คอนโด K
"...ซื้อของมาทำไมเยอะแยะ จะชวนเพื่อนมากินข้าวที่ห้องเหรอ?" "เปล่าค่ะ ซื้อมาติดบ้านไว้เผื่ออยากทำทานเอง" "ปกติถ้าไม่ออกไปกินข้าวข้างนอกก็ซื้อกิน อะไรทำให้เปลี่ยนใจ" ผมมองตามแผ่นหลังบางอย่างงุนงง เห็นของขวัญแยกผักและเนื้อสัตว์ออกจากกัน มีวิธีเก็บของแบบมีความรู้สุดๆ ไม่ต่างจากคนที่ศึกษาทุกอย่างมา "ต่อไปนี้ขวัญจะทำอาหารทานเองค่ะ จะฝึกทำขนมด้วยนะคะ พวกคุกกี้ เค้ก แต่ตอนนี้ขอหัดทำกับข้าวอย่างเดียวก่อน แฮ่ๆ" คนตัวเล็กหันมายิ้มอวดความสดใส พวงแก้มเนียนที่แดงระเรื่อสะดุดตาเป็นอย่างดี "ตอนอยู่ที่คอนโดพี่ฉลาม หนูไม่เห็นพี่องศาทานอะไรเลย กินกุ้งไปแค่ตัวเดียวเอง เดี๋ยวหนูทำอะไรให้ทานนะคะ" "ขอเลือกเมนูเองได้ไหมล่ะ" "ได้ค่ะ แต่ต้องอยู่ภายใต้ตัวเลือกที่หนูมีให้เท่านั้นนะคะ" "ทำไมล่ะ" "ก็หนูยังทำไม่เก่งนี่นา ยังต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเองค่ะ ตัวเลือกของวันนี้มีข้าวผัด มีผัดกระเพราและมีผัดคะน้าค่ะพี่องศาอยากทานอะไรคะ" "พี่ขอมาม่าร้อนๆ ชามนึงก็พอ" "มาม่าเหรอ ได้ค่ะ นั่งรอแป๊บนะคะ" มุมปากหนายกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยืนพิงสะโพกกับขอบเคาน์เตอร์มองคนตัวเล็กเงียบๆ ความคิดแปลกใหม่ผุดเข้ามาในหัว ของขวัญไม่ใช่เด็กสามขวบที่จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร บางทีการที่ผมยอมช่วยเธอแบบเต็มที่ ผลตอบรับที่ได้มันก็อาจจะไม่ได้แย่ ของขวัญอาจจะเข้าใจและยอมรับความจริงได้ ถึงตอนนั้นมันก็อาจจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายเลย "เสร็จแล้วค่ะ มาม่าชามโตหนูเติมลูกชิ้นให้ด้วยนะ" "ไม่กินด้วยกันเหรอ" "กินผัดมาม่าที่พี่ทำให้เยอะมากยังจุกอยู่เลยค่ะ พี่องศากินให้อร่อยนะคะ" ผมมองสิ่งที่อีกคนตั้งใจทำให้ ผักและลูกชิ้นถูกเติมลงไปในเมนูธรรมดาๆ ที่ควรมีแต่เส้นอย่างใส่ใจ แต่น้ำในชามที่เยอะเกินไปบ่งบอกว่าการทำอาหารไม่ใช่เรื่องที่ของขวัญถนัด "เมื่อคืนฝันว่าอะไรเหรอ เล่าได้ไหม" คนที่เดินไปล้างมือหมุนตัวกลับมามองเล็กน้อย คงเห็นว่าผมสนใจของขวัญจึงยอมเดินกลับมานั่งข้างๆ กัน "ฝันว่าไปโผล่อยู่ที่ชั้นใต้ดินค่ะ" "แล้วไปเจออะไรที่นั่น" "ไปเจอคุณยายแก่ๆ คนนึงค่ะ ตรงนั้นมันมืดมาก มีรอยเท้าของช้าง ระหว่างทางที่พยายามเดินออกมามีใครก็ไม่รู้เต็มไปหมด เขาพยายามจะดึงมือขวัญให้ไปกับเขา" "แล้วได้ไปหรือเปล่า" คนถูกถามรีบส่ายหน้า "ไม่ได้ไปค่ะ หนูเจอพี่ในฝันด้วยนะ หนูพยายาจะเดินตามพี่ แต่บางครั้งพี่ก็หายไป หนูเจอพระด้วย พระท่านเป็นคนนำทางออกมา" "ฝันแบบนี้ประจำเลยเหรอ ก่อนนอนไหว้พระสวดมนต์หรือเปล่า" "...เมื่อก่อนหนูฝันบ่อย แต่ตอนนี้ไม่ค่อยฝัน ถ้าจะฝันก็ฝันตอนที่มีเรื่องให้คิดมาก" "แล้วชีวิตนี้มีอะไรให้คิดมาก ปัญหาครอบครัวก็ไม่มีไม่ใช่เหรอ พ่อแม่ยังสุขภาพแข็งแรง ฐานะทางการเงินก็ไม่เคยเกิดปัญหา ผลการเรียนก็ดีมาโดยตลอด แล้วเรื่องอะไรที่ยังคิดมาก" "หนูอธิบายไม่ถูกอ่ะ มันเป็นเอง" ผมมองคนที่ทำหน้าเศร้า ผมรู้ว่าเธอไม่ได้โกหก เธออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ "หนูไม่ได้อยากฝัน พอฝันแล้วรู้สึกเหนื่อยมากเลยนะ ไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลย" "เข้าใจแล้ว อย่าคิดมาก พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุข พี่ว่าไม่นานหรอกเดี๋ยวอะไรๆ มันก็ดีขึ้นเอง" "หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ" ของขวัญยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเธอสดใสขึ้นกว่าเมื่อวานมาก ตากลมๆ คู่นั้นถูกซ่อนไว้ด้วยความสุขก่อนที่มันจะค่อยๆ เลือนหายเมื่อมองเห็นรอยบนแขนของผม "ระ รอยบนแขนพี่เต็มไปหมดเลย" "ใครล่ะเป็นคนทำ" "ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ็บเลยค่ะ" "รู้น่า ใครเจ็บกว่าก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่" คนถูกยอกย้อนกัดปากตัวเองก่อนจะก้มหน้างุดหลบซ่อนความเขินอาย "เสียใจหรือเปล่า" ผมถามต่อและมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่มองผมตอบ และคำตอบของของขวัญก็ยังเป็นการส่ายหน้า "ไม่ค่ะ" "พี่เป็นผู้ชายคนแรก" "เราเป็นแฟนกันนี่คะ เป็นคู่หมั้นที่เรียนจบก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว" "ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยมันทำให้เจอใครต่อใครเยอะแยะไปหมด พี่จะเรียนจบแล้ว ในขณะที่ขวัญยังต้องเรียนต่อ พอถึงตอนนั้นความรู้สึกของเรามันอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้นะ" "ไม่มีวันหรอกค่ะ หนูว่าความรู้สึกของหนูไม่มีวันเปลี่ยนไป" "...อืม พี่ว่าความรู้สึกของพี่มันก็คงไม่มีวันเปลี่ยนไปเหมือนกัน" "ความรู้สึกของพี่ที่หมายถึง..." "วันหลังลดปริมาณน้ำลงอีกนะ เอาแค่ท้วมเส้นแล้วมันจะอร่อยพอดี" "อ๋อโอเคค่ะ ให้หนูเทน้ำออกให้ไหม" "ไม่เป็นไร วันหลังค่อยแก้มือใหม่ละกัน" "วันนี้ไปเจอเพื่อนๆ พี่องศาอีกรอบ พวกพี่ๆ น่ารักกันมากเลยนะคะ พี่จีน่าใจดีและสวยมาก พี่ๆ ไม่มีแฟนกันเลยเหรอ" ผมทบทวนคำว่าน่ารักของของขวัญก่อนจะนึกถึงใบหน้าเพื่อนแต่ละคนของตัวเอง "ที่จริงพวกมันห่างไกลจากคำว่าน่ารักมากเลยนะ อ้อนตีนเก่งกันมากกว่า" "หนูชอบเวลาที่พวกพี่ๆ แกล้งกันค่ะ มันดูอบอุ่นดี อ้อ...พี่จีน่ามีแฟนไหมคะ" "ไม่นะ" "แต่ก็คงมีคนมาจีบเยอะมากแน่ๆ น่ารักขนาดนั้น หนูชอบความสดใสของพี่จีมาก บางครั้งก็อยากใช้ชีวิตแบบนั้น หนูยกให้พี่จีเป็นไอดอลเลย" "การใช้ชีวิตแบบจีน่ามันต้องมีคนดูแล การมีเพื่อนผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรหรอก แต่ต้องดูและมั่นใจก่อนว่าเพื่อนพวกนั้นมันดีจริงๆ พวกพี่ไม่ได้ดีอะไรกันมากหรอก แต่ก็ไม่เคยทำให้จีน่าเสียหาย และไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำอะไรไม่ดีกับมันด้วย" "ดูก็รู้แล้วค่ะ ถ้าวันไหนหนูว่าง หนูไปเจอเพื่อนๆ ของพี่อีกได้ไหมคะ" "นึกยังไงถึงชอบความอ้อนตีนของพวกมัน" "แล้วใครบอกล่ะคะว่าหนูชอบพวกพี่ๆ มากกว่าคนที่อยู่ตรงหน้า" "จะบอกว่าชอบพี่มากกว่า?" "แล้วถ้าหนูตอบว่าเป็นแบบนั้นล่ะคะ" "กล้าบ้าบิ่นนักก็จะโดนแบบนี้ไง" "อื้ออ! พี่องศา" ของขวัญหลับตาปี๋เมื่อโดนผมใช้ด้ามตะเกียบตีบนจมูกเชิดรั้น