Share

ฮูหยินหลังจวน
ฮูหยินหลังจวน
Author: moonlight -mini

บทนำ

last update Last Updated: 2025-02-11 00:25:38

บทนำ

ท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหราและยิ่งใหญ่ ณ จวนแห่งหนึ่งในเมืองหลวง สถานที่ถูกประดับด้วยผ้าไหมสีแดงสดและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง กลิ่นหอมของดอกไม้และเครื่องหอมลอยคลุ้งในอากาศ โคมไฟสีแดงถูกแขวนอยู่ทุกมุม ทุกสิ่งทุกอย่างดูงดงามอลังการสมกับเป็นงานแต่งของบุตรสาวในตระกูลบัณฑิตใหญ่มีชื่อเสียงอย่าง หัวหน้าราชบัณฑิตฝูหยาง

ฝูหรง หญิงสาวผู้งามสง่าในชุดเจ้าสาวสีแดงเลือดนกประดับด้วยลวดลายปักที่ละเอียดอ่อน มือของนางกำลังถือพัดที่ปิดหน้าครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นดวงตาที่สดใสและแฝงด้วยความมุ่งมั่น ในขณะที่นางก้าวเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ใจของนางเต้นระรัวทั้งด้วยความตื่นเต้นและความกลัว

แม้วันนี้เป็นวันที่หญิงสาวในชุดมงคลควรจะดีใจ แต่มันก็มีความกังวลใจอยู่ลึก ๆ เพราะแท้จริงแล้วนางมิใช่คนที่ต้องแต่งงานในวันนี้

ข้าหวังว่าท่านพี่อิงอิงจะไม่โกรธข้าที่ต้องเข้าพิธีแทนนาง

บรรยากาศทุกสิ่งทุกอย่างดูพร้อมสำหรับพิธีแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ้าไหมสีแดงถูกแขวนประดับตามทางเดินและกำแพง ลวดลายสีทองที่ประดับอยู่บนผ้าไหมสะท้อนแสงไฟจากโคมไฟที่ห้อยจากเพดาน ทำให้ทั้งห้องโถงดูเปล่งประกาย

ยามรุ่งสางของวันนี้ฝูหรงรีบลุกจากเตียงตั้งแต่ยามยามอิ๋น (03.00 - 04.59 น.) นางรีบลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง แม้จะไม่ใช่หน้าที่ของตน แต่ฝูหรงก็ทำงานราวกับสาวใช้คนหนึ่งในจวน ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็เป็นบุตรสาวคนหนึ่งของเจ้าของจวนแห่งนี้ ร่างบางรีบล้างหน้าเพื่อที่จะไปช่วยพี่สาวแต่งตัว วันนี้เป็นวันสำคัญที่ทุกคนในตระกูลรั่วและตระกูลฝู วันที่ทั้งสองตระกูลบัณฑิตจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันเสียทีหลังจากให้บุตรสาวและบุตรชายหมั้นหมายกันมาหลายปี

มือบางเปิดประตูเรือนนอนออกไปอย่างเงียบเชียบเช่นทุกวัน แต่ก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นมารดาของตนและท่านแม่ใหญ่เดินมุ่งตรงมาทางนี้ มารดาของนางมีสีหน้าเคร่งเครียดกว่าทุกครั้ง

“ท่านแม่ คารวะแม่ใหญ่” ฝูหรงเร่งเดินข้ามประตูออกไป เมื่อเห็นว่าในกลุ่มคนนั้นมีท่านแม่ใหญ่มาด้วย

“เข้าไปคุยกันข้างใน” ฝูฮูหยินเอ่ยเสียงเรียบ แม้ใบหน้าจะฉายแววกังวลออกมาอย่างชัดเจน

ฝูหรงหวั่นเกรงมิน้อย นางกลัวว่าฮูหยินใหญ่จะหาเรื่องลงโทษอะไรมารดานางอีก “ท่านแม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าคะ”

“เข้าไปด้านในก่อน เดี๋ยวเจ้าก็รู้” ม่านอิ้น จับจูงมือของบุตรสาวด้วยความแผ่วเบาให้เดินตามเข้าไปในเรือนที่ฝูหรงเพิ่งก้าวออกมา

