Share

พลิกเกมนางร้าย

last update Last Updated: 2025-09-28 20:00:00

บทที่ 5

พลิกเกมนางร้าย

กลิ่นน้ำหอมผสมกลิ่นผ้าไหมใหม่เอี่ยมและเครื่องสำอางค์ราคาแพงหรูหราส่งกลิ่นอบอวลไปทั่วทั้งห้อง แสงไฟเจิดจรัสสะท้อนเงาหญิงสาวที่ยืนมองภาพสามีตัวเองกำลังโอบกอดร่างบางในอ้อมแขน ดานเต้เงยหน้ามองอลิเซียอีกครั้งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ไม่ต่างจากสายตาของทีมงานอีก 4-5 คน และลอเรนที่มองดูเธอนิ่ง อลิเซียพยายามเก็บอารมณ์ไว้ในสีหน้า แม้ว่าภายในใจตอนนี้ร้อนระอุจนอยากจะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนี้

“ฉันถามว่า นี่มันอะไรกัน?” เสียงเรียบแต่แฝงความเย็นเฉียบของดานเต้ทำให้ทุกคนในห้องสะดุ้ง อลิเซียเมินหน้าแทนคำตอบ ดวงตากลมสวยคู่นั้นอาบเคลือบด้วยความรู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่มอยู่มาก

“คุณก็ถามแม่นางเอกคนสวยของคุณสิ...ฉันขี้เกียจจะตอบอะไร” อลิเซียพูดปัดรำคาญเพราะรู้ว่าพูดอะไรไปก็ไร้น้ำหนัก

“ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง...ถ้าเธอบอกว่าเธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันจะเชื่อ” คำพูดนั้นอ่อนลงจนทำให้หัวใจของอลิเซียสั่น ดานเต้มองจ้องเธอราวกับคาดคั้นคำตอบอีกครั้งแต่อลิเซียเลือกที่จะยืนนิ่งไม่พูดอะไร

“ดานเต้...เห็นมั้ยคะ เมียคุณทำร้ายฉัน ดูแก้มฉันสิแดงไปหมด” โมนิก้าทำเสียงออดอ้อนชายหนุ่ม อลิเซียหันมองเพียงน้อยแต่ก็เลือกที่จะมองไปทางอื่นแทน ในขณะที่ทุกคนพยายามจะคาดคั้นความมผิดจากอลิเซีย เบนาดิกก็เดินออกมาจากหลังผ้าม่านเปลี่ยนชุดของห้องพร้อมมือถือในมือ

“เบนาดิก...ทำไมคุณออกมาจากหลังม่านเปลี่ยนชุด” เสียงลิลิน ทีมงานอีกคนดังขึ้นทันทีที่เห็น เบนาดิกยิ้มน้อยๆ เธอรีบเดินเข้าไปดูชุดฟินนาเร่ที่ไหล่ขาดวิ้นอยู่

“ไม่คิดว่าจะต้องทำรุนแรงกันขนาดนี้เลย” เบนาดิกพูดเสียงเรียบ

“นั่นสิคะ ไม่ควรจะใช้กำลังทำร้ายร่างกายกัน” ทีมงานอีกคนสมทบทันที

“พวกคุณพาโมเน้ออกไปจากห้องนี้เถอะ ก่อนฉันจะทนไม่ไหว” เบนาดิกกล่าวเสียงแข็ง จ้องมองร่างเล็กในอ้อมกอดดานเต้ราวกับจะกินเนื้อกินเนื้อ

“ทำไม? ...คุณถึงไล่คุณโมเน้ล่ะคะ อลิเซียตบเธอนะ”

“ที่พวกคุณเห็นกับที่ฉันเห็น มันต่างกันมากนะ...ฉันยังไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย”

“พูดอะไรน่ะเบนาดิก คุณกำลังหมายถึงอะไร” ลอเรนถามซ้ำพลางเดินเข้าไปแตะบ่าของเบนาดิก มือถือในมือของหญิงสาวถูกยกขึ้นและเล่นภาพช้าๆ ต่อหน้าต่อตาลอเรน สีหน้าของลอเรนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดมองโมนิก้าสลับกับอลิเซียไม่วางตา