ถึงอย่างนั้นสองแก้มก็เปื้อนรอยยิ้มสดใส เสียงหัวเราะเล็กๆ ดังเล็ดลอดออดมาจากริมฝีปากสีชมพูอ่อน จุดจบของคนชอบแกล้ง เห็นทีจะโดนผมแกล้งคืนบนเตียง! --------- ฝากกดไลก์และคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนกันหน่อยนะคะ ถ้าอ่านแล้วชอบอย่าลืมเก็บเข้าชั้นเพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อนิยายมีการอัปเดตตอนใหม่นะคะ-ของขวัญ-มหาวิทยาลัย"...พี่จี" ฉันโบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่สาวที่ยืนเหม่ออยู่นาน ตอนแรกลังเลว่าจะรอให้พี่จีเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนค่อยทัก ทว่ารุ่นพี่สาวกลับไม่ยอมก้าวขาออกมาจากตรงนั้นสักที สีหน้าเหมือนคนกำลังเก็บบางสิ่งบางอย่างมาคิดอยู่ในหัว เหมือนคนมีเรื่องให้ไม่สบายใจ"น้องขวัญ" พี่จีน่าสะบัดหัวแรงๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉัน สีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีส่งผลให้ฉันผายมือไปที่ฝั่งร้านกาแฟทันที"กาแฟสักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "ดีเลยค่ะ น้องขวัญรีบไหมไปกับพี่นะ" "ไม่รีบค่ะ ขวัญรอเพื่อนอยู่พอดี""เคเลย" พี่จีน่าตรงไปยังร้านกาแฟพร้อมฉัน เราสั่งเครื่องดื่มพร้อมกันก่อนจะเดินมานั่งรอด้วยกัน"เมื่อคืนกลับดึกมากเหรอคะ เหมือนคนนอนน้อยเลย" "งั้นเหรอ วันนี้พี่แต่งหน้าไม่สวยหรือเปล่า รีบๆ หน่อย" รุ่นพี่สาวรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเข้าไปที่กล้องหน้าเพื่อเช็กใบหน้าของตัวเอง"เหมือนคนพักผ่อนไม่ค่อยเต็มที่ค่ะพี่จี แต่ยังสวยเหมือนเดิมนะคะ" "ปากหวานนะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละ สวยก็ใช่ว่าจะสวยสำหรับทุกคน" "คะ?" ฉันเอียงคอมองสบตากับคนตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พี่จีน่าพูดมันหมายความว่ายังไงหมายความว่ามีใครสักคนบอกว่า
S2 PUB"...น้องคนนั้นสวยว่ะ กูล็อกเป้าเรียบร้อย ห้าทุ่มเจอกัน!" ฉลามดีดปลายนิ้วพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตาคมทอดมองไปยังร่างบอบบางของคนที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสดใสฉลามมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ชัดเจนกว่าทุกคนเสมอ ชอบคนไหนมันก็เอาคนนั้น มีแต่ผมนี่แหละที่ขยับทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้สักที"มึงเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยนะหลาม รถไฟไม่เคยชนกันหน่อยเหรอวะ เหมือนกูต้องยอมก้มหัวคารวะให้มึงเป็นอาจารย์ว่ะ" "กลัวเหี้ยไรวะ ก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว ว่าไม่ได้จะคบจริงจังแบบนั้น รู้กันทั้งสองฝ่ายแล้วแบบนั้นจะเรียกร้องให้ได้เหี้ยไร" "มึงนี่โชคดีเหมือนกันนะ ควงไม่เคยซ้ำหน้าแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเลยสักที" ลีโอมองหน้าเพื่อนแบบเหนือความคาดหมาย ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีใครสู้มันได้จริงๆ"วันนี้จีน่าไม่มาถูกปะ? เงียบ เงียบนี่แปลว่าอะไรวะ ไม่รู้หรือขี้เกียจตอบ" "แล้วมึงถามใคร?""ถามเหี้ยเซย์ไง มันสนิทกับจีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอวะ" "มึงมากกว่ามั้งที่สนิทกับยัยนั่นมากกว่ากู" เซย์เอ่ยขึ้นมาบ้าง วันนี้สีหน้าของมันค่อนข้างเซ็งถึงเซ็งมาก แต่ก็นะ เซย์ก็ยังเป็นเซย์ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร"กูเนี่ยนะสนิ
