แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
ในท้องพระโรง

ฝ่าบาทกําลังมีประชุมฉุกเฉิน

เหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ต่างยืนสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศภายในจริงจังเป็นอย่างมาก

เส้นเลือดบนหน้าผากฝ่าบาทปูดขึ้น พักตรมังกรโกรธจัด: “มีกองทหารหลายแสนนายทางตอนเหนือ กลับไม่สามารถหยุดการย่ำยีประชาชนอย่างทารุณของเผ่าหมานนับหมื่นได้! ตอนนี้กองทัพเผ่าหมานได้เข้าใกล้เมืองหลวงแล้ว! ”

“ต้าเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ กลับไม่มีแม่ทัพและทหารที่สามารถสู้รบได้เลย!”

“หรือต้องให้ข้านำทัพไปทำสงครามเอง?”

เหล่าขุนนางทุกคนต่างก้มหน้าและไม่มีใครกล้าพูด

ฝ่าบาทเอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของผู้ที่ตนหวังไว้: “ไร้ประโยชน์! ล้วนเป็นพวกไร้ประโยชน์ ขุนนางเข้าใจข้าผิด! ศัตรูอยู่ตรงหน้า คุณธรรมอยู่ที่ใด? ”

ในเวลานี้หลี่เซวียนองค์ชายหกยืนขึ้น: “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีวิธีแก้ไขวิกฤตในเมืองหลวงพะยะค่ะ!”

ดวงตาของฝ่าบาทเป็นประกายขึ้น: “เจ้าหก เจ้าฉลาดและมีไหวพริบมาตั้งแต่เด็ก! วิธีที่ว่าคืออะไร ไหนลองพูดมาสิ! ”

หลี่เซวียนเอ่ยขึ้น: “ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน!การต่อต้านทหารม้าเผ่าหมาน จำเป็นต้องมีผู้นำทัพชั้นยอด! ภายใต้การบัญชาทัพของเสด็จพ่อ แล้วยังมีราชองครักษ์อีกแสนนาย ต้องเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน! ”

“ตราบใดที่ให้ราชองครักษ์ไปออกรบ จะต้องปราบเผ่าหมานได้ในคราวเดียวอย่างแน่นอน!”

ตูม!

เมื่อหลี่เซวียนพูดจบ เสียงฟ้าผ่าในใจของขุนนางก็ดังสนั่น

ราชองครักษ์อยู่ในสนามรบ?

แล้วเมืองหลวงจะทำยังไง?

แต่ถ้าราชองครักษ์ไม่ไปต่อสู้ ในไม่ช้าเผ่าหมานก็จะบุกมาถึงเมืองหลวง สถานการณ์หลังจากนี้ก็จะเลวร้ายจนไม่อาจคิด!

ฝ่าบาทเหลือบมองหลี่เซวี่ยนอย่างลึกซึ้งและพูดว่า “ราชองครักษ์ออกรบ ข้าก็มีความตั้งใจนี้เช่นกัน! ไหนเจ้าลองบอกข้ามาสิว่าใครจะเป็นผู้นำ? ”

หลี่เซวี่ยนไม่พูดอะไร ยืนนิ่งไม่ขยับ

ในทางตรงกันข้าม องค์ชายอีกหลายพระองค์กลับก้าวมาข้างหน้าทีละคน ประสานมือแล้วเอ่ย: “เสด็จพ่อ กระหม่อมเต็มใจที่จะนําราชองครักษ์ไปออกรบ เพื่อปกป้องประเทศ!”

ฝ่าบาทโบกมือ: “ไม่จําเป็น! พวกเจ้ายินดีช่วยข้าปกป้องบ้านเมือง ช่วยข้าแบ่งเบาภาระ ข้ารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ข้ามีแผนการอื่น!จางไป่เจิงแม่ทัพใหญ่ของราชองครักษ์ ข้าสั่งให้เจ้านำกองทัพทหารราชองครักษ์หนึ่งแสนนายไปออกรบในวันพรุ่งนี้ !”

