Share

บทที่ 36 เล่นงานสุ่ยอี้หรง

Author: BigM00N
last update Last Updated: 2025-05-23 21:45:31

หลังจากเกิดเรื่องที่งานเลี้ยงน้ำชาในจวนสกุลสุ่ย สุ่ยเม่าเจ้ากรมพิธีการของแคว้นเหลียนก็ถูกตามตัวกลับมาที่จวนอย่างเร่งด่วน เมื่อเขาเข้าไปในโถงหลักของสกุลก็เห็นว่าในยามนี้ฮูหยินและบุตรสาวทั้งสองของเขากำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้านายท่านผู้เฒ่าผู้เป็นบิดาของเขาอยู่ เขาจึงรีบเข้าไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าบิดาของเขาเพื่อแสดงออกถึงความสำนึกผิดในทันที

“ท่านพ่อเรื่องในวันนี้พวกนางล้วนทำเต็มที่แล้ว แต่เพราะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นทำให้แผนการที่วางเอาไว้เสียหาย” คำแก้ตัวของสุ่ยเม่าทำให้นายท่านผู้เฒ่าสกุลสุ่ยตวาดออกมาในทันที

“เหตุสุดวิสัยหรือเจ้าลองสอบถามบุตรสาวและภรรยาของเจ้าให้ดีว่าแท้จริงแล้วเป็นเหตุสุดวิสัยหรือเป็นเพราะความโง่เขลาของพวกนาง หากบุตรสาวของเจ้าไม่โง่เขลาจนทำแผนการที่วางเอาไว้ของข้าแตกป่านนี้ข้าก็คงจะสามารถทำให้ชื่อเสียงขององค์ชายรองด่างพร้อยได้ดังที่ข้าเคยรับปากกับองค์ชายใหญ่เอาไว้แล้ว ถึงยามนั้นเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็กของเจ้าก็คงจะสามารถคว้าตำแหน่งพระชายาเอกขององค์ชายใหญ่เอาไว้ได้ดังที่ข้าหมายมั่นปั้นมือเอาไว้” คำพูดของนายท่านผู้เฒ่าทำให้สุ่ยเม่าก้มหน้าลงเพื่อปิดบังสีหน้าของตนเอง

“ท่านพ่อขอแค่พวกเราสามารถผลักดันองค์ชายรองจนสามารถคว้าตำแหน่งองค์รัชทายาทได้พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้แล้ว” คำพูดของสุ่ยเม่าทำให้นายท่านผู้เฒ่าเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย

“เช่นนั้นเหตุใดก่อนหน้านี้จึงไม่พยายามให้มากกว่านี้กันเล่า ทั้งเจ้าและน้องสาวของเจ้าได้ทำสิ่งใดเพื่อผลักดันองค์ชายรองกันบ้าง อย่าว่าแต่เลี้ยงดูให้ดีให้มีความสามารถเทียบเท่าองค์ชายใหญ่ได้เลย แค่ทำให้องค์ชายรองทรงอยู่กับร่องกับรอยอย่างที่องค์ชายพระองค์อื่นทรงเป็นกันก็ยังทำไม่ได้เลย มีตำแหน่งฮองเฮาอยู่ในมือแล้วอย่างไรหากวันหน้าองค์ชายใหญ่ได้ขึ้นครองราชย์ก็จะต้องหาทางยกย่องพระมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างหยางเต๋อเฟยอยู่ดี ถึงยามนั้นอย่าว่าแต่ฮองเฮาที่ไร้อำนาจอย่างน้องสาวของเจ้า แม้แต่จวนสกุลสุ่ยของพวกเราก็คงจะต้องถูกกำจัดในเร็ววันแน่” เมื่อนายท่านผู้เฒ่าสกุลสุ่ยเอ่ยเช่นนี้สุ่ยเม่าก็ทอดถอนใจออกมา

“เหตุใดลูกจึงจะไม่พยายามกันเล่าท่านพ่อ ที่ยามนี้ลูกไปประจบประแจงฉินอ๋องก็ไม่ใช่เพื่อองค์ชายรองหรอกหรือ กองกำลังของฉินอ๋องมีไม่น้อยไปกว่ากองกำลังรักษาเมืองของฝ่าบาท ยิ่งหากสามารถดึงนิ่งอันโหวมาเป็นพวกได้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลถึงอนาคตของสกุลสุ่ยของพวกเราแล้ว” คำพูดของสุ่ยเม่าทำให้นายท่านผู้เฒ่าร้องเฮอะ! ออกมา

