LOGINสงครามที่เหน็ดเหนื่อยได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ควันหลงยังคงมีอยู่ เชลยศึกจำนวนมากถูกจับกุมไว้ในค่ายกักกัน พวกเขาเป็นผู้ที่ยอมจำนนเมื่อไร้หนทางสู้ แม่ทัพหยางเจี้ยนเลือกที่จะรักษาชีวิตของเชลยไว้โดยไม่ทำอันตราย ด้วยความเชื่อในความยุติธรรม แต่ภารกิจที่เหลือนั้นหนักหนายิ่งกว่า เพราะบางคนยังคงเป็นภัยร้ายแรงเกินกว่าจะปล่อยไว้
ในฐานะแม่ทัพผู้ปกป้องแผ่นดิน เขาทำได้เพียงควบคุมตัวพวกเขาและส่งให้ฮ่องเต้หลงเซวียนเป็นผู้ตัดสินสุดท้าย บางคนอาจได้รับการอภัยโทษ หากแต่บางคนซึ่งเป็นหัวหน้าหรือบุคคลสำคัญที่อาจก่อความวุ่นวายใหม่ ถูกมองว่าควรรับโทษที่หนักกว่า ทั้งหมดนี้เป็นการวางแผนเพื่อให้ราชสำนักมั่นคง
เชลยเหล่านี้จะถูกส่งตัวไปยังเมืองหลวงพร้อมกับแม่ทัพหยางเจี้ยนเมื่อเขาสามารถฟื้นฟูความสงบสุขและความมั่นคงให้แดนเหนือได้อีกครั้ง
ยามค่ำคืนที่ดวงจันทร์สาดแสงสว่างไสว หยางเจี้ยน แม่ทัพผู้เก่งกาจ จูงมือฮูหยินเหม่ยฟางภรรยาผู้เปรียบดั่งดอกไม้งามประดับข้างกาย เดินเคียงคู่ไปด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความลึกลับ เหม่ยฟางเงยหน้าขึ้นสบตาสามีด้วยรอยยิ้มและความฉงนฉายในดวงตา พร้อมกล่าวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงความอยากรู้อยากเห็น
"ท่านพี่จะพาข้าไปสถานที่ใดกันหรือ?"
หยางเจี้ยนหันกลับมาสบตาฮูหยินคนงามของตน ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความลับบางอย่าง พร้อมกับแววตาเป็นประกายแห่งความตื่นเต้นที่ยากจะซ่อน เขาค่อย ๆ โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูของนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแฝงไปด้วยความลึกลับ
"ข้ามีที่หนึ่งอยากให้เจ้าดู…มันคือค่ายกักกันเชลยศึก ที่นั่นข้าได้คัดเลือกนักโทษที่แข็งแกร่งไว้ ข้าจะให้พวกเขาแสดงอะไร
ดี ๆ ให้เจ้าดู"
ฮูหยินเหม่ยฟางเบิกตากว้าง ดวงตาของนางเปล่งประกายจากความตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็น สถานที่ที่เขาพูดถึงฟังดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนาง ที่แห่งนั้นช่างลึกลับ ทว่าน่าค้นหายิ่งนัก
"ท่านพี่…ช่างลึกลับเหลือเกิน ข้ารอไม่ไหวแล้ว" นางกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหวอย่างตื่นเต้น พร้อมจับมือหยางเจี้ยนแน่นอย่างมีความหมาย
ในห้องลับเฉพาะที่มีแสงสลัวนั้น บรรยากาศอึดอัดและหนักแน่นเหมือนกับสนามรบในค่ำคืนที่เงียบสงัด แม่ทัพหยางเจี้ยนคัดเลือกเชลยศึกทั้งห้าอย่างถี่ถ้วน พวกเขาทั้งหมดเป็นนักรบที่มีร่างกายกำยำและดวงตาเฉียบคม จิตใจแข็งแกร่งจากการเผชิญกับการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายของพวกเขาบึกบึนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นถึงพลังที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
ฮูหยินเหม่ยฟางยืนจ้องมองเชลยทั้งห้าด้วยสายตาที่ซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นระคนความปรารถนา นางยืนนิ่งพร้อมกับมองดูทุกสายกล้ามและแววตาที่เต็มไปด้วยความกร้าวแกร่งของชายทั้งห้า ความรู้สึกภายในกายของนางพลุ่งพล่านยากที่จะระงับ ค่ำคืนนี้ที่เงียบสงัด ราวกับว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่เรียกร้องให้นางเป็นฝ่ายควบคุมความรู้สึกอันร้อนแรงในใจให้ไปถึงขีดสุด
แม่ทัพหยางเจี้ยนเฝ้ามองด้วยแววตาที่แฝงด้วยความเยือกเย็น เขารู้ดีว่าฮูหยินของเขาเป็นหญิงที่ซ่อนความปรารถนาไว้ภายใน นางเป็นดังแม่เสือสาวที่แฝงความดิบเถื่อนและอิสระในทุกอิริยาบถ
แม่ทัพหยางเจี้ยนยิ้มบาง ๆ มองฮูหยินเหม่ยฟางด้วยสายตาที่แฝงความกระหายลึกซึ้ง เขาเข้าใจดีถึงความปรารถนาและความรู้สึกของนาง ขณะจ้องมองเชลยศึกทั้งห้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงแผ่วต่ำแต่ชัดเจน แฝงความดิบเถื่อนในถ้อยคำ
“คนพวกนี้คือของเล่นของเจ้า...เจ้าสนใจพวกมันหรือไม่?”
