ท่านอ๋องยิ้มมุมปากพร้อมกับหันไปบอกหวังเจา
“ข้าบอกแล้วว่านางมาแน่”
“ว่าอย่างไรแม่นางหลิง ท่านจะยอมเลิกหรือไม่ แต่ว่า หากท่านมากันแล้ว…ก็..ดื่มกันไปนะ ข้า…”
ท่านอ๋องรีบลุกขึ้นและพุ่งไปที่ลี่อินและโอบรอบเอวนางทันที หวังเจาสังเกตเห็นทันทีพร้อมกับแอบยิ้มกับท่าทีของผู้เป็นนายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“อย่างที่ทุกท่านเห็น ข้าต้องขออภัยที่ข้ามิอาจตอบรับคำเชิญนี้ได้จริงๆ ใต้เท้าหลิง ฮูหยิน ต้องขออภัย ในเมื่อคู่หมั้นข้ามาตามแล้วข้าเองก็หมดเหตุผลที่จะละเลยนางแล้ว แม่นางหลิงขอโทษที่ทำให้เจ้าเสียเวลา น้องหญิงเรากลับจวนกันเถอะ ทุกท่าน ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”
“เอ่อ ท่านอ๋อง คือว่า…”
“ขอตัวขอรับ”
หวังเจารีบปิดท้ายและรีบเดินออกมา ลี่อินงงจนเลิ่กลักและทำตัวไม่ถูก ไม่ใช่แบบนี้สิ เหตุใดไม่รู้มาก่อนว่าเป็นเขาที่อยู่ในห้องนั้น ท่านอ๋องโอบรอบเอวนางเดินออกมาจากห้องจนมาถึงโต๊ะของโอหยางและซินมี่นั่งอยู่
“คารวะท่านอ๋องเวย”
“คารวะท่านอ๋องเพคะ”
“ทุกท่านตามสบาย ข้ากับคู่หมั้นขอตัวก่อน”
""คู่หมั้น!!""
ทั้งคู่มองตามท่านอ๋องและลี่อินไปอย่างนึกแปลกใจและสงสัย เหตุใดจู่ๆนางเป็นคู่หมั้นท่านอ๋องไปได้ จนกระทั่งซูผิงเดินออกมาด้วยหน้าตาที่เปื้อนยิ้ม
“ซูผิง นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“ลี่อินยอดเยี่ยมจริงๆ บุกเข้าไปตอนแรกกะจะแสดงด่าฝ่ายชายว่าเป็นคู่หมั้นนาง ที่ไหนได้ นางดันเป็นคู่หมั้นท่านอ๋องตัวจริงตอนนี้ท่านอ๋องเวยพานางออกไปแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ของหลิงอิงยอมรับข้าแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะพวกเจ้าตามสบายนะมื้อนี้ข้าเลี้ยงเอง”
“เอ่อ เดี๋ยวสิ ซูผิง แล้ว…ลี่อิน..กับท่านอ๋อง อ้าว แล้วข้าเล่า”
“พี่โอหยางเจ้าคะ เรารีบกลับจวนกันก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ เรื่องนี้ทำข้างงไปหมดแล้วเจ้าค่ะ"
“ดีเหมือนกัน ข้าก็พูดอะไรไม่ออกแล้วเหมือนกัน”
บนรถม้าท่านอ๋อง
“ปล่อยนะ ท่านอ๋อง ปล่อยหม่อมฉันนะ”
“อยู่นิ่งๆสิ ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มาแล้วเสียอีก ภารกิจสำเร็จด้วยดี ยอดเยี่ยมมาก”
“หม่อมฉันไม่ได้มาช่วยท่านอ๋องเสียหน่อย”
“หมายความว่าอย่างไร เห็นๆกันอยู่ว่าเจ้าบุกเข้าไปด่าแม่นางหลิงนั่นจนหน้าซีดที่แย่งคู่หมั้นเจ้าไป”
“พระองค์หลงตัวเองเกินไปแล้ว ปล่อยนะ แล้วก็หยุดรถด้วย”
“ข้าไม่สั่งก็ห้ามใครจอดทั้งนั้น”
“นี่พระองค์จะบ้าหรือ หม่อมฉันไม่ไปจอดเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันจะกระโดดลงไปเดี๋ยวนี้”
“อยากลองดีก็เอาสิ ข้าไม่หวงหรอกนะหากเจ้าจะกัดมืออีกข้างของข้าน่ะ”
