เข้าสู่ระบบแม่ทัพหยางเจี้ยนไม่รอช้า สั่งให้เสี่ยวเอ๋อร์เดินทางกลับไปกับเขาที่ค่ายในทันที เขามองนางด้วยความพึงพอใจ ขณะที่นางเองก็มีแววตาเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นและเต็มใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่
นางไปพร้อมกับแม่ทัพโดยไม่มีสิ่งของติดตัว เสื้อผ้าที่เก่าและสกปรกถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เสี่ยวเอ๋อร์ไม่หันกลับไปมองข้าวของของตนอีกแม้แต่น้อย ชีวิตเดิมที่ลำบากและความสัมพันธ์ที่ไร้ซึ่งความสุขระหว่างนางกับสามีในตอนนี้กลายเป็นเพียงอดีตที่นางไม่ต้องการรื้อฟื้น
เมื่อแม่ทัพหยางเจี้ยนกลับมาถึงค่าย เขาได้พาเสี่ยวเอ๋อร์ สาวใช้คนใหม่ มาแนะนำให้ฮูหยินเหม่ยฟางรู้จัก ฮูหยินเหม่ยฟางยิ้มรับอย่างอ่อนโยนโดยไม่ได้แสดงท่าทีหึงหวงใดๆ ทั้งสิ้น นางรู้ดีว่าภายในใจของแม่ทัพ หยางเจี้ยนมีนางเป็นที่หนึ่งเสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับแม่ทัพนั้นมั่นคงเกินกว่าจะถูกสั่นคลอนโดยเรื่องเช่นนี้
ฮูหยินเหม่ยฟางรู้จักสามีของตนดี นางเข้าใจในความต้องการของเขา และรู้ว่าเสี่ยวเอ๋อร์นั้นเป็นเพียง “ของเล่น” ที่เขาอยากได้ไว้เพื่อปลดปล่อยอารมณ์เท่านั้น ด้วยความใจกว้างของฮูหยินเหม่ยฟาง นางจึงไม่ได้รู้สึกว่าการมีเสี่ยวเอ๋อร์เข้ามาเป็นภัยต่อตัวเอง แต่กลับยิ้มให้กับเสี่ยวเอ๋อร์ด้วยท่าทีที่เป็นมิตรและอบอุ่น
“ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยดูแลท่านแม่ทัพให้ดีนะ” ฮูหยินเหม่ยฟางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นางรู้ดีว่าการมีสาวใช้เพิ่มเข้ามาจะช่วยแบ่งเบาภาระของตน และในขณะเดียวกันก็ทำให้แม่ทัพมีความสุขมากยิ่งขึ้น
เสี่ยวเอ๋อร์ก้มศีรษะอย่างนอบน้อม รู้สึกขอบคุณในความเมตตาและความเข้าใจของฮูหยินเหม่ยฟาง นางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเมื่อเห็นว่าฮูหยินเหม่ยฟางไม่ถือโทษโกรธเคือง นางตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด เคียงข้างท่านแม่ทัพและทำทุกสิ่งตามที่ได้รับมอบหมาย
สำหรับแม่ทัพหยางเจี้ยน การได้เห็นทั้งสองสตรีในชีวิตของเขาอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจกันนั้นทำให้เขารู้สึกสบายใจและมีความสุขยิ่งขึ้น นี่คือชีวิตที่เขาปรารถนา
ภายในกระโจมที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความใกล้ชิด แม่ทัพหยางเจี้ยนก้มลงจูบริมฝีปากของฮูหยินเหม่ยฟางด้วยความเร่าร้อน จุมพิตนั้นเต็มไปด้วยความขอบคุณและความรักอันลึกซึ้ง เป็นรางวัลที่เขามอบให้กับนาง ผู้ที่เข้าใจเขาและยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น
ฮูหยินเหม่ยฟางยิ้มรับด้วยความอบอุ่น นางตอบรับจุมพิตของเขาอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ขณะที่ไฟแห่งความรักระหว่างทั้งสองพลุ่งพล่าน เสี่ยวเอ๋อร์ สาวใช้คนใหม่ ยืนอยู่ด้านข้าง มองภาพนี้ด้วยหัวใจที่รู้สึกเคารพและยินดีที่ได้เป็นพยานถึงความรักอันมั่นคงของนายหญิงและแม่ทัพ นางรู้สึกได้ว่าความรักและความเข้าใจระหว่างคนทั้งสองนั้นลึกซึ้งและจริงแท้
