“อ้า!!!!” หนูอัญร้องเสียงดังลั่น เพราะชอว์กำลังทำในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าควรทำ ชอว์หยุดมือที่กำลังจะดึงผ้าพันเอวออกเมื่อเสียงร้องของเธอดังแสบแก้วหูออกมา แต่ดวงตาเจ้าเล่ห์มองตอบกลับเธอและแสร้งทำเป็นเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “อย่าเอาผ้าออกนะ! ฉันเตือนไว้ก่อน...”
“เตือนว่า!” ชอว์แกล้งไม่เข้าใจ
“ถ้าแกเอาผ้าออก...ฉันจะเตะผ่าหมากแกแน่ๆ”
“ฉันอยากลอง...” อ้า!!!! หนูอัญร้องเสียงดังอีกครั้ง เมื่อชอว์จะกลับไปทำตามตั้งใจเดิม เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เขาแก้ผ้าต่อหน้าเธอ เธอก็ต้องปิดตาตัวเองสิ แบบนี้เธอมีแต่เสียกับเสีย มองไม่เห็นคู่ต่อสู้...หึหึหึ คู่ต่อสู้เลยเหรอ เขามันสามเอ็กซ์และตามด้วยแอล ส่วนเธอมันคือเอ็กซ์เอส ช่างกล้าเกินตัวจริงๆเลย ยายหนูอัญจอมซื่อบื้อ คิดคิดสิคิดให้ออก จะเอาตัวรอดยังไง
“จะทำอะไรเค้าเนี่ย” “สร้างความวุ่นวาย คิดเหรอว่าจะหนีรอดความผิดไปได้ง่ายๆ” หนูอัญแก้มแดงหน้าร้อนผ่าวในทันที “ทำไมถึงชอบแก้ผ้านักนะ และเค้าก็ไม่ได้ทำเรื่องวุ่นวายเสียหน่อย เท่าที่จำได้ข้อสรุปของการเจรจาเค้าทำประโยชน์ไม่ใช่เหรอ” ชอว์ยิ้มออกมาในทันที “ตอบเฉพาะประโยคแรกแล้วกัน....เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เด็กอัจฉริยะปั่นป่วนสมองทำงานได้ไม่เต็มที่หรืออาจจะทำงานไม่ได้เลย...” หนูอัญตาโตทันที และเขาก็ถูกจริงๆ ว่าเวลาเขาประชิดเธอในแบบเปลือยเปล่าแบบนี้ เกินครึ่ง สมองเธอทำงานในด้านตรรกะเหตุและความเป็นไปได้ไม่สมบูรณ์และเธอมักจะคล้อยตามเขาในทุกๆเรื่องที่เขาต้องการให้เป็น ในยามร่างเปลือยแนบชิดเธออยู่แบบนี้ “ใครว่าเป็นแบบนั้น ที่เค้ายอมเพราะเค้ากลั
ควับ! ชอว์ดึงเธอให้มานั่งเบียดเมื่อเธอทำตัวออกห่างและจับจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างรถแบบที่ตัวและใบหน้าแนบกระจกเลยทีเดียว “อย่าทำเฉไฉหลีกหนีความผิดของตัวเอง” ชอว์เสียงเข้มเสียงดังใส่ ไม่ต่างกับผู้ปกครองที่กำลังดุเด็กก็ไม่ป่าน “เค้ารู้แล้ว” “รู้อะไร?” ชอว์หันหน้าหันตัวไปหาหนูอัญในทันที “คุณพาเค้ามาที่นี่ มีจุดประสงค์อย่างอื่นมากกว่าแค่อยากให้เค้าอยู่ใกล้ๆไม่ใช่เหรอ คุณอาจจะเป็นผู้มีอำนาจหรือเป็นที่ไว้วางใจของกษัตริย์หรือองค์ชายที่นี่ แต่คุณเองก็ต้องการเป็นที่สนใจมากขึ้นไม่ใช่เหรอ เบื้องต้นคือคุณอยากให้เป็นที่โจษจันในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเช่นเรื่องของเค้า เพราะคุณคงไม่เคยพาผู้หญิงติดตามไปไหนมาไหนแต่ครั้งนี้แตกต่าง แน่นอนผู้คนที่รู้จักคุณจะรู้ว่านั้นไม่ใช่คุณ พวกเขาเหล่านั้นก็จะเพ่งความสนใจมาที่เค้า และคุณก็จะได้มีโอกาสมากข
