ยามเหมาเสี่ยวหงตื่นมา หลี่เสี่ยวหรูมองหน้านางเสี่ยวหงนะเสี่ยวหงเจ้าถูกคนบ้านั่นอุ้มไปวางห้องตัวเองยังไม่รู้ตัวเลยนะเจ้าเด็กนี่ ถ้าถูกลักหลับจะรู้ตัวไหมเนี่ย
"ฮูหยินน้อย บ่าวไปต้มน้ำให้ท่านล้างหน้าดีไหมเจ้าคะ หรือจะรอตอนเช้า"
"อืม อุ่นน้ำแกงไก่เมื่อวานเถอะ ข้ารอท่านลุงหวงเอาของมาให้น่ะ เดี๋ยวจะทำของอร่อยให้กิน"
เสี่ยวหงติดไฟ เรือนข้างมีครัวให้ได้ต้มน้ำเท่านั้น ไม่มีเครื่องครัวไม่มีวัตถุดิบทำอาหารสักอย่าง หลี่เสี่ยวหรูเดินไปเมื่อวานนางเห็นมีฟักทองขึ้นอยู่จึงไปเดินๆดู ลูกยังกินไม่ได้แต่ดอกกับยอดอ่อนน่าจะพอกินสองคนนายบ่าว กำลังเด็ดยอดฟักทองก็มีเงาตะคุ่มๆ นางจึงหยิบหินก้อนเล็กๆขว้างออกไป
"โอ๊ย เจ็บนะใครกัน"
เจ้าของเงาลุกขึ้น เขากำลังเก็บไข่ไก่ป่าที่หลงมาจากบนเขา ก็มองหาคนที่ปาหินใส่เขา จากนั้นทั้งคู่ก็สบตากัน ที่หลี่เสี่ยวหรูเห็นคิอเด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบสี่สิบห้า หน้าตาหล่อเหลาคมคาย มีส่วนคล้ายหวงจื่อหานบางองศา ก่อนจะเอ่ยถาม
"เจ้าเป็นใครมาทำอะไรที่นี่"
"เจ้าต่างหากมาทำอะไรกัน พี่สาวคนสวยเจ้างามเช่นนี้เป็นคนใช่หรือไม่คงมิใช่ปีศาจจิ้งจอกจำแลงมาหรอกนะ"
"เพ้ย เจ้าเด็กบ้าอ่านนิยายมากไปหรือเปล่า ข้าเป็นเจ้าของเรือนข้างนี่ ยังไม่ตอบคำถามข้าเลยว่าเจ้าเป็นใคร"
"ที่นี่จวนหวง ข้าต่างหากต้องถามว่าท่านเป็นใคร ข้าชื่อหวงป๋อเหวินเป็นหลานชายท่านอาจื่อหานแล้วท่านเล่า"
"ข้าเป็นอาสะใภ้เจ้า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยากเป็นก็เถอะ"
"แล้วท่านมาทำอะไรกันอาสะใภ้"
"มาหาของกิน ท่านอาเจ้ารักข้ายิ่งนักนอกจากผักดองเกลือกับน้ำข้าวก็ไม่มีอะไรให้กินสักมื้อ"
"พวกเขาไม่ส่งอาหารให้ท่านหรือ"
"ไม่อ่ะ เจ้าอย่าชวนคุย เสียเวลาข้าหาของกิน"
"อาสะใภ้ท่านเข้าเรือนเถอะ เดี๋ยวข้ามาจะเอาของกินมาให้"
"อืม เจ้าทำได้หรือข้าอยากได้ ข้าวสาร น้ำตาล แป้งสาลี น้ำมัน ไข่ไก่ แล้วก็ถ่าน"
"ของแค่นี้แค่ข้าเอ่ยคำเดียวท่านก็ได้แล้ว นี่ไข่ไก่ของท่านข้าให้"
