พระราชวังหลงซางเป่ย
“บัดซบสิ้นดี!” เสียงสบถดังกระหึ่มไปทั่วห้องทรงงาน
ฮ่องเต้น้อยอินอวิ๋นฉวี่ถึงกับพระพักตร์สั่นระริก เมื่อสาสน์ด่วนส่งตรงมาจากอุปราชแห่งหยวนเป่ย เสด็จอาของพระองค์แจ้งข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระชายาฟางเยี่ยนลี่ ด้วยสาเหตุมาจากอาการประชวรของพระนางที่เป็นโรคประจำตัวเกิดกำเริบขึ้นและทรุดลงไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจากไปในที่สุดฟิ้วววว!!! สาสน์ด่วนถูกปาลงไปที่พื้นด้วยแรงพิโรธยิ่งนัก“เสี่ยวฉิงจื่อ!” สุรเสียงตวาดก้องเรียกหาขันทีคนสนิทหากแต่ไร้สิ้นเสียงขานรับตอบกลับมาของขันทีเสี่ยวฉิงจื่อแต่อย่างใด“เจ้าเสี่ยวฉิงจื่อ!!!” ครั้งนี้สุรเสียงกร้าวตวาดดังกึกก้องมากยิ่งขึ้นไปอีก พระเนตรปูดโปนแทบจะถลนออกมานอกเบ้าเลยทีเดียว“พ่ะย่ะค่ะ!” เสียงขันทีคนสนิทขานรับดังมาจากด้านนอกห้องทรงงานก่อนจะปรากฏกายขึ้นตรงหน้าประตูพร้อมรีบเร่งก้าวเข้ามาภายในห้องทรงงานอย่างเร่งด่วน“กระหม่อมอยู่นี่แล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” เสี่ยวฉิงจื่อรีบรายงานตัวอย่างรวดเร็ว“มัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนไอ้ลูกเตพระราชวังหลงซางเป่ย“บัดซบสิ้นดี!” เสียงสบถดังกระหึ่มไปทั่วห้องทรงงานฮ่องเต้น้อยอินอวิ๋นฉวี่ถึงกับพระพักตร์สั่นระริก เมื่อสาสน์ด่วนส่งตรงมาจากอุปราชแห่งหยวนเป่ย เสด็จอาของพระองค์แจ้งข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระชายาฟางเยี่ยนลี่ ด้วยสาเหตุมาจากอาการประชวรของพระนางที่เป็นโรคประจำตัวเกิดกำเริบขึ้นและทรุดลงไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจากไปในที่สุดฟิ้วววว!!! สาสน์ด่วนถูกปาลงไปที่พื้นด้วยแรงพิโรธยิ่งนัก“เสี่ยวฉิงจื่อ!” สุรเสียงตวาดก้องเรียกหาขันทีคนสนิทหากแต่ไร้สิ้นเสียงขานรับตอบกลับมาของขันทีเสี่ยวฉิงจื่อแต่อย่างใด“เจ้าเสี่ยวฉิงจื่อ!!!” ครั้งนี้สุรเสียงกร้าวตวาดดังกึกก้องมากยิ่งขึ้นไปอีก พระเนตรปูดโปนแทบจะถลนออกมานอกเบ้าเลยทีเดียว“พ่ะย่ะค่ะ!” เสียงขันทีคนสนิทขานรับดังมาจากด้านนอกห้องทรงงานก่อนจะปรากฏกายขึ้นตรงหน้าประตูพร้อมรีบเร่งก้าวเข้ามาภายในห้องทรงงานอย่างเร่งด่วน“กระหม่อมอยู่นี่แล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” เสี่ยวฉิงจื่อรีบรายงานตัวอย่างรวดเร็ว“มัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนไอ้ลูกเต
นอกห้องพระบรรทมแอดดด!!! เสียงเปิดประตูดังขั้นพร้อมร่างของหวู่ซานซานก้าวออกมาจากห้องบรรทม ท่ามกลางสายตาของหรงเฉินที่กำลังยืนกอดอกและถือดาบยาวอยู่ในมือ ร่างสูงยืนพิงเสาต้นใหญ่กำลังเฝ้าจับจ้องเจ้าแห่งพิษอยู่ในขณะนั้น “ท่านเข้าไปนานถึงหนึ่งก้านธูปเลยมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” หรงเฉินถามกลับไปเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าแห่งพิษมีบางอย่างผิดปกติ อีกทั้งดวงตาของนางยังจับจ้ององครักษ์หนุ่มตรงหน้าอยู่ตลอดเวลา