“ฉินอ๋องผู้นั้นเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถซื้อใจเขาได้แล้วหรือ แค่เพียงส่งลูกสาวที่ถือกำเนิดจากอนุของเจ้าไปเป็นพระชายารองของฉินอ๋องได้เจ้าก็ถือว่าตนเองสามารถดึงเขามาเป็นพวกได้แล้วหรือ บุตรสาวผู้นั้นของเจ้านอกจากชาติกำเนิดจะต้อยต่ำแล้วยังไม่ค่อยจะฉลาดเฉลียวสักเท่าไหร่ แค่นางสามารถยืนหยัดในจวนอ๋องได้นานขนาดนี้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว” คำพูดของนายท่านผู้เฒ่าทำให้สุ่ยเม่าเม้มปากแน่นเพื่อระงับความอยากจะโต้เถียงบิดาของตนเอง นายท่านผู้เฒ่าสกุลสุ่ยจึงได้เอ่ยต่อเพื่อตำหนิบุตรหลานของตนเอง

“ส่วนบุตรสาวภริยาเอกของเจ้าก็ช่างงามหน้านัก คนโตอุตส่าห์คว้าตำแหน่งฮูหยินซื่อจื่อจวนกั๋วกงเอาไว้ได้แต่กลับไม่อาจคว้าใจของสามี ส่วนคนรองก็โอ้อวดว่าจนเป็นที่โปรดปรานของสามีแต่กลับไม่อาจจะคว้าตำแหน่งฮูหยินผู้เป็นภรรยาเอกมาได้ ยังไม่นับน้องสาวสุดที่รักของเจ้าที่อุตส่าห์ความตำแหน่งฮองเฮามาอยู่ในมือได้แต่อำนาจการปกครองวังหลังกลับอยู่ในมือของเต๋อเฟยที่มาจากสกุลหยาง ข้าผู้นี้ทำเวรทำกรรมอันใดไว้กันแน่เหตุใดจึงได้มีแต่ลูกหลานที่ไม่ได้ความเช่นนี้” นายท่านผู้เฒ่าเอ่ยพลางทอดถอนใจออกมา

“ไป! อี้หรง เจ้าจงกลับไปที่จวนกั๋วกงของเจ้าเสียยามนี้แม่สามีของเจ้าคงจะรู้เรื่องที่เกิดในงานเลี้ยงแล้ว จงรีบกลับไปอธิบายให้นางได้เข้าใจไม่เช่นนั้นอย่าว่าแต่คว้าใจของสามีเอาไว้ไม่ได้แต่ต่อไปเจ้าอาจจะไม่ใช่คนโปรดของแม่สามีของเจ้าอีกเป็นแน่” เมื่อนายท่านผู้เฒ่าเอ่ยเช่นนี้สุ่ยอี้หรงก็โขกศีรษะที่พื้นอีกครั้งแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ขอท่านปู่ได้โปรดลดโทสะด้วย หลานจะรีบกลับไปอธิบายให้แม่สามีของหลานเข้าใจก่อนว่าเรื่องในวันนี้เป็นการเข้าใจผิดกัน เมื่อแม่สามีของหลานไม่คิดตำหนิหลานเรื่องนี้แล้วหลานจึงจะขออนุญาตจากนางเพื่อมาน้อมรับคำตำหนิของท่านปู่อีกครั้ง” เมื่อสุ่ยอี้หรงเอ่ยเช่นนี้นายท่านผู้เฒ่าก็สะบัดชายแขนเสื้อแล้วเอ่ยกับนางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“เจ้ารีบกลับไปเถอะ” เมื่อนายท่านผู้เฒ่าเอ่ยเช่นนั้นสุ่ยอี้หรงก็ขยับตัวลุกขึ้นแล้วย่อกายคารวะอำลาผู้อาวุโสทุกคนภายในห้องอีกครั้งแล้วก็เดินออกจากห้องโถงหลักของจวนสกุลสุ่ยไป

