Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-06-14 13:38:14

“รถคุณอยู่ในมหาลัยใช่ไหม เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอารถนะ”

“ไม่ครับ ผมไม่ได้ขับรถมาเอง”

“อ๋อ งั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่หอพัก หอพักคุณอยู่แถวไหน”

“ผมพักที่บ้านครับ ไม่ได้เช่าหอพัก พอดีบ้านผมอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองและไม่ไหลจากมหาลัยมากนัก”

“ผมก็นึกว่าคุณเป็นคนที่อื่นซะอีก”

“เปล่าครับ”

“งั้นบอกทางผมนะเดี๋ยวผมขับรถไปส่งที่บ้าน” พี่รหัสพูดพลางขึ้นรถไปพร้อมกันกับฟิน

“ได้ครับ” ผมรีบไลน์บอกพ่อทันทีว่าพี่รหัสจะไปส่งบ้าน รายงานทุกสถานการณ์

“แล้ววันนี้นายเดินทางไปมหาลัยยังไง” พี่รหัสชวนคุยตอนอยู่บนรถด้วยกัน

“ผมเหรอ พ่อผมมาส่งครับเนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเรียนพ่อก็เลยอยากมาดูอยากมาเห็นบรรยากาศการมาเรียนวันแรกของผม”

“อ๋อ”

“ครับ”

(“แล้วคือพี่ที่หอพักเหรอ” / “แล้วพรุ่งนี้ล่ะไปไง”) ทั้งสองคนพูดถามขึ้นมาพร้อมกันแต่เป็นคนละคำถาม

“พรุ่งนี้ยังไม่แน่ใจครับว่าพ่อจะมาส่งหรือจะให้ผมขับรถไปเอง แต่พ่อดูยังไม่กล้าให้ผมขับรถมาเองเพราะแกยังดูเป็นห่วงผมเรื่องขับรถอยู่”

“ทำไมล่ะ”

“ก็เพราะว่าผมพึ่งหันขับรถได้ไม่นานเพียง 1 เดือนก่อนจะเปิดเรียนที่มหาลัยนี้เอง”

“อ๋อเข้าใจแล้ว แล้วนายได้บอกพ่อยังว่ามากับผม”

“บอกแล้วครับ แต่เขาดูไม่เป็นห่วงอะไรเลยตอนที่ผมไลน์บอกว่าผมอยู่กับพี่รหัส”

“ใช่เหรอ”

“จริงครับ พ่อไม่เห็นว่าอะไรเลย”

“เขาน่าจะคิดว่าพี่รหัสพามาเลี้ยงสายรหัสแหละมั้ง”

“เลี้ยงเหรอ จริงด้วยนะวันนี้พี่เลี้ยงข้าวผม”

“อันนี้ไม่ใช่เลี้ยงสายรหัส เลี้ยงสายรหัสที่ไม่ได้มีแค่เราสองคน”

“แล้วมันต้องมีการเลี้ยงสายรหัสด้วยเหรอครับ ยังไงอ่ะ แล้วมีวันไหนครับ”

“มันก็แล้วแต่สายรหัสจะนัดวันกัน ถ้ามีวันไหนที่ว่างตรงกันหมดก็วันนั้นแหละ”

“แสดงว่ามีอีกหลายคนเลย”

“ใช่ ก็มีทั้งศิษย์เก่ามาด้วยอ่ะในบางครั้ง”

“ไล่ให้ผมได้รู้คร่าวๆ ได้ไหมครับว่าจะมีใครบ้าง”

“สายรหัสก็จะมีคุณมีผมแล้วก็พี่รหัสของผมและพี่รหัสของพี่รหัสของผมอีกที พวกพี่ปี 3 ปี 4และพวกพี่ที่จบไปแล้วก็มีมาด้วยบ้างบางครั้งถ้าเขาว่างตรงกับพวกเรา”

“อ๋อครับ”

“เข้าใจยัง”

“เข้าใจแล้วครับ แต่พี่ช่วยเลิกเรียกผมคุณหรือนายได้ไหมครับมันดูห่างกันเกินทั้งที่ผมกับที่ก็นั่งอยู่ใกล้ๆ กันแค่นี้แต่เหมือนผมกับพี่อยู่กันคนละที่ อย่างกับท้องฟ้าและพื้นดินที่ห่างกัน”

“ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะ”

“พี่ยังไม่รู้จักชื่อผมเหรอ ผมยังไม่เคยบอกชื่อกับพี่เหรอ”

“ใช่”

“ทำไมไม่ถามตั้งแต่นานๆ ครับ ผมชื่อ ฟิน ครับ”

“ฟินที่เป็นความรู้สึก”

“ไม่รู้ครับพ่อแม่ตั้งให้ ผมไม่เคยถามว่าความหมายของชื่อคือยังไง แต่ที่ผมรู้ ผมก็รู้เท่ากับพี่ว่าฟินคือความรู้สึก”

“อ๋อ”

“แต่ถ้าพี่อยากรู้ว่าใช่ความหมายนี้ไหมเดี๋ยวผมไปถามพ่อแม่ให้”

“ไม่ต้องๆ ผมไม่ได้อยากรู้”

“ครับ ไหนๆ แล้วผมก็ขออะไรอีกอย่างหนึ่งด้วยได้ไหมครับ”

“ขออะไร”

“ขอให้พี่เลิกคุยกับผมเสียงต่ำเสียงตึงเสียงแข็งและหน้านิ่งดูดุๆ ผมเห็นผมได้ยินแบบนี้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่”

“คุณเคยขอผมแล้วหนิ่ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ครับ”

“แล้วผมทำให้ได้ไหม”

“ไม่ได้ครับ”

“นั่นแหละก็ตามนั้น”

เห้อออ!! ไม่น่าลั่นปากขอเลยถ้าในเมื่อขอแล้วก็ไม่ได้อยู่ดี ขนาดชื่อเราเขายังไม่พูดเลยนี่ขนาดบอกชื่อไปแล้วนะก็ยังไม่เห็นจะเรียกเราเป็นชื่อของเราเลย

“บอกทางผมต่อด้วยอย่าพึ่งเหม่อ”

“ครับพี่!!” ฟินสะดุ้งขึ้นอย่างตกใจเมื่อได้ยินชาเย็นพูดเสียงดัง

“ใจลอยไปไหน”

“เปล่าครับผมแค่เผลอคิดอะไรเพลินๆ ไปเมื่อกี้”

“เข้าใจแล้ว”

“เอ๊ยพี่!! จอดก่อนๆ”

“ทำไมจอดทำไม”

“นั้นไง จอดๆ”

“เออจอดแล้ว ไหนอะไร”

“น้องหมาน้อย ดูสิน่ารักมากแต่ใครเอามาบ่อยไว้ที่นี่กันนะ” ฟินเห็นน้องหมาจากไกลๆ เลยบอกให้ชาเย็นจอดรถให้

ฟินเขาก็เดินไปอุ้มน้องหมาตัวน้อยมาขึ้นรถหลังจากที่เขาให้ชาเย็นจอดดูอยู่สักพักใหญ่เพื่อเช็กว่าไม่ใครมาเอาไปแล้ว

“ให้ผมจอดตั้งนานทำไม ทำไมไม่รีบลงไปอุ้มตั้งแต่แรก”

“ก็เพราะว่าหนูอยากดูก่อนว่าจะมีใครมารับน้องไหม”

“มืดขนาดนี้น่าจะหลงทางมาหรือไม่ก็โดนเอามาบ่อยที่ถังขยะนั่น”

“แต่พี่ต้องเอาน้องไปเลี้ยงนะ”

“จู่ๆ ทำไมเป็นผม”

“ก็พี่!!”

“ก็พี่อะไร”

“ไม่ก็พี่แล้วก็ได้ ก็ที่บ้านผมเลี้ยงไม่ได้”

“อ้าว!! ก็ปล่อยมันไว้ที่เดิมไหมงั้น”

“ไม่ได้สงสารน้อง น้องยังเล็กอยู่เลย”

“เอ้า!!”