“ถ้าไม่สามารถปราบเผ่าหมานจนพังพินาศได้ ไม่ตายก็ไม่ต้องกลับมา!”

แม่ทัพวัยกลางคนท่าทางองอาจ ก้าวออกมาจากฝูงชน ประสานมือโค้งคำนับและกล่าวว่า: “รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ!”

เหล่าขุนนางพากันถอนหายใจในใจ

อาการระแวงของฝ่าบาทแย่ลงเรื่อยๆ แม้แต่เหล่าองค์ชายก็ไม่กล้าเชื่อ ปฏิเสธที่จะมอบอํานาจทางทหารให้กับพวกเขา

แต่ก็ดี

จางไป่เจิงเป็นคนสนิทของฝ่าบาท และเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

เมื่อเขานําราชองครักษ์ออกรบ อย่างน้อยเขาก็สามารถต่อสู้อย่างทัดเทียมกับเผ่าหมานได้ ทําให้ต้าเซี่ยมีโอกาสได้พักหายใจ

ต่อไป ฝ่าบาทเพียงต้องทำให้ความโกรธของประชาชนสงบลง ทําให้สถานการณ์ในเมืองหลวงมีเสถียรภาพ ก็จะสามารถย้ายกองกําลังจากทางใต้เพื่อไปปกป้อง เมืองหลวงได้

เผ่าหมานไม่สามารถโจมตีได้ คนและม้าหมดแรง กองทัพย่อมล่าถอยออกไป

การระงับความโกรธของประชาชนก็จะเป็นเรื่องง่ายแล้ว!

ตราบใดที่หลี่หลงหลินถูกฆ่า ตระกูลซูหายโกรธ ราษฎรไร้แกนนำ พวกเขาย่อมไม่สามารถก่อเรื่องได้

ในเวลานี้เว่ยซวินเข้ามารายงาน: “ฝ่าบาท ฮูหยินผู้เฒ่าซูกําลังคุมตัวองค์ชายเก้าอยู่ รอเข้าเฝ้าอยู่นอกวังพะยะค่ะ...”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าขุนนางก็ตกอยู่ในความโกลาหล

คลื่นลมยังไม่สงบ ก็กระเพื่อมขึ้นมาอีกแล้ว!

ตระกูลซูจะฆ่าหลี่หลงหลินต่อหน้าธารกำนัลเพื่อระบายความโกรธหรือ?

ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าจะเป็นสร้างความเสื่อมเสียต่อราชวงศ์ แต่ก็สามารถสงบความโกรธของผู้คนได้ ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องร้ายอะไร!

ฝ่าบาทก็คิดแบบเดียวกัน แววตาเปล่งประกาย: “เรียกตัวเข้ามา!”

ผ่านไปครู่หนึ่ง

ฮูหยินผู้เฒ่าซูถือไม้ค้ำยันหัวมังกรไว้ในมือ เดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าไปในท้องพระโรง

องค์ชายเก้าหลี่หลงหลินก็เดินตามมาด้วย

ฝ่าบาทโบกมือและเอ่ยว่า “นั่งสิ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูนั่งลงบนเบาะผ้า: “ขอบพระทัยฝ่าบาท!”

ฝ่าบาทตรัสว่า: “ฮูหยินผู้เฒ่าซู! เจ้ามาพบข้ามีเรื่องอะไร พูดมาเถอะ! ”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูประสานมือโค้งคำนับ: “ฝ่าบาท พระองค์มอบหลี่หลงหลินคนทรยศให้หม่อมฉันจริงหรือ? ไม่ว่าหม่อมฉันจะทํารุนแรงยังไงกับเขา ก็ได้หมดหรือเพคะ? ”

ฝ่าบาทพยักหน้า: “กษัตริย์ตรัสคำไหนคำนั้น! สิ่งที่ข้าพูดจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง! ข้าเพียงไม่รู้ว่าเจ้าจะทําอะไรกับกบฏผู้นี้...”