หลี่เสี่ยวหรูรับไข่ไก่มาทั้งหมดห้าฟอง เจ้าเด็กหนุ่มวิ่งไปทางจวนข้างๆไม่นานเข้าก็ขนของที่นางบอกมาให้จริงๆ มื้อเช้านี้นับว่าอิ่มแล้ว เสี่ยวหงติดเตาเห็นคุณชายน้อยเรือนใต้เท้าเสนาบดีก็แปลกใจ หลานชายท่านราชครูคนนี้มักถูกดุด่าประจำว่าเกเรไม่สนใจเรียน เขาเป็นบุตรชายของใต้เท้าหวงซานไห่พี่ชายคนโตของท่านราชครู บุตรชายคนนี้เป็นคนโตของเขา
"คุณชายน้อยท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ ไม่กลัวถูกดุอีกหรือ"
"อ้อ เจ้านั่นเองเสี่ยวหง เจ้าเป็นสาวใช้อาสะใภ้หรือ"
"เจ้าค่ะ ว่าแต่คุณชายท่านเอาอะไรมามากมายนักเจ้าคะ"
"อาสะใภ้บอกว่าอยากได้น่ะ อาสะใภ้ข้ามาแล้วข้าบอกแล้วว่าข้าทำได้"
หลี่เสี่ยวหรูนึกเอ็นดูเด็กหนุ่มตรงหน้า ได้ยินมาว่าเสนาบดีหวงซานไห่รับภรรยารองเข้ามาตอนที่ภรรยาเอกตั้งครรภ์ จากนั้นนางก็คลอดเด็กทั้งสองมาใยเวลาไร่เรี่ยกัน ต่อมาไม่นานมารดาของเด็กคนนี้ก็จากไป บุตรชายกลายเป็นคนไม่เอาถ่าน บุ๋นไม่ได้บู๊ไม่ได้จนบิดาเอือมระอา ดูจากการพูดจาโต้ตอบกับนางแล้วไม่ใช่เด็กโง่สักนิด ดูเหมือนแม่เลี้ยงจะพยายามไม่ให้เด็กคนนี้เกินหน้าเกินตาบุตรชายของตนมากว่า หวงซานไห่ หวงจื่อหานทั้งพี่ทั้งน้องสารเลวพอกัน ช่างเป็นคู่พี่น้องที่สารเลวพอกันเลยจริงๆ
"เจ้ากินข้าวเช้าหรือยัง แล้วทำไมต้องมาเดินหาไข่ไก่กินด้วยทั้งที่จวนของเจ้าก็ไม่ได้ขาดแคลนนี่นา"
"ข้าเบื่อนะอาหารมีแต่เดิมๆ ข้าไปที่โรงครัวพวกเขาบอกว่าฮูหยินสั่งไว้อาหารของข้าควรต้องบำรุงให้มากห้ามกินอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ แต่ข้าอยากกินอย่างอื่นบ้าง"
ฟังจากที่เด็กคนนี้พูดถึงชื่ออาหารมีแต่ของที่ทำให้ร่างกายฉลาดเสียด้วยเหมือนจะให้กินแต่ของบำรุง แต่จริงๆไขมันทั้ง หลี่เสี่ยวหรูเอ่ยกับหนุ่มน้อยตรงหน้า
"นี่เจ้าหนูอยากกินอาหารที่ข้าทำหรือไม่ ถ้าอยากข้ามีข้อแลกเปลี่ยน"
"อาสะใภ้ท่านต้องการอันใดขอรับ"
"อืมมานี่มาช่วยทำมื้อเช้าก่อน"
หลี่เสี่ยวหรูจะใช้ประโยชน์จากเจ้าหมอนี่ในการเผยแพร่ภาพวาดของนาง ก่อนจะลงมือผัดดอกฟักทองใส่ไข่ที่เจ้าหนุ่มนี่ให้มา หุงข้าวสวย ทำไข่ตุ๋น แป้งสาลีเก็บไว้ก่อนอาหารเช้าควรง่ายๆ เจ้าหนูน้อยแอบเอาเนื้อหมูมาด้วยงั้นทำหมูทอดอีกอย่างแล้วกัน มีน้ำแกงจากซากสามีที่เข้าพิธีด้วยกันเมื่อคืนเหลืออยู่ มื้อเช้าเป็นอันเรียบร้อย สามคนนั่งกินอาหารกันอย่างอร่อย นี่เป็นมื้อแรกที่อิ่มมากที่สุดหลังจากที่ข้ามมิติมา