เจ้าแห่งพิษก้าวเดินไปหาหรงเฉินอย่างเชื่องช้า ด้วยกำลังคิดหาคำพูดที่เหมาะสมเพื่อเกลี่ยกล่อมให้บุรุษตรงหน้าเห็นด้วยกับนางเพราะหรงเฉินเป็นองครักษ์ที่ภักดีกับอุปราชหยวนเป่ยยิ่งนัก “ข้ามีบางอย่างที่จะต้องบอกกับท่านให้ล่วงรู้” หวู่ซานซานตัดสินใจบอกกลับไป “ท่านมีอะไรจะบอกกับข้าอย่างนั้นเหรอเจ้าแห่งพิษดูท่าเป็นเรื่องสำคัญอยู่ไม่ใช่น้อย พระชายาทรงเป็นอะไรมากไปกว่าที่ท่านคิดอย่างนั้นเหรอ” หรงเฉินถามกลับไป หวู่ซานซานพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันเป็นการยอมรับกลับมา “พระชายาเป็นอะไรที่มากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้จริงหรงเฉิน” คำกล่าวของเจ้าแห่งพิษทำให้องครักษ์หนุ่มขมวดคิ้วเข้าหา
บริเวณหลังเขาหลงเมิ่งร่างที่มีแต่เพียงหนังหุ้มกระดูกกำลังนอนคดคู้ท่ามกลางกองไฟที่พากันสุมอยู่ใต้เตียงเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย หลังจากที่นางต้องดำน้ำออกมาจากสระสรงน้ำเป็นเวลานานไม่ต่ำกว่าหนึ่งก้านธูปซึ่งเล่นเอาหยางเฟยอี้หมดแรงไปเลยทีเดียวเพราะเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นานแม้จะได้ยาถอนพิษจากเจ้าแห่งพิษมาบางส่วนและสามารถทำให้นางมีแรงมากขึ้นก็ตามที แต่ระยะทางของช่องระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับน้ำตกนั้นมีระยะทางไกล ทำเอาเกือบจมน้ำตายไปหลายรอบในขณะที่หวู่ซานซานและหรงเฉินนั้นได้จัดการนำศพของบ่าวที่เสียชีวิตด้วยความตกใจเพราะเห็นพระชายาอุปราช ซึ่งถูกส่งมาให้เจ้าแห่งพิษเพื่อนำร่างนั้นมาเก็บรักษาในถ้ำที่อยู่หลังเขาและมีความเย็นจัดเหมือนภูเขาน้ำแข็งเพื่อให้นางใช้ร่างไร้วิญญาณเหล่านั้นมาทดสอบพิษที่คิดค้นขึ้นร่างไร้วิญญาณของบ่าวรับใช้คนดังกล่าวถูกหรงเฉินบรรทุกเข้ามาพร้อมกับข้าวของเครื่องใช้จำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมเซ่นไหว้ให้กับหลุมฝังศพของพระชายาอุปราช ร่างของนางซุกซ่อนอยู่ภายในหีบและถูกนำเข้ามาที่ตำหนักท้ายจวนโดยไม่มีผู้ใดสงสัยก่อนจะจัดการสวมอาภรณ์เต็มพระยศในฐานะพระชา
ท่ามกลางความตกใจของหมอพิษที่เห็นพระชายาอุปราชมีเรี่ยวแรงจนถึงขนาดลุกขึ้นมาคว้าข้อมือของนางอยู่ในขณะนี้ “อินอวิ๋นหยางต้องการให้ข้าตายอย่างนั้นเหรอ!” พระชายาอุปราชถามกลับไปเสียงเบาแต่น้ำเสียงนั้นช่างเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นหมอพิษหันกลับมามองหน้าผู้ที่นางต้องมากำจัดอย่างรวดเร็ว “พระชายาสามารถมองเห็นข้าด้วยอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อตาข้างขวาบอดสนิทและตาข้างซ้ายก็เริ่มเป็นฝ้าขาว มองอะไรไม่แจ่มชัดแต่ท่านกลับเห็นข้าและยังสามารถมีแรงมากถึงขนาดจับมือของข้าเอาไว้อยู่ในขณะนี้ได้ด้วย” จ้าวแห่งพิษถามกลับไป หมอพิษผู้ที่พำนักอยู่หลังเขาหลงเมิ่ง มีนามว่าหวู่ซานซาน ศิษย์เอกจากหุบเขาหมื่นพิษ พำนักอยู่ในกระท่อมหลังเขาหลงเมิ่งมาอย่างช้านานหลังจากออกจากหุบเขาหมื่นพิษ เพื่อหลีกทางให้กับศิษย์พี่ที่ต้องการครองตำแหน่งจ้าวแห่งพิษแทนอาจารย์ที่สิ้นลง นางออกจากหุบเขาหมื่นพิษและร่อนเร่พเนจรจวบจนมาถึงเทือกเขาหลงเมิ่ง เพราะตลอดทางถูกตามไล่ล่าเอาชีวิตจากศิษย์พี่ที่ต้องการให้นางตาย สาเหตุเป็นเพราะศิษย์คนอื่นๆ ไม่ยอมรับการขึ้นครองตำแหน่งของศิษย์พี่ให