สายตาของหยางเจี้ยนจับจ้องไปที่ฮูหยินด้วยแววตาเย้ายวน นางเองก็ไม่ปิดบังความตื่นเต้นที่ปรากฏอยู่ในดวงตาคู่นั้น รอยยิ้มบาง ๆ และความร้อนแรงที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวของนางค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับเชลยที่แข็งแกร่งและทรงพลัง นางเองก็ดูเหมือนแม่เสือสาวที่พร้อมจะย่างกรายเข้าไปลิ้มรสเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า
ฮูหยินเหม่ยฟางค่อย ๆ หันมาหาแม่ทัพด้วยรอยยิ้มแฝงความลึกลับ แววตาของนางบ่งบอกถึงความต้องการที่ยากจะหักห้าม นางกล่าวเบา ๆ แต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่เขาเองก็ยากจะปฏิเสธ “ข้าก็ต้องการจะสนุกกับพวกมันอยู่เหมือนกันเจ้าค่ะ”
แม่ทัพหยางเจี้ยนมองดูฮูหยินเหม่ยฟางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความหลงใหล เขาเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกอย่างช้า ๆ เสียงของผ้าที่ย้อยหลุดออกไปคล้ายกับเสียงของความปรารถนาที่ระเบิดออกมา เรือนร่างของนางปรากฏสู่สายตาอย่างชัดเจน งดงามดุจเทพธิดาที่ถูกสร้างขึ้นจากความงามและความเร่าร้อน
ร่างกายของเหม่ยฟางมีความอ่อนหวาน เปลือกผิวที่ละเอียดอ่อนสะท้อนกับแสงจันทร์อย่างลงตัว ความโค้งเว้าของร่างกายดูน่าหลงใหลจับใจ จนทำให้ดวงตาของผู้ที่ได้เห็นสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น ความรู้สึกอันร้อนแรงที่เกิดขึ้นในใจของเขากลับมีพลังมากขึ้นอีกเมื่อเห็นเรือนร่างของนาง
ในขณะเดียวกัน เดนคนทั้งห้าที่อยู่ภายในห้องคุมขังก็มองด้วยความตื่นตะลึง ท่อนเนื้อของพวกเขาแทบจะไม่สามารถควบคุมได้ แข็งผงาดขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา ราวกับเป็นการต้อนรับการมาของฮูหยินอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกสิ่งในค่ำคืนนี้กลายเป็นเวทมนตร์ที่สร้างความรู้สึกเร่าร้อนและลุ่มหลง ความปรารถนาที่ระเบิดออกมาจากหัวใจของทุกคนราวกับลมพัดผ่านทุ่งหญ้าในค่ำคืนที่เงียบสงบ
“ข้าอยากเห็นความแข็งแกร่งของพวกเจ้า จงสำเร็จความใคร่ให้ข้าดูเดี๋ยวนี้” ท่าทีที่สูงส่งและเรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของนางสามารถปลุกเร้าความเป็นชายของพวกมันได้อย่างง่ายได้หลังจากที่ได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของนางทำให้ท่อนเนื้อที่หลับใหลมานานของพวกมันเกิดการแข็งตัวจนเป็นลำจนชี้โด้ต่อที่เบื้องหน้าของนางราวกับว่าพวกมันต้องการบดขยี้เรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของนางเสียให้ยับถึงแม้ว่าจะได้รับโทษตายแต่ขอให้ได้เล่นเสียวก่อนตายก็คุ้ม
“อู๊ยยย...อ๊า...นายหญิงของข้าท่านโปรดจ้องมองท่อนเนื้อของข้าในช่วงเวลานี้มันแข็งตัวจนแทบระเบิดแล้วมันเป็นเพราะเรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของท่าน” หนึ่งในนักโทษทั้ง 5 รูดท่อนเนื้อไปมาอย่างหื่นกระหายเขาจ้องมองเรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของนางพร้อมทั้งชักขึ้นลงไปด้วย ฮูหยินเหม่ยฟางจ้องมองท่อนเนื้อของชายผู้นี้พร้อมทั้งแอบกลืนน้ำลายลงคอตัวเองไปอึกใหญ่ในยามที่มันแข็งตัวอย่างเต็มที่ขนาดของมันนั้นทั้งใหญ่ทั้งยาวเป็นอย่างมาก