"อาสะใภ้ ท่านทำอาหารอร่อยมากขอรับ ข้าต้องไปเรียนแล้ว อาจารย์สอนแต่บทเดิมๆให้ข้า เขาหาว่าข้าโง่งม ที่จริงข้าแตกฉานแล้วแต่เขาไม่ยอมขึ้นบทใหม่สักที น้องรองกับน้องสามไปไกลแล้วแต่ข้ายังไม่ไปไหนเลย"
"เจ้าอยากเป็นขุนนางเหมือนบิดาหรือไม่"
"ข้าอยากค้าขาย เป็นพ่อค้าที่เก่งที่สุดเหมือนท่านตา ข้าอยากไปหาท่านตาแต่ว่าไม่เคยได้ไปเลย ท่านพ่อกับแม่รองบอกว่าให้ข้าตัดขาดเสีย ยกเว้นเวลาต้องการเงินจึงให้ข้าไปหาท่านตาขอรับ"
ปากก็พูดคุยกับหลี่เสี่ยวหรูแต่สายตากับมองแต่เสี่ยวหง นางเป็นคนเดียวที่ยอมพูดคุยกับเขา เป็นคนเดียวที่ยิ้มให้เขา หลี่เสี่ยวหรูมองทุกอริยาบทของหลานสามีคนนี้ เป็นเด็กขาดความรักจริงๆ
"ป๋อเหวินเจ้าลองท่องบทเรียนที่เรียนก่อนหน้าให้ข้าฟังสักหน่อยสิ"
หวงป๋อเหวินค่อยๆท่องบทกลอนบทกวีเหล่านั้นออกมาทีละประโยค นี่เป็นบทเรียนเด็กประถมเองนะ ดูท่าฮูหยินรองคนนี้ไม่ใช่แม่เลี้ยงที่ดีนัก
"เจ้าอยากค้าขายเช่นนั้นเคยเรียนคำนวณหรือไม่"
"ไม่เคยขอรับ ได้ข่าวมาว่าเรียนยากมากนัก"
"ข้าจะสอนให้วันพรุ่งนี้หลังจากเรียนที่จวนเจ้าเสร็จก็หาทางมาที่นี่เอาตำรามาด้วย เจ้าอยากค้าขายข้าจะสอนทุกอย่าง บิดาเจ้าไม่สมควรเป็นพ่อคนจริงๆนั่นแหละ"
หวงป๋อเหวินพยักหน้าจากนั้นก็กลับไป
หลังจากงานเลี้ยงผ่านไป หวงจื่อหานและสหายของเขาก็จัดรถม้าเพื่อพาเมียรักและเด็กๆไปที่ทุ่งดอกไม้ บรรดาบุตรสาวบุตรชายก็ดีใจที่บิดาจะพาไปเที่ยว ทุกคนตื่นเต้นกันมากยามซื่อเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว รถม้าหลายคันก็เคลื่อนออกจากหมู่บ้านไปที่ทุ่งดอกไม้ ใกล้ฤดูเหมันต์แล้วดอกไม้งามสะพรั่งไปหมด ขางทางสองฝั่งเด็กๆต่างตื่นเต้น กิ่งไม้มีกะรอกตัวน้อยๆไต่ไปมารถม้าสิบสามคันเคลื่อนจนมาถึงบริเวณทุ่งดอกไม้ ทั้งสิบสองคู่ต่างก็นั่งกอดคนรักของตนเอง เด็กๆมีสาวใช้และพี่เลี้ยงตามมาดูแลหวงเทาจุงมือชุ่ยชุ่ยเดินเล่น ครั้งก่อนนางท้องอยู่เขาจึงไม่ได้พานางชมรอบๆโจวจื่อหมิงกับซุนเฟิงย่าก็พากันไปนั่งอีกมุม เฉินอี้นังอยู่กับจางลี่อิน ทอดมองไปยังเบื้องหน้าหยางหมิงเช่อกับจ้าวหลาน และเหลียงหมิงเทากับหูไห่ถิง