Share

บทที่ 11 กองทัพมาถึงแล้ว

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-07-05 17:57:27

บทที่ 11 กองทัพมาถึงแล้ว

เมื่อแม่ทัพใหญ่เห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามา จิตใจของเขาก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินทางไปทำศึกในครั้งนี้ด้วย จึงเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“องค์หญิง ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าจะเดินทางไปกับพวกเรา ข้าขอเตือนท่านไว้ก่อนว่า นี่คือสนามรบหาใช่สนามเด็กเล่นหรือสนามฝึกซ้อม ดังนั้นอาจเกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ”

“ขอบคุณท่านอาเจ้าค่ะที่เตือน แต่ข้าตัดสินใจมาดีแล้วว่าจะไปร่วมรบในครั้งนี้ด้วย เพื่อจะทดสอบว่าวิชาที่ท่านอาสอนให้นั้นใช้ได้จริงหรือไม่ และท่านพ่อก็ได้อนุญาตแล้ว”

องค์หญิงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน พลางจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาท้าทาย โดยที่ไม่ได้บอกถึงโทษที่เขาจะได้รับ หากว่านางได้รับบาดเจ็บ

“ดี! ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอดูฝีมือเจ้า” เขาหันมากล่าวกับนางอย่างแข็งกร้าว ก่อนจะหันไปมองทหารจำนวนมากที่อยู่ตรงหน้า แล้วประกาศเสียงดัง

“ในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ไป...ออกเดินทางได้!”

เมื่อสิ้นเสียงนั้น ขบวนทัพที่มีทหารนับแสนก็เคลื่อนตัวด้วยความรวดเร็วและเป็นระเบียบทันที โดยองค์หญิงหลินซูมี่ได้นั่งรถม้าตามไป ส่วนแม่ทัพใหญ่และคนอื่น ๆ ก็ขี่ม้าไปข้าง ๆ

โดยการไปรบในครั้งนี้ นอกจากจะมีแม่ทัพใหญ่เสวี่ยเยวียนสือเป็นผู้นำทัพแล้ว ยังมีแม่ทัพที่ร่วมออกรบในศึกครั้งนี้อีกได้แก่ แม่ทัพอุดร ‘เหออี้’ แม่ทัพประจิม ‘หนานเหริ่น’ และรองแม่ทัพแห่งทัพบูรพา ‘ตงตี้’ ซึ่งทั้งสามล้วนเป็นยอดขุนพลผู้เกรียงไกร เพราะต่างมีฝีมือเป็นเลิศและเป็นที่ยอมรับในหมู่ทหารทั่วทั้งดินแดน

นับตั้งแต่ออกเดินทัพ เวลาล่วงเลยไปเพียงเจ็ดวันเท่านั้น กองทัพนับแสนก็มาถึงจุดหมายปลายทาง โดยที่เมืองแห่งนี้มีชื่อว่าเมืองจงเจี้ยน เป็นเมืองชายแดนที่ตั้งอยู่ติดกับทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา และเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่ากลุ่มน้อยนับพันกลุ่ม แต่ทุกกลุ่มก็อยู่ใต้การปกครองของฮ่องเต้แคว้นหลิน

“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดพวกท่านก็มาถึงแล้ว”

เจ้าเมืองผู้รักษาการเอ่ยออกมาอย่างดีใจ แล้วคุกเข่าทำความเคารพกับฟ้าดิน ก่อนจะรีบวิ่งมาหากองทัพที่ยกมาจากเมืองหลวง

“คารวะทุกท่าน เชิญเข้ามาด้านในก่อน” เจ้าเมืองกล่าวออกมาอย่างยินดีกับเสวี่ยเยวียนสือที่อยู่บนหลังม้า

แม่ทัพใหญ่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้น “อื่ม ไปกันเถอะ”

จากนั้นนายทหารที่เป็นระดับแม่ทัพ รวมถึงองค์หญิงหลินซูมี่ ก็รีบเร่งเดินเข้าไปในเรือนรับรองเพื่อประชุมการศึก

“สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง” แม่ทัพใหญ่เอ่ยถามขึ้นมาทันที เมื่อเข้ามายังด้านในเรือนรับรองเรียบร้อยแล้ว

“จากที่ข้าได้ส่งคนไปสืบมาพบว่า ผู้นำของชนกลุ่มน้อยเหล่านี้คือเผ่าน่าหลัวปู้ ผู้บัญชาการของฝ่ายนั้นก็คือ น่าหลัวปู้ฉีชิง นับตั้งแต่ที่ข้าเป็นเจ้าเมืองมาหลายสิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบเห็นคนจากชนเผ่านอกด่านที่เก่งกาจขนาดนี้ ด้วยกองกำลังของข้าที่มีอยู่ในมือ ไม่เพียงพอที่จะต่อต้านพวกเขาได้เลย”