“โอเคพี่รับเลี้ยงน้องนะ”

“เออๆ”

“ขอบคุณครับพี่ หมาน้อยแกจะมีบ้านอยู่แล้ว” ฟินหันไปขอบคุณชาเย็นก่อนก้มลงไปพูดกับน้องหมาที่นั่งอยู่บนตักของตัวเอง

ฟินเป็นคนที่ชอบน้องหมามาก เป็นคนขี้สงสารสัตว์เลี้ยงเหมือนจะทั้งหมดไม่ใช่แค่น้องหมา แต่ว่าบ้านเขาเลี้ยงน้องหมาไม่ได้เพราะพ่อแพ้ขนสัตว์ เขาเป็นห่วงพ่อถึงแม้ว่าพ่อจะบอกว่าเอามาเลี้ยงได้ เดี๋ยวพ่อกินยาก็หายมันก็ไม่เสมอไปที่จะหายดีฟินเขาก็เลยเลี่ยงที่จะไม่เลี้ยงดีกว่า

แววตาเป็นประกายเวลาที่ฟินอยู่น้องหมาและน้ำเสียงเล็กๆ ที่ไม่มีใครเคยจะได้ยินแต่น้องหมาได้ยิน และตอนนี้ก็เหมือนชาเย็นจะได้ยินด้วยนะ เพราะฟินเผลอพูดเสียงสองกับน้องหมาตอนอยู่บนรถในขณะที่ชาเย็นกำลังขับรถพาเขากลับบ้าน

“ถึงแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับที่มาส่งผมถึงที่บ้าน”

“ครับ”

“พี่ดูแลน้องให้ดีๆ นะ”

“ครับ แล้วนี่ไม่อยากตั้งชื่อให้มันหน่อยเหรอ”

“ตั้งชื่อเหรอ”

“ใช่”

“พี่ตั้งเลยผมยังคิดไม่ออก”

“อ้าว!! งั้นเอาไว้คุณคิดออกแล้วบอกผม”

“กว่าผมจะคิดออกพี่ก็ได้ชื่อให้มันแล้วนะผมว่า”

“ผมไม่ตั้ง ผมจะให้คุณตั้ง”

“พี่จะรอให้ผมตั้งทำไม พี่ก็ตั้งไปสิพี่คือเจ้าของมันแล้วนะ”

“เออ!! แต่ผมอยากให้คุณตั้งชื่อให้มันไง”

“โอเคๆ ไว้คิดชื่อออกเดี๋ยวบอก”

“โอเค”

“กลับดีๆ ครับพี่ เจอกันพรุ่งนี้”

“อือ!!”

ผมยืนส่งพี่เขากลับตรงหน้าบ้านก่อนจะเดินเข้าบ้านตอนที่เห็นว่าพี่ชาเย็นเขาขับรถออกไปไกลลิบแล้ว เดินเข้าในตัวบ้านไปก็เจอพ่อแม่ยืนมองผมผ่านกระจกใส่ของห้องรับแขก เป็นกระจกที่มองข้างนอกจะไม่เห็นอะไรด้านในบ้านเพราะมันเป็นกระจกดำมืดแต่พอเดินเข้ามาอยู่ด้านในบ้านจะเห็นด้านนอกเมื่อมองผ่านกระจกออกไป ทำให้ฟินเดินเข้ามาถึงจะเห็นพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อาณาเขตแห่งความสดใสของนายโฮป (Territory of Brightness)   บทที่ 52

    จูบอันแสนเร่าร้อนและดูดดื่มมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว มือหนาค่อยๆ ขยับสอดเข้าใต้เสื้อของคนตัวเล็กที่นอนอยู่ใต้ล่าง มือค่อยๆ ขยับเขยื้อนร่ายยาวขึ้นไปจนถึงช่วงเนินอกจนเผลอโดนจุดไวต่อความรู้สึกของฟินขึ้นมาทำเอาฟินเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับโฮปขึ้นมามากขึ้นอีก“อื้อออ!” เสียงควรครางจากฟินเริ่มมาหลังจากได้รับการจับสัมผัสผ่านมือของโฮปตรงช่วงอก เมื่อโฮปรู้แล้วว่าจุดนี้ทำให้ฟินรู้สึกแบบนั้นไปด้วยโฮปก็ยิ่งสัมผัสจุดนั้นตรงช่วงอกสักพักหนึ่งแล้วค่อยๆ เลื่อนเปลี่ยนจุดลงมาที่บริเวณหัวกางเกง มือของโฮปเริ่มการสอดเข้าไปใต้กางเกงอย่างง่ายดาย“โอ๊ะ! พี่โฮปเดี๋ยวก่อนครับ” แต่ทันใดนั้นเองฟินก็จับมือของโฮปข้างที่ได้สอดเข้าไปใต้กางเกงไว้แน่นเพื่อเป็นการสั่งหยุด ถึงแม้ฟินจะเริ่มเคลิ้มไปกับโฮปแล้วแต่ทว่าตอนนี้ฟินเหมือนกำลังจะพยายามดึงสติตัวเองกลับมาได้แล้วคนร่างบางเล็กอย่างฟินที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่ใต้ล่างเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้องอาจจะเกิดจากการตื่นตกใจกลัวกับความรู้สึกที่มันกำลังนำไปสู่เรื่องการมีเซ็กส์ เขาจึงรีบหยุดมันเสียก่อนที่มันจะเกิดขึ้น“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” โฮปพูดพลางถอดมือออกจากด้านในกางเกงของฟิน“เอ่อคือ! เปล

