ท่านอ๋องยิ้มมุมปากพร้อมกับหันไปบอกหวังเจา
“ข้าบอกแล้วว่านางมาแน่”
“ว่าอย่างไรแม่นางหลิง ท่านจะยอมเลิกหรือไม่ แต่ว่า หากท่านมากันแล้ว…ก็..ดื่มกันไปนะ ข้า…”
ท่านอ๋องรีบลุกขึ้นและพุ่งไปที่ลี่อินและโอบรอบเอวนางทันที หวังเจาสังเกตเห็นทันทีพร้อมกับแอบยิ้มกับท่าทีของผู้เป็นนายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“อย่างที่ทุกท่านเห็น ข้าต้องขออภัยที่ข้ามิอาจตอบรับคำเชิญนี้ได้จริงๆ ใต้เท้าหลิง ฮูหยิน ต้องขออภัย ในเมื่อคู่หมั้นข้ามาตามแล้วข้าเองก็หมดเหตุผลที่จะละเลยนางแล้ว แม่นางหลิงขอโทษที่ทำให้เจ้าเสียเวลา น้องหญิงเรากลับจวนกันเถอะ ทุกท่าน ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”
“เอ่อ ท่านอ๋อง คือว่า…”
“ขอตัวขอรับ”
หวังเจารีบปิดท้ายและรีบเดินออกมา ลี่อินงงจนเลิ่กลักและทำตัวไม่ถูก ไม่ใช่แบบนี้สิ เหตุใดไม่รู้มาก่อนว่าเป็นเขาที่อยู่ในห้องนั้น ท่านอ๋องโอบรอบเอวนางเดินออกมาจากห้องจนมาถึงโต๊ะของโอหยางและซินมี่นั่งอยู่
“คารวะท่านอ๋องเวย”
“คารวะท่านอ๋องเพคะ”
“ทุกท่านตามสบาย ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”
""คู่หมั้น!!""
ทั้งคู่มองตามท่านอ๋องและลี่อินไปอย่างนึกแปลกใจและสงสัย เหตุใดจู่ๆนางเป็นคู่หมั้นท่านอ๋องไปได้ จนกระทั่งซูผิงเดินออกมาด้วยหน้าตาที่เปื้อนยิ้ม
“ซูผิง นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“ลี่อินยอดเยี่ยมจริงๆ บุกเข้าไปตอนแรกกะจะแสดงด่าฝ่ายชายว่าเป็นคู่หมั้นนาง ที่ไหนได้ นางดันเป็นคู่หมั้นท่านอ๋องตัวจริงตอนนี้ท่านอ๋องเวยพานางออกไปแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ของหลิงอิงยอมรับข้าแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะพวกเจ้าตามสบายนะมื้อนี้ข้าเลี้ยงเอง”
“เอ่อ เดี๋ยวสิ ซูผิง แล้ว…ลี่อิน..กับท่านอ๋อง อ้าว แล้วข้าเล่า”
“พี่โอหยางเจ้าคะ เรารีบกลับจวนกันก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ เรื่องนี้ทำข้างงไปหมดแล้วเจ้าค่ะ"
“ดีเหมือนกัน ข้าก็พูดอะไรไม่ออกแล้วเหมือนกัน”
บนรถม้าท่านอ๋อง
“ปล่อยนะ ท่านอ๋อง ปล่อยหม่อมฉันนะ”
“อยู่นิ่งๆสิ ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มาแล้วเสียอีก ภารกิจสำเร็จด้วยดี ยอดเยี่ยมมาก”
“หม่อมฉันไม่ได้มาช่วยท่านอ๋องเสียหน่อย”
“หมายความว่าอย่างไร เห็นๆกันอยู่ว่าเจ้าบุกเข้าไปด่าแม่นางหลิงนั่นจนหน้าซีดที่แย่งคู่หมั้นเจ้าไป”
“พระองค์หลงตัวเองเกินไปแล้ว ปล่อยนะ แล้วก็หยุดรถด้วย”
“ข้าไม่สั่งก็ห้ามใครจอดทั้งนั้น”
“นี่พระองค์จะบ้าหรือ หม่อมฉันไม่ไปจอดเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันจะกระโดดลงไปเดี๋ยวนี้”
