Share

9

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-05-28 07:00:24

เฟินเสี่ยวหยางที่เพิ่งได้ต่อสู้ก็เอาชนะคู่ต่อสู้ซึ่งมาจากตำหนักสัตว์อสูรได้ภายในไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น ถึงแม้เขายังต้องต่อสู้อีกรอบก็ไม่นับเป็นอะไร ส่วนอีกสามคู่ที่เหลือก็ต่างเป็นคนจากตำหนักกระบี่ทั้งหมดที่เอาชนะไปได้

การต่อสู้แบบพบกันหมดของคนจากตำหนักกระบี่ทั้งสี่ใช้เวลาไม่นานนักก็จบการแข่งขัน เมื่อรวนเอ๋อถูกผลักให้ตกเวทีไปพร้อมสัตว์อสูรของนาง

สรุปผลผู้ที่ได้เป็นตัวแทนอีกสามคนคือเฟินเสี่ยวหยาง กวงจื้อจิ่งและคงหมิงซึ่งมาจากตำหนักกระบี่ทั้งหมด นับได้ว่าตัวแทนของสำนักในครั้งนี้เป็นคนจากตำหนักกระบี่มากถึง 6 คน ส่วนตำหนักสัตว์อสูรนั้นมีตัวแทนเพียง 4 คนเท่านั้น แถมยังเป็นหญิงล้วนอีกด้วย ยิ่งทำให้คนจากตำหนักกระบี่นึกดูถูกพวกนางไม่น้อย

เฮอะ แค่ผู้หญิงจากตำหนักกระบี่กลับโชคดีได้เป็นตัวแทน พวกเจ้าอย่าทำให้สำนักเราขายหน้าตอนประลองที่เมืองหลวงเล่า” เฟินเสี่ยวหยางกล่าวอย่างเหยียดหยาม

เจ้าก็พูดเกินไปเสี่ยวหยาง พวกนางอาจจะพอมีฝีมืออยู่ท่าสองท่า คงไม่ทำให้พวกเราต้องเสียหน้ามากหรอกน่า” คงหมิงกล่าวเสริม

ปากดีเหลือเกินนะเฟินเสี่ยวหยาง เจ้ากับพวกนั่นแหละอย่ามาเป็นตัวถ่วงพวกเรา”

ช่ ๆ แค่สัตว์อสูรของพวกเราก็สามารถทำให้พวกเจ้าลงไปนอนเล่นด้านล่างเวทีได้แล้ว ชิ ทำเป็นพูดดีไป” อู๋อิงกับเซียวเหมยกล่าวสวนไปทันควัน

วกเจ้าเลิกทะเลาะกันได้แล้ว! แยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้ฟังคำสั่งของท่านเจ้าตำหนักเสร็จยังต้องออกเดินทางไปเมืองหลวงอีก” อาจารย์รีบเข้ามาห้ามปราม

ทั้งสองกลุ่มจากตำหนักกระบี่และตำหนักสัตว์อสูรได้แต่แยกจากกันไปตามที่พักของตนเอง ถึงแม้พวกเขาจะเกลียดกันมาแค่ไหนก็ไม่กล้าก่อเรื่องต่อหน้าอาจารย์ให้ถูกลงโทษแน่

พรุ่งนี้หลังฟังคำอวยพรจากเจ้าตำหนักทั้งสามคน ต้วนหยง ขุยอัน เหยียนหลง เฟินเสี่ยวหยาง กวงจื้อจิ่ง คังหมิง เจิ้งหลิน หานชิง อู๋อิงและเซียวเหมยจะต้องร่วมทางกันไปยังเมืองหลวงแคว้นหนานเพื่อแข่งขันหาตัวแทนแคว้นต่อไป