  • อาณาเขตแห่งความสดใสของนายโฮป (Territory of Brightness)   บทที่ 51

    ในช่วงเวลาหลังทานมื้อเย็นเสร็จ ทุกคนนั่งทานของหวานกันต่อพร้อมกับดูหนังด้วยกัน แต่สักพักไม่นานเหมือนว่าฟินอาจจะลำไส้แปรปรวนนิดหน่อยเมื่อได้พบเจอกับของหวานและผลไม้“พี่โฮปครับ” ฟินขยับตัวเข้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆ“ฮึ! ว่าไงครับ”“ผมขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะครับ ห้องน้ำไปทางไหนครับ”“เดี๋ยวพี่พาไป” พูดจบปุ๊บโฮปก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับฟินทันที“จะไปไหนกันลูก”“จะพาน้องไปเข้าห้องน้ำครับ”“อ๋อโอเคจ๊ะ”โฮปพาฟินเดินมาเข้าห้องน้ำ โดยที่โฮปยังยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูห้องน้ำยังไม่ไปไหนปุ้งปั้งๆๆ~ 💩“…!!” โฮปที่อยู่ด้านหน้าประตูห้องน้ำก็ทำหน้าที่อยู่แบบนิ่งๆ เงียบๆ แม้จะได้ยินเสียงอะไรก็ตามก๊องแก๊ง~แต่มือของโฮปกับไปของอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงด้านหน้าประตูห้องน้ำจนเกิดเสียงของล้มลง“พี่โฮป พี่โฮปยังอยู่เหรอครับ” เมื่อฟินได้ยินเสียงดังก๊องแก๊งด้านนอกห้องน้ำก็เลยเรียกโฮปถามดู“ครับบบ!”“อ้าวแล้วเมื่อกี้ผมพึ่งปล่อยระเบิดลงไปพี่ก็ได้ยินหมดเลยสิ”“เอ่อ!” โฮปไม่กล้าบอกตรงๆ ว่าได้ยิน เอาแต่ทำตัวอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่พูดออกมาสักที“พี่โฮปปปป! มายืนฟังผมอึอยู่ทำไมออกไปจากตรงนี้ได้แล้วครับ”“พี่ก็ยืนเฝ้าฟินเข้าห้องน้ำไง”