เจ้าเมืองรายงานสถานการณ์ข้างต้นให้กับแม่ทัพใหญ่เสวี่ยรับฟังด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“พวกมันต้องการสิ่งใด” แม่ทัพหนุ่มถามขึ้นทันที

“พวกมันต้องการยึดเมืองนี้ไปปกครองเอง โดยได้ส่งสารมาข่มขู่ว่า หากไม่ยอมเปิดประตูเมืองให้โดยดี พวกมันจะยกทัพเข้ามาโจมตี และจะสังหารผู้คนทั้งหมดในเมืองโดยไม่ละเว้นผู้ใด” เจ้าเมืองตอบกลับมาอย่างไม่ปิดบัง

“บังอาจเกินไปแล้ว” หลินซูมี่ที่ได้ฟังก็กล่าวออกมาอย่างแข็งกร้าว จนเรียกสายตาจากเหล่าแม่ทัพทุกคนรวมทั้งเจ้าเมือง

“ท่านนี้คือ...” เจ้าเมืองเอ่ยถามขึ้นมาอย่างแปลกใจที่ในกองทัพมีสตรีอยู่ด้วย

“ท่านนี้คือองค์หญิงใหญ่หลินซูมี่ พระองค์จะมาร่วมรบกับทุกคน” แม่ทัพอุดรเหออี้กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“คารวะองค์หญิงใหญ่” เจ้าเมืองรีบก้มศีรษะคารวะทันทีที่รู้ว่านางเป็นใคร

“ไม่ต้องมากพิธี ข้ามาที่นี่ในฐานะทหารคนหนึ่งเท่านั้น” องค์หญิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“เอาล่ะ มาจัดการเรื่องรบก่อนเถอะ ยามนี้เจ้าให้คนของเจ้าถอนตัวมาพักรักษาก่อน แล้วใช้กองกำลังทหารที่ข้านำมาไปประจำการแทน” เสวี่ยเยวียนสือที่นิ่งฟังอยู่ครู่หนึ่งก็สั่งการออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

“ขอรับท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าขอบคุณแทนทุกคนที่มาที่นี่ ถือว่าเมืองแห่งนี้ยังมีวาสนาดีอยู่ ที่ท่านมาได้ทันเวลา” เจ้าเมืองกล่าวขึ้นมาอย่างยินดี ก่อนที่เขาจะรีบไปดำเนินการตามคำสั่งของแม่ทัพใหญ่ทันที

หลังจากที่เจ้าเมืองจากไปแล้ว คนของแม่ทัพใหญ่ก็ได้วิ่งเข้ามารายงานสถานการณ์ ในสิ่งที่ตนไปสำรวจชนเผ่านอกด่านมา จากนั้นก็ได้ร่วมประชุมกันเพื่อวางแผนการศึกต่อ

“จากที่ข้าได้ฟังมา กลยุทธ์ที่จะใช้ในครั้งนี้ น่าจะเป็นกลยุทธ์ง้างคันศรใช่หรือไม่ท่านอา”

เมื่อประชุมกันไปได้สักพัก องค์หญิงใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นมา และในคำกล่าวของนางนั้นก็ถือว่าถูกต้อง เพราะกองกำลังของชนเผ่านอกด่าน ได้วางกองกำลังแบบเป็นเป้าขนาดใหญ่ การใช้กลยุทธ์ง้างคันศรจึงเหมาะสมที่สุด

“ถูกต้อง ฝ่ายนั้นวางกองกำลังเป็นรูปแบบป้อมวงกลม จึงถือว่าเป็นเป้านิ่งที่ดี กลยุทธ์ง้างคันศรถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ดีกับการศึกครั้งนี้” เสวี่ยเยวียนสือกล่าวขึ้นมาเพื่อยืนยันคำตอบ ก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับแม่ทัพคนอื่น

“เอาล่ะตงตี้ เหออี้ พวกเจ้าจงไปจัดเตรียมกองทัพในกลยุทธ์ง้างคันศรให้พร้อม พรุ่งนี้พวกเราจะทำการบุกทะลวงอีกฝ่ายทันที ส่วนจำนวนทหารที่ใช้ในครั้งนี้คือแปดหมื่นนาย ส่วนอีกสองหมื่นนายที่เหลือ ให้อยู่ที่นี่เพื่อป้องกันเมือง”

“ขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่” แม่ทัพทั้งสองต่างก็ขานรับคำสั่ง