พวกเจ้าว่าครั้งนี้เฟินเสี่ยวหยางจะก่อกวนพวกเราระหว่างเดินทางไหม?” อู๋อิงถาม

ข้าคิดว่าเขาน่าจะไม่กล้า อย่างไรลูกน้องเขาก็ไม่ได้ติดตามมาด้วย” เซียวเหมยเอ่ย

นั่นสิ คนอย่างเฟินเสี่ยวหยางนั่นน่ะ เก่งแค่ตอนอยู่รวมกลุ่มกันเหมือนหมานั่นแหละ อย่ากังวลเลยน่า” หานชิงกล่าว

ค่พวกเราอยู่ห่าง ๆ เขาเอาไว้ก็พอแล้ว ข้าเชื่อว่าเขาไม่กล้าลงมือหรอก” เจิ้งหลินออกความเห็นบ้าง

นี่เจิ้งหลิน พวกเราบ้านอยู่ต่างเมือง หากไปถึงเมืองหลวงแล้วจะพักที่ไหน” หานชิงเริ่มกังวลเรื่องที่พัก

ฮ่า ฮ่า พวกเจ้าก็พักที่จวนกั๋วกงกับข้าไง คิดมากอะไรกันน่ะ” เจิ้งหลินเอ่ยอย่างขำ ๆ

พวกเราเกรงใจน่ะสิ ไม่รู้ว่าอาจารย์จะเช่าโรงเตี๊ยมให้พวกเราหรือเปล่า”

รอตอนก่อนออกเดินทาง ข้าจะบอกอาจารย์ของเราเองว่าให้ไปพักที่จวนท่านตาข้า ส่วนคนอื่นจะพักที่ใดก็เรื่องของพวกเขา” เจิ้งหลินกล่าว

อืม… เอาตามที่เจ้าว่าก็ได้เจิ้งหลิน” อู๋อิงยิ้มตอบ

เมื่อถึงที่พักแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเก็บข้าวของใส่แหวนเก็บของสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เสี่ยวจู้ถูกวางไว้บนเตียงแล้วนั่งมองเจิ้งหลินเก็บของตาปริบ ๆ นางไม่เข้าใจว่าการไปเมืองหลวงจะต้องเตรียมของไปมากมายเช่นนี้หรือ? เสี่ยวจู้ไม่เข้าใจมนุษย์ผู้หญิงพวกนี้สักเท่าไหร่ ด้วยตัวมันยังเด็กนัก

หลังอาหารเช้าวันต่อมา เหล่าศิษย์ที่เป็นตัวแทนสำนักต่างไปรวมตัวกันที่ลานหน้าสำนักพร้อมกับศิษย์ในตำหนักต่าง ๆ ซึ่งมาเข้าแถวรอส่งพวกเขา

เจ้าตำหนักสัตว์อสูรผางเซิง เจ้าตำหนักปรุงยาเยี่ยหว่านซิงและเจ้าตำหนักกระบี่จุนซีเหวินมายืนรอพร้อมรอยยิ้มบางที่เห็นศิษย์ใหม่ทั้ง 10 ซึ่งปีนี้จะเป็นตัวแทนสำนักไปแข่งขันต่อที่เมืองหลวง พวกท่านได้รับรายงานแล้วว่ารายชื่อของศิษย์นั้นมีใครบ้าง ส่วนอาจารย์ที่จะเป็นคนดูแลศิษย์เหล่านี้ระหว่างเดินทางไปแข่งขันมีอาจารย์หลินเหวินป๋อ ซ่งเจิ้งหยวนจากตำหนักกระบี่ และอาจารย์เย่ซูหุยกับเหอจิ้งอีจากตำหนักสัตว์อสูร

ข้าขอให้ทุกคนที่เป็นตัวแทนสำนักในปีนี้ได้รับชัยชนะ” ผางเซิงเอ่ย

ข้าเองก็ขอให้พวกเจ้าตั้งใจต่อสู้อย่างเต็มที่เช่นกัน” เยี่ยหว่านซิงกล่าว

ข้าขอให้พวกเจ้ารักและสามัคคีกันให้ดี เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของสำนัก” จุนซีเหวินเอ่