“อยากลองดีก็เอาสิ ข้าไม่หวงหรอกนะหากเจ้าจะกัดมืออีกข้างของข้าน่ะ”
“พระองค์หลีกไปนะ”
“ข้าต้องการคำอธิบาย หากเจ้าไม่ไปหาข้า แล้วไปที่นั่นทำไม อ้อ ข้าเห็นว่าเจ้าพาน้องสาวกับเจ้าหน้าจืดนั่นมาด้วย มาทำอะไรกัน”
“ไม่ใช่ธุระของท่านอ๋อง บอกแล้วอย่างไรว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระองค์ หม่อมฉันมาที่นี่ก็ไม่ใช่เพราะพระองค์ หากรู้ว่าเป็นท่านอ๋อง ไม่มีทางที่หม่อมฉันจะเข้าไปเป็นอันขาด”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าไม่ได้ตั้งใจเข้าไปก่อกวน แล้วเข้าไปได้เช่นไร”
“พระองค์เห็นหน้าบุรุษที่ตามหม่อมฉันไปหรือไม่ นั่นน่ะ เขาเป็นคนรักของคุณหนูหลิง คู่ดูตัวของพระองค์ในวันนี้ เขาเป็นสหายของคุณชายโอหยาง หม่อมฉันมาที่นี่เพราะเขาชวนข้ามาเที่ยว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับท่านอ๋อง ที่หม่อมฉันช่วยเพราะเขาสองคนรักกัน เลยสมอ้างที่จะเข้าไปด่าคู่ดูตัวของนาง ใครจะคิดว่าคู่ดูตัวของนางจะเป็นพระองค์กันเล่า โชคร้ายจริงๆ”
“เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าว่าใครโชคร้าย”
“ข้านี่ไงโชคร้าย จะช่วยคนแต่ดันเป็น…. เฮ้ออ”
“พระองค์จะพาหม่อมฉันไปที่ใด”
“ข้าหิวแล้ว จะไปกินข้าว”
“แต่หม่อมฉันไม่หิว หม่อมฉันจะกลับจวน”
“ข้าหิว”
“หม่อมฉันไม่หิว พระองค์อยากกินก็ไปกินเอง จอดรถเดี๋ยวนี้นะ”
“พวกเขาไม่ฟังเจ้าหรอก เขาฟังคำสั่งข้าคนเดียว”
“หม่อมฉันไม่ไป”
“นี่เจ้าหยุดนะ มันอันตรายมานี่ มานั่งดีๆ”
“ไม่ ปล่อยนะไอ้คนเลว อ๋องชั่ว คนชั่ว อื้ออ”
“หากเจ้าไม่หยุดข้าจะจูบเจ้าบนรถนี่แหละ ร้องอีกสิ”
หงลี่อินยอมหยุด และดันตัวออกจากเขาโดยเร็ว ตอนนี้แผลที่มือของเขาเลือดเริ่มออกอีกแล้ว เขายกมือขึ้นมาพร้อมกับก้มดู ลี่อินรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่นางก็ยังไม่สนใจเขาเช่นเดิม นางเบือนหน้าหนีเขาตลอดทางที่นั่งมาในรถม้า จนกระทั่งรถนั้นหยุดนิ่ง นางจึงเปิดประตูออกมาจนชนเข้ากับหวังเจา
“อุ้ย ขอโทษเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไรขอรับคุณหนู ท่านจะรีบไปไหนขอรับ”
“กลับจวนน่ะสิถามได้”
“แต่ว่า เอ่อ”
“ตามข้ามานี่”
ท่านอ๋องเดินตามมาจูงมือนางเพื่อเดินเข้าไปที่จวนของเขา
“หยุดนะ ปล่อยมือนะท่านอ๋อง ปล่อยหม่อมฉันนะ”
“เฮ้อ นี่คือแมวจอมพยศที่ท่านอ๋องพูดเมื่อคืนสินะ งานนี้คงเหนื่อยอีกนานเลย”
“ท่านอ๋องปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้นะบอกให้ปล่อยหม่อมฉันจะกลับจวน”
ทหารองครักษ์ทั่วจวนต่างมองพวกเขาที่ดึงกันเข้ามาในจวน ซึ่งท่านอ๋องไม่เคยพาสตรีใดเข้ามาที่นี่มาก่อน
“หากเจ้ายังไม่หยุดข้าจะอุ้มเจ้าไปเดี๋ยวนี้”
“เผด็จการ ป่าเถื่อน”
“ตามมา”
“ปล่อยมือหม่อมฉันสิ”
“ไม่”
“เอ๊ะ ท่านนี่มัน..”
