LOGINชั้นยี่สิบของโรงแรมหรูใจกลางเมือง ชายหนุ่มเจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร กำลังนั่งอ่านรายงานการประชุมผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาอย่างพึงพอใจกับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่าน เอ่ยอนุญาตให้คนที่เคาะประตูเข้ามา
"เข้ามา"
"ขออนุญาตครับ คุณรัน"
"งานที่สั่งให้ไปทำเรียบร้อยดีไหม" ถามโดยที่ยังไม่เงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่าน
"ครับ เรียบร้อยตามที่คุณรันสั่งครับ" ดินลูกน้องคนสนิทพ่วงด้วยตำแหน่งเลขาเอ่ยบอกชายหนุ่มที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เคารพให้เกียรติ
"ดี"
"ว่าแต่...คุณรันแน่ใจแล้วเหรอครับว่าจะทำแบบนี้ ผมว่า..." เสียงของดินเอ่ยขึ้นมาเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขากำลังจะทำ
"ทำไม นายมีปัญหาอะไร" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเข้มติดไม่พอใจที่คนตรงหน้าเหมือนจะไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เขากำลังจะทำ
"เอ่อ ผมกลัวคุณท่านทราบ แล้วจะไม่เห็นด้วยครับ" ดินบอกเจ้านายหนุ่มด้วยน้ำเสียงติดจะกังวล
"ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจฉันได้รวมถึงคุณแม่ด้วย ฉันปล่อยให้คนพวกนั้นเสวยสุขบนกองเงินกองทองของครอบครัวฉันมานานเกินพอแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะทำให้ครอบครัวนั้นได้รู้ซึ้งถึงรสชาติของความเจ็บปวดและความทุกทรมานอย่างแสนสาหัส แบบที่ฉันกับแม่ฉันเคยได้รับมา" ชายหนุ่มพูดด้วยแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความแค้นและรอวันเอาคืนกับคนที่ทำให้เขากับแม่ต้องประสบพบเจอกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา
"ว่าแต่...วันนี้มีงานอะไรอีกไหม" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"มีครับ เป็นงานเลี้ยงของสมาคมผู้ประกอบการการโรงแรมครับ"
"หึ แสดงว่าผู้ชายคนนั้นก็ต้องไปด้วยสิ" ชายหนุ่มสะแยะยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันที่จะได้เจอคนที่เขาเครียดแค้นมานานนับสิบปี
"ครับ"
"ดี ฉันก็อยากเจอเจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์อยู่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ากำลังประสบปัญหาทางการเงินอยู่ แล้วเจอกัน นายพินิจ ไกรสรนาท" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยแววตาเกลียดแค้น
ภายในงานเลี้ยงของสมาคมผู้ประกอบการการโรงแรมที่จัดขึ้นทุกปี เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรมได้มาพบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับธุรกิจของโรงแรม
"อ้าว สวัสดีคุณภารัน ไม่คิดว่าจะเสียสละเวลามางานเลี้ยงด้วย" เสียงของนายกสมคมการโรงแรมเอ่ยทักทายนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงในยุคนี้
