เมืองหลวง
“อาชิงเร็วๆเข้าเดี๋ยวไม่ทัน”
“คุณหนู รอก่อนเจ้าค่ะ อย่าวิ่งเจ้าค่ะ”
“ไม่ทันแล้วๆเร็วๆเข้า ข้าจะรีบไปดูละคร เรื่องนี้พลาดไม่ได้ เร็วๆเข้า”
หอสุ่ยเซียน
“มาทันพอดี นั่งเร็วๆ”
“คุณหนู หากว่าแม่นมอี้จับได้ละก็…”
“ช่างเถอะๆ ตอนนี้ดูละครก่อน มาแล้วๆ”
“คุณชาย นั่นคุณหนูหงลี่อินขอรับ”
“ใช่นางจริงๆ ข้าควรจะต้องไปทักทายว่าที่คู่หมั้นเสียหน่อย”
หงลี่อินบุตรีของเสนาบดีกลาโหมหงเล่งจิน นางชอบการละเล่นงิ้วและการดูละครเป็นที่สุด นางมักจะแอบออกมาจากจวนเพื่อมาที่หอสุ่ยเซียนนี้เสมอเพื่อดูละครคณะที่นางโปรดปราณ
“คุณหนูหง ข้าโอหยางรุ่ย ยินดีที่ได้พบท่าน”
“อ้อ ยินดีคุณชาย มาดูละครเช่นกันหรือ…เดี๋ยวนะ..ท่านบอกว่าชื่อ..”
“ข้าโอหยางรุ่ย เจ้าแปลกใจอะไรงั้นหรือ”
ลี่อินคิดอยู่ในใจ โอหยางรุ่ยนี่ไม่ใช่คนที่ท่านพ่อเคยบอกว่าจะให้นางหมั้นกับเขาในเร็ววันนี้หรอกหรือ ไม่ได้แล้ว หากเป็นเช่นนั้นคงไม่ดีแน่ ต้องรีบหาทางหนีก่อน
“เอ่อ โอ๊ย ข้าปวดท้องยิ่งนัก อาชิงเร็วๆเข้า ข้าอยากเข้าห้องน้ำ คุณชายรอสักครู่นะเจ้าคะ”
“เอ่อ คุณหนู คือว่า….”
ลี่อินรีบจูงมืออาชิงวิ่งไปด้านบนของร้านเพื่อหนีผู้ที่พึ่งเข้ามาทักทาย โอหยางรุ่ยเป็นคู่หมั้นที่ท่านพ่อจัดการเอาไว้ว่าอยากให้หมั้นหมายกับนาง แต่นางไม่ได้มีใจรักชอบเขา
“คุณหนู คือว่า เราหลบคุณชายมานานแล้วนะเจ้าคะ แย่แล้วคุณหนู นั่นคนที่จวนเจ้าค่ะ”
“อาชิง ข้าอยู่ไม่ได้แล้ว หาที่หลบเร็วเข้า”
“ข้า คือข้า …”
“โอ๊ย ข้าไปก่อนล่ะ”
หงลี่อินวิ่งขึ้นไปและเปิดเข้าไปยังห้องส่วนตัวห้องหนึ่งบนนั้นอย่างเงียบกริบ
“เอาตามแผนเดิมที่เจ้าว่า หากพร้อมแล้วจงบอกข้า”
หงลี่อินที่แง้มประตูเอาไว้มองลอดช่องเล็กๆออกไป อาชิงไปหลบอีกห้องหนึ่ง นางไม่รู้เลยว่ากำลังจะมีบางคนเดินเข้ามาหานางอย่างเงียบๆ และไม่รู้ว่าเมื่อพบกันครั้งนี้ ชีวิตของนางจะเปลี่ยนไปตลอดกาล….
“ไปเสียทีสิ ออกไปได้แล้ว ไม่เจอก็ออกไปได้แล้ว ข้าจะดูละคร จะถึงตอนสำคัญแล้ว รีบๆไปสิ”
“เจ้าเป็นใคร”
“อ๊ะ….อุ๊บ”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!!”
