“นี่เป็นหลักฐานการคบค้าศัตรูของนายอำเภอเผิง” กวางหมิงกล่าว พลางยื่นจดหมายที่นายอำเภอเผิงใช้ติดต่อพวกเหมียวเจียงให้ผู้ตรวจการซุน “ข้ามีพยานบุคคลด้วย ใต้เท้าข้าขอเบิกตัวพยาน”
“เบิกตัวพยานบุคคล”
กวางหมิงชี้ไปที่สตรีคนแรกที่เดินเข้ามา “นางเป็นคนวางยาในจวนท่านเจ้าเมือง” หญิงสาวที่ถูกนำตัวเข้ามา คือคนที่วางยาพิษในอาหาร ที่ห้องเครื่องจวนเจ้าเมือง
ผู้ตรวจการซุนจับจ้องพยานด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเอ่ยถาม “ผู้ใดสั่งเจ้าสังหารท่านเจ้าเมือง”
หญิงผู้นั้นมีท่าทีลนลาน มองไปทางนายอำเภอเผิงเมื่อพบเข้ากับสายตาเยียบเย็นก็ก้มหน้าลง
มุมปากนายอำเภอเผิงยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือปิดมุมปากด้วยความเจ็บใจ เหมือนจะมีเลือดซึมออกมาอีกแล้ว อ้าปากทีไรเป็นต้องน้ำตาไหลทุกที ดีที่แก้แค้นหวู่ไฉตงได้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นเขาคงอกแตกตาย
เด็กสาวคนนี้หวาดกลัวเขา ย่อมไม่กล้าพูดความจริงอยู่แล้ว นายอำเภอเผิงยิ้มกรุ้มกริ่มในใจ
หญิงสาวที่วางยาพิษในห้องเครื่อง ถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินคับแคบที่ค่ายทหาร นางย้อนคิดไปถึงชั่วยามก่อน ในขณะที่จิตใจกำลังสับสน เงาร่างอ้วนท้วนก็เข้ามาประชิดตัว ลำคอของนางรู้สึกถึงความเย็นของโลหะขึ้นมาทันใด “ถ้าเจ้าให้การว่าคนสั่งการคือข้า ครอบครัวของเจ้า ตระกูลของเจ้าจะไร้ที่ยืนในเมืองนี้” หญิงสาวขนลุกทั้งร่าง เสียงนี้คล้ายเสียงมัจจุราชมาเอาชีวิตนาง
เป็นเสียงที่คุ้นเคยมาก และมันคือเสียงนายอำเภอเผิง คนที่ช่วยชีวิตนางไว้ เลี้ยงดูนาง และล่วงละเมิดนางทุกครั้งที่มีโอกาส หญิงสาวต้องการออกจากขุมนรกนี้ จึงเสนอตัวทำงานนี้แลกกับอิสระ ครั้นถูกจับได้คิดว่าจะหลุดพ้น แต่เขาก็ยังตามมาถึงค่ายทหาร
นางไม่มีทางเลือก จึงรับปากนายอำเภอเผิง ว่าจะไม่เอ่ยถึงเขา เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว นางไม่พูดมาตลอด ไม่ว่าจะถูกเขากดขี่ข่มเหงอย่างไร นางก็ไม่กล้าเอ่ยปาก ด้วยอำนาจของเขานางและครอบครัวก็เหมือนลูกไก่ เขาบีบนางก็ตายเขาคลายนางก็รอด ดังนั้นนางจึงไม่คิดต่อต้านเพื่อปกป้องครอบครัว
หลังจากนายอำเภอเผิงจากไป รองแม่ทัพกวางก็เข้ามา บอกนางว่าเขาสามารถคุ้มครองครอบครัวนางได้ แค่นางเล่าความจริงกับที่ว่าการก็พอ
นางควรเชื่อใครดี หญิงสาวตัดสินใจครู่ใหญ่ก่อนจะเอ่ย “คนที่สั่งข้าคือ….” ยังไม่ทันกล่าวจบหญิงสาวก็ถูกเข็มเล็กพุ่งมาปักลำคอล้มลง
