โรงพยาบาล
วันนี้มาทันเช็ดตัวให้แม่ทุกครั้งจะมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลให้ตลอด เรื่องค่ารักษาทุกอย่างของแม่เฮียเป็นคนจัดการ ค่ารักษาแต่ละเดือนคงเยอะมาก ฉันไม่เคยเห็นตัวเลขในบิลเลย ครั้งสุดท้ายที่เห็นตอนที่แม่ผ่าตัดสมอง เงินเป็นแสนเห็นแค่นั้นมือไม้ก็สั่นไปหมด หลังจากวันนั้นก็ไม่เคยรับรู้เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลแม่อีกเลย วันนี้ฉันขอพยาบาลเช็ดตัวให้แม่เอง แล้วก็ทำกายภาพบำบัดเพื่อไม่ให้เป็นแผลกดทับ นวดคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
ส่วนพี่นัทฉันขอร้องให้กลับไปก่อน ฉันอยู่ได้ถ้าอยู่ใกล้แม่น่าจะรู้สึกดีขึ้นเยอะ ดีกว่าอยู่ใกล้คนใจร้าย
"แม่จ๋า วันนี้หว้าเช็ดตัวให้แม่ด้วยน้า นวดให้ด้วย " ไม่รู้แม่ได้ยินหรือป่าว แต่คิดว่าคงได้ยินและรับฟังสิ่งที่ฉันพูดเข้าไปบ้างแหละ เพราะบางครั้งนิ้วมือแม่จะขยับเล็กน้อย มือของแม่ถูกกุมอยู่ตลอด ไม่อยากให้แม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียวอยากให้แม่รู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ตลอดไม่ไปไหนขอแค่ให้แม่กลับมา ฉันอยากให้แม่กลับมากอดในวันที่เหนื่อย ท้อ และวันนี้ที่รู้สึกแย่ที่สุด
"นอนนานแล้วน้า ไม่เบื่อบ้างเหรอ เทอมหน้าหว้าจะเข้ามหาลัยแล้วนะ ลูกแม่จะโตเป็นสาวแล้ว " มืออุ่นๆ ของแม่แนบอยู่ที่แก้มของฉัน แม่ไม่อยากตื่นขึ้นมามองหน้าลูกสาวคนนี้บ้างเหรอ แม่รู้มั้ยวันที่ไม่มีแม่อ้างว้างมากแค่ไหน
"หว้าคิดถึงแม่นะ คิดถึงเสียงบ่นแม่ คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่ แม่ไม่อยู่หว้าทำกับข้าวเป็นแล้วนะ กินได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าแม่สอนหว้าต้องทำอร่อยมากแน่ๆ เลย " ฉันยังนั่งคุยกับแม่ไปเรื่อยๆ วันนี้ขออยู่กับแม่นานหน่อยแล้วกันเพราะยังไม่อยากกลับบ้าน
---------
"คุณลูกหว้าคะ คุณลูกหว้า"
"อื้อ คะ " ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนคุณพยาบาลพิเศษมาปลุกให้ตื่นนี่ล่ะ
"ดึกแล้วนะคะ ให้ดิฉันเฝ้าต่อเถอะค่ะ " ฉันงัวเงียหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ห้าทุ่มกว่าแล้วเหรอเนี่ย ฉันหันไปมองหน้าแม่ก่อนที่จะหันมายิ้มให้คุณพยาบาล อยากอยู่ต่อเหมือนกันแต่ว่าไม่ได้เอาเสื้อผ้าติดมาเลยสักชุดแถมชุดที่ใส่วันนี้ก็ยังมีแต่กลิ่นเหงื่อเกรงว่าจะทำให้โรงพยาบาลเน่าเพราะมลพิษจากกลิ่นตัวของฉัน ทางที่ดีกลับบ้านไปอาบน้ำแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ดีกว่า