“อ่อยอ้าอ่อนอิ (ปล่อยข้าก่อนสิ)”
เขาปล่อยมือนาง สายตาดุดันเอาเรื่องมองมาที่นาง หงลี่อินที่ตกใจอยู่หันมาสบตาคู่นั้นของเขา หน้าตาก็ดีแต่เหตุใดดุถึงเพียงนี้ นางเพียงมาขอหลบภัยชั่วคราว
“ท่านเงียบก่อน พวกเขากำลังจะไปแล้ว เดี๋ยวข้าก็ออกไปไม่รบกวนท่าน เชิญพวกท่านตามสบายเลย”
“ผู้ใดส่งเจ้ามา หากไม่พูด อย่าได้คิดจะออกจากห้องนี้”
ชายผู้นั้นล็อกคอนางจากด้านหลังและเขาก็ต้องตกใจเมื่อมือเขาไปจับเอาอกอวบตึงนั้นเข้า เขารีบดึงมือออกมาด้วยความรวดเร็วแต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ทำท่าตกใจอะไร นางดูจะกังวลกับคนที่อยู่ด้านนอกนั่นมากกว่า
“เจ้า เจ้าเป็นสตรีงั้นหรือ ผู้ใดส่งเจ้ามา”
“ชู่ว หุบปากก่อนได้หรือไม่ ท่านเสียงดังไปแล้วเดี๋ยวพวกเขาก็หาข้าเจอพอดี”
เขาจับแขนนางไพล่หลังและใช้มีดจ่อที่คอนางทันที หงลี่อินตกใจสุดชีวิต นางไม่คิดว่านางจะดวงซวยเลือกเข้าห้องผิดถึงเพียงนี้
“ข้า..ข้า..คือว่าข้าเพียงแค่แอบออกมาดูละคร คุณชายอภัยด้วย ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไปแล้ว ปล่อยข้าเถิดได้โปรด”
“เจ้าได้ยินอะไรบ้าง”
“ข้า..ได้ยินอะไร ข้าพึ่งเข้ามาและแอบอยู่ที่ประตูนี้ ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนอยู่ ท่านปล่อยนะ”
“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร”
“ท่านไม่ต้องรู้หรอก พวกเขาไปแล้ว ปล่อยข้าได้แล้วน่ะข้าจะได้ออกไปเสียที”
เขายอมปล่อยนาง ดูแล้วเหมือนว่านางจะไม่ได้ตั้งใจเข้ามาเพื่อดักฟังเขาจริงๆ และนางเองก็กำลังจะเดินออกไป เมื่อก้าวขาออกไป นางก็รีบเดินกลับมา พวกเขาวิ่งขึ้นมาอีกครั้ง
“แย่แล้ว มาอีกแล้ว ๆ ทำอย่างไรเล่า คิดสิๆ ลี่อินๆ”
“ลี่อิน??”
“นางมาทางนี้แน่ เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียง ห้องนี้”
“คุณชาย ข้าขอโทษนะ”
หงลี่อินไม่คิดว่าจะต้องทำเช่นนี้แต่เรื่องมันจวนตัว นางพุ่งตัวออกไปและประกบปากไปที่ปากอิ่มของคนตรงหน้าทันที ประตูเปิดออก คนที่หน้าประตูตกใจสุดขีด พอๆกับบุรุษหนุ่มที่ถูกจูบแบบกะทันหันในห้องเช่นกัน
“เอ่อ ขออภัยขอรับ รีบปิดเร็วๆเข้า ถุยๆๆ ข้าจะอ๊วก กลางวันแสกๆแท้ๆ ไปตามทางโน้น ไปเร็ว”
หงลี่อินเบิกตากว้างพร้อมกับมีดในมือของบุรุษตรงหน้าที่ตกลงพื้นและปักลงไป นางอาศัยจังหวะนี้รีบผละปากออกจากเขาทันที
“คุณชาย ขออภัยด้วย ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยชีวิต วันหน้าข้าค่อยตอบแทน ขอตัว”
หงลี่อินรีบวิ่งออกจากห้องนั้นและวิ่งลงไปและออกจากร้านอย่างรวดเร็ว นางเจออาชิงที่รออยู่ด้านหน้าหอสุ่ยเซียน
“เร็วเข้าอาชิง วิ่งเร็วๆเข้า”
เวยห่าวหรานยืนอึ้งอยู่กับสัมผัสเมื่อครู่จนเหม่อลอย เขายังจับต้นชนปลายไม่ถูก หูอื้อไปหมดจนหวังเจาเรียกเขา
“ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นเป็นอะไรหรือไม่ นางใช่สายลับหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าไม่รู้ แต่ไม่ควรปล่อยเอาไว้ ให้คนของเราเร่งตามไปจับตัวมา”
“ท่านอ๋องจะให้ทำอย่างไรกับเขาดีพ่ะย่ะค่ะ”
“ฆ่านางซะ!!”