เหล่าองค์ชายและขุนนางต่างก็ผึ่งหู รอดูอย่างอยากรู้อยากเห็น

เลาะกระดูก? ใช้รถม้าแยกร่าง?

หรือตัดหัวหลี่หลงหลินด้วยมีดให้เขาเจ็บปวดทรมาณ?

ฮูหยินผู้เฒ่าซูยิ้ม: “ฝ่าบาท จะจัดการกับองค์ชายเก้ายังไง อีกเดี๋ยวค่อยพูด! หม่อมฉันมีคำขอหนึ่งที่ไม่สมเหตุสมผล! ”

ฝ่าบาทกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น: “ตระกูลซูภักดี พลีชีพเพื่อบ้านเมือง! อย่าว่าแต่คําขอที่ไม่สมเหตุสมผลหนึ่งข้อเลย แม้ว่าจะเป็นสิบ เป็นร้อยข้าก็จะเห็นด้วย! ”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูถอนหายใจ: “ขอบพระทัยฝ่าบาท! ผู้ชายในตระกูลซูล้วนตายในสนามรบ เหลือเพียงผู้หญิงและเด็ก โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง พวกเขาไม่มีแม้แต่ผู้สนับสนุน...”

ฝ่าบาทเอ่ยอย่างไม่พอใจ: “ข้าก็คือผู้สนับสนุนตระกูลซู! ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องตระกูลซูก็คือศัตรูของข้า! ”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูส่ายหัว: “ตระกูลซูรู้สึกซาบซึ้งใจจนหาที่เปรียบมิได้! แต่หม่อมฉันไม่ได้หมายความเช่นนั้น หลานสาวคนโตซูเฟิ่งหลิงค่อนข้างโดดเด่นทั้งรูปร่างหน้าตา ”

“ดังคํากล่าวที่ว่า ชายเติบใหญ่พึงแต่งงาน หญิงเติบโตพึงแต่งงาน!”

“หม่อมฉันหวังว่าฝ่าบาทจะทรงประทานสมรสหลานสาวคนนี้ให้กับองค์ชายพระองค์หนึ่ง!”

“ตระกูลซูกลายเป็นพระญาติของฝ่าบาท ย่อมไม่มีผู้ใดกล้ารังแกอีกต่อไป”

การสมรส?

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทั้งราชสำนักพากันแตกตื่น

ทุกคนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าซูกลับเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอให้ฝ่าบาทประทานสมรสจริงหรือ?

ถ้าคิดอย่างละเอียดแล้ว นี่คือการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม

ตระกูลซูปกป้องชายแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี ความเที่ยงธรรม และทําให้หลายคนในราชสํานักขุ่นเคืองไม่น้อย!

ตอนนี้ผู้ชายในตระกูลซูเสียชีวิตไปหมดแล้ว ตระกูลซูที่ยิ่งใหญ่ได้กลายเป็นชิ้นเนื้อที่ทุกคนปรารถนา

ตระกูลซูต้องหาผู้สนับสนุนรายใหญ่ให้พึ่งพา มิฉะนั้นตระกูลก็คงพินาศย่อยยับแน่นอน!