-องศา-"...แม่ขา" เสียงสดใสของคนตัวเล็กข้างกายทักทายคนที่นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว ขาเรียวก้าวเร็วๆ ไปที่เบื้องหน้าก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดคนที่นั่งรออยู่บนโซฟาอย่างรวดเร็ว"รอนานไหมคะ" "ไม่นานจ๊ะแม่เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน" ผมยกมือไหว้เมื่อแม่ของขวัญเบนสายตามาที่ผม รอยยิ้มอบอุ่นประดับบนใบหน้า ผมมักจะเจอกับรอยยิ้มนี้ทุกครั้งที่เราเจอกัน"ไปกินข้าวกันมาเหรอลูก" "ใช่ค่ะ คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังคะให้หนูทำอะไรให้ทานไหม" "หืม? ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้เลยนะ" ของขวัญยิ้มแห้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากอวดในสิ่งที่ตัวเองกำลังพยายาม"หนูตั้งใจจะเรียนทำอาหารค่ะ นี่คิดว่าถ้ามีเวลาว่างจะเข้าคอร์สเรียนเลยนะคะ มันต้องดีมากๆ เลยแหละ""ขนาดนั้นเชียวเร้อ แบบนี้ในอนาคตแม่คงไม่ต้องจ้างแม่บ้านล่ะมั้ง ลูกสาวจะทำอาหารเก่งแล้วนี่นา" "ได้นะคะ แต่ต้องขอเวลาเรียนรู้ก่อน รอแบบใจเย็นๆ นะคะ" แม่ของขวัญระบายรอยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น สังเกตเห็นว่าฝ่ามือลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน"คุณแม่คุยกับพี่องศารอก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูไปหาขนมและน้ำผลไม้มาให้ทานค่ะ" "ขอบใจนะลูก" ของขวัญหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่จากนั้นก็รีบลุกออกไป ปล่อยให้ผมอยู่กับแ
บรรยากาศภายในร้านอาหารที่พวกพี่ๆ เลือกรอบตัวเต็มไปด้วยกลุ่มของนักศึกษา ออกจะเหมือนร้านนั่งชิลล์มากกว่าร้านอาหารที่ไว้สำหรับทานข้าวด้วยซ้ำไป"อาหารร้านนี้อร่อยมากเลยนะ น้องขวัญเคยมาไหม" "เคยจะมากับมีนค่ะพี่จี แต่พอมาถึงคือคนเยอะมากโต๊ะเต็มเลยไม่มีที่นั่งค่ะ" "นั่นไงว่าแล้วเชียว ทีหลังถ้าอยากมาบอกพี่นะ ร้านสาวของฉลามมันอ่ะ เดี๋ยวให้มันโทรจองโต๊ะให้" "ร้านแฟนพี่ฉลามเหรอคะ" ฉันตาโตเมื่อได้ฟัง ที่ออกจะตกใจเพราะเคยได้ยินว่าพวกพี่ๆ ไม่ได้มีแฟนกันเลยสักคน"สาวที่หมายถึงผู้หญิงของมันอ่ะ เคยคุยเคยได้แต่ไม่เคยคบอะไรแบบนี้" "มึงก็พูดซะกูดูเลวเลยนะจี น้องตกใจกันพอดี ว่าแต่เพื่อนน้องขวัญนี่คือโสดไหมครับ" "นั่นไงกูคิดไว้แล้วไอ้หลามว่ามึงต้องเล็ง ตึงจัด กะจะกวาดให้เรียบเลยหรือไง" พี่ลีโอควงแก้วในมือพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตบท้ายด้วยเสียงของพี่ติณห์ที่คัดค้านขึ้นมา"ลืมเหรอสัส องศามันห้ามยุ่งกับทุกคนที่อยู่รอบตัวคู่หมั้นมันเว้ย แม้แต่เพื่อนของน้องก็ไม่ได้ก็คงรู้แหละว่าพวกมึงมันเลวเกินไป" "สัส กระทืบซะกูยับเยินเลยนะมึง" เสียงหัวเราะในกลุ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันสนใจสิ่งที่พี่ติณห์พูดมากกว่า ไม่เคย
