LOGINฟ้าใสนั่งทำงานไป พลางลอบชำเลืองมองคนตัวโตที่กำลังนอนหลับสนิทที่โซฟาไป ท่าทางเขาเหนื่อยมากจริงๆ ชั่วขณะหนึ่งที่หญิงสาวรู้สึกสงสารเขาจับใจที่ต้องทำงานทั้งเสี่ยงอันตรายและทั้งทำลายสุขภาพแบบนี้ จนถึงเดี๋ยวนี้ฟ้าใสก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมครอบครัวเดลสันต้องเสียสละตัวเองถึงเพียงนี้ เห็นแก่ตัวเหมือนคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้หรือ
แต่พอคิดอีกที... ถ้าหากทุกคนพากันรักตัวกลัวตายและเห็นแก่ตัวกันหมด แล้วโลกนี้สังคมนี้จะอยู่กันอย่างไร ทุกหัวมุมถนนคงจะเต็มไปด้วยโจรผู้ร้ายและเดนนรก พวกคนชั่วสามารถทำกิจกรรมผิดกฎหมายได้อย่างอิสรเสรี และผู้คนจะต้องหวาดผวาไม่กล้าออกไปไหนเพราะเกรงกลัวอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สิน
เพราะฉะนั้นสายลับอย่างเรนคงถูกลิขิตมาแล้วล่วงหน้าว่าเขาลงมาเกิดในโลกนี้เพื่อทำภารกิจของนักรบผู้กล้า หรือที่เรียกว่า นักรบแห่งแสงสว่าง (Light worker) มีหน้าที่กำจัดพลังมืดของพวกมารโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันนี้เธอเชื่อว่าพลังมืดที่สิงอยู่ในจิตใจของมนุษย์นั้นมีมากกว่าอดีตมากนัก โลกมันถึงได้แย่ลงไปทุกที
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บอกว่าในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้มีมิติซ้อนกันอยู่หลายมิติ และโลกของเราอยู่ในมิติที่สาม เป็นมิติที่เชื่อแค่ในสิ่งที่ตามองเห็นและมือสัมผัสได้เท่านั้น ทว่าความเป็นจริงแล้วมันมีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนและมหัศจรรย์มากกว่านั้น และการที่ฟ้าใสได้รู้จักเชนทร์ เทพในร่างมนุษย์นั้น ทำให้เธอรู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้มันเป็นความจริง
ขณะที่มองเขากำลังหลับสนิทอยู่นั้น พลันเธอก็เห็นร่างสูงสะดุ้งสุดตัวแล้วลุกพรวดขึ้นนั่งเหมือนคนที่ตกใจจากฝันร้ายสุดขีด ฟ้าใสรีบลุกจากเก้าอี้ไปยังโซฟา เอื้อมมือไปแตะที่ไหล่กว้าง
"พี่เรน...เป็นอะไรไปคะ" หญิงสาวเอ่ยถามคนที่กำลังยกมือขึ้นเสยผมลวกๆ เขาส่ายหน้าเบาๆ
"ไม่มีอะไร... พี่หลับไปนานหรือเปล่า" เขาพูดเสียงติดแหบเล็กน้อยตามประสาคนเพิ่งตื่นใหม่ โดยไม่ยอมปริปากเล่าว่าทำไมเขาถึงสะดุ้งตื่นแบบนั้น
"ประมาณสองชั่วโมงได้ค่ะ ฟ้าสั่งอาหารแล้วนะ ถ้าพี่หิวเดี๋ยวฟ้าจะอุ่นให้ หรือถ้าจะเข้าห้องน้ำก็ทางนั้นค่ะ"
หญิงสาวชี้มือไปยังห้องน้ำที่อยู่หลังฉากกั้น ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วน มีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ ด้วย เธอมีไมโครเวฟเพื่อความสะดวกในการอุ่นอาหาร ส่วนใหญ่จะทานข้าวในห้องนี้เพราะขี้เกียจลงไปกินข้างนอก
"ความจริงพี่อยากจะอาบน้ำสักหน่อย ได้หรือเปล่า" เรนรู้สึกถึงเนื้อตัวที่เหนียวเหนอะเนื่องจากในฝันเขาวิ่งจนเหงื่อไหลโชกเลยทีเดียว ช่างเป็นฝันที่แปลกประหลาดนัก มันเรียลราวกับว่าเขาได้ผ่านเหตุการณ์นั้นมาจริงๆ กระนั้น แต่ดีแล้วที่มันเป็นแค่ความฝัน ชายหนุ่มรีบสลัดมันออกไปจากหัวโดยไว
"ได้สิคะ ตามฟ้ามาเลยค่ะ"
หญิงสาวเดินนำไปยังหลังฉาก บริเวณนั้นมีตู้เอนกประสงค์ตั้งอยู่ติดผนัง ซึ่งแขวนเสื้อผ้าเอาไว้สองสามชุดเผื่อเหตุฉุกเฉิน มีของใช้จิปาถะรวมถึงผ้าเช็ดตัว สบู่และแชมพูด้วย ฟ้าใสหยิบมาส่งให้คนตัวสูงที่เดินมายืนอยู่ด้านหลัง พอเธอหันมาก็ถูกเขารวบกอดแล้วก้มมาหอมแก้มฟอดใหญ่