“เรื่องก็เป็นเช่นนี้”  ฝูฮูหยินเอ่ยถึงการมาของนางกับอนุของสามี

“ข้า…ข้าต้องแต่งแทนท่านพี่ฝูอิงหรือเจ้าคะ” ฝูหรงหลุดเอ่ยออกมาเสียงดัง นางตกใจไม่น้อยที่แม่ใหญ่บอกว่าพี่สาวของนาง อย่างฝูอิงหายไป

“คงต้องเป็นเจ้าแล้วล่ะฝูหรง ตระกูลฝูมีบุตรสาวเพียงสองคน ในเมื่อฝูอิงหายไป งานแต่งระหว่างสองตระกูลก็คงต้องเป็นหน้าที่ของเจ้า”

“ตามหาหรือยังเจ้าคะ ท่านพี่จะหายไปเฉย ๆ แบบนี้เป็นไปไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ” ก็ในเมื่อพี่สาวของนางและรั่วหยางจิ้นเฝ้ารอวันนี้มาตลอด แล้วพี่สาวของนางจะหนีไปกับชายอื่นได้อย่างไร

“นางทิ้งจดหมายเอาไว้ชัดเจนขนาดนั้น ที่บิดาเจ้าไม่มาสั่งให้เจ้าแต่งงานแทนฝูอิง ก็เพราะอยากให้เรื่องนี้เงียบที่สุด” ฝูฮูหยินหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด เมื่อนางและสาวใช้ขนเครื่องแต่งกายเพื่อที่จะไปช่วยกันแต่งชุดเจ้าสาวให้ฝูอิง แต่เรือนนอนของบุตรสาวของนางกลับว่างเปล่า ทิ้งเอาไว้แค่จดหมายหนึ่งฉบับ มีเพียงข้อความสั้น ๆ ทิ้งเอาไว้ ว่าไม่ต้องตามหา

`ข้าจะไปอยู่กับชายที่ข้ารัก ไม่ต้องเป็นห่วงข้า ชีวิตข้าย่อมดีกว่าแต่งให้รั่วหยางจิ้น`

ฝูฮูหยินตกใจรีบวิ่งกลับเรือนใหญ่ไปบอกสามีให้รีบตามหาบุตรสาว แต่สามีนางที่รักหน้าตายิ่งกว่าสิ่งใดกลับสั่งให้นางเป็นคนมาบังคับให้บุตรสาวที่เหลืออีกคนแต่งงานแทน ส่วนสหายของสามีนางอย่างรั่วเจิ้นหวิน ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ไม่ว่าอย่างไรงานแต่งในวันนี้จะล้มเลิกไม่ได้เด็ดขาด

“เห็นแก่ตระกูลฝู เห็นแก่หน้าบิดาเจ้าที่ตลอดชีวิตไม่เคยถูกนินทาว่าร้าย หากเรื่องที่ฝูอิงหนีตามชายอื่นไปในวันแต่งงาน บิดาเจ้าคงทุกข์ใจไม่กล้าก้าวขาออกจากจวนอีกเลย เจ้าทนดูดายได้เชียวหรือหรงหรง”

เป็นครั้งแรกที่นางเอ่ยเรียกชื่อที่ไม่เคยเอ่ยเรียกบุตรสาวอีกคนของสามีอย่างรักใคร่ หากสามีนางได้รับผลกระทบแน่นอนว่านางที่เป็นถึงฮูหยินตราตั้งที่ได้รับการยอมรับของฮูหยินทั้งเมืองหลวงย่อมสั่นคลอน

“หรงหรงลูกแม่ เจ้าทำเพื่อท่านพ่อของเจ้าได้หรือไม่ หรือทำเพื่อแม่ก็ได้” ม่านอิ้นรวบมือบุตรสาวเอาไว้แน่นเอ่ยอ้อนวอนให้ฝูหรงยินยอมเข้าพิธีแทนฝูอิงที่หายไป