กวางหมิงกำมือแน่นก่อนจะแสยะยิ้มร้าย คนลงมือเมื่อครู่ทำงานรวดเร็ว แต่หลบไม่พ้นสายตาเขา เป็นผู้ตรวจการซุน
พยานถูกกำจัดไปหนึ่งเขาก็ยังมีอีก ทั้งหลักฐานที่หามาได้ ก็พอจะมัดนายอำเภอเผิงให้อยู่หมัดแล้ว “ใต้เท้าซุนข้ายังมีพยานอีก เบิกตัวพยานเข้ามา”
เมื่อนายอำเภอเผิง เห็นพยานที่เข้ามาใหม่ก็เบิกตากว้าง นางระบำสี่คนนั้น เขาสั่งผู้ตรวจการซุนจัดการทั้งหมดแล้วมิใช่หรือ เหตุใดยังมีชีวิตรอดมาเป็นพยานได้ สายตาอำมหิตมองไปยังผู้ตรวจการซุนอย่างคาดโทษ
ผู้ตรวจการซุนยิ้มแหยก่อนจะทุบโต๊ะเสียงดัง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “วันนี้สืบพยานแค่คนเดียวก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาสอบสวนกันใหม่แยกย้ายได้”
สตรีที่เคยถูกหวู่ไฉตงสอบสวนคุกเข่าลง เมื่อเห็นผู้ตรวจการซุนบ่ายเบี่ยง ก็ตะโกนเล่าทุกเหตุการณ์ที่นางเผชิญมา พลางชี้มือไปที่นายอำเภอเผิง “เขาเป็นผู้ควบคุมดูแลบ่อนวอนเฉาเจ้าค่ะ เขาจะต้องเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารท่านเจ้าเมืองแน่ ข้าเคยเห็นเขาติดต่อกับพวกเหมียวเจียงที่บ่อนนั่น รวมถึง...” มือของหญิงสาวกำลังชี้ไปที่ผู้ตรวจการซุน ทว่ายังพูดไม่ทันจบก็ล้มลงพื้นไปอีกคน
ผู้ตรวจการซุนทุบโต๊ะพลางตะโกนเสียงดัง “บังอาจนัก เจ้าใส่ร้ายเจ้าหน้าที่โดยไม่มีหลักฐาน”
“ใครว่าไม่มี” เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางฝูงชน “หลักฐานทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว” ชายหนุ่มเดินเชื่องช้าเข้าไปในที่ว่าการเมือง เขานำหน้ากวางหมิงไปบ่อนวอนเฉาก้าวหนึ่ง เพื่อนำหลักฐานคนบงการใหญ่เบื้องหลังมาเปิดโปงความผิด การกระทำครั้งนี้เขาแค่ปกป้องตนเองหาได้คิดช่วยเหลือใคร
“นี่เป็นหลักฐานการคบค้าศัตรูของนายอำเภอเผิง” กวางหมิงกล่าว พลางยื่นจดหมายที่นายอำเภอเผิงใช้ติดต่อพวกเหมียวเจียงให้ผู้ตรวจการซุน “ข้ามีพยานบุคคลด้วย ใต้เท้าข้าขอเบิกตัวพยาน”“เบิกตัวพยานบุคคล”กวางหมิงชี้ไปที่สตรีคนแรกที่เดินเข้ามา “นางเป็นคนวางยาในจวนท่านเจ้าเมือง” หญิงสาวที่ถูกนำตัวเข้ามา คือคนที่วางยาพิษในอาหาร ที่ห้องเครื่องจวนเจ้าเมืองผู้ตรวจการซุนจับจ้องพยานด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเอ่ยถาม “ผู้ใดสั่งเจ้าสังหารท่านเจ้าเมือง”หญิงผู้นั้นมีท่าทีลนลาน