"หอมจัง อาบน้ำด้วยกันไหม" สายตาคมเข้มฉายรอยกรุ้มกริ่มแพรวพราว ทำให้ใบหน้านวลของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นมาทันตาเห็น
"ไม่ค่ะ ฟ้าอาบมาแล้ว พี่อาบเถอะ เดี๋ยวฟ้าจะอุ่นอาหารรอ นี่ก็เที่ยงวันพอดี"
หญิงสาวกล่าวอย่างเขินๆ พลางเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรง แต่เขายังไม่ยอมปล่อย แถมยังเอียงคอมองเธออย่างพิจารณา
"ฟ้าผอมไปนิดนะ ใต้ตาก็มีรอยดำคล้ำด้วย"
ฟ้าใสฟังแล้วก็ค้อนให้คนตรงหน้านิดหนึ่ง เขาจะรู้ไหมว่ามันเป็นเพราะเขานั่นแหละ ที่ทำให้เธอเป็นห่วงจนกินไม่อร่อยและนอนก็ไม่ค่อยหลับน่ะ
"ช่างฟ้าเถอะค่ะ พี่อย่าสนใจเลยน่า รีบอาบน้ำเถอะ"
"ผู้หญิงอื่นพี่ไม่สนหรอก แต่เพราะเป็นฟ้า พี่แคร์คนนี้ที่สุดเลยรู้ไหม" เขาพูดเสียงนุ่ม เอานิ้วจิ้มที่ปลายจมูกเธอเบาๆ ปัดปอยผมที่หล่นมาระแก้มให้อย่างอ่อนโยน การกระทำของเขาทำให้ฟ้าใสรู้สึกอบอุ่นอยู่ภายใน ดีใจที่ได้รับความใส่ใจจากผู้ชายคนนี้ แม้เขาจะชอบย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันมันไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งเกินกว่าเซ็กซ์ แต่การแสดงออกของเขามันดีกว่าคำพูดมากนัก เธอคิดว่าตนเองทำใจยอมรับได้ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ขอแค่เวลานี้ได้มีโมเมนต์พิเศษกับผู้ชายแสนพิเศษคนนี้ก็พอ ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
"ไอ้ที่เราน้ำหนักลด และตาเป็นหมีแพนด้านี่ มันเป็นเพราะพี่ใช่ไหม แค่พี่มาอยู่ที่นี่ไม่นาน ฟ้าก็มีสภาพเป็นขนาดนี้แล้ว... และถ้า...ตลอดชีวิตล่ะ... จะเป็นยังไง"
เรนนึกถึงมารดาของเขาที่ไม่รู้ว่าท่านผ่านมันมาได้อย่างไร แต่เห็นฟ้าใสเป็นแบบนี้เพราะเขา เรนก็รู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย ภารกิจสุดท้ายที่กำลังทำอยู่นี้มันก็แสนจะอันตรายจนเขาเองไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นภารกิจสุดท้ายที่จะจบไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายด้วยหรือไม่
"เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วนะคะ พี่เรนไม่ต้องพูดอีกแล้วค่ะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตาลิขิตจะดีกว่า"
“นั่นสินะ ชะตาฟ้าลิขิต” เขาเน้นคำว่า ฟ้า พร้อมกับยิ้มนิดๆ
“ถ้าฟ้าลิขิตได้ งั้น ตอนนี้ฟ้าขอลิขิตให้พี่ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” กล่าวจบหญิงสาวก็จับจูงมือใหญ่เข้าไปในห้องน้ำทันที เอาผ้าเช็ดตัวพาดราวเสร็จก็หันมาเผชิญหน้ากับคนที่ถอดเสื้อผ้าออกอย่างเป็นธรรมชาติ ทำเอาหญิงสาวยืนนิ่งขึงทำตาปริบๆ พอเขารูดบ็อกเซอร์ลง เธอก็รีบก้าวขาไปยังประตู แต่กลับถูกมืออุ่นคว้าแขนเอาไว้
"อะ อะไรคะ"
หญิงสาวถามเสียงตะกุกตะกัก
“ถ้าตอนนี้...พี่อยากเป็นคนลิขิตมั่งจะได้หรือเปล่า” เสียงทุ้มกระซิบถามและฝังจมูกที่แก้มและซอกคอของเธอ
“พี่ พี่เรน...”
ฟ้าใสรู้สึกจั๊กจี้ปนวาบหวิวขึ้นมานิดหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้ เป็นเพราะมีใจให้เขามากมายนัก พอถูกแตะนิดแตะหน่อยจึงเกิดอาการอย่างที่กำลังเป็นอยู่ ฟ้าใสพยายามเบี่ยงตัวหนี
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล







