공유

บทที่ 20

작가: กวนอวิ๋นเจี้ยน
“หรือว่ามีสมบัติวิญญาณหรือวังเซียนถือกำเนิด?”

“อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หรือไม่สหายอวิ๋นไห่พาพวกเราไปดูหน่อย!”

แม้แขกจากแต่ละสำนักบอกว่าเชิญอวิ๋นไห่พาพวกเขาไปดู

ทว่าแต่ละคนหาได้มีเจตนาสอบถามอย่างแท้จริง เพียงขยับนิ้วร่ายเคล็ดอาคม ร่างเงาก็พากันหายไปจากที่เดิมแล้ว

เจ้าสำนักอวิ๋นไห่ก็รีบตามไปเช่นกัน

ตอนนี้เขาก็งงเป็นไก่ตาแตก ดูจากทิศทางที่แสงสีทองปรากฏ มันคือภูเขารกร้างที่อยู่ทางเหนือของสำนัก สำนักกระบี่เสวียนเทียนตั้งอยู่ที่นี่มานับพันปี หากมีสมบัติอะไรฝันอยู่จริง คงถูกค้นพบตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้ว จะรอมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร?

ผ่านไปครู่หนึ่ง ตัวแทนของแต่ละสำนักที่เดิมทีควรไปเข้าร่วมพิธีรับศิษย์ที่ยอดเขาหลัก กลับมารวมตัวที่ข้างแอ่งน้ำกลางหุบเขาแทน

ในแอ่งน้ำ ยังมีแรงกดดันและกลิ่นอายแห่งความตาย ที่ยังไม่สามารถสลายทั้งหมดแฝงอยู่อย่างคลุมเครือ

เห็นได้ชัดว่าแสงสีทองกับเสียงคำรามมังกรเมื่อครู่มาจากตรงนี้ ที่ก้นแอ่งน่าจะมีถ้ำของอสูรที่ดับสูญแล้ว

แรงกดดันยังไม่หายไป ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวส่งเดช

สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่แอ่งน้ำ จากนั้นก็เห็นวังวนปรากฏขึ้นบนผิวน้ำที่นิ่งสงบ

ทันใดนั้
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

최신 챕터

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 64

    “ศิษย์เอ๋ย จงหายใจเข้าออก ปล่อยวางความคิดฟุ้งซ่านเสีย”น้ำเสียงของเสิ่นหวยจั๋วอ่อนละมุน ระหว่างพูดก็เปิดค่ายกลควบรวมพลังวิญญาณในเรือวิเศษอวี้หลานชิงทำตามคำแนะนำของอาจารย์อย่างไม่รู้ตัว ทุกลมหายใจล้วนซาบซ่านไปด้วยพลังวิญญาณจิตใจที่ว้าวุ่นอยู่แต่เดิม ค่อย ๆ สงบลงในทุกครั้งที่หายใจเข้าออก เลือดลมที่ปั่นป่วนในกาย ก็กลับสู่ความสงบตามไปด้วยเสิ่นหวยจั๋วเห็นดังนั้นจึงกล่าวต่อ “เมื่อครู่จิตใจเจ้าว้าวุ่น จิตวิญญาณไม่มั่นคง มีเค้าลางว่าจะถูกจิตมารครอบงำ นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี”อวี้หลานชิงได้ยินดังนั้นพลันตกใจ ก่อนจะได้สติขึ้นมาทันทีสถานการณ์ของนางเมื่อครู่ค่อนข้างอันตรายจริง ๆช่างลำบากท่านอาจารย์ที่ต้องเดินทางมาไกล นอกจากเป็นห่วงความปลอดภัยของนางแล้ว ยังต้องดูแลจิตใจที่ยังสั่นไหวไม่สงบของนางอีกด้วยบรรยากาศในเรือวิเศษเงียบสงบและผ่อนคลาย สายตาของท่านอาจารย์เต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อได้สัมผัสทุกสิ่งตรงหน้า อวี้หลานชิงก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น “ท่านอาจารย์ ต่อไปศิษย์จะระวังให้มากขึ้น จะไม่ทำผิดเช่นวันนี้อีก”“อาจารย์มิได้บอกว่าเจ้าผิด” น้ำเสียงของเสิ่นหวยจั๋วหนักแน่นผิดจากปกติเมื่อเห็นอวี