หลายวันต่อมามหาวิทยาลัย"...วันนี้แลดูสวยผิดหูผิดตานะ ส่องกระจกแล้วตอบมาว่าคิดเหมือนกันปะ" มีนทักทายประโยคแรกแล้วจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างมีความหมาย สายตากรุ้มกริ่มกระตุ้นรอยยิ้มสดใสได้เป็นอย่างดี"อะไรยังไง ฉันก็เหมือนเดิมไหม" "ก็วันนี้แต่งหน้าสวย ผมก็เป๊ะมาก เหมือนคนที่ดูแลตัวเองแบบสุดๆ อ่ะ" "ก็ต้องดูแลตัวเองไหม หรือจะบอกว่าแกไม่ดูแลตัวเอง" "เรื่องดูแลมันก็ดูแลแหละ แต่แบบมันอาจจะมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นไง" มีนหมุนร่างกายเพื่อหันหน้าเข้าหา เวลาที่ถูกจ้องหนักขึ้นฉันเองก็แทบวางสีหน้าไม่ถูกเหมือนกัน"อะไรของแกเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้วนะ ทำไมมองแบบนี้เล่า" "ช่วงนี้กำลังอินเลิฟปะ" "ก็เหมือนเดิม" "แต่แกสวยกว่าเดิม สดใสกว่าเดิมยิ้มเก่งกว่าเดิม คือทุกอย่างมันโอเคมากกว่าเดิมอ่ะ มันต้องมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นแหละ""ยัยมีน" "บอกมานะ ช่วงนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" ฉันคิดตามคำถาม และถ้าจะให้พูดกันตามความเป็นจริงเห็นว่ามันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ"เงียบแบบนี้แปลว่า...""อื้อ มันก็ดีแหละ เดี๋ยวนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมาก" ฉันเขินหนักมากตอนที่เอ่ยคำนี้ ฉันใจฟูสุดๆ เวลาที่อยู่กับเขา ฉันชอบเวลาท
-องศา-"ขอบคุณนะคะที่ยอมอยู่ พี่องศาน่ารักเป็นบ้าเลย" คนได้ดั่งใจชมเปราะไม่ขาดปากเมื่อผมตอบรับการอยู่เป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าเธอทำหน้าเศร้า ของขวัญในตอนนี้และสามสิบวินาที ก่อนหน้านี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่ผมบอกว่าจะกลับเธอไม่ได้มีชีวิตชีวาเหมือนอย่างตอนนี้ด้วยซ้ำ ไม่อยากจะคิดเลยว่าผมกำลังมีบทบาททางความรู้สึกต่อเธอมากเกินไป"อยู่ได้นะ แต่ไม่มีเสื้อผ้าใส่" ของขวัญทำตาโตเมื่อได้ยินคำตอบของผม ตากลมๆ มองต่ำที่ช่วงกลางกายของผมอัตโนมัติ ขนาดตอนนี้ผมยังแต่งตัวเรียบร้อยยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาเลยทำไมดื้อได้ขนาดนี้วะ กล้ามองแบบนี้นี่เกินไปแล้วจริงๆ! "กำลังคิดอะไร" "ปะ เปล่า ไม่ได้กำลังคิดอะไรเลยค่ะ" "แน่ใจ?" ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักรัวๆ แทนคำตอบ แล้วใครจะดูไม่ออกว่าการยิ้มแห้งๆ แบบนี้มันเป็นเพราะเธอกำลังพูดจาเบี่ยงเบนจากความเป็นจริง"พี่แก้ผ้านอนได้ไหม""พี่องศาพูดจาทะลึ่งเกินไปแล้วค่ะ""แล้วการมองเป้าผู้ชายนี่คือทะลึ่งไหม" "มะ ไม่ได้ตั้งใจจะมองค่ะแต่ตามันดันไปเอง มันเป็นเรื่องบังเอิญต่างหากล่ะ" "เถียงข้างๆ คูๆ" "หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ รู้สึกเหนียวตัวมากเลย" ของขวัญเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับ