ตอนที่ 2 นางฟ้าคืนเดียว (ส่วนที่ 3)
“หนูลี หนูลี น้ามาแล้ว” เสียงเบาเอ่ยเรียก พร้อมกับมือที่แตะลงบนร่างบางที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง คนถูกเรียกขยับตัวหันมาหาต้นเสียง พอเห็นว่าเป็นคนที่รอคอย ร่างบางก็ลุกขึ้นโถมเข้ากอดรัดผู้มาใหม่สะอื้นตัวโยน
“น้าลักษณ์ น...หนูลี” สาวน้อยพูดไม่เป็นคำเพราะแรงสะอื้น เลอลักษณ์ได้แต่กอดประคองเอาไว้ตบหลังไหล่อย่างปลอบประโลม
“เป็นอะไรหือ ถึงโทรตามน้ามา เมื่อกี้เด็กบอกเราเป็นลม ไปหาหมอหรือยัง” เลอลักษณ์ทรุดนั่งลงบนเตียงของหลานสาว มองดูใบหน้าเล็กๆ ที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตาอย่างสงสัย ถึงจะถูกเลี้ยงดูมาราวไข่ในหิน แต่ลีลาก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ เปราะบางเหมือนท่าทางภายนอกที่ใครๆ เห็น การที่เธอร้องไห้หนักหนาสาหัสขนาดนี้มันต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
“น้าลักษณ์ หนูลีเจอผู้ชายคนนั้น...คนเมื่อสามเดือนก่อน” พูดจบร่างบางก็สะท้านไหวจนเลอลักษณ์ต้องกอดกระชับเอาไว้แน่น หัวอกหัวใจของอาจารย์สาวก็สั่นรัวไม่แพ้กัน สามเดือนก่อนลีลาถูกชักชวนไปฉลองรับปริญญากับเพื่อน สาวน้อยบอกคุณย่าจงกลว่าจะนอนค้างที่คอนโดฯของเธอ แต่แม่หลานสาวก็หายตัวไป กลับมาเอาตอนเช้า ด้วยสภาพราวคนหัวใจสลาย กว่าจะปลอบโยนจนเธอเล่าเรื่องราวออกมาได้ก็ทำเอาอ่อนใจ ลีลาเล่าว่าเพื่อนๆ พาเธอไปกินเลี้ยงที่ผับแห่งหนึ่ง เธอถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มเหล้า และคืนนั้นก็ดำเนินไปด้วยสติที่ขาดๆ วิ่นๆ จนตอนเช้าเธอตื่นมาพบตัวเองนอนอยู่บนเตียงกับผู้ชายคนหนึ่ง พร้อมกับหลักฐานหลายอย่างที่บ่งบอกว่าเธอมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนนั้น ลีลาหลบออกมาจากห้องพักสุดหรูนั่น ตรงดิ่งมาหาเธอด้วยหัวใจที่แหลกลาญ ความสาวที่ถนอมมาแสนนาน ชีวิตที่ใช้อย่างระมัดระวังให้อยู่ในกรอบอันดีงามพังสิ้นในพริบตา เลอลักษณ์ต้องดูแลหลานสาวฟื้นฟูหัวใจที่บอบช้ำนั้นให้กลับคืนมา เธอเคยหวาดหวั่นว่าลีลาอาจด่วนคิดสั้น หากหลานสาวของเธอก็เข้มแข็งจนผ่านคืนวันร้ายๆ มาได้ แต่มันเวรกรรมอะไรอีกหนอ เงานั้นถึงตามมาหลอกหลอนหลานรักได้
“เจอที่ไหน หนูลีใจเย็นๆ เล่ามาลูก” ลีลาพยายามกลืนก้อนสะอื้นขมปร่าลงคออย่างอยากเย็น ตอนนี้อยากให้โลกถล่มลงเหลือเกิน อยากหนีไปให้พ้นจากความทรงจำร้ายๆ
“เขาเป็นคนที่คุณย่าบอกจะพามาดูตัวค่ะ” คราวนี้เลอลักษณ์รู้สึกราวถูกทุบหัว สาววับเลยเลขสามดีกรีอาจารย์มหาวิทยาลัยอยากจะก่นด่าความกลมของโลกใบนี้เสียเหลือเกิน มันกลมเกินไปแล้ว