“เจ้าค่ะ” ฝูหรงก้มหน้าตอบ นางมีทางเลือกอื่นอีกเช่นนั้นหรือ

ฝูหรงยืนอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว ใบหน้าของนางถูกปกคลุมด้วยผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสด นางกำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่พี่สาวต่างมารดาของนาง ฝูอิง หนีออกจากบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับรั่วหยางจิ้น นางเลือกที่จะหนีไปกับชายคนรัก เลือกที่จะหนีไปในวันแต่งงานมิใช่วันอื่น ก่อนหน้านี้ไม่ไป เลือกที่จะไปวันนี้ เพราะเหตุใด

ผ้าไหมสีแดงถูกแขวนประดับตามทางเดินและกำแพง ลวดลายสีทองที่ประดับอยู่บนผ้าไหมสะท้อนแสงไฟจากโคมไฟที่ห้อยจากเพดาน ทำให้ทั้งห้องโถงดูเปล่งประกาย รั่วหยางจิ้น เจ้าบ่าวในชุดแต่งงานที่งดงามสมฐานะ เขายืนรอเจ้าสาวอย่างสงบแต่ก็มีความสงสัยอยู่ในใจ แม้เขาจะรู้แล้วว่าเจ้าสาวของตนในวันนี้มิใช่คู่หมายที่หมั้นหมายมาตั้งแต่ในวัยเยาว์ แต่เขาก็ไม่ได้คัดค้าน อย่างน้อยนางก็ก้มหน้ารับหน้าที่ที่ต้องรักษาหน้าตาของตระกูลและเพื่อปกป้องเกียรติของตระกูล

เช่นเดียวกับเขา

ในขณะที่ฝูหรงกำลังจะก้าวออกจากห้อง หยางจิ้นเดินเข้ามาพร้อมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เขาเห็นความกล้าหาญในสายตาของฝูหรง และรู้สึกซาบซึ้งในความเสียสละของนาง รั่วหยางจิ้นรู้ว่ามีการเปลี่ยนตัวเจ้าสาว บิดาของเขาและท่านลุงฝู ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมล้มเลิกงานแต่ง

แน่นอนว่ามันเป็นเพราะศักดิ์ศรี เขาเอื้อมมือออกไปรับมือของฝูหรง เมื่อนางวางมือลงมาทาบทับฝ่ามือหนาของเขา รั่วหยางจิ้นรับรู้ได้ว่ามือของนางสั่นไหวไม่น้อย

“ฝูหรง ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะต้องมาแต่งแทนพี่สาวของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังทำเพื่อครอบครัว แต่ข้าสัญญาว่าจะดูแลเจ้าอย่างดีที่สุด”

เมื่อทั้งสองเดินเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ เสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วบริเวณ แขกเหรื่อทุกคนต่างยิ้มแย้มและยินดีกับคู่บ่าวสาว ฝูหรงและรั่วหยางจิ้นก้าวขึ้นบนเวทีเพื่อทำพิธีแต่งงาน ทั้งสองนั่งลงบนเบาะผ้าสีแดงและทำพิธีตามประเพณี

“ขอให้คู่บ่าวสาวมีความสุขและเจริญรุ่งเรือง ขอให้เจ้าสาวและเจ้าบ่าวอยู่กันอย่างมีความรักและความเข้าใจ”

หลังจากพิธีการเสร็จสิ้น ฝูหรงและรั่วหยางจิ้นได้ทำการคารวะบรรพบุรุษและรับพรจากแขกผู้มีเกียรติ ในขณะที่ฝูหรงนั่งอยู่ข้างๆ รั่วหยางจิ้น นางลอบมองใบหน้าของชายหนุ่มที่นางแอบรักมาตลอด ฝูหรงยิ้มอย่างอ่อนโยนแม้ในใจจะสั่นไหว นางเงยหน้ามองหยางจิ้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความหวัง

“พี่จิ้น ข้ารู้ว่าพี่อาจจะไม่ได้รักข้า แต่ข้าจะพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด” ข้าจะทำให้พี่เห็นความรักของข้า ฝูหรงมิได้กล่าวประโยคสุดท้ายออกไป แต่นางจะพยายามแสดงให้ชายหนุ่มตรงหน้ามองเห็นความรักที่นางแอบซ่อนเอาไว้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางปิดบังทุกคนมาตลอดว่ารู้สึกเช่นไรกับคู่หมายของพี่สาวของตน แต่หลังจากนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้นางได้เป็นภรรยาของเขา นางมีสิทธิ์ที่จะรักรั่วหยางจิ้นแล้ว

