Masukตอนที่ 9 ขอบคุณนะคะ
“หากเป็นอย่างนั้นก็ดีครับคุณก็ช่วยดูว่าที่สามีของคุณให้ดีเพราะเมื่อครู่คำที่ผมได้ยินไม่ใช่แบบนั้นและคนที่เข้าหาก่อนไม่ใช่อวี้หรานแต่เป็นนายพลไป๋หงเทียนต่างหาก อีกอย่างผมไม่ใช่ชายชู้แต่เป็นเจ้าของสำนักข่าวหลี่หยวน การกล่าวหาคนอื่นมีความผิดตามกฎหมายแต่ก็ช่างเถอะครับเพราะผมไม่ใส่ใจ อวี้หรานกลับสถานีกันเถอะ” ครั้งนี้เป็นจ้าวจื้อหาวที่จับมืออวี้หรานให้เดินออกไปจากตรงนี้ ร่างกายของเหมยหลินสั่นเทาเมื่อได้ยินคำพูดของจื้อหาวหันควับไปมองหน้าของไป๋หงเทียนอย่างเอาเรื่องจนเขาต้องง้อเธอทันที
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเหมยหลินที่ฉันเข้ามาหาอวี้หรานเพราะอยากรู้ที่อยู่ของลูกเท่านั้น เธอก็รู้ดีนี่น่าว่าเธอไม่สามารถมีลูกให้ฉันได้ดังนั้นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของฉันคือฉู่อี้ ฉันต้องการเขามาเลี้ยงดูเราจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่น ” เหมยหลินใจอ่อนเพราะรู้ดีเรื่องการมีลูกเธอกับไป๋หงเทียนไปตรวจร่างกายกันเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ววางแผนจะมีลูกหลังแต่งงานทันที ทว่าร่างกายของเธอไม่สามารถมีลูกได้ทำให้ไป๋หงเทียนต้องการฉู่อี้มาเลี้ยงดู เธอพยายามช่วยตามหาและสืบจนรู้ว่าอวี้หรานทำงานอะไรอยู่ที่ไหนแต่เธอก็กลัวว่าหากไป๋หงเทียนเจอหน้าอวี้หรานจะกลับไปหาเธอจึงไม่เอ่ยปากบอกที่อยู่แก่เขา ยิ่งเห็นท่าทีของไป๋หงเทียนวันนี้ยิ่งทำให้เธอเห็นว่าเขายังสนใจในตัวอวี้หรานอยู่ เธอจะไม่ยอมแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นไป๋หงเทียนหรือฉู่อี้ เธอจะแย่งมาเป็นของเธอให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีใด
ฝั่งด้านอวี้หรานเมื่อเดินออกมาไกลจนถึงรถยนต์ของสำนักงาน เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูตอนนี้ใกล้จะถึงเวลารับฉู่อี้แล้ว จึงบอกให้เจี่ยเจี่ยกับต้าหลงกลับไปที่สถานีก่อนเพื่อนำของไปเก็บวันนี้หมดงานของเธอแล้วจึงขอตัวไปรับฉู่อี้ที่โรงเรียน
“เจี่ยเจี่ยฉันไม่ได้กลับพร้อมพวกเธอหรอกนะ ตอนนี้ถึงเวลาต้องไปรับฉู่อี้ช่วยเอาของของฉันไปเก็บที่โต๊ะทำงานที ส่วนงานที่เหลือฉันรับฉู่อี้กลับไปจะจัดการเอง”
“ได้ค่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ” เจี่ยเจี่ยเดินขึ้นรถยนต์ก่อนจะเคลื่อนตัวออกไป อวี้หรานหันกลับมาขอบคุณเจ้านายอีกครั้งที่เขาเข้าไปช่วยเธอเมื่อครู่