“พระองค์หลีกไปนะ”
“ข้าต้องการคำอธิบาย หากเจ้าไม่ไปหาข้า แล้วไปที่นั่นทำไม อ้อ ข้าเห็นว่าเจ้าพาน้องสาวกับเจ้าหน้าจืดนั่นมาด้วย มาทำอะไรกัน”
“ไม่ใช่ธุระของท่านอ๋อง บอกแล้วอย่างไรว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระองค์ หม่อมฉันมาที่นี่ก็ไม่ใช่เพราะพระองค์ หากรู้ว่าเป็นท่านอ๋อง ไม่มีทางที่หม่อมฉันจะเข้าไปเป็นอันขาด”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าไม่ได้ตั้งใจเข้าไปก่อกวน แล้วเข้าไปได้เช่นไร”
“พระองค์เห็นหน้าบุรุษที่ตามหม่อมฉันไปหรือไม่ นั่นน่ะ เขาเป็นคนรักของคุณหนูหลิง คู่ดูตัวของพระองค์ในวันนี้ เขาเป็นสหายของคุณชายโอหยาง หม่อมฉันมาที่นี่เพราะเขาชวนข้ามาเที่ยว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับท่านอ๋อง ที่หม่อมฉันช่วยเพราะเขาสองคนรักกัน เลยสมอ้างที่จะเข้าไปด่าคู่ดูตัวของนาง ใครจะคิดว่าคู่ดูตัวของนางจะเป็นพระองค์กันเล่า โชคร้ายจริงๆ”
“เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าว่าใครโชคร้าย”
“ข้านี่ไงโชคร้าย จะช่วยคนแต่ดันเป็น…. เฮ้ออ”
“พระองค์จะพาหม่อมฉันไปที่ใด”
“ข้าหิวแล้ว จะไปกินข้าว”
“แต่หม่อมฉันไม่หิว หม่อมฉันจะกลับจวน”
“ข้าหิว”
“หม่อมฉันไม่หิว พระองค์อยากกินก็ไปกินเอง จอดรถเดี๋ยวนี้นะ”
“พวกเขาไม่ฟังเจ้าหรอก เขาฟังคำสั่งข้าคนเดียว”
“หม่อมฉันไม่ไป”
“นี่เจ้าหยุดนะ มันอันตรายมานี่ มานั่งดีๆ”
“ไม่ ปล่อยนะไอ้คนเลว อ๋องชั่ว คนชั่ว อื้ออ”
“หากเจ้าไม่หยุดข้าจะจูบเจ้าบนรถนี่แหละ ร้องอีกสิ”
หงลี่อินยอมหยุด และดันตัวออกจากเขาโดยเร็ว ตอนนี้แผลที่มือของเขาเลือดเริ่มออกอีกแล้ว เขายกมือขึ้นมาพร้อมกับก้มดู ลี่อินรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่นางก็ยังไม่สนใจเขาเช่นเดิม นางเบือนหน้าหนีเขาตลอดทางที่นั่งมาในรถม้า จนกระทั่งรถนั้นหยุดนิ่ง นางจึงเปิดประตูออกมาจนชนเข้ากับหวังเจา
“อุ้ย ขอโทษเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไรขอรับคุณหนู ท่านจะรีบไปไหนขอรับ”
“กลับจวนน่ะสิถามได้”
“แต่ว่า เอ่อ”
“ตามข้ามานี่”
ท่านอ๋องเดินตามมาจูงมือนางเพื่อเดินเข้าไปที่จวนของเขา
“หยุดนะ ปล่อยมือนะท่านอ๋อง ปล่อยหม่อมฉันนะ”
“เฮ้อ นี่คือแมวจอมพยศที่ท่านอ๋องพูดเมื่อคืนสินะ งานนี้คงเหนื่อยอีกนานเลย”
“ท่านอ๋องปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้นะบอกให้ปล่อยหม่อมฉันจะกลับจวน”
ทหารองครักษ์ทั่วจวนต่างมองพวกเขาที่ดึงกันเข้ามาในจวน ซึ่งท่านอ๋องไม่เคยพาสตรีใดเข้ามาที่นี่มาก่อน
“หากเจ้ายังไม่หยุดข้าจะอุ้มเจ้าไปเดี๋ยวนี้”
“เผด็จการ ป่าเถื่อน”
“ตามมา”
“ปล่อยมือหม่อมฉันสิ”
“ไม่”
“เอ๊ะ ท่านนี่มัน..”
ลี่อินหมดทางที่จะรั้งจึงปล่อยให้เขาจูงนางเดินไป ท่านอ๋องผู้นี้ทั้งเย็นชา ดุดัน เผด็จการและโหดร้าย ไม่รู้วันไหนจะเอามีดจ่อที่คอนางเพื่อขู่ฆ่าอีก
“นั่งลง”
"ที่นี่คือ.."
“จวนข้าเอง”
“ท่านอ๋องพาหม่อมฉันมาที่นี่ทำไมกัน”
“นั่งลง”
ลี่อินยอมนั่งลง เมื่อท่านอ๋องโบกมือให้สาวใช้ยกอาหารมาวางจนเต็มโต๊ะ ลี่อินมองไปที่โต๊ะจนนางเริ่มหิว ห่าวหรานมองนางด้วยความรู้สึกที่แปลกออกไป เขาไม่เคยรู้สึกนึกอยากเอาใจผู้ใดมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้
“กินสิ”
“อย่าได้หวังว่าจะเอาของกินมาล่อ”
“ถ้าเจ้าไม่กิน ข้าก็จะเททิ้ง”
“ไม่ๆๆๆ ของดีๆทั้งนั้นพระองค์จะบ้าหรือ หม่อมฉันกินเอง ไหนๆก็จะเทแล้วนี่ เทในท้องหม่อมฉันก็แล้วกัน หลงไปช่วยพระองค์เอาไว้แล้วนี่ มื้อนี้ก็ถือว่าเป็นการขอบคุณหม่อมฉันก็แล้วกัน”
ลี่อินกินด้วยความเอร็ดอร่อยเพราะนางออกจากจวนมาจนถึงร้านเซิงหวา นางยังไม่ได้จิบชาแม้แต่อึกเดียวก็บุกไปช่วยซูผิงกับแม่นางหลิงจนเจอเขา และก็ถูกลากตัวมานี่ ตอนนี้นางจึงหิวมาก ท่านอ๋องมองนางกินอย่างมีความสุข แต่เพราะเป็นคนยิ้มยาก เขาเลยได้แต่แอบมองจนลี่อินหันมาเห็นเขา
“ท่านอ๋องไม่หิวงั้นหรือ พระองค์ก็ยังไม่ได้กินข้าวนี่”
“ข้า…มือข้าเจ็บน่ะ”
“โอ่วว..”
ลี่อินรู้สึกผิดขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว ที่เขาเจ็บก็เพราะนางกัดเขาสินะ เอาน่ะ ในเมื่อวันนี้ช่วยแล้ว ก็ช่วยให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน ลี่อินหยิบตะเกียบของเขามา และเริ่มคีบข้าวให้เขา
“อ่ะ อ้าปากสิเพคะ”
“นี่เจ้าทำอะไรกัน”
“ป้อนพระองค์อย่างไรเล่า ก็พระองค์มือเจ็บท่านกินเองไม่ได้มิใช่หรือเพคะ”
“คือว่า แบบนี้มัน..”
“อ้าปาก”
“อา…อ้าม”
“ก็แค่นี้เอง จะกินอะไร”
ท่านอ๋องกินข้าวที่นางป้อน เมื่อนางถามเขาจึงเริ่มชี้โดยใช้ตาเพราะพูดไม่ได้ มือก็เจ็บจึงชี้ไม่ได้ ลี่อินจึงชี้ทีละจานและคีบให้เขาและป้อนเขาทีละคำ คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างรู้สึกเหลือเชื่อที่ท่านอ๋องจอมโหดของพวกเขามีช่วงอารมณ์เช่นนี้ด้วย
“อิ่มจังเลย อาาา”
“กินจุเหมือนหมู”
“พระองค์ว่าผู้ใด”
“ว่าเจ้าอย่างไรล่ะ”
“ไปกันเถอะเพคะ”
“ไปไหน”
“ไปห้องพระองค์อย่างไรล่ะ”
จวนสกุลหง“เจ้าสาวจวนเสร็จหรือยัง ขบวนเจ้าบ่าวอีกสองเลี้ยวถนนก็จะมาถึงแล้วนะ”“ใกล้แล้วเจ้าค่ะ”“ลี่อิน ตื่นเต้นหรือไม่”“เจียอี ขอบใจเจ้ามากนะที่เป็นธุระให้ทุกเรื่องเลย หากไม่ได้เจ้าข้าก็คงจัดการอะไรไม่ถูก”“อย่าได้ห่วง งานนี้ข้าเองก็จัดการท่านอ๋องให้ทุ่มสุดตัว พระองค์ยอมเทหมดหน้าตักเพื่อเจ้าเลยนะ ชุดแต่งงานนี่สั่งทำพิเศษใช้ช่างเย็บดิ้นปักทองฝีมือดีเกือบสิบคนรุมกันปักเลยถึงได้เสร็จทัน”“ขบวนเจ้าบ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูหงเรียบร้อยหรือไม่เจ้าคะ”“พี่อี้เหวินมาช่วยข้าที”“เจ้าค่ะคุณหนูอิน”“พี่อี้เหวิน ข้าบอกท่านแล้วว่าอย่าเรียกพวกเราว่าคุณหนู ท่านเป็นฮูหยินใต้เท้าโอหยาง เหตุใดท่านจึงลืมตัวอยู่เรื่อยเลย หากท่านเรียกอีกทีข้าจะโกรธแล้วนะ”“ข้าขอโทษๆลี่อิน ข้าจะไม่ลืมอีกแล้วเจ้าอย่าโกรธข้าเลยนะ”“ต้องแบบนี้สิ แล้วข้าเล่า”“จ้าๆเจียอี ไปกันเถิด ท่านอ๋องมาถึงหน้าประตูแล้ว”อี้เหวินและเจียอีพยุงเจ้าสาวที่สวมผ้าคลุมหน้าเรียบร้อยแล้วออกไปรอเจ้าบ่าวมารับที่หน้าจวน เมื่อพิธีการเริ่มขึ้นนำความปราบปลื้มใจให้กับผู้มาร่วมงานเมื่อส่งตัวเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวที่อยู่บนหลังม้าเพื่อพานางกลับไปยังจวนอ๋องเพื่อ
จวนท่านอ๋อง“กล้าเอาชีวิตและบ้านเมืองเป็นเดิมพัน หมากกระดานนี้ ข้าจะเป็นผู้ล้มมันเอง หวังเจา ตามพวกนางมา” “พ่ะย่ะค่ะ”“พวกเจ้าสามคนต้องทำให้เงียบและแนบเนียนที่สุด คอยสังเกตนางเอาไว้”“เพคะท่านอ๋อง พวกหม่อมฉันทราบแล้ว”“หากแม่นมนั่นไว้ใจพวกเจ้าแล้วก็ทำตามแผนได้เลย หลอกนางเอาของไปซ่อน ปล่อยข่าวลือเท็จเพื่อให้นางไปกระตุ้นหยงฮวาให้หายโดยเร็ว”""รับบัญชาเพคะท่านอ๋อง""ห้องของเฟยซี“พรุ่งนี้เราไปจวนท่านตากันดีหรือไม่”“ดีเจ้าค่ะท่านแม่”“ถ้าเช่นนั้นเจ้ารีบนอนนะ”“แล้วท่านพ่อจะไปกับเราด้วยหรือไม่เจ้าคะ”“ท่านพ่อมีงาน คงจะไม่ได้ไปกับเรา”“แล้วท่านพ่อจะไปหาข้าที่จวนท่านตาหรือไม่เจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านพ่อสอนเขียนอักษรกับวาดภาพอีกเจ้าค่ะ”“คืนนี้เจ้านอนก่อนนะ”“ก็ได้เจ้าค่ะ”เฟยซีหลับสนิทไปแล้ว ลี่อินที่นอนข้างๆนางในห้องที่ท่านอ๋องจัดเอาไว้เพื่อเป็นห้องส่วนตัวของเฟยซี เพื่อจะได้ให้นางเก็บของได้สะดวกเพราะตอนนี้ทั้งอุปกรณ์การศึกษาและของเช่นล้วนมากขึ้นลี่อินเผลอหลับไปโดยไม่ได้ห่มผ้าให้ตัวเอง จนเมื่อตกดึก เมื่อท่านอ๋องประชุมกับหวังเจา ท่านหมอเฉินและสั่งงานองครักษ์เรียบร้อยแล้วไม่เห็นนางอยู่ในห้องจึง