แม่ทัพหยางเจี้ยนโอบกอดฮูหยินไว้แนบแน่น ราวกับจะบอกเป็นนัยว่านางคือที่หนึ่งในใจเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะพบเจอใครหรือได้พานพบประสบการณ์ใด ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่เขามีต่อฮูหยินได้ เสี่ยวเอ๋อร์ได้แต่ยืนมองเงียบๆ รู้สึกปลื้มใจที่ได้เห็นถึงสายสัมพันธ์นี้ และพร้อมที่จะทำหน้าที่ของตนเพื่อรับใช้ทั้งแม่ทัพและฮูหยินด้วยความจงรักภักดี
“เจ้าไม่อายสาวใช้ของเจ้าเหรอ?” ฮูหยินเหม่ยฟางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีแววขบขัน แต่ภายในนั้นกลับมีความรู้สึกหวั่นไหวอยู่ลึกๆ
แม่ทัพหยางเจี้ยนตอบรับนางอย่างเร่าร้อน “จะอายไปทำไม คนกันเองทั้งนั้น” คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา
ริมฝีปากของเขาบดขยี้ริมฝีปากของนางหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม ความร้อนแรงในจุมพิตนั้นส่งผ่านความรักและความปรารถนาที่มีต่อกัน ฮูหยินเหม่ยฟางรู้สึกถึงแรงดึงดูดและความรักที่มีให้กันชัดเจนในขณะนี้ ขณะที่มือของแม่ทัพลูบไล้ไปตามเรือนร่างของนางอย่างนุ่มนวลแต่ก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
เสี่ยวเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รู้สึกถึงบรรยากาศอันเข้มข้นนี้ แม้จะเป็นผู้ดูแลหรือเป็นสาวใช้ นางกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นภายในกระโจมนี้ นางรับรู้ว่าความรักระหว่างแม่ทัพและฮูหยินนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม
แม่ทัพหยางเจี้ยนและฮูหยินเหม่ยฟางต่างปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกอย่างไม่เขินอายเมื่ออารมณ์แห่งความเร่าร้อนมาเยือน บรรยากาศภายในกระโจมเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความปรารถนาที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
แม่ทัพหยางเจี้ยนมองฮูหยินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นนางในสภาพที่ไร้ซึ่งเสื้อผ้า ร่างกายของนางนั้นงดงามและเย้ายวน ทั้งคู่รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่รุนแรงระหว่างกัน ขณะที่มือของเขาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามผิวเนียนของนาง
ฮูหยินเหม่ยฟางเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย นางตอบสนองต่อสัมผัสของแม่ทัพอย่างเต็มที่ และยิ้มให้เขาอย่างยั่วยวน
“คืนนี้เป็นของเรา” แม่ทัพพูดด้วยเสียงกระซิบที่มีความต้องการ แววตาของเขาจับจ้องไปที่นางอย่างหื่นกระหาย
“เจ้าเองก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออก” ฮูหยินเหม่ยฟางสั่งสาวใช้คนใหม่ด้วยน้ำเสียงที่มีอำนาจ และแฝงไปด้วยความเย้ายวนใจ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความปรารถนา เสี่ยวเอ๋อร์รู้สึกตื่นเต้นแต่ก็มีความรู้สึกเขินอายที่ผสมปนเปกัน
เมื่อเสี่ยวเอ๋อร์มองไปที่แม่ทัพหยางเจี้ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกถึงสายตาของเขาที่จับจ้องมาอย่างเต็มไปด้วยความสนใจ นางรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างแม่ทัพและฮูหยินนั้นมีความลึกซึ้ง และการที่นางเข้ามาในสถานการณ์นี้คือการเป็นส่วนหนึ่งของความรักอันลึกซึ้ง
เสี่ยวเอ๋อร์จึงค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออก เธอทำอย่างช้าๆ โดยไม่แสดงความลังเล จนในที่สุดร่างกายของนางก็เผยออกมาอย่างเต็มที่