"ขอบคุณค่ะ ฝากแม่ด้วยนะคะ "
"ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันจะดูแลคุณแม่คุณหว้าให้ดีที่สุดค่ะ " ถ้าไม่ได้เงินของเฮียยังนึกสภาพของเราสองคนแม่ลูกไม่ออกเลย ฉันอาจไม่เหลือใครแล้วก็ได้ในตอนนี้ ถึงแม่จะนอนหลับไม่รู้เรื่องแต่ฉันก็ยังดีใจที่แม่ยังสู้และอยู่กับฉัน
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ถ้าอย่างนั้นหว้าขอตัวเลยก็แล้วกัน พรุ่งนี้หว้าจะมาใหม่ ช่วงเช้า หว้าขอเป็นคนเช็ดตัวให้แม่เองนะคะ "
"ได้ค่ะ " พรุ่งนี้วันอาทิตย์ฉันจะมาอยู่กับแม่ทั้งวันเหมือนเดิม อาจจะหอบเสื้อผ้ามานอนค้างด้วยสักคืน
ฉันหยิบกระเป๋าเป้บนโต๊ะข้างเตียงมาสะพายก้มหอมหน้าผากของแม่หนึ่งครั้งแล้วเดินออกจากห้อง ดึกขนาดนี้คงต้องนั่งแท็กซี่กลับ แพงแค่ไหนก็ต้องนั่งคงไม่มีรถโดยสารที่ไหนวิ่งแล้ว
"กินข้าวหรือยัง"
"เฮีย"
--------------------
#เฮียยุ
ผมหงุดหงิด โมโห สับสนตัวเองฉิบหาย ผมกำลังเป็นอะไร ทุกครั้งที่เธอทำผิด อะไรนิดอะไรหน่อยก็ทำให้ผมอยากลงโทษเธอหนักๆ แล้วสุดท้ายก็จบลงที่เธอร้องไห้เสียใจกับการกระทำบ้าๆ ของผม วันนี้ที่เห็นเธอร้องไห้ฟูมฟายผมถึงกับทำอะไรไม่ถูก และสิ่งที่เธอตะโกนใส่หน้ายิ่งตอกย้ำความเจ็บให้ผมหลายพันเท่า ผมมานั่งรอเธอที่โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงเย็นเพราะไม่กล้าเข้าไปในห้อง ผมไม่กล้าสู้หน้าแม่ของเธอที่กำลังนอนป่วยอยู่ รับปากท่านไว้แล้วว่าจะดูแลลูกสาวท่านอย่างดีที่สุดก่อนที่ท่านจะหลับไปแล้วไม่ตื่นขึ้นมา ครั้งนี้อาจจะแรงเกินไป จนทำให้พูดอะไรไม่ออกนอกจากนั่งรออยู่ข้างนอกเงียบๆ
"กินข้าวหรือยัง "
"เฮีย" สีหน้าตกใจเล็กน้อย เด็กน้อยยังหน้าซีดอยู่ ไม่รู้ว่าป่านนี้ได้กินข้าวหรือยัง
"ไปกินข้าวจะได้กลับบ้าน " ผมลุกจากระเบียงแล้วเดินตรงมาหาเธอแล้วอาศัยความมึนคว้าแขนเล็กๆ ของเธอไว้ ไม่รู้ละจะยังไงก็ช่าง งอนมากงอนน้อยหรือโคตรงอนยังไงก็ต้องกินข้าวก่อน
"ไม่หิว" แบบนี้โคตรงอนใช่ไหม พูดน้อยแต่โคตรจี๊ดหัวใจเลย ผมไม่ชอบให้เธองอน แต่ครั้งนี้ยอมรับเต็มๆ ว่าทำเกินไป ยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวไม่โทษใคร โทษตัวเอง
