Share

บทที่ 4 ไอ้ขยะเปียก

last update Last Updated: 2025-06-29 21:17:50

“เฮ! น้องสาว ไหวรึเปล่า จะไปไหนให้เพ่ช่วยมั้ย” ชายหนุ่มแปลกหน้าที่น่าจะเมาไม่แพ้เธอเช่นกันเอ่ยถามนิศราที่เดินเซออกมาจากห้องน้ำ

“ไม่ต้องค่ะ เดินเองได้” 

“มาเถอะน่า ยืนตรงยังไม่ไหวเลยเดี๋ยวพี่ช่วย” มือของคนแปลกหน้าสอดเข้าไปที่เอวคอดของเธออย่างถือวิสาสะ ทำนิศราที่ไม่ทันตั้งตัวถูกดึงร่างเซไปหา

“นี่ทำอะไรนะ ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องพร้อมพยายามสะบัดตัวหนีออกจากมือใหญ่ แต่ไม่เป็นผลเพราะชายแปลกหน้ารัดเอวบางของเธอไว้แน่น แถมไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือจากเธอด้วย

“จะดิ้นทำไม พี่ก็กำลังจะช่วยน้องอยู่นี่ไง” ชายคนเดิมพูดพร้อมกลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอหมายจะฉกจูบ หญิงสาวที่มีสติเหลือน้อยนิด รีบใช้มือดันใบหน้าชายผู้นั้นให้ออกห่างทันที พร้อมกับพยายามดันตัวถอยหนี

“ว้าย.. ถอยไปนะ ออกไปเดี๋ยวนี้ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ” หญิงสาวร้องเสียงดังให้คนช่วยเมื่อชายตรงหน้าพยายามเข้ามาใกล้และทำมิดีมิร้ายเธอ

“เฮ้ย! ทำอะไรนะ ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มเอ่ยห้ามพร้อมกระชากไหล่ชายคนนั้นให้ออกจากตัวหญิงสาวทันที

ธีรวัฒน์เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ที่ไม่ได้เข้ามาช่วยตั้งแต่แรก เพราะนี่อาจเป็นความต้องการของเธอก็เป็นได้ในการหาเหยื่อ แต่เขาคิดผิดเมื่อสิ่งที่เห็น ไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เธอมีอาการขัดขืนไม่ยอมและกำลังจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาจึงรีบเดินเข้ามาช่วย

“อย่ามายุ่งเรื่องของผัวเมีย” ชายแปลกหน้าบอก

“ไม่ ไม่ใช่นะ” เธอปฏิเสธทันควันพยายามสะบัดตัวหนีแต่ไม่หลุด 

“ดูท่าแล้วคุณผู้หญิงจะไม่ได้คิดแบบคุณ งั้นผมคงต้องโทรแจ้งตำรวจก่อน” เขาขู่เสียงเรียบจริงจัง พร้อมกับดึงแขนเธอเข้ามาหาตัว อีกมือก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาตำรวจ ชายแปลกหน้าเห็นเช่นนั้น ก็รีบเดินหนีไปทันที

“ไม่ต้องโทรฉันไปแล้ว” พูดจบมันก็รีบเดินหายออกไปจากตรงนั้น

“ขอบ.. คุณค่ะ...” หญิงสาวที่ตอนนี้ยืนพิงที่อกกว้างของเขาอยู่ กล่าวขอบคุณโดยที่ยังไม่ทันเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ เมื่อพยายามหรี่ตามองเธอก็รู้สึกคุ้นหน้า

“เอ๊ะ คุณหน้าคุ้นจัง”

คำพูดชะงักเมื่อใบหน้าสวยเงยขึ้นพยายามหรี่ตาจ้องมองอย่างพินิจอีกครั้ง ใบหน้าคมของคนที่อยู่เบื้องหน้า จากภาพที่เบลออยู่เมื่อสักครู่ บัดนี้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาที่หรี่เล็กเมื่อครู่ กายเป็นเบิกโตกว้างขึ้นมาในทันที

ด้วยความตกใจก่อนจะอึ้งไปชั่วครู่ แล้วผลักหน้าอกเขาออกอย่างแรง แต่กลับเป็นตัวเธอเองที่เซถลาถอยหลังไป จนเขาต้องเดินเข้าไปคว้าเอวบางเข้ามาหาตัวอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะล้มไปกองที่พื้น