มองไปทางนายอำเภอเผิงเมื่อพบเข้ากับสายตาเยียบเย็นก็ก้มหน้าลงมุมปากนายอำเภอเผิงยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือปิดมุมปากด้วยความเจ็บใจ เหมือนจะมีเลือดซึมออกมาอีกแล้ว อ้าปากทีไรเป็นต้องน้ำตาไหลทุกที ดีที่แก้แค้นหวู่ไฉตงได้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นเขาคงอกแตกตายเด็กสาวคนนี้หวาดกลัวเขา ย่อมไม่กล้าพูดความจริงอยู่แล้ว นายอำเภอเผิงยิ้มกรุ้มกริ่มในใจหญิงสาวที่วางยาพิษในห้องเครื่อง ถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินคับแคบที่ค่ายทหาร นางย้อนคิดไปถึงชั่วยามก่อน ในขณะที่จิตใจกำลังสับสน เงาร่างอ้วนท้วนก็เข้ามาประชิดตัว ลำคอของนางรู้สึกถึงความเย็นของโลหะขึ้นมาทันใด “ถ้าเจ้าใ
“ปิดคดีการลอบสังหารท่านเจ้าเมือง คนร้ายที่อยู่เบื้องหลังได้รับโทษแล้ว” ผู้ตรวจการซุนเอ่ยปิดคดีว่านจิ่วซิ่นหัวใจบีบแน่น ยามได้ยินว่าหวู่ไฉตงสิ้นใจแล้ว นางไม่เข้าใจ คนที่เพิ่งพบและรู้จักกัน เหตุใดจึงมีผลกับหัวใจนางเช่นนี้ ก่อนเขาจะสิ้นใจ มองนางด้วยสายตาห่วงใยหรือนางกับเขาจะรู้จักกันมาก่อน “เรื่องก่อนหน้าที่เจ้าล่วงเกินข้า ข้ายกโทษให้เจ้าแล้วนะแม่ทัพหวู่” ว่านจิ่วซิ่นเอ่ยทั้งน้ำตาไหล นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าน้ำตาไหลได้อย่างไร ความเศร้าแทรกซึมสู่ก้นบึ้งหัวใจ คล้ายเสียของสำคัญบางอย่างไป แต่นางกับท่านแม่ทัพหาได้รู้จักกันมาก่อน ความรู้สึกพวกนี้คืออะไรกันแน่กวางหมิงควบม้ามาอย่างเร่งรีบ ผ่าฝูงชนเข้าไปในที่ว่าการ หลังจากได้รับมอบหมาย ให้ไปกวาดล้างบ่อนวอนเฉาเมื่อชั่วยามที่แล้ว พอหวู่ไฉตงสอบถามนักโทษแล้วพบเบาะแส ก็มาสั่งเขาทันทีให้ไปสืบเรื่องนี้รองแม่ทัพหนุ่มกระโดดลงหลังม้า กระบอกตาร้อนผ่าวครั้นได้เห็นสภาพสหายที่อาภรณ์ย้อมด้วยโลหิตสีแดงฉานเขามาช้าเกินไป ช้าจนช่วยท่านแม่ทัพไว้ไม่ทัน ตอนนี้เขามีหลักฐานเอาผิดคนบงการแล้ว “เหตุใดเจ้าไม่รอข้าก่อนไฉตง” กวางหมิงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขาสะอื้นไห้จนไหล่สั
“ในเมื่อเจ้าทุกข์ใจ ไยจึงสั่งประหารเขา” ฮ่องเต้วัยกลางคน ใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าอายุ เอ่ยถามอนุชาเสียงอ่อนโยน“เขาทำผิด กระหม่อมมิอาจละเว้น เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวได้ อีกอย่างหลักฐานก็มัดตัวเขาจนดิ้นไม่หลุด” ผิงชินอ๋องเอ่ยด้วยท่าทีกลัดกลุ้ม“ที่เจ้าพูดก็ถูก