"ไม่หิวก็ต้องกิน "
"เฮียอย่าบังคับ เลิกบังคับได้แล้ว" เสียงเริ่มสั่น เอาละ กูยอมแพ้ กูแพ้มึงแล้วแสบ พยายามอดทนกับน้ำตาบนหน้าของเธอมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ผมทนไม่ไหวละ
"เออ เลิกแล้ว มึงก็เลิกขี้แยได้แล้ว รู้ทั้งรู้ว่าร้องไปกูก็ไม่ใจอ่อน " ปากบอกไม่ แต่ตอนนี้ใจกูไปแล้ว ผมดึงร่างเล็กตรงหน้าเข้ามากอดเพราะไม่อยากเห็นเธอร้องไห้
"เฮียปล่อย นี่มันโรงพยาบาลนะ" ใครสนกันละ ห้าทุ่มแล้วจะกลัวอะไร มีแต่ผีเท่านั้นแหละ
"ไปกินข้าวกับกูก่อน"
"ก็บอกไปแล้วว่าไม่หิว"
"ท้องมึงร้อง ไม่หิวก็ต้องกิน "
"ไม่" เพราะมันเป็นแบบนี้ไง จะไม่ให้โมโหได้ยังไง ผมอารมณ์ร้อนอยู่แล้วด้วยแต่ครั้งนี้ต้องพยายามไม่วู่วามเดี๋ยวจะไปกันใหญ่
"ถ้าไม่กินก็กอดกันอยู่แบบนี้นี่แหละ กอดแม่งยันเช้า" ผมพูดจริงทำจริงอยู่ อายที่ไหน
"เออ ๆ กินก็กิน"
"ก็แค่เนี๊ย ไปขึ้นรถ " หน้าบูดเป็นตูดเชียว ผมยอมคลายแขนทั้งสองข้างออกจากเธอ ถ้าไม่ขู่ก็คงไม่ยอม ตัวก็เล็กยังจะประท้วงไม่กินข้าวอีก
--------------------
"อยากกินอะไร "
"อะไรก็ได้"
"กินเฮียไหม" ผมใช้หยอกล้อกับเธอประจำ แต่วันนี้เธอไม่ยิ้มหัวเราะเหมือนครั้งก่อนๆ กูจะบ้าตายอยู่แล้ว อึดอัดสิครับ ถามคำตอบคำ ไม่ยอมพูดทั้งๆ ที่เป็นคนคุยเก่ง เรื่องง้อผมไม่เก่ง แต่เรื่องบนเตียงล้มทุกราย แต่กับไอ้แสบยังไงก็ไม่ได้เพราะมันยังเด็กเกินไป แต่ผมก็นิสัยเสียชอบทำให้มันเห็น ไม่รู้ว่าทำเรื่องอุบาทก์ไอ้แสบโผล่มาได้ยังไง ได้จังหวะพอดีทุกครั้ง แล้วผมก็จะโดนด่าทุก เสียเฮียเลยก็ว่าได้
"แสบ เฮียขอโทษ "
"อือ"
"อือ นี่คือไรวะ "
"รู้แล้ว "
"เฮียโมโหมากไปหน่อย เอาเป็นว่าขอโทษ เฮียรู้สึกผิดจริงๆ " ปากร้ายปากหมาอย่างผมพูดดีได้แค่นี้แหละ หวานกว่านี้คงอ้วกแตก กูนี่แหละเลี่ยนกับคำพูดตัวเอง
"ไม่มากหรอกเฮีย แค่ทำให้แสบ ไม่อยากอยู่ใกล้เฮียอีกแล้ว "
"ว่าไงนะ จะไปไหน "
"แสบคิดแล้ว ว่าแสบจะไม่เรียนต่อมหาลัย แสบจะไปหางานทำ หาเงินมาใช้หนี้ให้เฮีย เฮียจะได้สบายใจไม่ต้องคอยเป็นห่วงแสบ หมดภาระเฮียด้วยไง" เอาละ ผมเริ่มไม่ชอบใจความคิดแบบนี้แล้ว คิดอะไรตื้นๆ แบบนี้วะ ไม่เรียนต่อจะออกมาทำงาน ถามหน่อยว่าสมัยนี้ใครจะรับขนาดวุฒิปริญญายังตกงานให้เกลื่อน เริ่มไม่เข้าท่าแล้ว