“ท่านประธานขอบคุณนะคะที่เข้าไปช่วยฉันอีกครั้ง ฉันไม่อยากคุณต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องส่วนตัวของฉันเลย แค่บุญคุณที่คุณรับฉันทำงานฉันก็เกรงใจและรำนึกในใจตลอดมา มาวันนี้ดันมาทำให้คุณเดือดร้อนอีก ”
“ไม่ต้องคิดมากเป็นฉันเองที่เลือกเข้าไปรับปัญหาเพราะอยากปกป้อง เธอเป็นคนของหลี่หยวนก็เหมือนเป็นคนของฉัน เมื่อไหร่ที่คนของฉันกำลังเดือดร้อนฉันคงไม่สามารถยืนมองโดยไม่เข้าไปช่วยได้หรอกนะ จะไปรับฉู่อี้ที่โรงเรียนใช่มั้ยมาเถอะฉันจะพาไป และจะไปส่งที่ทำงานเองพอดีฉันเองก็มีเอกสารให้ตรวจสอบ”
“ขอบคุณค่ะ คุณช่างเป็นคนดีจริงๆ” ทั้งสองนั่งรถไปรับฉู่อี้ที่โรงเรียนเมื่อฉู่อี้เห็นจ้าวจื้อหาวเขาดีใจมาก ๆ รีบวิ่งเข้ามากอดอย่างสนิทสนม
“คุณอาจื้อหาวผมดีใจจริง ๆ ที่คุณอารับมา ดูสิครับวันนี้ผมได้รางวัลด้วย เป็นเพราะคุณอาที่ช่วยสอนผม” เด็กชายยิ้มแป้นโชว์กระดาษที่เขาได้รางวัลให้แก่จื้อหาวได้ดู
“ว้าวนี่มันรางวัลคิดเลขเร็วนี่น่า เก่งจริง ๆ ไม่ใช่เพราะฉันหรอกนะ ฉันแค่สอนเท่านั้นแต่ความเก่งและความจำที่ดีเป็นเพราะตัวของฉู่อี้ต่างหาก เก่ง ๆ จริงเลยเรา” อวี้หรานมองทั้งสองรอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นอย่างลืมตัว ที่เห็นเจ้านายรักและเอ็นดูฉู่อี้ขนาดนี้ จนลืมไปว่าเมื่อครู่เจอเรื่องอะไรมา
"อย่างนี้ต้องฉลอง คุณจ้าวจื้อหาวเย็นวันนี้มีนัดหรือยังคะ หากยังไม่มีนัดฉันอยากตอบแทนเรื่องที่คุณช่วยฉันวันนี้และตอบแทนที่ช่วยสอนหนังสือฉู่อี้จนได้รับรางวัล วันนี้อยากกินรอะไรฉันจะจ่ายเองค่ะ"
"ดีเลยครับ คุณอาวันนี้ฉลองด้วยกันนะครับ" เด็กชายส่งสายตาอ้อนวอนประกายวิบวับจนเขาใจละลายยิ้มกริ่มตอบกลับเด็กชายตัวน้อย
"เอาอย่างนั้นก็ได้ อย่างนั้นตอนนี้ขึ้นรถกันเถอะ จะได้เตรียมตัวไปฉลองกัน ส่วนงานที่คุณยังทำค้างอยู่เอาไว้ทำพรุ่งนี้เถอะ " จื้อหาวลูบหัวฉู่อี้อย่างเอ็นดูเปิดประตูให้เด็กชายขึ้นไปนั่งด้านหลัง ส่วนอวี้หรานเขาให้เธอนั่งด้านหน้าไปกับเขา
จื้อหาวรักและเอ็นดูไม่ใช่ว่าฉู่อี้เป็นลูกชายของคนที่เขาแอบชอบแต่ฉู่อี้เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนและเรียนเก่ง ไม่งอแงเลี้ยงง่ายเพราะเห็นว่าคุณแม่ของตัวเองทำงานหนักแค่ไหนที่จะส่งเสียให้เขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนดี ๆ วันไหนที่อวี้หรานติดงานเขาจะทำหน้าที่รับฉู่อี้และคอยเล่นเป็นเพื่อนสอนการบ้าน จนทั้งสองสนิทสนมกัน
