“เอยไปเข้าห้องน้ำนะ” หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อเห็นคุณอมรเดินมาทางนี้
“อย่าเสียมารยาทสิเอย” คิมหันต์ดุเมื่อเห็นอรอมลทำตัวไม่ต่างจากเด็ก
“เอยไม่จำเป็นต้องมีมารยาทกับเขา ถ้าคิมยังอยากจะคุยกับเอยก็อย่าห้าม เอยไม่ชอบพวกเขา”
“เอย...นั่นคุณพ่อกับน้องนะครับ”
“ถ้าคิมยังพูดแบบนี้อีก เอยจะโกรธจริงๆแล้วนะ จำไม่ได้แล้วเหรอว่าพวกเขาทำอะไรไว้กับเอยบ้าง เอยไปนะ” พูดจบร่างบางก็สะบัดหน้าหนีพร้อมกับก้าวออกไปอย่างเร็ว เมื่อคุณอมรกับอรอุมาใกล้จะมาถึง
“เอย! เอย...” คิมหันต์เรียกหญิงสาวเอาไว้แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่ออรอมลหอบกระโปรงยาวกรอมเท้าจ้ำอ้าวออกไปแล้ว เห็นเพียงแผ่นหลังขาวเนียนที่หายไปกับทางเดินของโรงแรม
“เอาไงล่ะทีนี้” ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง เมื่อคุณอมรมายืนตรงหน้าพร้อมกับลูกสาวสุดที่รัก ที่กำลังมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า คิมหันต์ไม่ชอบการมองของอรอุมา แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้
“สวัสดีครับคุณลุง” คิมหันต์ทำความเคารพ แต่คุณอมรทำแค่เพียงพยักหน้ารับ
“ยายเอยไปไหน” ถามด้วยน้ำเสียงห้วนจัด เพื่อต้องการกลบเกลื่อนความอับอายที่เกิดขึ้น ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอรอมลจงใจหนีเขา
“ไปห้องน้ำครับ” ตอบไม่เต็มเสียงนัก
“มาด้วยกันหรือเปล่า” คำถามของคุณอมรทำให้คิมหันต์ลอบถอนหายใจ
“เปล่าครับ เอยขับรถมาเอง”
“ก็ดี”
“ไปกันเถอะค่ะคุณพ่อ อายไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ”
อรอุมาดึงแขนคนเป็นพ่อ เพราะอยากไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
เธอรู้ว่าคิมหันต์ไม่ชอบหน้าเธอ เธอเองก็ไม่ชอบหน้าเขา
“ถ้ายายเอยกลับมา บอกให้ไปพบฉันด้วยนะ”
“ครับ” คิมหันต์รับคำ คำสั่งของคุณอมรเขาบอกอรอมลได้ แต่เธอจะทำตามหรือเปล่านั่นก็แล้วแต่เธอ ไม่แปลกที่อรอมลไม่ชอบครอบครัวนี้ เพราะดูแล้วแต่ละคนก็ไม่ได้อยากนับญาติกับเธอสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะน้องสาว ดูยังไงก็เหมือนคนที่ไม่ถูกกันเสียมากกว่า
ร่างบางยืนพิงประตูห้องน้ำ เมื่อจัดการธุระเสร็จเธอยังไม่อยากออกไปตอนนี้ เพราะไม่อยากเจอกับคุณอมร พักหลังๆอาการของคุณพรรณีย์ก็เริ่มเปลี่ยนไป ป้าพูดเรื่องงานในบริษัทมากขึ้น เหมือนจะบอกทางอ้อมว่าให้เธอเข้าไปทำงานที่นั่น ทั้งๆที่เมื่อก่อนป้าจะไม่พูดเรื่องคุณอมรกับเธอเลย เพราะรู้ว่าเธอไม่อยากได้ยินเรื่องของพ่อ ร่างบางถอนหายใจยังไงเขาก็เป็นพี่น้องกัน หลานอย่างเธอหรือจะมาสู้น้องที่คลานตามกันมาได้ ป้าก็ต้องเข้าข้างพ่อเสมอ
แกร๊ก!!!