"จำไว้ว่าอย่าได้คิดไปจากกู ต่อให้มึงทำงานจนตายก็ไม่มีปัญญาใช้หนี้กูหมด " พูดจบแล้วหันมาขับรถต่อ พยายามสอดส่ายสายตาหาร้านข้าวที่อร่อยที่สุด ในหัวก็พยายามสะบัดเรื่องเมื่อกี้ออกไป
"แต่แสบ "
เอี๊ยด
"อื้อ "
-------------------------
อึ้ง ทำอะไรไม่ถูกอยู่ๆ เฮียก็จอดรถแล้วดึงฉันเข้าไปจูบ จูบว่าจูบ ฉันไม่ได้ขัดขืนเพราะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้น ถึงไม่ประสีประสาแต่ก็รู้ว่าเฮียกำลังโมโห ริมฝีปากของฉันเปิดออกเพราะโดนขบกัดเบาๆ จากจูบที่เร่าร้อนก็เบาลงเป็นอ่อนหวาน จนฉันเริ่มคล้อยตาม สองมือของเฮียล๊อคประคองศีรษะของฉันไว้แน่น รู้สึกเหมือนงจะเป็นลม
"อย่าพูด ว่าจะไปอีก " เฮียผละริมฝีปากออกดึงฉันเข้าไปกอดแล้วลูบหัวเบาๆ รู้ไหมว่าฉันโหยหาอ้อมกอดแบบนี้มากแค่ไหน มันอบอุ่นที่สุดและปลอดภัยที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้รับจากเฮีย ความโกรธที่มีอยู่ตอนนี้เริ่มลดลงเพราะความอ่อนโยนที่เฮียมอบให้ สัมผัสได้ว่าเฮียเป็นห่วงจริงๆ
"แสบไม่อยู่ แล้วใครจะทำกับข้าวให้เฮียกิน "
"กลัวอดใช่ไหม"
"ไม่มีข้าวกินก็หิวอะดิ แสบก็รู้ว่าเฮียไม่ชอบกินข้าวคนเดียว " ความน่ารักของเฮียอีกหนึ่งอย่างคือทุกเช้าและทุกเย็นจะต้องกินข้าวพร้อมกัน ไม่มีคนใดคนนึงก็คือนั่งรอ จบลงด้วยโมโหหิวเป็นงานง้อกันอีก
"อือ "
"หายโกรธเฮียนะ"
"ยัง"
"งั้นกูจูบอีกนะ "
"เฮ้ย ไม่เอา"
"ปากเปื่อยแน่มึง "
"อื้อ " อย่างที่ได้ยินเสียง เฮียจูบอีกแล้ว วันนี้จะได้กินข้าวตอนไหนก็ไม่รู้
-------
3 เดือนต่อมา“ไอ้ยุ ไอ้ยุโว้ยยยย อยู่ไหนวะ กูมาเยี่ยม”“เออๆ ได้ยินแล้ว อยู่นี่ มึงตะโกนเสียงดังทำไมวะ เมียกูหลับอยู่” แกงค์นรกมาเยือนวันนี้มาแค่สองคน ไอ้พายุกับไอ้กรณ์ ดีแล้วที่มากันครบไม่อย่างนั้นปวดหัวแย่ ลำพังแค่รับมือกับอารมณ์ขึ้นลงของเมียก็แย่อยู่แล้ว“แล้วมึงหอบอะไรมาเต็มเลย เมียกูยังไม่คลอด” ในมือของพวกมันมีทั้งกระเช้าอาหารเสริมแล้วก็ผลไม้เยอะแยะเต็มไปหมด“เอามาเยี่ยมมึงนั่นแหละ รับๆ ไป หนัก” ผมยื่นมือไปรับของจากพวกมัน“เยี่ยมอะไรของพวกมึง กูสบายดี”“กูเห็นไม่โผล่หัวไปหาเพื่อนฝูงบ้างเลย ได้กินอะไรบ้างหรือเปล่า หรือว่าโดนเมียใช้จนไม่มีเวลา แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่”“ซักผ้า แล้วก็กำลังจะเก็บกวาดบ้านนิดหน่อย” ผมบอกพวกมันก่อนจะเดินนำแขกดอยชวนเข้ามาคุยในบ้าน