สิบวันก่อนงานพิธีมงคลสมรสพระราชทานพิเศษจากฝ่าบาท ได้มีราชโองการส่งมาที่จวนท่านอ๋องถึงสองฉบับ“ด้วยองค์การแห่งฟ้า ฮ่องเต้มีรับสั่งประทานรางวัลให้กับท่านอ๋องเวยห่าวหรานที่ทำความดีความชอบปราบกบฏและสร้างความสัมพันธ์สองแคว้นต้าหมิงและเสิ่นตู ประทานทองคำยี่สิบหีบ ผ้าไหมทอมือชั้นดีเมือยเจียง หยางยี่สิบพับ เงินหนึ่งหมื่นตำลึง และเพื่อเป็นของขวัญวันสมรส ประทานเรือนพระราชทานหนึ่งหลังพร้อมโฉนดที่ดิน ม้าศึกสามสิบตัว พลเรือนบ่าวไพร่อีกหนึ่งร้อยคนพร้อมเบี้ยหวัดตลอดสองปี จบราชโองการ ”“เวยห่าวหรานรับราชโองการ”“ท่านอ๋อง พระชายายินดีด้วยกับงานสมรส”“ขอบคุณกงกง”ถุงเงินเล็กๆแต่หนักถูกส่งให้เฉินกงกงโดยหวังเจาที่ยื่นให้พวกเขาเมื่อทั้งคู่รับราชโองการมา บรรดาของพระราชทานทยอยขนเข้ามาที่ลานหน้าห้องโถงจวนท่านอ๋อง“เรื่อนพระราชทานตั้งอยู่ใกล้วังหลวง ฝ่าบาทคงไม่ยอมปล่อยให้พระองค์อยู่ไกลจากฝ่าบาทเลยนะเพคะ”“แต่เดิมข้ากับฝ่าบาทสนิทกันอยู่แล้ว แม้ว่าเหล่าขุนนางหลายคนจะพยายามยุยงส่งเสริมให้พระองค์กับข้าผิดใจกันก็ไม่เป็นผล เจ้ารู้เหตุผลหรือไม่”“เพราะท่านพี่ไม่เคยคิดหวังในราชบัลลังก์ ฝ่าบาทจึงได้ครองราชย์แทนใช่หรื
“ไม่จริง!! เพราะเจ้าโผล่มาทำให้ท่านอ๋องหวั่นไหวต่างหาก เดิมทีเขาก็ต้องเป็นคู่หมายของข้าอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทจะส่งเขาไปรับข้าถึงเสิ่นตูหรือ”“หึ ดูท่าเจ้าจะเข้าใจผิดตั้งแต่ตอนนั้นเลยสินะองค์หญิง ข้าจะบอกความจริงอีกอย่างให้เจ้ารู้เอาไว้นะ ข้ากับลี่อินได้หมั้นหมายกันก่อนที่ข้าจะไปรับเจ้าที่เสิ่นตูแล้ว”หยงฮวานั้นเรียกได้ว่าเกิดอาการตกใจสุดขีดจนหน้านางเริ่มไร้ความรู้สึกไปเลยก็ว่าได้เมื่อนางค่อยๆหันไปมองผู้ที่กำลังพูดเรื่องนี้กับนางด้วยเสียงที่เรียบ“ท่าน…ท่านอ๋อง ตรัสว่าอย่างไรนะ พระองค์กับนาง….”“ข้ากับลี่อินได้ตกลงหมั้นหมายกันก่อนที่ข้าจะเดินทางไปรับเจ้าที่เสิ่นตู เดิมทีหน้าที่นี้มิใช่ของข้า แต่เพราแผนการชั่วขององค์ชายสี่ที่ต้องการล่อข้าออกจากเมืองหลวงเพื่อนำเจ้ามาสร้างปัญหาในราชสำนัก เขาจึงกราบทูลฝ่าบาทให้ข้าเป็นผู้ไปรับเจ้ามา แทนที่จะเป็นองค์ชายสามอย่างไรเล่า”“ที่แท้ท่านอ๋องกับบุตรของเสนาบดีหมั้นหมายกันมาก่อนแล้ว พวกเขามีบุตรด้วยกันก็ไม่แปลกแต่นางนี่สิ”“เหตุใดจึงยังไม่ยอมรับอีก ข้าอับอายแทนนางเหลือเกิน”“หึ ฮ่าๆ ที่แท้ทั้งหมดนั่น ตลอดเวลาที่ข้ามาที่นี่ข้าล้วนแต่คิดไปเองข้าหลงนึ