และองค์ชายก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1578

    เหล่าทหารยืนก้มหน้าก้มตาอยู่กับที่ ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อยจางไป่เจิงเดินไปหยุดต่อหน้าทหารคนหนึ่ง พูดเสียงเคร่งขรึมว่า “อธิบายเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังอย่างชัดเจน”ทหารผู้นั้นเสียงสั่นเครือ “ท่านแม่ทัพจาง เป็นรัชทายาทให้พวกเรามาฝึกที่นี่เอง บอกว่าอยากทดสอบสมาธิของพวกเรา”“แต่พอข้ามาถึงก็เห็นทุกคนกำลังโห่ร้องกันอยู่แล้ว ข้าก็เลยเดินตามไปดู”สีหน้าจางไป่เจิงเคร่งขรึม “บอกข้า เจ้าเห็นอันใด”ทหารพูดเสียงแผ่วเบา “เห็นหมอหญิงมากมายอยู่ในป่าสน พวกนางดูเหมือนกำลังเก็บบางอย่างอยู่ขอรับ”จางไป่เจิงพูดเสียงเย็นชา “นี่คือสมาธิของพวกเจ้าหรือ?”“ไม่แปลกใจเลยที่รัชทายาทคิดทดสอบพวกเจ้า!”“แค่สิ่งยั่วยวนเพียงเท่านี้ยังอดกลั้นไม่ได้ ภายภาคหน้าอยู่ในสนามรบจะทำเช่นไร!”“เหลวไหลไร้สาระโดยแท้!”จางไป่เจิงโมโหมากการกระทำของทหารเหล่านี้คือกำลังตบหน้าเขาโดยตรง!พวกทหารที่กำลังโห่ร้องเหล่านี้ล้วนเป็นผู้อยู่ใต้อาณัติชั้นยอดของเขา!หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ทุกคนก็จะหัวเราะเยาะจางไป่เจิงลับหลัง!เพราะฉะนั้นจะต้องลงโทษทหารเหล่านี้เพื่อให้พวกเขาจดจำไว้เป็นบทเรียน!จางไป่เจิงกวาดตามองเหล่าทหาร พูดเสี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1577

    ...วันต่อมาฟ้าเพิ่งสว่างซุนชิงไต้พาหมอหญิงทั้งหมดเข้าป่าสนตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อความปลอดภัย หลี่หลงหลินจงใจย้ายพื้นที่ฝึกยามเช้าของทหารไปใกล้ป่าสนโดยเฉพาะ เผื่อว่าหากข้าศึกบุกมาเมื่อใด ทหารจะสามารถเข้าสู้รบได้ทันทียิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการฝึกสมาธิของเหล่าทหารอีกด้วยเหล่าทหารแห่งต้าเซี่ยแต่ละคนล้วนเปี่ยมไปด้วยพลัง โลหิตพลุ่งพล่านพล่าน ได้เห็นหมอหญิงที่กำลังเก็บใบสนอยู่ในป่าสน หัวใจก็พาลว้าวุ่นเสียงหัวเราะใสกังวานดุจระฆังภายในป่าสนของเหล่าหมอหญิงยิ่งปลุกเร้าให้หัวใจของเหล่าทหารเต้นระส่ำเหล่าทหารจะทานทนต่อบททดสอบนี้ไหวได้อย่างไร?ต่างพากันวิ่งกรูออกไปยังชายป่าสนดูเหล่าหมอหญิงที่กำลังก้มเก็บใบสนอยู่ได้เห็นเหล่าหมอหญิงสวมชุดรัดรูปสีขาว เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าบนเรือนร่างของหญิงสาววัยแรกแย้มแต่ละคนล้วนมัดผมยาวขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนละมุนผิวพรรณของเหล่าหมอหญิงตัดกับสีเขียวของป่าสนทำให้ขาวเป็นพิเศษดุจหิมะเหล่าทหารได้เห็นแล้วต่างก็พากันโห่ร้อง“หมอหญิงเหล่านี้งดงามยิ่งนัก!”“หากข้าสามารถแต่งสตรีเช่นนี้กลับบ้านไปเป็นภรรยาได้ ชาตินี้เกิดมาก็คุ้มค่าแล้ว!”“เพ้อฝันไร้สาระอั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1576

    เพียงซุนชิงไต้ได้ยิน ทันใดนั้นดวงตาทอประกายระยับ “เสวี่ยปี้คือสิ่งใด? อร่อยหรือไม่ เหตุใดหม่อมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน?”ซุนชิงไต้เคยเดินทางรักษาผู้คนทั่วแคว้น เคยกินอาหารเลิศรสทุกหนแห่งแต่เครื่องดื่มที่หลี่หลงหลินเอ่ยถึงนี้ นางไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลยเพียงนางได้ยินชื่อ ก็สามารถจินตนาการถึงความเย็นหลังดื่มเข้าไปได้ใบหน้าหลี่หลงหลินฉายแววลึกลับ “ไม่เพียงแค่อร่อย แต่มันอร่อยระเบิด!”ซุนชิงไต้เบิกตากว้างในทันใด ดีใจอย่างมาก “หม่อมฉันอยากดื่ม! ตอนนี้เสวี่ยปี้นี้อยู่ที่ใด?”นางเชื่อในรสนิยมของหลี่หลงหลินหากพูเดเรื่องศึกษาของกิน ซุนชิงไต้ยังต้องเรียกหลี่หลงหลินว่าอาจารย์!ไม่ว่าผงปรุงรสไก่ ปลาหวงฮื้อใหญ่หรือหม้อทองแดงจิ้มจุ่ม ล้วนทำให้ซุนชิงไต้น้ำลายสอในเมื่อหลี่หลงหลินเอ่ยปากชมถึงเพียงนี้ นั่นไม่มีทางเป็นของไม่ดีอย่างแน่นอน!หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “พี่สะใภ้สามอย่าเพิ่งร้อนใจ ท่านจะต้องช่วยข้าก่อนหนึ่งเรื่องถึงจะสามารถดื่มเสวี่ยปี้ได้”เพียงได้ยินว่ายังไม่ได้ดื่มในตอนนี้ ซุนชิงไต้ก็บ่นขึ้นมา “จะต้องช่วยอันใดท่าน หม่อมฉันต้องชั่งใจก่อนเพคะ”“อย่างไรเสียตอนนี้งานในกองทัพก็มีมากมาย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1575

    หลี่หลงหลินพูดต่อว่า “เจ้าคงยังไม่ลืม ตอนพวกเราอยู่ที่ตงไห่ พวกเรากินปลาทุกมื้อ”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้าภาพในตอนนั้นยังแจ่มชัดอยู่ภายในสายตา ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานแต่นางก็ยังไม่อาจปะติดปะต่อสองเรื่องนี้เข้าด้วยกันได้โรคตาบอดตอนกลางคืนนี้เกี่ยวกันใดกับปลาของตงไห่?หลี่หลงหลินอธิบายว่า “กองทัพสกุลซูแทบจะไม่มีใครเป็นโรคตาบอดตอนกลางคืนก็เพราะสาเหตุนี้”“ตอนอยู่ที่ตงไห่ พวกเขากินปลาเป็นอาหารหลักเกือบทุกวัน”“ในเนื้อปลานั้นมีวิตามินปริมาณมาก สามารถบำรุงสายตาได้ ดังนั้นจึงไม่เกิดโรคตาบอดตอนกลางคืน”“ทหารต้าเซี่ยเกิดโรคตาบอดตอนกลางคืนก็เพราะภายในร่างกายขาดวิตาวิน”“ในตำราแพทย์กล่าวว่าปลาช่วยบำรุงสายตา!”ซุนชิงไต้ฟังแล้วก็เอ่ยถามด้วยความแปลกใจว่า “องค์ชาย วิตามินคือสิ่งใดหรือเพคะ?”หลี่หลงหลินใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนจะอธิบายอย่างใจเย็น “ก็คือธาตุอาหารปริมาณน้อยที่จำเป็นต่อการมีชีวิต หนำซ้ำวิตามินเหล่านี้ทำได้เพียงรับจากภายนอก ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างได้”“หรือก็หมายความว่ากินสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น”“ตราบใดที่เราทำให้ทหารได้กินเนื้อเป็นประจำ โรคตาบอดตอนกลางคืนก็สามารถบรรเทาลงได้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1574