“แล้ว...แล้วยังไงหนูลี”
“หนูลีทำเป็นไม่รู้จักเขา น้าลักษณ์ ถ้า...ถ้าคุณย่ารู้ หนูลี...” ลีลาร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น ร่างบอบบางสั่นสะท้านจนเลอลักษณ์ต้องกอดประคองเอาไว้ ทำไมเธอจะไม่รู้ถึงหัวใจ ความนึกคิดของหลานสาวผู้นี้ดี ลีลาเป็นเด็กบ้านแตก พ่อกับแม่ของเธอแยกทางกันด้วยเรื่องที่ชวนให้ตะขิดตะขวงใจนัก คือญาติผู้พี่ของเธอ มารดาของลีลาถูกกล่าวหาว่าคบชู้ เมื่อพ่อแม่ของเธอแยกทางกัน คุณจงกลผู้เป็นย่าก็รับเอาตัวลีลามาดูแล แม้จะรักใคร่มากกว่าหลานคนไหน แต่ผู้เป็นย่าก็เข้มงวดนัก อีกทั้งยังคอยพร่ำสอนว่าอย่าให้เธอทำตัวเลวร้ายน่ารังเกียจเช่นมารดา คำนั้นราวตราบาปตอกย้ำควบคุมให้ลีลาทำตัวอยู่ในกรอบ หลานสาวของเธอไม่เคยมีคนรัก ไม่เคยแม้จะเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน แต่ความผิดพลาดในครั้งนี้รุนแรงนัก ลีลาแทบไม่ยอมให้อภัยตัวเองเลย
“แล้วเขาเชื่อหรือหนูลี” เลอลักษณ์ถามหลานสาว เพราะความเข้มงวดในการเลี้ยงดู ทำให้ลีลาแทบไม่มีเพื่อนสนิท เธอคือคนเดียวที่สาวน้อยสนิทชิดเชื้อด้วย ยังดีที่คุณจงกลไม่คิดรังเกียจแม้ว่าเธอจะเป็นญาติฝ่ายแม่ของลีลา และไว้ใจให้ดูแลหลานสาว ลีลาเลยยึดเธอเป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษา
“เขาไม่เชื่อ แต่ยังไงหนูลีก็ไม่ยอมรับเด็ดขาดหรอกน้าลักษณ์ ให้หนูลีตายเสียดีกว่าที่คุณย่าจะมารู้เรื่องนี้” สาวน้อยสะอื้นตัวโยน ถ้อยคำที่เคยได้ยินเมื่อครั้งยังเด็กฝังใจ
‘อย่าทำตัวชั่วช้า ให้ใครเขาว่าว่าเพราะมีเลือดแม่ในตัวนะหนูลี’
คำนั้นคุณย่าจงกลเอ่ยกับเธอด้วยแรงอารมณ์เมื่อลูกชายของท่าน พ่อของเธอจะไม่ยอมให้ท่านเลี้ยงดูตัวเธอ ตอนนั้นพ่อโกรธที่รู้ว่าแม่ของเธอคบชู้ โกรธถึงขั้นเหมาเอาว่าเธออาจไม่ใช่ลูก เลอลักษณ์บอกว่าเรื่องนี้ยุติลงเมื่อคุณจงกลพาเธอไปตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์สายเลือด แม้จะยอมรับแต่พ่อของลีลาก็ไม่เคยใยดีอะไรลูกสาวคนนี้เลย
“แล้วจะทำอย่างไรกันหึหนูลี” ผู้เป็นน้าเอ่ยถาม มองเห็นประกายบางอย่างในแววตาของหลานสาว ชวนให้นึกหวั่นใจ แม้ลีลาจะดูเหมือนหัวอ่อน อยู่ในกรอบมาตลอด หากมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าแม่หลานสาวดื้อเงียบขนาดไหน ก็คงเหมือนญาติผู้พี่ของเธอนั่นแหละ ศิริยุพามารดาของลีลานิสัยเจ้าทิฐิดื้อดึงไม่ยอมใคร แม่ของเลอลักษณ์เล่าว่า ที่ศิริยุพาคบชู้น่าจะเพราะเธอประชดที่พ่อของลีลาทำตัวเจ้าชู้เลี้ยงดูผู้หญิงอื่นเป็นเมียลับ และดูเหมือนเรื่องนี้ทำให้คุณจงกลตัดสินใจเอาตัวลีลามาเลี้ยง แม้จะเกลียดชังการกระทำของอดีตลูกสะใภ้ แต่คุณจงกลก็ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเพราะความผิดของลูกชายเธอ
ลีลาไม่ตอบคำถามนั้น ดวงตาแดงช้ำหลังม่านน้ำตามีประกายมุ่งมั่น ถ้าเขาจำได้ เธอก็จะทำให้เขาสับสน ลีลาหลานสาวของคุณย่าจงกลต้องเป็นผู้หญิงเพียบพร้อม ต้องไม่ถูกตราหน้าว่ามีเลือดชั่วของแม่ปะปน
ตอนพิเศษ 2 เพียงเธอ (ส่วนที่ 2) เจ้าของร่างบอบบางรับรู้ถึงจมูกโด่งๆ ที่ไล้ไปตามลาดไหล่นวลผ่อง ก่อนจะส่งผ่านสำผัสหวามหวานไปทั่วแผ่นหลังป่าวเปลือยของตัวเอง เมฆฉานกำลังทำอย่างที่พูด เขา'ขยัน' เสียเหลือเกิน แถมร้อนแรงราวไฟโหมแผดเผาตัวเธอไม่หยุดหย่อน "พี่เมฆขา ทำไมถึง...เอ่อ...ต้องการมากนักล่ะคะ" เสียงถามแผ่วเบาเอ่ยถาม พยายามไขว่คว้า มือซุกซนที่ไล้บีบคลึงไปทั่วร่างน้อย "ลงโทษคนใจร้าย ทำไมหึ ทำไมถึงไม่อยากมีลูก พี่อยากมีลูกกับหนูลีนะ มีแล้วพี่เลี้ยงให้ก็ได้ ถ้าหนูลียังไม่พร้อมจะเลี้ยง เราแต่งงานกันแล้วนะครับ" คนตัวโตออดอ้อน เขาใฝ่ฝันมาตลอดที่จะมีทายาทกับหญิงสาวที่รัก ถ้าไม่ใช่ลีลา เขาก็ไม่ได้คิดจะอยากมีกับใครแน่ๆ "พี่เมฆ ฟังหนูลีอธิบายก่อนนะ" ลีลาพยายามหยุดการรุกรานของสามี" หนูลีอยากมีลูกกับพี่เมฆนะคะ เพราะหนูลีรักพี่เมฆ แต่อายุยี่สิบมันอาจน้อยไปที่จะมีลูกสักคน หนูลีไม่มั่นใจเลยค่ะว่าจะมีวุฒิภาวะพอจะเลี้ยงดูเด็กๆ ให้เขาโตมาอย่างมีความสุขหรือเปล่า" เสียเล็กๆ สั่นเครือ เมื่อหัวใจสะท้อนสะท้านไปกับความรู้จากความทรงจำมากมาย
ตอนพิเศษ 2 เพียงเธอ (ส่วนที่ 1) ดวงตากลมโตเป็นประกายสุกใส ขณะมองขนมสีสวยในกล่องหลากดีไซน์ที่สาวน้อยอ้อนวอนขอซื้อทุกแบบที่มีในร้าน "สวยจังค่ะพี่เมฆ ขนมก็สวย กล่องก็สวย ถุงอีก โอ้ยดูซิคะแม้แต่บิลเงินสดยังสวยเลย" เสียงกรี๊ดกร๊าดดังไม่หยุด ตั้งแต่หอบของถูกใจออกจากร้านขนมชื้อดังกลางกรุงปารีส "คนซื้อก็สวย" เสียงห้าวๆ ดังขึ้น พร้อมกับสายตาเจ้าชู้ที่ส่งไปยังภรรยาตัวน้อย แก้มนวลซับสีแดงระเรื่อแทบในทันที จนเมฆฉานอดใจไม่ไหวที่จะยื่นหน้าเข้าไปดอมดม "พี่เมฆน่ะ" ลีลาเบี่ยงตัวหลบอย่างเขินอาย “อยากมีลูกสาวกับหนูลีจัง ลูกเราต้องสวยน่ารักแน่ๆ แม่สวยขนาดนี้” อยู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดขึ้นลอยๆ ทำเอาคนที่กำลังจิบน้ำอยู่ถึงกับสำลักกระอักกระไอรุนแรง “อ้าวใจเย็นๆ ครับ ตื่นเต้นล่ะซิ หรือว่าหนูลีอยากได้ลูกชายหล่อเหมือนพี่ ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จัดให้ แต่คนแรกขอลูกสาวก่อนแล้วกัน” ลีลารู้สึกเห่อร้อนไปทั้งใบหน้า กับวาจาห่ามๆ ของสามี “กินซะจะได้เงียบๆ” มือบอบบางหยิบขนมในมือยัดใส่ปากคนตัวโต ก่อนจะเดินหน้าแดงหนีไปดื้อๆ