“พวกคุณดอะไรกันน่ะ” โมนิก้าเริ่มทำสีหน้าร้อนรน เมื่อเห็นเบนาดิกและลอเรนกับดูคลิปบางอย่าง ดานเต้ที่พอจะเข้าใจทุกอย่างมากขึ้น หันไปส่งสายตาหาทีมงานที่ยืนมุงดูอยู่ทันที

“ทุกคน! ออกไปให้หมด!” เสียงทุ้มตะโกนลั่นจนทีมงานและช่างแต่งหน้ารีบทยอยเดินออกจากห้องกันหมด เหลือเพียงอลิเซีย ลอเรน เบนาดิก โมนิกาและดานเต้ในห้องเท่านั้น

ทันทีที่ในห้องเงียบลง ดานเต้ลุกขึ้นพลางเดินไปปิดประตูห้องแต่งตัวอย่างแรงและก้าวเท้าไปยังเบนาดิกและลอเรน คลิปวิดีโอเริ่มต้นที่โมนิก้ากำลังพูดจาดูถูกและหาเรื่องอลิเซียแม้เสียงจะเบาและถ่ายจากมุมมืดแต่ก็พอดูออกได้ว่า อลิเซียกำลังถูกหาเรื่องอยู่ คลิปดำเนินไปจนโมนิก้ากวาดข้าวของบนโต๊ะลงบนพื้นและกรีดร้องออกมาพร้อมตบหน้าตัวเองซึ่งนั้นชัดเจนแทนคำตอบทุกอย่าง

“ทำไมคุณทำอะไรแบบนี้โมนิก้า?” เสียงของดานเต้โวยลั่นทันทีที่คลิปจบลง

“ฉันเปล่านะ...ดานเต้ ฉันไม่ได้ทำ เมียคุณต่างหากที่ทำร้ายฉัน”

“ถ้าฉันไม่ทันแผนเธอสักนิด เธอคงใช้แผนปัญญาอ่อนนี้เรียกร้องความเห็นใจจากคนอื่นสินะ” อลิเซียยกยิ้ม ใบหน้าที่จ้องมองโมนิก้าแสดงออกถึงความสมเพศอย่างเห็นได้ชัด

“เธอหมายความว่ายังไง...เธอทำอะไร”

“ทำสิ่งที่คนโง่ๆ อย่างเธอไม่มีทางตามทันไง” อลิเซ๊ยเดินเข้าไปกระชากมือถือของเบนาดิกมาถือไว้ก่อนจะยื่นไปตรงหน้าของโมนิก้า หญิงสาวเปิดวิดีโอที่โมนิก้าหลอกทุกๆ คนให้เธอดูพลางหัวเราะออกมา โมนิก้าที่ดูคลิปพวกนั้นถึงกับหน้าซีดผาดด้วยความตกใจ

“ฉัน...ฉันไม่ได้...” โมนิก้าพูดเสียงสั่น

“โชคดีของฉันที่เบนาดิกเข้ามาช่วยแต่งตัวและเธอกำลังเข้าไปเอาของที่หลังฉากเปลี่ยนชุด และนางเอกโง่ๆ แบบเธอก็ดันทะเล่อทะล่าเข้ามาหาเรื่องฉันเสียก่อน” อลิเซียกระชากมือถืออออกพลางเดินไปนั่งที่หน้ากระจก

“เธอไม่ควรทำแบบนี้เลยโมเน้” ลอเรนส่ายหัวอย่างระอาในขณะที่โมนิก้าเริ่มร้องไห้

“ฉันถูกใส่ร้ายลอเรน ดานเต้ ฮื่อๆ”

“ดานเต้...คุณช่วยพาคนของคุณออกไปพ้นๆ สายตาฉัน ก่อนที่ฉันจะร้ายขึ้นมาจริงๆ” ดานเต้จ้องมองเงาของอลิเซียในกระจก ใบหน้าคมสวยนั้นเชิดใส่ทุกเหตุการณ์ที่เกิด หญิงสายชายตามองเขาเพียงน้อยเมื่อรู้ว่าถูกมองอยู่ก็รีบหลบสายตา