  • อาณาเขตแห่งความสดใสของนายโฮป (Territory of Brightness)   บทที่ 50

    “นี่! มานี่ๆ” โฮปเข้ามาในห้องแล้วเรียกฟินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์ที่ห้อยอยู่ให้ประตูห้อง“หึ?” ฟินทำหน้างงเมื่อเห็นโฮปเรียก“มานี่เร็ว” โฮปหันหน้าไปเรียกฟินอีกรอบ“หึ! ไปไหนเหรอครับ” ฟินอาจจะยังงงๆ อยู่ว่าโฮปเขาจะพาไปไหนแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินไปหาโฮปที่ยืนรออยู่ตรงประตูห้อง“ป่ะ!”“เดี๋ยวครับบอกผมก่อนว่าจะพาไปไหน” ฟินจับแขนโฮปไว้ให้หยุดคุยกับเขาก่อนที่จะพาออกไปข้างนอก“พี่จะพาไปข้างนอก”“ข้างนอกแล้วคือที่ไหนครับ”“บ้านพี่เอง”“บ้านพี่!”“ใช่! พอดีวันนี้พี่ต้องไปกินข้าวเย็นกับครอบครัว”“แต่มันกำลังจะค่ำแล้วนะครับ ผมว่าผมคงไปด้วยไม่ได้”“ทำไมอ่ะ”“ที่บ้านผมน่าจะดุเอาถ้าเป็นเวลานี้”“ไปได้สิแค่บอกพ่อแม่ตรงๆ เอ่อแต่จะว่าไปวันนี้จริงๆ พี่ก็ลืมวันเกิดตัวเองไปแล้วนะถ้าฟินไม่มาเซอร์ไพรส์พี่ ว่าแต่ฟินรู้วันเกิดพี่ได้ไง”“พี่ชาเย็นบอกครับ ผมเล่าให้พี่ชาเย็นฟังว่าอีก 2 สัปดาห์ก็ถึงวันเกิดผมแล้วก็เลยจะให้พี่ชาเย็นหาของขวัญให้ผม แล้วพี่ชาเย็นก็พูดประมาณว่า…เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังเลยก็แล้วกัน”[[“อย่าลืมของขวัญวันเกิดให้ผมนะครับพี่ชาเย็น อีก 2 สัปดาห์ก็ถึงวันเกิดผมแล้ว”“ได้สิสำหรับ

  • อาณาเขตแห่งความสดใสของนายโฮป (Territory of Brightness)   บทที่ 49

    “ให้กูช่วยเนี่ยนะ!” โฮปเอานิ้วชี้ตรงบริเวณหน้าอกตัวเองพร้อมกับถามชาเย็นด้วยสีหน้าที่ดูงงๆ นิดหน่อย“ใช่ไง หรือมึงไม่อยากช่วยกู”“เปล่า แต่ว่า!” เอาไงดีผมควรบอกไอ้เย็นมันไปตรงๆ ไหมว่าผมกับฟินเป็นแฟนกันแล้ว แต่ถ้าผมบอกไปตรงๆ แบบนั้นไอ้เย็นมันจะรู้สึกยังไง ผมว่ามันคงเสียใจและมีโกรธผมบ้างแหละ“แต่ว่าอะไร! จะพูดอะไรก็พูดมา”“ไม่มีไร”“ซะงั้น! …สรุปยังไง มึงช่วยกูนะ”“อือ!” สุดท้ายผมก็ไม่กล้าบอกมันตอนนี้กลัวได้ผิดกันกลางห้าง“ดีเลย อย่างแรกช่วยกูเลือกของขวัญให้น้อง” ชาเย็นพูดพลางกอดคอโฮปเดินไปหาร้านที่จะซื้อของให้ฟินสีหน้าและแววตาของโฮปตอนนี้อย่างกับว่ากำลังคิดอะไรมากมายในหัวอยู่ตลอด ทั้งดูเหมือนกำลังกังวลอยู่ ดูเหมือนใจไม่อยู่กับร่องกับรอย“มึงว่าเอาอันนี้ให้น้องดีใหม่”“ก็ดีนะ”“เอาดีๆ มึงพูดจากใจป่ะเนี่ย ปากพูดแต่ตามึงลอยละล่องไปไหนแล้วก็ไม่รู้อย่างกับว่าพูดให้จบๆ ไปงั้น ไม่เห็นมึงจะรู้สึกกับที่พูดเลย”“จริงๆ นะกูก็ว่ามันดีจริงๆ ดูเหมาะกับน้อง น้องน่าจะชอบอะไรแบบนี้อยู่นะ”ของที่ให้ชาเย็นพาผมเข้ามาดูคือร้านกระเป๋าสตางค์ที่ดูดีมากครับ มันชี้ชิ้นไหนผมก็ว่าดีก็ว่าสวยกับมันไปหมด ก็ของในร้าน