ตอนพิเศษ 1 ลีลาเคียงเมฆ (ส่วนที่ 2) ภายใต้ซุ้มดอกไม้สดงดงามกลางสวนสวย บ่าวสาวในชุดไทยสวยงามยืนเคียงคู่กัน ท่ามกลางรอยยิ้มชื่นบานของบรรดาญาติสนิท "เหมาะสมเหลือเกินนะคะคุณพี่ เจ้าบ่าวก็หล่อ เจ้าสาวก็งามหมดจดราวหลุดออกมาจากวรรณคดี หนูลีนี่แต่งชุดไทยขึ้นจริงๆ"คุณหญิงรวีวรรณเอ่ยชมแววตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม ลูกสาวของเธอตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวแต่งชุดไทยในงานเลี้ยง แทนที่จะแต่งชุดสากลตามสมัยนิยม คุณจงกลพยักหน้ารับ แววตายังจับจ้องอยู่ที่คู่บ่าวสาว ในที่สุดเธอก็จับจูงหลานสาวผู้อาภัพคนนี้เดินมาจนถึงปลายทางช่วงหนึ่งของชีวิต หนทางต่อไปเธอมั่นใจว่าชายหนุ่มผู้นั้นจะประคับประคองลีลาให้ก้าวต่อไปด้วยดี ความรักมากมายที่เมฆฉานได้พิสูจน์ให้เห็น เป็นดังหลักประกันได้ "วันนี้เจ้าบ่าวของเรามีสิ่งพิเศษจากหัวใจ ที่จะมอบเป็นเซอไพร์ให้เจ้าสาวครับ" ภูหมอกผู้รับหน้าที่พิธีกรในงานประกาศ เสียงขานฮือฮาดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณงาน เมื่ิอเจ้าบ่าวเดินตรงไปที่เปียโนด้านหลัง ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เจ้าสาวเท่านั้นที่เซอไพร์กับเรื่องนี้ ครอบครัวเจ้าบ่าวก็ประห
ตอนพิเศษ 1 ลีลาเคียงเมฆ (ส่วนที่ 1) "ตายแล้ว! ปุ๊บ ปั๊บ ตาหนึ่งทำอะไรกันลูก" เสียงอุทานอย่างตระหนกดังขึ้น เมื่อเห็นสามหนูน้อยนั่งล้อมวงอยู่รอบๆ ถาดใส่ขนมหลากชนิด ปากเคี้ยวยับๆ อย่างเอร็ดอร่อย "กินหนมคับ อันนี้อร่อยมาก" มือป้อมๆ ของเด็กชายหนึ่งตะวัน หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นอวดมารดา ก่อนจะส่งมันเข้าปาก แพนดารารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะลมจับในทันที "อันนี้ก็อร่อย" เด็กชายคู่แฝดอวดขนมที่ตัวเองชอบบ้าง ไม่รับรู้ถึงอาการกุมขมับของผู้ใหญ่ ดวงตาคู่สวยมองสภาพถาดใส่ขนมขันหมากด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง จะทำอย่างไรล่ะทีนี้ ตัวแสบทั้งสามกินขนมไปเกือบหมดถาดแล้ว จะหาขนมที่ไหนมาแทนได้ในเวลานี้เล่า ครั้นจะดุว่าก็ไม่มีประโยชน์อะไร จริงๆ เธอควรจะบอกเด็กๆ เอาไว้ตั้งแต่แรกว่าขนมนี้เอามากินไม่ได้ "มีอะไรหรือหนูแพน" เสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงสง่าของธรรศ มอเรล บิดาของสามีเธอ "สามแสบนั้นกินขนมขันหมากที่จะใช้ในพิธีพรุ่งนี้หมดไปเกือบถาดแล้วค่ะ ทีนี้จะแก้ไขอย่างไรดีคะ" ธรรศเลิกคิ้ว มองหลานชายทั้งสามที่ยังเอร็ดอร่อย ผลัดกันป้อนขนมให้กันชื่นมื่น