ฟิ้วววว ชอว์เดินเฉียวหนูอัญและเข้าห้องน้ำไป หนูอัญกระพริบตาถี่ๆ อย่างงงๆ เธอเดาไม่ออกว่าเขาโกรธ แต่ไม่นะ! ดูจากสีหน้าไม่ใช่สีหน้าโกรธเลยสักนิด แต่เป็นอะไรเธอก็ไม่อาจเข้าใจได้ หนูอัญเลิกคิดและเดินขึ้นเตียงนอน ตอนนี้เป็นเวลาตีสองแล้วเธอไม่ง่วงก็ไม่แปลกก็เธอนอนมาเยอะแล้ว แต่อย่างไรแล้วเธอก็ต้องนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อ ว่าแต่อีกไกลไม่นะกว่าจะถึงที่หมาย หนูอัญนอนคิดเรื่อยเปื่อย... ซู่ซู่ซู่ ชอว์ล้างเนื้อล้างตัวอีกครั้ง ร่างกายเขาได้รับการปลดปล่อยแล้ว และเขาก็พึ่งผ่านช่วงทำตัวน่าเกลียดกับผู้หญิงมา ตอนนี้ซูริจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตอนนั้นเขาได้ยินแต่เสียงสะอื้นเล็กๆของเธอ แต่เธอก็ไม่ทำตัวน่ารำคาญเหมือน ผู้หญิงที่เขาคิดว่าเธอจะเป็น แต่เสียงสะอื้นของเธอก็ไม่อาจทำให้เขาใจอ่อนหรือมีความรู้สึกรั้งรอลังเลที่จะจากมาเลยสักนิด ถึงเขาอยากจะให้เธอเป็นหมากแต่เธอยังบริสุทธิ์ บางทีเธออาจจะไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาเลยก็ได้ เสียงน้ำไหลเงียบไปเมื่อชอว์ปิดมันเขาเช็ดตัวจนสะอาดและหยิบเสื้อคลุมมาสวมและเดินออกจากห้องน้ำ การก้าวย่างไม่ม
อื้มมมม เสียงครางในคอแกร่งดังออกมาเล็กน้อย แม้หัวใจจะไม่เปรมปรีย์แต่ร่างกายก็ไม่อาจปฎิเสธได้ จ๊วบ จ๊วบ แท่งเนื้อร้อนของเขาอยู่ในโพรงปากร้อนเปียกชื้นของซูริที่กำลังทั้งอม ทั้งดูด รูดเข้าๆ ออกๆ จนเขาต้องครางออกมาเสียงก้องคับห้องของเธอ ร่างกำยำนอนพิงพนักหัวเตียงขนาดใหญ่กางขาให้ร่างบางที่อวบอึ๋มน่าขย้ำไปทั้งเนื้อทั้งตัวนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาของเขา โดยที่ใบหน้าเธอซุกอยู่กลางลำตัวเขา กำลังดูดดื่มแท่งเนื้อขนาดใหญ่อย่างหลงใหล เขาไม่เคยจูบใครนอกจากหนูอัญ และซูริแม้จะเป็นหมากตัวสำคัญแต่เธอก็ไม่ได้รับสิทธิได้ลิ้มลองความหวานจากโพรงปากเขา เรื่องเซ็กส์ระหว่างเขากับเธอก็ไม่ต่างกับผู้หญิงทั่วไป ระดับของซูริก็อาจจะเหนือกว่าผู้หญิงทั่วไปบ้างตราบใดที่เธอยังมีประโยชน์กับเขาอยู่ ซึ่งเธอกับเขาคงไม่เลิกรากันไปเพียงแค่ครั้งเดียวแน่นอน และเธอจะได้รับการทนุถนอมบ้าง... ดวงตาสีเทามองหญิงสาว