“เจ้านักโทษความหื่นกระหายของเจ้ามันช่างทำให้ข้ารู้สึกพึงพอใจนัก” นางจ้องมองมันรูดท่อนเนื้อไปมาพร้อมทั้งกล่าวชื่นชมท่อนเนื้อของมันด้วยความหื่นกระหายและความร่านของนางที่แสดงออกมายิ่งปลุกเร้าความเป็นชายของพวกมันเข้าไปอีกเมื่อคนอื่นๆเห็นชายผู้นี้แสดงความหื่นกระหายอย่างออกนอกหน้าคนที่เหลือก็เริ่มที่จะรูดท่อนเนื้อของตนตามพวกมันคาดหวังที่จะได้รับคำชื่นชมจากสาวงาม
“ใหญ่มาก..ข้าไม่เคยเห็นของชายใดจะทั้งใหญ่ทั้งยาวเช่นนี้มาก่อน” นางกล่าวเสียงสั่นราวกับว่าตัวของนางนั้นจะควบคุมความหื่นกระหายของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไปแล้วราวกับว่าเรือนร่างของนางนั้นจะต้องการถูกแตะสัมผัสโดยนักโทษชั้นต่ำสักครั้งหนึ่งในชีวิตน้ำราคะของนางนั้นเริ่มที่จะไหลเยิ้มออกมา
ยิ่งตัวของแม่ทัพ หยางเจี้ยน เล่นสนุกกับเรือนร่างของฮองเฮาซ่งหลิงหรู มากขึ้นเท่าไหร่มันยังทำให้ความหื่นกระหายในกายสูบฉีดรุนแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้นท่านเนื้อของท่านแม่ทัพการเกิดแข็งตัวอย่างหน้าเหลือเชื่อจนมันแข็งผงาดชี้อยู่ที่เบื้องหน้าของนาง ฮองเฮาซ่งหลิงหรู จ้องมองท่อนเนื้อของท่านแม่ทัพที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางด้วยความหลงใหลความใหญ่ยาวของมันนั้นล้วนเหนือกว่าฮ่องเต้ หลงเซวียน เป็นเท่าตัวนางถึงกับลอบกลืนน้ำลายตัวเองลงคอไปอึกใหญ่ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานี้นั้นตัวของนางนั้นจะเป็นนางร่านจริงๆ เพียงแค่เห็นท่อนเนื้อที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางก็ทำให้ตัวของนางนั้นขุนลุกขนชันไปทั้งร่างฉวบ...นางดูดเลียท่อนเนื้อชิ้นนี้อย่างเร่าร้อนลิ้นของนางพลิ้วไหวไปมาอย่างนิ่มนวล แม่ทัพ หยางเจี้ยน ถึงกับเสียวสะท้านจนตัวเกร็งนางไม่ได้มีดีแต่เพียงความงดงามเท่านั้นแต่นางยังมีความเร่าร้อนอย่างสุดโต่งเพียงแค่โดนลิ้นสัมผัสของนางมันก็แทบที่จะทำให้ตัวของเขานั้นน้ำแตกทะลักออกมา นางทั้งชักทั้งดูดทั้งเลียราวกับว่านี่คือของเล่นชิ้นใหม่ที่นางพึ่งได้ลิ้มลองในขณะที่มือของนางลูบไล้ไปที่ผิวกายของท่านแม่ทัพอย่างเร่าร
แม้ว่าฮองเฮาซ่งหลิงหรูจะมีอายุถึง 48 ปีในช่วงเวลานี้ แต่ความงดงามและความเย้ายวนของนางนั้นยากที่จะหาคำอธิบายได้ นางมีเสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลายตามกาลเวลา เรือนร่างของนางที่อวดโฉมผ่านเสื้อผ้าบางเบาที่เผยให้เห็นทุกรายละเอียดนั้นยิ่งทำให้เธอดูเย้ายวนและดึงดูดทุกสายตา เสน่ห์ของนางนั้นยากจะต้านทาน แม้แต่สาวแรกรุ่นก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับความงามของนางแม่ทัพหยางเจี้ยนไม่สามารถจะหักห้ามตัวเองได้เมื่อสายตาของเขายังคงจดจ้องไปที่ฮองเฮาซ่งหลิงหรู ทุกการเคลื่อนไหวของนางทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่สามารถควบคุมได้ นางดึงดูดทุกความรู้สึกของเขา แม้แต่ความคิดก็ล้วนแต่หมุนวนไปที่ร่างกายและท่าทางอันเย้ายวนของนางยิ่งตอนนี้ที่นางใกล้เข้ามานั่งข้างเขาและเคลื่อนไหวรอบ ๆ ด้วยท่าทางสง่างามนั้น ร่างกายของเขาก็เริ่มตอบสนองด้วยการร้อนรุ่มขึ้นมาทุกส่วน มันเป็นเหมือนกับเวทมนตร์ที่เขาไม่อาจหลีกหนีได้ ไม่ว่าจะพยายามคิดอย่างไร สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่นางไม่ยอมละสายตาฮองเฮาซ่งหลิงหรู นั่งอยู่ด้านข้างแม่ทัพหยางเจี้ยนอย่างสง่างาม มือของนางถือขันสุราหรูหราที่บรรจุเหล้าจากแดนไกล ซึ่งนางกำลังจะรินให้ท่านแม่ทัพ หยางเจ
เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง แม่ทัพหยางเจี้ยน ผู้ซึ่งเพิ่งได้รับชัยชนะในสงครามที่แดนเหนือ ก็ได้เตรียมตัวอย่างเรียบร้อยและออกเดินทางสู่ท้องพระโรงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้หลงเซวียน ท่ามกลางบรรยากาศเช้าที่เงียบสงบและงดงาม เขาก้าวเดินอย่างมั่นคง ภูมิใจในชัยชนะที่สามารถนำมาสู่แผ่นดินและประชาชนเมื่อเข้ามาถึงท้องพระโรง แม่ทัพหยางเจี้ยนก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อมต่อหน้าฮ่องเต้ ฮ่องเต้หลงเซวียนทรงทอดพระเนตรมองแม่ทัพผู้กล้าแกร่งด้วยความพึงพอใจ สายพระเนตรเต็มไปด้วยความภูมิใจในขุนนางผู้ภักดีที่สามารถนำชัยชนะกลับมาอย่างเด็ดขาดแม่ทัพหยางเจี้ยนเริ่มรายงานถึงการรบที่แดนเหนืออย่างละเอียด ทั้งการวางแผน การต่อสู้ที่กล้าหาญของเหล่าทหาร และวิธีการที่พวกเขาเอาชนะศัตรูได้อย่างสง่างาม นอกจากนี้ เขายังได้เสนอแนวทางในการฟื้นฟูบ้านเมืองในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ทั้งการบูรณะหมู่บ้าน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน และจัดหาทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง"สมแล้วที่ตัวเจ้าเป็นคนที่ข้าไว้วางใจมากที่สุด" ฮ่องเต้หลงเซวียนตรัสด้วยความพึงพอใจ ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในสนามรบได้อย่างไร้ที่ติ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งอยู่ในศาลาริมน้ำ ห่างออกไปเล็กน้อยจากที่ที่แม่ทัพหยางเจี้ยนและสาวใช้เสี่ยวเอ๋อร์อยู่ สายตาของนางจับจ้องภาพตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจโดยไม่ทันรู้ตัว นางรู้สึกถึงแรงปรารถนาที่พลุ่งพล่านและเข้มข้นที่ซ่อนอยู่ภายใน แผ่ซ่านไปทั่วร่างอย่างช้า ๆ ความรู้สึกที่เธอไม่อาจหักห้ามใจได้แสงแดดที่สะท้อนลงบนผืนน้ำ ส่องผ่านศาลามายังตัวนาง ขับเน้นให้ใบหน้าของเหม่ยฟางดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์อย่างเงียบ ๆ ขณะที่นางจิบชา ความรู้สึกอันแรงกล้าก็ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกขณะ เสียงหัวใจของนางเต้นรัวจนแทบจะได้ยินชัดเจน นางรู้สึกถึงความปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ภายใน เป็นความรู้สึกที่ท่วมท้นจนทำให้นางเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมาหัวใจของเหม่ยฟางเริ่มสั่นไหว ขณะที่นางนั่งมองจากมุมไกล ดื่มด่ำกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า แม้จะมีความสงบแผ่รอบตัว แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาอันเงียบงัน ราวกับเป็นไฟลุกโชนที่ยากจะดับ“ท่านพี่...” ฮูหยินเหม่ยฟางขับขานเรียกด้วยเสียงอันแผ่วเบา