Share

บทที่ 5

Author: มาแล้วก็อยู่ต่อเถอะ
เมื่อกลับมาถึงตำหนักฝั่งตะวันตกของตนเอง เจียงหวนก็รู้สึกราวกับฟ้าจะถล่มลงมา การกลับมาจากการถวายตัวจอมปลอมครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีเลยแม้แต่น้อย

อวี๋ผินจ้องเล่นงานนางอย่างไม่ลดละก็เรื่องหนึ่ง ตอนนี้เจียกุ้ยเฟยก็จงเกลียดจงชังนางไปด้วยเช่นกัน ทั้งยังสั่งห้ามไม่ให้นางออกจากตำหนักจิ่นหวาอีก เช่นนี้ก็ยิ่งไม่มีทางนำของกินไปส่งให้ฝ่าบาทได้

คาดว่าพรุ่งนี้เช้าตรู่ คำสั่งลดตำแหน่งของนางคงมาถึงเป็นแน่

เสี่ยวเจารีบร้อนทายาบนใบหน้าให้เจียงหวน ก็เห็นสีหน้าของนางซีดขาวราวกับคนสิ้นหวังหมดอาลัยตายอยาก นางก็รู้ทันทีว่าสมองของตัวเองที่แม้แต่ละครวังหลังยังดูไม่เข้าใจ การเข้ามาพัวพันในวังหลังย่อมไม่มีผลดี!

“นายหญิงน้อยอย่ากลัวไปเลยเพคะ ท่านทำของกินไปอย่างสบายใจเถิด เดี๋ยวตอนค่ำบ่าวจะออกไปส่งให้ฝ่าบาทเอง บ่าวจะช่วยพาท่านไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทให้ได้ เพื่อจัดการอวี๋ผินที่ลงโทษคนตามอำเภอใจ!”

เสี่ยวเจายังคงทุบหน้าอกรับปากกับเจียงหวนอย่างหนักแน่น เจียงหวนค่อย ๆ ดึงมือนางไว้

“เสี่ยวเจา เจ้าไม่ต้องทำเรื่องพวกนี้หรอก สัญญากับข้า ต่อไปอย่าพูดกับพวกเขาอีก มีอะไรให้ข้าเป็นคนพูดเอง”

หากไม่ใช่เพราะเด็กโง่คนนี้เอ่ยปากข่มขู่ ไม่แน่ว่านางอาจจะโดนตบน้อยลงไปหนึ่งฉาดก็ได้ แต่เมื่อมองเห็นขอบตาที่แดงก่ำของเสี่ยวเจา เจียงหวนก็ไม่สามารถเอ่ยคำตำหนิออกมาได้แม้แต่คำเดียว

คงต้องโทษที่นางไร้ประโยชน์เอง หากนางมีตำแหน่งสูงส่ง มีอำนาจบาตรใหญ่ ต่อให้เสี่ยวเจาจะด่าทอใครข้างนอก ก็คงไม่มีใครกล้าว่าอะไร

...

ณ ตำหนักหย่างซิน

กองฎีกาที่สูงเป็นภูเขา ทำให้ฮั่วหลินที่ตอนแรกยังกระปรี้กระเปร่า บัดนี้กลับมีสายพระเนตรว่างเปล่า

ขนมดอกซิ่งสองสามชิ้นที่เจียงหวนยัดใส่มือให้เมื่อเช้าทรงเสวยหมดไปนานแล้ว พระกระยาหารเช้าคือข้าวเย็นชืดหนึ่งมื้อ กลางวันก็เป็นข้าวต้มขาวกับผักอีก มื้อค่ำก็คงหนีไม่พ้นอาหารเพื่อสุขภาพเหล่านี้

พอคิดว่าวันนี้ท้องของตนจะต้องทนทุกข์อีกครั้ง สีพระพักตร์ของฮั่วหลินก็ยิ่งดูย่ำแย่มากขึ้น

“จวงฉางไจ้ยังไม่มาหรือ?”