ลี่อินหมดทางที่จะรั้งจึงปล่อยให้เขาจูงนางเดินไป ท่านอ๋องผู้นี้ทั้งเย็นชา ดุดัน เผด็จการและโหดร้าย ไม่รู้วันไหนจะเอามีดจ่อที่คอนางเพื่อขู่ฆ่าอีก
“นั่งลง”
"ที่นี่คือ.."
“จวนข้าเอง”
“ท่านอ๋องพาหม่อมฉันมาที่นี่ทำไมกัน”
“นั่งลง”
ลี่อินยอมนั่งลง เมื่อท่านอ๋องโบกมือให้สาวใช้ยกอาหารมาวางจนเต็มโต๊ะ ลี่อินมองไปที่โต๊ะจนนางเริ่มหิว ห่าวหรานมองนางด้วยความรู้สึกที่แปลกออกไป เขาไม่เคยรู้สึกนึกอยากเอาใจผู้ใดมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้
“กินสิ”
“อย่าได้หวังว่าจะเอาของกินมาล่อ”
“ถ้าเจ้าไม่กิน ข้าก็จะเททิ้ง”
“ไม่ๆๆๆ ของดีๆทั้งนั้นพระองค์จะบ้าหรือ หม่อมฉันกินเอง ไหนๆก็จะเทแล้วนี่ เทในท้องหม่อมฉันก็แล้วกัน หลงไปช่วยพระองค์เอาไว้แล้วนี่ มื้อนี้ก็ถือว่าเป็นการขอบคุณหม่อมฉันก็แล้วกัน”
ลี่อินกินด้วยความเอร็ดอร่อยเพราะนางออกจากจวนมาจนถึงร้านเซิงหวา นางยังไม่ได้จิบชาแม้แต่อึกเดียวก็บุกไปช่วยซูผิงกับแม่นางหลิงจนเจอเขา และก็ถูกลากตัวมานี่ ตอนนี้นางจึงหิวมาก ท่านอ๋องมองนางกินอย่างมีความสุข แต่เพราะเป็นคนยิ้มยาก เขาเลยได้แต่แอบมองจนลี่อินหันมาเห็นเขา
“ท่านอ๋องไม่หิวงั้นหรือ พระองค์ก็ยังไม่ได้กินข้าวนี่”
“ข้า…มือข้าเจ็บน่ะ”
“โอ่วว..”
ลี่อินรู้สึกผิดขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว ที่เขาเจ็บก็เพราะนางกัดเขาสินะ เอาน่ะ ในเมื่อวันนี้ช่วยแล้ว ก็ช่วยให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน ลี่อินหยิบตะเกียบของเขามา และเริ่มคีบข้าวให้เขา
“อ่ะ อ้าปากสิเพคะ”
“นี่เจ้าทำอะไรกัน”
“ป้อนพระองค์อย่างไรเล่า ก็พระองค์มือเจ็บท่านกินเองไม่ได้มิใช่หรือเพคะ”
“คือว่า แบบนี้มัน..”