ทว่าเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและกระเส่า น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนไว้ได้อีกต่อไป แม่ทัพหยางเจี้ยนหยุดชะงักเมื่อไ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งเอนกายอยู่ในศาลาริมน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและเสียงน้ำกระทบฝั่งเบา ๆ นางจิบชาอย่างละเมียดละไม รสชาติเข้มข้นของชาอุ่น ๆ เติมเต็มความรู้สึกสบายใจให้แก่เธอ ในขณะที่มองฉากเร่าร้อนระหว่างแม่ทัพหยางเจี้ยนและหญิงสาวรับใช้ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่เผยถึงความพึงพอใจมือของนางหยิบอาหารว่างที่จัดไว้อย่างประณีตบนจาน งามเรียบง่ายและประณีตเหมือนตัวนางเอง นางมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและผ่อนคลาย ราวกับเป็นผู้เฝ้ามองทุกอย่างจากระยะไกล พลางใช้ช่วงเวลาสงบนี้ดื่มด่ำกับความสุขที่ได้เห็นคนรักของตนมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการฮูหยินเหม่ยฟางยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาที่มองไปยังฉากตรงหน้ามีแววเอ็นดูปนขบขันในความเป็นชายของท่านพี่ หยางเจี้ยน สำหรับนางแล้ว เขาคือชายผู้เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าและไฟรักที่ไม่มีวันมอดดับ แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดเขาก็ยังคงมีเสน่ห์และความดิบเถื่อนในแบบที่นางรักและชื่นชม"ท่านพี่ช่างเป็นชายที่หื่นกระหายยิ่งนัก" นางพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แฝงไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ขณะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง นางไม่รู้สึกหึงหวงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กล
เมื่อขบวนกองทัพของแม่ทัพหยางเจี้ยนเข้ามาถึงเมืองหลวง ความตื่นเต้นและความยินดีของประชาชนก็เกิดขึ้นอย่างล้นหลาม เสียงตะโกนร้องแสดงความยินดีดังก้องไปทั่วท้องถนน ผู้คนมากมายออกมารอรับเขา ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในความสำเร็จที่เขาได้ยุติสงครามในแดนเหนือแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกถึงความรักและการสนับสนุนจากประชาชนที่เขาได้ต่อสู้และปกป้อง เขาเดินหน้าไปพร้อมกับรอยยิ้มและการทักทายผู้คนรอบข้าง รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นนี้ พร้อมทั้งมีเชลยศึกตามกลับมามากมาย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของเขาในการนำกองทัพผ่านสงครามเมื่อถึงพระราชวัง แม่ทัพได้รับการต้อนรับจากฮ่องเต้หลงเซวียน พระองค์มีพระเมตตาและความเข้าใจในความเหน็ดเหนื่อยของแม่ทัพ จากการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยอันตราย พระองค์จึงให้แม่ทัพได้กลับไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องรายงานตัวในทันทีแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของฮ่องเต้ และได้ขอบพระคุณพระองค์อย่างจริงใจ ก่อนที่จะออกจากพระราชวังและเดินทางกลับไปยังที่พักของตนเมื่อเสี่ยวเอ๋อร์เดินทางกลับมาถึงจวนของแม่ทัพหยางเจี้ยน ความตื่นตะลึงในดวงตาของนางไม่สามา