ยามที่อยู่บนรถม้าแล้วสุ่ยอี้หรงจึงได้ระบายโทสะที่เก็บกักเอาไว้กับสาวใช้ของตนเอง สำหรับนางแล้วเรื่องในวันนี้นางคิดว่าไม่ใช่ความผิดของนาง แต่เป็นความผิดของโม่ชิงเยว่ รวมทั้งคนวางแผนการอย่างนายท่านผู้เฒ่า

“เหตุใดคนอย่างโม่ชิงเยว่จึงได้ดวงดีทุกครั้ง ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่ข้ากับน้องรองวางแผนทำลายนาง นางจึงโชคดีสามารถรอดพ้นจากการวางแผนของพวกข้าได้แทบจะทุกครั้ง” สุ่ยอี้หรงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ สาวใช้ของนางจึงได้รีบรินน้ำชาแล้วส่งให้นาง

“บ่าวคิดว่าอาจจะไม่ใช่เพราะความโชคดีก็ได้นะเจ้าคะ” เมื่อสาวใช้เอ่ยเช่นนี้สุ่ยอี้หรงที่กำลังจิบน้ำชาเพื่อดับความกระหายก็ขมวดคิ้วแน่น

“เจ้าคิดว่านางอาจจะมีความสามารถที่พวกเราคาดไม่ถึงเช่นนั้นหรือ” คำถามของสุ่ยอี้หรงทำให้สาวใช้พยักหน้า สุ่ยอี้หรงจึงได้หัวเราะออกมา

“หากนางมีความสามารถจริงก็คงจะไม่ถูกน้องรองส่งไปอยู่อย่างอดอยากท้ายจวนโหวได้หรอก ข้าคิดว่าล้วนเป็นเพราะแผนการที่วางเอาไว้ไม่รัดกุมเสียมากกว่า” สุ่ยอี้หรงเอ่ยออกมาพลางคิดถึงถ้อยคำตำหนิของนายท่านผู้เฒ่าสกุลสุ่ย

“เอาแต่โทษลูกหลานหากตนเองมีความสามารถจริง แล้วเหตุใดจึงยังต้องพึ่งพาลูกหลานที่เป็นสตรีของสกุลเล่า หากไม่ใช่เพราะแผนการของท่านปู่ท่านอาจะกลายเป็นฮองเฮาที่ไร้อำนาจในวังหลังเช่นนี้หรือ หากไม่ใช่เพราะแผนการของท่านปู่น้องรองจะต้องแต่งไปเป็นอนุเช่นนี้หรือ ส่วนข้าหากไม่เพราะแผนการของท่านปู่สามีของข้าก็คงจะไม่คิดรังเกียจข้ามากมายถึงเพียงนี้” คำพูดของสุ่ยอี้หรงทำให้สาวใช้ของนางทอดถอนใจออกมา ด้วยตัวนางเองก็มีฐานะเป็นแค่เพียงสาวใช้ไม่มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์เจ้านายได้อยู่แล้ว

“ว่าแต่เสี่ยวเหยาเหตุใดวันนี้บนรถม้าจึงได้ร้อนอบอ้าวเช่นนี้กันเล่า” เมื่อสุ่ยอี้หรงเอ่ยถามเช่นนี้สาวใช้ของนางก็พยักหน้า

“นั่นสิเจ้าคะ” สาวใช้เอ่ยพลางเปิดม่านออก เมื่อสายลมอันเย็นฉ่ำพัดเข้ามาทางหน้าต่างความร้อนรุ่มที่ระบุไม่ได้ของสุ่ยอี้หรงก็พลันผ่อนคลายลง แต่ยามที่สายตาของนางสบเข้ากับสายตาขององครักษ์ประจำกายที่คอยคุ้มกันความปลอดภัยให้นางอยู่ด้านนอกความร้อนรุ่มภายในกายของนางก็พลันก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

“เสี่ยวเหยา เจ้าไปเรียกเขาเข้ามา” เมื่อเจ้านายเอ่ยเช่นนี้เสี่ยวเหยาก็ไม่ได้คิดอันใดรีบสั่งให้คนขับรถม้าหยุดรถแล้วตนเองก็ออกไปเชิญองครักษ์ผู้นั้นให้ขึ้นไปบนรถม้าในทันที ส่วนตัวนางเพราะคิดว่าเจ้านายอาจจะกำลังวางแผนการเล่นงานผู้อื่นนางจึงไม่ได้ขึ้นไปบนรถม้าดังที่มักจะทำ

