Share

เกลียดเธอที่สุด
เกลียดเธอที่สุด
Penulis: ชารี

บทนำ

Penulis: ชารี
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-13 19:58:35

บทนำ

         ปัง!

         ชวลิตใช้เท้าปิดประตูด้วยความรีบร้อน ร่างแบบบางของมาลารินถูกกระชากเข้ามาด้านในห้องสลัว มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา เธอถูกผลักลงบนเตียงกว้าง ทำให้ชายกระโปรงเลิกขึ้นไปกองอยู่บั้นเอว

         ร่างสูงโถมตัวตามลงมา มือหนาบีบคางเล็กของหญิงสาวแล้วกระแทกจูบลงมา บดขยี้ริมฝีปากบางแนบแน่น

         “อื้อ” หญิงสาวครางประท้วงอยู่ในลำคอ เธอรับรู้ได้ถึงความฉุนเฉียวจากชายหนุ่ม เพราะสัมผัสนั้นรุนแรง

         “กล้าดียังไง ถึงเมินสายฉัน” เขาผละจูบออกมา ดวงตาคู่คมจ้องลึกลงในดวงตาของหญิงสาวที่สะท้อนความสั่นไหว “ตอบมาซิ” เขาเอ่ยชิดริมฝีปาก แต่เธอนิ่งเงียบ

         ริมฝีปากหนาเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาคู่คมยังคงจับจ้องคนใต้ร่าง

         “ทำไม ไม่ได้โดนเอาหลายวันคงอยากสินะ ถึงได้เที่ยววิ่งไปอ้าข้าให้ใครต่อใครน่ะยัยตัวดี!” เสียงทุ้มกดต่ำ กรามหนาบดเข้าหากันแน่นอย่างคนสะกดกลั้นอารมณ์

         “พูดอะไรของคุณ?” หญิงสาวนิ่วหน้ากับถ้อยคำดูถูกของเขา

         “ฉันพูดผิดหรือไง ถ้าคืนนี้ฉันไม่เรียกเธอมา คืนนี้เธอคงไปจบกับไอเวรนั่นบนเตียงใช่มั้ย!” เสียงของเขาเข้มขึ้นอย่างคนไม่พอใจ

         หญิงสาวได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ เธอเลือกที่จะนิ่งเงียบ และแม้จะอยู่ในความมืดสลัว เธอก็ยังคงมองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามจากชวลิต ผู้ชายที่ไม่เคยมองเธอดีเลย

         “ไหนเธอลองบอกฉันมาสิ ว่าฉันกับไอเวรนั่นใครเด็ดกว่ากัน” เขาเอ่ยอย่างมีอารมณ์

มือหนาจะล้วงเข้าไปในกางเกงชั้นในสีหวาน สัมผัสกับกลีบดอกไม้ที่แห้งผาก เขาสอดนิ้วเข้าไปพรวดเดียว เธอก็ส่งเสียงออกมาด้วยความเจ็บ

“ฉันเจ็บค่ะ”

เขาแสยะยิ้มมุมปาก “ฉันก็ไม่ได้อยากให้เธอมีความสุขอยู่แล้ว”

ชายหนุ่มขยับนิ้วเข้าออกแล้วเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง ยิ่งทำให้ความคับแน่นกลางกายสาวบีบรัดนิ้วของเขา เพียงครู่เดียวเธอก็หลั่งน้ำหวานสีใสเคลือบนิ้วแกร่งจนวาววับ

“แฉะเร็วอีกแล้วนะ” เสียงพร่าเอ่ย “แค่นิ้วยังแน่นขนาดนี้ ถ้าของฉันเข้าไปจะขนาดไหนกัน หื้ม?”

         ขณะที่นิ้วแกร่งขยับเข้าออก เสียงหวานก็ร้องครางออกมาเบา ๆ ชายหนุ่มก้มมองคนใต้ร่างด้วยสายตาวาววับ เมื่อเขาจินตนาการถึงบางสิ่งที่ใหญ่กว่าเข้าไป เลือดในกายก็สูบฉีด ความร้อนวาบก็พุ่งไปกองรวมอยู่ตรงกลางกายที่แข็งนูนขึ้น

         “อยากโดนเอามากสินะ” เขากล่าวอย่างเยาะ ๆ ดวงตาวาววับ “เธอนี่มันสุดยอดจริง ๆ”

         “อ๊า! คุณต้น”

         ฟึ่บ!