ปูเสื่อนั่งเล่นอยู่กับเด็กๆ ไหวอ๋องกับหนิงอ๋องเอารถม้าไปจอดอีกด้าน ก่อนจะมาสมทบพวกเขา ถังฟั่น เย่เซียวฉาง จินหยูเฟิง มาถึงทีหลังเพราะบรรดาบุตรชายบุตรสาวงอแงกว่าจะเอาลงก็เหนื่อยมากนักปลายยามอู่ได้เวลามื้อเที่ยงจึงมารวมกันที่ใต้ตนไหว เพื่อเข้าร่ม หวงจื่อหานที่ตอนนี้นั่งพัดโบกให้เมียตนเอง แม้ว่าอากาศจะเริ่มเย็นแล้ว แต่เพร
จวนหวงกำลังวุ่นวายรวมถึงจวนหยางด้วย จวนหวงเรือนใหญ่ต่างรอรับลูกสะใภ้ ส่วนจวนหวงเรือนราชครูกำลังวุ่นวายเพราะต้องส่งเจ้าสาวไป๋อี้ถงยามที่สวมชุดเจ้าสาวแล้วนับว่างามมากนัก ขนาดหลี่เสี่ยวหรูยังตะลึง“อี้ถงของพี่งามเหลือเกิน มิน่าคุณชายน้อยสกุลหยางถึงไปไหนไม่รอด”“จริงด้วย พี่เสี่ยวหรูพูดถูกอี้ถงของพี่ลี่อินงามที่สุด อีกเดี๋ยวพี่จ้าวหลาน พี่เฟิงย่ากับพี่ไห่ถิงก็มาแล้ว”“พวกพี่เอ่ยชมจนข้าลอยได้แล้วเจ้าค่ะ พี่ๆข้ากลัวจังเลย แต่งงานต้องมีลูกคลอดบุตร ข้านั่งฟังพวกท่านเจ็บท้องคลอดมาแปดปีแล้ว จนไม่อยากท้องเองเอาเสียเลยเจ้าค่ะ”“ฮ่าๆๆ น้องห้าเจ้าว่าเช่นนี้ทำอย่างไรกันดีเล่า สงสารคุณชายน้อยเสียแล้วเมียไม่อยากท้อง”“พี่ใหญ่ ท่านว่าอย่างอี้ถงนี่แฝดสี่เลยดีไหมเจ้าคะ”“ไม่นะ พี่ๆอย่าอวยพรกับแบบนี้สิเจ้าคะ แค่คนเดียวก็เจ็บมากแล้ว ดูตอนที่พี่อี้จูคลอดคนที่สองสิ ขนาดคนเดียวยังเบ่งข้ามวันข้ามคืน”สองสาวหัวเราะให้กัน ไม่นานอีกแปดสาวก็มา เสี่ยวหงเอาขนมโก๋อ่อนมาให้เจ้าสาวได้รองท้องก่อน แม้ว่านางจะมีบุตรให้กับถังฟั่นและเข้าหอก่อนแต่ง แต่เมื่อถึงเมืองหลวงเขาก็จัดงานแต่งใหญ่โตสมกับฐานะของนางเสี่ยวหงในฐานะน้องส
ทางด้านคนที่พวกเขากล่าวถึงตอนนี้กำลังโดนคนตัวโตลงโทษอยู่ที่เรือนพักของนาง เมื่อเช้านางไปเตรียมของเพื่อจะกลับไปงานครบรอบอายุแปดสิบของท่านปู่ไป๋ลิ่ว ซูจิ้งเฟิงคุณชายซูที่บังเอิญมาเจอนางก็อาสาช่วยหิ้วของกลับมาส่งที่เรือน บิดาไม่อยู่วันนี้เขาค้างที่สำนักศึกษา ใครจะรู้ว่าหยางฮ่าวจะตามาถึงเรือนแล้วหาเรื่องทะเลาะกับนาง"ออกมานะไป๋อี้ถง"หยางฮ่าวที่เดินตามทั้งสองคนมาเมื่อเห็นซูจิ้งเฟิงเข้ามาในบ้านด้วยก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้าตะโกนเรียกคนด้านในทันที ไป๋อีีถงเดินออกมาทันทีที่เห็นหน้าเขาก็ถอนหายใจ ไป๋อี้ถงเชิญให้ซูจิ้งเฟิงนั่งรอแต่หยางฮ่าวไม่สนใจไล่เขากลับทันที"คุณชายซู..