ท่านอ๋องเกือบสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไปก่อนจะหันมามองหน้าลี่อิน“เจ้า ชวนข้าไปที่ใดนะ”“ไปห้องท่านอ๋องไง ไปทำแผล พระองค์ตกใจสิ่งใดเพคะ”“อ่อ เจ้าจะทำแผลให้ข้าเช่นนั้นหรอกหรือ”“ท่านอ๋องเลี้ยงข้าวแล้ว หม่อมฉันก็ต้องตอบแทนบ้้างสิ จะได้ไม่ติดค้างกัน”“ก็ได้ ตามมาสิ”ท่านอ๋องเดินนำนางมายังห้องของเขาพร้อมกับสั่งให้หวังเจานำกล่องยาเข้ามาวางให้หงลี่อิน เมื่อวางกล่องยาลง นางจึงได้แกะผ้าพันแผลของเขาออก นางเห็นแผลด้านในแล้วนึกสยอง นี่คือฟันของนางจริงๆงั้นหรือ“แผลลึกมากเหมือนกันนะ”“นี่เจ้ากำลังเป็นห่วงข้า หรือกำลังชมฝีมือกัดของตัวเองกันแน่”“แน่นอน ต้องชมตัวเองสิกัดได้เยี่ยม แผลงามมาก”“แมวพยศ”“ท่านอ๋องว่าอะไรนะเพคะ”“เปล่า โอ๊ย เจ้าเบาๆหน่อยสิ”“พระองค์นี่ก็แปลก ตอนกัดไม่เห็นจะร้อง”“ข้าขอโทษ”ลี่อินชะงักไปเมื่อนางค่อยๆทายาให้เขาอย่างระวัง นางค่อยๆเงยหน้ามองเขาอย่างแปลกใจ“ท่านอ๋องขอโทษหม่อมฉันเรื่องอะไรเพคะ”“เรื่องเมื่อคืน ข้าไม่คิดว่าเจ้าเฉียนเซินนั่น จะมือไว จนไปคว้าเอวเจ้าข้าขอโทษที่ห้ามเขาไม่ทัน”ลี่อินหยุดนิ่งไป ที่จริงแล้วนางกำลังดีใจอยู่ ท่านอ๋องที่เย็นชาราวน้ำแข็ง โหดเหี้ยมราวสัตว์ป่าแต
ท่านอ๋องยิ้มมุมปากพร้อมกับหันไปบอกหวังเจา“ข้าบอกแล้วว่านางมาแน่”“ว่าอย่างไรแม่นางหลิง ท่านจะยอมเลิกหรือไม่ แต่ว่า หากท่านมากันแล้ว…ก็..ดื่มกันไปนะ ข้า…”ท่านอ๋องรีบลุกขึ้นและพุ่งไปที่ลี่อินและโอบรอบเอวนางทันที หวังเจาสังเกตเห็นทันทีพร้อมกับแอบยิ้มกับท่าทีของผู้เป็นนายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน“อย่างที่ทุกท่านเห็น ข้าต้องขออภัยที่ข้ามิอาจตอบรับคำเชิญนี้ได้จริงๆ ใต้เท้าหลิง ฮูหยิน ต้องขออภัย ในเมื่อคู่หมั้นข้ามาตามแล้วข้าเองก็หมดเหตุผลที่จะละเลยนางแล้ว แม่นางหลิงขอโทษที่ทำให้เจ้าเสียเวลา น้องหญิงเรากลับจวนกันเถอะ ทุกท่าน ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”“เอ่อ ท่านอ๋อง คือว่า…” “ขอตัวขอรับ”หวังเจารีบปิดท้ายและรีบเดินออกมา ลี่อินงงจนเลิ่กลักและทำตัวไม่ถูก ไม่ใช่แบบนี้สิ เหตุใดไม่รู้มาก่อนว่าเป็นเขาที่อยู่ในห้องนั้น ท่านอ๋องโอบรอบเอวนางเดินออกมาจากห้องจนมาถึงโต๊ะของโอหยางและซินมี่นั่งอยู่“คารวะท่านอ๋องเวย”“คารวะท่านอ๋องเพคะ”“ทุกท่านตามสบาย ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”""คู่หมั้น!!""ทั้งคู่มองตามท่านอ๋องและลี่อินไปอย่างนึกแปลกใจและสงสัย เหตุใดจู่ๆนางเป็นคู่หมั้นท่านอ๋องไปได้ จนกระทั่งซูผิงเดินออกม