บทส่งท้าย 'กรงรัก' (ส่วนที่ 2) คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ เมื่อพาหนะที่เมฆฉานขับไปรับเธอมาจากสนามบินแล่นเลยทางเข้าเรือนไทยของผู้เป็นย่าไป ก่อนจะค่อยๆเลี้ยวเข้าประตูรั้วด้านข้างร้านขนม บ้านหลังน้อยท่ามกลางหมู่ไม้ค่อยปรากฏแก่สายตา ลีลายิ่งประหลาดใจมากขึ้น เธอจากไปเพียงเดือนกว่าๆ บ้านหลังนี้ผุดขึ้นมาได้อย่างไร ราวกับใครมาเนรมิตขึ้นมาอย่างนั้น จำได้ว่าบริเวณนี้แต่ก่อนเป็นสวนไม้ผลของคุณย่า ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกผลเท่าไหร่แล้ว “บ้านใครคะ” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยงุนงงหันไปถามคนที่พามา ขณะก้าวลงจากรถตามการจับจูงของคนตัวโต “เรือนหอน่ะ เจ้าสาวก็อยู่ข้างๆ นี่ไง” เสียงห้าวๆ ตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี รั้งเอวกลมกลึงของคนถามให้เดินตามเข้าไปด้านใน ลีลากวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ อย่างงุนงง บ้านหลังน้อยสองชั้นสไตล์วิกตอเรียนตั้งอยู่ท่ามกลางส่วนร่วมรื่น แยกออกมาเป็นสัดส่วนด้วยรั้วต้นไม้ไม่สูงนัก มีทางเดินเชื่อมไปยังเรือนไทยของผู้เป็นย่า ทั้งลักษณะของบ้าน และการตกแต่งเป็นไปตามที่เธอใฝ่ฝันทุกอย่าง “พี่ปรึกษากับคุณย่าท่านแล้ว เห็นตรงกันว่าควรจะสร้างเ
บทส่งท้าย 'กรงรัก' (ส่วนที่ 1) ร่างสูงก้าวยาวๆอย่างรวดเร็วไปบนทางเดินกลางสนามบิน ดวงตาคมกวาดไปโดยรอบ ก่อนจะหยุดล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูด้วยอาการกระวนกระวาย หากดูเหมือนทำให้หัวใจยิ่งร้อนรุ่ม ยัยตัวร้ายยังไม่เปิดโทรศัพท์มือถือ หรือเปิดก็ไม่ยอมแชร์โลเคชันบอกตำแหน่งของตัวเอง เด็กบ้าเอ้ย! สั่งอะไรไม่เคยจะทำตามเลย บอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้าไม่ได้อยู่ข้างตัวเขา ห้ามปิดโทรศัพท์และให้แชร์โลเคชันบอกพิกัดที่ตัวเองอยู่เอาไว้ เขาจะได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เมฆฉานย่ำเท้าไปเรื่อยๆ มือก็พยายามกดโทรศัพท์หาคนรัก หรือว่าเขาควรจะระดมคนมาพลิกสนามบินตามหาดี แต่นั่นมันก็เกินกว่าเหตุไป เพราะยังไม่มีอะไรที่ส่อเค้าว่าจะเกิดอันตรายกับเธอ เพียงแค่เธอหายไปจากการรับรู้ของเขาเท่านั้น จริงๆ เขาควรจะดีใจที่ลีลากลับมาก่อนกำหนด หลังจากเจ้าหล่อนตามมารดาไปเที่ยวเล่นที่อเมริกาทันทีหลังงานแต่งงานของน้าสาว หญิงสาวไม่ได้บอกกำหนดแน่นอนว่าจะไปนานเท่าไหร่ ตอนแรกประมาณการณ์เอาไว้ว่าขั้นต่ำน่าจะสามเดือน จำได้ว่าตอนนั้นเขาหงุดหงิดมากที่รู้ว่าคนรักมีวีซ่าอเมริกาอยู่แล้วนานถึงสิบปี แบบนี้มันติดปีกชัดๆ มิน่านึก