ท่านไม่ควรมานั่งในบ้านสตรีที่มีคู่หมั้นแล้วเช่นนี้นะ""ห๊ะ ห๊า คะ คู่หมั้นหรือ คุณหนูไป๋ท่านมีคู่หมั้นแล้วหรือขอรับ ไม่ทราบว่าบุรุษโชคดีผู้นั้นเป็นใครกัน""เป็นใครไม่สำคัญ แค่รู้ว่านางมีคู่หมั้นแล้วก็พอกระมังซูจิ้งเฟิง"ซูจิ้งเฟิงไม่ยอมแพ้ ไป๋อี้ถงงามเพียงนี้ต่อให้มีคู่หมายแล้วอย่างไร อีกอย่างหากมีจริงทำไมไม่เปิดเผยออกมาจึงได้ย้อนหยางฮ่าวกลับไป"รองเจ้ากรม ท่านกล่าวอันใดกันขอรับ หากคุณหนูไป๋มีคู่หมั้นจริงๆเหตุใดไม่เผยตัว เรื่องนี้อ
ซุนเฟิงย่าที่นั่งฟังมานานเอ่ยขึ้น นางเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตหยางจ้าวเหิงกับโจวหนิงฮวาบุตรสาวจะเป็นเช่นไร ตอนนี้เด็กๆยังไม่เจออะไรมากกว่านี้ เมื่อถึงเวลาบ่ายรถม้าของจวนก็มารับพวกนางกลับไป จางลี่อินเดินกลับเองเพราะจวนติดกัน แต่เฉินอี้ไม่ยอมเขาเอาม้ามารับเมีย ส่วนลูกๆสาวใช้พาขึ้นรถม้ากลับไปแล้ว ตั้งแต่ประความเข้าใจกันได้บรรดาสามีก็รักหลงและหวงภรรยาตนเองมากนักโดยเฉพาะหวงจื่อหานหลี่เสี่ยวหรูที่ไม่ได้ไปสำนักศึกษาเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุด ไป๋หยินมาหาที่เรือนกลางเขามีเรื่องจะเอ่ยกับนาง"ฮูหยินน้อย..ข้าเองขอรับไป๋หยิน""ท่านอาไป๋ เข้ามาเถอะ"ไป่หยินเดินเข้ามาก่อนจะนั่งลง หลี่เสี่ยวหรูกำลังสอนบุตรชายสองคนวาดภาพอยู่ ส่วนอีกสองคนเพิ่งจะสามขวบเท่านั้นกำลังเล่นของเล่นที่นางวาดแบบให้ช่างในเมืองหลวงทำขึ้นมา หวงจื่อเหยียนกำลังคัดอักษรเพราะท่านแม่ไปสืบทราบมาแล้วนางชวนเด็กๆเล่นพนันจริงๆ อีกทั้งยังมีเดิมพันอีกด้วย ไปหัดเรื่องเหล่านี้มาจากไหนกัน ไป๋หยินที่นั่งลงเรียบร้อยก็เอ่ยขึ้นมา"ฮูหยินน้อยอีกสองเดือนจะเดินทางกลับหมู่บ้านเถาฮวา ใกล้ครบรอบอายุแปดสิบของท่านลุงไป๋ลิ่วแล้วขอรับ""อ้อ..ข้าจะเอ่ยเรื่องนี่กับท่