ทั้งสามคนมากินข้าวที่ภัตตาคารหรูจนกินเสร็จอวี้หรานจะไปจ่ายเงินกลับกลายเป็นว่าจ้าวจื้อหาวจ่ายก่อนเธอแล้ว เขาไปส่งเธอที่บ้านระหว่างทางไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เพราะอวี้หรานไม่อยากให้ฉู่อี้ได้ยินและรับรู้ถึงตัวตนพ่อของเขา จนกระทั่งมาถึงที่บ้านพัก ตอนนี้อวี้หรานย้ายออกมาจากที่พักสำนักข่าว ไม่อยากถูกคนอื่นมองด้วยสายตาแปลก ๆ เมื่อเธอเริ่มมีเงินเก็บมีชื่อเสียงจึงมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่กับลูกชายใกล้ ๆ กับสถานี มาถึงอพาร์ทเม้นท์อวี้หรานให้ลูกชายเข้าไปอาบน้ำรอเธอในบ้าน ส่วนเธอเดินมาส่งจ้าวจื้อหาวที่รถของเขา และบอกในสิ่งที่เขาเองก็คงอยากรู้เรื่องไป๋หงเทียน
"คุณคงสงสัยใช่มั้ยคะ ว่าทำไมฉันกับนายพลไป๋หงเทียนถึงได้รู้จักกัน เขาคือพ่อของฉู่อี้ค่ะ ก่อนที่ฉันจะมาทำงานที่นี่ฉันเคยเป็นภรรยาของเขา เราสองคนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันเขาให้ข้ออ้างว่าเขาต้องเข้าไปเรียนและฝึกเพื่อรับราชการ ตั้งแต่ช่วงที่ฉันท้องได้ไม่กี่เดือน เขาฝากฝังให้ฉันดูและพ่อแม่ของเขาและให้ฉันหาเงินส่งเขาร่ำเรียน ตลอดจนลูกขายคลอดเขาไม่เคยกลับบ้านมีเพียงจดหมายที่ส่งมาเท่านั้น และความจริงก็ปรากฏว่าเขาเพียงแค่หลอกใช้ฉัน ครอบครัวนั้นไม่เคยเห็นฉันเป็นคนในครอบครัวแต่มองฉันเป็นเพียงคนใช้เพื่อให้ดูแลเลี้ยงดูพ่อกับแม่ของเขา จนวันหนึ่งฉันไม่อยากเป็นคนโง่เพียงเพราะคำหลอกลวงที่ไม่มีวันเป็นจริงของเขา ฉันจึงตัดสินใจที่จะทิ้งครอบครัวไป๋มาและมาทำตามความฝันที่ฉันละทิ้งไป ฉันไม่อยากเสียลูกชายให้ใครและเขาไม่มีสิทธิ์มาพรากลูกไปจากฉันได้ ขอบคุณนะคะที่คุณช่วยฉันและเอ็นดูฉู่อี้หากไม่มีคุณไม่มีสำนักข่าวหลี่หยวนฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้ชีวิตของฉันจะเป็นอย่างไร" แม้ว่าอวี้หรานไม่พูดออกมาเขาเองก็รู้อยู่แล้ว แต่ไม่อยากจะพูดออกมา เขายื่นมือไปจับมือบางของเธอลูบเบา ๆ พร้อมเอ่ยด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน
"ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกทุกอย่างมันคือผลการกระทำของคุณเองไม่ต้องกลัวนะไม่ว่าเขาจะใช้อำนาจหรือข่มขู่คุณต่อจากนี้ผมจะอยู่เคียงข้างช่วยเหลือคุณเอง และขอบคุณที่ยอมเล่าเรื่องที่คุณลำบากใจให้ผมฟัง "