ตำหนักท้ายจวนในเวลานี้ร่างผอมแห้งที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกของพระชายาอุปราชกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ก้นสระสรงน้ำ เพื่อฝึกกลั้นหายใจให้ได้นานเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย ในชาติอดีตพระชายาอุปราชว่ายน้ำไม่เป็นแต่ในชาติปัจจุบันที่นางเกิดเป็นหยางเฟยอี้ นักร้องสาวเป็นนักดำน้ำตัวยง ชอบดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจเพื่อฝึกบริหารปอดของตัวเอง และว่ายน้ำเก่งมากประหนึ่งมัจฉาแหวกว่ายใต้สายธาราพรึบ! เปลือกตาเปิดขึ้นทันใดเมื่อการฝึกกลั้นหายใจสิ้นสุด และมีความรู้สึกว่าไม่สามารถทานทนได้อีกต่อไปแล้ว ร่างที่เหมือนโครงกระดูกมีชีวิต ค่อยๆ แหวกว่ายสายน้ำจากก้นสระขึ้นสู่เบื้องบนอย่างรวดเร็วพรวดดด!!! ร่างของพระชายาอุปราชโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำ สายตามองตรงไปที่ก้านธูปซึ่งถูกจุดปักเอาไว้เสียบกับร่องหินที่นำมาวางประดับไว้ภายในสระสรงน้ำดังกล่าว และพบว่าก้านธูปนั้นเหลืออยู่ครึ่งก้าน“นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวที่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนเราว่ายน้ำไม่เป็น แน่นอนว่าย่อมไม่เคยฝึกฝนความแข็งแรงของปอด” พระชายาอุปราชรำพึงเบาๆร่างผอมแห้งใช้แรงยันกายขึ้นจากสระหลังจากอาบน้ำชำระร่างกายจนสะอา
10 วันผ่านไปตำหนักอุปราชนิ้วพระหัตถ์เรียวยาวจรดลงบนตัวหนังสือที่อยู่บนแผ่นไม้ไผ่ชั้นดีตรงพระพักตร์ ตัวอักษรเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบและสวยงามยิ่งนัก เขียนด้วยลายพระหัตถ์ของอุปราชลือชื่อ ซึ่งพระองค์จดบันทึกเคล็ดวิชาต่างๆ ลงไว้ในนั้นพร้อมพิชัยสงครามแก้กลศึก และวางค่ายกลเพื่อใช้ในสนามรบซึ่งพระองค์จะนำมาอ่านและบันทึกเพิ่มเติมมาโดยตลอดไม่เคยขาด“กระหม่อมหรงเฉินพ่ะย่ะค่ะ! มีเรื่องทูลถวายรายงาน” เสียงขององครักษ์คนสนิทดังอยู่ด้านนอก“เข้ามา!” รับสั่งอนุญาตครืดดด!!! บานประตูห้องหนังสือถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงของหรงเฉินก้าวเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงพระพักตร์ ในขณะที่อุปราชรูปงามประทับอยู่บนตั่งยกขึ้นสูงจากพื้นมาประมาณห้าฉื่อ กำลังอ่านตำราที่ถืออยู่ตรงพระพักตร์ในขณะที่พระหัตถ์อีกข้างคลึงหยกก้อนกลมสีขาวไปมา“มีเรื่องอะไรมารายงานข้าอย่างนั้นเหรอหรงเฉิน!” รับสั่งถามกลับไปเมื่อองครักษ์คนสนิทเดินมาหยุดยืนตรงพระพักตร์“กระหม่อมมีเรื่องของพระชายามากราบทูลพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!” หรงเฉินทูลตอบกลับไปใบหน้า