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือของแขกเหรื่อ มิมีผู้ใดเอ่ยถึงการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวในครั้งนี้เพราะตลอดมามีเพียงข่าวการหมั้นหมายระหว่างตระกูลบัณฑิตใหญ่ แต่ไม่ได้เอ่ยว่าเป็นบุตรชายหรือบุตรสาวคนใดที่จะได้แต่งงานกัน ก็น่าแปลกไม่น้อยเพราะปกติจะต้องเอ่ยถึงว่าผู้ใดหมั้นหมายกับผู้ใด เมื่อถามก็บอกเพียงว่าเมื่อถึงวันแต่งก็รู้เอง ทำให้ชาวเมืองก็คาดเดากันอย่างตื่นเต้น รองานแต่งครั้งนี้กันอย่างใจจดใจจ่อว่าเจ้าสาวจะเป็นผู้ใด คุณหนูฝูอิงบุตรสาวฮูหยินเอกหรือฝูหรงบุตรสาวของอนุ

เมื่อเห็นว่าคนที่เข้าพิธีเป็นฝูหรงบุตรสาวของอนุ แขกเหรื่อก็ยิ่งเลื่อมใสหัวหน้าบัณฑิตฝูหยางมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ถือศักดิ์เรื่องบุตรฮูหยินเอกหรือบุตรอนุ ยอมให้บุตรสาวอนุแต่งมากับลูกศิษย์คนโปรด

ฝูหรงและหยางจิ้นจึงเข้าสู่พิธีแต่งงานอย่างสมบูรณ์ แต่ในใจของฝูหรง นางรู้ดีว่าที่รั่วหยางจิ้นไม่ยกเลิกงานแต่งที่เจ้าสาวมิใช่คนเดิมเพราะสิ่งใด แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร นางยินดีในการแต่งงานครั้งนี้ โอกาสที่นางไม่คิดว่าจะมีวันเกิดขึ้น แต่นางจะใช้โอกาสที่ได้รับให้ดีที่สุด

ฝูหรงไม่รู้เลยว่าเมื่อวันหนึ่งเมื่อฝูอิง พี่สาวต่างมารดาของนางกลับมา นางต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ยากจะหลีกเลี่ยง

“น้องหญิง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะรักหยางจิ้นจริง ๆ ข้าขอโทษที่ทิ้งให้เจ้าแต่งแทนข้า แต่ตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว ข้าต้องการเขาคืน คืนเขาให้ข้าเถอะ” นางอ้อนวอนทั้งน้ำตาขอคนรักคืนจากน้องสาวต่างมารดา

“พี่อิงอิง ข้ารู้ว่าพี่กับเขารักกันมาก่อน แต่ข้าตอนนี้คือภรรยาของเขา ท่านกลายเป็นเพียงพี่สาวของภรรยาของรั่วหยางจิ้น หากท่านอยากได้เขาคืนก็ไปบอกเขาเองเถิดมิใช่มาบอกข้า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินหลังจวน   บทที่ 35

