Beranda / รักโบราณ / อัปลักษณ์จวนเดียวดาย / ตอนที่ 3 ของขวัญปริศนา 1.3

Share

ตอนที่ 3 ของขวัญปริศนา 1.3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-05 09:06:17

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

ร่างของนักร้องสาวคนดังก้าวลงจากรถคันหรู เมื่อแล่นเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าโรงแรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นสถานที่พำนักของหยางเฟยอี้และหลี่ยู่ ผู้จัดการส่วนตัวของเธอที่ได้บินด่วนมาจากฮ่องกง ทันทีที่ล่วงรู้ข่าวว่านักร้องสาวคนดังล้มป่วยจนต้องหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

และในวันนี้หญิงสาวกลับมาจากงานประกาศผลรางวัลเฟยเทียน ซึ่งเพลงประกอบยอดเยี่ยมในซีรีสเรื่องดัง โดยเธอเป็นผู้ขับร้องได้รับรางวัลเพลงประกอบละครยอดเยี่ยมไปครอง รวมไปถึงเดินสายรับรางวัลในวงการเพลงซึ่งทางการจีนจัดขึ้นเพื่อมอบให้กับศิลปินของวงการที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอยู่ในแผ่นดินจีนขณะนี้

“โอ๊ยเหนื่อยจังเลย” หญิงสาวพูดพลางยืนบิดขี้เกียจไปมา

ตุบ! ร่างแน่งน้อยอรชรทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าบนเตียงสปริงของโรงแรม พลางไขว่คว้าหมอนหนุนมารองศีรษะของตัวเอง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำชำระล้างกายจนเรียบร้อย

“อ้าว! ทำไมนอนหลับเร็วนักละเพิ่งจะสี่ทุ่มเอง ไม่ลุกขึ้นมาแกะของขวัญที่บรรดาแฟนคลับของเธอมอบให้ในวันแรกที่มาถึงจีนก่อนเหรอ” ผู้จัดการส่วนตัวหรือหลี่ยู่ซึ่งเป็นพี่สาวต่างพ่อของนักร้องคนดังเอ่ยถามน้องสาวของเธอกลับไป

หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเป็นการใหญ่ทั้งที่ตายังหลับอยู่ ส่งเสียงตอบอู้อี้กลับไป

“ไม่ละพี่ใหญ่ถิงถิงเหนื่อย วันนี้เดินสายรับรางวัลตลอดทั้งเลย ฉีกยิ้มจนเมื่อยแก้มไปหมดแล้ว พี่ใหญ่แกะไปคนเดียวเถอะ หนูขอตัวเข้านอนล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน” หญิงสาวตอบกลับไปเสียงงึมงำ

“ตามใจเราเดี๋ยวพี่ใหญ่จะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ให้ พรุ่งนี้ยังเหลืออีกหนึ่งงานต้องเดินทางไปเมืองลั่วหยาง และเข้าพักในเมืองที่ทีมงานจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว วันถัดไปพวกเราก็จะต้องเข้าร่วมงานเทศกาลดอกโบตั๋นที่เมืองลั่วหยางจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โชคดีเป็นบ้าเลยที่บินมาทำงานช่วงเวลานี้พอดี จะได้เห็นดอกโบตั๋นหลายหลากสีบานพร้อมกันเป็นทุ่งกว้างเลย”

หลี่ยู่อธิบายรายละเอียดของงานให้น้องสาวสุดที่รักของเธอฟัง มือก็แกะกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสทรงยาวคล้ายสำหรับใส่เทียนหรือสิ่งของที่มีความยาวมากๆ ก่อนจะเปิดฝาพลางเทออกมาจากกล่องและพบว่าภายในนั้นเป็นม้วนภาพวาดก่อนจะค่อยๆ คลี่ออกมาเผยให้เห็นภาพตรงหน้า ซึ่งวาดมาจากปลายพู่กันทุกส่วนลงตัว รายละเอียดทุกอย่างเห็นได้อย่างชัดเจนราวกับว่ามีชีวิต

ภาพตรงหน้าแสดงแม้กระทั่งป้ายชื่อที่ติดไว้ตรงหน้าจวนได้อย่างชัดเจน

“จวนอุปราช!” หลี่ยู่อ่านป้ายชื่อที่ติดอยู่ตรงหน้าจวนจากในภาพออกมา พลางก้มลงสำรวจรายละเอียดปลีกย่อยที่ลงลึกเข้าไปที่แม้แต่ตัวปลากำลังแหวกว่ายอยู่ในสระยังชัดเจนและคล้ายจะเคลื่อนไหวได้ด้วย