ต้องเรียกแบบนี้ถึงจะเหมาะกับพวกมันที่สุด อุตส่าห์มาหาถึงบ้านคงไม่พ้นเรื่องเดียว“แดกเหล้ากันเหอะว่ะ เล่นแม่งกลางวันแสกๆ นี่แหละ” ไอ้พายุเอ่ยออกมาก่อนใคร นึกแล้วว่าต้องมีอะไรถึงได้เหาะกันมาถึงนี่“กูยังซักผ้าไม่เสร็จ มึงนั่งแดกกันก่อนเลย เดี๋ยวกูเตรียมอุปกรณ์ให้”“อิจฉาเมียมึงว่ะ ไปเป็นผัวกูสักวันมั้ยไอ้ยุ”“ขนลุกไอ้เชี้ยกรณ์ มึงก็ร
4 เดือนต่อมาในวันที่แสงแดดสดใส อากาศสดชื่นเหมือนยืนบนตูดเต่าฉันนั่งสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่สวนข้างบ้าน เก้าอี้ไม้แบบเหยียดยาวพร้อมกับเบาะนุ่มๆ ที่เฮียซื้อมาให้ช่างเหมาะกับการนอนอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก หนังสือเกี่ยวกับเด็กๆ และการเริ่มต้นป็นคุณแม่มือใหม่วางกองเป็นตั้ง ฉันนั่งอ่าน นอนอ่าน วนซ้ำไปมาอยู่หลายรอบ ฉันอยากดูแลตัวเล็กให้ดีที่สุดและเตรียมความพร้อมการเป็นคุณแม่เอาไว้ให้พร้อม อย่างน้อยๆ มันก็เป็นความรู้พื้นฐานให้ฉันได้รู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการดูแลตัวเล็กเบื้องต้นหกเดือนที่ฉันอุ้มท้อง ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่มีความสุข ทุกวันคือความสุข มีเฮียอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจในวันที่ฉันแพ้ท้องหนักจนกินอะไรไม่ได้ คอยนั่งลูบหลังให้เวลาวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ แม้ว่าจะเช้ามากเฮียก็ยังพยายามถ่างตาขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆ ฉัน“แสบส้มตำได้แล้ว กินเลยมั้ย” รู้อะไรมั้ยว่าเฮียไปเข้าคอร์สเรียนอาหารอีสานมา ค่าเรียนแพงแค่ไหนก็สู้เพราะไม่ยอมไปขอสูตรเด็ดจากเจ้ขายส้มตำหน้าปากซอย โคตรขำ ยิ่งอยู่ด้วยเฮียก็ยิ่งทำตัวตลก โคตรเป็นสีสันของลูกกับเมียเลยรู้มั้ย ยอดคุณพ่อของลูก ยอดผัวของน้อง“ยกมาเลยค่ะ แล้วเฮียก็ต้องมานั่งกินกับ
“ถุงยาง ขว้างทิ้งแม่ง”“เฮีย ทิ้งทำไม?” เฮียโยนกล่องถุงยางลงถังขยะ คือเป็นสิบกล่องเลยนะเอาไปบริจาคก็ได้นี่ เดี๋ยวนี้เขารณรงค์เรื่องเพศจะตายไป หรือไม่ก็เอาไปแบ่งพี่บอยหรือไม่ก็ลูกน้องคนอื่นๆ ในสนามก็ได้ เพราะกล่องยังไม่ได้แกะแพ็คเอาไว้อย่างดี...