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 63

    “ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนหรือ?” สำนักอู๋จี๋เตี้ยนมีต้นกำเนิดจากหนานโจว เพิ่งย้ายมาตั้งที่ตงโจวได้ไม่ถึงสิบปีเท่านั้นลั่วอู๋ซางไม่รู้จักเสิ่นหวยจั๋ว และไม่รู้จักปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเช่นกันทว่าจากวิชากระบี่อันเฉียบคม ก็สามารถตัดสินฐานะของอีกฝ่ายได้ ในใจพลันหนักอึ้งลงทันที“หรือว่าปรมาจารย์กระบี่คิดจะปล่อยปละและปกป้องศิษย์ของตนเอง?”ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนขมวดคิ้ว ก้าวไปยืนบังจี้ฝูเหยาไว้ด้านหลัง จากนั้นเอ่ยขึ้นว่า “สิ่งที่ผู้อาวุโสลั่วต้องการ ก็เพียงค้นหาสาเหตุที่ศิษย์ของท่านหายตัวไปเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องกดดันฝูเหยาอีก”“หรือว่าปรมาจารย์กระบี่ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?” ลั่วอู๋ซางจ้องเขม็งมองปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนอย่างไม่วางตา“ขอเจรจาเป็นการส่วนตัว” ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนยกมือสะบัด ปราณกระบี่ไร้รูปพลันห่อหุ้มคนทั้งสองเอาไว้ครู่หนึ่งให้หลังปราณกระบี่ก็สลายไป ลั่วอู๋ซางมีสีหน้าอึมครึม ก่อนจะพยักหน้าอย่างฝืนใจต่อมา ทุกคนก็เห็นปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเรียกลูกศิษย์ชั้นนอกจากยอดเขาหลิงเซียวคนหนึ่งซึ่งติดตามอยู่ข้างกายจี้ฝูเหยาให้ก้าวออกมาจากนั้นก็นำโอสถเม็ดหนึ่งออกมา ส่งเ

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 62

    สายตาของผู้คนล้วนติดตามผีเสื้อที่กลายร่างจากแสงวิญญาณ ไปหยุดอยู่ที่อวี้หลานชิงลั่วอู๋ซางพลันนึกขึ้นได้ว่า ก่อนที่ตนจะลงมือเป็นครั้งที่สอง ศิษย์หญิงผู้นี้เองที่แอบ “ปลดปล่อย” ศิษย์สำนักกระบี่หลายคนซึ่งถูกแรงกดดันกดทับไว้ต่อหน้าต่อตาเขาก็จริงอยู่ เมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนหญิงกระโปรงชมพูที่อาจเกี่ยวพันกับการตายของศิษย์ตน เอะอะก็ตาแดง แสร้งทำเป็นน่าสงสาร นางยังชวนให้พึงใจยิ่งกว่า“เอาเถิด ข้าจะเห็นแก่สำนักกระบี่เสวียนเทียน คนที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหลายถอยออกไปได้”มือที่ลั่วอู๋ซางยกขึ้นยังคงชี้ไปที่จี้ฝูเหยา น้ำเสียงเย็นชาไร้ปรานี “ข้าจะไต่สวนเพียงนางผู้เดียว”ร่างของจี้ฝูเหยาสั่นเทาเล็กน้อย มองไปรอบ ๆ อย่างไร้ที่พึ่งศิษย์ร่วมสำนักที่นางมองไปหา ต่างพากันหลบสายตาแม้แต่เจินเหรินระดับแก่นปราณหลายคนที่ก่อนหน้านี้ยังคอยปกป้องนาง เวลานี้กลับพากันนิ่งเงียบ ไม่มีผู้ใดลุกขึ้นมาพูดแทนนางอีกจี้ฝูเหยากำฝ่ามือแน่น ตัดใจเด็ดขาดหันไปทางเสิ่นหวยจั๋ว “ผู้อาวุโสเสิ่น อาจารย์ปู่…ท่านอาจารย์ของศิษย์ยังมาไม่ถึง ท่านจะทอดทิ้งศิษย์มิได้!”เสิ่นหวยจั๋วชิงชังที่สุดในชีวิตก็คือการมีผู้ใดมาข่มขู่ตนเองสายตาท

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 61

    ต่อหน้าธารกำนัล เขานั่งลงบนเก้าอี้เมฆาตัวหนึ่งในนั้นอย่างไม่ลังเลจากนั้นก็ผลักเก้าอี้อีกตัวไปข้างหน้า โอบล้อมด้วยสายลมบริสุทธิ์ ส่งตรงไปยังด้านหลังของลั่วอู๋ซางศิษย์จากสี่สำนักที่อยู่ด้านล่าง ต่างก็มองจนตะลึงงันผู้อาวุโสแห่งสำนักกระบี่เสวียนเทียนท่านนี้ กำลังคิดจะทำสิ่งใดกัน?นี่มันยามใดแล้ว ยังจะมีกะจิตกะใจนั่งลงสนทนากันอีก!เหล่าศิษย์สำนักกระบี่เสวียนเทียน ยิ่งร้อนใจหนัก พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าผู้อาวุโสเสิ่นคิดจะงัดกลอุบายอันใดออกมาเกรงว่าการกระทำของผู้อาวุโสเสิ่นอาจยิ่งยั่วโทสะลั่วอู๋ซาง ทำให้ทุกคนต้องพลอยรับเคราะห์หนักหนาสาหัสกว่าเดิมท่ามกลางแววตาสงสัยของผู้คนมากมาย เสิ่นหวยจั๋วเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวกับลั่วอู๋ซางว่า “สหายโปรดนั่ง เรื่องราวในวันนี้ ข้าพอจะเข้าใจคร่าว ๆ แล้ว ข้ามิได้โน้มน้าวให้ท่านคลายโทสะ เพียงแต่อยากพูดคุยด้วยเหตุผลกับท่านเท่านั้น”เขาไม่เคยคิดจะประมือกับลั่วอู๋ซางเลยสักครั้ง เสิ่นหวยจั๋วผู้นี้ เป็นคนที่ยึดถือเหตุผลเสมอมาเป็นครั้งแรกที่ลั่วอู๋ซางต้องเผชิญกับคนที่เล่นนอกกติกาเช่นนี้อย่างไรเสียสองสำนักก็ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีงามอยู่ อีกทั้ง