ดานเต้พยุงโมนิก้าออกจากห้องไปในขณธที่ลอเรนและเบนาดิกกำลังช่วยกันแก้ชุดที่เกิดรอยขาดนั้นอยู่ อลิเซียหันไปสอบตาลอเรนพลางเอื้อมมือกุมมือหญิงสาวไว้แน่น

“อย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดกว่าเดิมสิอลิเซีย...” ลอเรนยิ้มอย่างละอายใจ

“มันก็ไม่แปลกที่ทุกคนจะเข้าใจฉันผิด บางทีฉันควรจะชินกับอะไรแบบนี้ได้แล้ว” อลิเซียแค่นหัวเราะพลางสูดลมหายใจลึก

“คนเราเชื่อในสิ่งที่เห็นมากกว่าความเป็นจริงที่เกิด ถ้าฉันต้องเข้าใจผิดเธอแบบเหตุการณ์วันนั้นอีก ฉันคงรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต"” เบนาดิกทำสีหน้าเศร้าขณะที่กำลังเย็บชุดจากรอยขาดที่เกิดขึ้น ลอเรนมองหน้าอลิเซียสลับกับเบนาดิกราวกับสงสัยในคำพูดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เบนาดิกจึงเริ่มเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น

เบนาดิกเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อวันที่อลิเซียต้องขึ้นเดินแบบครั้งแรก ในวันนั้นก็เฉกเช่นวันนี้อลิเซียถูกทาบทามให้เดินชุดฟินนาเร่ของงาน และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ใครบางคนในงานวันนั้นรู้สึกว่าตนเองถูกแย่งตำแหน่งไป อลิเซียแต่งตัวอยู่ในห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อมขึ้นเดินฟินนาเร่ เบนาดิกในวันนั้นก็ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการแต่งหน้าและแต่งตัวของเธอเช่นกัน อลิเซียนั่งรอเรียกขึ้นเวลาทีอยู่คนเดียวในห้องแต่งตัว และใครบางคนก็เดินเข้ามาในห้องและพูดจาไม่ดีใส่อลิเซีย

ด้วยความเป็นเด็กของอลิเซียในวันนั้น เธอเลือกจะหนีและเดินออกจากห้องแต่งตัวไปแต่เธอกลับไม่รู้ตัวสักนิด ใครคนนั้นบอกทีมงานและทุกๆ คนว่าอลิเซียทำชุดของเธอขาดและขอให้ทีมงานตัดสิทธิ์เธอจากการเดินแบบในวันนั้น อลิเซียร้องขอความยุติธรรมในกองเดินแบบแต่ก็ไร้ผลทุกคนเชื่อผู้หญิงคนนั้นมากกว่าคำพูดจากเด็กที่เพิ่งเข้าวงการอย่างเธอ แต่ด้วยงานดำเนินมาจนถึงรอบที่ชุดฟินนาเร่ต้องขึ้นเดินแล้วจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนเดินได้ทัน อลิเซียได้ขึ้นเดินชุดฟินนาเร่และเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รองเท้าของเธอมีหมุดที่ถูกใส่ไว้ หมุดนั้นแทงเท้าของเธอจนเลือดซกรองเท้าส้นสูงพลิกในจังหวะที่เธอเดินได้ถึงกลางเวที เป็นข่าวใหญ่ที่ดังมากในช่วงนั้นที่อลิเซีย เดินแบบตกเวที

“ฉันนอนโรงพยาบาลอยู่หลายคืนมากจากเหตุการณ์วันนั้น” อลิเซียพูดขำๆ 

“กองเดินแบบเจอคลิปวิดีโอว่า ผู้หญิงคนนั้นใช้คัตเตอร์กรีดชุดตัวเองและหยอดหมุดลงในรองเท้าอลิเซีย ทุกคนในกองมาขอโทษแต่อลิเซียปฏิเสธการเจอคนในกองทุกคน” เบนาดิกเล่าเสียงสั่น

“ฉันไม่ได้ถือสาอะไรคนพวกนั้น...และไม่ต้องการรับคำขอโทษของใครเพราะพวกเขาแค่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น”

“แต่เรื่องพวกเขามันทำร้ายเธอ ทั้งร่างกายและชื่อเสียง” ลอเรนเสริม

“ความจริงจะยืนยันตัวของมันเอง...ฉันแค่เชื่อแบบนั้น”

อลิเซียนั่งอยู่หน้ากระจก ขนตายาวงอนสั่นไหวขณะที่เมคอัพอาร์ทิสต์กำลังเก็บรายละเอียดชุดและหน้าของเธออยู่ ชุดฟินนาเร่สีขาวประดับด้วยขนนกและประกายเพชรแพรวพราว เครื่องเพชรเต็มชุดถูกประโคมไว้บนร่างบาง เธอสวยมากราวกับนางฟ้าที่อยู่บนสรวงสวรรค์

เสียงดนตรีเปลี่ยนเป็นจังหวะทรงพลังราวกับประกาศศึก เมื่อการเดินโชว์ชุดสุดท้ายสิ้นสุดและชุดฟินนาเร่ที่ทุกคนรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้น ฉากบนรันเวย์ถูกเปลี่ยนเป็นเมฆสีขาว มีควันสีขาวจากไดฟ์ไอซ์ฟุ้งงขึ้นมาเต็มพื้นเวที จากพรมแดงแปรเปลี่ยนเป็นพื้นเมฆสีขาวละเอียด ไฟสปอร์ตไลท์ทั้งงานสาดลงมายังฉากสีขาวและเพดานของฮอลบัดนี้ได้ส่งแสงประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนฟากฟ้า เสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลเมื่อร่างบางในชุดฟินนาเร่สีขาวประดับคริสตัลระยิบระยับก้าวขึ้นมาบนเวที ชุดที่ทำให้เธอดูราวกับเทพีผู้เสด็จลงจากสวรรค์

“นั่นอลิเซีย!” ทุกสายตาแทบหยุดหาใจเมื่อเธอเริ่มก้าวเดิน แผ่นหลังตรง ดวงตาคมสวยเย็นเฉียบ ริมฝีปากแต้มรอยยิ้มเย้ยหยันบางๆ ทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยอำนาจจนกล้องแทบแตกจากเสียงชัตเตอร์

โมนิก้าและนางแบบคนอื่นๆ ทยอยเดินขึ้นมาบนรันเวย์ ขณะที่อลิเซียกำลังเดินกลับมายังกลุ่มนางแบบที่ยืนโพสท่ากันอยู่ โมนิก้าก็เบี่ยงเท้าออกมาจงใจจะให้อีกฝ่ายสะดุดเสียหลักตกเวทีแต่อลิเซียเบี่ยงตัวหลบได้ทัน

เสียงผู้ชมบางส่วนร้อง ว้าย! ด้วยความตกใจ

อลิเซียปรายตามองเพียงน้อ เธอยกคางสูง ก้าวเดินต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้อน เธอใช้ส้นสูงเหยียบกระโปรงของโมนิก้าไว้อย่างแนบเนียน ใบหน้าของเธอยกยิ้มสบตาโมนิก้าอย่างนางมารร้าย

“เตรียมตัวล้มให้สวยๆ ล่ะ เพราะเธอไม่มีวันชนะ!” ทันทีที่เสียงกระซิบจนลง อลิเซียก็ใช้ส้นสูงรั้งชายกระโปรงโมนิก้าจนร่างบางแทบล้มเองต่อหน้าสื่อ

เสียงแฟลชกล้องรัว แชะ แชะ แชะ

อลิเซียยิ้มหวานเดินหมุนอยู่หน้าเวทีและเริ่มเดินกลับไปที่ปลายเวทีอีกครั้ง เสียงดนตรีดังก้องขึ้นเรื่อยๆ จังหวะหนักแน่นราวกับหัวใจของใครหลายคนที่เต้นแรงตาม แสงไฟนับร้อยสาดประกายไปตามร่างระหงของอลิเซีย ที่กำลังก้าวเดินไปบนรันเวย์ ชุดฟินนาเร่สีขาวระยิบระยับสะท้อนแสงไฟราวกับเธอกำลังโอบอุ้มดวงดาวนับพันล้านดวงทั่วทั้งจักรวาล เส้นผมพริ้วสลวยปลิวไหวไปตามจังหวะก้าวเดินที่มั่นคง ครั้งนี้ทุกย่างก้าวคือการประกาศว่า ราชินีได้กลับมาครองบัลลังก์แล้ว

ผู้ชมทั้งฮอลเงียบกริบราวกับถูกสะกด เสียงแฟลชกล้องดัง แชะ แชะ ไม่หยุด แต่ในแถวนักข่าวกลับมีเสียงกระซิบแทรกขึ้น

“สวยมากๆ ทำไมเธอดูสง่างามกว่าทุกคนที่เคยเห็นมา”

“อลิเซียสวยมากๆ อย่างกับราชินี” 

เมื่อถึงปลายเวทีที่ทอดยาวไปจนถึงจุดสูงสุดของโชว์ อลิเซียหยุดยืน แผ่นหลังตรง ดวงตาคมกวาดสายตาไปทั่วทั้งฮอล เธอยกยิ้มเย้ยหยันบางๆ ดวงตาคมคู่นั้นหยุดสายตาที่ชายหนุ่มรูปงามในชุดสูทดำที่จ้องมองเธออยู่ไม่ละสายตาเช่นกัน อลิเซียอมยิ้มอย่างยั่วยวน เธอเดินมุ่งหน้าลงจากเวทีก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของดานเต้

แววตาของหญิงสาวอ่อนโยนลงจนเห็นได้ชัด เธอโพสท่าอยู่ตรงหน้าเขาท่ามกลางแสงแฟลชที่รัวไม่หยุด มือเล็กค่อยๆ แตะสัมผัสใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา ดานเต้จ้องมองเธอนิ่งราวกับพยายามอ่านใจ

“ฉันทำได้ดีขนาดนี้เพราะปลายทางของราชินีคนนี้ มีคู่ครองที่แสนดีรออยู่...” อลิเซียเอ่ยเสียงกังวาน

ไม่ทันทีใครจะได้เอ่ยอะไร หญิงสาวรั้งเนคไทสีดำสนิทเข้ามาใกล้ ใบหน้าสวยคมนั้นจุมพิตริมฝีปากของดานเต้อย่างดูดดื่มต่อหน้าทุกคน เสียงฮือฮาดังก้อง แขกทั้งงานแทบลุกยืน เพราะภาพนี้!

จุมพิตที่ประกาศแก่โลกเพื่อลบคำสบประมาททั้งหมด

“เธอคือภรรยาตัวจริงและคือราชินีที่ครอบครองหัวใจของมาเฟีย!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกมลวงรัก ราชินีนางร้ายของมาเฟีย   ตัวแปรของเกมลวง

    บทที่ 15ตัวแปรของเกมลวง อลิเซียเดินนำดานเต้เข้าไปในงานเลี้ยง หญิงสาวจ้องมองดูทุกอย่างในงานถูกจัดเตรียมไว้อย่างงดงามและหรูหราที่สุด เว้นเพียงตำแหน่งวางเค้กวันเกิดก้อนมหึมาที่จัดเตรียมไว้บัดนี้ยังคงว่างเปล่า เทียน่าเดินหน้าเครียดมายังหญิงสาว แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกดดันที่ล้นอก “เสียงดังอะไรกันเทียน่า...” ดานเต้รีบเอ่ยถามทันทีที่ร่างบางเดินเข้ามาใกล้ “ทีมงานของเมียพี่ทำงานกันยังไง ป่านนี้เค้กวันเกิดแม่ยังมาไม่ถึงg]p!” เสียงเธอแกมตะหวาด เทียน่าหันควับไปทางอลิเซียและฝาแฝด จนดานเต้ต้องเดินเข้ามายืนตรงกลางระหว่างน้องสาวและภรรยาของเขา “หมายความว่ายังไงลิลลี่ ไลล่า?”&nbs