เสียงเปิดและปิดประตู ทำให้อรอมลตื่นจากภวังค์ความคิด หญิงสาวสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะต้องตัวชาเมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านนอก
“อื้ม...อย่าใจร้อนสิคะ อ่า...อย่าค่ะตรงนั้นมันเสียวมาก”มยุรีร้องห้ามเมื่อมือหนาตะโบมลูบไล้เนินสามเหลี่ยมชื้นแฉะภายใต้จีสตริงตัวบาง พร้อมกับบีบขยำมันอย่างแรง
“คุณพร้อมแล้วทูนหัว” มือแกร่งหยิบเชือกเส้นเล็กออกไปให้พ้นทาง
“แต่นี่มันห้องน้ำนะคะ ถ้าใครมาเห็นเข้าลี่อายตายเลย”
“หึๆ” ไม่มีเสียงตอบมีเพียงตาคมเข้มที่มองคนตรงหน้าด้วยความสมเพช ปากร้องห้ามแต่ช่วงล่างถ่างอ้ารอให้เขาเติมเต็ม ไหนจะท่อนบนนั่นอีกที่พยายามดึงรั้งเพื่อให้เขาสัมผัสเธอได้อย่างถนัด ชุดราตรียาวรุ่มร่ามถูกตลบขึ้นด้วยฝีมือเจ้าหล่อน โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลยสักนิด เขาเจอมยุรีที่หน้าห้องน้ำ และก็เป็นอย่างที่เห็น ทันทีที่หล่อนเห็นเขาก็แสดงท่าทางเชื้อเชิญจนเกินงาม ในที่สุดเขาก็ถูกลากเข้ามาในนี้ ตาคู่คมมองสำรวจไปทั่ว แล้วไปหยุดที่ชายกระโปรงสีชมพูอมม่วง ที่ยาวเลยช่องว่างของบานประตูออกมา มุมปากหยักยกยิ้ม ก่อนจะหยุดมือที่กำลังวุ่นวายกับซิปกางเกงของเขาเอาไว้
“ทำไมคะ!” มยุรีร้องถามด้วยความงุนงง เมื่อมือหนาจับยึดมือของเธอเอาไว้ ไม่มีคำตอบมีเพียงสายตาที่มองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท มยุรีใจเสียหม้ายสาวรีบลุกขึ้นแล้วจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง เมื่อรู้ว่ามีคนอื่นอยู่ในนี้ด้วย
“คุณออกไปก่อนนะ เดี๋ยวผมตามออกไป” กระซิบชิดใบหูหม้ายสาวร้อนสวาท เมื่อมีเรื่องที่สนุกกว่าให้เขาทำ
“แล้วคืนนี้” มยุรียังลังเลเพราะยังเสียดายไม่หายอีกนิดเดียวก็จะได้เขาสมใจ
“แล้วผมจะโทรหา” อัคนีตัดบทเมื่อเธอยังลังเล
“จริงๆนะคะ คุณไม่ได้หรอกลี่นะคะ ลี่ต้องการคุณ” มยุรีถามอย่างมีหวัง หลายครั้งที่อัคนีพูดแบบนี้แต่สุดท้ายเขาก็เงียบไป นึกแล้วก็โมโหใครกันนะที่บังอาจมาเป็นมารความสุขของเธอ
“ออกไปได้แล้ว” อัคนีกดเสียงต่ำเมื่อมยุรีพูดไม่รู้เรื่อง ตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่กระโปรงผ้าเนื้อบาง ที่ไหวไปตามแรงลม
“ก็ได้ค่ะ ลี่จะรอนะคะ” พูดจบมยุรีก็จูบที่แก้มสาก ก่อนจะเดินออกไป อัคนีมองตัวเองในกระจกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่เสียดายเลยสักนิดที่ไล่มยุรีออกไป เพราะมีใครอีกคนที่น่าสนใจกว่ารอเขาอยู่ในนั้น ร่างสูงเดินไปที่ประตู มือแกร่งเอื้อมไปกดล็อกมันเอาไว้
คลิ๊ก!!!