ฮั่วหลินเหลือบมองสีของท้องฟ้าข้างนอก ก็ใกล้จะถึงเวลาเสวยมื้อค่ำแล้ว เจียงหวนผู้นี้ช่างไม่มีไหวพริบเอาเสียเลย ป่านนี้แล้วยังไม่รู้จักเอาของกินมาส่งให้เขาอีก

หวังเต๋อกุ้ยที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “หากฝ่าบาททรงมีพระประสงค์จะพบจวงฉางไจ้ บ่าวไปตามนางมาให้ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง” ฮั่วหลินตอบด้วยสีพระพักตร์เย็นชา น้ำเสียงฟังดูน่าขนลุกยิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก

รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังเต๋อกุ้ยแข็งค้าง ไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ อีก ติดตามฝ่าบาทมานานขนาดนี้ เขายังคงเดาอารมณ์ไม่ถูกแม้แต่น้อย

เมื่อครู่ยังทรงคิดถึงคนอยู่เลย พออีกครู่ก็ไม่อยากพบเสียแล้ว

ฮั่วหลินทรงลูบพระอุทรของตนเองผ่านชุดคลุมมังกร รู้สึกว่าแม้แต่เรี่ยวแรงจะพิโรธก็ยังไม่มี ในยามนี้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าพระเนตรไม่ใช่ฎีกาอีกต่อไป แต่เป็นบัวลอยสีขาวนวลอันอวบอิ่มลูกแล้วลูกเล่า

น้ำสาโทเข้มข้น บัวลอยหวานสดชื่น หนึ่งถ้วยลงท้องรสชาติกลมกล่อมละมุนลิ้น

ให้ตายเถอะ คืนนี้ต้องสั่งลดตำแหน่งเจียงหวน!

“ฝ่าบาท อวี๋ผินมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ตอนนี้สีพระพักตร์ของฮั่วหลินดูไม่ดีนัก หวังเต๋อกุ้ยที่เข้าไปทูลรายงานยังรู้สึกหวาดหวั่นอยู่บ้าง

“ไล่นางไป”

หวังเต๋อกุ้ยกลืนน้ำลาย เอ่ยปากอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ อีกครั้ง “อวี๋ผินทูลว่า จวงฉางไจ้รู้สึกไม่สบาย วันนี้นางจึงมาส่งของแทนจวงฉางไจ้พ่ะย่ะค่ะ”

พระกรรณของฮั่วหลินกระดิกทันที ทรงวางพู่กันชาดลง แต่ยังคงทำสีพระพักตร์เย็นชาเช่นเดิม “ให้นางเข้ามา”

หวังเต๋อกุ้ยเผยรอยยิ้มออกมาทันที “ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ขณะที่หันหลังกลับไป หวังเต๋อกุ้ยก็แอบจดจำไว้ในใจเงียบ ๆ ว่า ตอนนี้จวงฉางไจ้คือผู้ที่ได้รับพระกรุณาเป็นอันดับหนึ่ง เพียงแค่เอ่ยชื่อของนางขึ้นมาก็ได้ผลดีเป็นพิเศษ!

“อวี๋ผิน ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ท่านเข้าไป”

ใบหน้าของอวี๋ผินแสดงความดีใจ ก่อนจะเรียกให้ชุ่ยอิงถือกล่องอาหารตามเข้าไปในตำหนักหย่างซิน

ก็แค่ส่งของกินมิใช่หรือ? ใครบอกว่ามีแต่เจียงหวนเท่านั้นที่ส่งได้? นางส่งก็เหมือนกัน!

ก่อนที่จะเข้าไป นางจัดเสื้อผ้าของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลัวว่าจะทำให้ฮั่วหลินไม่พอพระทัย

อย่างไรเสียเมื่อหนึ่งปีก่อน นางยังเป็นถึงอวี๋เฟย

ตอนนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนระอุ นางตั้งใจทำข้าวต้มมะระเพื่อดับร้อนถวายฝ่าบาท ส่งติดต่อกันหลายวัน แต่กลับไม่ได้รับความโปรดปรานใด ๆ ตรงกันข้าม กลับได้รับข่าวการลดตำแหน่งของนางลงมาเป็นอวี๋ผิน

ครั้งนี้ จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดอีกเด็ดขาด!

“ฝ่าบาท คืนนี้หม่อมฉันได้ต้มบัวลอย เมื่อคิดว่าพระองค์ทรงมีราชกิจมากมาย จึงรีบนำมาถวายทันทีเพคะ”

อวี๋ผินดัดเสียงจนอ่อนหวานเย้ายวน ฟังแล้วแทบจะทำให้อ่อนระทวย สายพระเนตรของฮั่วหลินเหม่อลอยไปชั่วขณะ ก่อนจะพยายามเบือนหนีจากกล่องอาหารนั้นอย่างสุดความสามารถ

บัวลอย!

บัวลอย!