  • อาณาเขตแห่งความสดใสของนายโฮป (Territory of Brightness)   บทที่ 48

    [โฮป]เวลา 08:30 นาที“วันนี้มีเรียนป่ะมึง” เสียงของเพื่อนของผมที่พึ่งจะตื่น“มี ไม่เห็นเหรอกูกำลังทำอะไรอยู่” โฮปพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ในขณะที่กำลังใส่เสื้อผ้าชุดนักศึกษาเตรียมออกไปเรียน“กี่โมง”“9 โมงครึ่ง”“ห๊ะ!”“อือ! ไปไหมถ้าจะไปก็รีบลุก เพราะกูจะออกไปกินข้าวเช้าที่โรงอาหารของตึกเราด้วยนัดกับเพื่อนเราอีกสองคนไว้แล้ว”“เออไปๆ แล้วทำไมมึงไม่รีบปลุกกูตั้งแต่นานๆ วะ”“ไม่รู้! ก็นึกว่ามึงจะไม่ไป เห็นเมื่อคืนดื่มมาหนักจะไปเรียนไหวแน่นะ”“โอโห! มึงไม่คิดว่ากูขยันอยากจะไปเรียนเลยไง”“ใช่”“รู้จักกูน้อยไปซะแล้ว กูไหวครับ”“ไหวก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว”“เออๆ”“เดี๋ยว! หมายถึงกลับไปอาบที่ห้องมึงนะไม่ใช่ห้องกู” โฮปเห็นเพื่อนกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำก็เลยพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เพื่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องน้ำ“เออๆ กูแค่จะเข้าไปส่องกระจก”“กระจกด้านนอกห้องน้ำก็มีนะที่โต๊ะเครื่องแป้ง”“เออๆ กูกลับห้องกูละ”“อืม! ขอให้โชคดี” โฮปเดินไปส่งเพื่อนที่ตรงหน้าประตูพร้อมบอกเพื่อนเป็นในๆ ถึงเรื่องแฟนของชานมที่เลาะกันอยู่ แต่รู้ว่าตื่นเช้ามาเดี๋ยวเพื่อนอย่างชานมก็ง้อแฟนสาวได้อีกเหมือนเคย“ไอ้สัสพูดกับกูอย่างกั

  • อาณาเขตแห่งความสดใสของนายโฮป (Territory of Brightness)   บทที่ 47

    เขาคือรักแรกของผมเลยน๊าาา! พี่โฮปนั่นหน่าาา! เขาเป็นแฟนของผมและเขาก็หล่อด้วย คริคริ!“ยืนทำอะไรคนเดียวเวลานี้”“อุ้ย!” ผมไม่รู้ว่าตัวว่ากำลังยืนพร่ำเพ้อถึงพี่โฮปนานแค่ไหนแล้วอยู่ตรงหน้าบ้านนี้ พึ่งมารู้ตัวอีกทีก็เห็นตัวเองยืนตัวบิดแขนขาเกลียวกันไปมา และเสียงนั่นเสียงของพ่อผมเอง“หือ! พ่อถามว่ายืนทำอะไรอยู่หน้าบ้านคนเดียวเวลานี้”ซวย! หันหลังไปทางด้านในบ้านเจอพ่อยืนกอดอกจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาอาฆาต อย่างกับผมทำผิดอะไรร้ายแรงมาซะอย่างงั้น“ห๊ะ! อะไรนะครับพ่อ”“แน่ใจนะว่าจะให้พ่อพูดซ้ำอีกรอบ”“เอ่อคือ”“แล้วก่อนหน้านี้ขับรถออกไปไหนมา”“คือว่า”“รู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่เป็นห่วงกันแค่ไหน แม่กับพ่อตอนนี้นอนก็ไม่หลับเพราะกลัวจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นกับฟิน พ่อลงมานั่งรอตั้งแต่ฟินออกไป 5 ทุ่มครึ่งยันตอนนี้ตี 1 แล้วพึ่งจะกลับมา”“พ่อใจเย็นก่อนครับ ผมขอโทษนะครับ แต่ตอนนี้ผมกลับมาอย่างปลอดภัยแล้วนี่ไง”“ปลอดภัยก็ดี แต่ทีหลังอย่าให้เกิดขึ้นอีกนะที่แอบขับรถออกจากบ้านตอนกลางคืนดึกๆ ดื่นๆ แบบไม่บอกพ่อแม่ก่อน แล้วก็หลังจากนี้ถ้าต้องออกไปไหนข้างนอกพ่อจะให้ขับรถเองแล้วนะอย่ามาบอกว่าไม่กล้าขับใครๆ เขาก็เค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status