“นี่ปล่อยเลยนะ คุณมันคนนิสัยไม่ดี” พูดพร้อมกับพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากอกแกร่งของเขา 

“คุณพูดกับคนที่พึ่งช่วยคุณไว้ แบบนี้ได้ยังไง” ธีรวัฒน์ต่อว่าคนเมา

“คุณ..ไม่ใช่คุณ..แต่เป็น ไอ้ขยะเปียก คนเมื่อวาน คุณมันก็ไม่ต่างจากไอ้คนเมื่อกี้หรอก ฉวยโอกาสอยู่เนี่ย”

คนเมาต่อว่าด้วยสติอันน้อยนิดที่มี แต่ยังอุตส่าห์จำเขาได้เขายกยิ้มที่มุมปากอย่างเอ็นดู 

-นี่เธอว่าเขาเป็นขยะเปียกอย่างนั้นหรือ- เขาคิด

สายตาคู่คมจ้องมองใบหน้าสวยที่อยู่ตรงหน้าอย่างพินิจ เธอมีผิวพรรณที่เนียนใสละมุนอย่างกับผิวเด็ก ซึ่งน่าจะเป็นลูกของคนที่มีฐานะพอสมควร ไม่น่าจะใช่ลูกตาสีตาสาทั่วไป 

“ใช่! คุณเป็นขยะเปียกชนิดที่ไม่สามารถเอาไปรีไซเคิลได้ด้วย”

เสียงใสของคนเมาเอ่ยตอบกลับทันที พร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่หน้าอกเขา ให้รู้ไปเลยว่าเธอกำลังว่าเขาอยู่ ชายหนุ่มมองคนตัวเล็กด้วยแววตากรุ้มกริ่ม ที่แทบจะพยุงตัวเองไม่อยู่ด้วยซ้ำตอนนี้ทำเป็นปากเก่ง แถมจ้องเขาด้วยสายตาดุอย่างเอาเรื่อง

-เขาควรกลัวใช่มั้ย แล้วเธอตอบแทนคนที่ช่วยเธอแบบนี้อย่างนั้นหรือ- เขาคิดในใจโดยไม่ได้พูดออกไป

“ผมฉวยโอกาสคุณหรือ” เขาถามอีกครั้ง

“...” คนเมาไม่ตอบแต่พยักหน้า ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงปล่อยเอวบางให้เป็นอิสระ ให้เธอเซไปตามแรงโน้มถ่วงโลก ก่อนที่เขาจะยืดตัวเต็มความสูง ยกสองมือขึ้นมากอดอก จ้องมองคนเมาตรงหน้าที่อยากจะมีเรื่องกับเขาตอนนี้

“โอ๊ย คุณนี่มัน..” เธอร้องด้วยความเจ็บเมื่อเซจนสะโพกไปกระแทกกับผนังทางเดินอย่างแรง

“มันอะไร” เขาถามเธออีกครั้ง

“คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอถามเขาจริงจัง ยังไม่ทันได้คำตอบก็พูดต่อทันที “หรือจะมาขอโทษเรื่องเมื่อวาน หุหุ สายไปแล้ว” คนเมาบอกอย่างมาดมั่น

“เปล่า ผมมาช่วยคุณนะ เห็นสามีคุณจะปล้ำคุณเมื่อกี้”

“เขาไม่ใช่สามีฉัน นั่นนะ ใครก็ไม่รู้อย่ามากล่าวหากัน” เธอว่าเขาเข้าให้

“งั้นผมก็เป็นคน ที่มาช่วยคุณจากผู้ชายคนนั้น”

“อืม ใช่” คนเมาตอบตามความจริงและลืมไปว่ายังโกรธเขาเรื่องเมื่อวานอยู่

“ดังนั้น...คุณก็แค่ขอบคุณผมมา” 

คนตัวสูงโค้งตัวลงยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนเมา จนจมูกแทบจะชนกันก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปกระซิบที่ข้างหูของเธอ แล้วยิ้มมุมปากเล็ก ๆ อย่างคนที่ได้เปรียบ การกระทำนั้นของเขาทำเธอหน้าเห่อแดง ขนลุกไปทั้งตัวเลยทีเดียว 

“นี่พูดไกล ๆก็ได้ จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำไม” คนเมาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ โวยวายดันร่างใหญ่ออกแต่เขากลับไม่ขยับเลยสักนิด