“เชิญฝ่าบาทเสวยเพคะ”

ถ้วยใบเล็กถูกยื่นมาถึงพระหัตถ์ของฮั่วหลิน สายพระเนตรฉายแววผิดหวัง ในถ้วยมีแต่น้ำเป็นส่วนใหญ่ บัวลอยมีเพียงสี่ลูก ทั้งยังเล็กกว่าลูกตาเสียอีก

เจียงหวนเสียดายวัตถุดิบหรืออย่างไร?

บัวลอยของเมื่อวานยังใหญ่เกือบครึ่งกำปั้นเลยนี่นา

บัวลอยหนึ่งลูกเข้าพระโอษฐ์ พระขนงที่ขมวดแน่นของฮั่วหลินไม่ได้คลายลงเลยแม้แต่น้อย รสชาติไม่ใช่ ไม่เหมือนกับที่เจียงหวนส่งมาเมื่อวานเลยแม้แต่น้อย

แต่ถึงแม้จะไม่อร่อยเท่าที่ควร ฮั่วหลินที่กำลังหิวโซก็ยังคงอดทน แสร้งทำเป็นเสวยอย่างช้า ๆ จนหมด

“พอใช้ได้ เรายังมีราชกิจต้องจัดการ อวี๋ผินกลับไปก่อนเถิด”

อวี๋ผินประสานมือทั้งสองข้างที่สั่นเทาด้วยความตื่นเต้น จ้องมองฮั่วหลินด้วยสายตาที่ร้อนแรงจนแทบจะละลาย

“ฝ่าบาท ไม่ทราบว่าเมื่อวานนี้จวงฉางไจ้ทำให้ฝ่าบาททรงสบายพระทัยหรือไม่เพคะ นางเข้าวังมายังไม่นาน ฝีมือของหม่อมฉัน นางยังเรียนรู้ได้ไม่ถึงหนึ่งในสิบ หม่อมฉันได้เตรียมเรื่องน่าประหลาดใจบางอย่างไว้ที่ตำหนัก ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะ...”

ฮั่วหลินทรงฟังพลางใช้นิ้วพระหัตถ์หมุนเล่นบนฎีกาไปมา ที่แท้ฝีมือของเจียงหวน ก็เรียนมาจากอวี๋ผินหรอกหรือ?

เช่นนั้นบัวลอยถ้วยนี้ ก็จงใจทำมาเพื่อยั่วให้อยากแล้วจากไป?

“ได้ กลับไปรอเถิด”

แม้ว่าน้ำเสียงของฮั่วหลินจะไม่นุ่มนวล แต่ก็ยังทำให้อวี๋ผินดีใจจนเนื้อเต้น

ฟังจากความหมายของฝ่าบาทแล้ว คืนนี้จะเสด็จไปหาที่ตำหนักของนางหรือ?

หากไม่ติดว่าต้องรักษากิริยาในวัง อวี๋ผินคงอยากจะกระโดดโลดเต้นกลับตำหนักไปแล้ว คาดไม่ถึงว่าเจียงหวนจะเดาถูกว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานบัวลอย!

ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าแค่ส่งบัวลอยก็จะได้ถวายตัว ปีที่แล้วนางคงไม่ลำบากทำข้าวต้มมะระอะไรนั่น จนทำให้ต้องถูกลดตำแหน่ง!

“นายหญิงน้อย ฝ่าบาทเสด็จไปที่ตำหนักของอวี๋ผินแล้วเจ้าค่ะ”

เสี่ยวเจาทายาที่แก้มให้เจียงหวน พลางเบะปากเล็ก ๆ ด้วยความโมโห

“เขาจะไปไหนก็เรื่องของเขา เกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย”

เจียงหวนพูดอย่างไม่มีเรี่ยวแรง อวี๋ผินไปส่งของกินให้ฝ่าบาทแทนนาง ตอนค่ำก็ได้ถวายตัวอีก ไม่รู้ว่าต้องเตรียมอาหารเลิศรสจากทั่วทุกสารทิศไว้มากมายเพียงใด สนมคนโปรดคนใหม่อย่างนางคงเป็นได้แค่ดอกไม้ที่เบ่งบานชั่วครู่ พรุ่งนี้ก็คงไม่เห็นแสงตะวันแล้ว

มีเวลาไปอิจฉาอวี๋ผิน สู้เอาเวลามาคิดว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดีกว่า