    บทที่ 35วันเวลาผ่านไปคุณชายและคุณหนูตระกูลรั่วกลายเป็นคนที่บรรดาขุนนางทั้งหลายต่างหมายปอง เพราะผิดหวังจากการเข้าหาคนพ่อที่รักเดียวใจเดียวต่อฮูหยินของตนจึงคิดจะเข้าทางบุตรชายและบุตรีแทนแต่เพราะการเลี้ยงดูของฝูหรงและรั่วหยางจิ้นจึงทำให้ไม่ง่ายนักที่เหล่าบุตรและบุตรีจากตระกูลขุนนางจะตีสนิทบุตรทั้งสองของรั่วหยางจิ้นได้“ใต้เท้ารั่วปีนี้บุตรของท่านก็ถึงวัยที่จะมีคู่แล้วได้มองใครเอาไว้ให้บุตรชายบ้างหรือเปล่า” รั่วหยางจิ้นแอบหัวเราะในใจ ขุนนางคนนี้แค่มองและแค่เอ่ยออกมาเพียงแค่คำก็รับรู้ถึงความคิดในใจ “ไม่มีหรอก ข้าให้บุตรชายและบุตรสาวได้เลือกคนที่รักเอง ท่านไม่รู้หรอกว่าความรักนั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด” ขุนนางชราคนนั้นยิ้มจาง ๆ ให้ ก่อนจะขอตัวจากไปเมื่อการเจรจาไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจเรื่องที่เกิดขึ้นในฝั่งของชายหนุ่มก็ไม่ได้ต่างกันเลยกับทางด้านฝูหรงเมื่อไปเจอกับเหล่าฮูหยินด้วยกันก็มักมีคนมาเสนอทั้งบุตรสาวและบุตรชายให้เลือกเป็นเขยหรือสะใภ้ เพราะนางดูหัวอ่อนน่าจะกล่อมง่ายกว่าคนเป็นสามี แต่ไม่ว่าจะชักจูงเช่นไรก็ได้รับแค่รอยยิ้มจาง ๆ กลับมา บทสนทนาก็จะจบลงด้วยความเงียบแทบจะทุกครั้ง

  • ฮูหยินหลังจวน   บทที่ 34

    บทที่ 34รั่วหยางจิ้นเป็นทั้งสามีที่ดี และพ่อที่ดีหากฝูหรงไม่ตั้งครรภ์นางคงไม่มีทางรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ท้องที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้หญิงสาวรับรู้ว่าสามีของนางรักและเป็นห่วงนางมากขนาดไหนเขาแทบจะมาอยู่เป็นเพื่อนเลยหากฝูหรงรู้สึกไม่ดี ชายหนุ่มออกไปหาทุกอย่างที่หญิงสาวต้องการ ซึ่งอาการแพ้ท้องของฮูหยินเจ้าเมืองก็คล้ายจะเป็นการกลั่นแกล้งผู้เป็นสามีจริง ๆ“ขนมจากร้านที่สองจากมุมถนนอี้หรือ” รั่วหยางจิ้นถามย้ำภรรยา แต่พอไปถึงร้านขนมนั้นกลับไม่เปิด เดือดร้อนชายหนุ่มต้องไปหาของอื่นมาทดแทนแต่ก็เหมือนฮูหยินที่ตั้งครรภ์ของเขาจะจับได้ทุกครั้งที่ของที่นางสั่งไม่ตรงตามต้องการ กว่าจะพ้นช่วงแพ้ท้องก็ทำเอาชายหนุ่มซึ่งเป็นเจ้าเมืองต้องถูกให้สรรหาอะไรแปลก ๆ มาให้ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาจนได้ และยิ่งทำให้ฝูหรงรักสามีหนักขึ้นอีก“รู้สึกดีขึ้นหรือยัง” รั่วหยางจิ้นเอ่ยถามคนที่กอดเขาเอาไว้แน่นราวกับเป็นลูกลิง และแม้ว่าหญิงสาวจะพยักหน้าบอกว่าตนเองดีขึ้นแล้ว แต่กลับไม่ยอมปล่อยมือทั้งยังอิงหัวอยู่ที่บ่ากว้างของเขาท่าทางน่าเอ็นดูนั่นทำให้รั่วหยางจิ้นอดไม่ได้ที่จะประทับริมฝีปากไปที่หน้าผากเนียนของภรรยาตลอดการตั้ง