  • เกมลวงรัก ราชินีนางร้ายของมาเฟีย   ทำตามเสียงหัวใจ

    บทที่14ทำตามเสียงหัวใจ อลิเซียเดินลงจากรถเข้าสู่ปราสาทลาเซลเวอร่าอย่างรีบร้อน เมื่อเดินทางห้องจัดเลี้ยงก็กุลีกุจอเดินหยิบโน่นจัดนี่ตามแบบใน แพลนงานเลี้ยงที่ดานเต้ให้ข้อมูลไว้ทุกโต๊ะถูกจัดวางด้วยกุหลาบสีแดงสดส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง ดอกไม้ทองคำที่ถูกสั่งทำพิเศษเฉพาะงานนี้ด้วยช่างฝีมือที่ประณีตที่สุดของอิตาลี ผ้าปูโต๊ะมันวาวสีงาช้างปักดิ้นทองจับแสงไฟในห้องจนดูหรูหราที่สุด ไวน์แดงระดับแรร์วินเทจถูกจัดเตรียมประดับประดาไว้ที่บาร์วีไอพีอย่างสวยงาม “อลิเซีย วาเลนไทน์!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางหน้าห้อง หญิงสาวหันกลับไปมองตามเสียงก็พบร่างบางในชุดเดรสสีทองสง่าเดินกรุยกรายเข้ามาจากทางหน้าห้อง “ลิลลี่

  • เกมลวงรัก ราชินีนางร้ายของมาเฟีย   สัมผัสของใจ

    บทที่ 13สัมผัสของใจ “รู้มั้ย...เมียที่ดื้อด้านต้องเจออะไร!” ดานเต้เอ่ยเสียงแข็งพลางรั้งต้นคางเธอไว้เมื่อเธอพยายามเบี่ยงหน้าหนี สัมผัสของจูบที่รุนแรงจนริมฝีปากบางของหญิงสาวแดงระเรื่อ ริมฝีปากของเธอกำลังจะขยับคล้ายจะเอ่ยคำแต่ทว่าไม่ทันได้พูดอะไร ดานเต้สอดแทรกลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปทักทาย ลิ้นหนาถาโถมเข้ามาจนจนอลิเซ๊ยเผลอปล่อยเสียงครางเบาๆ เขากดลงเธอลงกับที่นอน ฝ่ามือร้อนลูบไล้เรือนร่างบางอย่างเร่าร้อน ชุดเดรสถูกถลกขึ้นจนเห็นเรียวขานวลเนียนขาว ดานเต้ใช้ริมฝีปากปรโคมรอยจูบอุ่นลงตามซอกคอบาง มืออีกข้างรั้งสายชุดเดรสลงมาจนเห็นอกฟูเต่งตึงเขาขยำยอดอกขาวนั้นอย่างเมามือริมฝีปากดูดบดอยู่ที่ยอดอกเนียนขาว อลิเซียครางออกมาไม่เป็นภาษา “ดานเต้...ฉันเสียว อ๊า...” เธอพยายามจะรั้งชุดให้กลับเข้าที่แต่ก็ถูกมือหนารวบมือสองข้า

  • เกมลวงรัก ราชินีนางร้ายของมาเฟีย   ราตรีแห่งอดีต

    บทที่ 12ราตรีแห่งอดีต ห้องนอนหรูในคฤหาสถ์เลคโคโมเงียบสงัด มีเพียงเสียงนาฬิกาไม้โบราณที่ดังแผ่วเบาบอกช่วงเวลาที่หมุนผ่านไป แสงโคมไฟอุ่นนวลส่องจับร่างบางที่นอนซมไข้อยู่บนเตียง ผมสีน้ำตาลสลวยชื้นด้วยเหงื่อ ริมฝีปากซีดสั่นกอดร่างตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มหนา ดานเต้ที่นั่งเฝ้าเธออยู่ไม่ห่าง ขมวดคิ้วแน่นเอื้อมมือหนาเช็ดตัวหญิงสาวเบาๆ ด้วยผ้าเปียกเพื่อลดไข้ “...แม่...พ่อ...อย่าทิ้งหนู...” เสียงเพ้อเบาๆ หลุดออกมาพร้อมเสียงสะอื้นแม้ดวงตาจะหลับพริ้ม ใจของร่างสูงสะท้านแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มือใหญ่เอื้อมไปรั้งมือบางมาจับไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยเฉยชาบัดนี้เจือเอ่อไปด้วยความห่วงใยที่เขาก็ยากจะเชื่อตัวเอง เขาลุกขึ้นและนั่งลงบนเตียงนอนข้างๆ หญิงสาว แต่แล้วอลิเซียกลับคว้าแขนเขาไว้แน่นและเข้าสวมกอดร่างใหญ่ที่ใต้ผ้าห่มหนานั้

  • เกมลวงรัก ราชินีนางร้ายของมาเฟีย   กลิ่นอายของรสไวน์เก่า

    บทที่ 10กลิ่นอายของรสไวน์เก่า โต๊ะดินเนอร์ยาวถูกจัดเตรียมไว้อย่างหรูหราภายในห้องอาหารริมเลคโคโม วิวทะเลสาบที่เงียบสงบแต่กลับแฝงไปด้วยความลึกลับเมื่อเงามืดแห่งราตรีพาดผ่าน บนโต๊ะอยู่ปูไว้ด้วยผ้าสีขาวงาช้างมันวาว เครื่องเงินวาววับสะท้อนรับกับแสงเทียนที่พริ้วไหวเบาๆ ทุกอย่างดูงดงามและสมบูรณ์แบบ แตกต่างจากบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่ตึงเครียดจนแทบหายใจไม่ออก อลิเซียนั่งอยู่ข้างดานเต้ ไหล่เธอตึงราวกับถูกตรึงไว้ด้วยโซ่ล่องหน ใบหน้าเรียบสนิทกำลังพยายามเก็บงำอารมณ์ทั้งหมดไว้ในใจ เบื้องหน้าตรงข้าวขงเธอคือ “วิเวียน เทโมลิน” หญิงสาวร่างเล็กผิวขาวเนียนละเอียดราวกับลูกคุณหนู เรือนผมสีทองกระทบแสงไฟมันวาวรับกับชุดกำมะหยี่สีชมพูดูสดใส ใบหน้าสวยหวานดูจิ้มลิ้มน่าทะนุถนอมนั้นอมยิ้มหวานเย็นอยู่ตลอดเวลา แต่สายตากลับคมกริบราวกับใบมีดโกนที่พร้อมจะกรีดทุกหัวใจ&nb

  • เกมลวงรัก ราชินีนางร้ายของมาเฟีย   คู่สัญญาแสนดี

    บทที่ 9คู่สัญญาแสนดี แสงประกายสีทองอร่ามฉาบเคลือบบนผืนทะเลสาบเลื่องชื่อ ลมพัดผ่านผิวทะเลาสาบราวกับหยอเย้ากันเล่น เรือส่วนตัวลำสีดำสนิทกำลังแล่นอยู่กลางทะเลสาบ เสียงของเกลียวคลื่นเล็กๆ กระทบกับลำเรือเป็นระลอกๆ อลิเซียยืนเกาะราวตรงหัวเรือแน่น รู้สึกถึงแรงลมปะทะผิวในทุกช่วงที่เรือแล่นผ่าน เสียงดนตรีแจ๊สดังแว่วมาจากกลางลำเรือ ปาร์ตี้เล็กๆ กับแอลกอฮอร์หลายรูปแบบวางเรียงรายอยู่ในห้องรับรองกลางลำเรือ ราฟาเอลและเพื่อนนักธุรกิจของเขาอีก 3 คนกำลังนั่งดื่มแชมเปญกันอยู่ด้วยความสนุกสนาน อลิเซียนั่งลงตรงที่นั่งหน้าลำเรือ สายตาเหม่อลอยไปยังท้องน้ำกว้างที่สวยและดูสะอาดตาราวกับภาพวาดในจินตนาการ เงาของร่างสูงสะท้อนลงบนพื้นของลำเรือจนอลิเซียต้องรีบหันไปมอง ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตดำเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ สายตาของเขาจับจ้องใบหน้าของอลิเซีย พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่หนักแน่น&nbs

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status