“ฮูหยิน...” เสียงปฏิเสธขององครักษ์พร้อมด้วยเสียงกุกกักแปลกๆ บนรถม้าทำให้เสี่ยวเหยาอดใจหายไม่ได้ นางรีบเดินไปที่หน้าต่างแล้วเอ่ยถามเจ้านายของตนเองในทันที

“ฮูหยินเจ้าคะ” นางส่งเสียงถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่เสียงหอบหายใจและขยับของคนที่อยู่ด้านในรถม้าทำให้เสี่ยวเหยาร้อนใจในทันที

“เจ้าอย่ามายุ่ง แล้วก็จงปิดปากให้สนิทด้วย” สุ่ยอี้หรงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจยามนี้องครักษ์ผู้นั้นถูกนางกดเอาไว้ใต้ร่างเรียบร้อยแล้ว นางจึงได้โน้มกายไปกระซิบที่ข้างหูของเขา

“หากเจ้ามอบความสุขให้ข้า เรื่องของเจ้ากับเสี่ยวเหยาข้าจะช่วยสนับสนุนเอง” คำพูดของสุ่ยอี้โหรวทำให้องครักษ์ผู้นั้นนิ่งงันไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่กรุ่นกำจายออกมาจากกลีบปากของนางทำให้ตัวเขาเองก็หมดความยับยั้งชั่งใจเช่นเดียวกัน เขาจึงได้พลิกร่างกายอันอ่อนนุ่มของนางลงไปอยู่ใต้ร่างแล้วลงมือทำเรื่องที่อยากทำโดยไม่สนใจสถานการณ์รอบข้างในทันที...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 40 ปิดล้อมจวนสกุลสุ่ย

    ยามที่ขบวนแห่โลงศพของสุ่ยอี้หรงเคลื่อนผ่านไปแล้ว โม่ชิงเยว่จึงได้หันมาทางบุตรชายและบุตรสาวของตนเอง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอกับขบวนแห่เช่นนี้พวกเขาจึงได้จ้องมองด้วยความสนใจ“อย่าได้มองอีกเลย เกิดแก่เจ็บตายล้วนเป็นเรื่องธรรมดา” โม่ชิงเยว่เอ่ยกับลูกๆ ของนางด้วยน้ำเสียอ่อนโยน ซึ่งเด็กๆ ก็พยักหน้าแล้วหันไปให้ความสนใจกับของเล่นในร้านค้าอีกครั้ง“เขาคือคนที่สังหารสุ่ยอี้หรงเองกับมือ ข้าขอเตือนเจ้าว่าเหยียนเซียวไม่ใช่คนที่เจ้าควรจะข้องแวะด้วย” เสียงกระซิบของคนที่มายืนข้างหลังทำให้โม่ชิงเยว่กะพริบตาแล้วจึงได้ยิ้มออกมา“เหตุใดวันนี้ใต้เท้าจึงได้ออกมาเดินเที่ยวเล่นได้” คำถามของนางทำให้สายตาทุกคู่จ้องมองไปที่เขา ชายหนุ่มที่มีหน้ากากโลหะบนใบหน้าย่อมจะดูแปลกตาในสายตาของผู้อื่น“ข้ามาทำงานแต่บังเอิญเห็นฮูหยินเข้าก็เลยแวะเข้ามาทักทาย” ซ่งเหวินจิ้งเอ่ยแล้วจ้องมองบุตรสาวและบุตรชายที่กำลังจ้องมองเขาด้วยแววตาที่ฉายความสนใจ เขาจึงได้ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับสายตาของเด็กๆ แล้วเอ่ยกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“คุณหนูและคุณชายอยากได้ของชิ้นไหนบอกข้าได้เลยนะ อืม หุ่นไม้ตัวนั้นดีไ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 39 สาสม