“ว่าไง ผมรอฟังอยู่” คนตัวใหญ่บอกขณะที่ใบหน้ายังคลอเคลียอยู่ข้าง ๆใบหูเธอ

“ได้ ถ้าจะให้ฉันขอบคุณ นายต้องขอโทษฉันเรื่องเมื่อวันก่อน” คนเมายื่นข้อเสนอ

“เมื่อวานคุณก็สาดกาแฟใส่ผมคืนแล้วไง เราหายกันไปแล้ว คุณเป็นคนพูดเองจำไม่ได้หรือไง” คนตัวใหญ่ทวนความจำให้ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ามีทีท่าจะไม่ยอมพูดง่าย ๆ

“จำได้ใช่ฉันพูดเอง แต่ฉันก็ยังไม่หายโกรธนี่ ฉันต้องเดินตัวเหนียวตากฝนในสภาพนั้นทั้งวันเลยนายรู้มั้ย”

คนเมาเสียงหม่นลงเธอโกรธเขาจริง ๆ แต่ทำอะไรไม่ได้จึงเป็นความโกรธที่สะสมไว้ในใจรอการระบายออก

“แบบนี้ก็ได้เหรอ” เขาถามด้วยความหมั่นไส้ เมื่อคนที่เหมือนจะใจกล้าแต่พอเมาดันเล่าทุกอย่างออกมาหมด -เธอยังโกรธเขาอยู่จริง ๆสินะ- เขาคิด

“ได้สิแบบนี้แหละทำไมจะไม่ได้ ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว” คนเมาเริ่มพูดไม่รู้เรื่องพยายามดันร่างเขาออกให้พ้นทาง

“งั้นก็ช่างมัน ถือซะว่าผมช่วยลูกหมาตกทุกข์ได้ยากอยู่ก็แล้วกัน” เขายอมอ่อนลงให้เธอ ก่อนจะประชดกลับที่เธอว่าเขาเป็นขยะเปียก จากนั้นจึงดันไหล่คนเมาให้ยืนตัวตรงแผ่นหลังชิดผนัง

“ลูกหมาเหรอ ไอ้ขยะเปียกกล้ามาว่าฉันเป็นลูกหมาเหรอ ปล่อยเลย เอามือออกไปจากตัวฉันเลย ฉันไม่อยากคุยกับขยะเปียกแล้ว”

เธอเริ่มโวยวายเป็นเด็ก เมื่อรับไม่ได้ที่เขาเปรียบเธอเป็นลูกหมา ก่อนจะสะบัดตัวจนหลุดจากมือเขา เธอหมุนตัวจะเดินหนี แต่กลับถูกเขารั้งแขนไว้เสียก่อน

“เดี๋ยว”

“อะไรอีก” คนถูกรั้งทำท่าไม่พอใจแถมย่นจมูกใส่เป็นการขู่อีกต่างหาก

“คุณชื่ออะไร”

“ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย” ไม่มีคำตอบจากเธอ แถมหญิงสาวยังสะบัดแขนอย่างแรง จนแขนหลุดจากมือเขาก่อนจะเดินเซออกไปเลย

การที่ได้พูดคุยกับเธอตอนเมาในวันนี้ ทำให้อคติที่มีก่อนหน้านั้นแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นโดยทันที กิริยาของเธอเมื่อสักครู่มันช่างดูน่ารัก น่าเอ็นดูในสายตาเขาเหลือเกิน เธอไม่ใช่เด็กเสี่ยอย่างที่เขาคิดแน่นอน ทำเอาเขาต้องอมยิ้มกับตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ธีรวัฒน์มองตามหลังหญิงสาวจนเธอเดินลับสายตาไป แล้วสายตาก็หันไปเห็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่มองตามเธอไปเช่นกัน

'เหมือนเธอกำลังถูกสะกดรอยตาม' เขาคิดในใจและมองตามชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นเดินตามเธอไปอีกที

“ไปนานจังดาว”

“มีเรื่องนิดหน่อย ฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่ารู้สึกปวดหัว” นิศราบอกเพื่อน ๆ

“แล้วแกจะกลับยังไง”

“ฉันโทรให้พี่ดินมารับแล้ว อีกสักพักน่าจะถึง ฉันจะไปนั่งรอที่ล็อบบี้นะ รู้สึกหายใจไม่อิ่ม”

“แกเป็นอะไรมั้ยเนี่ยยัยดาว” เชอร์รี่ ถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนอาการไม่ค่อยดี