“ภาพวาดสามมิติเหรอ ทำไมรู้สึกว่าเห็นปลาขยับไปมาได้หรือเราจะตาฝาด” หลี่ยู่บ่นพึมพำให้กับตัวเอง

“นี่ถิงถิง! แฟนเพลงของเธอคนนี้ท่าทางจะต้องเป็นจิตรกรเอกระดับโลกแน่ๆ เลย วาดภาพจวนอุปราชลงลึกถึงรายละเอียดจนเห็นแม้กระทั่งปลาว่ายน้ำได้เลย ดูสิจวนนี้อยู่ในเมืองลั่วหยางด้วย!” หลี่ยู่พูดพลางถือภาพวาดที่อยู่ในมือกลับไปหาน้องสาวเพื่อจะเอ่ยปากถาม

“โอโห่สภาพ!” หลี่ยู่พูดพลางส่ายหน้าไปมา

เมื่อเธอหันกลับมาเห็นท่านอนของน้องสาวสุดที่รักในสภาพนอนก่ายหมอนข้าง ศีรษะที่เคยหนุนหมอนตกลงไปกองที่พื้น ผ้าห่มถูกถีบออกจากกาย และที่สำคัญร่างของนักร้องดังเลื้อยมาอยู่ที่ปลายเตียง นอนอ้าปากหลับสนิทไปไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหน

“ฉันอายท่านอนของแกจริงๆ เลยถิงถิงเอ๊ยถิงถิง เมื่อไรจะเลิกนอนดิ้นหัวไปทางหางไปทางแบบนี้เสียทีนะ ขืนนอนแบบนี้ต่อไปชาตินี้จะได้แต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตนกับเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ เล่นนอนถีบทุกอย่างลงจากเตียงทั้งหมด สงสัยผัวก็คงถีบลงจากเตียงแน่ๆ เลย” หลี่ยู่บ่นพึมพำด้วยความอ่อนใจกับพฤติกรรมของน้องสาว

ภาพวาดที่อยู่ในมือถูกเก็บเข้าไปในกล่องตามเดิม ก่อนจะเดินไปหย่อนใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ซึ่งใช้เป็นที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของน้องสาว ด้วยเพราะมองหาที่เก็บได้ไม่ดีเท่าเจ้ากระเป๋าใบใหญ่ของหยางเฟยอี้

“เก็บไว้ในนี้แหละ พรุ่งนี้ไปเมืองลั่วหยางถือโอกาสไปชมจวนนี้ด้วยเลย ภาพวาดยังสวยขนาดนี้ของจริงคงต้องสวยกว่าแน่นอน” หลี่ยู่ยืนกอดอกคุยกับภาพวาดตรงหน้าราวกับว่ามันฟังเธอรู้เรื่อง

หาววววว!!!! เสียงหาวนอนดังออกมาบ่งบอกให้ล่วงรู้ว่า เจ้าตัวมีอาการง่วงนอนเข้าให้เสียแล้ว

“นอนเอาแรงดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าออกเดินทางไปต่างเมืองเสียด้วย” หลี่ยูเดินกลับไปที่เตียงนอนของเธอ

หญิงสาวหันกลับไปก้มหยิบผ้าห่มนำมาคลุมร่างของน้องสาวที่นอนดิ้นไปคนละทิศละทาง โดยไม่จับเธอให้นอนดีๆ ด้วยเพราะล่วงรู้ว่าจับให้นอนท่าไหน ก็เปล่าประโยชน์เพราะเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็จะอยู่ในท่าอื่นเสมอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต

ตุบ!ร่างอวบอิ่มของหลี่ยู่เอนลงนอนบนเตียงของเธอซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายติดกำแพง เพียงครู่หญิงสาวก็นอนหลับสนิทในเวลาต่อมา ไม่รับรู้เรื่องราวอะไรทั้งสิ้น ไม่เห็นแม้กระทั่งเสียงคนพูดคุยกันดังออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในกระเป๋าใบเขื่องของน้องสาวเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

“ทหารเฝ้าเวรยามเตรียมผลัดเปลี่ยนกะ เวรยามผลัดต่อไปเตรียมตัวให้พร้อม” เสียงสั่งการดังออกมาจากภาพวาด

“คืนนี้เดือนดับรีบไปจุดโคมไฟเพิ่มให้ทั่วจวนเดี๋ยวนี้ ยกเว้นบริเวณท้ายจวนไม่ต้องจุดโคมไฟเพิ่มเพราะที่คนนั่นไม่ชอบแสงสว่าง พระนางชอบอยู่ในความมืดตามลำพัง” เสียงสั่งการดังออกมาจากภาพวาด