พวกเราขอให้พวกเจ้าเดินทางอย่างปลอดภัย ออกเดินทางเถอะ” ผางเซิงกล่าว

ขอบคุณท่านเจ้าตำหนักขอรับ/เจ้าค่ะ” ตัวแทนทั้ง 10 พร้อมอาจารย์ทั้ง 4 เอ่ย

การเดินทางครั้งนี้ใช้รถม้า 4 คันในการเดินทาง โดยที่เหล่าอาจารย์จะนั่งรวมกันที่รถม้าคันแรก รถม้าคันที่สองเป็นกลุ่มของเจิ้งหลินทั้ง 4 คน คันที่สามและสี่เป็นกลุ่มของศิษย์จากตำหนักกระบี่ โดยมีสัตว์อสูรม้าเมฆาคอยลากรถม้า ซึ่งคาดว่าการเดินทางน่าจะไปถึงยังเมืองหลวงโดยใช้เวลาเพียง 10 วันเท่านั้น จากความสามารถของสัตว์อสูรม้าเมฆาที่แข็งแกร่งและวิ่งได้อย่างรวดเร็วนับพันลี้ภายในวันเดีย

ระหว่างการเดินทาง อาจารย์จากทั้งสองตำหนักยังคอยสอนเทคนิคการต่อสู้เพิ่มเติมให้กับศิษย์ทั้ง 10 เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งอีกด้วย ทำให้ทุกคนต่างมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะศิษย์จากสำนักอื่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันได้

ก่อนถึงเมืองหลวงหนึ่งวัน เจิ้งหลินคุยกับอาจารย์ทั้งสี่ว่านางอยากเชิญทุกคนที่ไม่มีบ้านอยู่เมืองหลวงไปพักที่จวนเจิ้งกั๋วกง

หื? นั่นจะไม่เป็นการรบกวนเกินไปหรือเจิ้งหลิน พวกอาจารย์สามารถเช่าโรงเตี๊ยมให้พวกเจ้าได้นะ” เย่ซูหุยกล่าว

ไม่รบกวนเลยเจ้าค่ะ จวนกั๋วกงมีเรือนหลายหลัง พวกท่านสามารถพักได้อย่างสบายใจเจ้าค่ะ ท่านตาของข้าคงดีใจที่มีคนมาพักมากมายเจ้าค่ะ” เจิ้งหลินยิ้มกล่าว

เฮอะ จวนตระกูลเฟินของข้าก็มีเรือนพักมากมายเช่นกัน เจ้าจะมาอวดโอ่อะไร”

ข้ามิได้อวดโอ่อย่างที่เจ้าคิดหรอกนะเฟินเสี่ยวหยาง จวนเล็ก ๆ ของเจ้าจะมีเรือนพักสักกี่หลังกัน อย่าทะนงตนให้มันมากนัก” เจิ้งหลินเอ่ยสวน

เอาล่ะ ๆ เราไปดูก่อนก็แล้วกันว่าจะพักที่ใด อาจารย์เกรงใจท่านกั๋วกง” ซ่งเจิ้งหยวนเอ่ยห้ามศิษย์ทั้งสอง

ท่านอาจารย์ ข้าจะกลับไปพักที่จวนตระกูลเฟินนะขอรับ หากใครอยากพักกับข้าก็ติดตามข้าไปได้” เฟินเสี่ยวหยางเอ่ยขึ้นอย่างอวดดี

ศิษย์และอาจารย์ในตำหนักกระบี่พอฟังเฟินเสี่ยวหยางแล้วก็พากันหันมองหน้าอย่างระอา พวกเขาใช่ว่าจะไม่รู้นิสัยของเฟินเสี่ยวหยาง จึงไม่มีใครคิดจะไปยุ่งกับจวนตระกูลเฟินของเขา แตกต่างกับการไปพักที่จวนกั๋วกงซึ่งน่าจะมีเกียรติมากกว่า ต่างคนจึงต่างซุบซิบกันว่าจะติดตามเจิ้งหลินไปยังจวนกั๋วกงดูก่อนท่าจะดี