ตอนที่ 23 ถูกจับตัวจื้อหาวจ้องมองแผ่นหลังของร่างบางที่เดินจากเขาไปอย่างช้า ๆ เขาไม่ได้ยื้อเธอเอาไว้แม้อยากจะรั้งเธอเอาไว้“ฉันจะไม่รีบ และจะรอจนกว่าวันที่เธอพร้อมจะเปิดใจให้ฉันจริง ๆ ต้องมีสักวันที่เธอเห็นว่าฉันไม่เหมือนสามีเก่าของเธอ และฉันก็ไม่ทำให้เธอเสียใจแน่นอนหากเธอยอมมอบใจให้ ทุกวันของเธอจะมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ฉันจะรอวันนะอวี้หราน” เสียงของจื้อหาวที่เอ่ยถามหลังของอวี้หรานแม้ไม่ได้ดังแต่เธอได้ยินชัดเจน ในใจสั่นสะท้านดวงตาเริ่มเอ่อคลอไม่คิดว่าจะมีผู้ชายแสนดีอย่างเขามาชอบผู้หญิงอย่างเธอจริง ๆ หากเธอสานสัมพันธ์รับความรู้สึกของเขาก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าความรักครั้งนี้จะดีเหมือนตอนแรก และครอบครัวสามีคงจะรับมือยากกว่าตระกูลไป๋แน่นอน ไม่แน่ชะตาชีวิตของเธออาจจะพบจุดจบเดิมคือความตายเหมือนชีวิตครั้งก่อนก็ได้ใครจะรู้ชะตาชีวิตตนเอง เธอตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกยุติทุกอย่างการมีชีวิตอยู่กับลูกชายคือสิ่งที่เธอปรารถนามากกว่าสิ่งอื่นใด อวี้หรานอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเธอได้เปิดทีวีดูข่าวเห็นข่าวของตัวเองกำลังเป็นที่พูดถึงในความจริงที่เธอพบเจอเพราะมีคนที่เคยอยู่ใกล้ ๆ บ้านตร
ตอนที่ 22 คำตัดสินไป๋หงเทียนใบหน้าซีดเซียวตกใจรับไม่ได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นสั่งให้ตำรวจออกไปและห้ามเข้าใกล้เขา“อย่ามาใกล้ออกไปนะ เรื่องนี้ฉันไม่ได้เป็นคนทำมีหลักฐานอะไรว่าฉันเคลื่อนย้ายสิ่งอันตรายเข้ามาในประเทศ ฉันเป็นผู้บังคับบัญชาใหญ่ตำรวจอย่างพวกแกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉันออกไป หรือว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือแก แกใส่ร้ายฉันหาหลักฐานปลอม ๆ เพื่อให้ศาลตัดสินให้ฉันไม่มีสิทธิ์ในตัวฉู่อี้ เรื่องนี้ฉันจะเอาคืนแกอย่างสาสม”“เก็บคำพูดของคุณไปให้การปฏิเสธกับชั้นศาลเถอะ เพราะที่ได้มาคือหลักฐานแน่นหนาจนไม่อาจจะปฏิเสธได้เลย ” จื้อหาวตอบกลับยื่นมือไปหาเด็กชายที่มานั่งฟังคำพิพากษา“กลับบ้านกันเถอะเรื่องน่าปวดหัวจะไม่เกิดขึ้นกับฉู่อี้อีกต่อ” เด็กชายยิ้มกว้างยื่นมือมาจับมือของจื้อหาวแน่นไป๋หงเทียนใจสั่นสะท้านเมื่อเห็นลูกชายเชื่อใจคนอื่นมากกว่าพ่อที่ให้กำเนิด ทั้งสามคนเดินออกไปจากศาลด้วยความดีใจ ส่วนไป๋ซินหย่าสติแทบแตกไม่ว่าจะเป็นหลานที่ไม่ได้ครอบครอง อีกทั้งลูกชายกำลังจะถูกจับอีกด้วย“คุณตำรวจลูกชายของฉันเป็นคนดี เขาเป็นนายพลใหญ่ ได้โปรดปล่อยเขาไปเถอะนะคะไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาต้องทำเรื่องให้ตัวเองเสื