หลี่เสี่ยวหรูที่ตอนนี้มาอยู่ที่ต้าเย่วกว่าแปดปีแล้ว นางเปิดสำนักศึกษาจนตอนนี้ฮ่องเต้ได้เอาการเรียนการสอนของนางไปเป็นต้นแบบในหลายๆเมือง สตรีทั่วแคว้นต่างก็ได้รับการเรียนรู้ สตรีรู้หนังสือนั่นนับว่าดี ขุนนางหัวเก่าไม่กล้าต่อกรกับนางสามีเป็นราชครู บิดาเป็นเทพสงคราม เสด็จอาเป็นผู้ตรวจการและผู้แทยพระองค์ มีเสด็จลุงเป็นฮ่องเต้ใครจะกล้ากับนางกัน ทุกๆวันหยุดทุกคนมารวมตัวกันที่จวนหวง เด็กๆวิ่งเล่นกันเต็มไปหมดหวงจื่อหานกับหลี่เสี่ยวหรู มีบุตรชายสี่คนบุตรสาวหนึ่งคนและนางกำลังตั้งครรภ์ที่สามหยางหมิงเช่อกับจ้าวหลานมีบุตรชายสามคนบุตรสาวสองคนโจวจื่อหมิงกับซุนเฟิงย่ามีบุตรชายสี่คนบุตรสาวสามคนเหลียงหมิงเทาที่ได้รับสืบทอดตำแหน่งอ๋องต่อจากบิดาตอนนี้เขากับหูไห่ถิงมีบุตรชายสามคนบุตรสาวสามคนเฉินอี้กับจางลี่อินมีบุตรชายสามบุตรสาวหนึ่งทางด้านปี้เฉากับยเย่วเซียวฉางมีบุตรสามคน เสียวหงกับถังฟั่นสามคน อี้จูกับจินหยูเฟิงสามคน ชุ่ยชุ่ยกับหวงเทามีบุตรห้าคนอ้ายเฟยหรงทำลูกแข่งกับพี่ชายไม่พัก เขากับเสี่ยวเล่อมีบุตรด้วยกันแล้วสี่คน พี่ชายสี่สิบเก้าแล้วมีบุตรแฝดสองคู่ตอนนี้ไป๋หย่งเหนียนกำลังตั้งครรภ์ท้องที่สามแล
ทั้งห้าคนสอนอยู่ที่สำนักศึกษาจนบ่าย บรรดาสามีกลับก่อนกำหนดหนึ่งวันพอรู้ว่าเมียมาสอนลูกศิษย์ก็โมโหพวกนาง มาถึงก็อุ้มเมียตัวเองกลับบ้าน เดินตั้งแต่สำนักศึกษาจนถึงจวน พวกนางอายแทบแทรกแผ่นดิน คนเห็นทั่วเมืองหลวงเพียงนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน คนบ้าพวกนี้"พี่จื่อหมิง..ให้ข้าเดินเองเถอะเจ้าค่ะ""เฟิงย่า..เจ้าดื้อนักหายแพ้ท้องเมื่อไหร่จะถูกพี่ลงโทษ"ซุนเฟิงย่าหน้าแดง หูไห่ถิงเองที่เหลียงหมิงเทาอุ้มนางอยู่ก็หน้าแดงเช่นกัน ร้านค้าข้างทางมองพวกเขาแล้วอมยิ้ม"ดื้อนัก บอกว่าให้พักผ่อน หายแพ้ท้องค่อยมาก็ยังได้ บอกแล้วมิใช่หรือว่าหากพี่ไม่อยู่ห้ามออกจากจวน""ซื่อจื่อ ข้าอายคนนะ""อายทำไม ผัวเมียรักกันมีอะไรต้องอาย หื้มม"เหลียงหมิงเทาไม่สนใจ ยังคงอุ้มเมียเดินตัวปลิว หยางหมิงเช่ออุ้มจ้าวหลานเดินเงียบๆไม่เอ่ยสิ่งใด แต่คนในอ้อมกอดรู้แล้วว่าคืนนี้จะโดนอะไรนางจึงเอ่ยเบาๆ"พี่หมิงเช่อ...คืนนี้อย่าหักโหมนะเจ้าคะ เบาๆหน่อยข้าท้องอยู่""รู้ตัวว่าท้องอยู่เหตุใดยังออกไปทำเรื่องให้ตนเองไม่สบายตัวอีกหื้ม พี่จะลงโทษอย่ามาอ้อนวอนเลย"จ้าวหลานกอดคอเขาแนบใบหน้ากับอกเขาก่อนจะเอ่ยอุบอิบ"อยู่เฉยๆก็โดนลงโทษทุกวันอยู่ด