รุ่งนี้ก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว ข้าจะไปส่งเจ้าที่จวนตระกูลเฟินก่อน” หลินเหวินป๋อเอ่

ขอบคุณท่านอาจารย์ขอรับ ข้าจะให้คนเตรียมเรือนพักให้ท่านดีหรือไม่?” เฟินเสี่ยวหยางยังคิดเข้าข้างตัวเอง

นั่นไม่เป็นไร แค่เจ้าไปยังลานแข่งขันให้ตรงเวลาก็พอแล้ว” ซ่งเจิ้งหยวนกล่าว

เอาล่ะ ๆ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกเรารีบพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้จะได้เดินทางต่อ” เย่ซูหุยรีบให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อน

รุ่งเช้าวันต่อมา ขบวนเดินทางของสำนักพรตหนานหนิงก็ออกเดินทางต่ออย่างรวดเร็ว เหลือระยะทางอีกไม่ไกลแล้วก็จะเข้าเมืองหลวง ทุกคนตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันระหว่างแคว้น มีหลายสำนักที่เก่งกาจเข้าร่วมมากถึง 10 สำนักในครั้งนี้ ไม่รู้ว่ากฎการแข่งขันปีนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง เนื่องจากการแข่งขันจะจัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี เพื่อหาตัวแทนแคว้นไปแข่งกับแคว้นอื่นอีก 4 แคว้นเพื่อหาผู้ชนะต่อไป สำนักพรตหนานหนิงเคยมีตัวแทนสำนักที่เก่งกาจเมื่อห้าปีก่อน แต่ตอนนี้คงต้องพึ่งพาศิษย์ใหม่ทั้ง 10 คนนี้แล้ว เพราะการจำกัดให้เพียงศิษย์ใหม่แต่ละสำนักเข้าร่วมได้เท่านั้น พวกเจิ้งหลินจึงสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้

กว่าที่ขบวนของสำนักพรตหนานหนิงจะเดินทางถึงประตูเมืองหลวงก็เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว หลินเหวินป๋อบังคับรถม้าไปส่งเฟินเสี่ยวหยางที่หน้าจวนตระกูลเฟินโดยไม่คิดจะเข้าไปทักทายคนในตระกูลแม้แต่น้อย พวกเขารีบเคลื่อนรถม้าไปยังจวนเจิ้งกั๋วกงเนื่องจากใกล้ถึงช่วงเย็นแล้ว หากที่จวนเจิ้งกั๋วกงไม่สะดวกในการพักสักหลายวัน เหล่าอาจารย์จะได้พาศิษย์ไปหาโรงเตี๊ยมแทน

ที่หน้าจวนเจิ้งกั๋วกง พ่อบ้านใหญ่กำลังรอรับคุณหนูที่ส่งพิราบสื่อสารกลับมาเมื่อหลายวันก่อนว่าจะกลับมาเมืองหลวงเพื่อแข่งขันการต่อสู้ในปีนี้ ทำให้ท่านกั๋วกงสั่งคนในจวนเตรียมเรือนพักเอาไว้นับสิบหลังเผื่อว่าพวกเขาจะไม่มีที่พัก เพราะเจิ้งกั๋วกงรู้ดีว่ามีหลายสำนักที่มายังเมืองหลวง โรงเตี๊ยมต่าง ๆ คงเต็มไปด้วยผู้คน ท่านจึงเตรียมการเอาไว้ก่อนล่วงหน้า

รถม้าหยุดลงที่หน้าจวนขนาดใหญ่ ก่อนที่อาจารย์เย่ซูหุยกับเจิ้งหลินจะลงไปพบพ่อบ้านใหญ่ด้วยกันพร้อมรอยยิ้ม