คนที่อยู่ในห้องน้ำตัวชาตกใจจนเหงื่อตก เมื่อได้ยินเสียงล็อกประตู เกิดอะไรขึ้นเธอคิดว่าสองคนนั่นออกไปกันแล้ว มือบางยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียง จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเธออยู่ในนี้ โมโหตัวเองที่สุดที่ทิ้งมือถือไว้ที่โต๊ะ ไม่อย่างนั้นคงโทรให้ใครมาช่วยพาออกไป ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูหนักๆถึงสองทีซ้อน
ก๊อก~ก๊อก~
ทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงหันมามองเป็นตาเดียว เมื่ออัคนีพาอรอมลเข้ามาในงาน หญิงสาวรู้สึกประหม่า เมื่อถูกจับตามอง ดีที่ได้มือใหญ่กุมมือเธอเอาไว้ จึงรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายมากขึ้น เธอเคยไปงานแบบนี้หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ขนาดนี้มาก่อน เพราะครั้งนี้เธอมาในฐานะภรรยาของอัคนี "คุณอัคนี่ร้ายไม่เบานะครับ ทำสาวๆเกือบทั้งประเทศอกหัก แอบซุกภรรยาไว้ก็ไม่บอก นี่ถ้ายายแพรผมรู้คงเสียใจน่าดู"คุณประสานหยอกล้อ เมื่ออัคนีพาอรอมลมาแนะนำให้รู้จักในฐานะภรรยา ชายสูงวัยมองหนุ่มรุ่นน้องด้วยสายตาที่บ่งบอกความเสียดายอย่างปิดไว้ไม่มิด อรอมลไหว้ผู้ใหญ่ด้วยท่าทางนอบน้อมสวยงาม ทำให้ได้รับคำชมและเป็นที่เอ็นดูของคนที่พบเห็น หลายครั้งที่อัคนีหัวเราะออกมา เมื่อถูกแซวเรื่องอายุอรอมลก็พลอยเขินไปกับเขาด้วย เมื่อแขกในงานเปรียบเขาว่าเป็นโคแก่ อัคนีอายุเท่าไหร่กันนะ เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยเพราะเขายังดูหนุ่มแน่นและหล่อเหลา จนหาตัวจับยาก "หิวไหม" หันมากระซิบถาม เมื่อเขาพาเธอมายืนตรงนี้นานเกินไป คนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจ เมื่อคุยแล้วก็คุยยาว และเรื่องที่คุยเธอก็ฟังไม่รู้เรื่อง เขา
"อย่าช้านะครับ จิตใจผู้หญิงลึกยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทรอีกนะครับ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเธอคิดอะไรกับเรา" "อย่าเอาเมียคุณมาเป็นบรรทัดฐาน ผู้หญิงคงไม่ร้ายเหมือนเมียคุณทุกคนหรอก ไปเตรียมเอกสารเถอะ บางที่ผมอาจต้องยอมแลก" "รักเขาใช่ไหมครับ" "อย่าสู่รู้" พูดจบร่างสูงก็เดินออกไป ทิ้งให้ภาณุยืนยิ้มอยู่คนเดียว ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลกับหัวใจของอัคนีจริงๆ เอกสารที่อัคนีพูดถึงคงไม่พ้นอมรพันธ์ "ขอให้ทันนะครับคุณอัค" ภาณุพูดเมื่อเห็นคุณอมรเดินเข้ามาในโรงแรมพร้อมท่านประกิจ ถ้าอรอมลรู้ว่าถูกอัคนีหลอกคงจะเสียใจน่าดู "คุณอัค" เสียงงัวเงียของคนที่ถูกกวน ทำให้อัคนียิ้มเอ็นดู ทันทีที่เห็นหน้าเธอความเหนื่อยล้า ก็หายเป็นปลิดทิ้ง หลังจากที่คุยกับภาณุ อัคนีก็ได้คำตอบว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือ คนที่นอนอยู่บนเตียงนี่ต่างหาก คุณอมรจะเอาอมรพันธ์ไปทำอะไรก็เรื่องของเขา เพราะอรอมลมีค่ามากกว่าสิ่งของใด เขารักเธอนี่คือสิ่งที่อัคนีรับรู้ในตอนนี้ "คุณอัคขาาา..." คนหลับขยับเข้าหาทันทีที่เขาล้มตัวลงนอนบนเตียง แขนเรียวกอดเอวเขาเอาไว้ อรอมลละเมอหรือรู้ส