  • ฮูหยินหลังจวน   บทที่ 33

    บทที่ 33หลังจากผ่านไปเกือบห้าปีรั่วหยางจิ้นที่สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ก็ได้ย้ายกลับไปประจำอยู่ที่เมืองหลวงในตำแหน่งรองเจ้ากรมการคลัง การเดินทางกลับมาครั้งนี้ฝูหรงกลับมาด้วยท่าทางที่ต่างออกไปจากตอนที่จากไป จนแม่สามีที่ตอนมาเยี่ยมช่วงที่ตั้งครรภ์ก็ไม่ทันสังเกตเพิ่งมาเจอเอาตอนที่กลับมาก็รู้สึกแปลกใจที่ลูกสะใภ้ของนางไม่ได้หัวอ่อนและก็ถูกเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายอย่างที่คิด ทั้ง ๆ ที่คิดว่าหญิงสาวเพิ่งมาเปลี่ยนเอาตอนที่ต้องย้ายเมืองแต่ความเป็นจริงแล้วฝูหรงก็เป็นเช่นนี้มานานแล้ว และก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้แสดงออกเพราะนั่นก็เป็นนิสัยของนางเหมือนกัน หญิงสาวไม่ได้ตั้งใจให้แม่สามีเข้าใจตัวนางผิดแต่เพราะตลอดมาฝูหรงต้องเอาตัวรอดจึงได้เป็นเช่นนี้แต่เพราะมารดาของนางเลี้ยงและอบรบมาดีก็จึงเป็นการเอาตัวรอดแต่ไม่ได้ทำร้ายใคร การกลับมาของขุนนางหนุ่มที่ถูกเลื่อนขั้นขึ้นมาก็ทำให้บรรดา แม่นางน้อยใหญ่อยากเข้าหาสามีของฝูหรงอีกครั้ง แม้จะมีฮูหยินอยู่และยังมีบุตรถึงสองคนแต่เพราะฐานะและหน้าตา หล าย ๆ คนจึงคิดว่าควรที่จะเสี่ยงแต่กลับถูกดับฝันโดยภรรยาของขุนนางหนุ่ม ฝูหรงยังคงช่วยสามีแต่งตัวเหมือนเมื่อก่อน มือเรียวท

  • ฮูหยินหลังจวน   บทที่ 32

    บทที่ 32หลังจากวันที่ได้เปิดใจกันทั้งคู่ก็พยายามที่จะไม่สงสัยในเรื่องใดอีก หรืออาจจะเป็นเพราะหน้าที่ของเจ้าเมืองนั้นมีเยอะมากเกินกว่าจะมามีเวลาสงสัยเรื่องที่ได้บทสรุปแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รั่วหยางจิ้นเพิ่งเข้าใจว่าทำไมฮ่องเต้จึงส่งเขามาที่นี่ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นการเสียความรู้ของตนเปล่า ๆ เสียแล้ว ที่มาอยู่เมืองที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก แต่สุดท้ายเขาก็เข้าใจทุกฤดูของเมืองนี้ล้วนไม่มีอะไรรุนแรงแต่เมื่อยามหน้าฝน ฝนกลับตกหนักนัก ทำให้ชาวบ้านต้องต่อสู้กับเรื่องน้ำท่วมทั้งบ้านเรือนและที่ทำกินอยู่เป็นประจำหน้าที่ของเจ้าเมืองคนใหม่จึงต้องหาวิธีจัดการกับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งปีแรกเขาไม่ทันตั้งตัวจึงเกิดอุทกภัยเหมือนที่เคยเกิดแม้จะไม่รุนแรงแต่ก็ทำให้พืชพันธ์เสียหายแต่ในปีถัดมาปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไข ชายหนุ่มทำฝายกั้นน้ำเอาไว้เป็นช่วง ๆ และยังขุดทางเป็นร่องให้น้ำไหลไปเก็บไว้ในพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่อีกด้วยเพราะเป็นน้ำหลากจึงแก้ปัญหาได้โดยง่าย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็เหนื่อยทั้งกายและใจ แต่เพียงแค่กลับมาจวนได้รับการต้อนรับที่ดีจากภรรยาที่รัก ความเหนื่อยที่มีก็บรรเทา“เป็นอย่างไรบ้างเจ้