ท่านตาพ่อบ้าน นี่อาจารย์ของข้าเย่ซูหุยเจ้าค่ะ ไม่ทราบท่านตาเตรียมเรือนพักเอาไว้ให้พวกเราแล้วหรือยังเจ้าคะ” เจิ้งหลินยิ้มกว้างถาม

ทุกอย่างเตรียมเอาไว้หมดแล้วขอรับคุณหนู เรือนพักมากกว่าสิบหลังทำความสะอาดไว้แล้ว ขอเชิญทุกท่านเข้าจวนก่อนเถิดขอรับ” พ่อบ้านใหญ่ผายมือเชิญ

ขอบคุณท่านพ่อบ้านและจวนกั๋วกงที่ให้การต้อนรับพวกเราจากสำนักพรตหนานหนิงเจ้าค่ะ” อาจารย์เย่ซูหุยค้อมคำนับกล่าว

ท่านไม่ต้องเกรงใจขอรับ นี่เป็นสิ่งที่ท่านกั๋วกงต้องการ เชิญ”

เย่ซูหุยกลับขึ้นรถม้าเพื่อนำขบวนเข้าไปในจวนกั๋วกง ส่วนเจิ้งหลินเดินไปที่ห้องโถงรับแขกหลังจากเรียกเสี่ยวจู้ลงจากรถม้าเพื่อไปพบท่านตาที่นางคิดถึง ส่วนพ่อบ้านใหญ่ยังคงรอให้ทุกคนลงจากรถม้าหลังเข้าจวนอยู่ตามธรรมเนียม

ศิษย์คนอื่น ๆ ที่ลงมาหลังจากรถม้าจอดเรียบร้อยแล้วต่างมองจวนที่กว้างใหญ่ตรงหน้าอย่างตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าเจิ้งหลินจะร่ำรวยมากเพียงนี้ แค่จวนแห่งนี้ที่ตาเห็นก็น่าจะมีเรือนพักมากกว่า 30 หลังกระมัง

ไม่คิดเลยว่าเจิ้งหลินจะมีฐานะขนาดนี้ นางไม่เคยอวดโอ่สิ่งใดในสำนักเลย”

นั่นสิ ไม่เหมือนเฟินเสี่ยวหลางที่ชอบอวดดีนั่นสักนิด ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว”

จากนี้พวกเราต้องทำดีกับเจิ้งหลินด้วยล่ะ นางอุตส่าห์เตรียมที่พักดี ๆ เช่นนี้ให้”

นั่นมันแน่อยู่แล้ว พวกเราไม่ได้นิสัยเหมือนเจ้าแซ่เฟินนั่นสักหน่อย”

ศิษย์ในตำหนักกระบี่ซุบซิบกัน ก่อนจะเดินตามหลังอาจารย์และเพื่อนของเจิ้งหลินเข้าไปในห้องโถงขนาดใหญ่เพื่อทักทายเจ้าบ้าน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อภินิหารหมูน้อยตกสวรรค์   90

    เสียงฮือฮาด้านล่างดังขึ้นอย่างอดไม่ได้เมื่อพวกเขาเห็นสัตว์เทพโบราณอย่างกิเลนไฟและมังกรดำ ส่วนเสี่ยวจู้ที่รูปร่างไม่ต่างจากหมูน้อยไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก จ้าววังมังกรยังมองเสี่ยวจู้อย่างแปลกใจที่สัตว์เทพซึ่งเสด็จพี่ของพระองค์สร้างมากับมือกลับรวมอยู่ในหมู่คนตระกูลเจิ้งด้วย ชา

  • อภินิหารหมูน้อยตกสวรรค์   89

    “แต่ข้าไม่เห็นด้วยกับเจ้านะเสี่ยวจู้” กิเลนไฟเอ่ยขึ้นหลังจากฟังมานาน“ทำไมกันเจ้านกบ้า หรือเจ้าอยากเข้าร่วมสงครามบ้าบอนี่กัน” เสี่ยวจู้กล่าวอย่างโมโห“เจ้าใจเย็นก่อนได้หรือไม่เล่า ถึงพวกเราจะหลบอยู่ที่นี่จนจบสงครามแล้วอย่างไร