สายตานางวันนี้ทำให้เขายอมถอยออกมา นางยังยืนอยู่ที่เดิม“คืนนี้เจ้าพักผ่อนเถอะ ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะส่งข่าวมา”“หม่อมฉันไม่ไป”“เจ้าไปแน่”เขาออกไปทางหน้าต่างพร้อมกับปิดให้นางเรียบร้อย ลี่อินรีบไปบ้วนปากที่มีกลิ่นคาวเลือดของเขาทิ้งพร้อมน้ำตาที่รินไหลไม่หยุด ไม่รู้ว่านางรู้สึกอะไรกันแน่ โกรธที่เขาไม่ช่วยนางที่ถูกรังแก น้อยใจที่เขาไม่สนใจ หรือเกลียดที่เขาใช้นางเป็นเพียงเครื่องมือช่วยงาน หรือหวั่นไหวให้กับเขาเสียแล้ว“หงลี่อิน เจ้าอย่าโง่ เขาเลวขนาดนั้น เจ้าจะรักเขาไม่ได้”นางค่อยๆถอดชุดนั้นออก ชุดนี้เปื้อนเลือดของเขาเสียแล้ว นางไม่อยากเห็น เมื่อนางเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วจึงล้มตัวลงนอน เรื่องในคืนนี้มันทำให้เกิดความรู้สึกหลากหลายจนนางตามไม่ทัน เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวโมโห น้อยใจ เสียใจ และ“มาจูบข้าทำไมกัน คนเลว คนชั่ว ท่านมันเลวเวยห่าวหรานคนเลว เลวๆๆๆๆ ฮืออๆๆ คนเลวว”ด้านนอกนั้น มือที่ยังชุ่มไปด้วยเลือดยังคงยืนฟังเสียงร้องไห้ จนเสียงนั้นค่อยๆเงียบลงไป เขาค่อยๆยกมือที่ไม่เจ็บขึ้นมาลูบที่ริมฝีปากอย่างเบามือ เขาหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เช่นกันว่าเหตุใดจึงไม่ฆ่านาง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะได้ยินความลับขอ
“ใต้เท้าเฉียน ของดีกินทีหลัง อย่าลืมว่าท่านมีเวลากินนางทั้งคืน”“ฮ่าๆๆๆ ท่านอ๋องพูดถูกใจข้ายิ่งนัก ฮ่าๆๆ มา ข้าดื่ม ดื่ม”เฉียนเซินยกเหยือกเหล้าขึ้นมาดื่ม เหล้ายังไม่ทันหมดเหยือก เขาก็ล้มลงโดยง่ายดายจนลี่อินเกือบจะล้มไปกับเขาแต่ท่านอ๋องคว้านางเข้ามานั่งบนตักแทนพร้อมกับเผลอหันหน้าไปเฉียดแก้มนางนิดหนึ่งด้วยก่อนจะกระซิบบอกลี่อิน“อยู่เฉยๆก่อน ข้าจัดการเอง”นางนั่งอยู่บนตักของท่านอ๋องเพื่อมิให้คนอื่นๆสงสัย“ท่านเฉียน ไม่เอาน่า ท่านเมาแล้วหรือ ถ้าเช่นนั้นนางรำผู้นี้เล่า”“นี่ท่าน!!…”“เงียบไป!!”“ใต้เท้าเฉียน....”“เอามือของท่านออกไปนะ”“ข้าบอกให้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวเขาตื่น”“…”“พวกเจ้าออกไปได้แล้ว ใต้เท้าเฉียนเมามาก ข้าจะอยู่กับเขาเอง”นางรำค่อยๆเดินออกไปจนหมด ลี่อินก็เช่นกัน แต่เขาไม่ยอมให้นางลุกจากตักเขา“เหลือเจ้าเอาไว้คนหนึ่งเพื่ออยู่กับข้า ที่เหลือออกไปได้”พวกนางไม่สงสัยอะไร เพียงแค่เดินออกไปตามคำสั่ง เป็นปกติที่แขกอาจจะถูกใจผู้ใดก็จะเรียกเอาไว้อยู่แล้ว พวกนางจึงไม่รู้สึกแปลก เมื่อทุกคนออกไปแล้วลี่อินจึงลุกออกจากตัวเขาทันที ท่านอ๋องนั่งท่านั้นค้างอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองเป้าหมายที่สล