ตอนที่ 21 ขึ้นศาล จื้อหาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ตอนนี้เขาต้องรับมือจากคนที่มีอำนาจแต่เขาก็ไม่ได้กลัว หลักฐานทุกอย่างอยู่ในมือของเขาแล้ว รอเพียงวันที่จะเปิดโปงความชั่วของเหอหม่าเจิงกับไป๋หงเทียนเท่านั้น ตอนนี้คนที่เขาเป็นห่วงคืออวี้หราน ตอนนี้เธอกำลังเดินาทงไปสถานีตำรวจแจ้งความและเดินทางไปศาลเพื่อยื่นเรื่องดูแลฉู่อี้เพียงลำพัง ช่วงเย็นไป๋หงเทียนได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่ไปยืนเฝ้าอยู่กองทัพของเขา โดยมีนักข่าวของสำนักข่าวหลี่หยวนคนอื่นไปทำข่าวเรื่องนี้แทน ไป๋หงเทียนได้รู้จากเหอหม่าเจิงว่าสำนักข่าว หลี่หยวนไม่ยอมรับคำเสนอของเขา จึงบอกให้ไป๋หงเทียนยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายในเรื่องที่ผ่านมา แค่นั้นประชาชนก็พร้อมให้อภัยเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เขาที่เป็นคนให้ข่าวและเขาเองก็เป็นผู้ถูกกระทำจากสำนักข่าวเจียงฉี่ เขาจึงยอมรับเรื่องที่เคยแต่งงานกับไป๋หงเทียนและมีลูกกับเธอ แต่เขาก็ไม่ได้ยอมรับทุกอย่างเพียงแค่บอกว่าเขาต้องเรียนจึงทำให้ห่างกับเธอและตอนนั้นเธอก็พาลูกชายของเขาหนีออกมาจากบ้านตลอดเวลาเขาตามหาเธอกับลูกชายมาตลอดเพื่อรับผิดชอบ แม้ว่าตอนนี้หัวใจของเขามีหญิงคนใหม่แต่เขาไม่ได้
ตอนที่ 20 เปิดเผยความจริง จดหมายที่อวี้หรานเปิดต่อสายตาทุกคน กล้องส่องมาที่จดหมาย เธอค่อย ๆ เปิดที่ละฉบับให้ทุกคนได้อ่านเนื้อหาในจดหมาย เมื่อประชาชนรู้ก็พากันอึ้งตาม ๆ กัน จนถึงฉบับสุดท้ายที่ให้อวี้หรานหาเงินให้เขาเมื่อสองปีที่แล้วก่อนที่เธอจะตัดสินใจพาฉู่อี้หนี“นี่คือหลักฐานที่ฉันต้องการแย้งเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าฉันหลอกลวงให้ไป๋หงเทียนส่งเสียฉันเรียนแล้วทีบหัวส่ง ส่วนเรื่องที่ฉันพาลูกชายหนีออกจากบ้านตระกูลไป๋เพราะความชั่วร้ายของคนพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานของฉันสักนิด ระหว่างที่ฉันอยู่ที่นั้นฉันทนเพราะคำว่ารักและสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ รักเทิดทูนพ่อแม่สามีเหมือนพ่อแม่ของตัวเอง แต่ความจริงใจและภักดีของฉันต้องพังทลายลงเมื่อรู้ตัวว่าฉันต่างหากที่ถูกหลอกให้หาเงินส่งเสียสามีเรียนและเป็นทาสรับใช้คอยดูแลพ่อกับแม่ของเขาเท่านั้น ครอบครัวนั้นตั้งใจโกหกและหลอกลวงฉันตั้งแต่แรกไม่เคยมีแม้แต่ความรักหรือความเห็นใจในฐานะมนุษย์ด้วยกันเอง ฉันไม่ได้กล่าวหาโดยไร้ซึ้งหลักฐาน” อวี้หรานเปิดจดหมายที่ไป๋หงเทียนส่งให้คนเป็นแม่ เป็นจดหมายที่อวี้หรานไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าพวกเขาพูดถึงเธอลับหลังเช่นไร ตอ