"ขอตรงนี้ยกหนึ่งนะครับ ผมอยากให้โลกรู้ว่าเอยมีความสุขแค่ไหน ตอนที่ผมอยู่ในตัวคุณ" ปากร้อนประกบลงมาบนปากอิ่ม เมื่อกายแกร่งค่อยๆ ชำแรกเข้ามาจากทางด้านหลังมือแกร่งยกขาเรียวขึ้นหนึ่งข้าง ดอกไม้งามแบะอ้าเปิดทางให้เขาแทรกลำรักเข้ามาได้สะดวกขึ้น แม้จะยังรู้สึกเจ็บขัดและคับตึงแต่น้ำรักที่ไหลลงมาก็มีปริมาณมากพอ ที่ช่วยเบิกทางให้มันเข้าออกได้ง่ายขึ้น อรอมลกัดปากใบหน้าด้านข้างแนบไปกับกระจก ยามเมื่อคนข้างหลังอัดกระแทกลำรักเข้ามาจนสุดโคน "โอว...เอยเสียวสุดๆ เลยครับ" อัคนีครางยาวเมื่อพาตัวต้นเข้ามาจนสุดทาง ภายในอ่อนนุ่มบีบรัดจนเขาแทบจะทนไม่ไหว สะโพกสอบขยับเข้าออกตอกลึก อัดกระแทกใส่ร่องรักเมื่อความเสียวเข้าเล่นงาน เธอสดใหม่และฟิตกระชับ ให้กินทั้งวันก็ไม่มีวันเบื่อ ไม่นานหญิงสาวก็กระตุกเกร็ง เมื่อเขาส่งเธอไปถึงฝั่งฝัน อัคนีอยากจะเล่นรักกับเธอให้หนำใจ แต่เมื่อนึกถึงงานที่รออยู่ก็ต้องตัดใจ ลงไปเคลียร์ให้มันจบๆ จะได้กลับมาหาเธอไวๆ นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าอรอมลอีกแล้ว เขาอยากอยู่กับเธอมากที่สุด "อ่า...เอยครับผมจะเสร็จแล้ว" เปล่งเสียงครางเมื่อเดินทางไปถึงฝั่งฝัน ร่างสูงกระตุกเ
อรอมลมองกระเป๋าผ้าหลายใบที่ถูกขนขึ้นรถ หลังจากที่อัคนีมีคำสั่งให้เธอเตรียมตัว เด็กรับใช้ก็ขึ้นมาจัดของให้อย่างรู้งาน ป้าละออมาทำแผลให้ นางดีใจที่เห็นมันแห้งและเริ่มหายสนิท "เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะคะคุณเอย" ป้าละอออวยพรเมื่อมาส่งเธอขึ้นรถ อรอมลทำแค่เพียงยิ้มให้นางเพราะไม่รู้ว่าอัคนีพาเธอไปด้วยทำไม ถึงแม้ป้าละออจะบอกว่าเขาพาเธอไปฮันนีมูน แต่อรอมลคิดว่าไม่ใช่ บางทีเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับพ่อเธอและอมรพันธ์ก็ได้ ผู้ชายที่เวลาเป็นเงินเป็นทองอย่างเขา คงไม่มาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้หรอก หญิงสาวนั่งคู่กับเขาที่ห้องผู้โดยสารด้านหลัง ระหว่างทางอัคนีอ่านอะไรบางอย่างในมือถือ ก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า เมื่อเห็นคนที่นั่งข้างๆโงนเงนไปมา มือแกร่งจับคนตัวเล็กนอนลงบนตักเมื่อเธอทำท่าจะนั่งหลับ "คุณ..." อรอมลตกใจเมื่อเขาโน้มตัวเธอลงมา "ง่วงก็นอน" เสียงนุ่มทุ้มบอกกับหญิงสาว "เราจะไปไหนกันคะ" ถามเมื่ออยากรู้จุดหมายปลายทางของตัวเองสักนิด "จะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศน่ะ" คำตอบที่มาพร้อมกับลูกตาวาวๆทำให้อรอมลหน้าร้อนผ่าว "นอนเถอะ