“เสี่ยวเจา หม้อเหล็กที่ข้าเคยให้เจ้าไปซื้อ ซื้อกลับมาแล้วหรือยัง? ข้าหิวแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 386

    เจียงหวนเห็นท่าทางของเหอหลิงที่แปรเปลี่ยนจากเบิกบานใจเป็นทำตัวไม่ถูก จากนั้นก็มองไปที่ผ้าพันคอในมือของนาง อดกลั้นขำไม่ได้คราวที่แล้วนำยารักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกจากยุคปัจจุบันออกมายังไม่น่าหวาดเสียวพออีกหรือ?นึกไม่ถึงครั้งนี้จะทำผ้าพันคอมาให้อีก หรืออยากจะแสดงให้เห็นว่าข้าเป็นผู้นำแฟชั่นในยุคโบราณอย่างนั้นหรือภายนอก เจียงหวนพยายามรักษาสีหน้าให้ดูเป็นปกติ ไม่ได้คิดจะเปิดโปงนาง จึงแสร้งทำหน้าตาสงสัยในขณะที่จ้องมองผ้าพันคอผืนนั้น“ทำไมเล่า? เป็นของจากดินแดนตะวันตกอีกแล้วหรือ? ดูประณีตอย่างมากทีเดียว”นางกล่าว ซ้ำยังใช้นิ้วจิ้มไหมขนที่สัมผัสนุ่มนิ่มนั่นดูเหอหลิงมือสั่น เกือบขาอ่อนล้มลงไปกองบนพื้นพร้อมกับผ้าพันคอในมือแล้วนางรีบตอบคำอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “ทูล ทูลพระสนม นี่คือ… นี่คือสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่หม่อมฉันทำยามมีเวลาว่าง เรียก… เรียกว่าผ้าพันคอ! ใช่… เป็นงานฝีมือที่ได้รับความนิยมมาจากดินแดนตะวันตกเช่นกันเพคะ ฮ่าๆ…”[จบแล้วๆ พระสนมอุตส่าห์คิดพลิกแพลงไปเป็นอย่างอื่นได้ แต่ฉันยังทำผิดพลาดโง่ๆ อยู่อีก][ชื่อของมันจะทันสมัยเกินไปแล้ว พระสนมจะคิดว่าฉันกำลังแต่งเรื่องอยู่รึเปล่านะ?

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 385

    หัวหน้าขันทีตกใจตัวสั่น แทบจะมุดหน้าเข้าไปในพื้นแล้ว“ทูล ทูลไทเฮา บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ จวนอ๋องส่งข่าวมา บอกเพียงว่าจู่ๆ ม้าของจวิ๋นอ๋องก็คลุ้มคลั่งระหว่างทาง จวิ้นอ๋องถูกเหวี่ยงตกจากหลังม้า ขาขวา… ขาขวาหักในที่เกิดเหตุทันที หมอหลวงบอกว่าอาการสาหัสมาก…”“ไม่รู้? แค่บอกว่าไม่รู้คำเดียวก็คิดจะบิดพลิ้วให้ผ่านไปได้งั้นหรือ?”ไทเฮาตบโต๊ะอย่างแรง โต๊ะสั่นสะเทือนจนเครื่องชากระแทกกันเสียงดัง“เมื่อวานเพิ่งเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นในพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันนี้เขาก็ประสบเหตุร้ายเช่นนี้แล้ว มีเรื่องบังเอิญอย่างนี้เสียที่ไหน! ไปสืบมาเดี๋ยวนี้! ทั้งม้า อานม้า และทุกคนที่สัญจรผ่าน ห้ามปล่อยให้เล็ดลอดไปได้แม้แต่คนเดียว! ข้าอยากรู้นัก ว่าใครกันที่กินหัวใจหมีดีเสือเข้าไป จึงได้กล้าลงมือกับคนในตระกูลฮั่วเช่นนี้!”เพลิงโทสะในดวงตาของนางลุกโชน ในใจเริ่มมีเค้าร่างของผู้อยู่เบื้องหลังแล้วเมื่อวานฮั่วถิงมีเรื่องกับจวงเฟยและเหอหลิง วันนี้ก็ตกม้าจนบาดเจ็บสาหัสมิหนำซ้ำยังบาดเจ็บจุดเดียวกับจวงเฟยอีก นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนนี่เป็นฝีมือของฮั่วหลิน และเป็นคำเตือนสำหรับนางยิ่งคิด ไทเฮาก็ยิ่งบันดาล