    หลี่หลงหลินส่ายหน้า พูดเสียงเคร่งขรึมว่า “โรคตาบอดตอนกลางคืนจะต้องมีทางรักษาแน่นอน มีเพียงโจมตียามวิกาลถึงจะเป็นแผนรบที่ดีที่สุดในตอนนี้”จู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว โจมตีตอนเผลอเสิ่นชิงโจวหยั่งรากอยู่ในต้าเซี่ยมานานหลายปีเพียงนั้น ย่อมรู้จักกองทัพต้าเซี่ยดีทุกก้าวที่หลี่หลงหลินเดิน จะต้องเป็นสิ่งที่เสิ่นชิงโจวคาดไม่ถึงเมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ จางไป่เจิงก็ขมวดคิ้วเขารู้จักอุปนิสัยของหลี่หลงหลินดีหากหลี่หลงหลินตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้ต่อให้เป็นคำสั่งของฝ่าบาท เขาก็ไม่ฟัง!จางไป่เจิ้งเอ่ยปากว่า “องค์ชาย อิงตามบันทึกทางการแพทย์ในตอนนี้ โรคตาบอดตอนกลางคืนจะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีทางบรรเทาลงได้”“นี่คือความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”“หากท่านยังยืนยันจะเมินข้ามความจริงนี้ วู่วามโจมตียามวิกาล ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเลวร้ายเกินกว่าจินตนาการได้”ซุนชิงไต้พยักหน้า “แม่ทัพจางพูดถูกเพคะ อิงตามจากความรู้ด้านการแพทย์ที่หม่อมฉันมีในตอนนี้ โรคตาบอดตอนกลางคืนเป็นโรคที่ไม่อาจรักษาได้...”“เว้นเสียแต่ว่าไม่ให้ทหารอยู่ในความมืด ก็ไม่มีวิธีอื่นเพคะ”“ต่อให้หม่อมฉันจะค้นตำราแพทย์

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1573

    “ยามวิกาล?”จางไป่เจิงได้ยิน สีหน้าพลันเปลี่ยนไปความทรงจำอันน่าอับอายบางอย่างก่อตัวขึ้นภายในใจในทันใด!แม้เขาจะยอมเปิดใจรับฟังกลยุทธ์ของหลี่หลงหลินในกองทัพนั่นก็เพราะกลยุทธ์ของหลี่หลงหลินใช้งานได้จริงแต่ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้หลี่หลงหลินกล่าวถ้อยคำเช่นนั้นต่อหน้าเขา เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่เห็นศักดิ์ศรีของเขาอยู่ในสายตา ต้องการรื้อฟื้นแผลเก่าของเขา!เขาแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ ต่อสู้อย่างยากลำบากมาครึ่งชีวิต ไม่รู้สร้างผลงานให้ต้าเซี่ยมากน้อยเพียงใดไฉนเลยจะทนกับการถูกคนตอกย้ำความผิดพลาดเช่นนี้ได้?จางไป่เจิงส่ายหน้า ถอนหายใจพลางพูดว่า “องค์ชาย ท่านไม่รู้การทำศึกดังคาด! การจู่โจมในยามวิกาล ใช้ไม่ได้กับกองทัพต้าเซี่ย”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ใช้ไม่ได้?”“เหตุใดจะใช้ไม่ได้! พวกชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือยังสามารถบุกค่ายทหารต้าเซี่ยยามวิกาลได้ เหตุใดพวกเราจะไปโจมตีคูเมืองของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือยามวิกาลไม่ได้”จางไป่เจิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “องค์ชาย ท่านเพิ่งเข้ามายังแนวหน้า จึงยังไม่รู้สถานการณ์บางอย่าง ไม่ใช่ว่าทหารต้าเซี่ยไม่อยากบุกโจมตียามวิกาล เพียงแต่ไม่สามารถโจมต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status