         เขาถอดถอนนิ้วแกร่งออกมาก่อนจะแหย่มันเข้าไปในโพรงปากของหญิงสาว ให้เธอได้ลิ้มรสน้ำหวานของตัวเอง ก่อนที่เขาจะยืดตัวลุกขึ้น โดยมีสายตาของเธอมองตาม

         “ถอดเสื้อผ้าดิวะ!” เขาเอ่ยอย่างรีบร้อน

         มาลารินขยับกายลุกถอดเสื้อผ้าออก ไม่นานร่างกายเปลือยเปล่าก็ปรากฏแก่สายตาของเขา

         พรึ่บ!

         เขากระชากข้อเท้าเรียวของหญิงสาวมากลางเตียงโดยเธอไม่ทันตั้งตัว มาลารินนั้นหวีดร้องเสียงหลง ก่อนร่างแบบบางนั้นจะถูกเขากดแนบลงกับเตียง เรียวขาถูกแยกออกกว้าง

         มือหนาสาวท่อนเอ็นขนาดใหญ่ตามลำยาวก่อนจะจดจ่อปลายหัวหยักบานตรงช่องทางสีสวยก่อจะกดลึกเข้าไปพรวดเดียวสุดทาง จนเธอสะดุ้งเฮือก

         “อ๊า! คุณต้น”

         ชายหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพอใจ สองแขนสอดรับเรียวขาสองข้าง โย้ตัวไปด้านหน้าก่อนจะกระแทกกระทั้นท่อนเอ็นเข้าออกรัวเร็ว คนใต้ร่างร้องลั่น อกอวบกระเพื่อมไหว ศีรษะเล็กสั่นคลอนอย่างรุนแรง

         เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นประสานกับเสียงครางของเธอ และเสียงคำรามของเขา ทุกจังหวะที่เขาขยับ เต็มไปด้วยแรงกดดัน แรงอารมณ์ที่คั่งค้างในความรู้สึก ราวกับเขาต้องการตอกย้ำบางอย่างว่า เธอเป็นของเขา

         “เรียกชื่อฉัน...”

         เขากดหน้าผากชนกับหน้าผากของเธอ ลมหายใจถี่กระชั้นกระทบกับแก้มใส เหงื่อกาฬของพวกเขาแตกพลั่ก

         “คุณต้น อ๊ะ ๆๆๆ อื้อ! คุณต้น”

         เขาชอบตอนนี้ ตอนที่เธอร้องเรียกชื่อของเขาไม่หยุด...

         สายตาสองคู่ประสานกัน ขณะที่ร่างกายยังคงเคลื่อนไหว หัวใจของชวลิตเต้นแรงขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง และมีบางคำถามจากอรรณพ ที่ยังคงติดอยู่ในหัว...

         “พี่ถามจริง ๆ ว่านายคิดยังไงกับเธอกันแน่?”

         เขาแนบจูบลงมาอย่างรุนแรง ใช้คมฟันกัดริมฝีปากบางอย่างที่จูบตอบ ราวกับกำลังกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้น

         “อ๊ะ” เธอเบือนหน้าหนีด้วยความเจ็บ รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ

         “อา...ฉันน่ะ โคตรเกลียดเธอเลย รู้หรือเปล่า”

         เธอรู้...รู้มาตั้งนานแล้ว

         ท่ามกลางความมืดสลัว นัยน์ตาคู่สวยสะท้อนความปวดร้าวออกมา

         เขาแนบจูบลงมาบนริมฝีปากบางที่มีแผลเล็ก ๆ และคาวเลือด พร้อมกับโหมสะโพกเข้าออกอย่างเหมือนลมพายุในท้องทะเลที่กำลังคลั่ง

         หญิงสาวรับรู้ได้ถึงแรงอารมณ์ของเขา เธอทั้งเจ็บปวดและสุขสมในคราวเดียวกัน ร่างกายของเธอถูกเขาพลิกเปลี่ยนท่าไปมา เขาไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะล่วงเลยผ่าน

         พายุอารมณ์ยังคงโหมกระหน่ำสาดซัดใส่เธอ เสียงครางของหญิงสาวยังคงดังประสานกับเสียงคำรามของใครบางคนที่เอาแต่พร่ำบอกว่า เกลียดเธอ!

         ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ มาลารินก็อยากย้อนกลับไปในวันที่ยังไม่รู้จักเขาเลย...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกลียดเธอที่สุด   บทส่งท้าย NC

    บทส่งท้าย แสงยามเช้าอาบไล้เข้ามาในห้องนอนเล็ก ๆ ผ่านผ้าม่านสีขาวที่พลิ้วไหวตามแรงลม เสียงนกร้องเบา ๆ อยู่นอกหน้าต่าง ราวกับว่าพวกมันกำลังปลุกคนทั้งคู่ที่อิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันทั้งคืนให้ตื่นจากความฝัน มาลารินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เธอเห็นใบหน้าของชวลิตอยู่ใกล้แค่คืบ เขายังคงกอดเธอเอาไว้นแน่นหลังจากที่เมื่อคืนนอนคุยกันถึงเรื่องราวมากมายจนหลับไปในอ้อมแขนของเขา เขาเล่าให้เธอฟังว่าของเขาป่วยด้วยโรคร้ายอยู่หลายปี ก่อนจะจากไปเมื่อสองเดือนก่อน ตอนมาลารินได้ยินเรื่องนั้น เธอรู้สึกใจหายไม่น้อย แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม แต่เธอยังคงจำใบหน้าและดวงตาของตรีอัปสรได้เป็นอย่างดี เธอหวังอยู่ในใจลึก ๆ ว่าในช่วงสุดท้ายของชีวิตตรีอัปสรนั้นจะจากไปด้วยใจที่ไม่ยึดถือสิ่งใดแล้ว “เสียใจด้วยนะคะ” ชวลิตยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาแม้ยังหลงเหลือรอยเศร้าอยู่บ้าง ทว่าที่ผ่านมาเขาคิดว่าตัวเองทำได้ดีที่สุดแล้วเพื่อให้แม่ของเขามีความสุข หลังจากทุกอย่างจบลง ชวลิตเลือกที่จะหันหลังให้กับทุกอย่าง เขาออกจากบ้านสุรีย์ฉายเพื่อมาหามาลารินที่นี่ เมื่อเทียบกับการที่จะได้อยู่กับเธอแล้ว ไ

  • เกลียดเธอที่สุด   บทที่ 44 หวนคืน (จบ)

    บทที่ 44หวนคืน 10 ปีผ่านไป...ยามบ่ายแก่ ๆ ณ วัดหลวงแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่ลานด้านหน้าเมรุคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่แต่งกายด้วยชุดสีดำ ฟ้าที่เคยโปร่งใสบัดนี้มีเมฆสีเทาเคลื่อนตัวมาบดบังแสงแดดจ้าให้หม่นลงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า คล้ายว่ากำลังร่วมไว้อาลัยให้แก่ผู้วายชนม์อย่างตรีอัปสรเมื่อหลายปีก่อนนั้น เธอป่วยด้วยโรคร้ายรักษาไม่หาย แต่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้หลายปีด้วยกำลังใจของคนในครอบครัว ทว่าเวลาผ่านไปร่างกายของเธอก็ทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เธอต้องลาจากโลกนี้ไปท่ามกลางความเสียใจของทุกคนท่ามกลางผู้คนมากมายนั้น ชวลิตยืนเงียบ ๆ ข้างชลธิชาและญาติสนิทที่ยืนเรียงกัน เวลาล่วงเลยผ่านมานานนับสิบปี ตอนนี้อายุของเขาก้าวล่วงมาถึงวัยสามสิบแปดแล้ว เขายังคงดูโด่น แม้เส้นผมที่เคยดำขลับจะมีสีขาวขึ้นแซมที่ขมับทั้งสองข้าง ร่องลึกบนใบหน้าเผยให้เห็นถึงกาลเวลาที่ล่วงไป แต่นัยน์ตาคู่คมนั้นยังคงเหมือนคนที่แบกบางสิ่งไว้ตลอดเวลาเสียงประกาศให้ผู้คนทอยขึ้นเมรุเพื่อวางดอกไม้จันทน์ ขบวนของผู้คนค่อย ๆ เคลื่อนย้ายไปช้ายังด้านบนของเมรุ กลีบดอกไม้สีเหลืองนวลในมือของแต่ละคนค่อย ๆ วางลงหน้าโลงที่ประดับด้วยด

  • เกลียดเธอที่สุด   บทที่ 43 คำขอสุดท้าย

    บทที่ 43คำขอสุดท้ายบนท้องถนนที่คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์ รถคันหรูของชวลิตเคลื่อนตัวด้วยความเร็วคงที่ผ่านแสงไฟริมถนนที่ทอดยาวเป็นเส้นสีเหลืองสลับกับเงามืดของต้นไม้ข้างทาง ระหว่างทางนั้น มาลารินได้รับสายจากกรฏที่โทรมา เมื่อกดรับสายได้ กรกฏก็คลายความกังวลและความเป็นห่วงลงมาเล็กน้อย ชวลิตหันมายิ้มให้กับมาลาริน เขาดีใจที่หญิงสาวมีเพื่อนที่ดีคนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้าง ความคิดของเขาที่เคยมีต่อกรกฏในเมื่อก่อน ต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง ตลอดระยะเวลาที่รถเคลื่อนตัวไปนั้น ชวลิตรู้สึกว่ามาลารินมองเขาอยู่เป็นระยะ แม้เธอหลบสายตาทุกครั้งที่เขาหันไป แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอได้ทิ้งร่องรอยบางอย่างเอาไว้ในใจของเขา “มีอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามบางเบา เขายกมือข้างหนึ่งลูบศีรษะของเธออย่างเอ็นดู นัยน์ตาของมาลารินที่เหลือบมองเขา มีแววครุ่นคิดบางอย่างที่คล้ายกับว่าเธอยังวางมันไม่ลง ดูเหมือนจะรบกวนจิตใจของเธอมาโดยตลอด “ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณน่ะค่ะ” แววตาของชวลิตเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกได้ถึงน้ำเสียงและแววตาที่จริงจังของหญิงสาว จึงค่อย ๆ ตบไฟเลี้ยวจอดรถลงที่

  • เกลียดเธอที่สุด   บทที่ 42 ไม่อยากให้ดวงตะวันลับฟ้า

    บทที่ 42ไม่อยากให้ดวงตะวันลับฟ้า ผ้าม่านปลิวไหวเบา ๆ ไปกับสายลม ขณะที่แสงอ่อน ๆ ยามเช้าลอดผ่านเข้ามา สาดลงบนเรือนผมยุ่ง ๆ ของมาลาริน ร่างบางเปลือยเปล่าซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ที่มีอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขาโอบล้อมเธอไว้อีกชั้นหนึ่ง มาลารินกระพริบตาช้า ๆ แผ่นหลังบอบบางที่นอนอยู่กับอกเปลือยเปล่าของชายหนุ่ม ทำให้เธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่ยังคงเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ หัวใจของเธอเต้นเป็นจังหวะ เมื่อความทรงจำอันเร่าร้อนในค่ำคืนยังแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของเธอ กลิ่นของอากาศสดชื่นลอยมากับสายลมอ่อนยามเช้า เสียงของใบไม้ไหวตามแรงลม บรรดาเจ้านกส่งเสียงเจื้อยแจ้วพูดคุยกันจนเซ็งแซ่ ทว่าหัวใจของเธอกลับสงบลงเพราะยังคงรู้สึกถึงอ้อมแขนอันอบอุ่นที่โอบกอดเธอไว้ตลอดทั้งคืนเพียงครู่หนึ่ง เปลือยตาของเขาก็ค่อย ๆ เปิดออก เผยให้เห็นแววตาอันบอุ่นที่ยังตื่นไม่เต็มที่นัก เขาชะโงกหน้าขึ้นมามองเธอเล็กน้อย“ตื่นเช้าจัง...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบา ๆ พร้อมกระชับวงแขนรอบเอวเธอแน่นขึ้น “ไม่เหนื่อยเหรอ”มาลารินหันมายิ้มให้กับเขา มองใบหน้าหล่อเหลาที่ผมยุ่งฟูดูเป็นธรรมชาติ เธอรู้สึกว่าเช้าวันนี้แสนพิเศษเพ

  • เกลียดเธอที่สุด   บทที่ 41 ใต้แสงจันทร์ NC

    บทที่ 41ใต้แสงจันทร์ แสงสุดท้ายยามพระอาทิตย์อัสดงลอดผ่านผ้าม่านที่ปลิวไสวไปกับสายลมยามเย็นที่พัดผ่านเข้ามาภายในห้องนอนที่เงียบสงบ ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ร่างกายเปลือยเปล่าของมาลารินขยับกายเพียงเล็กน้อย สัมผัสของผ้าปูที่นอนยังอุ่นเหมือนช่วงเวลาที่เร่าร้อนเพิ่งจะผ่านพ้นไปได้ไม่นาน หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาภายในห้องที่แสงสีส้มสาดส่องเข้ามาในความมืดที่สลัวลง เมื่อขยับกายลุกขึ้นนั่ง สายตานั้นก็เลื่อนผ่านบานประตูกระจกใสที่เปิดแง้มไว้สู่ระเบียงกว้างที่ทอดยาวออกไปกลางสวนร่มรื่น แสงไฟสีอุ่นจากโคมบนระเบียงทอดลงบนร่างสูงของชวลิตที่กำลังก้มตัวจัดจานบนโต๊ะกลมไม้สัก มีเสียงเพลงสากลที่เขาเปิดทิ้งไว้คลอเคล้าอยู่ในบรรยากาศ ดวงหน้าของเขาภายใต้แสงไฟนั้นดูอบอุ่นและอ่อนโยน หญิงสาวจับจ้องเขาอยู่สักพัก ราวกับต้องการเก็บภาพนั้นตรึงไว้ในความทรงจำให้นานแสนนาน ความมืดค่อย ๆ โรยตัวลงมา แสงสุดท้ายของวันเลือนหายไป มาลารินอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ก้าวออกมาด้านนอก ดวงตาคู่สวยมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นดวงจันทร์เด่นตระหง่านคู่กับดวงดาวที่พร่างพราวระยิบระยับ ท้องฟ้าในคืนนี้งดงามมากจริง ๆ

  • เกลียดเธอที่สุด   บทที่ 40 ช่วงเวลาของเรา NC

    บทที่ 40ช่วงเวลาของเราช่วงบ่ายวันหนึ่ง อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว ทว่าเมื่อรถคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านพักสีขาวสองชั้นที่ห้อมล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ และร่มไม้ใหญ่เขียวขจี บรรยากาศโดยรอบนั้นก็ต่างจากข้างนอกโดยสิ้นเชิงชวลิตจูงมือมาลารินเข้ามาในบ้านพัก ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยพาเธอมาที่นี่ ทว่าครั้งนี้ความรู้สึกนั้นต่างไปจากครั้งก่อน เขากระชับมือบางแน่น หันมายิ้มให้กับเธอ ช่างเป็นรอยยิ้มที่เธอสดใส แต่กลับซ่อนความหม่นเศร้าไว้ในแววตาบรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นบางอย่าง ทว่ามันก็คละเคล้าไปกับความเศร้าหมองที่อาจไม่บรรยาย แม้จะอยากอยู่กับปัจจุบันมากเพียงใด แต่เมื่อคิดว่าเวลาที่นับถอยหลังลงเรื่อย ๆ และอาจจะไม่พบเจอกันอีก ก็ทำให้เขาพวกเขาหม่นใจ“ตอนแรกก้องไม่อยากให้ฉันมาเลย” มาลารินเอ่ยขึ้นเบา ๆชวลิตเข้ามาสวมกอดมาลารินจากทางด้านหลัง เขากระชับอ้อมแขนแน่น เกยคางกับบ่าเล็ก ความอบอุ่นแล่นเข้ามาในหัวใจ เขานั้นอยากจะกอดเธอแบบนี้มาตั้งนานแล้ว“ทำไมล่ะ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามเบา ๆ“ที่คุณบอกว่าอยากเจอฉันครั้งสุดท้าย ฟังดูน่ากลัวมาก ๆ เค้าคิดว่าคุณอาจจะทำร้ายฉันน่ะค่ะ”“ฉันคงดูเป็นคนใจร้ายมาก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status