"สวัสดีครับ จะไม่มาได้ยังไงครับ ท่านอุตส่าห์เชิญทั้งที ไม่มาก็เสียมารยาทแย่" ชายหนุ่มตอบกลับอย่างรู้มารยาท
"เอ๊ะ นั่นคุณพินิจมาพอดี คุณพินิจเชิญทางนี้ก่อน" นายกสมาคมบอกชายหนุ่มรุ่นลูก พร้อมกับเรียกคนที่เอ่ยถึงให้มาหาตนด้วย
"สวัสดีครับท่าน" นายพินิจเอ่ยด้วยเสียงนอบน้อม นั่นทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หันกลับไปมองเจ้าของเสียงทันทีด้วยแววตาเรียบนิ่งยากจะคาดเดาความคิด
"แล้วนี่มาคนเดียวแล้วหนูพระพายไม่ได้มาด้วยกันเหรอ" นายกสมาคมเอ่ยถามถึงลูกสาวสุดที่รักของนายพินิจที่ปกติจะมากับนายพินิจเสมอ
"ไม่ได้มาครับ" นายพินิจตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"เออ ลืมแนะนำนี่ คุณภารัน เจ้าของโรงแรมดิ เอมเมอร์รัลด์ แกรนด์ ส่วนนี่ คุณพินิจ เจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์" หลังเสียงแนะนำของนายกสมาคมการโรงแรม ชายหนุ่มอายุน้อยก็เอ่ยแนะนำตัวกับคนที่มีอายุมากกว่า
"สวัสดีครับ ผมภารัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ ทั้งที่ภายในใจนั้นร้อนรุ่มไปด้วยไฟแค้นที่พร้อมจะแผดเผาคนตรงหน้าให้วอดวาย แต่ยังก่อนเขาจะค่อยๆ ทำให้คนตรงหน้าทุกข์ทรมานช้าๆ และค่อยๆ ตายไปในที่สุด
"สวัสดี ฉันพินิจ เจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์ ว่าแต่เราเคยเจอกันมาก่อนหรือป่าว ทำไมฉันถึงคุ้นหน้าจัง" นายพินิจจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาสงสัยพร้อมเอ่ยถามเด็กหนุ่มว่าเคยเจอกันมาก่อนหรือป่าว
"ผมว่าไม่เคยนะครับ เพราะผมอยู่เมืองนอกตลอด พึ่งจะกลับมาเมืองไทยไม่กี่ปีมานี้เอง" เมื่อชายหนุ่มตอบคำถามคนตรงหน้าเสร็จ ก็เอ่ยลานายกสมาคม พร้อมขอตัวกลับก่อน เพราะมีธุระต่อ แต่จริงๆ แล้ว ชายหนุ่มต้องรีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้น ก่อนที่จะเผลอแสดงความเกลียดชังที่มีต่อผู้ชายคนนั้นออกมาจนเสียแผนที่วางไว้
ภายในคฤหาสน์หลังโตที่กินเนื้อที่กว่าห้าไร่ของเจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์ คนปัจจุบัน มีสาวน้อยแสนสวยนามว่า พิตะวัน ไกรสรนาท หรือคุณหนูพระพาย สาวน้อยแสนสวยผู้เพียบพร้อมและเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน ที่กำลังขะมักเขม้นในการทำขนมเค้กแสนอร่อยอย่างตั้งอกตั้งใจ
“พี่แก้วค่ะ ช่วยหยิบกล่องให้พายหน่อยค่ะ” เสียงหวานเอ่ยบอกสาวใช้อย่างอ่อนหวาน
“ได้ค่ะ คุณพาย" สาวใช้รีบกุลีกุจอหยิบของให้นายสาว
“น่ากินมาเลยค่ะคุณพาย” หญิงสาวหันมายิ้มอ่อนหวานให้สาวใช้พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงไพเราะ
“พายแบ่งไว้ให้ทุกคนแล้วค่ะ แต่ว่ากินเยอะไม่ดีนะค่ะ เดียวอ้วน” เอ่ยบอกสาวใช้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ก็ขนมคุณพายอร่อยนี่ค่ะ พี่แก้วอ้วนก็ยอม แล้วนี่คุณพายจะเอาขนมไปให้คุณหวานเลยไหมค่ะ”
“ใช่จ๊ะ ทำเสร็จก็ว่าจะเอาไปให้เลย นี่ก็โทรถามตั้งแต่เช้าแล้วว่าเมื่อไหร่จะไป ขืนไปช้ากว่านี่โกรธพายแย่เลย” พูดถึงเพื่อนสาวสุดที่รักของเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถ้าพูดถึงเพื่อนของเธอคนนี้นั้น ทุกคนต่างลงความเห็นว่าทั้งคู่ไม่น่าจะมาคบกันได้เพราะทั้งคู่นั้นช่างแต่ต่างกันจนไม่น่าจะมาเป็นเพื่อนรักกันได้ ถ้าเทียบกันแล้วเธอก็เหมือนน้ำเย็น ส่วนเพื่อนเธอนั้นก็เหมือนไฟที่ร้อนแรง แต่แปลกที่ทั้งสองสามารถอยู่ด้วยกันได้โดยไม่มีปัญหา
หน้าห้องเสื้อชื่อดังย่านแหล่งชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งเป็นห้องเสื้อของเพื่อนสนิทเธอนั้นก็คือแสนหวาน แต่ตัวจริงนั้นไม่ได้หวานสมชื่อ ออกจะเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันแถมยังเป็นคนแรงๆ ไม่ยอมใคร ซึ่งต่างจากเธอมากที่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรเธอก็ยอมไปหมด
“ลุงชอบรอพายอยู่แถวนี้ก่อนนะค่ะ” หญิงสาวบอกคนขับรถด้วยน้ำเสียงไพเราะ
“ได้ครับคุณหนู” เสียงคนขับรถเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งหน้าห้องเสื้อชื่อดังดังขึ้น ทำให้สาวสวยเปรี้ยวจี๊ดเจ้าของห้องเสื้อหันมามองหน้าประตูพรางนึกว่าเป็นลูกค้าที่นัดมารับชุดที่สั่งตัดไว้กับห้องเสื้อของเธอ
“ยายพายย กว่าจะมาได้นะ ฉันรอตั้งแต่เช้า” เสียงเจ้าของห้องเสื้อบ่นทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสาวที่เป็นคนเปิดประตูเข้ามา
“ขอโทษนะ นี่พายรีบสุดแล้วนะ อย่าโกรธพายน้าา” หญิงสาวแสนสวยรีบเอ่ยขอโทษเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ออดอ้อนสุดฤทธิ์
“ทุกทีเลย ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนหน้าอ้อนเลย หวานไม่หายโกรธหรอก” เจ้าของห้องเสื้อทำหน้าแสนงอนใส่เพื่อนสาว
“ว้าา พายอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาทำขนมเค้กให้แสนหวาน ถ้าโกรธกันแบบนี้งั้นพายกลับแล้วนะ” เมื่อเห็นเพื่อนสาวทำท่าโกรธก็แกล้งด้วยการบอกว่าจะกลับพร้อมกับขนมที่ตั้งใจทำมาให้
“นี่ไม่ต้องมาทำแบบนี้เลย ห้ามกลับและเอาขนมเค้กมาเลย ไม่งั้นโกรธหนักกว่านี้แน่” เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวทำท่าจะหันหลังกลับ ก็รีบเอ่ยรั้งเพื่อนสาวทันที
“นี่เป็นไงน่ากินไหม พายทำสุดฝีมือเลยนะ” หญิงสาวรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น เมื่อเห็นเพื่อนสาวตกหลุมพรางตัวเองแล้ว
“ว้าวว น่ากินมากกกกก งั้นไปในห้องหวานกันดีกว่า” เอ่ยบอกพร้อมกับจับจูงกันเข้าไปในห้องทำงานด้านหลังทันที
“พายเดือนหน้าห้องเสื้อหวานจะจัดแฟชั่นโชว์ พายช่วยมาเดินแบบให้หวานหน่อยสิ นะๆ” เอ่ยบอกเพื่อนสาวพร้อมทำหน้าตาออดอ้อนสุดฤทธิ์
“ไม่เอาอ่ะ หวานก็รู้ว่าพายไม่ถนัดและก็ไม่ชอบอะไรแบบนั้นด้วย เกิดพายไปเดินแล้วสะดุดล้มอายเขาแย่” เมื่อได้ยินแบบนั้นหญิงสาวก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธคำบอกเล่าของเพื่อนสาวทันที
“ไม่หรอก นะๆ ช่วยหวานหน่อยนะๆ เดินไม่ยากหรอก เดียวหวานสอนเอง” เจ้าของห้องเสื้อยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะให้เพื่อนของตนเองมาเดินแบบในงานตัวเอง
“งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า เดียวพายทำขนมมาเลี้ยงแขกให้หวานแทนดีไหม อันนี้พายถนัดมาก” เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวยังอ้อนไม่เลิก หญิงสาวเลยต้องเอาตัวรอดด้วยการทำในสิ่งที่ตนเองถนัดแทน
“เฮ้อออ พายน่ะตลอดเลยหวานก็แค่อยากจะโชว์ความสวยของเพื่อนให้คนอื่นได้เห็น แต่เพื่อนดันปฏิเสธความหวังดี ยัยหวานเซ็ง” เจ้าของห้องเสื้อทำหน้าเซ็งใส่เพื่อนที่ปฏิเสธความหวังดีของตนเอง
“ไม่เอาน้าา ไม่งอนสิ เดียวหวานจะทำขนมให้สุดฝีมือเลย”
"ก็ได้ๆ ถ้าไม่อร่อยละน่าดู" เอ่ยด้วยน้ำเสียงคาดโทษที่ไม่จริงจังนัก ทำให้คนที่โดนคาดโทษหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างขบขำกับสีหน้าของเพื่อนสาว
หลังจากวันนั้นภารันก็มีอาการแบบเดิมและเป็นหนักกว่าเดิมจนไม่สามารถลุกขึ้นไปทำงานได้ เดือดร้อนถึงดินแดนที่ต้องทำงานแทนทุกอย่าง โดยที่ถ้ามีเอกสารสำคัญที่ภารันต้องเซ็นลงนามดินแดนก็จะหอบเอกสารมาให้ภารันเซ็นที่บ้านแทน“พี่รันไหวไหมค่ะ” พระพายเดินเข้ามาดูภารันที่ไม่สามารถลุกจากที่นอนได้เลยเนื่องจากอาการหน้ามืดเวียนหัวเล่นงานไม่หยุดไม่หย่อน“ไม่ไหว” ภารันตอบทั้งที่ยังไม่ลืมตา เมื่อเห็นสภาพของภารันพระพายก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับนั่งลงข้างๆ“พี่รันลุกขึ้นมาทานข้าวต้มไหวไหมค่ะ” เมื่อได้ยินแบบนั้นภารันก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว แต่พอได้กลิ่นข้าวต้มอาการพะอืดพะอมก็เล่นงานทันที ทำให้ภารันต้องสลัดผ้าห่มออกแล้ววิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำทันที ด้านพระพายที่เห็นแบบนั้นก็รีบตามภารันเข้ามาในห้องน้ำเพื่อมาลูบหลังให้ โดยที่ภารันก็โก่งคออาเจียนอยู่ที่ชักโครกด้วยสภาพที่อ่อนแรงอย่างน่าสงสาร“พี่รันมาค่ะ เดี๋ยวพายพาออกไปนอนที่เตียงนะค่ะ” พระพายเรียกชื่อภารันด้วยความเป็นห่วงกับอาการที่ภารันกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ โดยทั้งสงสารและเอ็นดูไปในตัวที่ภารันมีอาการแพ้ท้องแทนเธอ ถ้าภารันรู้ว่าเธอท้องเขาจะมี
หลังจากที่พระพายยอมให้โอกาสภารันอีกครั้ง ภารันก็ดูแลพระพายดุจเจ้าหญิงไม่ว่าพระพายจะทำอะไรหรือต้องการอะไรภารันก็ยอมทุกอย่าง“พี่รันค่ะ พี่รันตื่นก่อนค่ะ” แรงเขย่าที่แขนทำให้ภารันต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย“อือ พายว่าไงครับ” ภารันหันไปถามพระพายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พายอยากกินข้าวไข่เจียวค่ะ พี่รันทำให้พายกินหน่อยได้ไหมค่ะ” พระพายบอกความต้องการไปให้ภารันได้รับรู้“พายอยากกินข้าวไข่เจียวตอนนี้เนี่ยนะ” ภารันพูดออกไปพร้อมกับเหลือบมองไปยังนาฬิกาซึ่งตอนนี้บอกเวลาตีสองกว่าแล้ว“ค่ะ พายอยากกิน” พระพายพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเบาๆ พร้อมกับเอาหน้าไปถูซอกคอภารันอย่างออดอ้อน“มันดึกแล้วเอาไว้กินพรุ่งนี้ดีกว่านะครับ” หลังจบประโยคของภารัน พระพายก็เงยหน้ามาสบตากับภารันด้วยใบหน้าที่บึงตึงพร้อมกับสะบัดตัวหันหลังให้ภารันทันที"พายไม่กินแล้วก็ได้ค่ะ” หลังจากที่พระพายพูดจบภารันก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ มาจากทางเมียรักทำให้ภารันถึงกับตกใจพร้อมกับเอี้ยวตัวไปเปิดโคมไฟหัวเตียงทันที“พายร้องไห้ทำไมครับ” ภารันถามออกไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนเมื่อเห็นว่าพระพายกำลังร้องไห้อยู่“พี่รันไม่ต้องมาสนใจพายหรอกค่ะ” พระพายพูดออกไป
หลังจากนั้นพระพายก็ชันขาทั้งสองข้างขึ้นให้เป็นรูปตัวเอ็มพร้อมกับอ้าขาให้กว้างขึ้น ภารันจ้องมองช่องทางรักของพระพายที่มีน้ำหวานเกาะติดอยู่ก็แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งราวกับขาดน้ำของตัวเองทันที“ร่องพายโคตรน่าเลียเลย พี่ขอเลียนะ” พูดจบภารันก็ก้มหน้าลงไปที่กลีบกุหลาบแสนสวยของพระพายทันทีโดยที่ไม่ได้รอให้พระพายได้อนุญาต ภารันเริ่มจากการดูดดุนติ่งเกสรที่มันล่อตาล่อใจของเขาก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นภารันก็ใช้ลิ้นร้อนชื้นของตัวเองลากไปตามร่องที่มีน้ำหวานติดอยู่ของพระพาย บางจังหวะภารันก็ห่อลิ้นให้เรียวแหลมแล้วจวงแทงเข้าออกในช่องทางรักของพระพายให้เหมือนกับตอนที่เขาใช้เอ็นร้อนจวงแทงเข้าไปในช่องทางรักเพื่อปรนเปรอพระพาย เสียงลามกดังไปทั่วห้องนอนสร้างความเสียวซ่านให้ทั้งคู่ได้เป็นอย่างดีแจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ“อือ อ้า พี่รันขา” พระพายครางออกมาเสียงดังอย่างเสียวซ่านกับการปรนเปรอของภารัน โดยที่พระพายได้ยื่นมือลงไปจับที่ศีรษะของภารันพร้อมกับขยุ้มอย่างต้องการที่ระบายกับความเสียวซ่านที่ได้รับ“พายชอบให้พี่เลียไหม” ภารันเงยหน้าจากกุหลาบงามเพื่อมาถามพระพายแต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งนิ้วเรียวยาวเข้าไปในช่องทางรักข
ภายในห้องอาหารของคฤหาสน์หลังโตวันนี้มีเพียงคุณหญิงนวลปรางพระพายและภูวินทร์เท่านั้นที่นั่งรับประทานอาหาร“หนูพายตารันไปไหนทำไมไม่ยอมมากินข้าว” คุณหญิงนวลปรางหันไปถามพระพายที่นั่งกินข้าวอยู่เงียบๆ“คุณพ่อไม่ค่อยสบายตอนนี้กินยานอนแล้วครับ” ภูวินทร์เป็นคนที่ตอบกลับไปแทน“อ้าวแล้วพ่อเราเขาเป็นอะไรล่ะ” คุณหญิงนวลปรางหันมาถามภูวินทร์ด้วยความสงสัย“คือคุณพ่อโดนรถเฉี่ยวน่ะครับ”“ตายจริงแล้วเป็นอะไรมากไหม” คุณหญิงนวลปรางอุทานออกไปด้วยความตกใจ“ไม่เป็นไรมากครับ มีรอยถลอกนิดหน่อยครับ”“งั้นหนูพายป้าฝากดูแลตารันด้วยนะ” คุณหญิงนวลปรางหันมาฝากฝังพระพายให้ช่วยดูแลภารันทันทีที่รู้ว่าภารันโดนรถเฉี่ยว“เอ่อ พาย”“เดี๋ยวภูดูเองครับ ตอนนี้คุณพ่อนอนอยู่ห้องภู”“ทำไมพ่อเราไปนอนห้องเราล่ะ”“คุณพ่อบอกว่าแม่พายไล่ไม่ให้นอนด้วยครับ คุณพ่อเลยมานอนห้องภูก่อน” ขณะที่พูดไปภูวินทร์ก็คิดไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะลงมาจากห้อง“แขนกับคิ้วพ่อไปโดนอะไรมาครับ” ภูวินทร์ถามออกไปเมื่อเห็นสภาพของภารัน“เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่าภูทำยังไงก็ได้ให้แม่ยอมให้พ่อไปนอนด้วย” เมื่อได้ยินแบบนั้นภูวินทร์ก็พยักหน้าน้อยๆ ให้ภารัน “ผมจะพย