“บอกแล้ว!!!” ม่อนยกมือยอมแพ้ เพราะถ้าหนูอัญเข้าใกล้เขามากกว่านี้ เขาเองอาจเดือดร้อนได้ ‘ดูแลคุ้มครองหนูอัญช่วงที่ฉันไม่อยู่ดีๆ ถลอกเพียงนิดพวกแกสองคนแขนขาด เลือดออกแม้เพียงหยดเดียวขาสองข้างพวกแกขาด เจ็บหนักคอพวกแกหัก และสิ่งสุดท้าย...ถ้าใครบังอาจแตะต้องถูกเนื้อต้องตัวเธอแค่ปลายเล็บหนูอัญ ฉันจะถลกหนังพวกแกเล่น’ ตอนนั้นม่อนและซีต่างก้มหน้าพยักคอหงึกๆ และคิดว่าไม่อยากให้เจ้านายต้องออกไปเลยเสียดีกว่าหรือน่าจะเอาเจ้าหล่อนไปด้วยเป็นดีที่สุด ถ้าหวงมากขนาดนี้ หนูอัญผายมืออันเชิญให้ม่อนพูดออกมาสักที “ปกติ พวกเราหมายถึงเจ้านาย เจ้านายเป็นคนเลือดเย็น เราจะเห็นเจ้านายในยามกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ น้อยนักที่นายจะออกไปไหนตอนกลางวันเหมือนคนทั่วไป ตั้งแต่...แต่...คือตั้งแต่ที่เจ้านายเอาตัวหนูอัญมา พอจะนึกออกไม่ว่ามีอะไรเปลี่ยนไป” “เอาจริงดิ! แค่เขานอนกลางคืนแล้วแค่เนี่ยนะ”&
ชอว์ขบกรามแน่นเมื่อเขาต้องระงับโทสะที่กำลังพุ่งพล่านของตัวเองยามที่ได้เห็นสีหน้าของยายเด็กนี่ เขาก็ยิ่งจะหมดเอาง่ายๆ ‘ความอดทน’ เพราะเธอไม่มีวี่แววจะโอนอ่อนให้เขาแบบจริงๆสักที “บัดซบ!!!” ชอว์ตวาดออกมาในที่สุด เพล้ง!!! และทุกสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะก็ล่วงหล่นพื้นหินอ่อน หนูอัญสะดุ้งสุดตัว ตั้งแต่อยู่กับเขามาพึ่งจะเห็นครั้งแรกที่ชอว์อาละวาดแบบนี้ ดวงตาสีเทาโอบล้อมไปด้วยเปลวเพลิงยามมองมาที่หนูอัญ หนูอัญยืนนิ่งแม้แต่จะหายใจเธอก็ยังไม่กล้า ทำไมนะลูกน้องสองคนไม่เข้ามาดูนะ หนูอัญหลบตาชอว์เธอไม่กล้าสบตาเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ปัง! เสียงประตูกระแทกปิดอย่างแรง ร่างบางที่ยืนอยู่กับที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา เขาไม่อยู่แล้ว เขาออกไปแล้ว เฮ้ยยยย หนูอัญถอนหายใจและรีบหายใจหายคอทันที แต่เมื่อเธอจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียง ผนังข้างประตูห้องน้ำมีบางอย่างที่ให้มองก็ไม่มีทางเป็นของตกแต่ง อึก! “มีดบิน” หนูอัญดึงมันออกมาขนาดพอดีมากส่วนปลายจะหนักหน่อยๆ และความแหลมคมช่างน่าขนลุกหนูอัญเก็บมันไว้กับตัวทันที อาวุธ! เมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว หนูอัญคิดว่าเธอน่าจะอาบน้ำล้างตัวสักหน่อยไหนๆก็ตื่นเต็มตา