การกระทำนี้ทำให้บรรยากาศภายในกระโจมเต็มไปด้วยความเข้มข้น ความรักและความปรารถนาที่พวกเขามีต่อกันเปล่งประกายออกมา ฮูหยินและแม่ทัพมองไปที่เสี่ยวเอ๋อร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความยินดี
“ดีมาก” ฮูหยินเหม่ยฟางกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน แต่ก็มีความเข้มข้นในนั้น ในขณะที่แม่ทัพหยางเจี้ยนเข้ามาใกล้ ทั้งสามคนจึงอยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักและความเร่าร้อน โดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น
แม่ทัพหยางเจี้ยนจ้องมองเรือนร่างของฮูหยินเหม่ยฟางและเสี่ยวเอ๋อร์ด้วยความพึงพอใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขและความปรารถนา ราวกับว่านี่คือภาพที่แสนจะงดงามที่สุดในโลก ความสวยงามและความมีเสน่ห์ของทั้งสองทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงยิ่งขึ้น
เสี่ยวเอ๋อร์เดินแนบชิดมาที่เรือนร่างของท่านแม่ทัพ ขณะที่ฮูหยินอยู่ข้างอีกด้านหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความรักที่ชัดเจน ความรู้สึกนี้นำพาให้แม่ทัพรู้สึกมีอำนาจและความเป็นชายในที่สุด
“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ” แม่ทัพกล่าวเสียงต่ำเต็มไปด้วยอารมณ์ เขายิ้มให้กับฮูหยินแล้วหันไปมองเสี่ยวเอ๋อร์ด้วยความหื่นกระหายราวกับว่าท่อนเนื้อของเขานั้นต้องการที่จะบดขยี้เรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของนางอีกครั้ง
ยิ่งตัวของแม่ทัพ หยางเจี้ยน เล่นสนุกกับเรือนร่างของฮองเฮาซ่งหลิงหรู มากขึ้นเท่าไหร่มันยังทำให้ความหื่นกระหายในกายสูบฉีดรุนแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้นท่านเนื้อของท่านแม่ทัพการเกิดแข็งตัวอย่างหน้าเหลือเชื่อจนมันแข็งผงาดชี้อยู่ที่เบื้องหน้าของนาง ฮองเฮาซ่งหลิงหรู จ้องมองท่อนเนื้อของท่านแม่ทัพที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางด้วยความหลงใหลความใหญ่ยาวของมันนั้นล้วนเหนือกว่าฮ่องเต้ หลงเซวียน เป็นเท่าตัวนางถึงกับลอบกลืนน้ำลายตัวเองลงคอไปอึกใหญ่ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานี้นั้นตัวของนางนั้นจะเป็นนางร่านจริงๆ เพียงแค่เห็นท่อนเนื้อที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางก็ทำให้ตัวของนางนั้นขุนลุกขนชันไปทั้งร่างฉวบ...นางดูดเลียท่อนเนื้อชิ้นนี้อย่างเร่าร้อนลิ้นของนางพลิ้วไหวไปมาอย่างนิ่มนวล แม่ทัพ หยางเจี้ยน ถึงกับเสียวสะท้านจนตัวเกร็งนางไม่ได้มีดีแต่เพียงความงดงามเท่านั้นแต่นางยังมีความเร่าร้อนอย่างสุดโต่งเพียงแค่โดนลิ้นสัมผัสของนางมันก็แทบที่จะทำให้ตัวของเขานั้นน้ำแตกทะลักออกมา นางทั้งชักทั้งดูดทั้งเลียราวกับว่านี่คือของเล่นชิ้นใหม่ที่นางพึ่งได้ลิ้มลองในขณะที่มือของนางลูบไล้ไปที่ผิวกายของท่านแม่ทัพอย่างเร่าร
แม้ว่าฮองเฮาซ่งหลิงหรูจะมีอายุถึง 48 ปีในช่วงเวลานี้ แต่ความงดงามและความเย้ายวนของนางนั้นยากที่จะหาคำอธิบายได้ นางมีเสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลายตามกาลเวลา เรือนร่างของนางที่อวดโฉมผ่านเสื้อผ้าบางเบาที่เผยให้เห็นทุกรายละเอียดนั้นยิ่งทำให้เธอดูเย้ายวนและดึงดูดทุกสายตา เสน่ห์ของนางนั้นยากจะต้านทาน แม้แต่สาวแรกรุ่นก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับความงามของนางแม่ทัพหยางเจี้ยนไม่สามารถจะหักห้ามตัวเองได้เมื่อสายตาของเขายังคงจดจ้องไปที่ฮองเฮาซ่งหลิงหรู