“ไม่ได้เป็นอะไรแค่ปวดหัวนิดหน่อย พวกแกสนุกต่อเถอะ”  พูดจบคนเมาก็เดินออกไปนอกร้านทันทีปล่อยให้เพื่อน ๆ ยืนงงว่าเกิดอะไรขึ้น

“เดี๋ยวดาวงั้นพวกเราก็กลับพร้อมกันหมดเนี่ยแหละ จะทิ้งให้แกกลับคนเดียวได้ไง แล้วค่อยนัดกันมาใหม่วันหลัง พวกแกว่าไง” แพรใหม่หันไปถามความคิดเห็นเพื่อนคนอื่นต่อ

“ฉันเห็นด้วย ดูท่ายัยดาวน่าจะเมาหนักด้วยเนี่ย” นุ่นเสริม

“งั้นเราไปรอพี่ดินข้างล่างเป็นเพื่อนยัยดาวแล้วกัน”

แล้วทุกคนก็ลงไปนั่งรอนคินทร์ที่ล็อบบี้เป็นเพื่อนนิศรา ไม่นานชายหนุ่มก็มา จากนั้นทุกคนจึงพากันแยกย้ายกลับบ้าน ตลอดเวลาที่ทุกคนอยู่ที่ล็อบบี้ ไม่มีใครรู้เลยว่ามีสายตาของชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง เฝ้ามองทุกความเคลื่อนไหวของพวกเธออยู่

“ไม่มีโอกาสเลยครับนาย มีพวกเพื่อนของมันอยู่ด้วยตลอดเวลา” เสียงชายฉกรรจ์คนหนึ่งเอ่ยผ่านโทรศัพท์เพื่อแจ้งคนที่อยู่ปลายสาย

“ตามมันไป มีโอกาสเมื่อไหร่จับตัวมันมาให้ได้” เสียงหนักแน่นของคนปลายสายออกคำสั่งทิ้งท้ายก่อนกดวางสายไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 50 ลาอีกครั้ง

    เช้าวันต่อมาประภาสเดินทางมาเยี่ยมเพื่อนเก่า ที่ไม่ได้เจอกันมานานเป็นสิบปี พร้อมนคินทร์ทั้งสองสอบถามสารทุกข์สุกดิบกันพูดคุยอัปเดตชีวิตในช่วงที่ไม่ได้ติดต่อกัน รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของลูก ๆ ช่วงที่ผ่านมาอย่างสนุกสนานทั้งรุ่นพ่อและรุ่นลูก“พวกเรามันแก่แล้ว จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ สิ่งที่ทำให้อยู่ต่อได้ก็คือเห็นลูก ๆ มีความสุขไม่มีเรื่องทุกข์ใจนั่นแหละ” ประภาสว่า“อืม เห็นพวกเขาเติบโตมีงานการที่ดีทำ พ่ออย่างเราก็สบายใจนอนตายตาหลับแล้ว”“ถ้าเจ้าโจกลับไปทำงาน แล้วแกเหงาไม่มีเพื่อนก็มาอยู่ด้วยกันก็ได้นะ ต่อไปยัยดาวก็ต้องออกเรือน ฉันก็ต้องอยู่คนเดียวเหมือนกัน”“ฮ่า ๆ แบบนั้นก็ดีนะไม่เหงาดีด้วย แต่ฉันยังมีหลาน ๆทางโน้นไม่มีเวลาเหงาหรอก ถ้าจะให้มาอยู่กับแก ก็คงต้องคิดถึงหลานทางนั้นจนไม่เป็นอันทำอะไรเป็นแน่”“ก็ถ้าเหงาไง ให้มาอยู่ด้วยกัน”“ฮ่า ๆ ไอ้เรื่องอยู่ด้วยกันไม่ใช่ปัญหาหรอก ปัญหาคือ ตอนนี้แกน่าจะเหงานะเพื่อน ให้หนูดาวหรือตาดินรีบแต่งานสิ จะได้มีหลานมาวิ่