“อ้าปาก”
“อา…อ้าม”
“ก็แค่นี้เอง จะกินอะไร”
ท่านอ๋องกินข้าวที่นางป้อน เมื่อนางถามเขาจึงเริ่มชี้โดยใช้ตาเพราะพูดไม่ได้ มือก็เจ็บจึงชี้ไม่ได้ ลี่อินจึงชี้ทีละจานและคีบให้เขาและป้อนเขาทีละคำ คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างรู้สึกเหลือเชื่อที่ท่านอ๋องจอมโหดของพวกเขามีช่วงอารมณ์เช่นนี้ด้วย
“อิ่มจังเลย อาาา”
“กินจุเหมือนหมู”
“พระองค์ว่าผู้ใด”
“ว่าเจ้าอย่างไรล่ะ”
“ไปกันเถอะเพคะ”
“ไปไหน”
“ไปห้องพระองค์อย่างไรล่ะ”
ท่านอ๋องเกือบสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไปก่อนจะหันมามองหน้าลี่อิน“เจ้า ชวนข้าไปที่ใดนะ”“ไปห้องท่านอ๋องไง ไปทำแผล พระองค์ตกใจสิ่งใดเพคะ”“อ่อ เจ้าจะทำแผลให้ข้าเช่นนั้นหรอกหรือ”“ท่านอ๋องเลี้ยงข้าวแล้ว หม่อมฉันก็ต้องตอบแทนบ้้างสิ จะได้ไม่ติดค้างกัน”“ก็ได้ ตามมาสิ”ท่านอ๋องเดินนำนางมายังห้องของเขาพร้อมกับสั่งให้หวังเจานำกล่องยาเข้ามาวางให้หงลี่อิน เมื่อวางกล่องยาลง นางจึงได้แกะผ้าพันแผลของเขาออก นางเห็นแผลด้านในแล้วนึกสยอง นี่คือฟันของนางจริงๆงั้นหรือ“แผลลึกมากเหมือนกันนะ”“นี่เจ้ากำลังเป็นห่วงข้า หรือกำลังชมฝีมือกัดของตัวเองกันแน่”“แน่นอน ต้องชมตัวเองสิกัดได้เยี่ยม แผลงามมาก”“แมวพยศ”“ท่านอ๋องว่าอะไรนะเพคะ”“เปล่า โอ๊ย เจ้าเบาๆหน่อยสิ”“พระองค์นี่ก็แปลก ตอนกัดไม่เห็นจะร้อง”“ข้าขอโทษ”ลี่อินชะงักไปเมื่อนางค่อยๆทายาให้เขาอย่างระวัง นางค่อยๆเงยหน้ามองเขาอย่างแปลกใจ“ท่านอ๋องขอโทษหม่อมฉันเรื่องอะไรเพคะ”“เรื่องเมื่อคืน ข้าไม่คิดว่าเจ้าเฉียนเซินนั่น จะมือไว จนไปคว้าเอวเจ้าข้าขอโทษที่ห้ามเขาไม่ทัน”ลี่อินหยุดนิ่งไป ที่จริงแล้วนางกำลังดีใจอยู่ ท่านอ๋องที่เย็นชาราวน้ำแข็ง โหดเหี้ยมราวสัตว์ป่าแต
ท่านอ๋องยิ้มมุมปากพร้อมกับหันไปบอกหวังเจา“ข้าบอกแล้วว่านางมาแน่”“ว่าอย่างไรแม่นางหลิง ท่านจะยอมเลิกหรือไม่ แต่ว่า หากท่านมากันแล้ว…ก็..ดื่มกันไปนะ ข้า…”ท่านอ๋องรีบลุกขึ้นและพุ่งไปที่ลี่อินและโอบรอบเอวนางทันที หวังเจาสังเกตเห็นทันทีพร้อมกับแอบยิ้มกับท่าทีของผู้เป็นนายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน“อย่างที่ทุกท่านเห็น ข้าต้องขออภัยที่ข้ามิอาจตอบรับคำเชิญนี้ได้จริงๆ ใต้เท้าหลิง ฮูหยิน ต้องขออภัย ในเมื่อคู่หมั้นข้ามาตามแล้วข้าเองก็หมดเหตุผลที่จะละเลยนางแล้ว แม่นางหลิงขอโทษที่ทำให้เจ้าเสียเวลา น้องหญิงเรากลับจวนกันเถอะ ทุกท่าน ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”“เอ่อ ท่านอ๋อง คือว่า…” “ขอตัวขอรับ”หวังเจารีบปิดท้ายและรีบเดินออกมา ลี่อินงงจนเลิ่กลักและทำตัวไม่ถูก ไม่ใช่แบบนี้สิ เหตุใดไม่รู้มาก่อนว่าเป็นเขาที่อยู่ในห้องนั้น ท่านอ๋องโอบรอบเอวนางเดินออกมาจากห้องจนมาถึงโต๊ะของโอหยางและซินมี่นั่งอยู่“คารวะท่านอ๋องเวย”“คารวะท่านอ๋องเพคะ”“ทุกท่านตามสบาย ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”""คู่หมั้น!!""ทั้งคู่มองตามท่านอ๋องและลี่อินไปอย่างนึกแปลกใจและสงสัย เหตุใดจู่ๆนางเป็นคู่หมั้นท่านอ๋องไปได้ จนกระทั่งซูผิงเดินออกม