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 384

    ประตูตำหนักถูกผลักเปิด ฮั่วหลินเดินเข้ามาเขาเห็นเจียงหวนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างด้วยใบหน้ากลัดกลุ้มตั้งแต่แวบแรกเจียงหวนสวมชุดนอนบางๆ เพียงชั้นเดียว เส้นผมเปียกชื้นแนบติดอยู่ที่ใบหน้าด้านข้าง ดูอ่อนโยนเปราะบางเป็นพิเศษเมื่ออยู่ภายใต้แสงจันทร์ ราวกับจะสามารถแตกสลายได้แม้เพียงสัมผัสเดียวหัวใจของฮั่วหลินบีบรัด ฝีเท้าแผ่วเบาลง ด้วยกลัวว่าจะรบกวนนางเข้า[เหตุใดจึงเหม่อลอยเช่นนั้น ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้งั้นหรือ?]ฮั่วหลินโบกมือ สั่งให้เสี่ยวเจาถอยออกไปส่วนตนเองก็ถอดเสื้อคลุมออก คลุมที่ไหล่ของนาง“กลางคืนหนาว เหตุใดไม่สวมเสื้อผ้าให้หนาหน่อยเล่า?”เขานั่งลงข้างกายเจียงหวน ดึงมือที่เย็นเฉียบของนางมากุมไว้ในฝ่ามืออุ่นๆ ของตนเองความคิดที่ล่องลอยของเจียงหวนถูกการกระทำนี้ดึงให้กลับมา สัมผัสอ่อนโยนจากฝ่ามือและอุณหภูมิอบอุ่นที่ห่อหุ้มรอบกาย ราวกับได้ขับไล่ความหวาดกลัวในจิตใจให้หายไปไม่น้อยนางเงยหน้ามองฮั่วหลินเงาร่างของนางสะท้อนอยู่ในดวงตาดำขลับของฮั่วหลิน ลึกล้ำชัดเจน“ไม่ต้องกลัว” เขากล่าวเสียงแผ่วเบา กระชับนิ้วมือให้แน่นขึ้น “มีข้าอยู่ ไม่มีใครกล้าทำร้ายเจ้า”[ตกม้าหนึ่

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 383

    [หืม? ความผิดปกติอะไร?]「วันนี้ที่นอกห้องผลัดอาภรณ์ ตอนที่ผมส่งเสียงเตือนภัยระดับสูง พระสนมจวงเฟยหลุดปากออกมาว่า ‘หุบปาก’ อ้างอิงจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในขณะนั้นแล้ว คำสั่งนั้นไม่เข้ากับบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์ ณ ตอนนั้นแม้แต่คนเดียว หลังจากรวมตัวกันนางได้ชี้นำเบาะแสหลักฐานอย่างแม่นยำ ผมสงสัยเป็นอย่างสูงว่าเจียงหวนอาจได้ยินบทสนทนาระหว่างผมกับคุณ」เหอหลิงตะลึงงัน ไม่นานก็รีบโต้แย้งทันที[นายจะบอกว่าพระสนมมีวิชาอ่านใจงั้นเหรอ อย่าเหลวไหลไปหน่อยเลยน่า][อีกอย่างถึงนางจะได้ยิน ก็ยิ่งถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ? นั่นหมายความว่าเรามีวาสนาต่อกัน]「โฮสต์ กรุณาตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาด้วยครับ หากเป้าหมายเจียงหยวนรับรู้ถึงการมีอยู่ของผมจริง แรงจูงใจและท่าทีที่มีต่อโฮสต์ อาจมีอันตรายแฝงอยู่」[อันตราย? อันตรายอะไร? พระสนมจะมีเจตนาร้ายอะไรได้? วันนี้นางทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยชีวิตฉันไว้เชียวนะ][หากไม่ได้พระสนมช่วยไว้ ตอนนี้ฉันคงเสียความบริสุทธิ์เสียชื่อเสียงไปแล้ว ไม่แน่อาจไม่เหลือรอดแม้แต่ชีวิตด้วยซ้ำ][ระบบ ฉันขอเตือนนายไว้ก่อนเลยนะ ห้ามใส่ร้ายพระสนมของฉัน แล้วก็ห้ามนายสงสัยพระสนมด้วย ได้ยินรึ