ตอนที่ 19 ไม่ยอมทนอีกต่อไป ทว่าไม่ทันที่ไป๋หงเทียนจะได้ตอบเสียงรถยนต์ได้เคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้าน อวี้หรานหันขวับไปดูเห็นเด็กชายวิ่งออกมาจากรถยนต์ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาดวงตาบวมแดงเกิดจากการร้องไห้มานาน เด็กชายตะโกนเรียกแม่เสียงดังพร้อมวิ่งเข้ามากอดร้องไห้สะอึกสะอื้น“คุณแม่ ผมกลัว อึก ๆ คุณแม่ไปไหนมาผมกลัวเหลือเกิน” อวี้หรานใจสั่นสะท้านดึงตัวลูกชายเข้ามากอดแน่นเช่นเดียวกันมิใช่แค่เด็กชายที่หวาดกลัวเธอเองก็กลัวที่จะไม่เจอเด็กชายเหมือนกัน“ฉู่อี้แม่ขอโทษ ตอนนี้แม่อยู่นี่แล้ว ลูกคงกลัวมากสินะไม่เป็นไรนะ ต่อจากนี้แม่จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาพาลูกไปได้อีกแล้ว”“เฮอะ..!เด็กอะไรน่ารำคาญจริง ๆ อยู่กับเราร้องไห้งอแงไปหาแต่แม่ของตัวเอง ฉันเป็นย่าแท้ ๆ แต่ไม่ยอมให้จับตัว”“นั่นสิ ๆ ฉันเองก็เป็นปู่แท้ ๆ ทำไมเล่นกับฉันเดิมทีปู่กับหลานชายต้องสนิทสนมกันไม่ใช่หรือ”“นั่นคงเป็นเพราะนังอวี้หรานที่เลี้ยงลูกมาไม่ดี สอนให้เด็กเกลียดชังครอบครัวฝั่งพ่อ ช่างร้ายกาจจริง ๆ” ไป๋ซินหย่ากับไป๋ฉินเหยียนตำหนิและอารมณ์เสียเมื่อพาเด็กชายออกไปเที่ยวเล่นซื้อของกินและขนม แต่เด็กชายเอาแต่ร้องห่มร้องไห้จะไปหาแต่อวี้หร
ตอนที่ 18 ขอความช่วยเหลืออวี้หรานใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักเขาออกห่างจากตนเอง“ฉันไม่ขอรับข้อเสนออะไรทั้งนั้น เรื่องที่พูดมาทั้งหมดเป็นเพียงความหลัง ฉันเลี้ยงดูฉู่อี้มาตั้งแต่ท้องจนคลอดและตอนนี้เขาอายุ 5 ปี ฉันเลี้ยงเขามาด้วยตนเองและเลี้ยงมาได้ดีไม่ต้องให้ใครมาช่วยเลี้ยง นายกลับไปหาเหมยหลินของนายไปดูแลเธอให้ดีอย่าให้เธอมาวุ่นวายบุกไปตบตีคนอื่นถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่ฉันที่เสียชื่อเสียงแต่เป็นเธอและนายด้วยที่เสียชื่อเสียง อ้อ..และเรื่องข่าวของฉัน ฉันรู้ว่าไม่ใช่ฝีมือของนายแต่เป็นฝีมือของเหอเหมยหลิน ต้องการทำให้ฉันจนมุม ตกต่ำเพื่อแย่งลูกชายไปจากฉันหรือไม่มีทาง และฝากไปบอกเธอด้วยฉันไม่เกรงกลัวอำนาจของตระกูลเหอสักนิด” อวี้หรานเอ่ยจบรีบเดินกึ่งวิ่งออกไปกลัวว่าเขาจะจับเธอเอาไว้อีกโชคดีที่ตอนนั้นรถประจำทางวิ่งมาตรงนั้นพอดี อวี้หรานรีบกวักมือและเดินขึ้นรถอย่างเร่งรีบ โดยที่ไป๋หงเทียนไม่ได้เดินตามออกไป ตอนนี้เขาเริ่มกังวลเรื่องความปลอดภัยของฉู่อี้ หากพ่อของเหมยรู้เรื่องฉู่อี้ต้องเกิดอันตรายแน่ ๆ ตอนนี้เขาจึงปล่อยอวี้หรานไปก่อนไม่ดึงตัวเธอเอาไว้ เขาต้องรีบไปหาเหมยหลินเพื่อถามเรื่องนี้ว่าเป็นมือเธอหรื