“ท่านอ๋อง..นี่มันบ้าไปแล้ว หากหมดธุระแล้ว ข้าขอตัว”ลี่อินเดินออกไปจะออกจากห้อง“หงลี่อิน!!”ลี่อินหยุดกึกที่หน้าห้อง ไม่รู้ว่าเขาเดินตามนางมาเมื่อใด แต่รู้อีกที ลมหายใจเขาก็รดอยู่ที่ต้นคอนางแล้ว“อย่าลืมว่าเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หาไม่แล้ว..”“หม่อมฉันแล้ว ขอตัวเพคะ”ลี่อินรีบออกจากห้องนั้นอย่างรวดเร็วและรีบกลับมานั่งดูละครต่อ“หวังเจา!!”“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง“กลับจวน”“พ่ะย่ะค่ะ”“ลี่อิน เจ้าไปที่ใดมา ละครกำลังสนุกเลย มาดูเร็วเข้า”“เจ้าค่ะๆ”ลี่อินดูละครไม่รู้เรื่องแล้ว จิตใจนางสั่นไม่เป็นจังหวะ หัวใจนางไม่เคยเต้นเร็วเช่นนี้แม้แต่ในละครที่นางดูก็ไม่เคยทำให้ใจเต้นแรงเหมือนวันนี้มาก่อน“ลี่อิน เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงหน้าแดงเช่นนี้ล่ะ”“ข้า..หน้าแดงงั้นหรือ”“หรือว่าคุณหนูจะมีไข้อีกแล้วเจ้าคะ”“เพ้อเจ้อน่าอาชิง ละครจะจบแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”“ไปสิ ข้าจ่ายเงินแล้ว กลับกันเถอะ”ลี่อินเดินกลับบ้านไปทั้งๆที่ไม่ได้ฟังที่โอหยางรุ่ยพุดเลยว่าเขาคุยอะไรบ้าง นางเอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดเรื่องที่ท่านอ๋องจอมโหดนั่นสั่ง เรื่องที่เขาขู่ เรื่องจิบชา และยังมายืนขู่ก่อนที่นางจะออกจากห้อง“อึ๊ยย
“ท่านอ๋อง ตกลงว่า..”ท่านอ๋องยกมือห้ามก่อนขึ้นรถม้า“ขึ้นรถแล้วค่อยว่ากัน”รถม้าวิ่งออกมาจากจวนเสนาบดีแล้ว เรื่องในวันนี้คงเป็นประเด็นระหว่างเขากับเสนาบดีหงอีกแน่นอนเมื่อบุกมาถึงจวนและยังมาลงโทษฮูหยินของเขาอีกด้วย ทั้งๆที่เขาควรจะผูกมิตรกับเสนาบดีกลาโหมผู้นี้เอาไว้เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า“ท่านอ๋อง”“ส่งคนไปสืบเรื่องของหงลี่อินมาให้ข้า”“สืบเรื่องของนาง ทำไมขอรับ”“ข้าอยากรู้…”ภาพของนางที่มองเขาด้วยความโกรธนั้นยังคงติดตาเขาอยู่ ปากบางที่ซีดจัดของนางยังคงติดอยู่ในใจของเขา“ว่านาง…ได้ยินอะไรหรือไม่”“แล้วคำสั่งก่อนหน้านี้…”“อย่าพึ่งฆ่า จับนางมาสอบสวนก่อน”“ท่านอ๋องไม่ควรประมาทนาง..”“ข้ารู้ ข้าไม่ประมาทนางแน่นอน เพียงแต่ไม่คิดว่านางจะเป็นบุตรีของเสนาบดีหงเสียได้ กลับจวนแล้วค่อยว่ากันเถิด”“ขอรับ”ห้องคุณหนูลี่อิน“คุณหนูฟื้นแล้ว แม่นมอี้ เร็วๆเข้า”“คุณหนู ท่านยังมีไข้อยู่ ดื่มยานี่ก่อนเจ้าค่ะ”“ขอบคุณแม่นมอี้”“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ โธ่คุณหนู เหตุใดต้องเจอเรื่องแบบนี้ไม่สิ้นสุด”“เจ้าอ๋องใจโหดนั่น ข้าเกลียดเขา”“คุณหนูอย่าพูดเช่นนั้นเจ้าค่ะ ท่านไม่รู้ว่าท่านอ๋องโกรธมากที่ฮูหยิ