หลังจากหายป่วยดีแล้วพระพายก็กลับมาเปิดร้านขนมอีกครั้งหลังจากที่ปิดไปนานกรุ๊งกริ๊งเสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นทำให้พระพายเงยหน้าจากการจัดขนมเข้าตู้ และเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาพระพายก็ส่งยิ้มให้ทันที“สวัสดีค่ะคุณพฤกษ์” พระพายส่งเสียงทักทายพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้“สวัสดีครับ ดีใจจังที่คุณพายเปิดร้านแล้ว” พฤกษ์พูดออกไปพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“พอดีพายมีเรื่องนิดหน่อนค่ะ หลังจากนี้ก็จะเปิดตลอดแล้วค่ะ”“ครับ”“แล้ววันนี้คุณพฤกษ์จะรับอะไรดีค่ะ”“เอาเหมือนเดิมครับ”“ได้ค่ะ รอสักครู่นะค่ะ” หลังจากนั้นพระพายก็จัดขนมให้พฤกษ์พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ทำให้ภารันที่เดินมาจากทางด้านหลังของร้านมองภาพความสนิทสนมนั้นด้วยความหึงหวง“ทำอะไรกัน” ภารันถามออกไปพร้อมกับมองหน้าพฤกษ์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร“ทำอะไรแล้วคุณยุ่งอะไรด้วยค่ะ” พระพายตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงติดจะเย็นชา เมื่อได้ยินเสียงพระพายภารันก็หน้าสลดลงทันที“พี่”“จะไปส่งขนมใช่ไหม ก็ไปสิค่ะเดี๋ยวลูกค้าจะรอนาน” เมื่อได้ยินพระพายพูดแบบนั้นภารันก็เดินคอตกไปที่ประตูเพื่อออกไปส่งขนมตามที่เขารับอาสาเมื่อเช้านี้ ระหว่างที่จะเปิดประตูร้านหูของภารันก็ได้ยินปร
ภายในห้องครัวของบ้านหลังโตภารันที่อยู่ในชุดใส่ผ้ากันเปื้อนกำลังยืนขะมักขะเม่นในการทำอะไรสักอย่าง ทำให้สาวใช้ทั้งหลายต่างชะเง้อมองกันเป็นแถว“คุณรันทำเมนูอะไรอยู่ค่ะ” หนึ่งในสาวใช้ถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังของเจ้านายหนุ่ม“ขนมพระพาย” ภารันตอบกลับไปพร้อมกับส่งยิ้มน้อยๆ ให้สาวใช้ที่ยืนกันอยู่ในครัว“ชื่อเหมือนคุณพระพายเลยนะค่ะ แสดงว่าคุณรันตั้งใจทำให้คุณพระพายใช่ไหมค่ะ”“ใช่ ฉันตั้งใจทำให้พระพายกิน” ภารันพูดไปยิ้มไปวันนี้เขาตั้งใจทำขนมชนิดนี้เพราะครั้งนึงเขาเคยทำให้พระพายกินแล้วพระพายบอกว่าอร่อย ซึ่งมันก็ทำให้ภารันคิดไปถึงเมื่ออดีตตอนที่เขาทำขนมชนิดนี้ให้พระพายกินเป็นครั้งแรก“พี่รันทำอะไรอยู่ค่ะ” พระพายเดินเข้ามาสวมกอดภารันที่ด้านหลังพร้อมกับชะเง้อหน้าไปดูว่าภารันกำลังทำอะไรอยู่“พี่กำลังทำขนมพระพายอยู่” ภารันหันหน้ามาตอบด้วยรอยยิ้มอบอุ่น“จริงเหรอค่ะ พี่รันทำเป็นด้วยเหรอค่ะ” พระพายพูดออกไปพร้อมกับทำตาโตไปด้วยไม่คิดว่าภารันจะทำขนมพระพายเป็น“เป็นสิ พายไม่รู้เหรอว่าแฟนพายเก่งแค่ไหน” ภารันหันมายิ้มแล้วทำหน้าทะเล้นใส่พระพาย“ค่า เชื่อค่ะ แต่พายต้องชิมก่อนนะค่ะว่าผ่านไหม”“ถ้างั้นก็ไ