แล้วทำไมฉันต้องเดือดร้อนกับถุงยางพวกนั้นด้วย“ไม่ใช้แล้ว แล้วก็จะไม่ใช้ตลอดไป”“เสียดาย ตั้งเยอะตั้งแยะ”“ไม่ต้องมองกูแบบนั้น ไม่มีใครใส่ไซส์กูได้ นอกจากไอ้กรณ์กับไอ้พายุ”“เคยเอาออกมาวัดกันหรอเฮีย”“เออ”“หน้าแดงทำไม ทำเป็นอาย” เปล่าสักหน่อย แค่ตกใจว่าพวกเฮียๆ ไม่มีอะไรเล่นกันแล้วหรือไง ถึงได้ควักไอ้นั่นออกมาวัดกัน โอ๊ย เห็นภาพเลย“แสบจ๋า มีลูกให้เฮียเร็วๆ นะ” เวลาอ้อนก็อ้อนซะจนใจระทวยเลยนะ ฉันก็อยากมีไม่ใช่ไม่อยาก คิดถึงตัวเล็กที่ต้องจากไปทุกวัน บางครั้งก็สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกแล้วร้องไห้ ลำบากเฮียทุกครั้งมันพาลทำให้เฮียนอนไม่หลับไปด้วย“ก็อยากมีเร็วๆ เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อไหร่”“เดี๋ยวเขาก็มา มีแม่กับพ่อที่น่ารักรอเขาแบบนี้ อีกไม่นานเขาต้องมาแน่นอน” อบอุ่นจังเลย ฉันปีนขึ้นอกเฮียแล้วเอาหน้าแนบซุกไว้ นอนนิ่งอยู่แบบนั้น มันทำให้รู้สึ
1 ปีผ่านไป“ขันหมากมาแล้วแก”“ไหนๆ โห ดูเพื่อนเจ้าบ่าวแต่ละคนดิ โคตรหล่อ เห็นแล้วอยากเสียตัวเลยอะ” ลำไยชะนีทั้งสองนางมาก เพื่อนเจ้าสาวของฉันมีแค่สองคนนี้นี่แหละ หนูแหวนกับแตงโม ก่อนวันงานก็มีสองนางนี่แหละที่ช่วยเตรียมนู่นจัดนี่อยู่ตลอด เพื่อนน้อยแต่ชัวร์ ถ้าไม่ได้สองคนนี้ฉันก็แย่เหมือนกัน หลายเรื่องที่คาดไม่ถึงก็มีสองคนนี้นี่แหละที่คอยซับพอร์ตอยู่ข้างหลังตลอดเวลา เรียนจบแต่ความเป็นเพื่อนก็ยังไม่จบนี่เนอะ“เสือทั้งนั้น ชอบแบบนี้กันเหรอ” ตัดเฮียทามไปเพราะเฮียทามคนรักเมีย บูชาเมียเหนือสิ่งอื่นใด คนต่อไปคือเฮียที่จะต้องอยู่ในโอวาทเมีย ส่วนพี่นัท เฮียพายุ แล้วก็เฮียกรณ์ยังเรื่อยๆ กันอยู่ไม่รู้ว่าจะเหนื่อยเมื่อไหร่“ก็ไม่นะ แต่หล่อ อยากได้” หนูแหวนทำไมไม่รักษาภาพพจน์เอาไว้บ้างเลย แตงโมก็เหมือนกัน เพื่อนเฮียแต่ละคนร้ายๆ ทั้งนั้น ไม่เอาหรอกฉันไม่สนับสนุนเด็ดขาดกลัวเพื่อนร้องไห้ขี้มูกโป่ง“โดยเฉพาะ พี่คนนั้นอะ” แตงโมใช้นิ้วชี้ไปที่เฮียกรณ์ อื้ม นั่นมันอธิการบดีมหาวิทยาลัยเก่าของเราเชียวนะ ความหล่อไม่ต้องพูดถึงบอกเลยเพื่อนเฮียเด็ดทุกคน โดยเฉพาะเฮีย งานอวยผัวตัวเองก็มา“เขามองมาด้วยแตงโม” ฉันว่า