  • ฮูหยินหลังจวน   บทที่ 31

    บทที่ 31ฝูหรงกำลังตุ๋นไก่กับโสมให้กับสามีของตนโดยมีชิงอี้เป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง“ที่จริงข้าคิดมาตลอดว่าฮูหยินเล็กกับท่านเจ้าเมืองเป็นคู่รัก ที่ดูรักและใส่ใจกันมาก ๆ” ชิงอี้ที่ลอบสังเกตท่าทางของทั้งสองเอ่ยตามที่ตนคิด“แล้วที่ผ่านมาไม่ใช่หรือ” หญิงสาวที่กำลังตรวจดูไก่ตุ๋นโสมเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทของตนเองซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าและยังเอ่ยย้ำอีกรอบ “ไม่ใช่เจ้าค่ะ” คำตอบของชิงอี้ทำให้ฮูหยินเจ้าเมืองอย่างฝูหรงแปลกใจ “ไม่ใช่หรือเพราะเหตุใดกัน ข้าดูไม่รักท่านพี่ หรือว่าเขาดูไม่รักข้าหรือ”คำถามของฝูหรงนั้นทำให้ชิงอี้คิดมากจนหญิงสาวที่เป็นนายหญิงของจวนเจ้าเมืองแห่งนี้อดหัวเราะกับท่าทางจริงจังของนางไม่ได้“แค่รักเฉย ๆ มันน้อยไป ข้าคิดว่าพวกท่านรักลึกซึ้งกันมากกว่านั้นจากที่ดู แค่คนที่เพิ่งรู้จักเพิ่งแต่งงานจะรักกันได้ขนาดนี้เลยหรือ” ฝูหรงยิ่งฟังคำของชิงอี้ก็ยิ่งแปลกใจ “ใครให้เจ้ามาพูดอะไรหรือ” หญิงสาวเอ่ยอย่างรู้ทัน ซึ่งชิงอี้ก็รีบปฏิเสธแต่มีหรือจะทัน“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าสงสัยเองจริง ๆ” คำตอบนั้นไม่ได้ช่วยให้ความสงสัยของนายหญิงแห่งจวนเจ้าเมืองแห่งนี้หายไปเลยแม้แต่นิด “ที่จริงจะสงสัยไปทำไม

  • ฮูหยินหลังจวน   บทที่ 30

    บทที่ 30หลังจากรับรู้เรื่องราวการหมั้นของพี่สาวและคนที่นางแอบรัก ฝูหรงก็ไม่สนใจอะไรอีก หญิงสาวไม่อยากเป็นคนไม่ดีที่อิจฉาพี่สาวตนเอง แต่ความรู้สึกไม่พอใจที่ไม่ค่อยได้เกิดบ่อย ตอนนี้กลับพุ่งสูงอย่างบอกไม่ถูกฝูหรงจึงคิดว่าควรจะปล่อยวางเรื่องทุกอย่างไป ทิ้งความรู้สึกที่มีทั้งหมด อย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ็บสักหน่อย แต่ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนจะเคยถูกเอาเปรียบอยู่เสมอแต่ครั้งนี้กลับเจ็บจนต้องร้องไห้ออกมา แต่ก็เศร้าอยู่ได้เพียงไม่นานเมื่อสิ่งที่คาดคิดนั้นไม่เหมือนกับความเป็นจริง เพราะหลังจากเจอกันไม่กี่ครั้งพี่สาวของนางอย่างฝูอิงก็แสดงท่าทางรำคาญรั่วหยางจิ้นอย่างเห็นได้ชัดตอนแรกฝูหรงรู้สึกดีใจที่พี่สาวไม่ได้สนใจรั่วหยางจิ้นมากนักมันทำให้ดวงใจที่แห้งเหี่ยวของนางฟูขึ้นมาได้บ้าง เพราะเอาเข้าจริง นางก็ยังแอบหวังว่าจะได้เคียงข้างอีกฝ่าย แต่ก็ดีใจได้แค่ชั่วครู่เท่านั้นเพราะความไม่สนใจของพี่สาวมีอยู่แค่ตอนที่ได้ยินเพียงชื่อ พอได้เจอกับรั่วหยางจิ้น ฝูอิงก็เริ่มสนใจคู่หมายของตนเพราะคุณชายรั่วผุ้นั้นไม่ใช่คนขี้ริ้วการหมั้นหมายจึงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ทำให้ฝูหรงคิดตัดใจอีกรอบแต่ระหว่างที่หญิงสา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status