทรยศและหักหลังเขาเช่นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าก็เคยร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบด้วยกันมา ต่อสู่ฝ่าฟันทุกอย่างมาด้วยกัน แต่วันนี้กลับคิดทรยศหักหลังเขาได้อย่างเลือดเย็น"รักษาคนที่ถูกจับให้หายดี แล้วทำการไต่สวนพวกเขา หาหลักฐานให้ได้มากที่สุด อีกไม่นานพวกมันคงจะรู้ตัวแล้ว เราต้องรีบจัดการก่อนที่คนร้ายจะไหวตัวทัน""พ่ะย่ะค่ะ""ที่สำคัญ พ่อเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่มู่คงไม่อาจจะวางแผนการนี้ได้คนเดียว ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเขาเป็นแน่ เจ้าจงระวังเอาไว้ให้ดี""ลูกทราบแล้ว เช่นนั้นลูกขอตัวก่อน"“อืม”เมื่อไม่มีสิ่งใดแล้วหลี่เหว่ยจึงกลับมาที่จวนของตน เขายังไม่ได้บอกเรื่องของอาซานให้เสด็จพ่อทรงทราบ เพราะเรื่องของแม่ทัพใหญ่มู่ก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว เรื่องอื่นเขายังจัดการด้วยตนเองได้ หากหรงหวายังไม่ยอมรามือจากน้องสาวของเขา เขาจะไม่เก็บนางเอาไว้ คงทำได้เพียงส่งศีรษะของนางกลับ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 27 ช่วยเหลือ

    มู่กุ้ยเหมยขมวดคิ้วมุ่น นางสบตากับหลี่เหว่ยอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย นางไม่ได้ทำสิ่งใดผิดย่อมไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเกรงกลัว แต่ที่นางแปลกใจก็คือ เหตุใดหลี่เหวยจึงมาอยู่ในจวนของนางได้ อีกทั้งยังมีองค์หญิงหลี่ฮวาที่ตามมาด้วยหลี่เหว่ยที่เห็นว่ามู่กุ้ยเหมยไม่เอ่ยตอบ ก็ตรงเข้ามาประชิดตัวนาง ก่อนจะยกมีดสั้นวางทาบลงบนลำคอขาวเนียนของมู่กุ้ยเหมยอย่างรวดเร็ว"ตอบมา ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่หน้าเจ้า ต่อให้เป็นคนที่ข้าฝึกฝนมาเองกับมือ ก็อย่าหวังว่าจะได้รับการละเว้น"มู่กุ้ยเหมยที่ถูกหลี่เหว่ยข่มขู่กลับไม่โกธร นางรู้ดีว่ายามอยู่ในสถาณการณ์คับขัน หลี่เหว่ยก็จะเย็นชาเช่นนี้อยู่เสมอ นางรู้จักเขามานานหลายปี นิสัยของเขานางเข้าใจดีมู่กุ้ยเหมยรีบคุกเข่าลง ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม"เดิมทีหม่อมฉันก็สงสัยในตัวบิดาตนเองเช่นกัน จึงเข้ามาตรวจดูในห้องตำรานี้ ไม่คาดคิดว่าจะพบห้องลับ และพบว่าเขาจับคนมาขังเอาไว้และทรมานคนเหล่านั้นอย่างทารุณเช่นนี้ องค์ชายใหญ่โปรดวางพระทัย ต่อให้ตัวต้องตาย กุ้ยเหมยก็ไม่มีทางทรยศบ้านเมืองเด็ดขาด หากพระองค์มาเพื่อช่วยคน เช่นนั้นก็รีบมือเถิดเพคะ หม่อมฉั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status