“ชายาที่เลื่องลือว่าอัปลักษณ์มากยิ่งนักราวปีศาจก็ว่าได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้อภิเษกกับองค์ชายอุปราชของพวกเรา”

“ได้ยินมาว่าไม่มีนางกำนัลคนไหนกล้าอยู่ถวายงานเลยนะ เห็นทีไรตกใจใบหน้าผีของพระนางจนหัวใจวายตายคาที่ไปหลายคนเลยเชียวละ

“สงสารก็แต่องค์ชายอุปราชได้อภิเษกสมรสทั้งที กับได้ชายาอัปลักษณ์หน้าปีศาจแทนที่จะได้หญิงงาม”

“เฮ้อ! สวรรค์ช่างกลั่นแกล้งพระองค์เสียจริงๆ”

“พวกเจ้าไม่ต้องไปจุดโคมไฟที่ท้ายจวนนะ ปล่อยให้ตำหนักตรงนั้นอยู่อย่างเดียวดายแบบนั้นแหละ เพราะข้ากลัว” เสียงพูดคุยดังออกมาจากภาพวาดได้ยินคล้ายเสียงผู้คนซุบซิบนิทราเรื่องของเจ้านายระดับสูง

“ตำหนักไหนนะไม่ต้องจุดโคมไฟเพิ่ม!” เสียงทหารยามกะใหม่ตะโกนถาม

“ตำหนักท้ายจวน!” เสียงทหารยามผลัดเก่าตะโกนตอบกลับไป

“เข้าใจแล้ว!”

เสียงพูดคุยค่อยๆ เบาลงก่อนจะเงียบงันราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่สองพี่น้องยังคงนอนหลับสนิทอยู่เช่นเดิมโดยไม่ล่วงรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครู่ที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของผู้คน แม้กระทั่งวิทยาศาตร์อันทันสมัยในศตวรรษที่ 21 ก็ไม่สามารถพิสูจน์เรื่องลี้ลับเช่นนี้ได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 9 อินอวิ๋นฉวี่ 1.3

    ฉาด!!!! พระหัตถ์ตบลงบนหน้าขาของพระองค์จนได้ยินเสียงดังอย่างชัดเจน ติดตามด้วยเสียงหัวเราะดักกึกก้องออกมาทันทีไม่รู้ว่าเห็นด้วยกับวิธีการของขันทีคนสนิทหรือเห็นต่างกันแน่“ดี! เจ้าทำได้ดีมากเสี่ยวฉิงจื่อ! ความคิดของเจ้ายอดเยี่ยมช่างตรงกับความต้องการที่อยู่ในภายในใจของข้า! ข้าต้องการให้เสด็จอาตายไปเสียที! ยิ่งเร็วได้เท่าไรยิ่งดีจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางทางอำนาจของข้าอีกต่อไป”รับสั่งของฮ่องเต้น้อยทำให้ไส้ศึกจากสองแคว้นผ่อนลมหายใจของตนออกมาทันที รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้า ในที่สุดฮ่องเต้โง่ผู้นี้ก็มีความเห็นคล้อยตามที่คิดจะกำจัดอุปราชอินอวิ๋นหยางเกิดขึ้นภายในจิตใจ ไม่เสียแรงที่เฝ้ายุแยงมานานหลายปีไม่ทำให้ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์“แต่ว่าแล้วจะเอามือสังหารจากที่ไหนทำงานนี้ได้ ในเมื่อเสด็จอามีวรยุทธสูงมากขนาดนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใกล้ได้เลยส่งไปก็ถูกฆ่าดั่งใบไม้ร่วงหล่นโดยเปล่าประโยชน์ และเสด็จอาต้องล่วงรู้ว่าข้าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ แบบนี้ข้าก็แย่สิดีไม่ดีจะกลายเป็นคนถูกฆ่าเสียเอง เกิดเสด็จอาฉวยโอกาสนี้หาข้ออ้างปลิดชีวิตข้าแล้วชิงบัลลังก์ขอ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 10 อินอวิ๋นฉวี่ 1.4