    แม้ว่าในใจจะกล่าวโทษตนเองที่ก่อนหน้านี้ทั้งโง่เขลาและอ่อนแอ แต่ส่วนลึกของใจโม่ชิงเยว่ก็ยังอดรู้สึกกล่าวโทษซ่งเหวินจิ้งไม่ได้ ดังนั้นการนิ่งเฉยของนางอาจจะดูเหมือนว่านางให้โอกาสเขาแต่โม่ชิงเยว่ก็ยังคงไม่อาจจะให้อภัยเขาได้ดังที่ซ่งเหวินจิ้งต้องการ นางจึงไม่ได้ละทิ้งเป้าหมายของตนเอง นางไม่ต้องการพึ่งพาผู้ใดและไม่ต้องการที่จะเฝ้ารอคอยและร้องขอความเมตตาจากผู้อื่นอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่สะสางธุระภายในจวนเสร็จเรียบร้อยแล้วนางจึงได้เตรียมตัวที่จะออกไปสำรวจตลาดด้วยตนเอง“ท่านแม่ให้ข้าสองคนติดตามไปด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ” ซ่งจื่อเหยาเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าโม่ชิงเยว่และชุ่ยเหมยเตรียมตัวที่จะออกจากจวนเสร็จแล้ว“ท่านแม่พวกข้าสองคนไม่ค่อยจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาภายนอกสักเท่าไหร่ ท่านให้ข้าและพี่หญิงติดตามท่านออกไปด้วยได้ไหมขอรับ” เมื่อซ่งจื่อเยว่เอ่ยเช่นนี้โม่ชิงเยว่ก็นิ่วหน้า แต่เมื่อคิดได้ว่านางไม่ค่อยจะได้พาลูกๆ ออกไปเที่ยวข้างนอกเลยสักครั้งนางจึงได้ยินยอมพยักหน้าแล้วตอบตกลงลูกทั้งสองไป“พวกเจ้าจะติดตามแม่ไปด้วยก็ได้แต่จงจำเอาไว้ว่าถ้าหากพวกเจ้าดื้อรั้นไม่ฟังคำของแม่ แม่จะส่งพวกเ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 38 ขอโทษ

    ยามที่โม่ชิงเยว่ได้รับข่าวการสิ้นชีวิตของสุ่ยอี้หรงนางก็นิ่งงันไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อคิดถึงว่าสกุลบัณฑิตอย่างสกุลเหยียนย่อมไม่อาจจะรับสะใภ้ที่แปดเปื้อนกลับสกุลได้อยู่แล้วนางจึงได้แต่ทอดถอนใจออกมา ซื่อจื่อกั๋วกงเหยียนเซียวผู้นี้ก่อนที่นางจะแต่งงานนางเคยได้พบกับเขาอยู่หลายครั้ง ทั้งดูสูงส่งภูมิฐานสง่างามและเข้าถึงได้ยาก เนื่องจากเขาอยู่ในสกุลบัณฑิตผู้สูงศักดิ์ส่วนนางอยู่ในสกุลของแม่ทัพที่หยาบกระด้างย่อมไม่มีเรื่องใดให้ข้องแวะกันได้อยู่แล้ว“อยากจะเข้าก็เข้ามา จะยืนอยู่ด้านนอกนั่นให้ยามจับได้หรือไร ข้ายังไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าลักลอบนัดแนะให้บุรุษเข้ามาหาตอนที่สามีไม่อยู่หรอกนะ” เสียงของโม่ชิงเยว่ทำให้คนที่ยืนจ้องมองนางอยู่ตรงระเบียงทอดถอนใจออกมาแล้วจึงได้เดินเข้ามาในห้องผ่านประตูระเบียง“ที่เจ้ากำลังทำอยู่ไม่ใช่การเชื้อเชิญให้บุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้องของเจ้าหรอกหรือ” ซ่งเหวินจิ้งเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า แต่โม่ชิงเยว่กลับไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับเขานางชี้ไปที่ประตูระเบียงแล้วจึงได้เอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ถ้าเช่นนั้นท่านเข้ามาทางไหนก็เชิญกลับไปทางนั้นได้เลย” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 37 โจรป่า