เมื่อคนทั้งคู่ได้รับคำสั่งเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่รอช้ารีบไปปฏิบัติตามทันที

“ส่วนเจ้าก็จงอยู่ที่นี่ เพื่อคอยบัญชาการกองทัพของทหารที่เหลือ” คราวนี้เสวี่ยเยวียนสือเอ่ยขึ้นมากับองค์หญิง ราวกับรู้ว่าในใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะเอ่ยอะไรออกมา

เมื่อหลินซูมี่ได้ยินเช่นนั้น คิ้วของนางก็ขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ แต่นางก็ไม่ได้เอ่ยอันใดออกมา เพราะรู้ว่าในกองทัพนั้น คำสั่งของแม่ทัพใหญ่ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถโต้แย้งได้

และเมื่อแม่ทัพใหญ่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ออกไปจากเรือนรับรอง เพื่อตรวจสอบสถานการณ์โดยรวมด้วยตัวเอง โดยมีแม่ทัพประจิมหนานเหริ่นเดินประกบไปด้วย

“หนานเหริ่น กองกำลังของอีกฝ่ายมีประมาณเท่าไร” แม่ทัพใหญ่ถามขณะที่เดินออกมา

“จากที่หน่วยสอดแนมได้ไปสำรวจมา กองกำลังของพวกเขามีราว ๆ สามหมื่นคนขอรับ โดยในสามหมื่นคนมีเด็กและคนแก่ประมาณหนึ่งหมื่นคนขอรับ”

“เป็นเช่นนั้นเองหรือ เจ้าจงถ่ายทอดคำสั่งออกไป ให้สังหารแต่บุรุษที่โตเต็มวัย ส่วนคนแก่กับเด็กและสตรี ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าได้ทำร้ายพวกเขา แต่ให้จับขังไว้ก่อน”

“แล้วถ้าพวกเขา...” แม่ทัพประจิมถามขึ้นมาอย่างลังเล

“ถ้าพวกนั้นขัดขืน ก็จงจัดการตามสมควรเถอะ” แม่ทัพใหญ่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย เพราะเขาไม่อยากทำร้ายเด็ก สตรี และคนชรา แต่หากคนเหล่านั้นทำให้เกิดปัญหา เขาก็ไม่มีทางเลือก

“ขอรับท่านแม่ทัพ”

แม่ทัพประจิมก้มศีรษะรับคำสั่งอีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไป โดยทิ้งให้ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ยืนมองสถานการณ์รบจากบนกำแพงเมือง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ 2นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์อ๋อง ทั้งสองก็ได้กลับไปยังหมู่บ้านที่เคยพำนักอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ต่างออกไป เพราะพวกเขากลับมาพร้อมอำนาจเต็มมือหลินซูมี่ได้จัดสร้างจวนอ๋องขึ้นในหมู่บ้าน และยกให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการว่าราชการของเขตปกครอง ทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองเจียงซานและตงตู่นอกจากนี้ ทั้งสองยังได้ประกาศยกย่องสุสานของราชวงศ์เป่ยโจวให้เป็นสุสานหลวง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อราชวงศ์เก่าแก่ในอดีตเขตปกครองแห่งใหม่นั้น มีการละเว้นการเก็บภาษีในหลายด้าน นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งโรงทานและสร้างที่อยู่ที่กิน ให้แก่เหล่าผู้สูงวัยที่ไร้ผู้คนดูแล เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และได้รับการรักษาในยามเจ็บป่วยอย่างทั่วถึงอีกทั้งยังมีการสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และให้การศึกษาที่ดีต่อเด็ก ๆ เพื่อให้เติบโตไปทำคุณต่อบ้านเมืองทางด้านการขยายอาณาเขต ก็มีการออกปราบปรามชนเผ่าต่าง ๆ โดยรอบเมืองทางเหนืออยู่เนือง ๆทำให้ยามนี้ชนเผ่าเร่ร่อนอีกกว่าสี่สิบแปดชนเผ่า ได้เข้าร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแคว้นหลิน โดยอยู่ภายใต้การปกครองของเขตปกครองตนเองเจ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่ 1นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้ได้ปลดองค์หญิงใหญ่ออกจากตำแหน่งให้เป็นเพียงสามัญชน ตัวของนางและเสวี่ยเยวียนสือ ก็ได้เดินทางกลับมาที่หมู่บ้านที่หลินซูมี่เคยหลบหนีมาอยู่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เพราะนางไม่ต้องหลบซ่อนจากผู้ใดทั้งสิ้น อีกทั้งยังกำลังตั้งครรภ์“คารวะท่านผู้อาวุโส”เมื่อนั่งเรือข้ามฟากมาแล้ว หญิงสาวก็ทำความเคารพชายสูงวัยทันที เพราะนางไม่คิดมาก่อนเลยว่า ผู้อาวุโสจะมารับนางด้วยตนเอง“เจ้ากลับมาจนได้ ที่ผ่านมาข้าได้ให้คนคอยดูแลบ้านของเจ้าไว้อย่างดี รีบไปพักผ่อนเถิด” ชายชรากล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสั่งให้คนของเขามาช่วยทั้งสองขนข้าวของ“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” หลินซูมี่กล่างอย่างนอบน้อม“แล้วเป็นเช่นไรบ้าง ไปอยู่เมืองหลวงเสียพักใหญ่ สบายดีใช่หรือไม่ กลับมาคราวนี้ท้องก็ใหญ่ขึ้นแล้วสินะ” ผู้อาวุโสอินหยอกล้อด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู“ก็สบายดีเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ได้ติดตามท่านพี่ไปชายแดนด้วย กว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ก็กินเวลาไปเสียนาน” หลินซูมี่กล่าวกับชายชราอย่างสนิทสนม“เช่นนั้นก็พักผ่อนเถิด เดินทางกันมาไกลคงเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่น้อย เอาไว้พอตกเย็นค่อยมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรั

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทส่งท้าย คืนตำแหน่งให้องค์หญิงใหญ่

    บทส่งท้าย คืนตำแหน่งให้องค์หญิงใหญ่“ครั้งหนึ่งเขาปรารถนาจะยึดเมืองหมิงตี้ เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าเขาทำเช่นไร เขาจับบุตรีของเจ้าเมืองมาข่มเหงจนย่อยยับ จากนั้นก็ประกาศว่านางเป็นภรรยา แล้วใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างรวบรวมเมืองเข้ามาอยู่ในอาณัติของตน เมื่อเจ้าเมืองไม่ยินยอม เขาก็ยกทัพไปโจมตีจนแตกพ่าย และไม่ใช่แค่เพียงเมืองหมิงตี้ เมืองอื่นก็ประสบชะตากรรมไม่ต่างกันบุรุษผู้นั้นเอาแต่ใช้อำนาจที่มีทำลายชีวิตผู้คน เพื่อสนองความทะเยอทะยานของตนเอง ทำให้มีสตรีมากมายต้องจบชีวิตลงด้วยความอัปยศเพราะเขา!” นางหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเหี้ยมเกรียม “ในวันนี้ที่เขาต้องนอนป่วยไร้เรี่ยวแรง ข้าว่ามันก็เป็นผลกรรมที่คนเช่นนั้นสมควรได้รับแล้วมิใช่หรือ ฮ่าๆ”กล่าวจบหนิงอี้เสียนหวงกุ้ยเฟยก็หัวเราะอย่างสะใจ รอยยิ้มของนางเต็มไปด้วยความคั่งแค้น ที่ระบายออกมาราวกับเขื่อนแตก เสียงหัวเราะนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับต้องการให้ทุกผู้คนได้รับรู้ถึงความเจ็บลึกในใจของนางถ้อยคำของนางนั้นไม่เพียงกระทบใจผู้ที่อยู่ตรงหน้า แต่ยังแทรกซึมเข้าสู่จิตใจของเหล่าขุนนางอาวุโสที่ยืนรายล้อมอยู่ไม่ไกลเมื่อคำกล่าวเหล่านั้นจบลง ความเ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 56 ปราบกบฎ

    บทที่ 56 ปราบกบฎทางด้านกองทัพนอกเมืองหลวง เมื่อเสวี่ยเยวียนสือได้เห็นการจัดขบวนทัพที่อยู่บนกำแพงเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าทหารเหล่านั้นไม่ปรารถนาที่จะต่อสู้ เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่แอบแสดงท่าทียอมจำนน “ท่านแม่ทัพใหญ่...ข้าว่าเวลาแห่งการชำระล้างความชั่วได้มาถึงแล้ว!” เสียงของแม่ทัพอุดรเหออี้ดังขึ้นด้วยความเคียดแค้น เขาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า แววตาเต็มไปด้วยเพลิงแห่งโทสะที่ลุกโชนไม่สิ้นสุดเสวี่ยเยวียนสือก้าวขึ้นมายืนตรงหน้ากองทัพของตน ก่อนจะออกคำสั่งอย่างหนักแน่น “ทหารเตรียมพร้อม!” จากนั้นเพียงครู่เดียว เขาก็เปล่งเสียงสั่งการดังกึกก้อง “บุกได้!”เหล่าทหารที่รอคอยเพียงแค่คำนี้ ต่างตะโกนก้องพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างดุดันและพร้อมรบ ทว่าก่อนที่แม่ทัพอุดรเหออี้จะสั่งให้กระแทกประตูบานใหญ่เบื้องหน้า เสียงของการปลดกลอนประตูก็ดังขึ้นแทน จากนั้นประตูเมืองก็ค่อย ๆ แง้มเปิดออกจากด้านใน จนทำให้ทุกคนประหลาดใจ“ขอเชิญทุกท่านผ่านเข้ามาเถิดขอรับ พวกข้าต่างเฝ้ารอการมาถึงของท่านด้วยใจจดใจจ่อ!” เสียงของนายทหารที่เปิดประตูดังขึ้นด้วยความเคารพ แววตาสะท้อนทั้งความดีใจและความภักดีอย่างเหลือล้น“ขอบใจ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 55 ช่วยฮ่องเต้