    “เจ้าให้ข้าพูดแบบนั้นหมายความว่าอย่างไงกันแน่! ข้าไม่เคยต้องการให้คนผู้นั้นแผ่ลูกหลานสายสกุลอินออกมาแม้แต่น้อยตรงกันข้ามจะฆ่าไม่ให้เหลือเสียด้วยซ้ำ! ลูกหลานสายสกุลอินจะต้องมาจากข้าเท่านั้นจึงจะถูกต้อง!” รับสั่งอย่างไม่พอพระทัย“โธ่! ฝ่าบาทไปกันใหญ่แล้ว! อย่าเพิ่งเข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ ทรงทำความเข้าใจเสียใหม่ว่านี้คือแผนหลอกล่อจึงต้องยกข้ออ้างเช่นนั้นออกมา หาไม่แล้วแผนต่อไปจะสำเร็จได้อย่างไร จะทำให้อุปราชไว้วางพระทัยว่าไม่มีอะไรแอบแฝงก็ต้องยกยอไปก่อนแล้วค่อยจัดการภายหลัง” เสี่ยวฉิงจื่ออธิบายกลับไปพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย“คนผู้นี้ช่างโง่เขลาเสียจริง! ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดข้าจึงทนได้มานานหลายปีเช่นนี้นะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ” เสี่ยวฉิงจื่อรำพึงอยู่ภายในใจในขณะที่ฮ่องเต้หยวนเป่ยได้ยินคำอธิบายกลับมาเช่นนั้น พระองค์พยักพระพักตร์ขึ้นลงด้วยไม่เห็นต่างจากเสี่ยวฉิงจื่อ“จริงด้วย! จะสังหารเสด็จอาก็ต้องทำให้ไว้วางใจเสียก่อน หาไม่แล้วจะเสียแผนการทั้งหมด ดี! ใช้แผนนี้ดีที่สุดว่าแต่จะทำให้สตรีจากต้าซางและต้าเหลียงเป็นคนของเ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 8 อินอวิ๋นฉวี่ 1.2

    ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าตัวตนดั้งเดิมที่แท้จริงของขันทีผู้นี้หาใช่ชาวหยวนเป่ยโดยกำเนิด ในความเป็นจริงแล้วคือสายลับที่ถูกฮ่องเต้ต้าเหลียงและฮ่องเต้ต้าซางซึ่งจับมือผนึกกำลังหวังโค่นล้มหยวนเป่ย ถูกส่งตัวเข้ามาแทรกซึมคอยหาข่าวภายในราชสำนักหยวนเป่ย เป้าหมายเพื่อหาโอกาสลอบสังหารอุปราชอวิ๋นหยาง และถ้าหากลงมือกับอุปราชผู้นั้นสำเร็จมีหรือชีวิตของอินอวิ๋นฉวี่จะอยู่รอดต่อไปได้นาน ฮ่องเต้หนุ่มจะต้องถูกสังหารตายตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ทันทีที่ชีวิตของอินอวิ๋นหยางหลุดลอยออกจากร่างแต่ที่ไม่ลงมือปลงพระชนม์อินอวิ๋นฉวี่ด้วยเพราะ หากอวิ๋นฉวี่สวรรคตลงวันใดแน่นอนว่า แผ่นดินหยวนเป่ยจะต้องตกเป็นของอุปราชผู้กล้าอินอวิ๋นหยางโดยทันที และนั่นจะยิ่งยากกว่าอะไรทั้งหมดหากจะคิดเป็นอิสระและก้าวขึ้นมาครอบครองหยวนเป่ย แทนที่นั้นต้องสืบล่วงรู้จุดอ่อนของอุปราชลือชื่อผู้นี้ให้จงได้รวมไปถึงที่พำนักอันแท้จริงของพระองค์ด้วยไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าแท้จริงแล้วอุปราชผู้นี้ประทับอยู่แห่งหนใดและบริหารแผ่นดินโดยใช้อินทรีทองสื่อสารอันเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ ซึ่งต้าเหลียงและต้าซางรวมไปถึงหยวนเป่ยนั้นต่างรบพุ่งกันมานานเพื

