ชั้นยี่สิบของโรงแรมหรูใจกลางเมือง ชายหนุ่มเจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร กำลังนั่งอ่านรายงานการประชุมผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาอย่างพึงพอใจกับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่าน เอ่ยอนุญาตให้คนที่เคาะประตูเข้ามา
"เข้ามา"
"ขออนุญาตครับ คุณรัน"
"งานที่สั่งให้ไปทำเรียบร้อยดีไหม" ถามโดยที่ยังไม่เงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่าน
"ครับ เรียบร้อยตามที่คุณรันสั่งครับ" ดินลูกน้องคนสนิทพ่วงด้วยตำแหน่งเลขาเอ่ยบอกชายหนุ่มที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เคารพให้เกียรติ
"ดี"
"ว่าแต่...คุณรันแน่ใจแล้วเหรอครับว่าจะทำแบบนี้ ผมว่า..." เสียงของดินเอ่ยขึ้นมาเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขากำลังจะทำ
"ทำไม นายมีปัญหาอะไร" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเข้มติดไม่พอใจที่คนตรงหน้าเหมือนจะไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เขากำลังจะทำ
"เอ่อ ผมกลัวคุณท่านทราบ แล้วจะไม่เห็นด้วยครับ" ดินบอกเจ้านายหนุ่มด้วยน้ำเสียงติดจะกังวล
"ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจฉันได้รวมถึงคุณแม่ด้วย ฉันปล่อยให้คนพวกนั้นเสวยสุขบนกองเงินกองทองของครอบครัวฉันมานานเกินพอแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะทำให้ครอบครัวนั้นได้รู้ซึ้งถึงรสชาติของความเจ็บปวดและความทุกทรมานอย่างแสนสาหัส แบบที่ฉันกับแม่ฉันเคยได้รับมา" ชายหนุ่มพูดด้วยแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความแค้นและรอวันเอาคืนกับคนที่ทำให้เขากับแม่ต้องประสบพบเจอกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา
"ว่าแต่...วันนี้มีงานอะไรอีกไหม" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"มีครับ เป็นงานเลี้ยงของสมาคมผู้ประกอบการการโรงแรมครับ"
"หึ แสดงว่าผู้ชายคนนั้นก็ต้องไปด้วยสิ" ชายหนุ่มสะแยะยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันที่จะได้เจอคนที่เขาเครียดแค้นมานานนับสิบปี
"ครับ"
"ดี ฉันก็อยากเจอเจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์อยู่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ากำลังประสบปัญหาทางการเงินอยู่ แล้วเจอกัน นายพินิจ ไกรสรนาท" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยแววตาเกลียดแค้น
ภายในงานเลี้ยงของสมาคมผู้ประกอบการการโรงแรมที่จัดขึ้นทุกปี เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรมได้มาพบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับธุรกิจของโรงแรม
"อ้าว สวัสดีคุณภารัน ไม่คิดว่าจะเสียสละเวลามางานเลี้ยงด้วย" เสียงของนายกสมคมการโรงแรมเอ่ยทักทายนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงในยุคนี้
"สวัสดีครับ จะไม่มาได้ยังไงครับ ท่านอุตส่าห์เชิญทั้งที ไม่มาก็เสียมารยาทแย่" ชายหนุ่มตอบกลับอย่างรู้มารยาท