  • อภินิหารหมูน้อยตกสวรรค์   88

    ณ วังสวรรค์ จ้าวสวรรค์ที่ได้รับข่าวจากองครักษ์ลับว่าเผ่าต่าง ๆ เสริมความแข็งแกร่งจนพวกเขาไม่อาจคาดเดาได้ก็เริ่มร้อนรนใจ พระองค์ที่ไม่ได้รับยาดี ๆ จากเผ่ามังกรมาสิบกว่าปีเริ่มรู้ตัวว่าตนเองกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ถึงแม้ตอนนี้ในวังของพระองค์จะมีพระสนมและลูกหลานมากมาย อย่างไรก็ยังมีกำลังไม่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับทหารเดนตายของแต่ละเผ่าอยู่ดี อีกทั้งอดีตจ้าวสวรรค์ผู้เป็นบิดายังต้องเวียนว่ายตายเกิดในโลกมนุษย

  • อภินิหารหมูน้อยตกสวรรค์   87

    เสี่ยวจู้พอได้ฟังคำขององค์หญิงใหญ่เข้า มันก็แสดงสีหน้าเศร้าสร้อยลงตามที่เคยวางแผนกับเจิ้งหลินเอาไว้นานแล้ว เจิ้งหลินเห็นเสี่ยวจู้รับลูกทันจึงรีบเอ่ยตอบ“หม่อมฉันยินดีดูแลเสี่ยวจู้เพคะ เป็นพระกรุณายิ่งแล้วที่องค์หญิงมอบมันกลับมา”“อืม… เช่นนั้นคงต้องรบกวนเจ้าแล้ว หากเจ้ามีสมุนไพรใหม่ ๆ ก็ส่งคนไปแจ้งเราที่ตำหนักได้ตลอดนะ เรายังหวังว่าเจ้าจะสามารถหาสมุนไพรดี ๆ มาขายเราได้”“หม่

  • อภินิหารหมูน้อยตกสวรรค์   86

    ค่ำคืนนั้นทุกคนต่างช่วยกันเตรียมอาหารและนั่งกินกันที่ลานด้านหน้าอย่างสนุกสนาน ด้วยคนจำนวนมากที่เพิ่งมาถึง ทำให้บ้านเจิ้งครึกครื้นกันอยู่นานถึงค่อนคืนเลยทีเดียว ถึงแม้ตอนนี้องครักษ์ทั้งหมดจะยังไม่มีที่พักดี ๆ แต่พวกเขาที่เคยนอนกลางดินกินกลางทรายเวลาออกปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ได้บ่นว่าอันใด พวกเขากลับมีความสุขมากที่ได้กลับมารับใช้นายท่านอย่างชิงก้านหลง

  • อภินิหารหมูน้อยตกสวรรค์   85

    เมื่อทุกคนปรึกษากันเสร็จสิ้น ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนในเรือนโดยที่พรุ่งนี้เช้ากิเลนไฟจะมาปลุกพวกเขาเพื่อออกจากมิติทีหลังเหมือนกับทุกวัน หลังเจิ้งหลินกับชิงก้านหลงดูแลแปลงสมุนไพรในมิติเสร็จ ทั้งสามก็ออกจากมิติลับไปด้านนอกโดยที่ตอนนี้บ่าวไพร่กำลังแตกตื่นที่สมุนไพรในสวนหายไปจำนวนมาก ยิ่งกับสมุนไพรล้ำค่าที่หายไปทั้งหมดด้วยแล้ว พวกเขายิ่งหวาดกลัวจะถูกเจ้านายลงโทษหากหาตัวคนร้ายไม่พบทั้งที่มีเวรยามคอยเดินตลอดทั้งคืน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status