    บทที่ 55 ช่วยฮ่องเต้จากนั้นองค์รัชทายาทรีบเขียนจดหมายฉบับหนึ่งส่งไปยังสถานที่ที่น้องหญิงของตนพำนักอยู่ ก่อนที่วังหลวงจะถูกทหารของปิงตี้เข้าควบคุมอย่างแน่นหนา ภายในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ ทางออกทุกเส้นทางถูกปิดตาย สิ้นไร้การเชื่อมโยงกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง“ปิงตี้ นี่เจ้ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ เจ้าจะทำก่อกบฏอย่างนั้นหรือ” หลินเฟยหลงเอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าลงมือเช่นนี้“หึ! หลินเฟยหลง ตัวของเจ้าถ้าหากขาดน้องสาวที่เป็นมันสมองและแม่ทัพใหญ่ผู้ควบคุมกำลังทหาร เจ้าก็จะนับว่าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง” ปิงตี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย“หลินเฟยหลง หลินเฟยหมิง หลินต้าเหนิง ข้ายังไม่คิดลงมือกับพวกเจ้าตอนนี้หรอก เอาไว้ให้พวกเจ้ารวมตัวกันครบก่อน แล้วข้าค่อยพิจารณาอีกทีว่า จะจัดการเช่นไร ยามนี้ก็อยู่กับพ่อแม่ของพวกเจ้า และเป็นเด็กดีไปก่อนก็แล้วกัน”ปิงตี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ก่อนจะสั่งให้นำทั้งสามไปคุมขังรวมกับผู้เป็นมารดาและฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ซึ่งในยามนี้อาการทรุดหนักจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีกแล้ว“ท่านแม่ ท่านพ่อ พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง ข้าขอโทษที่ไม่อาจร

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 54 หวงกุ้ยเฟยก่อกบฏ

    บทที่ 54 หวงกุ้ยเฟยก่อกบฏเมื่อผู้เป็นบิดาได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่บุตรสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก“เสวี่ยเยวียนสือ อย่างไรเสียข้าก็ขอฝากบุตรสาวของข้าให้เจ้าดูแลด้วย มี่เอ๋อร์นับว่าถูกข้าตามใจมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ถูกเจ้าอบรมสั่งสอนมาแต่เด็กเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากว่านางมีอะไรที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม เจ้าก็ค่อย ๆ สั่งสอนนางต่อไปก็แล้วกัน”ฮ่องเต้ได้หันไปตรัสกับศิษย์น้องของตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ศิษย์พี่ไม่ต้องเป็นกังวล ข้าขอสาบานด้วยชีวิตของข้า ข้าจะดูแลมี่เอ๋อร์ให้ดีที่สุด ชีวิตของนางหลังจากนี้ จะต้องมีแต่ความสุขไร้ซึ่งความทุกข์ใด ๆ ทั้งสิ้น หากข้าผิดคำสาบาน ขอให้ข้าไม่ตายดีในสามวันเจ็ดวัน” เสวี่ยเยวียนสือยกมือขึ้นแล้วเอ่ยคำสาบานออกไปด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและห้าวหาญ เมื่อฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก“เอาล่ะ แม้ว่าข้าอยากจะรั้งพวกเจ้าเอาไว้ให้นานกว่านี้ แต่ข้าคิดว่าเหล่าขุนนางทั้งหลายก็คงจะกดดันข้าไม่เลิก ในวันพรุ่งนี้ข้าจะให้คนส่งเจ้าออกนอกเมืองหลวง และส่งเจ้าไปในที่ที่เจ้าอยากจะไป” พระองค์ตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะหันไปทางขันทีข้างกาย “อู่กงกง เจ้าจง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status