สายตานางวันนี้ทำให้เขายอมถอยออกมา นางยังยืนอยู่ที่เดิม“คืนนี้เจ้าพักผ่อนเถอะ ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะส่งข่าวมา”“หม่อมฉันไม่ไป”“เจ้าไปแน่”เขาออกไปทางหน้าต่างพร้อมกับปิดให้นางเรียบร้อย ลี่อินรีบไปบ้วนปากที่มีกลิ่นคาวเลือดของเขาทิ้งพร้อมน้ำตาที่รินไหลไม่หยุด ไม่รู้ว่านางรู้สึกอะไรกันแน่ โกรธที่เขาไม่ช่วยนางที่ถูกรังแก น้อยใจที่เขาไม่สนใจ หรือเกลียดที่เขาใช้นางเป็นเพียงเครื่องมือช่วยงาน หรือหวั่นไหวให้กับเขาเสียแล้ว“หงลี่อิน เจ้าอย่าโง่ เขาเลวขนาดนั้น เจ้าจะรักเขาไม่ได้”นางค่อยๆถอดชุดนั้นออก ชุดนี้เปื้อนเลือดของเขาเสียแล้ว นางไม่อยากเห็น เมื่อนางเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วจึงล้มตัวลงนอน เรื่องในคืนนี้มันทำให้เกิดความรู้สึกหลากหลายจนนางตามไม่ทัน เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวโมโห น้อยใจ เสียใจ และ“มาจูบข้าทำไมกัน คนเลว คนชั่ว ท่านมันเลวเวยห่าวหรานคนเลว เลวๆๆๆๆ ฮืออๆๆ คนเลวว”ด้านนอกนั้น มือที่ยังชุ่มไปด้วยเลือดยังคงยืนฟังเสียงร้องไห้ จนเสียงนั้นค่อยๆเงียบลงไป เขาค่อยๆยกมือที่ไม่เจ็บขึ้นมาลูบที่ริมฝีปากอย่างเบามือ เขาหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เช่นกันว่าเหตุใดจึงไม่ฆ่านาง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะได้ยินความลับขอ
“ใต้เท้าเฉียน ของดีกินทีหลัง อย่าลืมว่าท่านมีเวลากินนางทั้งคืน”“ฮ่าๆๆๆ ท่านอ๋องพูดถูกใจข้ายิ่งนัก ฮ่าๆๆ มา ข้าดื่ม ดื่ม”เฉียนเซินยกเหยือกเหล้าขึ้นมาดื่ม เหล้ายังไม่ทันหมดเหยือก เขาก็ล้มลงโดยง่ายดายจนลี่อินเกือบจะล้มไปกับเขาแต่ท่านอ๋องคว้านางเข้ามานั่งบนตักแทนพร้อมกับเผลอหันหน้าไปเฉียดแก้มนางนิดหนึ่งด้วยก่อนจะกระซิบบอกลี่อิน“อยู่เฉยๆก่อน ข้าจัดการเอง”นางนั่งอยู่บนตักของท่านอ๋องเพื่อมิให้คนอื่นๆสงสัย“ท่านเฉียน ไม่เอาน่า ท่านเมาแล้วหรือ ถ้าเช่นนั้นนางรำผู้นี้เล่า”“นี่ท่าน!!…”“เงียบไป!!”“ใต้เท้าเฉียน....”“เอามือของท่านออกไปนะ”“ข้าบอกให้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวเขาตื่น”“…”“พวกเจ้าออกไปได้แล้ว ใต้เท้าเฉียนเมามาก ข้าจะอยู่กับเขาเอง”นางรำค่อยๆเดินออกไปจนหมด ลี่อินก็เช่นกัน แต่เขาไม่ยอมให้นางลุกจากตักเขา“เหลือเจ้าเอาไว้คนหนึ่งเพื่ออยู่กับข้า ที่เหลือออกไปได้”พวกนางไม่สงสัยอะไร เพียงแค่เดินออกไปตามคำสั่ง เป็นปกติที่แขกอาจจะถูกใจผู้ใดก็จะเรียกเอาไว้อยู่แล้ว พวกนางจึงไม่รู้สึกแปลก เมื่อทุกคนออกไปแล้วลี่อินจึงลุกออกจากตัวเขาทันที ท่านอ๋องนั่งท่านั้นค้างอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองเป้าหมายที่สล