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 382

    เจียงหวนเห็นท่าทางสับสนมึนงงของนาง ก็รู้สึกอดขำไม่ได้การตอบสนองนี้ ช้าจนอ้อมโลกได้สองรอบครึ่งแล้วกระมังแต่ดูจากที่เปลี่ยนเรื่องพูดแล้ว แสดงว่าไม่เป็นไรแล้วจริงๆ“อืม” เจียงหวนรับคำ “ฝ่าบาทเพิ่งมีราชโองการแต่งตั้งให้เจ้าเป็นหลินกุ้ยผิน รับสั่งให้ย้ายเข้าอยู่ในตำหนักฉางชุนตะวันตก ภายหน้าเจ้าก็รักษาตัวอยู่ที่นี่อย่างวางใจเถอะ”“ฮือ ๆ ๆ ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยพระสนม”เหอหลิงหัวเราะทั้งน้ำตา นางกอดแขนของเจียงหวนไว้แน่น หากไม่ใช่ว่าอ่อนแรงไปทั้งตัว นางยังอยากคุกเข่าโขกหัวให้ด้วยซ้ำ“พระสนม พระสนมดีกับหม่อมฉันเหลือเกิน หม่อมฉัน… วันหน้าไม่ว่าสิ่งใดหม่อมฉันล้วนเชื่อฟังพระสนมเพคะ”เจียงหวนถูกนางกอดจนรู้สึกอึดอัด อยากดึงมือกลับ แต่กลับถูกกอดแน่นกว่าเดิมครั้นสัมผัสได้ถึงร่างกายของเหอหลิงที่สั่นเทาเล็กน้อย สุดท้ายนางจึงกอดตอบเบาๆเหมือนปลาหมึกน้อยขี้กลัวไม่มีผิดเลยกอดแน่นขนาดนี้ กระดูกแทบจะหักอยู่แล้วแต่เห็นแก่ที่นางเพิ่งผ่านเหตุการณ์ชวนขวัญหนีดีฝ่อมา ปล่อยให้กอดสักครู่ก็ได้ในขณะเดียวกัน เสียงรายงานของหวังเต๋อกุ้ยดังมาจากนอกตำหนัก“ฝ่าบาทเสด็จ!”ฮั่วหลินสะสางเรื่องราววุ่นวายใน

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 381

    [ฮั่วถิง! เจ้าปีศาจชั่วนั่น!] เหอหลิงจมอยู่ในความอัดอั้นตันใจและความหวาดผวาอย่างใหญ่หลวง น้ำตาเม็ดใหญ่ๆ พรั่งพรูไม่ขาดสาย“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” เจียงหวนเช็ดน้ำตาให้นาง พลางเอ่ยหยอกล้อจากนั้นก็ตักยาขึ้นมาหนึ่งช้อน เป่าให้หายร้อนเล็กน้อย ก่อนจะป้อนให้นาง “มีอะไรประเดี๋ยวค่อยว่ากัน ดื่มยาก่อนเถิด”เหอหลิงอ้าปากอย่างว่าง่าย ยาขมๆ ไหลลงคอ ทำให้นางอดขมวดคิ้วไม่ได้[ขมจัง][แต่พระสนมเป็นคนป้อน ต่อให้ขมอีกแค่ไหนก็กลายเป็นหวานแล้ว]นางดื่มยาทีละคำๆ ขณะที่น้ำตายังคงหลั่งไหลลงมาเป็นสาย ผสมเข้ากับยา ทั้งขมทั้งเค็มเจียงหวนเห็นท่าทางน่าสงสารของนาง ก็อดทอนถอนใจไม่ได้ร้องไห้จนหน้าลายเหมือนแมว น้ำหูน้ำตาไหลลงมาผสมกับยาแล้ว นี่คิดจะเพิ่ม ‘ประสิทธิภาพของยา’ หรืออย่างไรช่างเถิด อย่างไรก็ควรระบายออกมาบ้างหลังจากป้อนยาถ้วยหนึ่งหมดอย่างยากลำบาก สีหน้าของเหอหลิงคล้ายว่าดูดีขึ้นมาบ้างแล้ว ทว่าน้ำตายังคงไหลทะลักออกมาจนน่ากลัวนางมองเจียงหวน ริมฝีปากสั่นเทา คล้ายมีคำพูดในใจเป็นพันเป็นหมื่นคำ แต่กลับไม่รู้จะเริ่มจากตรงที่ใด“เอาล่ะๆ ร้องไห้จนตาบวมแล้ว เหมือนกบในอุทยานหลวงเลย”เจียงหวนวางถ้วยยาลง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status