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 60

    “ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนห่วงใยความปลอดภัยของศิษย์น้องหญิงจี้จริงดังคาด เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นาน ก็รีบมาด้วยตัวเองแล้ว”ส่วนลั่วอู๋ซางแห่งสำนักอู๋จี๋เตี้ยน มาเร็วก็จริง แต่ก็เป็นเพียงร่างแยกเท่านั้นแต่ดูจากแสงสีขาววาบเดียวเมื่อครู่นั้น เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำลายแรงกดดันของลั่วอู๋ซางได้ พลังนั้นชัดเจนว่าย่อมมีได้เมื่อร่างจริงมาถึงเท่านั้นต่างเป็นระดับเทพจุติเหมือนกัน ฝ่ายหนึ่งเป็นเพียงร่างแยก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งปรากฏกายมาด้วยร่างจริง...ใครแพ้ใครชนะ มองปราดเดียวก็รู้แล้วเหล่าศิษย์สำนักกระบี่เสวียนเทียนต่างถอนหายใจโล่งอกในที่สุดเหล่าเจินเหรินที่เมื่อครู่ยังรู้สึกไม่พอใจที่จี้ฝูเหยายั่วโมโหลั่วอู๋ซาง บัดนี้ต่างก็สงบความขุ่นเคืองใจลงแล้วอย่างไรเสีย จี้ฝูเหยาก็เป็นศิษย์สายตรงของปรมาจารย์กระบี่ ไม่เห็นหรือว่าแค่นางเกิดปัญหาเล็กน้อย ปรมาจารย์กระบี่ก็รีบรุดมาด้วยตัวเอง?เพียงเท่านี้ ก็มากพอให้นางมีทุนที่จะเอาแต่ใจแล้วเช่นเดียวกับทุกคน จี้ฝูเหยาก็กำลังแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าตามทิศทางที่แสงสีขาวพุ่งมา บนหมู่เมฆที่ขอบฟ้าอันไกลโพ้น ปรากฏร่างหนึ่งยืนอยู่จี้ฝูเหยากำยันต์หยกไว้ในฝ่ามื

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 59

    ทั้งสองคนนี้อวี้หลานชิงไม่รู้จักเลย พียงเลือกคนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดเท่านั้นขณะที่นางยื่นมือช่วยเหลือศิษย์ร่วมสำนักใกล้ตัวต้านแรงกดดัน ทางด้านนั้น ลั่วอู๋ซางก็ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าพวกจี้ฝูเหยาทั้งสี่แล้วมองปราดเดียวก็รู้ว่า จี้ฝูเหยาต่างหากที่เป็นผู้ตัดสินใจได้ในบรรดาทั้งสี่คนและไม่สนใจว่าคนอื่นจะกล่าวว่าเขารังแกคนอ่อนแอกว่า สายตาจ้องเขม็งไปที่จี้ฝูเหยา มองจากที่สูงลงมาอย่างดูถูก ก่อนเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “พูดมา หลังจากเจ้าพบเฉินถงแล้วไปที่ไหน แยกจากกันเมื่อใด หลังจากนั้นเจ้าพบเขาอีกหรือไม่?”ใบหน้าจี้ฝูเหยาซีดเผือดภายใต้สายตาอำมหิตของยอดฝีมือระดับเทพจุติ นางตัวสั่นระริก จนไม่อาจเอ่ยวาจาใดออกมาแต่หาใช่เพราะแรงกดดันไม่ นางมีของวิเศษที่ท่านอาจารย์มอบไว้ติดตัว จึงไม่รู้สึกถึงแรงกดดันของลั่วอู๋ซางที่ปกคลุมเหนือหัวของเหล่าศิษย์สำนักกระบี่เสวียนเทียนเพียงแต่นางมีระดับพลังยุทธ์เพียงขั้นหลอมปราณช่วงกลางเท่านั้น การถูกยอดฝีมือระดับเทพจุติจ้องด้วยสายตาอำมหิต ความกดดันเช่นนี้เพียงพอจะทำลายแนวป้องกันในจิตใจของนางได้นางหลับตาลงเบา ๆ กำยันต์หยกที่ท่านอาจารย์มอบให้ตนเอง สัมผัสถึงความอบอุ่นจา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status