    เสียงขยับไหว เสียงหอบหายใจและเสียงร้องครวญครางที่ดังเล็ดลอดออกมาจากด้านในของรถม้า ทำให้เสี่ยวเหยาผู้เป็นสาวใช้ของสุ่ยอี้หรงวุ่นวายใจจนต้องเดินไปเดินมารอบๆ รถม้า ส่วนคนขับรถม้าและผู้ติดตามคนอื่นๆ ยามนี้ได้พากันถอยออกไปเพื่อเว้นระยะห่างจากรถม้าแล้ว แม้ว่าทุกคนจะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ทุกสายตาที่จ้องมองมาที่รถม้ากลับเต็มไปด้วยสายตาดูหมิ่นดูแคลนทั้งสิ้น ยามนี้เสี่ยวเหยาได้แต่คิดว่าเจ้านายของนางจะต้องถูกคนเล่นงานแล้วแน่ๆ แม้ว่าจะคาดเดาได้แล้วแต่นางก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดียามนี้นางจึงได้แต่เฝ้าวนเวียนอยู่รอบๆ รถม้า เพื่อรอให้เจ้านายของนางได้สติกลับคืนมาเสียงฝีเท้าม้าหลายตัวที่ถูกควบขี่มาทางด้านนี้ทำให้เสี่ยวเหยารีบหันไปออกคำสั่งกับองครักษ์ที่ยืนห่างออกไปให้รีบไปปิดทางเอาไว้ไม่ให้คนเหล่านั้นเข้ามา องครักษ์เหล่านั้นก็รีบไปดำเนินการตามคำสั่งของนางในทันที แต่เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังมาเป็นผู้ใดทุกคนก็ต่างมีสีหน้าลนลานจนคนบนหลังม้ารีบเร่งรุดมายังจุดที่รถม้าที่จอดเอาไว้ในทันที“ฮูหยินเป็นอะไร เหตุใดจึงได้มาจอดรถม้าอยู่แถวนี้” คำถามของซื่อจื่อจวนไหวกั๋วกงเหยียนเซียวทำให้เสี่ยวเหยาตัวสั่นงันงกด้วยความหว

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 36 เล่นงานสุ่ยอี้หรง

    หลังจากเกิดเรื่องที่งานเลี้ยงน้ำชาในจวนสกุลสุ่ย สุ่ยเม่าเจ้ากรมพิธีการของแคว้นเหลียนก็ถูกตามตัวกลับมาที่จวนอย่างเร่งด่วน เมื่อเขาเข้าไปในโถงหลักของสกุลก็เห็นว่าในยามนี้ฮูหยินและบุตรสาวทั้งสองของเขากำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้านายท่านผู้เฒ่าผู้เป็นบิดาของเขาอยู่ เขาจึงรีบเข้าไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าบิดาของเขาเพื่อแสดงออกถึงความสำนึกผิดในทันที“ท่านพ่อเรื่องในวันนี้พวกนางล้วนทำเต็มที่แล้ว แต่เพราะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นทำให้แผนการที่วางเอาไว้เสียหาย” คำแก้ตัวของสุ่ยเม่าทำให้นายท่านผู้เฒ่าสกุลสุ่ยตวาดออกมาในทันที“เหตุสุดวิสัยหรือเจ้าลองสอบถามบุตรสาวและภรรยาของเจ้าให้ดีว่าแท้จริงแล้วเป็นเหตุสุดวิสัยหรือเป็นเพราะความโง่เขลาของพวกนาง หากบุตรสาวของเจ้าไม่โง่เขลาจนทำแผนการที่วางเอาไว้ของข้าแตกป่านนี้ข้าก็คงจะสามารถทำให้ชื่อเสียงขององค์ชายรองด่างพร้อยได้ดังที่ข้าเคยรับปากกับองค์ชายใหญ่เอาไว้แล้ว ถึงยามนั้นเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็กของเจ้าก็คงจะสามารถคว้าตำแหน่งพระชายาเอกขององค์ชายใหญ่เอาไว้ได้ดังที่ข้าหมายมั่นปั้นมือเอาไว้” คำพูดของนายท่านผู้เฒ่าทำให้สุ่ยเม่าก้มหน้าลงเพื่อปิดบังสีหน้าของตนเอง“ท่านพ่

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 35 ลงมือกับสกุลสุ่ย

    เมื่อสุ่ยฮูหยินเห็นว่าโม่ชิงเยว่ทรุดลงไปเช่นนี้ก็ได้แต่คิดในใจว่ายาคงจะออกฤทธิ์แล้ว เพียงแต่การที่พิษออกฤทธิ์ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่รู้ว่าเป็นผลดีหรือว่าผลเสียต่อสกุลสุ่ยของนางกันแน่ นางจึงได้เอ่ยแก้ตัวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจังแม้ว่าในใจจะสั่นไหวมากเพียงใดก็ตาม“นิ่งอันโหวฮูหยินอย่าได้เข้าใจผิด ชาถ้วยนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอันใดส่วนสาเหตุที่ท่านสิ้นไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะไม่คุ้นชินต่อการออกมาข้างนอกจวนหรือเปล่า” คำพูดของสุ่ยฮูหยินทำให้โม่ชิงเยว่แสร้งลืมตาขึ้นมาแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการกล่าวหา“ข้าหาใช่คนร่างกายอ่อนแอเช่นนั้น สุ่ยฮูหยินเสียทีที่ข้าไว้ใจจึงได้ยินดีมาที่นี่ตามคำเชิญของท่าน คิดไม่ถึงว่าสกุลสุ่ยของพวกท่านจะข้างนอกสุกใสแต่ภายในเน่าเหม็น เมื่อก่อนข้าก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดสุ่ยอี๋เหนียงในจวนข้าที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจึงได้มีพฤติกรรมต่ำช้าเลวทรามเช่นนั้น ที่แท้ก็เป็นเพราะจวนแห่งนี้มีสภาพแวดล้อมที่ต่ำตมเช่นนี้นี่เอง ชุ่ยเหมยเก็บชาถ้วยนั้นมาข้าจะนำไปให้กรมอาญาตรวจสอบ” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช่นนี้สาวใช้ของสุ่ยฮูหยินก็รีบขัดขวางชุ่ยเหมยในทันที แต่กลับ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 34 ราคะกำจาย

    สายตาที่ปิดบังอารมณ์เอาไว้ไม่มิดของสุ่ยอี้หรงทำให้โม่ชิงเยว่ลอบสังเกตสีหน้าของสุ่ยฮูหยินในทันที นางแอบเห็นว่าสาวใช้สองนางที่อยู่ข้างกายของสุ่ยฮูหยินหายไปจึงได้หันไปส่งสายตาให้ชุ่ยเหมยซึ่งชุ่ยเหมยก็พยักหน้ารับเพื่อส่งสัญญาณว่านางรับรู้แล้ว โม่ชิงเยว่จึงได้หันไปส่งมอบรอยยิ้มให้กับบรรดาสตรีที่อยู่ในบริเวณงาน สาวใช้ที่ติดตามติดตามนางมาต่างก็แยกย้ายกันไปมอบถุงหอมให้แก่บรรดาสตรีที่มาเป็นแขกภายในงาน ชุ่ยเหมยจึงใช้จังหวะที่เดินไปมอบถุงหอมเร้นกายไปยังทิศที่สาวใช้ข้างกายของสุ่ยฮูหยินเดินจากไป“ถุงหอมเหล่านี้ล้วนได้รับการปักลวดลายจากช่างปักที่มากฝีมือของสกุลเจียง ส่วนเครื่องหอมที่อยู่ด้านในเป็นเครื่องหอมที่ข้าลงมือปรุงเองกับมือ หวังว่าทุกท่านคงจะไม่รังเกียจของขวัญชิ้นนี้ของข้า” โม่ชิงเยว่เอ่ยพลางยิ้มออกมาซึ่งบรรดาสตรีที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างก็ลังเลที่จะรับถุงหอมจากสาวใช้ของนางแต่เมื่อท่านหญิงเจียหลีรับเอาไปแล้วเอ่ยชื่นชมออกมาทำให้สตรีหลายคนรับเอาไว้ มีเพียงคนของสกุลสุ่ยและบรรดาที่สตรีที่สนิทสนมกับสกุลสุ่ยเพียงเท่านั้นที่ไม่กล้ารับถุงหอมเอาไว้ปฏิกิริยาเช่นนี้ทำให้โม่ชิงเยว่ลอบยิ้มออกมา ด้วยนาง