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 7 อินอวิ๋นฉวี่ 1.1

    ยุคอดีตแคว้นหยวนเป่ยณ.พระราชวังหลวงภายในแคว้นหยวนเป่ยในเวลานี้อยู่ในสมัยการปกครองของสายสกุลอิน ซึ่งขึ้นมามีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินฮ่องเต้แต่ละพระองค์มีทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอสลับกันไป และได้นั่งบัลลังก์สืบทอดมานานกว่า 111 ปี จนถึงสมัยอินอวิ๋นฉวี่ขึ้นปกครองแคว้นในขณะที่มีพระชนม์มายุเพียงแค่ 10 พระชันษาเท่านั้นสืบเนื่องจากอดีตฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระราชบิดาเสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 27 พระชันษาและขึ้นปกครองแคว้นได้เพียงห้าปีเท่านั้น ด้วยสาเหตุเลือดในพระวรกายเกิดเป็นพิษซึ่งหากเทียบในยุคปัจจุบันคือติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง จึงเป็นเหตุให้องค์ชายอินอวิ๋นฉวี่ ที่ประสูติจากหยางฮองเฮาขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองแคว้นด้วยเพราะเป็นพระโอรสเพียงหนึ่งเดียว ส่วนอีกแปดพระองค์นอกนั้นเป็นพระราชธิดาทั้งสิ้นในขณะที่หยางฮองเฮาพระราชมารดา ก็สิ้นพระชนม์ตามพระสวามีไปด้วยเพราะทรงตรอมพระทัย เพียงแค่สามเดือนที่ฮ่องเต้อวิ๋นโฉสวรรคตพระนางก็จากไป จึงทำให้ฮ่องเต้น้อยผู้ครองแคว้นหยวนเป่ย ซึ่งยังเยาว์วัยยิ่งนักต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พระองค์เหลือเพียงฮองไทเฮาเสด็จย่า แล

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 6 ของขวัญปริศนา 1.6

    ทันใดนั้นเอง“ข้ารอเจ้ามานานแสนนานแล้ว! มาหาข้า! ข้ารอเจ้าอยู่ที่จวนเดียวดาย! รอเจ้าที่จวนเดียวดาย” เสียงดังกล่าวกึกก้องออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในมือของนักร้องสาวคนดังและเธอก็ได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน“ไม่จริง! มันจะต้องไม่เป็นความจริง! ฉันต้องหูฝาดแน่ๆ ต้องไม่ใช่! ไม่ใช่!!!”ในขณะที่เสียงจากภาพวาดยังคงดังกึกก้องออกมาอย่างไม่ขาดสาย“มาหาข้า! ข้ารอเจ้าที่จวนเดียวดาย!” เสียงเรียกนั้นเริ่มดังขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหยางเฟยอี้ตุบ! ภาพวาดที่กำลังถืออยู่มือร่วงหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว เมื่อนักร้องสาวมีอาการหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างกะทันหัน หยางเฟยอี้พยายามที่จะหายใจทางปากแต่กลับทำให้เจ็บแปลบเข้าที่หัวใจจนไม่สามารถทำให้เธอหายใจได้เป็นปกติอะ...โอ๊ยยยยย!!! มือเรียวสวยยกขึ้นจับศีรษะของเธอทันทีเมื่อเสียงร้องเรียกดังกล่าวทำให้นักร้องดังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกอย่างเฉียบพลัน“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...หะ...หายใจ...ไม่ออก!!!” สิ้นเสียงตะกุกตะกักที่เธอพยายามสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ต

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 5 ของขวัญปริศนา 1.5

    วันรุ่งขึ้นรถยนต์คันหรูของโรงแรมชื่อดังที่สองพี่น้องเลือกเข้าพักในเมืองลั่วหยาง วิ่งตรงเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าประตูซึ่งในอดีตผู้คนในสมัยโบราณจะเรียกที่พักอาศัยของเหล่าเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์ ขุนนางและคหบดีผู้มั่งคั่งว่าจวนครั้นเมื่อกาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปจากการเรียกขานเช่นนั้น แปรเปลี่ยนเป็นคฤหาสน์เข้ามาแทนที่ในยุคสมัยปัจจุบันและมีการสร้างบ้านเลียนแบบในยุคโบราณพบเห็นมากมายในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีฐานะทางสังคมที่ดีไม่ต่างอะไรไปจากยุคอดีตแม้แต่น้อย“โอโห่! นี่นะเหรอจวนโบราณทำไมมันถึงได้ใหญ่โตอลังการขนาดนี้ บรรยากาศก็ดูขลังเป็นบ้าเลย” นักร้องสาวพูดพึมพำอยู่คนเดียวสายตามองประตูทางเข้าจวนขนาดมหึมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด“มองผ่านแว่นกันแดดแบบนั้นจะเห็นอะไรชัดไหมนะ” หลี่ยู่บอกน้องสาวของเธอทั้งๆ ที่ยังวุ่นวายหาของในกระเป๋าของน้องสาวอยู่ในขณะนี้หยางเฟยอี้กระดกแว่นกันแดดให้ขยับลงต่ำพลางมองพี่สาวของเธอกำลังรื้อค้นกระเป๋าของเธอช่างดูวุ่นวายเสียจริง“พี่ใหญ่หาอะไรนะ! อะไรหายเหรอ” หญิงสาวถามกลับ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status