ท่านอ๋องมองหน้าหยงฮวาที่ต้องการคำตอบจากเขา เขาเพียงตอบด้วยเสียงเรียบๆ“หากว่าเจ้าไม่เริ่มใช้แผนสกปรกก่อน ข้าก็คงไม่ตลบหลังเช่นนี้ หยงฮวา”“ท่านมันโหดเหี้ยมเลือดเย็นเกินกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ หลอกใช้ความรักของข้าที่มีต่อพระองค์ทำเรื่องเลวร้ายนี่ขึ้นมา”“เลวร้ายงั้นหรือ ความรักงั้นหรือหยงฮวา เจ้าควรจะรู้เอาไว้นะว่าเรื่องนี้มันเริ่มต้นเมื่อใด เจ้าเริ่มวางแผนวางยาข้าแต่ไม่สำเร็จ ข้าไม่ยอมรับและจับแผนการชั่วครั้งนั้นได้ เจ้าไม่ยอมแพ้และยังให้คนปล่อยข่าวลือทั่วเมืองหลวงว่าข้าอยู่ในห้องนอนกับเจ้าทำเจ้าเสื่อมเสีย" "ส่งจดหมายให้พี่ชายของเจ้าที่เสิ่นตูเพื่อให้เกิดข้อพิพาท กดดันฝ่าบาทให้บีบบังคับข้าแต่งงานกับเจ้า สุดท้ายข้าก็ยอมให้เจ้าเป็นพระสนม เจ้ายังไม่พอใจถึงกับวางแผนชั่วนี่ตลบหลังบีบบังคับข้าจนถึงที่สุดเอาความสัมพันธ์สองแคว้นมาเป็นเดิมพันเพื่อให้ข้าแต่งตั้งเจ้าขึ้นเป็นพระชายา เจ้าคิดว่าแผนชั่วช้าพวกนี้กับการกระทำของข้านั่น มันเทียบกันได้หรือไม่”เสี่ยงก่นด่านางเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ“หน้าไม่อาย คนเข้าไม่ได้รักแต่นางก็พยายามอยากได้เขาจนเขาหมดหนทาง สมน้ำหน้าแล้ว”“ถึงกับกล้าเอาแผ่นดินมาเดิมพัน นาง
หยงฮวาตกใจกับคำที่หลุดออกจากปากนางไป ท่านอ๋องทำเพียงหยักยิ้มที่มุมปากขึ้นเหมือนเยาะเย้ยนาง ใบหน้าเย็นชาเลือดเย็นที่คุ้นเคยนั่นส่งมาให้นาง แล้วตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่ตำหนักของนางนั่นคืออะไรกัน“ได้ยินหรือไม่ นางหลุดปากออกมาเอง”“นี่มันเรื่องอะไรกัน”“พระสนม เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่”“ไม่เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันมิได้เอ่ยเช่นนั้น หม่อมฉันหมายความว่า แม่นมเองก็บอกหม่อมฉันว่าท่านอ๋องตรัสว่าหากหม่อมฉันฟื้นขึ้นมา ท่านอ๋องจะแต่งตั้งหม่อมฉันเป็นพระชายาเพคะ หม่อมฉันพูดผิดเพคะ”“งั้นหรือ พระสนม ถ้าเช่นนั้นเจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าสิ่งนี้คืออะไร”ท่านอ๋องพยักหน้าให้หวังเจานำขวดยาออกมาให้นางดู แม่นมถึงกับทรุดตัวลงกับพื้นทันที นางจำขวดยาสองขวดนั้นได้เป็นอย่างดีเพราะนางเป็นผู้ฝังเองกับมือ หยงฮวาหันไปมองหน้าแม่นม บัดนี้ใบหน้านั้นขาวซีดราวกับถูกยาพิษอีกครั้ง“นี่มัน….นี่คือสิ่งใดเพคะ หม่อมฉันไม่รู้ว่าท่านอ๋องต้องการบอกอะไรกับหม่อมฉัน”“เจ้าไม่รู้งั้นหรือ เจ้าอาจจะไม่รู้ แต่คนข้างหลังเจ้านั่น นางอาจจะรู้ดีก็ได้เพราะว่านางเป็นผู้เอาไปฝังไว้ข้างสระบัวหลังตำหนักของเจ้านี่”“ทะ…ท่านอ๋องเพคะ ไม่…ไม่ใช่นะเพคะ นั่นมันคื