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 33 งานเลี้ยงสกุลสุ่ย

    จวนสกุลสุ่ยสมแล้วที่เป็นจวนสกุลเดิมของฮองเฮาองค์ปัจจุบัน ไม่เพียงกว้างขวางและใหญ่โตภายในจวนยังได้รับการตกแต่งอย่างดี สวนหินและสวนไม้ดอกสามารถโอ้อวดผู้คนได้อย่างภาคภูมิใจ โม่ชิงเยว่ที่ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในยังอดรู้สึกชื่นชมการตกแต่งจวนของจวนสกุลสุ่ยไม่ได้ยามนี้สิ่งที่ในใจของนางกำลังคิดอยู่ก็คือนางรู้แล้วว่าเพราะเหตุใดสุ่ยอี้โหรวจึงได้คิดว่าตนเองสูงส่งถึงเพียงนั้น จวนของนางหรูหราถึงขั้นนี้แล้วจวนโหวที่ได้รับการดูแลโดยคนแกคร่ำครึอย่างแม่สามีของนางจะสามารถเทียบเคียงกับสกุลสุ่ยได้อย่างไรกันเล่า การที่บุตรสาวที่ถือกำเนิดจากภรรยาเอกเช่นสุ่ยอี้โหรวยอมลดตัวแต่งออกจากจวนไปเป็นอนุ หากไม่ใช่เพราะความรักอันโง่เขลาก็คงเป็นเพราะสกุลสุ่ยมีแผนการที่ไม่ค่อยจะดีนักต่อจวนโหวแล้ว เพราะต่อให้สุ่ยอี้โหรวมีใจต่อซ่งเหวินจิ้งจริงหากผู้อาวุโสในสกุลสุ่ยไม่พยักหน้าแล้วสุ่ยอี้โหรวจะแต่งเข้าไปเป็นแค่เพียงอนุในจวนโหวได้อย่างไร“คารวะนิ่งอันโหวฮูหยิน เชิญท่านติดตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ” เด็กสาวรูปร่างอรชร ใบหน้ามีความคล้ายคลึงกับสุ่ยอี้โหรวถึงเจ็ดแปดส่วน แต่ความอ่อนเยาว์และรอยยิ้มอันสดใสของนางทำให้ความงามของ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 32 แผนการในใจ

    ยามที่ชุ่ยเหมยได้พบกับหรงมามาเดิมทีนางก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใดด้วยรู้ดีว่าโม่ชิงเยว่ต้องการคนที่สามารถไว้ใจได้มาคอยช่วยดูแลอยู่ข้างกาย แต่เมื่อได้รู้ว่าหรงมามาได้รับการแนะนำมาจากผู้ใดทำให้นางอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้จนต้องสอบถามโม่ชิงเยว่ออกมาตามตรง“ในเมื่อนางเป็นคนที่ท่านโหวพามา แล้วฮูหยินก็ยังยินดีที่จะให้นางมาอยู่ข้างกายอีกหรือเจ้าคะ” คำถามของชุ่ยเหมยทำให้โม่ชิงเยว่พยักหน้า“เขาจะมาไม้ไหนข้าเองก็อยากจะรู้ อีกไม่กี่วันข้าก็ต้องไปที่สกุลสุ่ยแล้ว ข้ากำลังขาดคนข้างกายที่จะคอยแนะนำเรื่องการคบค้าสมาคมกับบรรดาสตรีที่อยู่ในเรือนหลังของบรรดาขุนนางชั้นสูงพอดี เจ้าก็รู้ว่าเมื่อก่อนเพราะท่านแม่ชาติกำเนิดไม่สูง อีกทั้งท่านพ่อก็ไม่ได้ถือกำเนิดในแวดวงเดียวกันกับชนชั้นสูงเหล่านั้น ข้าจึงแทบจะไม่ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของบรรดาสตรีที่เป็นชนชั้นสูงของแคว้นเหลียนดังเช่นบุตรสาวของแม่ทัพคนอื่นๆ เลย” โม่ชิงเยว่เอ่ยออกมาพลางจ้องมองด้านนอกหน้าต่างด้วยรอยยิ้มแล้วจึงได้เอ่ยต่อ“คนสกุลสุ่ยมีแผนการเช่นไรกับข้า ตัวข้าเองก็อยากจะรู้เช่นกัน คิดจะเหยียบย่ำข้าเพื่อแก้แค้นให้สุ่ยอี้โหรวหรือว่าคิดจะใช้ข้าเป็นข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status