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 49 Goodnight Kiss

    สามชั่วโมงที่นิศราหายออกจากห้องไป และไม่ได้กลับเข้ามาอีกเลย โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ ทำให้ธีรวัฒน์หงุดหงิดใส่ทุกคนเป็นการระบายอารมณ์ ไม่เคยมีใครปล่อยให้เขารอนานขนาดนี้มาก่อนเธอเป็นคนแรกที่กล้าทำแบบนี้กับเขา แถมไปไม่บอกไม่อธิบายอะไรเลย เขาไม่พอใจเธอมากภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะหายไป หญิงสาวเดินจับมือชายอื่นต่อหน้าต่อตาเขาออกจากห้องไป ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขาอยู่เลยตอนนี้เขานอนไม่เป็นสุข นั่งก็ไม่เป็นสุข ต้องลุกเดินไปมา นคินทร์ก็ไม่ได้บอกเพื่อนว่าหญิงสาวอยู่เพียงห้องข้าง ๆ เท่านั้นเอง แต่หากเขารู้ว่าเธออยู่ห้องข้าง ๆมีหวังได้เดินไปอาละวาดพาตัวน้องสาวเขากลับมาเป็นแน่นคินทร์เอาแต่นั่งยิ้มอย่างสะใจ มองคนป่วยวุ่นวายหัวใจเดินวนไปวนมาภายในห้องอย่างอารมณ์ดี“มึงหยุดเดินก่อนได้มั้ยว่ะไอ้ธีร์ กูเวียนหัว” เมื่อเห็นเพื่อนเดินไม่หยุดก็อดรำคาญไม่ได้“มึงไม่เห็น ดาวจับมือไอ้ผู้ชายคนนั้น เดินออกไปเลยนะเว้ยต่อหน้ากู จะให้กูนอนเฉย ๆได้ยังไง” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“มึงอะ คิดมากเกินไปเขาบอกเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อนสิวะ มึงพูดแบบนี้แสดงว่า

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 48 คนขี้งอล

    ไม่เพียงแต่ชายหนุ่มที่นั่งหน้าตึงรอเธอกลับเข้าไป แต่บอดี้การ์ดที่อยู่หน้าห้องก็ยืนมองทั้งสองคุยกันอย่างออกรส ใจก็ลุ้นให้นิศรารีบกลับเข้าไปในห้องโดยเร็ว เพราะพวกเขาก็ถูกคนในห้องกดดันมาให้รีบพาเธอเข้าไปแต่ก็ไม่มีใครกล้าแทรกกลางบทสนทนาของทั้งคู่ ที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ต่างเกี่ยงกันจนมีชายหนึ่งคนถูกเพื่อนผลักออกมาด้านหน้า ทำให้หญิงสาวหันไปมองและต้องสงสัยกับท่าทีที่แปลกไปของพวกเขา“มีอะไรหรือเปล่าคะ” นิศราหยุดการสนทนาลงแล้วหันไปถามด้วยความสงสัย“เอ่อ คือเจ้านายรอคุณดาวอยู่ด้านในครับ” บอดี้การ์ดคนหนึ่งบอกเมื่อได้โอกาสที่เพื่อนทั้งสองสร้างให้ ด้วยสีหน้าสำนึกผิดที่เสียมารยาทต่อเธอ“ค่ะ ดาวกำลังจะเข้าไปพอดี”เธอบอกอย่างอ่อนโยน บอดี้การ์ดหนุ่มจึงโค้งศีรษะรับอย่างสุภาพและโล่งใจที่หญิงสาวไม่ต่อว่า“โจงั้นเราเข้าไปข้างในก่อนนะ จะเข้าไปด้วยกันมั้ย” เธอหันมาถามเพื่อน“ยังดีกว่า เดี๋ยวเราจะไปคุยกับคุณหมอ เรื่องอาการของพ่อก่อน”“ถ้าอย่าง

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 47 เพื่อนเก่า

    เช้าวันที่สองของการอยู่โรงพยาบาลวันนี้นิศราตื่นเช้ากว่าคนป่วย จึงออกมาเดินสูดอากาศด้านนอก ปล่อยให้คนป่วยได้นอนหลับพักผ่อนยาว ๆขณะที่เดินเล่นมองนั่นมองนี่ไปเรื่อย ทำให้ไม่ทันระวังเดินชนเข้ากับใครบางคน“อุ๊ย..”“ ขอโทษครับเป็นอะไรหรือเปล่า”“ไม่เป็นอะไรค่ะ แล้วคุณละคะ...เอ๊ะ” นิศราชะงักเมื่อใบหน้าของชายตรงหน้าช่างดูคุ้นชินอย่างกับเธอเคยเห็นเขามาก่อน“ดาวว” ชายที่เดินชนเธอเมื่อสักครู่เป็นฝ่ายจำได้ก่อนโดยตะโกนเรียกชื่อเธอด้วยสีหน้าที่ดีใจ“โจ เหรอ” ทันทีที่ได้ยินเสียงเธอก็จำได้ สีหน้าดีใจไม่แพ้กัน“ใช่นะสิ โชคดีจังที่เจอที่นี่” ชายหนุ่มตอบด้วยความดีใจ คาดไม่ถึงว่าจะมาเจอเธอที่นี่ หลังจากไม่ได้เจอกันมาหลายปี“ฮ่าา โจจริง ๆด้วย กลับมาไทยตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอถามในขณะที่ทั้งสองสวมกอดกันด้วยความคิดถึง หลังไม่ได้เจอกันนาน ทั้งคู่เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน สนิทสนมเป็นเหมือนคนในครอบครัวกันเลย“พึ่งลงเครื่อ