"เอ๊ะ นั่นคุณพินิจมาพอดี คุณพินิจเชิญทางนี้ก่อน" นายกสมาคมบอกชายหนุ่มรุ่นลูก พร้อมกับเรียกคนที่เอ่ยถึงให้มาหาตนด้วย
"สวัสดีครับท่าน" นายพินิจเอ่ยด้วยเสียงนอบน้อม นั่นทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หันกลับไปมองเจ้าของเสียงทันทีด้วยแววตาเรียบนิ่งยากจะคาดเดาความคิด
"แล้วนี่มาคนเดียวแล้วหนูพระพายไม่ได้มาด้วยกันเหรอ" นายกสมาคมเอ่ยถามถึงลูกสาวสุดที่รักของนายพินิจที่ปกติจะมากับนายพินิจเสมอ
"ไม่ได้มาครับ" นายพินิจตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"เออ ลืมแนะนำนี่ คุณภารัน เจ้าของโรงแรมดิ เอมเมอร์รัลด์ แกรนด์ ส่วนนี่ คุณพินิจ เจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์" หลังเสียงแนะนำของนายกสมาคมการโรงแรม ชายหนุ่มอายุน้อยก็เอ่ยแนะนำตัวกับคนที่มีอายุมากกว่า
"สวัสดีครับ ผมภารัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ ทั้งที่ภายในใจนั้นร้อนรุ่มไปด้วยไฟแค้นที่พร้อมจะแผดเผาคนตรงหน้าให้วอดวาย แต่ยังก่อนเขาจะค่อยๆ ทำให้คนตรงหน้าทุกข์ทรมานช้าๆ และค่อยๆ ตายไปในที่สุด
"สวัสดี ฉันพินิจ เจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์ ว่าแต่เราเคยเจอกันมาก่อนหรือป่าว ทำไมฉันถึงคุ้นหน้าจัง" นายพินิจจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาสงสัยพร้อมเอ่ยถามเด็กหนุ่มว่าเคยเจอกันมาก่อนหรือป่าว
"ผมว่าไม่เคยนะครับ เพราะผมอยู่เมืองนอกตลอด พึ่งจะกลับมาเมืองไทยไม่กี่ปีมานี้เอง" เมื่อชายหนุ่มตอบคำถามคนตรงหน้าเสร็จ ก็เอ่ยลานายกสมาคม พร้อมขอตัวกลับก่อน เพราะมีธุระต่อ แต่จริงๆ แล้ว ชายหนุ่มต้องรีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้น ก่อนที่จะเผลอแสดงความเกลียดชังที่มีต่อผู้ชายคนนั้นออกมาจนเสียแผนที่วางไว้
ภายในคฤหาสน์หลังโตที่กินเนื้อที่กว่าห้าไร่ของเจ้าของโรงแรม ทีพี แกรนด์ คนปัจจุบัน มีสาวน้อยแสนสวยนามว่า พิตะวัน ไกรสรนาท หรือคุณหนูพระพาย สาวน้อยแสนสวยผู้เพียบพร้อมและเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน ที่กำลังขะมักเขม้นในการทำขนมเค้กแสนอร่อยอย่างตั้งอกตั้งใจ
“พี่แก้วค่ะ ช่วยหยิบกล่องให้พายหน่อยค่ะ” เสียงหวานเอ่ยบอกสาวใช้อย่างอ่อนหวาน
“ได้ค่ะ คุณพาย" สาวใช้รีบกุลีกุจอหยิบของให้นายสาว
“น่ากินมาเลยค่ะคุณพาย” หญิงสาวหันมายิ้มอ่อนหวานให้สาวใช้พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงไพเราะ
“พายแบ่งไว้ให้ทุกคนแล้วค่ะ แต่ว่ากินเยอะไม่ดีนะค่ะ เดียวอ้วน” เอ่ยบอกสาวใช้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ก็ขนมคุณพายอร่อยนี่ค่ะ พี่แก้วอ้วนก็ยอม แล้วนี่คุณพายจะเอาขนมไปให้คุณหวานเลยไหมค่ะ”
“ใช่จ๊ะ ทำเสร็จก็ว่าจะเอาไปให้เลย นี่ก็โทรถามตั้งแต่เช้าแล้วว่าเมื่อไหร่จะไป ขืนไปช้ากว่านี่โกรธพายแย่เลย” พูดถึงเพื่อนสาวสุดที่รักของเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถ้าพูดถึงเพื่อนของเธอคนนี้นั้น ทุกคนต่างลงความเห็นว่าทั้งคู่ไม่น่าจะมาคบกันได้เพราะทั้งคู่นั้นช่างแต่ต่างกันจนไม่น่าจะมาเป็นเพื่อนรักกันได้ ถ้าเทียบกันแล้วเธอก็เหมือนน้ำเย็น ส่วนเพื่อนเธอนั้นก็เหมือนไฟที่ร้อนแรง แต่แปลกที่ทั้งสองสามารถอยู่ด้วยกันได้โดยไม่มีปัญหา
หน้าห้องเสื้อชื่อดังย่านแหล่งชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งเป็นห้องเสื้อของเพื่อนสนิทเธอนั้นก็คือแสนหวาน แต่ตัวจริงนั้นไม่ได้หวานสมชื่อ ออกจะเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันแถมยังเป็นคนแรงๆ ไม่ยอมใคร ซึ่งต่างจากเธอมากที่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรเธอก็ยอมไปหมด
“ลุงชอบรอพายอยู่แถวนี้ก่อนนะค่ะ” หญิงสาวบอกคนขับรถด้วยน้ำเสียงไพเราะ
“ได้ครับคุณหนู” เสียงคนขับรถเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งหน้าห้องเสื้อชื่อดังดังขึ้น ทำให้สาวสวยเปรี้ยวจี๊ดเจ้าของห้องเสื้อหันมามองหน้าประตูพรางนึกว่าเป็นลูกค้าที่นัดมารับชุดที่สั่งตัดไว้กับห้องเสื้อของเธอ
“ยายพายย กว่าจะมาได้นะ ฉันรอตั้งแต่เช้า” เสียงเจ้าของห้องเสื้อบ่นทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสาวที่เป็นคนเปิดประตูเข้ามา
“ขอโทษนะ นี่พายรีบสุดแล้วนะ อย่าโกรธพายน้าา” หญิงสาวแสนสวยรีบเอ่ยขอโทษเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ออดอ้อนสุดฤทธิ์
“ทุกทีเลย ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนหน้าอ้อนเลย หวานไม่หายโกรธหรอก” เจ้าของห้องเสื้อทำหน้าแสนงอนใส่เพื่อนสาว
“ว้าา พายอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาทำขนมเค้กให้แสนหวาน ถ้าโกรธกันแบบนี้งั้นพายกลับแล้วนะ” เมื่อเห็นเพื่อนสาวทำท่าโกรธก็แกล้งด้วยการบอกว่าจะกลับพร้อมกับขนมที่ตั้งใจทำมาให้
“นี่ไม่ต้องมาทำแบบนี้เลย ห้ามกลับและเอาขนมเค้กมาเลย ไม่งั้นโกรธหนักกว่านี้แน่” เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวทำท่าจะหันหลังกลับ ก็รีบเอ่ยรั้งเพื่อนสาวทันที
“นี่เป็นไงน่ากินไหม พายทำสุดฝีมือเลยนะ” หญิงสาวรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น เมื่อเห็นเพื่อนสาวตกหลุมพรางตัวเองแล้ว
“ว้าวว น่ากินมากกกกก งั้นไปในห้องหวานกันดีกว่า” เอ่ยบอกพร้อมกับจับจูงกันเข้าไปในห้องทำงานด้านหลังทันที
“พายเดือนหน้าห้องเสื้อหวานจะจัดแฟชั่นโชว์ พายช่วยมาเดินแบบให้หวานหน่อยสิ นะๆ” เอ่ยบอกเพื่อนสาวพร้อมทำหน้าตาออดอ้อนสุดฤทธิ์
“ไม่เอาอ่ะ หวานก็รู้ว่าพายไม่ถนัดและก็ไม่ชอบอะไรแบบนั้นด้วย เกิดพายไปเดินแล้วสะดุดล้มอายเขาแย่” เมื่อได้ยินแบบนั้นหญิงสาวก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธคำบอกเล่าของเพื่อนสาวทันที
“ไม่หรอก นะๆ ช่วยหวานหน่อยนะๆ เดินไม่ยากหรอก เดียวหวานสอนเอง” เจ้าของห้องเสื้อยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะให้เพื่อนของตนเองมาเดินแบบในงานตัวเอง
“งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า เดียวพายทำขนมมาเลี้ยงแขกให้หวานแทนดีไหม อันนี้พายถนัดมาก” เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวยังอ้อนไม่เลิก หญิงสาวเลยต้องเอาตัวรอดด้วยการทำในสิ่งที่ตนเองถนัดแทน
“เฮ้อออ พายน่ะตลอดเลยหวานก็แค่อยากจะโชว์ความสวยของเพื่อนให้คนอื่นได้เห็น แต่เพื่อนดันปฏิเสธความหวังดี ยัยหวานเซ็ง” เจ้าของห้องเสื้อทำหน้าเซ็งใส่เพื่อนที่ปฏิเสธความหวังดีของตนเอง
“ไม่เอาน้าา ไม่งอนสิ เดียวหวานจะทำขนมให้สุดฝีมือเลย”
"ก็ได้ๆ ถ้าไม่อร่อยละน่าดู" เอ่ยด้วยน้ำเสียงคาดโทษที่ไม่จริงจังนัก ทำให้คนที่โดนคาดโทษหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างขบขำกับสีหน้าของเพื่อนสาว
ช่วงบ่ายของวัน ภายในห้องพักฟื้นของคนไข้วีไอพี ได้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน พร้อมกับใบหน้าเย้ยหยันกับสภาพของคนป่วยที่เห็นตรงหน้า“สวัสดีครับ ผมมาเยี่ยมครับ”“มาเยี่ยมหรือมาดูว่าฉันตายหรือยัง” นายพินิจเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง“ทำไมพูดอย่างนั้นละครับ ที่ผมมาวันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกคุณอีกเรื่องนึงครับ”“เรื่องอะไร”“ก็เรื่องลูกสาวสุดที่รักคุณยังไงละครับ”“พระพาย”“ใช่ ลูกสาวสุดที่รักของคุณ”“มีเรื่องอะไร นายทำอะไรพระพาย”“นี่คุณไม่เคยสงสัยเลยเหรอที่ลูกสาวคุณหายไปไหนมาไหนบ่อยๆ น่ะ ว่าหายไปกับใคร”“หมายความว่าไง”“รู้อะไรไหมลูกสาวคุณน่ะมันทั้งจืดชืด ไม่มีเสน่ห์ อยู่ด้วยแล้วน่าเบื่อที่สุด เวลาที่ผมอยู่กับลูกสาวคุณน่ะผมทั้งเกลียดทั้งขยะแขยง แต่ผมก็ต้องทำเป็นรักทั้ง ๆ ที่ในใจผมน่ะแสนจะเกลียดลูกสาวคุณ ลูกสาวคุณน่ะมันทั้งโง่ ทั้งซื่อบื้อ พูดดีด้วยหน่อย ทำดีด้วยหน่อย ก็หลงรักผมหัวปักหัวปร่ำ ถึงขนาดยอมขึ้นเตียงกับผมง่ายๆ แต่ก็นะมีของฟรีมาให้เอามีหรือที่ผู้ชายจะปฏิเสธ แต่สำหรับลูกสาวคุณน่ะเอาแค่ครั้งสองครั้งผมก็เบื่อแล้ว แต่ถ้าจะเอาไปใส่ตะกร้าล้างน้ำก็น่าจะได้อยู่เพราะผมใช้งานไม่หนัก” พูด
หลังกลับมาจากภูเก็ต พระพายก็เริ่มมีความรู้สึกว่าแฟนหนุ่มของตัวเองนั้นเปลี่ยนไป ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ โทรไปก็บอกติดงานตลอด พักนี้เธอไม่ค่อยได้เจอกับชายหนุ่มเลย จนทำให้เธอเริ่มกระวนกระวายใจเป็นอย่างมากตูดดดด“ทำไมพี่รันไม่รับสายนะ” พระพายโทรหาแฟนหนุ่มอยู่พักใหญ่ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมรับสายเธอเลย“คุณรันไม่รับโทรศัพท์หน่อยเหรอครับ” ดินแดนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นสายโทรเข้ามาหลายครั้งแต่เจ้านายของเขาก็ไม่รับปล่อยให้สายมันตัดไป“วันนี้คุณแม่จะถึงสนามบินกี่โมง” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องโดยที่ยื่นมือไปคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงกับโต๊ะทำงาน“เอ่ออ 4 โมงเย็นครับ”“อืม”“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”“เดี๋ยวก่อน ตอนนี้เรื่องนายพินิจจัดการไปถึงไหนแล้ว”“ทุกอย่างของนายพินิจ ตอนนี้เป็นของคุณรันทุกอย่างแล้วครับ”“อืม นายกลับไปทำงานได้แล้ว”“ครับ” หลังจากดินแดนเดินออกไปแล้ว โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็มีสายเรียกเข้า เป็นสายที่เขาหลีกเลี่ยงไม่รับมาตั้งแต่กลับจากภูเก็ตแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะจัดการขั้นเด็ดขาดสักที16.00 น สนามบินสุวรรณภูมิ มีชายหนุ่มรูปหล่อมายืนรอรับผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศ ทำให้บรรดาสาวๆ ต่างมองมา
แสงแดดที่ส่องมาในช่วงสายของเช้าวันใหม่ ทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงต้องพลิกตัวหนีเนื่องจากรบกวนการนอนของเธอ ชายหนุ่มที่นอนซ้อนด้านหลังเธออยู่นั้นก็เผลอยิ้มออกมา เมื่อหญิงสาวนั้นพลิกตัวหันหน้ากลับมาทางเขา“อืออ” หญิงสาวส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ หลังจากได้รับการรบกวนจากอะไรสักอย่างที่คลอเครียอยู่ที่หน้าอก หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ทำให้เห็นกลุ่มผมสีดำที่อยู่บนหน้าอกของเธอ“พี่รัน” หญิงสาวเรียกชายหนุ่มที่กำลังดูดเลียหน้าอกของเธออย่างดูดดื่มด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่องด้วยความเขินอาย“ครับ” ชายหนุ่มเงยหน้าจากหน้าอกของหญิงสาวพร้อมกับขานรับอย่างหน้าตาย พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้หญิงสาวตรงหน้าที่นอนหน้าแดงกร่ำอยู่“พี่รันทำอะไรค่ะ”“กินนมตอนเช้าไงครับ ร่างกายจะได้แข็งแรง” หลังจากชายหนุ่มพูดจบหญิงสาวก็อายเข้าไปใหญ่ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะพูดออกมาอย่างนี้“มันต้องกินจากกล่องไม่ใช่เหรอค่ะ”“กินจากกล่องพี่เบื่อแล้ว ตอนนี้พี่อยากกินจากเต้ามากกว่า” หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็ก้มหน้าลงไปดูดนมหญิงสาวทันที ทำให้หญิงสาวเผลอเปล่งเสียงครางออกมาอย่างเสียวซ่าน“พี่รันอย่าค่ะ พายเสียวว” ถึงพูดออกไปอย่าง
สนามบินนานาชาติภูเก็ต สองหนุ่มสาวเดินจูงมือกันออกจากสนามบินด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข โดยที่ชายหนุ่มได้จูงมือหญิงสาวไปขึ้นรถที่เขาได้ทำการเช่าไว้ก่อนที่จะเดินทางมา“พี่รันเช่ารถไว้ด้วยเหรอค่ะ”“ครับ”“พี่รันรอบคอบจัง” แล้วชายหนุ่มก็พาหญิงสาวมาที่โรงแรมที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของบรรยากาศติดอันดับต้นๆ ของภูเก็ต“โอ้โห วิวสวยมากเลยค่ะ แต่ว่าที่นี่แพงมากเลยนะค่ะ ความจริงพี่รันไม่น่าจะเช่าโรงแรมที่แพงขนาดนี้เลย เปลืองเงินพี่รันเปล่าๆ”“พี่อยากทำให้พายประทับใจมากที่สุดและพี่ก็อยากให้พายจดจำเรื่องของเราไว้ตลอดไป ต่อให้แพงกว่านี้พี่ก็พร้อมจ่ายเพื่อพายของพี่” พูดจบชายหนุ่มก็เดินมาสวมกอดหญิงสาวไว้จากทางข้างหลัง พร้อมกับเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของหญิงสาว หลังจากชื่นชมธรรมชาติและความสวยงามของท้องทะเล ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวลงไปหาอะไรกินในส่วนของร้านอาหารของโรงแรมที่อยู่ติดกับชายหาด“พายอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะ” หญิงสาวยิ้มรับพร้อมกับหันไปสั่งอาหารกับพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ โดยอาหารส่วนใหญ่ที่สั่งเป็นอาหารที่ชายหนุ่มชอบทั้งนั้น ซึ่งเมื่อเห็นอาหารที่มาเสิร์ฟชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิ
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่นัดคุยเรื่องสถานที่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่ทางตัวแทนจะติดต่อกลับมา ทำให้แสนหวานรู้สึกกังวลใจเนื่องด้วยกลัวว่าจะไม่ได้เช่าสถานที่ ทำให้แสนหวานตัดสินใจติดต่อสโรชาไป แต่สิ่งที่สโรชาตอบกลับมากลับทำให้แสนหวานถึงกับกุมขมับ“หวานต้องติดต่อนายดิน...เอ่อคุณดินแดนโดยตรงเหรอค่ะ”“ใช่ค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” สโรชาตอบปลายสายไปตามที่ผู้ช่วยหนุ่มหล่อบอกเธอ โดยตอนแรกเธอก็ยัง งง ว่าชายหนุ่มรู้ได้ไงว่าแสนหวานจะต้องติดต่อมา และก็ติดต่อมาจริงๆ หรือว่าสองคนนี้จะมีอะไรนอกเหนือจากเรื่องเช่าสถานที่โรงแรม แต่เธอก็ไม่กล้าถามเพราะดินแดนเป็นถึงคนสนิทเจ้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่“ไม่เป็นไรค่ะ เดียวหวานติดต่อคุณดินแดนเองค่ะ ขอบคุณนะค่ะ” หลังจากวางสายหญิงสาวก็ได้แต่ถอนหายใจว่าทำไมมันซวยอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอคิดว่าจะไม่ต้องติดต่อไอ้บ้านั่นหลังจากทำเรื่องซ่อมรถเสร็จแล้วแท้ๆเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ดินแดนต้องเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า แต่พอเห็นชื่อที่ปรากฏก็อมยิ้มทันที แต่แทนที่ชายหนุ่มจะรีบรับกลับปล่อยให้สายมันตัดไป โดยที่เขามั่นใจว่ายังไงปลายสายต้องโทรมาอีกรอบแน่และมันก็เป็นแบบนั้นจริง
หลังจากที่ไปปรึกษาแสนหวานวันนั้นแล้ว หญิงสาวก็ตัดสินใจว่าจะลองเปิดใจให้ชายหนุ่มดู ก็ในเมื่อเธอกับเขาคิดเหมือนกันแล้วทำไมถึงจะไม่ให้โอกาสเขาล่ะ“สวัสดีค่ะพี่รัน พายโทรมารับกวนหรือป่าวค่ะ” หญิงสาวกรอกเสียงหวานๆ ไปตามสาย“สำหรับพายไม่มีคำว่ารบกวนสำหรับพี่หรอกครับ”“คือว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นพี่รันว่างไหมค่ะ”“ว่างครับ พายมีอะไรหรือป่าว” ชายหนุ่มถามออกไปทั้งที่รู้จุดประสงค์ของหญิงสาวอยู่แล้ว“คือพายอยากเจอพี่รันค่ะ”“ได้สิครับ งั้นพรุ่งนี้พี่ไปรับที่บ้านนะครับ”“ได้ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะค่ะ” หลังจากวางสายชายหนุ่มก็เดินออกไปนอกระเบียงห้องเพื่อสูดอากาศ พลางคิดในใจว่าอีกไม่นานหรอก ครอบครัวคนที่ทรยศจะต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างที่เขาเคยได้รับ18.00 น. ริมรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ ชายหนุ่มจอดรถรอหญิงสาวที่เดิมที่เคยมารับครั้งก่อน เมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกมาจากประตูรั้วชายหนุ่มก็ลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวได้ขึ้นมานั่ง พร้อมกับที่ตัวเขาอ้อมมาขึ้นฝั่งคนขับ ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสถานที่ที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวมา เมื่อทั้งคู่สั่งอาหารเสร็จ ชายหนุ่มก็เริ่มบสนทนาทันที“พายมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ” ชายหนุ่