"โธ่โว้ย!" คิมหันต์ฟาดผ่ามือลงกับกระโปรงรถ เมื่อไม่ได้ดังใจสักอย่าง สิ่งที่ริสาพูดมาคืออะไร อรอมลเสียสละตัวเองเพื่อเขาและครอบครัว เธอยอมไปอยู่กับอัคนีเพื่อแลกกับอนาคตเขาที่โรงพยาบาล เพื่อให้เขาได้ทำงานที่นั่นอย่างนั้นหรือ "ทำไมโง่อย่างนี้นะเอย ทำไมไม่พูดกับผมทำไม! ทำไม!"เท้าหนาเตะลงที่ล้อรถรัวๆ เมื่ออยากทำร้ายใครสักคน "อย่าให้กูเจอนะมึง ไอ้อัคนี!!!" คำรามลั่นก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็วสูง ถึงแม้จะไม่รู้ว่าจะไปตามหาอรอมลที่ไหน แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย.............................................................................................. คนที่เป็นสาเหตุทำให้คิมหันต์ว้าวุ่นใจ กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของอัคนี แขนเล็กพาดอยู่ที่อกแกร่ง ขาเรียวสวยก่ายอยู่กับช่วงขาของชายหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาหอมแก้มเนียนใสฟอดใหญ่ เมื่อตื่นมาเห็นเธอขดอยู่ในอก มือแกร่งเก็บผมที่ร่วงลงมาปิดหน้าออกไปให้พ้นทาง แล้วหอมซ้ำลงมาอีกครั้ง คนหลับขยับตัวเมื่อรู้สึกจักจี้ยามเมื่อไรหนวดสัมผัสกับแก้มเนียน "อื้อ..."ซุกหน้าเข้าหาอกกว้างเมื่อถูกกวน อัคนีอมยิ้ม
เพียะ! เพียะ!ฝ่ามือหนักๆฟาดลงบนใบหน้าหมอหนุ่มถึงสองที่ซ้อน เมื่อริสาตั้งใจเอาเลือดปากเขาออก หลังจากไปส่งอรอุมาที่ผับตามคำขอ ริสาก็กลับมาเล่นงานเพื่อนทันที หมอหนุ่มยืนนิ่งไม่โต้ตอบอะไรเพราะรู้ว่าตัวเองผิด "ทำแบบนี้ได้ยังไงวะคิม ทำไมไม่นึกถึงเอยบ้าง" ริสาว่าให้เมื่อโมโหจนเก็บอาการไม่อยู่ อันที่จริงเธออยากฆ่าเขาให้ตายเลยด้วยซ้ำ "ฟังผมอธิบายก่อนได้ไหม" คิมหันต์ถอนใจเมื่อถูกริสาด่าเอาๆ เธอกำลังเข้าใจเขาผิด "อธิบายอะไร ก็เห็นอยู่ว่าพาผู้หญิงมานอนที่นี่ แถมยังเป็นน้องของแฟนอีกต่างหาก ใจแกทำด้วยอะไรวะหมอ" "ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง แค่เรื่องเข้าใจผิดผมพายายนั่นมาจริง แต่ไม่ได้นอนด้วยกัน ไม่ได้เอากันเข้าใจไหววะ" "ใครมันจะไปเชื่อ" "ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ เฮ็งซวย!" พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วหันหลังเดินจากไป "หมอ! แกทำอะไรคิดถึงเอยมันบ้างสิ ที่มันทำแบบนี้ก็เพื่อแกนะ!" เท้าหนาหยุดชะงัก เมื่อริสาหลุดคำพูดนี้ออกมาคิมหันต์หันกลับมาจ้องหน้าริสาเขม็ง "พูดอะไรนะ เอยทำอะไรเพื่อใคร" กรามแกร่งขบเข้าหากัน มือทั้งสองข้างก็กำเอาไว้ เมื่