“ท่านอ๋อง..นี่มันบ้าไปแล้ว หากหมดธุระแล้ว ข้าขอตัว”ลี่อินเดินออกไปจะออกจากห้อง“หงลี่อิน!!”ลี่อินหยุดกึกที่หน้าห้อง ไม่รู้ว่าเขาเดินตามนางมาเมื่อใด แต่รู้อีกที ลมหายใจเขาก็รดอยู่ที่ต้นคอนางแล้ว“อย่าลืมว่าเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หาไม่แล้ว..”“หม่อมฉันแล้ว ขอตัวเพคะ”ลี่อินรีบออกจากห้องนั้นอย่างรวดเร็วและรีบกลับมานั่งดูละครต่อ“หวังเจา!!”“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง“กลับจวน”“พ่ะย่ะค่ะ”“ลี่อิน เจ้าไปที่ใดมา ละครกำลังสนุกเลย มาดูเร็วเข้า”“เจ้าค่ะๆ”ลี่อินดูละครไม่รู้เรื่องแล้ว จิตใจนางสั่นไม่เป็นจังหวะ หัวใจนางไม่เคยเต้นเร็วเช่นนี้แม้แต่ในละครที่นางดูก็ไม่เคยทำให้ใจเต้นแรงเหมือนวันนี้มาก่อน“ลี่อิน เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงหน้าแดงเช่นนี้ล่ะ”“ข้า..หน้าแดงงั้นหรือ”“หรือว่าคุณหนูจะมีไข้อีกแล้วเจ้าคะ”“เพ้อเจ้อน่าอาชิง ละครจะจบแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”“ไปสิ ข้าจ่ายเงินแล้ว กลับกันเถอะ”ลี่อินเดินกลับบ้านไปทั้งๆที่ไม่ได้ฟังที่โอหยางรุ่ยพุดเลยว่าเขาคุยอะไรบ้าง นางเอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดเรื่องที่ท่านอ๋องจอมโหดนั่นสั่ง เรื่องที่เขาขู่ เรื่องจิบชา และยังมายืนขู่ก่อนที่นางจะออกจากห้อง“อึ๊ยย
“ท่านอ๋อง ตกลงว่า..”ท่านอ๋องยกมือห้ามก่อนขึ้นรถม้า“ขึ้นรถแล้วค่อยว่ากัน”รถม้าวิ่งออกมาจากจวนเสนาบดีแล้ว เรื่องในวันนี้คงเป็นประเด็นระหว่างเขากับเสนาบดีหงอีกแน่นอนเมื่อบุกมาถึงจวนและยังมาลงโทษฮูหยินของเขาอีกด้วย ทั้งๆที่เขาควรจะผูกมิตรกับเสนาบดีกลาโหมผู้นี้เอาไว้เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า“ท่านอ๋อง”“ส่งคนไปสืบเรื่องของหงลี่อินมาให้ข้า”“สืบเรื่องของนาง ทำไมขอรับ”“ข้าอยากรู้…”ภาพของนางที่มองเขาด้วยความโกรธนั้นยังคงติดตาเขาอยู่ ปากบางที่ซีดจัดของนางยังคงติดอยู่ในใจของเขา“ว่านาง…ได้ยินอะไรหรือไม่”“แล้วคำสั่งก่อนหน้านี้…”“อย่าพึ่งฆ่า จับนางมาสอบสวนก่อน”“ท่านอ๋องไม่ควรประมาทนาง..”“ข้ารู้ ข้าไม่ประมาทนางแน่นอน เพียงแต่ไม่คิดว่านางจะเป็นบุตรีของเสนาบดีหงเสียได้ กลับจวนแล้วค่อยว่ากันเถิด”“ขอรับ”ห้องคุณหนูลี่อิน“คุณหนูฟื้นแล้ว แม่นมอี้ เร็วๆเข้า”“คุณหนู ท่านยังมีไข้อยู่ ดื่มยานี่ก่อนเจ้าค่ะ”“ขอบคุณแม่นมอี้”“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ โธ่คุณหนู เหตุใดต้องเจอเรื่องแบบนี้ไม่สิ้นสุด”“เจ้าอ๋องใจโหดนั่น ข้าเกลียดเขา”“คุณหนูอย่าพูดเช่นนั้นเจ้าค่ะ ท่านไม่รู้ว่าท่านอ๋องโกรธมากที่ฮูหยิ