ทุกการเคลื่อนไหวของนางทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่สามารถควบคุมได้ นางดึงดูดทุกความรู้สึกของเขา แม้แต่ความคิดก็ล้วนแต่หมุนวนไปที่ร่างกายและท่าทางอันเย้ายวนของนางยิ่งตอนนี้ที่นางใกล้เข้ามานั่งข้างเขาและเคลื่อนไหวรอบ ๆ ด้วยท่าทางสง่างามนั้น ร่างกายของเขาก็เริ่มตอบสนองด้วยการร้อนรุ่มขึ้นมาทุกส่วน มันเป็นเหมือนกับเวทมนตร์ที่เขาไม่อาจหลีกหนีได้ ไม่ว่าจะพยายามคิดอย่างไร สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่นางไม่ยอมละสายตาฮองเฮาซ่งหลิงหรู นั่งอยู่ด้านข้างแม่ทัพหยางเจี้ยนอย่างสง่างาม มือของนางถือขันสุราหรูหราที่บรรจุเหล้าจากแดนไกล ซึ่งนางกำลังจะรินให้ท่านแม่ทัพ หยางเจ
เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง แม่ทัพหยางเจี้ยน ผู้ซึ่งเพิ่งได้รับชัยชนะในสงครามที่แดนเหนือ ก็ได้เตรียมตัวอย่างเรียบร้อยและออกเดินทางสู่ท้องพระโรงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้หลงเซวียน ท่ามกลางบรรยากาศเช้าที่เงียบสงบและงดงาม เขาก้าวเดินอย่างมั่นคง ภูมิใจในชัยชนะที่สามารถนำมาสู่แผ่นดินและประชาชนเมื่อเข้ามาถึงท้องพระโรง แม่ทัพหยางเจี้ยนก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อมต่อหน้าฮ่องเต้ ฮ่องเต้หลงเซวียนทรงทอดพระเนตรมองแม่ทัพผู้กล้าแกร่งด้วยความพึงพอใจ สายพระเนตรเต็มไปด้วยความภูมิใจในขุนนางผู้ภักดีที่สามารถนำชัยชนะกลับมาอย่างเด็ดขาดแม่ทัพหยางเจี้ยนเริ่มรายงานถึงการรบที่แดนเหนืออย่างละเอียด ทั้งการวางแผน การต่อสู้ที่กล้าหาญของเหล่าทหาร และวิธีการที่พวกเขาเอาชนะศัตรูได้อย่างสง่างาม นอกจากนี้ เขายังได้เสนอแนวทางในการฟื้นฟูบ้านเมืองในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ทั้งการบูรณะหมู่บ้าน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน และจัดหาทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง"สมแล้วที่ตัวเจ้าเป็นคนที่ข้าไว้วางใจมากที่สุด" ฮ่องเต้หลงเซวียนตรัสด้วยความพึงพอใจ ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในสนามรบได้อย่างไร้ที่ติ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งอยู่ในศาลาริมน้ำ ห่างออกไปเล็กน้อยจากที่ที่แม่ทัพหยางเจี้ยนและสาวใช้เสี่ยวเอ๋อร์อยู่ สายตาของนางจับจ้องภาพตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจโดยไม่ทันรู้ตัว นางรู้สึกถึงแรงปรารถนาที่พลุ่งพล่านและเข้มข้นที่ซ่อนอยู่ภายใน แผ่ซ่านไปทั่วร่างอย่างช้า ๆ ความรู้สึกที่เธอไม่อาจหักห้ามใจได้แสงแดดที่สะท้อนลงบนผืนน้ำ ส่องผ่านศาลามายังตัวนาง ขับเน้นให้ใบหน้าของเหม่ยฟางดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์อย่างเงียบ ๆ ขณะที่นางจิบชา ความรู้สึกอันแรงกล้าก็ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกขณะ เสียงหัวใจของนางเต้นรัวจนแทบจะได้ยินชัดเจน นางรู้สึกถึงความปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ภายใน เป็นความรู้สึกที่ท่วมท้นจนทำให้นางเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมาหัวใจของเหม่ยฟางเริ่มสั่นไหว ขณะที่นางนั่งมองจากมุมไกล ดื่มด่ำกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า แม้จะมีความสงบแผ่รอบตัว แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาอันเงียบงัน ราวกับเป็นไฟลุกโชนที่ยากจะดับ“ท่านพี่...” ฮูหยินเหม่ยฟางขับขานเรียกด้วยเสียงอันแผ่วเบา ทว่าเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและกระเส่า น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนไว้ได้อีกต่อไป แม่ทัพหยางเจี้ยนหยุดชะงักเมื่อไ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งเอนกายอยู่ในศาลาริมน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและเสียงน้ำกระทบฝั่งเบา ๆ นางจิบชาอย่างละเมียดละไม รสชาติเข้มข้นของชาอุ่น ๆ เติมเต็มความรู้สึกสบายใจให้แก่เธอ ในขณะที่มองฉากเร่าร้อนระหว่างแม่ทัพหยางเจี้ยนและหญิงสาวรับใช้ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่เผยถึงความพึงพอใจมือของนางหยิบอาหารว่างที่จัดไว้อย่างประณีตบนจาน งามเรียบง่ายและประณีตเหมือนตัวนางเอง นางมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและผ่อนคลาย ราวกับเป็นผู้เฝ้ามองทุกอย่างจากระยะไกล พลางใช้ช่วงเวลาสงบนี้ดื่มด่ำกับความสุขที่ได้เห็นคนรักของตนมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการฮูหยินเหม่ยฟางยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาที่มองไปยังฉากตรงหน้ามีแววเอ็นดูปนขบขันในความเป็นชายของท่านพี่ หยางเจี้ยน สำหรับนางแล้ว เขาคือชายผู้เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าและไฟรักที่ไม่มีวันมอดดับ แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดเขาก็ยังคงมีเสน่ห์และความดิบเถื่อนในแบบที่นางรักและชื่นชม"ท่านพี่ช่างเป็นชายที่หื่นกระหายยิ่งนัก" นางพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แฝงไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ขณะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง นางไม่รู้สึกหึงหวงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กล
เมื่อขบวนกองทัพของแม่ทัพหยางเจี้ยนเข้ามาถึงเมืองหลวง ความตื่นเต้นและความยินดีของประชาชนก็เกิดขึ้นอย่างล้นหลาม เสียงตะโกนร้องแสดงความยินดีดังก้องไปทั่วท้องถนน ผู้คนมากมายออกมารอรับเขา ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในความสำเร็จที่เขาได้ยุติสงครามในแดนเหนือแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกถึงความรักและการสนับสนุนจากประชาชนที่เขาได้ต่อสู้และปกป้อง เขาเดินหน้าไปพร้อมกับรอยยิ้มและการทักทายผู้คนรอบข้าง รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นนี้ พร้อมทั้งมีเชลยศึกตามกลับมามากมาย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของเขาในการนำกองทัพผ่านสงครามเมื่อถึงพระราชวัง แม่ทัพได้รับการต้อนรับจากฮ่องเต้หลงเซวียน พระองค์มีพระเมตตาและความเข้าใจในความเหน็ดเหนื่อยของแม่ทัพ จากการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยอันตราย พระองค์จึงให้แม่ทัพได้กลับไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องรายงานตัวในทันทีแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของฮ่องเต้ และได้ขอบพระคุณพระองค์อย่างจริงใจ ก่อนที่จะออกจากพระราชวังและเดินทางกลับไปยังที่พักของตนเมื่อเสี่ยวเอ๋อร์เดินทางกลับมาถึงจวนของแม่ทัพหยางเจี้ยน ความตื่นตะลึงในดวงตาของนางไม่สามา