เช่นนั้นก็อย่าเสียใจเลยเป็นเขาที่มักใหญ่ใฝ่สูงหาเรื่องใส่ตัวเอง” ฮ่องเต้เอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อปลอบใจอนุชา“พ่ะย่ะค่ะ” ผิงชินอ๋องตอบรับ และนั่งเงียบงันอยู่เช่นนั้น ‘เยว่ซิน ข้าขอโทษที่ปกป้องไฉตงไม่ได้อย่างที่เคยรับปากเจ้า’ เขาพร่ำขอโทษสหายรักในใจเพื่อคล้ายความรู้สึกผิดหวู่ไฉตงถูกจับไปโบยหน้าลานที่ว่าการ ผู้ตรวจการซุน คล้ายจะประจานให้ใต้หล้ารู้ความผิดของเขา ชาวบ้านมากมายต่างมุงดูและวิพากษ์วิจารณ์สายตาคมกริบลึกลับจับจ้องไปที่ผู้ตรวจการซุน ก่อนจะละสายตาออกมา แล้วทอดมองไปยังว่านจิ่วซิ่นที่ยืนดูอยู่ท่ามกลางฝูงชน ชายหนุ่มเกิดโมโหขึ้นมากะทันหันเมื่อเห็นสายตาไม่ทุกข์ไม่ร้อนของอีกฝ่าย เมื่อก่อนเขาก็ใช้สายตาเช่นนี้มองนางสินะ นางคงจะเอาคืนเขา แต่เหตุใดยามนี้เขาเจ็บหัวใจนักเล่าที่ถูกนางเมินว่านจิ่วซิ่น เห็นเหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากหวู่ไฉตง
ผิงชินอ๋องมองแม่ทัพหนุ่มด้วยสายตาเฉยชา ในมือถือจดหมายสั่งการที่ผู้ตรวจการซุนนำมาให้ ลายมือในจดหมายเป็นลายมือที่เขาสอนเองกับมือ เหตุใดเขาจะจำไม่ได้ “เจ้ากับข้าเคยมีความแค้นกันรึไม่” น้ำเสียงที่เอ่ยราบเรียบไม่มีระลอกคลื่น“กระหม่อมไม่เคยมีความแค้นใดกับพระองค์พ่ะย่ะค่ะ” หวู่ไฉตงคำนับสองมือผสานเข้าด้วยกันก้มหน้ากล่าวด้วยความเคารพ“แล้วเหตุใดเจ้าต้องสั่งคนมาสังหารข้า ทั้งยังปล้นคนร้ายอีก” ผิงชินอ๋องเอ่ยถามเสียงราบเรียบ“เพราะกระหม่อมกลัวว่า...” คนร้ายจะถูกฆ่าปิดปาก เขาพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำ ผู้ตรวจการซุนก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ท่านอ๋องแม่ทัพหวู่จับคนไปเพื่อปิดบังอำพราง เรื่องนี้เดาไม่ยากเลย เขาไม่ได้มีหน้าที่สอบสวนเรื่องนี้ แต่รีบปล้นคน เพราะกลัวโทษพ่ะย่ะค่ะ หลักฐานก็อยู่ในมือพระองค์แล้ว ลายมือในจดหมาย เทียบกับลายมือท่านแม่ทัพแล้วเป็นลายมือเดียวกัน”หวู่ไฉตงเหลือบมองผู้ตรวจการซุน เสียดายที่ไม่ได้อัดเขา จึงทำให้เขาพูดได้คล่องปากเช่นนี้ ทั้งยังมีการเตรียมหลักฐานเท็จไว้ล่วงหน้าอีกด้วย ราวกับว่าหมายตาเป้าหมายไว้ก่อนแล้ว“เป็นเช่นนั้น กระหม่อมห้ามแล้วก็ถูกทำร้าย” นายอำเภอเผิงกล่าวฟ้องเสียงอู้อี้
จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าคนเหล่านี้สมควรได้รับ ทำชั่วย่อมได้รับผลกรรมชั่ว “แม่นางหากเจ้าบอกความจริง ข้ากับท่านแม่ทัพจะไว้ชีวิตเจ้า และกันเจ้าไว้เป็นพยาน อีกทั้งยังจะคุ้มครองความปลอดภัยของคนที่เจ้าห่วงด้วย…ห่วงของเจ้าคงไม่ใช่แค่ตัวเองใช่รึไม่ เจ้าก็รู้หากคนร้ายไม่ถูกจับ คนที่เจ้าห่วงใยก็จะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน”“พวกท่านจะคุ้มครองเราได้จริงหรือเจ้าค่ะ แม่ข้า แม่ข้าตกอยู่ในอันตราย” หนึ่งในคนร้ายหญิงที่พุ่งเข้าใส่ฮ่องเต้เอ่ยด้วยท่าทีหวาดกลัวว่านจิ่วซิ่นมองไปที่หวู่ไฉตงเพื่อให้เขาตอบรับ ทว่าชายคนนั้นกลับไม่พูดสิ่งที่นางต้องการ ยืนกอดอกมองนางอยู่ได้ นางจึงตอบเสียเอง “แน่นอน”หญิงสาวที่ถูกจับมองไปทางหวู่ไฉตง นางรู้ว่าคนที่มีอำนาจสั่งการไม่ใช่สตรีที่พูดคุยกับนางอยู่หวู่ไฉตงพยักหน้าให้หญิงสาวคนนั้น เป็นการรับปาก หญิงสาวจึงเริ่มเล่าสิ่งที่ตนรู้ออกมา“ข้าไม่รู้ว่าคนที่สั่งการเบื้องหลังคือใคร แต่เกี่ยวข้องกับบ่อนวอนเฉา”“ไม่เคยได้ยินมาก่อน” หวู่ไฉตงพึมพำออกมาเขาอยู่ฉีเฟิงมาตั้งแต่เด็ก ชื่อบ่อนวอนเฉาไม่เคยเฉียดกรายเข้าหูให้ได้ยินเลย“ที่แห่งนี้ลึกลับซับซ้อน คนที่จะเข้าบ่อนได้ต้องมีป้ายสมาชิก ตอนข้าเข้า
หวู่ไฉตงยิ้มเย็น ถ้าปล่อยตาเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนี้สืบสวน คงได้มาเพียงแพะเท่านั้น “นายอำเภอเผิงกลัวสิ่งใดกันแน่ ข้าแค่อยากเข้าไปฟังด้วยเท่านั้น”“ข้าจะกลัวสิ่งใดกัน เพียงแต่การปฏิบัติหน้าที่ของข้าไม่อาจให้คนนอกยื่นมือเข้ายุ่งได้” นายอำเภอเผิงต่อปากต่อคำไม่ลดละหวู่ไฉตงมุมปากกระตุก “ข้าอยากได้คนดูสิใครจะกล้าขวาง”หน็อยแน่!! เจ้าเด็กคนนี้นี่หัวรั้นไม่เบา “ท่านแม่ทัพกล้าก็ลองดู” นายอำเภอเผิงเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งผยอง กับเด็กที่มีแต่ตำแหน่ง ไม่มีผลงานคนนี้ เขาไม่กลัวแม้แต่น้อย“ข้ากล้าอยู่แล้ว” หวู่ไฉตงชกเข้าที่ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มแรง“เจ้า...เจ้า...ข้าจะรายงานท่านอ๋อง” นายอำเภอเผิงริมฝีปากสั่นระริก ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ กล้าดีนักนะเจ้าเด็กเหลือขอ ไว้เขารายงานท่านอ๋อง เจ้าเด็กนี่ต้องได้รับโทษสถานหนัก ที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน เขาไม่ยอมเด็ดขาดเจ้าเด็กบ้าฟันข้าแทบหลุด!! ข้าจะ...ข้าจะเอาคืนแน่หวู่ไฉตงไม่เพียงไม่หยุดทำร้ายคน ยังเดินเข้าหาอย่างเชื่องช้า แล้วชกซ้ำตรงจุดเดิม ทำให้นายอำเภอเผิงลนลานถอยหนีจนล้มลงพื้น ขดตัวใช้มือสองข้างปกป้องศีรษะไว้อย่างหวาดกลัวครั้นเห็นดังนั้นห