นี่มันบ้าชัดๆ คืออะไร ทำไม?"เฮียขอโทษว่ะลืมว่าวันนี้มีงานที่สนาม ถ้าไม่มาคงน่าเกลียด""ไม่เป็นไรค่ะ เอาไว้วันอื่นก็ได้ " รู้อะไรมั้ย ฉันใช้เวลาแต่งหน้าแต่งตัวนานมาก เลือกชุดเกือบชั่วโมง แต่งหน้าเก็บรายละเอียดกว่าจะเนียนกว่าจะเป๊ะเกือบสามชั่วโมง สุดท้ายเฮียพากลับมาที่สนามเพราะลืมว่านัดเพื่อนเอาไว้เพื่อนที่ว่าคือนักธุรกิจจากต่างชาติ เมื่อครั้งที่เฮียไปรับรางวัลเคยคุยตกลงกันไว้ว่าจะมาเยี่ยมชมสนามของเฮีย แล้วดันเป็นวันนี้ แต่ก็ไม่เป็นไรฉันชอบดูแข่งรถอยู่แล้ว เสียอารมณ์ก็ตรงความขี้ลืมของเฮียนี่แหละ มาลืมอะไรวันนี้ ข้างสนามแอร์ก็ไม่มีแต่ยังดีที่ตะวันตกดินแล้วอากาศไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่เหงื่อก็ออกนั่นแหละโบกครีมกับรองพื้นมาแน่นขนาดนี้ ลงทุนเปิดคลิปโมโม่พาเพลินเลยนะเออ"แสบ""หือ ""ไม่โกรธเฮียนะ ""ไม่โกรธค่ะ แต่แสบอยากเปลี่ยนชุด""ชุดนี้แหละ สวย" ได้ยินแบบนี้ก็อดทนต่อไปเพราะผู้ชายบอกว่าสวย มีฉันนี่แหละที่สวยจัดเต็มอยู่คนเดียว คนอื่นแต่งตัวสบายๆ หน้าสดโนคิ้วก็มี ตัดภาพมาที่อีเยอะยอมทนเพื่อผัวเพราะผัวชมว่าสวย ยิ้มอ่อนแล้วไปต่อ เครื่องสำอางแพงกลัวไร ล้างแต่ละทีก็เกือบตาย"หิวแล้วอะ แสบไปรอที่ออ
ประเทศไทยโรงพยาบาลห้องปลอดเชื้อพอเครื่องลงผมก็ตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลทันที พยายามเข้มแข็ง แต่ก็ยังทำได้ไม่มากพอเพราะใบหน้าของเธอลอยเข้ามาในหัวอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญตัวเล็กที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเราไม่อยู่แล้ว เขาไม่ใช่ความผิดพลาดแต่เป็นความตั้งใจ ผมรักทั้งสองคนมาก รักมากกว่าชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าตอนนี้ลูกจะไม่อยู่แล้วก็ตาม คำนี้ตอกย้ำผมซ้ำๆ จนบางครั้งก็เผลอร้องไห้ออกมา แล้วคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงล่ะ เธอจะแย่แค่ไหน"แสบ เฮียมาแล้วนะ เฮียอยู่ตรงนี้ คนดีของเฮีย " ผมนั่งกุมมือเล็กอยู่ข้างเตียง พยายามทะนุถนอมเธอให้เบาที่สุดเพราะผมไม่อยากให้เธอเจ็บไปมากกว่านี้ เตือนสติอยู่ทุกครั้งว่านี่คือเรื่องจริง วันก่อนเรายังมีความสุขด้วยกันอยู่เลย รอยยิ้มของเธอเสียงหัวเราะและน้ำเสียงที่ชอบออดอ้อน ผมไม่น่าไปเลย น่าจะอยู่กับเธอ ได้แต่พูดคำว่าขอโทษอยู่แบบนั้นซ้ำๆ หมอเจ้าของเคสบอกว่าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว"แสบ เฮียขอโทษ " เวลานี้ผมควรจะออกไปได้แล้ว ห้องปลอดเชื้อจำกัดเวลาในการเยี่ยม ไม่มีใครห้ามผมเพราะคนที่นอนอยู่บนเตียงคือเมีย ผมจะไม่ยอมทิ้งเธอไปไหนอีกเด็ดขาดจะรออยู่ตรงนี