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 46 คำสัญญา

    “ครับ ๆผมก็แค่ตอบคำถามเจ้านายเองนะครับ” พูดแล้วก็มองหน้าเจ้านายอีกครั้ง เมื่อเห็นสายตาที่แข็งกระด้างนั้นแล้ว เขาคิดว่าควรที่จะไปจากตรงนี้ก่อนเสียดีกว่า“ไม่แซวแล้วครับบบ ผมไม่กวนทั้งสองคนแล้ว” พูดจบก็เดินถอยออกมา ก่อนไปก็แวะกระซิบเตือนหญิงสาวเสียหน่อย แต่พูดเสียงดังตั้งใจให้คนถูกนินทาได้ยินด้วย“เจ้านายผมรุกเก่งนะครับ ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี”“ไอ้วิทย์” ธีรวัฒน์เรียกเสียงเข้มเป็นการเตือนครั้งสุดท้าย“ไปแล้วคร๊าบบบ”“ขอบคุณนะคะ ดาวจะระวังตัวให้มาก ๆ” นิศรารับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เลขาหนุ่มเป็นการลา“ถ้าอย่างนั้นผมฝากคุณดาวดูแลท่านด้วยนะครับ ผมจะให้บอดี้การ์ดอยู่เฝ้าหน้าห้องสองคน ขาดเหลืออะไรบอกพวกเขาได้เลย”“ค่ะ พี่วิทย์ไปพักเถอะ ดาวจะดูแลพี่ธีร์ให้เองสัญญาว่ายุงสักตัวก็จะไม่ให้มากัดเลย” เธอบอกเสียงใสจากนั้นวรวิทย์ก็กลับบ้านไปพักผ่อน เพราะตั้งแต่เมื่อคืนเขาเองก็ยังไม่ได้นอนเลย“แฟนพี่นี่ทั้งน่ารักและจิตใจดีจัง” ได

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 45 แฟน

    เย็นวันเดียวกันนิศราเดินทางกลับมายังโรงพยาบาล เพื่อเฝ้าไข้ชายหนุ่มอีกครั้ง เธอมาในเสื้อผ้าชุดใหม่พร้อมลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่มีเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว เตรียมมาสำหรับเฝ้าไข้คนป่วยอีกหลายวัน“นี่จะย้ายบ้านไปไหน ลากกระเป๋าใบใหญ่มาเชียว”นคินทร์แซวน้องสาวที่พึ่งเดินเข้ามาเขารู้ว่าเธอเตรียมมาเฝ้าไข้คนป่วย ที่ต้องรักษาตัวที่นี่อีกหลายวัน แต่ไม่จำเป็นต้องขนกระเป๋าใบใหญ่ขนาดนี้มาก็ได้ นี่เธอกะว่าจะไม่ห่างจากเขาเลยหรือเนี่ย“ไม่ได้จะไปไหนคะ เตรียมมาเฝ้าคนป่วยนี่แหละ”“กะจะไม่กลับบ้านเลยหรือไง คนป่วยก็มีหมอมีพยาบาลดูแลอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาลำบากอยู่เฝ้าเลย” นคินทร์ให้เหตุผล“ดาวไม่ได้ลำบากอะไร อีกอย่างคุณหมอและพยาบาลก็ไม่ได้อยู่ดูแลตลอด24ชั่วโมงนี่คะ เกิดพี่ธีร์เป็นอะไรระหว่างที่พยาบาลไม่อยู่ขึ้นมาจะทำยังไง”“หรา”“ใช่ค่ะ อีกอย่างจะต้องเทียวไปเทียวมาให้เสียเวลาทำไม”นิศราอธิบายเพิ่ม“แล้วไม่ต้องไปทำงานหรือไงเรานะ” นคินทร์ยังพยา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status